เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 08:52:34 AM
12 พ.ค. 59 by WealthMeUp
- DJIA ปิดลบกว่า 200 จุด หุ้นค้าปลีกร่วงหนัก 4.44% (ETF ร่วงกว่า 15%) แย่สุดนับแต่ปี 2011
- Wal-Mart, Home Depot, Nike ร่วงยกแผง
- นักลงทุนสหรัฐฯ ผิดหวังผลประกอบการของ Disney & Macy (Macy ได้รับผลกระทบจากัการใช้จ่ายของผู้บริโภค เครื่องมือหลักที่จะผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดลง และส่วนหนึ่งหันไปช้อปออนไลน์)
+ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่ง 3.52% สูงสุดในรอบ 6 เดือน หลัง EIA รายงานสต๊อกน้ำมันลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล สวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
+ ราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ แตะ $1,275.50
- ตลาดหุ้น Asia เปิดในแดนลบ แรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- Toyota เปิดตลาดร่วงหนัก -4.1% หลังวานนี้รายงานหลังปิดตลาดว่าคาดการณ์รายได้ปี 2017 อาจลดลงถึง 35.1%
- หุ้นยานยนต์ญี่ปุ่น พาเหรดร่วงลงเช้านี้ Honda -3.62%, Mazda -3%, Nissan -1.7%
+ เงินเยนแข็งค่าจากวานนี้ (109 เยน) เล็กน้อยแตะ 108.35 เยน/ดอลลาร์ เช้านี้ กดดันหุ้นกลุ่มส่งออก
- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในตลาดเอเชียอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งคืนที่ผ่านมา
+ ธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ คาด FED จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.
- วันนี้จับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตลาดคาดคงนโยบายการเงิน และดอกเบี้ยระดับเดิมในรอบ 7 ปีที่ 0.5%
ข้อมูลจาก: CNBC, Reuters
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 09:01:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 11:11:53 AM
เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันพุธ(11พ.ค.) โดยสัญญาสหรัฐฯแตะระดับสูงสุดในรอบปี 2016 ครั้งใหม่ หลังสต๊อกเชื้อเพลิงลดลงผิดคาด แต่วอลล์สตรีทดิ่งหนัก จากความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของห้างร้านต่างๆ ขณะที่ทองคำดีดขึ้นหลังดอลลาร์อ่อนค่า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 750,000 บาร์เรล ขณะที่สต๊อกเบนซินและน้ำมันกลั่น ซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ก็ลดลงเช่นกัน บ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลกอาจกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหนักในวันพุธ(11พ.ค.) จากแรงเทขายกลุ่มค้าปลีก ตามหลังเมซีส์ ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการ ซึ่งรื้อฟื้นความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเหล่าห้างร้านต่างๆ
ดาวโจนส์ ลดลง 217.23 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,711.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.93 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,064.46 จุด แนสแดค ลดลง 49.19 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,760.69 จุด
หุ้นของเมซีส์ ดิ่งลงถึง 15.2 เปอร์เซนต์ หลังปรับลดประมาณการณ์ผลประกอบการในปี 2016 ความเคลื่อนไหวนี้ฉุดให้ วอล-มาร์ต ปิดลบ 2.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเบสต์บาย, ทาร์เก็ต และนอร์ดสตรอม ต่างปิดลบ 4 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น ขณะที่ทั้งหมดมีกำหนดเผยแพร่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(11พ.ค.) ปิดบวกแข็งแกร่ง จากแรงหนุนของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,275.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 11:21:03 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 12:26:57 PM