เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 06:02:57 AM
✔ กองทัพตุรกีส่งเครื่องบินเอฟ-16 ยิงโจมตีเครื่องบินรบ Su-24 ของรัสเซีย ที่บินเข้ามาในน่านฟ้าของตุรกี จนตกใกล้ชายแดนติดซีเรีย
✔ กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เครื่องบิน Su-24 ของรัสเซียโดนยิงตกในซีเรีย แต่เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งถูกส่งไปปฏิบัติการโจมตีกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิสในซีเรีย ไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของตุรกีและบินที่ระดับความสูง 6,000 เมตร
✔ เหตุการณ์ดูจะรุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า ตุรกีเป็นผู้สมรู้ร่วมกับผู้ก่อการร้ายและตั้งใจโจมตีเครื่องบิน Su-24 ของรัสเซีย และเตือนตุรกีว่า เหตุการณ์นี้ “very serious consequences” ต่อความสัมพันธ์ของตุรกีกับรัสเซียแน่นอน
✔ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่สมาชิกในกลุ่ม NATO ไปมีเรื่องกับรัสเซียทีเดียว
✔ ตุรกีเรียกประชุมสมาชิกกลุ่ม NATO ที่กรุงบรัสเซลวันนี้ทันที เพื่อกำหนดท่าทีต่อรัสเซียอีกครั้ง
ผลกระทบต่อตลาดทุน
▼ CAC40 ของฝรั่งเศสปรับตัวลบ -2% (หนักกว่าวันที่เกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมที่ปารีสเสียอีก)
▼ DAX ของเยอรมัน ลบอยู่ -1.76% รวมถึง FTSE ของอังกฤษ ก็ลบ -1.24% เช่นกัน
▼ Dow Jones Futures ติดลบ -130 จุด
▲ ทองดีดกลับขึ้นมาที่ $1,077 ทันที ขณะที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ $42.58
Mr.Messenger
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 06:23:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 06:25:08 AM
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,812.19 จุด เพิ่มขึ้น 19.51 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,102.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.33 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.14 จุด เพิ่มขึ้น 2.55 จุด หรือ +0.12%
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากเครื่องบินขับไล่ Su-24 ของรัสเซียถูกตุรกียิงตกลงใกล้ชายแดนซีเรียเมื่อวานนี้ เนื่องจากรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกี ขณะที่ทางการซีเรียมองว่า การที่ตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก ถือเป็นการก่ออาชญากรรม
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากข่าวเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกนั้น ได้หนุนราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จีทะยานขึ้น 5.5% และหุ้นมาราธอน ออยล์ คอร์ป พุ่งขึ้น 5.6% หุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอส ดีดขึ้นกว่า 2.5% และหุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ คอร์ปอเรชัน พุ่งขึ้น 3.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นนูคอร์ คอร์ป ปรับขึ้น 3.7% และหุ้นฟรีพอร์ท แมค-มอแรน ทะยานขึ้น 3.8%
หุ้นกลุ่มสายการบินยังคงถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ ร่วงลง 3% และหุ้นเดลตา แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.1%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ ขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบรายไตรมาส ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประเมินก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5% และสูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก อันเป็นผลมาจากการทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขสินค้าคงคลังในภาคเอกชน รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของการลงทุนในภาคการก่อสร้าง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนก.ย. เนื่องจากจากการที่ปริมาณบ้านที่เสนอขายในตลาดมีจำกัด ทำให้ผู้ซื้อต้องเสนอราคาเพิ่มขึ้น โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าระดับ 4.6% ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2306536
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 06:30:56 AM
ยัง แข็ง โป๊ก ...
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 09:24:37 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 02:41:59 PM
13.59 น. วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับการเคลื่อนไหวของ EU ในวันนี้ เป้าหมายการรีบาวน์ยังอยู่ที่ 1.07 หลังจากผ่านจุดเข้า Short เมื่อวันศุกร์และยังคงอยู่ในความเสี่ยงว่าจะไปได้ถึงหรือไม่ซึ่งจะรู้กันช่วงข่าวมะกันตอนสองทุ่มครึ่งและแว่วว่ารายใหญ่จะเล่น Spike ช่วงข่าว New Home Sales ตอนสี่ทุ่มหลังจากวันวานแห้วเนื่องจากตัวเลข Preliminary GDP ออกมาเท่าคาดเป๊ะเว่อร์ 2.1% จากเดิม 1.6 % ซึ่งรายละเอียดรออ่านในคลุกวงในข่าวอีกที
ทางเทคนิคระยะสั้นก็เป็นการรีบาวน์มีจุด TP1 ที่ ±1.0679, TP2=±1.0699, TP3=±1.07328 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะไปได้แค่ไหน
ส่วนระยะปานกลางถือว่าจบรอบขาลงของ Day แล้วการรีบาวน์ครั้งนี้น่าจะพยายามดึงให้มากที่สุดแต่ถ้าไม่ไหวก็อาจจะปล่อยทำนิวโลว์ของรอบได้ใหม่
ข่าวจาก NFP วันพุธกับเป้าใหญ่วันศุกร์ของสัปดาห์หน้า จะเป็นตัวช่วยดึงหรือกระทืบดัชนีได้ และจะแกว่งไปอย่างนี้จนกว่าการประชุม FOMC จะจบลงตามที่บอก
ปัจจัยเสี่ยงอีกอย่างคือการแย่งชิงทรัพยากรน้ำมันในลิเบีย ภูมิภาคตะวันออกกลาง จะทำให้ Forex ผันผวนไปตามการกระทบกันระหว่างรัสเซียและประเทศพันธมิตรนาโต้ที่มีมะกันหนุนอยู่ด้านหลัง
วันพฤหัสคืนนี้ต่อเนื่องศุกร์ก็เป็นวันหยุดสหรัฐจากวัน Thank giving Day ดังนั้นน่าจะมีการทิ้งทวนได้
เครดิต : Technical สำหรับตลาด Forex
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 25, 2015, 02:43:34 PM
