สถานการณ์ investing.com

[narjant]

   เวลา  09.58  น.

[narjant]

    เวลา  11.40

[narjant]

ผลโพลล่าสุดของกรีซ .... ยิ่งทำให้ความไม่แน่นอนสูงขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุด Bloomberg Poll สำรวจความเห็นประชาชนกรีซ 1,043 คน พบผลลัพทธ์ที่ทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรีซที่สูงขึ้น
เพราะเมื่อถามผู้ถูกสำรวจว่า อยากออกจาก ยูโรโซน หรือไม่?
พบว่า 81% บอกว่า อยากอยู่ในยูโรโซน ในขณะที่ 12% บอกว่าออกๆไปเถอะ และอีก 7% ไม่มีความเห็น
แต่เมื่อเปลี่ยนคำถามตามประชามติที่กำลังจะทำในวันที่ 5 ก.ค. ที่ถามว่า จะยอมรับแผนการรัดเข็มขัดเพิ่มหรือเปล่า?
พบว่า 42.5% ตอบว่า ยอมรับ อีก 43% บอกว่าไม่ยอมรับ และอีก 14.5% ยังไม่แน่ใจ
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ลึกๆแล้ว ชาวกรีซอยากอยู่ในยูโรต่อไป แต่ก็เริ่มคล้อยตามนายกฯของตัวเองที่พูดอยู่เสมอว่า เงื่อนไขการรัดเข็มขัดมันโหดร้ายสำหรับประชาชนมากเกินไป
ไปดู Mr.Messenger Poll ที่ทำการสำรวจนักลงทุน โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามมาจำนวน 728 คนนะครับ พบว่า 49.8% เชื่อว่า กรีซน่าจะยังอยู่ในยูโรโซน ในขณะที่ 25.8% บอกว่า ไม่น่ารอด ได้ออกแน่ๆรอบนี้ ส่วนที่เหลือ ก็ตอบว่า ไม่แน่ใจ แสดงให้เห็นว่า มุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ไม่ฟันธงข้างใดข้างหนึ่งเช่นกัน บรรยากาศแบบนี้ ใครๆก็เลยบอกให้ Wait & See กันไป
ถึงแม้ทุกคนจะออกมาบอกว่าความเสียหาย หรือผลกระทบจากการที่กรีซออกจากยูโรโซนจะจำกัดมากกว่าในช่วงปี 2010-2011 เยอะพอควร แต่ในฝั่งตลาดทุน ทั้งตราสารหนี้ และตราสารทุน เราไม่รู้หรอกครับว่ามันจะเป็น Panic Sell ได้มากน้อยแค่ไหน รู้แต่ว่า ถ้า Panic ลงมา ก็น่าหาจังหวะซื้อ
ที่กลัวก็คือ ถ้าผลโหวตออกมาเป็น "Yes" รับเงื่อนไขและยังอยู่ในยูโรโซน นาย Tripras ไม่ยอมลาออก ยูโรกรุ๊ปอาจใช้ไม้ตาย ไม่ยอมเจรจากับรัฐบาลโดยอ้างว่า จะคุยกับรัฐบาลใหม่เท่านั้น แบบนี้ ปัญหามันก็แค่ถูกยื้อออกไป ช่วงไหนเจอหนี้ก้อนใหญ่ๆ ก็กลับมากังวลกันแบบนี้ทุกที
เจ็บหนักแต่จบ ดีกว่า ไม่จบแถมเจ็บนาน นะ

[narjant]

รมว.คลังเยอรมนีชี้กระบวนการเจรจาหนี้กรีซต้องนับหนึ่งใหม่ หลังทำประชามติอาทิตย์นี้
Source: IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ | Jul 3, 2015 22:41
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 58)--นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า กระบวนการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ต้องเริ่มต้นใหม่ หลังการทำประชามติในวันอาทิตย์นี้
คำกล่าวของนายชอยเบิลทำลายความหวังที่ว่ากรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่อย่างรวดเร็วหลังการทำประชามติ
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซประกาศทำประชามติในวันอาทิตย์นี้เพื่อให้ชาวกรีซชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับมาตรการรัดเข็มขัดในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือจากทางเจ้าหนี้
รมว.คลังเยอรมนีระบุว่า ประการแรก กรีซจะต้องยื่นคำขอเจรจาบนโครงการความช่วยเหลือครั้งใหม่ ต่อจากนั้น รมว.คลังยูโรโซนถึงจะทำการพิจารณา ซึ่งถ้าเงื่อนไขเข้าเกณฑ์ ยูโรกรุ๊ปก็จะอนุมัติให้มีการเจรจาต่อไป
"เราต้องรอดูว่ารัฐบาลกรีซจะจัดการกับผลการลงประชามติอย่างไร รวมทั้งผลที่ตามมา และต่อมารัฐบาลกรีซจึงจะสามารถยื่นเรื่องเพื่อเปิดการเจรจาได้"
นายชอยเบิลย้ำว่าการเจรจาจะต้องอยู่บนพื้นฐานใหม่ และภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยุ่งยากมากขึ้น

