เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 03, 2017, 08:36:38 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 03, 2017, 09:17:36 PM
นอนฟารม ปิดโอกาศ การขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ไปแล้ว ที่เราต้องติดตามคือ ในอีกสองสัปดา เฟด จะออกมาแจ้งนโยบาย อะไร ในเมื่อ ดอกเบี้ยนั้นแถบจพหมดโอกาสไปแล้ว...
หาก นักลงทุน มองภาพ แบบนี้ จะทำให้ดอลล่า เป็นขาลง และ นี้เป็น โอกาสที่ ทางยุโรป ซึ่งมีสภาพเสดกิจที่ดีมาก จะมีการออกมาชี้แนวทางอนาคตและ นโยบายสนับสนุนเสดกิจ ......เพื้อ ตีเมกา
ในวันอังคาร จะเป็น rba การขึ้นดอกเบี้ย ของ ออสเตเรีย ซึ่งพอมอง ภาพกว้างแล้ว โอกาส ที่จะ คงดอกเบี้ยต่อไปมีสูง เพราะ หนี้หัวบานเป็นจานดาวเทียนอยู่เลย ถ้าขึ้นดอก ตอนนี้ พังทันที ....และ เป็น แนวทาที่ างธนาคาร ประกาศไว้
ในวันพุธ เป็นวันที่มี ข่าว จีดีพี ของ อียู ออกมา และ ของญี่ปุ่นเช่นกัน เป็นวัน ที่ไม่ดีมากๆ สำหรับ เมกา แต่ พอเข้า ช่วงตลาดเมกา จะมีข่าวของการส่งออกนำเข้าและการขาดดุลของออสเตเรีย แต่ข่าวนั้นเป็นแค
่การย่อกราฟ เท่านั้น หาก เทียบกับ ค่าเงินหลัก แล้ว ออสเตเรีย ยังออ่นอยู่มาก
วันพฤหัส มีข่าวที่น่าจับตามองมากคือ ecb ธนาคารกลาง ยุโรป ...จะเปฯกรตัดสินใจเรื่อง ดอกเบี้ย...ดราฮี ลดอัตราเงินเฟ้อ เมื่อ เดือนที่แล้ว และนั้น ทำให้ เสดกิจ ตัวเลข ตางดู ดี มีบ้างตัวที่หดตัวล อย่าง ขายปลีก ที่หด ลง จาก'0.2% ไป -0.2% การขึ้น อัตราดอกเบี้ย ปัจจัยหลัก คือ เงินเฟ้อ ต้องมากกว่า2% แต่ ดราฮี ประกาศลดเมื่อคร่าวที่แล้ว
เลย ควรจับตาดูว่า ธนาคารกลางจะตัดสินใจอย่างไรในเรื่ิงนี้
ส่วนในความคิด ลึกๆ ตัวเลข เอื้อมากที่จะขึ้น...แค่ เงินเฟ้อตัวเดียว ต้องจับตาดู
วันศุก ข่าว อังกริด เยอะ อยู แต่อาทิตนี้ เดาว่า ข่าวการเลือกตั้งจะมีผลมากกว่าข่าวเสดกิจ ควรจับตาการเลือกตั้งดีกว่า
ผมยังไม่ได้เจาะข้อมูลลงไป เดียวจะส่งข้อมูลให้ ทีหลัง
cr setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 03, 2017, 10:00:17 PM
เดือนที่ผ่านมา มี คนเกษียน อายุ เยอะมาก จริงๆ ชักน่าหวง
ผม มาย้อนดู สามเดือนที่ ผ่านมา ตัวเลข การส่งออก อยู่ในเกณดี เกินดุลมา สามเดือนแล้ว แม้ตัวเลขจะไม่คงที่ แต่ ถือว่าดี
เลยมาดู ที่ หนี้ ต่อหัว เห่อๆ จะสูงไปไหน สูงสุดในรอบสี่เดือนเลย
รายได้ ก็ไม่ เพิ่มขึ้น ดัน คงตัวอีก 1.9% มาตั้งแต่ มกราคม
จะเอาที่ไหนมาจ่ายหนี้กันเนี่ย ....... มาดูที่ ยอดขายบ้าน .....เอ่อ สูงมาระเบียบ แต่ การสร้างบ้าน......การก่อสร้าง....ต่ำ
ออสเตเรีย
อัตราเงิน มาที่2.1%แล้ว.....อยากรู้ ว่า ออสเตเรียจะทำยังไง
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 03, 2017, 10:24:38 PM
.gif)
ขอบคุณมากครับท่านที 
เจ๋งเลย .gif)
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ มิถุนายน 04, 2017, 12:34:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 04, 2017, 08:33:42 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 08:55:17 AM
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 04, 2017, 09:22:47 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 09:33:22 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 04, 2017, 01:31:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 02:25:59 PM
อังกริด ตาย หก
คร่าวก่อน มีระเบิด ต่อ มา ไวรัสไซเบอ คราวนี้ พยายามจะระเบิด
จงใจไปนะ ไม่เนียล
วันอาทิต นี้วัน ก้อการร้าย แห่งชาติรึไง เห่ออออ
Cr.setsiti
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 02:30:11 PM
ในแต่ละวันเมื่อมีข่าว forex เกี่ยวกับ CNY ออกมาจะมีผลต่อ AUD เสมอ
- จีนคือประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของออสเตรเลีย โดยจีนนำเข้าวัตถุดิบและพลังงานเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติและอื่นๆ อีกมากมาย ออสเตรเลียพยายามพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศจีนมากขึ้นเรื่อยๆ การผลักดันให้ดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD เป็นสกุลเงินที่สามารถซื้อขายโดยตรงกับเงินหยวน CNY การค้าสองทางระหว่างจีนและออสเตีรเลีย มีวงเงินสูงกว่า 100 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ( ข้อมูลปี 2010 )ด้วยเหตุผลนี้ เศษฐกิจของออสเตีรเลียมีแนวโน้มเคลื่อนตัวควบคู่ ไปพร้อมกับเศษฐกิจของจีน
เมื่อจีนรายงานตัวเลขที่ดีในดัชนีภาคการจัดซื้อการผลิต PMI,ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ GDP,ดุลการค้า Trade Balance/ค่าเงินของออสเตีรเลียจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตาม
จีนบวก ออสเตรเลียบวก
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 04, 2017, 03:00:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 03:58:39 PM
เกิดเหตุระเบิดที่ศูนย์จตุรัสเมืองตูรินของอิตาลี ท่ามกลางแฟนบอลยูเวนตุส นับแสนคน กำลังเชียร์ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 600 คน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 04, 2017, 04:15:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 10:41:26 PM
เป็นข่าวใหญ่เลย 5555
EURNZD Evening Star Sell
EURCHF Engulfing Bearish Sell
GBPAUD Engulfing Bearish Sell
GBPCHF Engulfing Bearish Sell
GBPJPY Engulfing Bearish Sell
GBPNZD Engulfing Bearish Sell
USDCAD Engulfing Bearish Sell
USDJPY Engulfing Bearish Sell
XAUUSD Engulfing Bullish Buy
ไปดูดมา
อังกริด อยู่ ภาวะ ก่อการร้าย การเมืองไร้ผู้นำ เสดกิจ ออ่นลง
อังกริด ขาลง แต่ อย่าประมาท ในวันที่ แปดนะ
