Forex l หุ้น l การลงทุน l การซื้อขายออนไลน์ l ตลาดฟอร์เร็กซ์

FOREX NEWs / ปฏิทินเศรษฐกิจประจำวัน => ข่าวเกียวกับ Forex => ข้อความที่เริ่มโดย: narjant ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2019, 07:32:01 AM

หัวข้อ: สถานการณ์ investing.com
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2019, 07:32:01 AM
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 06:54:49 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขานรับข่าวสหรัฐประกาศเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หลังจากการเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเตรียมแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,091.95 จุด เพิ่มขึ้น 60.14 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,796.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.46 จุด เพิ่มขึ้น 26.92 จุด หรือ +0.36%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า สหรัฐจะเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน จากเดิมที่มีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค. หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในประเด็นต่างๆที่มีความสำคัญในเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายโอนเทคโนโลยี การเกษตร การบริการ ค่าเงิน และอีกหลายประเด็น

ขณะเดียวกันทรัมป์ยังระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "เนื่องจากจีนและสหรัฐมีการเจรจาที่คืบหน้ามากขึ้น เราจึงวางแผนที่จะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผม โดยจะจัดขึ้นที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริด้า เพื่อสรุปข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกัน"

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าของการเจรจาการค้า โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นแอปเปิล ดีดตัวขึ้น 0.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.2% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 1.2% และหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.6%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นจากปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.02% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ เพิ่มขึ้น 0.4% หุ้นอีตัน คอร์ป เพิ่มขึ้น 0.2% หุ้น 3M เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนเจเนอรัล อิเลคทริค (GE) พุ่งขึ้น 6.4% หลังจาก GE ประกาศตัดขายธุรกิจชีวเวชภัณฑ์ให้กับบริษัทดานาเฮอร์ คอร์ป ในวงเงิน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นดานาเฮอร์ปิดตลาดทะยานขึ้น 8.5%

หุ้นสปาร์ค เธราพูติคส์ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 120% หลังจากโรช โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของสปาร์คในวงเงิน 4.3 พันล้านดอลลาร์

หุ้นนิวมอนต์ ไมนิ่ง ปรับตัวลง 1% หลังจากบริษัทแบร์ริค โกลด์ ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการของนิวมอนต์ ไมนิ่ง ด้วยวงเงิน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตั้งบริษัทเหมืองทองขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่ารวม 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ฝ่ายบริหารของนิวมอนต์ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของแบร์ริค โดยระบุว่าแบร์ริคได้เมินเฉยต่อความเสี่ยงจากข้อตกลงดังกล่าว และประเมินผลบวกจากการควบกิจการมากเกินไป

หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยหุ้นเอสไอเอ็นเอ คอร์ปอเรชัน และหุ้นทีเอแอล เอ็ดดูเคชัน พุ่งขึ้น 5.15% และ 4.59% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นอาลีบาบา พุ่งขึ้น 3.58%

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ โดยนายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2556 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ม.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
ส่งความเห็นถึงผู้สื่อข่าว
Facebook
Twitter
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
(REPEAT) ตลาดจับตาประธานเฟดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสสัปดาห์นี้
สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มมากที่สุดรอบกว่า 5 ปีในเดือนธ.ค.
"เยลเลน"ชี้"ทรัมป์"ขาดความเข้าใจนโยบายการเงิน,พื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐ
"ทรัมป์"เผยสหรัฐ-จีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า พร้อมลงนามร่วมกับ"สี จิ้นผิง"
บอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวขึ้น นักลงทุนขายพันธบัตร หลังคลายกังวลสงครามการค้า
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
อุตสาหกรรม ก.พ. สหรัฐ จีน ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก รับเพิ่ม ต่างประเทศ ดาวโจนส์ ประกาศ การลงทุน ภาษี บริษัท สินค้า เทคโนโลยี


อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq18/2959219
หัวข้อ: Re: สถานการณ์ investing.com
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2019, 07:40:37 AM
ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: สถานการณ์ investing.com
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2019, 01:38:19 PM
 m:17 m:17 m:17 m:17