สถานการณ์ Investing.com

[narjant]

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2560 06:22:02 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 ต.ค. 2560

--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) พร้อมเดินหน้าทำนิวไฮต่อเนื่อง ขานรับวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติงบประมาณประจำปี 2561 ซึ่งจะปูทางไปสู่การพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,328.63 จุด พุ่งขึ้น 165.59 จุด หรือ +0.71% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,575.21 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ +0.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,629.05 จุด เพิ่มขึ้น 23.99 จุด หรือ +0.36%

[admin]

ขอบคุณครับ 

[narjant]

พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะขาดลอยในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมรักษาคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นเอาไว้ได้เมื่อรวมคะแนนกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้นายอาเบะนั่งเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลต่อไปอีก หลังจากที่ทำหน้าที่บริหารประเทศมา 5 ปี คาดผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความแตกแยกของฝ่ายค้าน และการที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงน้อย เป็นสาเหตุที่ทำให้พรรครัฐบาลเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งวานนี้ โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกฯอาเบะ ได้ไป 283 ที่นั่ง ซึ่งรวมที่นั่งจากผู้สมัครอิสระ 3 รายที่ได้รับการรับรองจากพรรคภายหลังชนะการเลือกตั้ง และพรรคโคเมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ได้ไป 29 ที่นั่ง ส่งผลให้ทั้งสองพรรคได้ที่นั่งรวมกันมากกว่า 310 ที่นั่ง หรือมากกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งสิ้น 465 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร

ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเพิ่มโอกาสให้นายอาเบะได้รับเลือกเป็นผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ต่ออีกสมัยในการเลือกผู้นำพรรคเดือนก.ย. ปีหน้า ซึ่งหมายความถึงการดำรงตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นต่อไปเช่นกัน

นอกจากนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลสามารถรักษาคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้นั้น ยังมีความสำคัญในแง่ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการจะต้องได้รับคะแนนเสียง 2 ใน 3 ในทั้งสองสภาของรัฐสภาญี่ปุ่น หรือสภาไดเอท จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนของการทำประชามติทั่วประเทศ สำหรับในวุฒิสภานั้น ปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลทั้งสองคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯอยู่แล้ว

[narjant]

บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับค่าเงิน EURUSD, GBPUSD, USDJPY และ USDCHF ประจำวันที่ 23 - 27 ตุลาคม 2560
 
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
- ในสัปดาห์ที่แล้ว เราไม่สามารถให้บทวิเคราะห์ที่แน่ชัดสำหรับคู่ EUR/USD ได้ โดยความลังเลของเรานั้นปรากฏว่าสมเหตุสมผล ในครั้งที่แล้วมีความเห็นที่แตกแยกกันในบรรดาผู้เชี่ยวชาญและดัชนีต่างๆ บางส่วนคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น บ้างเห็นว่าราคาจะขยับลง และอีกบางส่วนมองว่าราคาจะขยับปรับตัวเพียงเล็กน้อยโดยไม่สามารถให้คำทำนายได้ ทั้งนี้ ราคาดูเหมือนจะเป็นไปตามความเห็นที่แตกแยกนี้ โดยในตอนแรกราคาได้ขยับลง ขยับขึ้นและลงอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ราคาไม่ได้ขยับไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างแน่ชัด ราคาได้ปิดตัวลงในตลาดท้ายสัปดาห์ใกล้ระดับ 1.1780 ซึ่งเป็นระดับกลับตัวที่ราคาได้ขยับตัวลดลงในบริเวณดังกล่าวมาตลอดระยะเวลาสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
 
- เมื่อพูดถึงอนาคตของคู่สกุล GBP/USD มีนักวิเคราะห์จำนวน 55% รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะเข้าช่วงกราฟหมี โดยได้ทำนายว่าราคาจะขยับลดลงมาที่ค่าแนวรับ 1.3150 และในกรณีที่ราคาสามารถทะลุได้จะยิ่งลดลงไปอีก 110 จุด ซึ่งบทวิเคราะห์นี้ปรากฏให้เห็นจริง โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาได้เริ่มถอยลงมาทีละจุดจนลดลงไปอยู่ที่ระดับ 1.3150 ในวันพุธ หลังจากนั้นราคาได้พยายามที่จะทะลุระดับนี้และไต่ลงมาถึงจุด 1.3085 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกราฟหมีได้อ่อนล้าลงและในช่วงตลาดท้ายสัปดาห์ แรงกระทิงช่วยให้ราคาฟื้นคืนขึ้นมาอีก 100 จุด ดังนั้นราคาจึงได้ขยับขึ้นมาที่ 1.3185
 
