เทรดแต่ละครั้งควร Stoploss เท่าไร
เทรดเดอร์เทรดถูกทางมากกว่า 50% แต่พวกเขายังคงเสียเงิน เทรดเดอร์ควรมีจุด Stoploss ที่ชัดเจนและจำกัดการขาดทุนเสมอ โดยใช้อัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่างน้อย 1:1 หรือ 1:2 หรือมากกว่านั้น
ค่าเงินดอลล่าร์เคลื่อนที่ต้านค่าเงินยูโรและค่าเงินอื่นๆ ซึ่งทำให้การเทรด forex เป็นที่นิยมมากกว่าการเทรดอื่นๆ ซึ่งการไหลทะลักของเทรดเดอร์หน้าใหม่ ก็มีจำนวนเท่ากับการไหลออกของเทรดเดอร์ที่มีอยู่แล้วในตลาด
ทำไมเทรดเดอร์ forex จึงทำในสิ่งที่ผิดพลาด
เทรดเดอร์หลายคนที่เทรดตลาดเงิน มีประสบการณ์มาจากการเทรดตลาดอื่น
ทักษะในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ดี ในความเป็นจริงค่าเงินที่เป็นที่นิยมที่สุดในการเทรด เทรดเดอร์มีโอกาสเทรดถูกทางมากกว่า 50% ตัดขาดทุนให้เร็วและปล่อยให้กำไรวิ่งไป เมื่อคุณเทรดพลาด คุณควรตัดขาดทุนอย่างรวดเร็ว มันจะดีมาก ถ้าคุณเสียน้อยๆในตอนแรก ดีกว่าเสียมากๆทีหลัง เมื่อคุณเทรดถูกทางจงอย่ากลัวที่จะปล่อยให้กำไรวิ่งไป ซึ่งมันจะสามารถทำกำไรให้คุณได้อย่างมาก
นี่อาจจะเป็นประโยคง่ายๆ “จงทำในสิ่งที่ถูกต้องให้มากและจงทำในสิ่งที่ผิพลาดให้น้อย” แต่ธรรมชาติของมนุษย์มักจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม พวกเราต้องการเป็นผู้ถูกต้อง
โดยธรรมชาติพวกเรามักจะถือออเดอร์ที่ขาดทุน โดยหวังว่ามันจะกลับมา และการเทรดในครั้งที่ถูกต้อง มีกำไรกลับรีบออกอย่างรวดเร็ว เพราะว่าพวกเรากลัวการสูญเสียกำไรที่เราได้รับ
ในการเทรดมีหลายสิ่งที่สำคัญมากกว่าการเทรดให้ถูกต้อง ดังนั้นตัดขาดทุนให้เร็วและปล่อยให้กำไรวิ่งไป หรือ Stop กำไรไว้อย่าทำให้ขาดทุน อย่างกลับออกมาแบบมือเปล่า
อัตราส่วนที่ควรใช้อยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ?
เมื่อทำการเทรดให้ทำตามกฎนี้เสมอ คือการมองหาผลตอบแทนที่มากกว่าความเสี่ยง และนี่คือคำแนะนำที่มีประโยชน์มาก โดยทั่วไปมันถูกเรียกว่า “อัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทน”
ถ้าความเสี่ยงและผลตอบแทนของคุณมีค่าเท่ากัน นั่นจะมีอัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเท่ากับ 1:1
ถ้าคุณมีเป้าการทำกำไรที่ 80 จุด และมีจุดตัดขาดทุนที่ 40 จุด นั่นจะมีอัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทนเท่ากับ 1:2
ถ้าคุณทำตามกฎข้อนี้ได้ คุณต้องการโอกาสถูกแต่ 50% เท่านั้น
แต่คุณก็ยังสามารถทำกำไรได้ แล้วอัตราส่วนที่ควรใช้อยู่ที่เท่าไหร่ล่ะ? มันขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดของคุณ ซึ่งคุณควรใช้อัตราเสี่ยงอย่างต่ำที่สุดคือ 1:1 โดยทั่วไปกลยุทธ์ในการทรดที่มีความน่าจะเป็นสูง เช่น กลยุทธการเทรดเป็นช่วง คุณจะต้องใช้อัตราส่วนต่ำ บางทีอยู่ระหว่าง 1:1 ถึง 1:2 สำหรับการเทรดที่มีความน่าจะเป็นต่ำ เช่น กลยุทธการเทรดตามแนวโน้ม คุณจะต้องใช้อัตราส่วนที่สูง 1:2, 1:3 หรือ 1:4 และจำไว้ว่ายิ่งอัตราส่วนของความเสี่ยงต่อผลตอบแทนสูงเท่าใด ก็จะต้องการโอกาสที่จะทำนายทิศทางตลาดถูกน้อยไปเท่านั้น
จงยึดแผนของคุณ : ใช้จุดตัดขาดทุน และจำกัดความเสี่ยง
จงจำไว้ว่าพฤติกรรมของมนุษย์โดยธรรมชาติชอบถือออเดอร์ที่ขาดทุนและทำกำไรอย่างรวดเร็วจนเกินไป เราจะต้องเอาชนะพฤติกรรมเหล่านี้ และกำจัดอารมณ์ออกจาการเทรด วิธีการที่ดีที่สุดคือการวางแผนจุดตัดขาดทุน และจำกัดความเสี่ยงเสียแต่แรก
การบริหารความเสี่ยงในแนวทางนี้คือสิ่งที่เทรดเดอร์หลายคนเรียกว่า “money management” เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมีการคาดเดาทิศทางถูกต้องน้อยกว่า 50% แต่พวกเขาปฏิบัติตามการบริหารเงินทุนที่ดี ด้วยการตัดขาดทุนอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้กำไรวิ่งไป จึงทำให้พวกเขายังคงมีกำไรในการเทรด