อี แกร่งและ สงบ ไม่มีข่าว อะไรออกมาในเสา อาทิต มีข่าว ลบ อังกริด มาหนัก ต้องดู ช่วงตลาด ยุโรปเปิด ว่านักลงทุนจะโยกเงิน เข้าวันจันเลยไหม ถ้า เข้าสบายเลย
ดอลล่า อาทิตนี้ หาก มอง แค่ เสดกิจ รายสัปดา ยังเป็นขาลง
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2017, 10:57:30 PM
เสดกิจ ตลาดแรงงาน ำไหลตามนโยบาย ธนาคารกลางต้องพอใจแน่
บวกกับภาวะ ดอลล่าออ่นตัวอาทิตนี้
ค่าเงิน ที่ ผม สนใจ eurxxxยังเลือกๆอยู่ กับ usdjpy และ เกาะขาเทพๆ ผม ต้องการ แรงกระฉาก160จุด วันละ ครั้งเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่มัก บังเอิญไปไกลกว่าที่ต้องการ เอิ่กๆ
**ส่งการบ้าน ทำรายงาน ส่งวันนี้ เรื่อง สถานการ สัปดาหน้า
--->ทำการวิเคราะ แนวโน้ม เลือกมา สามข่าวที่ว่ามั่นใจว่า ควรเข้าออเดอไหมในช่วงเวลานั่น
ข่าวที่น่าจะเล่นได้
1. ข่าวนำ้มันคงคลังเมกา ที่จะออกวันพุธ ตอน สามทุ่มครึ่ง โดยจากการที่เสดกิดภาคการผลิตของเมกาตอนนี้กำลังดีก็เลยคาดว่าอาทิตนี้นำ้มันคงคลังน่าจะออกมาเข้าทางเมกา อีก ถ้าเปนงั้นจริงก็ให้ buy ได้ เพราะเป็นข่าวที่มีความรุนแรงสูงมาก
2. ข่าว อัตราการว่างงาน ของเมกา ตอนวันพฤหัส ทุ่มครึ่ง คาดว่า buy ได้สบายๆ เพราะอัตราว่างงานลดลงเรื่อยๆในห้าเดือนที่ผ่านมา แม้สัปดาที่ผ่านมาจะมีเพิ่มขึ้นไปแปดพันคน แต่ก็ถือได้ว่าไม่ค่อยส่งผลกับกราฟสักเท่าไหร่
3. ข่าวภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะทำให้กราฟ buy ได้ เพราะข่าวญี่ปุ่นที่ออกมาเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมตลอดสองสามอาทิตที่ผ่านมาก็ทำให้กราฟ buy หมด
***แต่สาเหตุที่กราฟเปนเทรนลง หลักๆมาจากเสดกิดของเมกา เอง บวกกับเปนกลไกของตลาดที่มีขึ้นก็ต้องมีลง****
***การวิเคราะห์นี้เป็นการเล่นสั้นๆในช่วงข่าวเพราะยังไงเทรนใหญ่ตอนนี้ก็เป็นเทรนลง***
-------####-------
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 05, 2017, 09:23:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 05, 2017, 09:36:02 AM
ขอขอบคุณครับท่านที เจ๋งจริง
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 05, 2017, 11:39:54 AM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ มิถุนายน 05, 2017, 02:48:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 05, 2017, 10:08:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 05, 2017, 10:20:59 PM
พรุ้งนี้เช้าเจอกัน .gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 06, 2017, 09:55:01 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 06, 2017, 10:16:23 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 06, 2017, 05:46:10 PM
ดูจาก ขนาดแล้ว โปรเจ้ค นี้ สร้างงาน หลาย พันตำแหน่ง นำเงินเข้าระบบเสดกิจ ได้ พอสมควรเลย
ส่งผล ต่อ ตัวเลข ออสเตเรีย แต่ คงยังไม่มากเท่าไหร่
ในวันพฤหัส โคบี่ จะมา เรื่องทรัม ให้ระวัง ดอลล่าด้วย เพราะ ลมา ต่ำแล้ว
สิ่งที่เรียนรู้ ในวันจัน น่าสนใจมาก
แม้ว่า สาย อี จะ แกร่งมาก แต่ด้วยว่าไม่มีข่าวในเสา อาทิตย์ ที่ผ่านมา ทำให้ ผมไม่สามารถออกไม้อย่างที่ตั้งใจไว้ในวันจัน
และ รายวัน จะมีข่าว ที่รุนแรง สอง ในตาราง คือ ธนาคารกลางยุโรป และ การเลือกตึ้ง อังกริด ซึ่งเกิดใน ช่วงเวลาเดียวกัน
ทำให้ เห็นการลากกราฟแบบผิดปกติ ในวันจันทร์
cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 06, 2017, 05:52:30 PM
ขอบคุณครับท่านที ขอมูลแน่นจริง ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 06, 2017, 06:00:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 06, 2017, 06:54:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 08:59:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:38:11 AM
**ส่งการบ้าน6/6**
--->จากที่เมื่อวานบอกไปว่ากราฟ มันย้อนขึ้นไปเพราะข่าว ละยังไงก็ต้องย้อนลงมาแน่นอน สรุปแล้วกราฟเมื่อวาน จบลง ที่การมีจุดเปิดปิด ต่างกัน เพียง ร้อยจุด แม้จะเปนแท่งเขียวก็ตาม แต่ก็เนื้อน้อยมากๆ ทั้งๆที่เพราะแรงข่าวพาขึ้นไปถึง 500 จุด และอย่างที่บอกว่า เทรนลงตอนนี้แข็งแรงมากประกอบกับเมื่อคืนมีข่าวก่อการร้าย ที่ฟอลริด้า ก็เป็นการทำให้กราฟ ทุบลงมา ถึง 1000 กว่าจุดในวันนี้วันเดียว โดยนอกจากแรงข่าวก่อการร้ายแล้วก็ไม่มีข่าวอะไรอีกเลย เพราะเื่อวานตอนส่งการบ้านไป ข่าวออกหมดแล้ว แสดงว่ากราฟวิ่งจากเทรน และแรงข่าว ก่อการร้ายนี้ล้วนๆ
------####------
cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:43:32 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:45:46 AM
ขอบคุณครับท่านที รอผลเลือกตั้งอังกฤษพรุ้งนี้ เทเลซาเม จะมาเป็น ปนธ.ต่อได้หรือป่าว (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/018.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/018.gif)ผลโพลล์น่าจะนำอยู่ครับ น่าจะได้อีก
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:55:04 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:31:25 PM
มาเป็น นอมินี....หน้าม้ามานั่งตำแหน่ง หัวหน้าเอฟบีไอ
Oecd คาดการว่า เสดกิจโลก จะ ดีที่สุดในรอบหกปีที่ผ่านมา
แต่ ลดเกรดของเมกา ลง เพราะ นโยบาย ลดค่าเงิน และการตัดภาษี ของทรัม ลง
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:43:13 PM
ในวันพรุ่งนี้ 8 มิ.ย จะเริ่มตั้งแต่ปิดหีบ ดังนี้ :-
04.00น. (ศุกร์ที่ 9)
อังกฤษจะปิดโหวตการลงคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป รวมทั้งจะเริ่มเผย Exit Poll ออกมา ซึ่งจากผลสำรวจเบื้องต้น แสดงให้เห็นว่า พรรคอนุรักษ์นิยมยังคงมีคะแนนนำอยู่
05.00น.
