Forex l หุ้น l การลงทุน l การซื้อขายออนไลน์ l ตลาดฟอร์เร็กซ์
		สอนเล่น forex / บทความหน้ารู้ => Stock market ความรู้เกี่ยวกับหุ้น => การประเมินผลการลงทุน => ข้อความที่เริ่มโดย: admin ที่ เมษายน 19, 2015, 08:38:18 PM
		
			
			- 
				การประเมินผลการลงทุน 
                เมื่อเราทำการซื้อขายหุ้นมาสักระยะหนึ่ง จะต้องมีการมาประเมินผลและปรับกลยุทธ์ ซึ่งความถี่ในการประเมินผลก็ขึ้นกับเวลาที่ท่านมี  หากท่านเป็นนักลงทุนระยะสั้น  ท่านอาจมีการประเมินผลทุก ๆ เย็นที่ตลาดปิด  แล้วปรับกลยุทธ์ที่จะนำไปเล่นในวันถัดไป  แต่อย่างไรก็ตามการประเมินผลในที่นี้  เราจะดูตั้งแต่ภาพใหญ่กันอีกสักครั้ง  เพราะการที่นักลงทุนใช้เวลาส่วนมากจดจ่ออยู่กับการซื้อขาย  จึงมักมองไม่เห็นภาพในมุมกว้าง  ไม่เห็นปัญหาและทิศทางในอนาคตอย่างชัดเจน จะรู้ก็แต่กระแสที่มาตามข่าว และเพื่อนในห้องค้าพูดกัน
                ในที่นี้เราขอแนะนำให้ท่านใช้เวลาวันหยุดสักเดือนละ 1 ครั้งมาพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาและภาพในอนาคต  เพื่อปรับกลยุทธ์ และรวบรวมการเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาอย่างมีระบบ  วิธีการประเมินก็คงจะคล้าย ๆ กับการวางแผน  แต่ตามหลักการขั้น Check  คือการตรวจสอบสิ่งที่
ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ
                ภาพของเศรษฐกิจจะมีการผันแปรอยู่ตลอดเวลา แม้การเปลี่ยนแปลงจะใช้เวลามาก และปัจจัยที่เปลี่ยนจะค่อย ๆ เปลี่ยนอย่างช้า เช่น เงินเฟ้อคงไม่กระโดด จาก 1% เป็น 6% ใน 1 เดือน แต่เราควรมาตรวจสอบดูว่าตอนนี้เศรษฐกิจเราอยู่ในสภาวะใด
เศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลง กลับไปกลับมาอยู่ 4 ขั้น ที่เราเรียกว่าวงจรเศรษฐกิจ นั่นคือ
1. ภาะเศรษฐกิจรุ่งเรือง (Boom หรือ prosperous)
          - การผลิตขยายตัวสูง
          - ระดับราคาโดยทั่วไปสูงขึ้นเนื่องจากมีความต้องการมาก
          - การว่าจ้างงานเพิ่มขึ้น จนแทบไม่มีใครว่างงาน
2. ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)
          - บริษัทต่าง ๆ แข่งขันกันติดตลาด
          - ระดับราคายังสูงอยู่ แต่บรรยากาศไม่เหมาะแก่การลงทุนเพิ่ม เนื่องจากได้ลงทุนไปมากแล้ว
          - การผลิตลดลง ธุรกิจขนาดเล็กอยู่ไม่ได้
           - การจ้างงานลดลง
3. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Depression)
           - การผลิตลดลงจนแทบจะเลิกผลิต
           - ระดับราคาโดยทั่วไปลดลง แต่การแข่งขันยังมีอยู่
           - การว่างงานอยู่ในระดับสูง
4. ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery)
           - ปริมาณสินค้าคงคลังที่เก็บตุนไว้ลดลง เริ่มมีการผลิตใหม่
           - ความต้องการสูงขึ้น เพราะคาดว่าสินค้าจะเริ่มขาดแคลน
           - เริ่มมีการจ้างแรงงานใหม่
           - ระดับราคาโดยทั่วไปเริ่มสูงขึ้นเพราะความต้องการเพิ่มขึ้น
                 หากเราหมั่นติดตามเศรษฐกิจเราจะรู้ว่า เศรษฐกิจของเราอยู่ในสภาวะใด และตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร โดยทั่วไปตลาดหุ้นคือ ดัชนีที่บ่งบอกอนาคตไม่ใช่ปัจจุบัน ดังนั้นหากเศรษฐกิจมีแววว่าจะดีขึ้นในอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี ข้างหน้า ดัชนีหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นก่อน