เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 09, 2017, 12:51:03 PM
นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ ที่ถูกนายทรัมป์ไล่ออกจากตำแหน่ง ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับการสอบสวนเรื่องที่นายทรัมป์พยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยนายโคมีย์กล่าวว่าเขาถูกรัฐบาลของนายทรัมป์กล่าวหาและโกหกกันอย่างซึ่งหน้า
นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ ที่ถูกนายทรัมป์ไล่ออกจากตำแหน่ง ขึ้นให้การต่อสภาคองเกรสเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยการขึ้นให้การครั้งนี้มีการถ่ายทอดสผ่านทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ และเป็นการปรากฎตัวครั้งแรกของนายโคมีย์นับตั้งแต่ถูกนายทรัมป์ไล่ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นายโคมีย์เริ่มต้นการให้การด้วยการกล่าวว่า ทำเนียบขาวใส่ร้ายป้ายสีเขาเพื่อที่จะทำให้เอฟบีไอเสื่อมเสียชื่อเสียง ด้วยการกล่าวหาว่าเอฟบีไอเป็นหน่วยงานที่ไร้ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งล้วนเป็นคำโกหกซึ่งหน้า และเขารู้สึกเสียใจที่เจ้าหน้าที่เอฟบีไอทุกคนต้องถูกสบประมาทเช่นนี้ โดยนายโคมีย์ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเอฟบีไอเป็นหน่วยงานที่มีเกียรติและเข้มแข็ง และเอฟบีไอจะเป็นหน่วยงานอิสระที่ไม่ขึ้นตรงกับใครตลอดไป
การกล่าวคำให้การของนายโคมีย์เน้นรายละเอียดเกี่ยวกับการพบปะพูดคุยระหว่างนายโคมีย์และนายทรัมป์ ตั้งแต่ตอนที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อเดือนมกราคม จนถึงวันที่นายทรัมป์ออกคำสั่งไล่นายโคมีย์ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอ ในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการสอบสวนว่านายทรัมป์พยายามที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เกี่ยวกับกรณีที่แฮกเกอร์ชาวรัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และอาจมีส่วนช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง
นายโคมีย์กล่าวว่าการพบปะและพูดคุยกับนายทรัมป์ทำให้เขารู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจหลายอย่าง โดยนายทรัมป์พยายามโน้มน้าวให้เขาหยุดการสอบสวนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทีมหาเสียงของทรัมป์และรัฐบาลรัสเซีย และนายทรัมป์ยังเคยเรียกร้องให้ให้นายโคมีย์กล่าวคำปฏิญาณว่าจะจงรักภักดี และระบุว่าต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและโคมีย์เป็นไปอย่างอุปถัมภ์ค้ำชูกันและกัน ซึ่งทำให้โคมีย์ไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเขาไม่มั่นใจว่านายทรัมป์กำลังพยายามที่จะแทรกแซงการทำงานของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
นายมาร์ก คาโซวิทช์ ทนายความของทรัมป์ ออกแถลงการณ์ตอบโต้คำให้การของนายโคมีย์ว่า นายทรัมป์ปฏิเสธว่าไม่เคยเรียกร้องความจงรักภักดีจากนายโคมีย์หรือเคยขอให้นายโคมีย์หยุดการสืบสวนคดีรัสเซียในระหว่างการพบปะส่วนตัว ขณะที่นางซาราห์ แซนเดอร์ โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาวก็ออกมาตอบโต้คำให้การของนายโคมีย์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ใช่คนโกหกและถือว่าคำให้การของนายโคมีย์เป็นการดูหมิ่นประธานาธิบดี
การขึ้นให้การของนายเจมส์ โคมีย์ ต่อสภาคองเกรสครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วทั้งสหรัฐฯ จนสถานีโทรทัศน์ทุกช่องต้องถ่ายทอดสด ซึ่งมีการประเมินว่ามีชาวอเมริกันราว 26 ล้านคน หรือร้อยละ 18 ของประเทศ หยุดทำงานงานเพื่อเฝ้าติดตามการให้การครั้งนี้