ประกาศผลการลงคะแนนในเมือง Sunderland & Houghton เป็นเขตแรก
07.30น.
เริ่มทราบผลคะแนนเสียงส่วนใหญ่
08.00น.
ทราบผลคะแนนส่วนใหญ่ประมาณ 33 เขตเลือกตั้ง
08.30น.
คาดว่าพรรคแรงงานจะได้รับเสียงส่วนใหญ่ประมาณ 93 เสียงในรัฐเชสเตอร์
13.00น.
ทราบผลอย่างเป็นทางการ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:48:22 PM
ป้าเมย์ แพ้ มม.นลท.อานเป็น- ต่อ EUR GBP CHF
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 07, 2017, 09:53:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 09, 2017, 10:00:10 PM
---->สรุป ยูเจ ในวันนี้ถ้าวิเคราะห์จากธรรมชาติของกราฟยูเจที่ทำๆมาตลอดสองสามสัปดาที่ผ่านมาตลอดก็จะเห็ฯว่าวันที่เกิดการกลับเทรนมากที่สุดก็มักจะเป็นวันพุธ หรือวันพฤหัส ซึ่งอาทิตนี้ก็ไม่ได้ต่างไป เพราะพอเมื่อวานมันเริ่มกลับเทรนขึ้นวันนี้ขนาดช่าวภาคการผลิตในไตรมาศที่สามของญป ตัวเลขออกมาดีกว่าาดการณ์ ก็ไม่สามารถเอาชนะแรงข่าวเมื่อวานของเมกาได้ทำให้กราฟวันนี้ค่อนข้างจะขึ้นเรื่อยๆและถ้าถามก็คิดว่าสัปดาหน้าน่าจะขึ้นยาวๆเพราะช่วงหลังๆมานี้กราฟลงมาเยอะมากๆ ดังนั้น น่าจะข้นไปได้ไกลเหมือกันถ้าสภาพเศรษฐกิจของเมกาดูดีต่อจากที่ทิ้งท้ายไว้ในสัปดานี้สัปดาหน้าก็น่าจะ buy ยาวๆได้อยู่
-----####-----
ข่าวที่วิเคราะห์มะวันอาทิตย์ ถูกวันนึงคือวันพฤหัสฯมาลุ้นว่าวันนี้จาถูกมั้ย
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 09, 2017, 10:11:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 08:25:40 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 12, 2017, 08:51:01 AM
รอ ๆ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 09:06:08 AM
ข่าว อียู เข้าไป จับมือ แม้กซิโก้ ทำ nafta ประกาศตัว สู้ นโยบาย ทรัม ชัดๆ
อียู ...นำโดยเยอรมัน
ข่าว ทางอังกริด คือ การที่ อังกริด จำเป็น เข้าไปคุยกับ อียู ในข้อตกลงต่างๆ ภาพการเมืองที่ออกมา พรรคแรงงาน ถือว่าชนะ เพราะ เขาไม่ต้องการให้ มีการผูกขาดทางการเมือง นั้นเป็นเป้าแต่แรก เห่อออออ....
งานนี้ ป้าต้องเดินหน้า เข้าไปคุย กับพรรคแรงงานแน่นอน วนัสองวันนี้
ป้า แก เอาแน่ รอดู พรุ่งนี้
Jp morgan ตัวท้อปด้าน คาดการ ตลาดเมกา พลิกกลับมา เทรน ขาขึ้น......ณ ตอนนี้ ....