- USD/JPY บทวิเคราะห์สำหรับคู่นี้ปรากฏออกมาแม่นยำอย่างยิ่งเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยออสซิลเลเตอร์เห็นด้วยว่าราคากำลังเข้าสู่ช่วงเพดานด้านบนในช่องระยะกลาง 108.00-114.50 และเราสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงขาขึ้นสูงสุด ท้ายที่สุดราคาปิดตัวโดยขาดไป 200 จุด ทำให้ราคาปิดตัวท้ายสัปดาห์ที่จุดสูงสุด 113.56 โดยไม่สามารถไต่ถึงเป้าหมายสุดท้ายได้และขาดไป 100 จุดด้วยกัน
 
- USD/CHF สำหรับคู่นี้ กราฟกระทิงมีข้อได้เปรียบเล็กน้อยจากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ซึ่งได้ทำนายไว้ว่าเป้าหมายของราคาคู่นี้จะอยู่ในโซน 0.9800-0.9835 สำหรับนักวิเคราะห์แล้วนั้น มีเพียงนักวิเคราะห์ 25% ที่โหวตว่าราคาจะขยับสูงขึ้น แต่เสียงนี้เราก็ต้องรับฟังเช่นกัน เนื่องจากราคาเพิ่มไปถึง 100 จุดในระหว่างสัปดาห์จนกระทั่งปิดตลาดในโซน 0.9840
 
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
 
- EUR/USD ควรเป็นที่คำนึงว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่สามารถที่จะให้ความเห็นอย่างแน่ชัดเกี่ยวกับทิศทางของราคาคู่นี้มาเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ด้วยกัน แม้ว่าวุฒิสภาของสหรัฐฯได้ตัดสินใจเห็นชอบร่างงบประมาณประจำปี 2561 และอนุมัติการบังคับใช้การปฏิรูประบบภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แล้วนั้น มีนักวิเคราะห์เพียง 50% ที่ให้คะแนนเสียงว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น แต่อีกเสียงเห็นว่าแม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น จะคงอยู่เพียงระยะสั้นชั่วคราวเท่านั้น
นอกจากนักวิเคราะห์แล้ว ออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ราคาในกรอบ D1 ต่างไม่เห็นด้วยหรือให้ความเห็นที่เป็นกลางมากกว่า โดยมีในกรอบ H4 เท่านั้นที่มองว่าราคาจะมีแนวโน้มลดตัวลง สำหรับการวิเคราะห์กราฟให้ผลว่าราคาจะอยู่ในช่วงคงที่ในโซน 1.1665-1.1925 โดยมีแนวรับอยู่ที่โซน 1.1575
ทั้งนี้ ควรเป็นที่คำนึงว่าบทวิเคราะห์ในระยะกลางให้ภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยผู้เชี่ยวชาญประมาณ 80% ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะขยับขึ้นไปยังช่วง 1.2000-1.2100
 
- บทวิเคราะห์ของคู่สกุล GBP/USD ปรากฏออกมาในแง่ลบเป็นหลัก โดยความเห็นนี้เป็นของนักวิเคราะห์ส่วนมาก (55%) ซึ่งคาดว่าค่าแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ในโซน 1.3000 นอกเหนือไปจากความเห็นของนักวิเคราะห์แล้ว ดัชนีเทรนด์ราคากว่า 70% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะปรับตัวลดลง
สำหรับปัจจัยกราฟขาขึ้นได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญที่เหลือจำนวน 45% ซึ่งเห็นว่าราคาอาจจะพยายามทดสอบค่าสูงสุดของเดือนตุลาคมในโซน 1.335
 