[narjant]

กองทุนการเงินระหว่างประเทศชี้ กรีซต้องการเงินเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจที่ยังย่ำแย่

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ออกมาระบุว่ารัฐบาลกรีซจะต้องการเงินเพิ่มเติมอีกราว 50,000 ล้านยูโร หรือ 1 ล้าน 9 แสนล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการเงินการคลังของประเทศ พร้อมกันนี้ยังได้ปรับลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.5 มาเป็น 0 อีกด้วย

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับกรีซ ต้องการให้กรีซปรับเพิ่มภาษีและปรับลดสวัสดิการสังคม ขณะที่ นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กลับเห็นว่ามาตรการของกลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือนั้นไม่เป็นธรรมกับกรีซ และต้องการโอกาสเจรจาใหม่

โดยที่นายซีปราสได้เรียกร้องให้ประชาชนลงประชามติ 'โหวตโน' ในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ เพื่อไม่ยอมรับหลักการดังกล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับกรีซ

เนื้อหาโดย voice tv

[narjant]

รอยเตอร์ - ไอเอ็มเอฟส่งเสียงเตือนในวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.) ว่ากรีซกำลังเผชิญรูโหว่ทางการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อความอยู่รอด ก่อนหน้านี้ผู้มีสิทธิออกเสียงเตรียมลงประชามติตัดสินอนาคตในยูโรโซนช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ทางนายกรัฐมนตรีซีปราสยักไหล่ เชื่อเอเธนส์จะสามารถเจรจาบรรลุเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม รวมถึงผ่อนปรนหนี้ หากประชาชนโหวต “โน” ต่อข้อเสนอท่าน้ยืมของเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ
       
       ไม่กี่วันหลังจากกรีซผิดนัดชำระหนี้ในส่วนที่เป็นของไอเอ็มเอฟ กองทุนแห่งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ “ทรอยกา” เตือนว่ากรีซต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50,000 ยูโรช่วง 3 ปีข้างหน้า ในนั้นรวมถึง 36,000 ล้านยูโรจากพันธมิตรสหภาพยุโรป เพื่อความอยู่รอด และยังจำเป็นต้องได้รับการผ่อนปรนหนี้มหาศาลด้วย
       
       คำประเมินดังกล่าวย้ำถึงขอบเขตปัญหาที่กรีซกำลังเผชิญ ไม่ว่าผลประชามติในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ต่อข้อตกลงช่วยเหลือที่เสนอโดยเหล่าเจ้าหนี้เมื่อเดือนก่อนจะออกมาอย่างไรก็ตาม หลังจากก่อนหน้านี้คำปฏิเสธเงื่อนไขตัดลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีของอียูและไอเอ็มเอฟของนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ที่กล่าวหาว่ามันคือการ “ขู่กรรโชก” ได้กระพือความขุ่นเคืองแก่เหล่าเจ้าหนี้ ที่หมดหวังต่อความเป็นไปได้ที่จะประนีประนอมก่อนถึงวันอาทิตย์นี้
       
       ด้วยที่ธนาคารต่างๆปิดทำงานเป็นวันที่ 4 และบังคับใช้มาตรการควบคุมเงินทุน อนาคตของรัฐบาลฝ่ายซ้ายจึงแขวนอยู่กับผลการลงประชามติ ที่มอบโอกาสให้ชาวกรีซซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์เดือดดาล ได้เลือกระหว่างแสดงออกความขุ่นเคืองไปที่เหล่าเจ้าหนี้หรือโยนความผิดให้พวกนักการเมืองของพวกเขาเอง
       
       “เราขอให้พวกเขาลงคะแนนโหวตด้วยสายตาที่เปิดกว้างและคิดให้หนักถึงผลสืบเนื่องทั้งหมดของการโหวตโน ซึ่งอาจทำให้กรีซ ต้องออกจากยูโรโซน” นายมานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวนอกรอบการประชุมซัมมิทเศรษฐกิจในลียง
       
       ความเห็นดังกล่าวสะท้อนความกังวลของหลายฝ่ายในยูโรโซนว่าการหลุดพ้นจากเป็นสมาชิกของกรีซจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของสหภาพสกุลเงินเดียวที่มีอายุ 15 ปีนี้ ขณะที่ในส่วนของนายซีปราส หากประชาชนลงคะแนนสนับสนุนแผนช่วยเหลือของเจ้าหนี้ ก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลของเขาคงต้องพังครืนและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในเดือนกันยายน
       