สอด คล่องกับ ที่เฟด พูดไว้เมื่อ สองสัปดาก่อนว่าจะ รอดูตัว้ลขและจะตัดสินใจ
Jp morgan แจ้งว่าให้ ให้ ระวัง หุ้น กลุ่ม ไซเบอ ที่สูง มากเกินจริง และ treasury. ที่กำลังทำไฮ แล้จะทุบ....ส่วนนี้ เป็นส่วนอนาคต ผมต้องใช้เวลาหารายละเอียดก่อน
ตอนนี้ เมกาต้องการข้อมูลที่มีแรงมากพอจะดึง เทรนขึ้นมา หากไม่มี เข้ามาเมกาจะ เปลี่ยนเทรนกลับ เป็นขาลง นี้เป็นบทวิเคราะ ทุกเจ้าที่มองมา
แนวโน้ม บ้าน ใน เดือนนี้ ของเมกา มีการเปลี่ยนแปลง ที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาบ้่านเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ รายได้ ไม่เพิ่มตามเท่าที่ควร และ ช่วงนี้คือ ซัมเมอร์ ฤดูเที่ยวของเมกา
ยอดขายบ้าน น่าเป็นห่วง
ผมจะเรียบเรียงให้ อีกทีนะครับ รวบรวมข้อมูลสำคัญ
วันที่ 13 จะมีการให้การ เจฟ จากกระทรวงยุติธรรม
เรื่องทรัม
วัน ตลาด เวลา น่าจะนิ่ง รอการให้การ กระแสเงินจะ พุ่งไปที่ ทอง กับ ดอลล่า
ในวันที่ 13 อันตราย แต่ เป็นวันดี สำหรับ หาตำแหน่ง สำหรับ 14-15
อังดริด
สถานการของ อังกริด นะตอนนี้ อยู่ในจุดต่ำสุดในสามเดือน แล้ว แต่ยังลงได้ เพราะ ตัวแปรมาจาก คาเมริน ที่ชนะพนันในการเลือกตั้ง ทำให้ ป้า ตกที่นั่งลำบากในการเจรจา กับ อียู ในอีก เก้าวัน.. ป้า เดินเกมเข้าไปคุย กับ ไอแลน ...เดียวก็ ต้องไล่คุยจนหมด
สถานการ ทางการเมือง อังกริดควรผ่านไปได้แบบประณีประณอม เพราะคาเมรอนพรรคแรงงานไม่ได้อย่าจะออกจากอียูเท่าไหร่ นัก .....ออกก็ได้ ไม่ออกก็ได้ ..... การเมือง เกรด C
พอมาดู ภาพเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ สูงที่สุดในรอด สามปี....เงินลงทุนจากต่างประเทศ หดตัวลง จากสถานการณ การออกจาก อียู อังกริด เอ้ย มุ่งหน้าสู่การเป็นเทรนขาลง
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 09:09:09 AM
ช่วง
ตลาดช่วงบ่าย อียู ทำ สัญญาการค้ากับแม็กซิโก และ การเลือกตั้งสภาขิงฝรั่งเศล เิมมานูเอลได้เสียข้างมาก ไปในวันเสา มาเคล..เยอรมันออกปาก จะสู้กัการกีดกันทางการค้า เพื่อเปิดเสรีทางการค้า
ดูน่าพอใจ สายEuR เป็นตัวที่น่าสนใจ หากจะเข้า ผม รอดดูท่าที ช่วง ตลาด อียู เปิดสักครึ่งชั่วโมง
สายอังกริด ป้า เม เจอศึก ทั้งภายนอก จาก พรรคแรงงาน ที่ลดทอนอำนาจเด็ดขาดของแก ออกมาเป็น เท่าเทียม ....
ตลาดเมกา ให้ จับตาดู การออกมาให้การของ ของฝ่ายยุติธรรม... โดยพื้นฐาน เมกากำลัง ทำเทรนขึ้น จาก แรงข่าว ที่ ออกมาแบบว่า...เยอะไปป่ะ ออกมาเยอะแบบนี้ ไม่ประกาศไปเลย ตูจะบินโว้ย แต่จะต้องกิน รายย่อย ช่วงตลาดเช้าและ บ่าย ที่ ออกไม้บายรอ ก่อน
สรุป วันจัน เท่าที่เข้าใจนะครับ
Eur น่า บาย รอ ตลาดเปิด รอ กราฟ ทำพีเอหน้าบาย
Gbp. รับบท ลูกเมียน้อย ยังงง มึนๆ แต่ แรง บายขึ้น น่าจะยาก หาก จับกับค่าเงินหลัก
ดอลล่า น่าจะรอ ตอน ตลาด เมกา เปิด แล้วรอ กราฟ ขาขึ้น
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 09:58:28 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 12, 2017, 10:07:46 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 12, 2017, 10:44:30 AM
วันจันทร์ ช่วง ตลาดช่วงบ่าย อียู ทำ สัญญาการค้ากับแม็กซิโก และ การเลือกตั้งสภาขิงฝรั่งเศล เิมมานูเอลได้เสียข้างมาก ไปในวันเสา มาเคล..เยอรมันออกปาก จะสู้กัการกีดกันทางการค้า เพื่อเปิดเสรีทางการค้า ดูน่าพอใจ สายEuR เป็นตัวที่น่าสนใจ หากจะเข้า ผม รอดดูท่าที ช่วง ตลาด อียู เปิดสักครึ่งชั่วโมง สายอังกริด ป้า เม เจอศึก ทั้งภายนอก จาก พรรคแรงงาน ที่ลดทอนอำนาจเด็ดขาดของแก ออกมาเป็น เท่าเทียม .... ตลาดเมกา ให้ จับตาดู การออกมาให้การของ ของฝ่ายยุติธรรม... โดยพื้นฐาน เมกากำลัง ทำเทรนขึ้น จาก แรงข่าว ที่ ออกมาแบบว่า...เยอะไปป่ะ ออกมาเยอะแบบนี้ ไม่ประกาศไปเลย ตูจะบินโว้ย แต่จะต้องกิน รายย่อย ช่วงตลาดเช้าและ บ่าย ที่ ออกไม้บายรอ ก่อน สรุป วันจัน เท่าที่เข้าใจนะครับ
Eur น่า บาย รอ ตลาดเปิด รอ กราฟ ทำพีเอหน้าบาย
Gbp. รับบท ลูกเมียน้อย ยังงง มึนๆ แต่ แรง บายขึ้น น่าจะยาก หาก จับกับค่าเงินหลัก ดอลล่า น่าจะรอ ตอน ตลาด เมกา เปิด แล้วรอ กราฟ ขาขึ้น Cr.setsiri