- คล้ายกันกับในสัปดาห์ที่แล้ว คู่สกุล USD/JPY กำลังประสบกับสัญญาณสีเขียวเป็นหลัก โดยนักวิเคราะห์จำนวน 65% ดัชนีเทรนด์ราคา 100% และออสซิลเลเตอร์จำนวน 75% ในกรอบ H4 และ D1 เชื่อว่าราคาจะขยับตัวสูงขึ้นไปยังเพดานด้านบนในระยะกลางช่วง 108.00-114.50 อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าราคาอาจมีการปรับตัวบ้างในระหว่างทางนี้ ซึ่ง 25% ที่เหลือของออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณเพียงพอว่าราคาอาจจะปรับตัวลดลงในช่วงสั้นๆ โดยมีค่าแนวรับอยู่ใกล้บริเวณ 112.00-112.30 และค่าแนวรับถัดไปอยู่ที่ 111.65
 
- สุดท้ายนี้ บทวิเคราะห์คู่สุดท้ายของเราคือคู่ USD/CHF โดยออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 จำนวนหนึ่งในสี่ได้ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% คาดว่าราคาจะปรับตัวเข้าสู่ทิศใต้ นอกจากนี้ หากเปลี่ยนจากบทวิเคราะห์รายสัปดาห์เป็นบทวิเคราะห์รายเดือนจะเห็นได้ว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเพิ่มสูงขึ้นถึง 85% ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่ระดับ 0.9700 และจากนั้นอาจจะลงไปได้อีกถึง 100 จุด
ทั้งนี้ ยังคงปรากฏเสียงสนับสนุนกราฟขาขึ้นโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ที่เชื่อว่าแนวโน้มในการขยับสูงขึ้นของราคานั้นยังไม่อ่อนล้าหมดลงเสียทีเดียว และราคามีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 0.9900 หรืออาจจะสูงกว่านั้นที่ระดับหลัก 1.0000 อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของคู่สกุล EUR/USD ซึ่งส่งผลต่อราคา USD/CHF เช่นกัน
 

[admin]

รอตามข่าวรายวันเลย 

[narjant]

ข้อมูลชี้วัดประจำสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยช่องว่างในตลาดเนื่องจากการเลือกตั้งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีผลว่านายชินโซ อาเบะ ชนะการเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ชิงที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมาได้ 312 ที่ ทว่าเงินเยนอ่อนค่าลงเนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของการคลังและมาตราการผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ช่วงนี้น่าจะค่อนข้างเงียบเพราะวันนี้มีรายงานจากยูโรโซนและแคนาดาออกมาเพียงเล็กน้อย ส่วนวันอื่น ๆ ของสัปดาห์นั้น ทั้ง ECB และ BoC มีกำหนดการจะแถลงอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีและวันพุธตามลำดับ ทั้งนี้ในวันพุธ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษจะรายงานตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3 ขณะเดียวกันจะมีการแถลงรายงานเรื่องเดียวกันนี้ในสหรัฐ ฯ ในวันศุกร์ สุดท้ายวันพฤหัสบดี ญี่ปุ่นจะประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม
กราฟ USDJPY ราย 1 ชั่วโมง
 
