Forex l หุ้น l การลงทุน l การซื้อขายออนไลน์ l ตลาดฟอร์เร็กซ์
FOREX NEWs / ปฏิทินเศรษฐกิจประจำวัน => ข่าวเกียวกับ Forex => ข้อความที่เริ่มโดย: admin ที่ มิถุนายน 08, 2017, 08:14:31 AM
-
ในวันนี้มีเหตุการณ์สำคัญ 3 อย่างเกิดขึ้นคือ
1. การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ,
2. การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
3 .การที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นที่ว่า
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กดดันเขาให้ยุติการสืบสวนต่อข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียได้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 หรือไม่ และปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้เขายุติการสอบสวนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กับรัฐบาลรัสเซีย หรือไม่
นายโคมีย์ ซึ่งถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไล่ออกเมื่อเดือนที่แล้ว เขียนปากคำเป็นลายลักษณ์อักษรว่า นายทรัมป์ ร้องขอให้เขายุติการสืบสวนนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ
ที่ผ่านมา นักลงทุนวิตกว่าการเปิดโปงเรื่องนี้ อาจบั่นทอนความพยายามขับเคลื่อนนโยบายต่างๆของนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ
การให้การของนายโคมีย์ ซึ่งถือเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนครั้งแรก นับจากถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 เดือนที่แล้ว กำลังเป็นที่จับตาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในวอชิงตัน ถึงขนาดมีบาร์อย่างน้อย 2 แห่งในเมืองหลวงของสหรัฐ ที่เตรียมเปิดให้บริการก่อนกำหนดเวลาให้ปากคำคือ 10.00 น. ของวันดังกล่าว (ตรงกับ 21.00 น. ตามเวลาไทย) เพื่อให้ชาววอชิงตันเข้าไปนั่งดูการถ่ายทอดสด
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และแนวโน้มของการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของ อีซีบี
-
มี แต่ ข่าว แรง ๆ
-
ขอบคุณครับ วันนี้และพรุ่งนี้เข้าออกออเดอร์ระวังกานหน่อยนะครับ Cat1.gif
-
ขอบคุณมากครับ น่าจะเข้ามาอ่านก่อน จัดหนักไม้ใหญ่ ไปด้วย หาจังหวะปิดครับ AT8.gif
-
ข้อมูลชี้วัดที่สำคัญประจำวันนี้
วันนี้เป็นวันที่การเมืองโลกร้อนแรง ไฮไลต์จะอยู่ที่การเลือกตั้งรัฐสภาของอังกฤษและคำให้การของ Comey ในเรื่องการสอบสวนเกี่ยวกับรัสเซีย เรื่องที่สำคัญน้อยกว่าก็คือออสเตรเลียและจีนจะประกาศข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับดุลการค้า ขณะที่ในยุโรป คาดว่า Draghi จะประกาศการปรับปรุงนโยบายการเงินล่าสุดระหว่างการประชุมหลังนโยบาย เทรดเดอร์อาจพบโอกาสจำนวนมากเนื่องจากสหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขการว่างงานหลัง NFP ที่น่าผิดหวังในเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกัน เทรดเดอร์อาจรอดูการประกาศว่าผลการเลือกตั้งในปี 2014 ของบราซิลตกเป็นโมฆะหากประกาศผลในวันนี้
ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด
ดอลลาร์ออสเตรเลียทำจุดสูงสุดของเดือนเพราะข้อมูล GDP ซึ่งยังคงสูงกว่าการคาดการณ์อย่างต่อเนื่อง ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าโดยไม่มีผลลบจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่แนวโน้มของดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอ AUDUSD บวก 0.55% ในวันพุธ ถือเป็น 3 เซสชั่นติดต่อกันโดยแตะระดับเหนือ 0.75600 และสร้างแนวรับที่แนวต้านของเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 0.75300
USDCAD ทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ก่อนที่ดอลลาร์แคนาดาจะตกลงเพราะปริมาณน้ำมันดิบคงเหลือที่เพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำมันคงเหลือของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 สัปดาห์ ส่งผลให้ดอลลาร์บวก 0.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา โดยคู่เงินทะลุเส้น EMA 200 และวิ่งไปหาแนวต้านถัดไปที่ 1.35378
ดอลลาร์/เยนตกลงในต้นเซสชั่น แล้วดีดตัวขึ้นมาเพราะการถอยจากการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลงและ USD แข็งค่าขึ้น USDJPY ลดลง 0.23% ไปที่แนวรับ 109.156 และคลายความกังวล จากนั้น เคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามไปหาจุดสูงสุดของวัน ถึงแม้นักลงทุนจะสงสัยในปัญหาของ Trump
เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นเหนือ 1.29000 จากคำกล่าวอ้างว่า May จะชนะก่อนการเลือกตั้ง เงินปอนด์เทรดสูงขึ้นในกรอบในเซสชั่นวันพุธ ถึงแม้ความกลัวว่าโอกาสที่สภาจะประสบภาวะถูกแขวนจะสูงขึ้น นักลงทุนทำให้ GDPUSD ไปที่ระดับ $1.29 โดยบวก 0.29% ซึ่งเป็นผลดี โพลแสดงว่าพรรคอนุรักษ์นิยม-แรงงานมีคะแนนต่างกัน 5 คะแนน
EURUSD เคลื่อนไหวระหว่าง 1.12000 กับ 1.12800 เพราะความล้มเหลวของ Banco การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของ ECB และความโล่งใจเกี่ยวกับ Comey ยูโรตกลงไปที่ 1.12000 เนื่องจากรายงานของ ECB ที่จะปรับลดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเพราะราคาพลังงานที่ลดลง ขณะที่ความล้มเหลวในการช่วยเหลือธนาคารสเปนทำให้นักลงทุนกังวลในช่วงต้นเซสชั่น คู่นี้จึงเทรดกันอย่างดุเดือดเพราะนักลงทุนกังวลว่าการเปิดเผยข้อมูลใหม่ของ Comey อาจทำให้นโยบายเคร่งครัดมากขึ้น เทรดเดอร์จะจับตามองคำให้การในวันนี้
น้ำมันดิ่งลง 4.5% เนื่องจากการประกาศข้อมูลสต๊อกน้ำมันดิบซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม น้ำมันสหรัฐฯ เทรดที่ต่ำกว่า $46 เนื่องจากตัวเลขที่ออกมาต่างจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดอย่างมาก ปริมาณน้ำมันดิบคงเหลือเพิ่มขึ้นไปที่ 3.295 ล้าน แทนที่จะลดลง -3.464M ส่งผลให้ราคาทองคำสีดำเคลื่อนไหวห่างจากเส้น EMA 50
ทองคำมีแนวต้านที่ประมาณ 1295 ในเซสชั่นวันพุธ โดยปรับตัวลดลงเนื่องจากดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร XAUUSD เทรดไปหาเส้น EMA 100 ในช่วงสายของเซสชั่นยุโรปเพราะการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของ ECB ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยสร้างแนวรับใหม่ที่แข็งแกร่งที่ 1283.25 นักลงทุนจะจับตาดูการคาดการณ์เงินเฟ้อและความเห็นเกี่ยวกับการกระตุ้นทางการเงินจากประธาน Draghi
ดัชนีสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นโดย Dow Jones บวก 0.19% ส่วนในยุโรป Dax ลบ 0.14%
ในเอเชีย ดัชนีต่างๆ เคลื่อนไหวผสมกันโดยส่วนใหญ่เทรดทั้งบวกและลบ
-
ขอบคุณมากครับ

-
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 20:49:10 น.
นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อยังไม่ได้แสดงสัญญาณการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
นายดรากีกล่าว หลังจากที่ ECB ประกาศปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสู่ระดับ 1.5% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.7% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3% จากเดิมที่ระดับ 1.6%
การปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนจุดยืนของ ECB ในการขยายเวลาในการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมทั้งจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB
การใช้มาตรการ QE ของ ECB มีเป้าหมายเพื่อผลักดันเงินเฟ้อในยูโรโซนให้เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4% ในปัจจุบัน ไปสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งกำหนดให้อยู่ต่ำกว่า 2% เพียงเล็กน้อย
ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยท่าน้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะคงวงเงินที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ECB แถลงว่า อาจมีการขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE เกินกว่าเดือนธ.ค.ปีนี้ หากมีความจำเป็น โดย ECB จะใช้มาตรการ QE ไปจนกระทั่งทิศทางของเงินเฟ้อมีความยั่งยืน
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2661635
-
เเหมือนว่าแหล่งข่าวข้อมูลคาดเคลือนนิดหนึ่ง
ECB ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.0 %
.png)
และคงอัตราดอกเบียเงินฝากไว้ที่ -0.4%
-
การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ 8 มิถุนายนนี้ กลับกลายเป็นการเลือกตั้งที่สร้างความตื่นเต้นในนาทีสุดท้าย เมื่อผลสำรวจระบุว่าพรรครัฐบาลอาจไม่นอนมาอย่างที่คิด และพรรคฝ่ายค้านอาจมีลุ้นได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ความไม่แน่นอนนี้อาจส่งผลร้ายมากกว่าดีต่อทั้งโลก ไปดูกันว่าผลการเลือกตั้ง มีสิทธิ์ออกมาในทางไหนได้บ้าง


พรรคอนุรักษ์นิยม(เทเรซา เมย์) หากชนะการเลือกตั้ง
หากคนรุ่นใหม่ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เพื่อแสดงพลังหลังอกหักจากประชามติ Brexit ก็เป็นไปได้ว่าพรรคแรงงานจะได้คะแนนตีตื้นขึ้นมามาก และกลายเป็นว่าไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา ต้องมีการต่อรองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม ทำให้พรรคเล็กมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น
ข้อดี: ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ Brexit และผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายเสรีนิยม จะได้โอกาสกลับมามีบทบาทกำหนดทิศทางประเทศมากขึ้น
ข้อเสีย: เงินปอนด์จะตก เศรษฐกิจจะกลับสู่ความไม่มีเสถียรภาพ เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบาย Brexit

เจเรมี คอร์บิน หากชนะเลือกตั้ง
แนวทางนี้มีความเป็นไปได้น้อยที่สุด แต่ก็ใช้ว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากพลังเงียบในอังกฤษร่วมใจกันโหวตให้กับพรรคแรงงาน หากเป็นเช่นนี้ก็จะถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของพรรคอนุรักษ์นิยม ที่ถึงกับทำให้เมย์ต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบที่ตัดสินใจผิดพลาด
ข้อดี: ผู้ต่อต้าน Brexit จะมีความหวังมากขึ้นว่ารัฐบาลจะยังคงความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอียู และนโยบายปั๊มเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคแรงงาน จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
ข้อเสีย: เงินปอนด์อาจตกในระยะสั้นๆ จากผลเลือกตั้งที่พลิกความคาดหมาย และมีความเสี่ยงว่ารัฐบาลอาจไม่มีเสถียรภาพ เพราะไม่ได้ครองเสียงในสภามากพอ
-
ที่นั่งไม่พอ ไม่เป็นเอกฉันท์ อาจจะต้อง มาคุยกันว่าจะให้ใครเป็นนายก
-
เงิน ดิ่งเหวเลยที่เดียว ไม่รู้ใครได้กันบ้างนะ em11.gif em11.gif
-
ล่วงสะ
ยังไม่รู้เลยว่าผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไงเลย
ไม่ยากคุยเลยว่าได้ตัง 
-
พรรครัฐบาลอังกฤษชนะการเลือกตั้ง แต่เสียที่นั่งเพิ่ม
ผลเอ็กซิทโพลการเลือกตั้งอังกฤษซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการนับคะแนนชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมที่มีนางเทเรซา เมย์ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง แต่ว่าก็เสียที่นั่งในสภาเพิ่มให้กับพรรคแรงงาน และไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้
ผลเอ็กซิทโพลของผู้ที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในอังกฤษที่เพิ่งปิดคูหาไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ระบุว่าพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่มี นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นหัวหน้าพรรคได้จำนวนส.ส.ในสภาไป 314 ที่นั่ง จากทั้งหมด 650 ที่นั่ง ลดลงกว่าเดิมถึง 16 ที่นั่ง ซึ่งการครองเสียงข้างมากในสภาจำเป็นต้องมี ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด หรืออย่างน้อย 326 ที่นั่ง ทำให้แม้พรรคอนุรักษ์นิยมจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภาได้ ขณะที่พรรคแรงงานได้ไป 266 ที่นั่ง ซึ่งเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 34 ที่นั่ง
ตัวแทนของทั้งพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานบอกว่าขณะนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินผลการเลือกตั้งจากเอ็กซิทโพล และอยากให้ทุกฝ่ายรอการประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าผลการเลือกตั้งเป็นไปตามเอ็กซิทโพล ก็จะทำให้การเมืองของอังกฤษไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งก่อนการเลือกตั้งนางเทเรซา เมย์ เชื่อมั่นว่าพรรคอนุรักษ์นิยมจะสามารถชนะการเลือกตั้งโดยครองเสียงข้างมากตามเดิมและได้จำนวน ส.ส.เพิ่ม
ผู้ที่ออกมาลงคะแนนเสียงให้กับพรรคอนุรักษ์นิยมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาสนับสนุนให้นางเมย์เป็นผู้นำในการดำเนินการเจรจาให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปและเชื่อมั่นว่าเธอจะสามารถเจรจาให้อังกฤษได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด ด้านผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้กับพรรคแรงงานก็บอกว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับระบบประกันสุขภาพของชาวอังกฤษมากกว่า ขณะที่ผู้ลงคะแนนเสียงอีกส่วนหนึ่งบอกว่า เทเรซา เมย์ ดูมีบุคลิกเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของอังกฤษมากกว่า นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน
มีชาวอังกฤษที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ร้อยละ 66 คาดว่าการนับคะแนนจะเสร็จสิ้นและสามารถประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ในช่วงเวลาเที่ยงวันของวันนี้ (9 มิถุนายน) ตามเวลาในอังกฤษ หรือประมาณหกโมงเย็น เวลาในไทย


พรรคอนุรักษ์นิยม(เทเรซา เมย์) หากชนะการเลือกตั้ง
หากคนรุ่นใหม่ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เพื่อแสดงพลังหลังอกหักจากประชามติ Brexit ก็เป็นไปได้ว่าพรรคแรงงานจะได้คะแนนตีตื้นขึ้นมามาก และกลายเป็นว่าไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา ต้องมีการต่อรองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม ทำให้พรรคเล็กมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น
ข้อดี: ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับ Brexit และผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายเสรีนิยม จะได้โอกาสกลับมามีบทบาทกำหนดทิศทางประเทศมากขึ้น
ข้อเสีย: เงินปอนด์จะตก เศรษฐกิจจะกลับสู่ความไม่มีเสถียรภาพ เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบาย Brexit
-
แจ่มเลย แอดมิน อิ่มเลย AT9.gif AT9.gif