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 12, 2017, 11:56:54 AM
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 01:53:04 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 12, 2017, 03:32:55 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2017, 03:38:15 PM
ขอบคุณครับบังที Cat1.gifAT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 12, 2017, 04:19:38 PM
เด็กใต้เยอะนะ .gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 12, 2017, 05:02:04 PM
(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)เด็กใต้เยอะนะ (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(19).gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(19).gif)ผมเด็กกรุงเทพนะ แต่ไปโตที่ใต้ ถิ่นฐานบ้านเดิม ตรอกสุเหร่าบางลำภู m:16
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 12, 2017, 05:04:25 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2017, 09:18:17 PM
ตัวเลข เศรษฐกิจ ไม่ค่อยเข้ากันการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่เลย ยอดขายบ้าน ร่วงมาในรอบสามเดือน
อย่างชัดเจน ยอดขายปลีก ร่วงลงมาที่-0.3 จาก 0.4% ....ส่งผลดีต่อคนซื้อในอนาคตเพราะราคาบ้านลดลงแล้วแน่นอน
อันนี้ของเดือนนี้ จะเห็นได้ว่า คนลดการใช้จ่ายลงไป ค่อนข้างเยอะ แต่พอมาดู เรื่องหนี้รายย่อยจะเห็นว่า กราฟพุ่งไปเป็นแท่งเลย การออมเงินต่ำลงมาก และหนีู้้บริโภคลดลงได้ดีมาก
จะเห็นว่าการใช้จ่ายของคนอเมริกา เอาเงินไปจ่ายหนี้กันมากในกลางปีนี้ คำถามเอาเงินไปทำอะไร
ไปซื้อ รถ ยอดจดทะเบียนรถขึ้น 569 จาก502
ภาคโรงงาน ออกมา แย่กว่าที่คิด แต่
การผลิดมองภาพ 6เดือนที่ผ่านมา ถือว่าดูดีที่เดียว ขยายออกมา ภาพปี ถือว่าทรัมทำได้ไม่เลว
ออเดอการผลิด NEW ORDER ในเดือนที่ผ่านมา หดตัวลง เมื่อดูแล้ว น่าจะเกิดจาก ทรัมเองในสถานการทางการเมือง
เรื่องถ่านโครงหารถ่านหินของทรัมที่กำลังจะออกดอกดออกผล ต้องดูว่าจะมีผล ต่อตุวเลขการผลิดมากน้อยแค่ไหน ที่แน่ๆ มีผลต่อการจ้างงานไปแล้ว
มาดูที่ตัวเลข สำคัญ ขอฃ อเมริกา
GDP YOY 2.0% GDP QoQ1.20% ดอกเบี้ย 1.25% เงินเฟ้อที่ 1.90%
ตัวเลข คนตกงานลงมาที่4.3% มาที่จุดที่ต้องการ....สามารถลฃต่ำกว่านี้ได้อีก เพราะ โครงหารจ้างงานออกมาเยอะมาก
ข่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวดอกเบี้ยดึงหราฟ ดอลล่าได้ดีมากกว่า อย่างที่ปากเคยรับปากว่าจะสร้างเทรนในอีกสามอาทิตย์ และแกทำจริงๆ มันไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ย
ต่อไปต้องรอดู FOMC จะออกมาพูดอะไรต่อ ในวันจันทร์ 19.00 ไม่น่าจะมีผลอะไร มากมาย 100 จุดก็ถือว่ามากแล้ว
ที่รู้ๆ ตัวเลขที่ผ่านมา ไม่สวยเท่าไหร่ และส่วนใหญ่ DUdley มักเห็นด้วยกับ Yellen
ข่าวที่ไม่น่ามองข้ามคือ การที่ทรัมไปจับมือกับคิวบา แน่นอน คิวบาต้องเสียเปรียบแน่นอน อเมริกาได้ประโยชน์ รอดู USD ช่วง ตลาดเปิดในวันจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2017, 09:20:34 PM
JPY
ธนาคารญี่ปุ่น ออกมา คงดอกเบี้ย ไว้ที่เดิม เพื่อ มุ่งเป้าหมายหลัก คือ 2018 ...ปีหน้าเลย
มองดูภาพรวม มการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้นในตลาดหุ้น เป็นเรื่องที่ดีมาก
ราคาสินค้านำเข้า ต่ำกว่าสินค้าส่งออก พอสมควรไม่มากนัก
มีการเกินดุลมากสามเดือนติดแล้วแต่ดูกราฟเป็นลุกษณะเทรนลงนิดๆ ตลาดแรงงานดูดีขึ้นมา มีการจ้างงาน เต็มเวลาสูงขึ้น
ภาคอุตสาหกรรมการผลิตสูงขึ้นมาก ต้นทุนกลุ่มที่ไม่ใช่โรงงานสูงขึ้นถือว่าดี มองว่าการจัดการใช้ได้
คนญี่ป่นุมีการ ใช้จ่ายกันมากขึ้น กว่าไตรมาสที่ผ่านมา แสดงว่า เริ่มมีเงินไหลเวียนในตลาดมากขึ้นแล้ว
การออมเงินลดลง พอตัว แสดงว่าความมั่นใจผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น คนญี่ป่นุไม่ซื้อสินค้าของใช้ในบ้านกลายเป็นเรื่องปกติกราฟต่ำมากเป็นค่าคงที่เลย เอิ่กๆ แสดงว่าเอาเงินไปใช้เที่ยวเยอะช้อปป้ิงเยอะ
ยอดขายบ้านไม่ดีข้อมูลสอดคล้องกัน