วันจันทร์
23 ตุลาคม เป็นช่วงวันที่ ‘สบาย ๆ’ สำหรับปฏิทินทางเศรษฐกิจ มีความผันผวนจากการคาดการณ์การเลือกตั้งของญี่ปุ่น สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเนื่องชัยชนะของนายอาเบะเมื่อช่วงค่ำคืนของวันอาทิตย์ ซึ่งบอกเป็นนัยว่าอาจจะมีมาตราการผ่อนคลายทางการเงินออกมา ตลาดเคลื่อนไหวโดยคาดการณ์ว่าผลการเลือกตั้งน่าจะสร้างความผันผวนในช่วงเปิดตลาด แต่อย่างไรก็ตามปฏิทินทางเศรษฐกิจก็ดูค่อนข้าง ‘สบาย ๆ’ โดยมีเหตุการณ์สำคัญแค่เพียงตัวเลขยอดค้าส่งในเวลา 12.30 น. เท่านั้น
วันอังคาร
24 ตุลาคม ช่วงเวลาที่ ‘หนัก’ สำหรับยูโรโซนเนื่องจากการประกาศรายงาน PMI ในวันอังคารเป็นวันครบกำหนดการประกาศรายงาน PMI สำหรับภาคการบริการและภาคการผลิตของยูโรโซนตั้งแต่เวลา 07.00 – 08.00 น. ส่วนรายการการบริการและการผลิตของเยอรมันนีที่จะประกาศเวลา 07.30 น. นั้น ตามปกติแล้วก็จะเกี่ยวข้องกับความผันผวนของค่าเงินยูโรมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบอยู่ในวงจำกัดเนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับสุนทรพจน์ของนายดรากีในวันพฤหัสบดี
เทรดด้วยข้อมูลข่าวสารตอนนี้
การเทรดด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูง
วันพุธ
25 ตุลาคม ความผันผวนสูงเพราะเน้นหนักไปที่ตัวเลขจีดีพีของอังกฤษและอัตราดอกเบี้ยของ BoC คาดว่าจะมีความผันผวนในช่วงที่มีการประกาศตัวเลข CPI ของออสเตรเลียในเวลา 00.30 น. จากนั้นในเวลา 08.00 น. จะมีการประกาศแบบสำรวจ IFO ของเยอรมันนีซึ่งคาดว่าน่าจะก่อให้เกิดความผันผวนต่อคู่สกุลที่อิงกับสกุลเงินยูโร ในเวลาไม่นานจากนั้น นั่นคือเวลา 08.30 น. อังกฤษจะประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำไตรมาส 3 และในเวลา 12.30 น. สหรัฐ ฯ จะประกาศตัวเลขรายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน จากนั้นคาดว่าจะมีความผันผวนสูงในช่วงการประกาศอัตราดอกเบี้ยของ BoC ในเวลา 14.00 น. และระหว่างที่มีการแถลงต่อสื่อมวลชนในเวลา 15.15 น. นอกจากนี้คาดว่าเวลา 14.00 น. จะมีการประกาศยอดขายบ้านของสหรัฐ ฯ ด้วย ทั้ง EIA จะประกาศรายงานปริมาณคงคลังล่าสุดออกมาเช่นกัน ดังนั้นคาดว่าจะมีความผันผวนเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ในเวลา 14.30 น. ด้วย
วันพฤหัสบดี
26 ตุลาคม คาดว่าจะมีความผันผวนอย่างรุนแรงเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่นายดรากีจะแถลงการณ์เกี่ยวกับการซื้อสินทรัพย์ในตลาดตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ทั้ง ๆ ที่ในเวลา 07.00 – 08.00 น. จะมีการประกาศอัตราการว่างงานของสเปนและปริมาณเงินตามลำดับ แต่นักลงทุนก็ยังคงนิ่งเฉย เนื่องจากคาดว่านายดรากีจาก ECB จะมีแถลงการณ์เวลา 12.30 น. ซึ่งห่างจากการประกาศอัตราดอกเบี้ยประมาณ 15 นาที โดยตลาดเชื่อว่าประธาน ECB กำลังจะประกาศเกี่ยวกับการเริ่มการซื้อสินทรัพย์ในตลาดตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณประจำเดือนของ ECB และในเวลา 12.30 น. นี้ก็เป็นกำหนดเวลาที่สหรัฐ ฯ จะประกาศตัวเลขรายงานการใช้สิทธิ์การว่างงานประจำสัปดาห์ด้วย
วันศุกร์
27 ตุลาคม นักลงทุนจับตามองตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ เพื่อมองหาโอกาสในเทรดที่เป็นไปได้ คาดว่าช่วงเวลาของวันศุกร์น่าจะเกิดความผันผวนกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ ฯ ระหว่างที่ประกาศตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 3 ทั้งนี้ความผันผวนน่าจะเกิดขึ้นในเวลา 14.00 น. ด้วย เนื่องจากครบกำหนดการทบทวนการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ UoM  แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของการทบทวนนี้น่าจะจำกัดหากเทียบกับการประกาศจีดีพี
คลิกที่นี่เพื่อดูปฏิทินฉบับเต็ม
 
 
การเทรดด้วยมาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูง