ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 09-03-2018

[Teerapong]

ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ  09-03-2018

“ทรัมป์” ไฟเขียวเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยจะมีผลบังคับใช้ภายใน 15 วัน

ขณะเดียวกัน ได้ส่งสัญญาณว่า อาจจะยกเว้นภาษีให้ประเทศที่เจรจาและสามารถตกลงกับสหรัฐได้ว่าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมของประเทศดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ

 

เตือนพึ่งเงินตปท.ต้นทุนเพิ่ม

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ต้องขอเตือนนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ยังพึ่งพาเงินท่าน้จากต่างประเทศจำนวนมาก เพราะเมื่อดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้จำเป็นต้องคิดวางแผนและต้องมีความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เป็นต้นทุนจนกระทบต่อการบริหารความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกเป็นขาขึ้น แต่มติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังมีความชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่จะต้องปรับตามขึ้นทันที เมื่อดอกเบี้ยในตลาดโลกปรับขึ้น

 

กพช.ลดเงินส่งกองทุนฯ กดราคาน้ำมันลง

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบให้ปรับลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จากปัจจุบันที่จัดเก็บจากน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอลล์ และดีเซล ลิตรละ 0.25 บาท เหลือเพียงลิตรละ 0.10 บาท เป็นระยะเวลา 2 ปี

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะกำกับดูแลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงตามอัตราการส่งเงินเข้ากองทุนฯ ซึ่งจะลดลงลิตรละ 0.15 บาท

 

ธอส.ให้ดอกท่าน้บ้านต่ำสุดแค่ 2.8%

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ธนาคารได้จัดวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 28,500 ล้านบาท สำหรับปล่อยท่าน้ให้ผู้ต้องการมีบ้านในทุกกลุ่มรายได้ 5 โครงการ โดยคิดดอกเบี้ยเริ่มต้นต่ำสุดเพียง 2.8% เพื่อกระตุ้นให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง รวมถึงผลักดันให้สินเชื่อใหม่เป็นไปตามเป้าหมาย 189,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีสินเชื่อลูกค้ารีไฟแนนซ์ วงเงิน  5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ เอ็มอาร์อาร์ลบ 3.85% ต่อปี หรือเท่ากับ 2.90%  ส่วนปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาท่าน้ ลบ 0.5-1% ต่อปี

 

ธปท. เคาะกม. คุมเงินดิจิทัลใน 1 เดือน

ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า จากการหารือเรื่องการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และไอซีโอร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปร่วมกัน คือ ให้ออกกฎหมายพิเศษดูแลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งไอซีโอ คริปโตเคอเรนซี หรือสกุลใหม่อื่นๆ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

 

ที่มา: โพสท์ทูเดย์, อินโฟเควส์, เดลินิวส์

[admin]

ขอบคุณครับ