ความมัน่ใจในภาคธหุรกิจ ดีวันดีคืน แสดงว่า นโยบายที่เดินอยู่ใช้ได้ดี ดันส่งออก คงค่าเงิน คงดอกเบี้ย ดัน เงินเฟ้อไปที่2018
ข่าว
ชินโสะ อาเบะ ใช้อำนาจ เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง งานงอกเลย คนญี่ปุ่น ถือเรื่องนี้กันด้วยไม่เหมือนคนไทย..เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก การเมืองเริ่มมีปัญหา ละ
และอีกข่าวที่ทาง ตะวันตกยังไม่ลง คือ วันที8 เดือนหน้า ญี่ปุ่่นจะลง FTA กัน EU
วันอังคาร 19.50 หากว่าการส่งออกยังคงบวกนำต่อไป เรื่องนโยบายการเงิน คงที่ต่อไปในทางบวก ด้วยปัจจัยพื้่นฐานคือ ตลาดแรงงานกำลังดีดตัวขึ้น การคงนโยบายการเงินและเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนจะเป็นผลดีค่าเงินเยน แต่ไม่คิดว่าจะแรงมากมาย 50-200 น่าจะได้ ที่สำคัญนักลงทุนต่างรู้แล้วว่าคุโรดะ กำลังเร่งตลาดแรงงาน และนโยบานลดดอกเบี้ยนี้เหมาะสมกับญี่ปุ่น
ความเสี่ยง
ด้านการเมือง กำลังมีปัญหาใหญ่ ตอนนี้
ด้านเศรษฐกิจ ดูดีขึ้นแต่ไม่น่าจะสู้ ดอลล่า ยูโร ออสเตเรีย นิวซีแลนได้ นโยบายการเงินกำลังไปได้ดี
ด้านสงคราม ยังไม่ชัดเจนกับท่าที เกาหลีเหนือตอนนี้ รอดูว่าญี่ปุ่นจะทำอะไรไหม หรือ อเมริกาจะพูดอะไรไหม ไปโดนใจเกาหลี
JPY ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ยกเว้นช่วงข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2017, 09:23:20 PM
GBP
ภาพตลาดแรงงาน เรื่องกำลังแรงงาน นี้ไปในทางบวก แต่ เรื่องรายได้ของแรงงานนั้นลดลงมากเกินไป ทั้งกลุ่มที่มีทักษะและกลุ่มที่มีทักษะระดับสูง
ทั้งๆที่ต้นทุนแรงงานคงที่ ตำแหน่งงานใหม่ลดลง แต่ดูแล้วเหมือนกำลังจะคงที่ที่ 770-767
อัตราเงินเฟ้อ โคตรมหาเฟ้อ 2.9% .... จะปล่อยแบบนี้เหรอ BOE ? 3 ใน 5 โหวต คงดอกเบี้ย..กำลังรอตัวเลข ในด้านการผลิต
--ผลมาจาก ดัชนีผู้บริโภค ที่ 103 สูงที่สุดในรอบสิบสองเดือน เพียบกับปีที่แล้ว 100.6
--ความมั่นใจผู้บริโภค สูงที่สุด ในรอบปี -5 จาก -12
--Consumer Spending การจับจ่าย....สูงที่สุดในรอบปี ตัวเลขตามๆกันไป แน่อนต้องเพิ่มเพราะ ค่าของเงินลดลง
--ยอดการสร้างบ้านไตรมาสที่แล้วเพิ่มขึ้น แบบว่าน่าตกใจเลย เมื่อมองภาพรวม....เงินมีไม่มาก แต่ยังจะออกบ้านกันอีก ส่งผลเลย การยอดการก่อสร้างติด-0.6% จาก 4.3%
หนี้ผู้บริโภค กด ตัวลงมา ราว50% ถือว่าดี ทีเดียว แน่นอน เงินออมต่ำมากอยู่แล้ว ช้อปกระจายขนาดนั้น
ส่งผลต่อ GDP คร่าวหน้าไปในทาง ลบ และ HOUSE HOLD ก็เช่นกัน
ข่าว
อังกฤษโดนวิบากกรรมร้อยแปด ด้าน อียูออกมายำ เยอะมาก ออกมา ขู่ บ้างว่า การออกจากอียู จะ เป็น แบบอังกฤษ ส่วนตัวน่าแปลกมาก ที่มีสภาวะการก่อการร้าย สามอาทิตย์ติดๆกันเลย
แนวโน้มหากผมเป็นนักลงทุน คงยังไม่พร้อมจะ ลงเงินกัน GBP เพราะ ยังไม่นิ่งเลย
เหตุการสำคัญที่น่าจะพลิกเกมได้ คือการเจรจาระหว่างอังกฤษกับ อียูในวันจันท์ 19 นี้
จะเสร็จราวๆ 17.30 - 18.30ตามเวลาบ้านเขา ไม่ง่ายๆเลย
ความต้องการของอังกฤษคือ การเป็นคู่ค้าทางการเงินที่แกร่งกับอียู นี้คือความต้องการสูงสุด แต่ สวิสเซอแลน เป็น เจ้าพ่อด้านการเงินในทางยุโรป อียูไม่สามารถ ให้อังกฤษข้ามหน้าข้ามตาได้แน่อน สิ่งที่หวังได้คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กันพวกธนาคารที่เคยอพยพพนักงานออกจากอังกฤษไป ขอแค่ดึงคนกลับเข้าอังกฤษได้ ทิศทางก็จะบวกทันที
ความเสียง
การเมือง ได้ผู้นำมาแล้ว แต่ความกังวลเรื่องการเจรจากัน อียู จะเป็นตัวสำคัญมากต่ออนาคต
ด้านเศษฐกิจ ตัวเลขไม่ดี นักธุรกิจ แนะให้ ป้าเม คิดใหม่ เรื่อง Brixt
แต่มี ผลบวก จาก AMAZON ที่ทุ่มเงินซื้อ WHOLE FOOD MARKET
สงคราม โดนเป็นชุด ๆ
GBP ไปในทาง ลบ
แนวโน้มรอ การเจรจา ซึ่งน่าจะออกเป็นทิศทางที่บวก ช่วงเวลาที่น่าสนใจคือ ตลาดอเมริกาเปิด เพราะเป็นเวลาที่การเจรจาเสร็จสิ้นในรอบแรก แต่มองแล้วยังเป็นขาลง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2017, 09:26:14 PM
อียู
การเติบโต ของ GDP เพิ่มขึ้นที่มา2ไตรมาส 0.6% จาก 0.5%
เงินเฟ้อ ค่อนข้างตำ่กว่าเป้า ตอนนี้อยู่ที่1.4%
เกินดุลย์ มาตลอด ตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าจะลดลงมากกว่า ครั้งที่แล้ว50% น่าแปลกใจ?
รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นมาก แต่รายได้ การเติบโต อยู่ที่1.4% ลดลงนิดเดียวจาก 1.6% ในไตรมาสนี้ มองภาพ4ไตรมาสที่ภาพมา ถือว่าเพิ่มขึ้นมาก ตัวเลขวิ่งที่ 1.4 - 1.6
ประชากรเพิ่มขึ้นมาก สูงสุดในรอบสี่ปี 340 ล้านคน
อัตราการเปลี่ยนแลกการจ้างงาน คงที่0.4%
สิ่งที่สังเกตได้ ในตลาดแรงงาน การทำงานเสริมเพิ่มขึ้นมาใน ไตรมาสที่ผ่านมา แต่การจ้างงานประจำจำหดตัวลงนิดเดียว 57.1% จาก 57.2%
ดัชนีผุ้บริโภค อยู่ที่102.17 ใกล้เคียงกับคำว่าคงที่ ครั้งที่แล้ว 102.25. แบบนี้เงินเฟ้อก็จะไม่ขยับที่1.4%
ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0
การปล่อยท่าน้ 2.4% มาสองเดือนติด สูงขึ้นในภาพสามเดือน
มีการแลกเปลี่ยนเงินตรา เพิ่มสูงมาก ในรอบสี่เดือน
มาดุภาพส่งออกนำเข้า การส่งออก หดตัวลงเยอะมาก จาก 204920 ลงเหลือ 167676
การนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงน้อยว่าการส่งออก แค่นิดเดียวเอง นำเข้า 149817
แน่นอน ยังเกินดุลย์อยู่แต่ไม่มาก
ความมั่นใจในธุรกิจ ลดเหลือ 0.9
ข่าวการเมือง
ตอนนี้ รอดูการเลือกตั้งสภาฝรั่งเศล ในวันนี้ ความคาดหวัง คือการที่ นายเอมมานูเอล มาครอน ชนะขาดเท่านั้น หากขาดลอย มีแนวโน้มที่ อียู จะ แกร่งมากในวันจันท์ ช่วงตลาด เปิด
อันนี้ข่าวใหญ่ การต่อสู้ระหว่าง อเมริกา กับ เยอรมันใน โครงการ ร่วมมือระหว่าง รัสเซียกับเยอรมัน ในได้ทำท่อส่งน้ำมันตรงสูงเยอรมัน ใต้ทะเล บาลติก งานนี้จะ กระทบกับการส่งออกน้ำมันของอเมริกาเต็มๆ เพราะบริษัทนำ้มันอเมริกาจะเสียผลประโยชน์มหาศาล
ข่าวตาราง
13.00 ในวันอังคาร
German PPI มาคงที่ 0.4 มันเลข ปานกลาง ควรรอดู กราฟก่อนเพราะไม่แน่ใจ
15.00 ในวันศุกร์
EUR Manufacturing PMI บอกยาก หาก มองที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจที่ผ่านมาหดตัวลงนิดเดียว แต่ หาก เอาเรื่องการเลือกตั้งเข้ามา และการเดินนโยบายอนาคตทางการเงินและการค้าที่จับมือกับหลายประเทศ เข้าใจว่าเกินความคาดหมาย เกินความคาดหมาย
EURO ไปในทาง บวก เชื่อว่ามาก
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2017, 09:29:08 PM
NZD
จีดีพีเติบโต 0.5% เพิ่มมากว่าไตรมาสที่แล้ว0.1%
อัตราเงิน 2.2%
อัตราดอกเบี้ย 1.75% คงที่มาตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว
อัตราการว่างงานไตรมาสที่แล้วลดได้ไปมาก ค่อนข้้างดีเลย แสดงว่า ตลสดแรงงานมีพลัง อัตราการเปลี่ยนงานต่ำด้วยแสดงว่า คนสามารถเรียนรุ้งานได้ดีสะท้อนการประกาศรับงานสมุครงานลดลงมาก ต้นทุนแรงงานสูงขึ้นแต่การผลิตลดหดตัวลง ตลาดแรงงานเริ่มเข้าทีชัดเจนแล้ว
การแลกเปลี่ยนเงินตรา สูงขึ้นสุดในรอบสี่เดือน
หนี้ราย่ยสูงสุดในรอบปี เลย
กระแสเงินในธนาคาร ตกต่ำมาก
เรื่องบ้านลดลงต่ำตามภาคการเงิน
ภาคนำำเข้าสงออก ยังคงเกินดุลย์ อยู่ แม้ไม่มากก็ตาม
สิ่งที่น่าสนใจคือ ความเชื่อในภาคธุรกิจสูงในรอบสามเดือน
CPI สูงดี
ข่าว ตาราง
RBNZ ในวันพุธ 17.00 เรื่องดอกเบี้ยไม่คิดว่า จะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ ให้คงที่น่าจะเหมาะสุด
ข่าว มี นิวซีแลน สนใจจะทำ freetrade กับ อเมริกา.....สำคัญต้อง่รอดุต่อไป
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 19, 2017, 08:48:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 19, 2017, 10:25:20 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 19, 2017, 04:45:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 20, 2017, 11:36:45 AM
นโยบายอนาคตที่จะทำกับคิวบา ก็ออกมา อียู มีเหตุการณ์ที่กลัวว่าเป็นการ ก่อการร้ายอีก สุดท้าย อุบัติเหตุ เงินแห่เข้าดอลล่า ไปแล้ว
ผมแค่คาดการณ์ว่า Fomc ทำดอลล่าแข็งขึ้น จากตอนตลาดเปิดเท่านั้น
Credit Setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 20, 2017, 11:40:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 20, 2017, 11:45:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 20, 2017, 03:46:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 20, 2017, 04:50:01 PM
ขอบคุณครับบังที Cat1.gifครับบังหนึ่ง AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 20, 2017, 05:13:10 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 21, 2017, 08:08:13 AM
สหภาพยุโรป (อียู) ขยายระยะเวลาเวลาการคว่ำบาตรรัสเซียออกไปอีก 1 ปี ไปจนถึงวันที่ 23 มิ.ย. 2561 เพื่อแสดงจุดยืนในการไม่ยอมรับการผนวกดินแดนไครเมียและนครเซวาสโตโปลของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในปี 2557 โดยการคว่ำบาตรดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับพลเมืองและบริษัทเอกชนของประเทศในกลุ่มอียู
รายละเอียดของมาตรการ ระบุว่า กลุ่มอียูจะไม่นำเข้าผลิตภัณฑ์จากไครเมียและเซวาสโตโปล, ห้ามภาคเอกชนของอียูเข้าไปลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจอดเรือสำราญในบริเวณดังกล่าว
นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรยังระบุถึงคำยังห้ามกลุ่มประเทศอียูส่งออกสินค้าหรือเทคโนโลยีซึ่งใช้สำหรับการขนส่ง โทรคมนาคม หรือภาคพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการสำรวจน้ำมัน ก๊าซ และแร่ ไปยังไครเมียและเซวาสโตโปล