       อย่างไรก็ตาม นายซีปราส และนายยานิส วารูฟาคิส รัฐมนตรีคลังของกรีซ ยังเชื่อว่าเอเธนส์จะสามารถเจราจนได้เงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม ในนั้นรวมถึงการผ่อนปรนหนี้ หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงโหวตโน ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าจะลาออกหากประชาชนเลือกโหวตเยส
       
       “ผมเชื่อว่าปัญหานี้จะไม่ยืดยาว” นายซีปราสกล่าวถึงประเด็นปิดธนาคาร “ธนาคารจะเปิดทำการเมื่อได้ข้อตกลง” เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง พร้อมคาดหมายว่ามันจะเกิดขึ้น 48 ชั่วโมงหลังการลงประชามติ ทั้งนี้ผลสำรวจเดียวที่เผยแพร่ออกมานับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรายนี้ประกาศทำประชามติ พบว่าโหวตโน มีคะแนนนำหน้าอยู่ แต่เสียงสนับสนุนลดลงเรื่อยๆตามหลังคำประกาศปิดธนาคาร
       
       สำหรับชาวกรีกแล้ว เหตุปิดธนาคารและภาพกลุ่มผู้เกษียณอายุเข้าแถวที่เบียดเสียดกันยาวเหยียดตามธนาคารที่เปิดบริการอย่างจำกัดเพียงไม่กี่แห่งสำหรับจ่ายเงินบำนาญ ก่อความรู้สึกช็อคและเป็นเสมือนคำเตือนถึงความเจ็บปวดที่ต้องชดใช้หากต้องออกจากยูโรโซน
       
       รัฐบาลของนายซีปราสก้าวขึ้นสู่อำนาจในเดือนมกราคม ด้วยนโยบายหาเสียงปกป้องผู้เกษียณอายุ และประเด็นโต้เถียงกับเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ มีต้นตอจากที่เขาปฏิเสธยอมรับข้อเสนอตัดเงินบำนาญตามที่เจ้าหนี้เรียกร้อง
       
       ด้วยอัตราคนว่างงานพุ่งสูงถึงร้อยละ 25 และในนั้นร้อยละ 50 เป็นคนหนุ่มสาว ชะตากรรมของผู้เกษียณอายุจึงเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง เนื่องจากพวกเขาอาจเป็นแหล่งรายได้เดียวของครอบครัว
       
       ในความพยายามสร้างความอุ่นใจแก่ผู้มีสิทธิออกเสียง นิโคลัส ปัปปาส รัฐมนตรีกิจการแห่งรัฐของกรีซ หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของซีปราส ปฏิเสธข่าวลือที่ว่ารัฐบาลจะประกาศจัดเก็บภาษีบัญชีเงินฝากธนาคาร
ที่มา: ASTV

[wee]

งานนี้กรีซลำบากใจมิใช่น้อย ก็ให้ออกมาดีก็แล้วกัน แต่คาดว่าจะอยู่ใน ยูโรโซนต่อไป

[narjant]

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2558 13:01:20 น.

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของกรีซในวันนี้ว่า กรีซจำเป็นต้องได้รับการปรับลดมูลค่าหนี้สิน (haircut) ลง 30% และมีระยะเวลาปลอดชำระหนี้ (grace period) เป็นเวลา 20 ปี จึงจะช่วยให้เศรษฐกิจของกรีซมีความยั่งยืนได้

นายซิปราสยังกล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่รัฐบาลกรีซร้องเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้นั้น กลุ่มเจ้าหนี้ไม่เคยเสนอให้มีการปรับลดมูลค่าหนี้และให้ระยะเวลาการปลอดชำระหนี้กับกรีซ นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจาครั้งหลังสุดของกลุ่มเจ้าหนี้เช่นกัน จนกระทั่งถึงวันที่ประชาชนชาวกรีซจะต้องออกมาลงประชามติในวันอาทิตย์นี้ว่า เพื่อชี้ขาดว่าประชาชนจะยอมรับข้อเสนอของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่
การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของนายซิปราสมีขึ้นในช่วงเวลาที่เขาพยายามโน้มน้าวให้ประชาชนปฏิเสธ "การยื่นคำขาด" ของเจ้าหนี้ ซึ่งข้อเรียกร้องในลักษณะยื่นคำขาดนั้น ครอบคลุมถึงการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน โดยนายซิปราสยืนยันว่าการโหวต No ไม่ได้หมายความว่ากรีซจะต้องล้มละลายหรือต้องออกจากยูโรโซน แต่การโหวต 'No' เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในอำนาจต่อรองของกรีซกับทางเจ้าหนี้

ส่วนบรรยากาศก่อนการ ขณะที่ประชาชนชาวกรีซทั้งกลุ่มที่สนับสนุนการโหวต "Yes" และ "No" ต่างก็เดินหน้ารณรงค์หาเสียงโค้งสุดท้ายที่ใจกลางกรุงเอเธนส์
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

[jong]

 

[wee]

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2558 13:01:20 น.

นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซเปิดเผยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของกรีซในวันนี้ว่า กรีซจำเป็นต้องได้รับการปรับลดมูลค่าหนี้สิน (haircut) ลง 30% และมีระยะเวลาปลอดชำระหนี้ (grace period) เป็นเวลา 20 ปี จึงจะช่วยให้เศรษฐกิจของกรีซมีความยั่งยืนได้

นายซิปราสยังกล่าวด้วยว่า ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่รัฐบาลกรีซร้องเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้นั้น กลุ่มเจ้าหนี้ไม่เคยเสนอให้มีการปรับลดมูลค่าหนี้และให้ระยะเวลาการปลอดชำระหนี้กับกรีซ นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่บนโต๊ะเจรจาครั้งหลังสุดของกลุ่มเจ้าหนี้เช่นกัน จนกระทั่งถึงวันที่ประชาชนชาวกรีซจะต้องออกมาลงประชามติในวันอาทิตย์นี้ว่า เพื่อชี้ขาดว่าประชาชนจะยอมรับข้อเสนอของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่
การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดของนายซิปราสมีขึ้นในช่วงเวลาที่เขาพยายามโน้มน้าวให้ประชาชนปฏิเสธ "การยื่นคำขาด" ของเจ้าหนี้ ซึ่งข้อเรียกร้องในลักษณะยื่นคำขาดนั้น ครอบคลุมถึงการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อแลกกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน โดยนายซิปราสยืนยันว่าการโหวต No ไม่ได้หมายความว่ากรีซจะต้องล้มละลายหรือต้องออกจากยูโรโซน แต่การโหวต 'No' เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในอำนาจต่อรองของกรีซกับทางเจ้าหนี้

ส่วนบรรยากาศก่อนการ ขณะที่ประชาชนชาวกรีซทั้งกลุ่มที่สนับสนุนการโหวต "Yes" และ "No" ต่างก็เดินหน้ารณรงค์หาเสียงโค้งสุดท้ายที่ใจกลางกรุงเอเธนส์
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

กรีซ ช่วยที่ 

[wee]

admin มีความเห็นอย่างไรบ้าง สำหรับ กรีซ พรุ่งนี้ครับ จะได้นำม่ประมวณผลในการเปิด order ครับ

ขอบคุณ

[narjant]

วันที่ 5 กรกฎาคม 2558 : กรีซเริ่มลงประชามติแล้ว วันนี้ เพื่อโหวต ว่าจะตอบ yes หรือ No
หากตอบ yes ก็จะทำให้การเจรจากับเจ้าหนี้ง่ายขึ้น
แต่ถ้าตอบว่า No ก็จะทำให้การเจรจา ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก

โดยก่อนหน้านี้ นาย นายกรัฐมนตรี กรีซ นาย อเล็กซิส ซิปราส ได้ ออกมาเรียกร้องให้ประชาชน Vote No
เพื่อแสดงถึงการปฎิเสธเงื่อนไขการรัดเข็ดขัด ทางการเงินในประเทศเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางด้านการเงิน

 ขณะที่ โพลล่าสุด จากสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า แนวโน้มประชานกรีซจะ ตอบ yes มากกว่า No เพื่อให้กรีซได้อยุ่ในกลุ่ม ยูโรโซนต่อไป
อีกทั้ง ประธาน ECB Mario Darghi ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชน ชาวกรีซ ตอบ Yes เพื่อการเจรจาที่ง่ายขึ้น

[narjant]

23.00 PM กรีซ ปิดหีบลงคะแนน ตอน 5 ทุ่มตามเวลาประเทศไทย

01.00 AM คืนนี้ ตาม เวลาประเทศไทย ทราบผลการ โหวต อย่างเป็นทางการ

04.00 AM ตลาด Forex เปิด ใครจะลุ้นกันก็ตามนี้ นะครับ

[admin]

วันจันทร์ มีแก๊ปอีกแล้วให้เตรียมพร้อมครับ

ดูจากแท่งเทียนทั้ง GU และ EU  ช่วงปิดตลาด แท่งเทียนกำลังจะวิ่ง  แต่พอดีตลาดปิดไปเสียก่อน

ที่เหลือวันจันทร์คงได้เป็นอย่างแน่นอน

                 

[wee]

ตื่นมากราฟคงวิ่งหน้าดู ชม admin เชียร์ กรีซ ทางใหน ครับ Vote No Or Yes ครับ ขอเหตุผลด้วยก็จะดีครับ

นับถือ