วิเคราห์และอัพเดตข่าวที่น่าสนใจ แบบตรง ๆ ดิบ ๆ

[neoben]

ขอบคุณ บทวิเคราะห์ ของทุกท่าน 

[Teerapong]

MTS Breaking News | บีโอเจมีมติ 8 ต่อ 1 ในการคงนโยบายการเงิน

[admin]

8/1

[Teerapong]

MTS Breaking News | บีโอเจมีมติ 8 ต่อ 1 ในการคงนโยบายการเงิน

ขณะที่ BoJ Outlook แสดงให้เห็นว่า
 คาดการณ์เงินเฟ้อ (Core CPI) ปีนี้คาดอยู่ที่ 0.8% และปีหน้า 1.4%
 คาดการณ์จีดีพี ปีนี้อยู่ที่ 1.9% ปีหน้า 1.4% และปี 2019 อยู่ที่ 0.7%

พร้อมกันนี้ นายคุโรดะ ผู้ว่าการ BoJ คาดเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 15 ปี อาจคงอยู่แถวระดับไม่น้อยกว่า 0.2% ขณะที่ความเสี่ยงด้านราคานั้นดูลดน้อยลง ขณะที่ความเสี่ยงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังอยู่ในภาวะสมดุล

ที่มา: Daily FX

[Teerapong]

สำหรับ SIGNAL ทองคำเมื่อวานนี้ ก็ยังไม่เกี่ยวสักฝั่ง เนื่องจากทองคำยังคง SIDEWAY อยู่ในกรอบ 1268-1278  ถ้า BREAKOUT เมื่อใหร่ก็เรียบร้อย เพราะเราวางไว้ทั้ง 2 ฝั่งแล้ว วันนี้ก็วางกับดักรอต่อไปครับ

[Teerapong]

SPDR ขายออก 1.19 ตัน คงเหลือ 844.27 ตัน


สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดได้ปิดทำการลงแล้ว

ตลาดการเงินจับตาถ้อยแถลงของนางเยเลน ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซีเมื่อวานนี้ ในโอกาสที่เธอเข้ารับรางวัลด้านจริยธรรมจากรัฐบาล โดยนักลงทุนเตรียมหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
 
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ก็แย้มถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.
 
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 96.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
 
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนส.ค. และไม่ไกลจากตัวเลข 6.14 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนก.ย. เกิดจากการที่พายุเฮอร์ริเคนได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในโรงแรม และร้านอาหาร
 
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

[Teerapong]

SPDR ซื้อทองเข้าเก็บเพิ่ม 0.30 ตัน คงเหลือ 843.39 ตัน

US INDEX ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 95 ได้ อาจจะมีการรีบาวด์เพื่อสะสมแรงก่อนครับ

แนวโน้มระยะสั้น USD อ่อนตัว

[Teerapong]

Update: ข่าวเศรษฐกิจช่วงเช้า
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 843.09 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +17.49 จุด อยู่ที่ 23,439.70 จุด
-นักลงทุนยังติดตามการเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตในวันพรุ่งนี้ โดยมีผู้ที่จะเข้าร่วม ได้แก่ ประธานธนาคารกลางจากสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน
#ข่าวและตัวเลขเศรษฐกิจ

[Teerapong]

    เมื่อ 4 ธนาคารออกมาพูดพร้อมกัน กราฟจะวิ่งออกมาแบบไหน มาดูกัน

[admin]

เย็นนี้สนุกแน่ 

*สูง     EU    17.00 น. ประธาน ECB นาย Draghi กล่าวสุนทรพจน์

*สูง     JPY   17.00 น. นายคุโรดะ ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์

*สูง     GBP  17.00 น. มาร์คคาร์นีย์ ประธาน BoE กล่าวสุนทรพจน์

*สูง     USD  17.00 น. นางเยเลนประธานเฟส กล่าวสุนทรพจน์

[Teerapong]

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสมเร่งผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูประบบภาษีให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว โดยปธน.ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "ผมภูมิใจในสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งต่างก็ทำงานอย่างหนักในการปฏิรูประบบภาษี และเราก็ขยับเข้าใกล้ความจริงแล้ว" ทั้งนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างอภิปรายร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของแต่ละสภา โดยสมาชิกรีพับลิกันคาดหวังว่า ในท้ายที่สุดแล้ว สองสภาจะสามารถประสานข้อแตกต่างในร่างกฎหมายสองฉบับ และลงมติผ่านร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายได้ทันก่อนสิ้นปีนี้ นอกเหนือจากการประสานข้อแตกต่างระหว่างร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสองสภาแล้ว สมาชิกรีพับลิกันยังต้องพิจารณาวิธีการจัดหารายได้เข้าคลังเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการปรับลดภาษีขนานใหญ่ โดยสำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐเปิดเผยว่า ร่างกฎหมายภาษีฉบับของสภาผู้แทนราษฎรจะเพิ่มหนี้สาธารณะให้กับสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 ปีข้างหน้า ขณะที่รีพับลินกันอนุญาตให้รัฐขาดดุลงบประมาณได้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52น. ของวันที่ 14/11/60)
แนวโน้มวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ จนกดดันราคาทองคำ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 ปี ในขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและระระยาวกลับมาปรับตัวแบนราบลงอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตัน โดยเขามีกำหนดจะหารือกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันในวันพฤหัสบดี ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะทำการโหวตร่างกฎหมายภาษี ความพยายามผลักดันมาตรการปฏิรูปกฎหมายภาษี ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการถือครองทองคำ เพราะในช่วงที่ ปธน.ทรัมป์ เดินทางเยือนเอเชียนั้น เขาได้ทวีตข้อเสนอแนะเรื่องกฎหมายภาษีบางประการ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่แตกต่างเป็นอย่างมากจากร่างกฎหมายทั้งฉบับของสภาผู้แทนราษฎรและฉบับของวุฒิสภา ทั้งนี้นักลงทุนจับตาความชัดเจนจากมาตรการปรับลดภาษีนี้ เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนตกลงที่จะเริ่มต้นหารือกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในรายละเอียดของกรอบการทำงานสำหรับแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นความพยายามคลี่คลายปัญหาขัดแย้งอย่างสันติ โดยการหารือนี้จะเป็นการสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคนี้ ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดปัจจัยหนุน ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำมีการแกว่งตัวแคบ เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน หากยืนเหนือบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ

SPDR คงสถานะ ไม่มีการซื้อขายเพิ่มเติม

ดาวโจนส์ ยังทำ NEWHIGH ไม่ได้  แนวโน้ม เงินไหลออกต่อเนื่อง นั้นส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

[Teerapong]

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายคาดการณ์ไว้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เงินเฟ้อและอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ
 
นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวบนเวทีการประชุมเมื่อวานนี้ว่า "ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยควรปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยทิศทางด้านนโยบายของเรานั้นยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลายมากกว่าที่จะอยู่ในระดับที่มีความเป็นกลาง (neutral) "

หากธันวาคมนี้ ไม่ปรับดอกเบี้ยจริงๆ ทองมีโอกาศยืนเหนือ 1300 อีกครั้ง  ครับ


นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันจนกว่าที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นที่น่าแปลกใจว่าข้อมูลเงินเฟ้อในปัจจุบันนี้ยังคงอยู่ในภาวะขาลง จึงนำไปสู่คำถามที่ว่าอันที่จริงเงินเฟ้อควรกลับขึ้นสู่ระดับเป้าหมายได้แล้ว แต่การที่เฟดจะทำให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% นั้น ก็อาจไม่ง่ายนักที่จะเห็นในช่วงก่อนปี 2018 หรือ 2019
นายบุลลาร์ด กล่าวย้ำว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเขายังกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และคาดการณ์เงินเฟ้อที่ปรับลดลงนั้น เขาอาจจะโหวต “No” ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งหน้า

ในปัจจุบันภาพรวมเงินเฟ้อสหรัฐฯยังคงทรงตัวบริเวณ 1.3% โดยยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเฟดในช่วง 5 ปีครึ่ง

ที่มา: CNBC

[admin]

ข่าวออกมาจะกดดันให้ทองลงหรือป่าวนะ 

[Teerapong]

กองทุน SPDR ยังถือครองคงเดิม
 

[admin]