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 21, 2017, 08:19:05 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:48:51 AM
ดอลล่า
ตัวเลข เศรษฐกิจ
ตลาดแรงงาน อัพเดตล่าสุด
Intial Jobless Claim พิ้มขึ้นจาก 238 เป็น 241
รายได้ ในกลุ่มทั้งหลุ่มที่มีทักษะและทักษะออ่น มีรายได้ หดตัวลง
อันนี้คือของเดือนที่ผ่านมา
อัตราการจ้าง ลดลง 60.2 เป็น60
การเปลี่ยนเพิ่มสูงมาก กว่าตรั้งที่แล้ว
รายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มสูงขึ้นมากจริงๆ
แรงงานในภาคการผลิด มีรายได้เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบสี่เดื่อน
ต้นทุนการจ้างงาน เพิ่มสูงขึ้นจนหน้าตกใจ ...ทำให้เข้าใจว่า การที่มีคนตกงานเพิ่มขึ้น อาจเกิดจากตรงนี้ได้
ตลาดแรงงานเริ่มที่จะ ชลอตัวลง
ความมั่นใจในภาคธุรกิจหดตัวลงต่อเนื่องเข้าเดือน2 แล้ว BUSINESS CONFIDENCE เมื่อเดือน MAY ...ส่งผลชัดเจนต่อใน
MANUFACUTING PMI คือ ยอดสั่งซื้อ ภาวะการจ้างงาน ปริมาณการผลิตลงมาที่52.1
SERVICE PMI คือ พวกงานบริการ โรงแรม ร้านอาหาร อะไรที่เกี่ยวกับงานบริการ เทลดลงมาที่ 53
ภาคการผลิตขนาดใหญ่มีเสถียรภาพมา 2เดิอนติดกัน พอมองโรงงาน มีการหดตัวลง
มามองที่การ
ออเดอใหม่ในกล่มมีการหดตัวลงมาจนน่าจะสุดแล้ว มีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นค่อนข้างมาก
การล้มละลาย Bankruptic ในภาคการผลิต ในเดือนที่ผ่านมา มีการ หดตัวลงติดต่อกัน เข้าเดือนที่สี่แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนเปลี่ยนสินค้าคงเหลือ หรือ ของค้างสต็อค เรียกว่า CHANGES IN INVENTORIES มีการหดตัวลงอย่างโคตรเยอะ ชี้ไปในทางที่ดี
แสดงว่าขายของได้
Corporate PROFIT การเข้าร่วมหุ้น การร่วมมือทำอะไรก็ได้เพื่อนให้มีกำไร กลับหดตัวลงมาก อย่างน่าเกลียด
ความคิดเห็นของ การสำรวจต่างๆ
NY EMPIRE STATE MANUFACTURING INDEX ให้กราฟสูงเป็นแท่ง
PHILADELPHIA FED MANUFACTURING INDEX กราฟ เป็นไปในทาง ลดลง
RICHMOND FED MANUFACTURING INDEX ก็เช่นเดียวกัน ลดลง...แต่ของเดือนนี้ยังไม่ออกมา
เท่าที่ดูแล้ว การผลิดชี้ไปในทางหดตัวลงเล็กน้อย
การบริโภค
ความมั่นใจของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น 94.5 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ของเดือนที่แล้ว
การขายปลีก ลงมาที่ -0.3% ลงจาก 0.4%
ขายปลีกรายปี แสดงไปในทิศทางเดียวกัน คือ หดตัว ลง แต่ทั้งสองตัวเลขที่ไม่ตามกันนะ...
การใช้จ่าย Consummer spending เพิ่มสูงขึ้น
หนี้สินรายย่อย หดตัวลงมาก
ราคาน้ำมันหดตัวลง
เมื่อเอา เรืองรายได้เข้ามาเชื่อมโยงทำให้เห็นว่า คนเมกา มีการเอาใช้กันมากกว่าเดิม
มีการซื้อใน RETAIL SALE มากขึ้น
ตัวเลขต่อได้ ที่ต้องจับตามอง UNEMPLOYMENT RATE 4.3% เมื่อเดือนที่แล้ว แต่พอดูปัจจัยที่ออกออก แล้ว เป็นไปได้ว่าจะมี ตัวเลขที่สูงขึ้นมากกว่า หมายความว่า คนตกฃานเพิ่มเล็กน้อย
NON FARM PAYROLL เมื่อเอาตัวเลขมาดู เป็นไปได้ว่า จะลดลง
เดือน......จะต้องตรวจดูข่าวแรงงานก่อน เพื่อความมั่นใจ
ข่าวตาราง
วันจันทร
19.30 Durabel Goods order หากมองที่ตัวเลขและ สถานการของแรงงานที่หดตัว มองว่า ลดลง
21.00 Consumer confidence ช่วงนี่เข้าช่วง Summer เพิ่มขึ้นอีก เหตุผลที่ผม มโน เพราะ การใช้จ่าย สัปาดที่แล้วลดลง ไป
ไม่รู้ว่าจะถูกไหม รายได้ต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น ราคาอาหารเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก ราคาน้ำมันลดลง..ส่งผลต่อการจับจ่าย และ การขายปลีก
บวกกับที่เป็น ช่วงหน้าร้อนที่ คนออกไปเที่ยวกัน ผมเลยเข้าใจว่า Consumer confidence ควรเพิ่มขึ้น
วันพุธ
US Crube Oil Inventory
อเมริกา เร่งการผลิตน้ำมัน เข้าสต้อกตัวเองมาขึ้น
ราคาน้ำมันใน อเมริกา แนวโน้มลดลงมาที่37 USD และ กระทรวงพลังงาน ของอเมริกา เพิ่มกำลัง การผลิด อีก 122000 บาเรล ต่อ วัน
ผม จึงเข้าใจว่า น้ำมันใน คลัง ควรจะ มากกว่าเดิม
วันพฤหัส
GDP 19.30
สูตรคำนวน GDP
GDP = Consumption + + Government spending + (exports – imports)
(exports – imports) ขาดดุลดูแล้ว ดีขึ้น กว่าไตรมาสที่แล้ว
Government Spending ดูแล้วมีแนวโน้ม ลดลง จากครั้งที่แล้ว
Consumpmer spending ดูแล้วลด ลง
เริ่มหัวข้อโดย: I Am TonyJar ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:49:24 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:50:13 AM
มีการรายงานข่าว ว่า ราคาน้ำ ได้เข้าสุ่ เทรนขาลง อย่างเป็นทางการ
นักลงทุนน้ำมัน เชื่อจะเห็นการยกตัวของราคาน้ำมัน ในสัปดานี้
มีการคาดการว่า ราคาน้ำมัน จะดีดตัวอีกเป็นครั้งสุดท้าย ในอีก 2 สัปดาหน้า เราจะเห็นราคาน้ำมันกลับมาที่ 46 ก่อนที่จะทิ้งตัวลง
ในระยะยาวนั้นาคาน้ำมันจะ ร่วงลง เหตุเพราะ ความต้องการน้ำมัน นั้น ลดลงอย่างมาก OPAC ไม่สามารถทำการ ปรับ ดีมานซัปพรายได้
อย่างที่ตั้ังใจไว้ เป็น ข่าวดังมากในขณะนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:51:07 AM
ภาคการผลิตของเยอรมันกำลังทำเทรน ขาขึ้น
และภาคการก่อสร้างเช่นเดียวกัน
ตลาดแรงงาน ยังสามารถเดินหน้าได้ อีก
แม้ว่า ตัวเลขหลาย๐ตัวจะมีการย่อลงมา แต่ภาพรวมแล้วดูมี อนาคตมาก
เมือ เอามารวมกับนโยบาย ของมาเคล คือการกระชับความสามัคคีระหว่างอียู และ เหล่าพันธมิตร
และที่สำคัญคือการที่อังกริดเดินเข้ามาเป็นเพื่อนอีกครั้ง
ข่าว นอกตาราง
วันที่22 / 05 / 2017
เยอรมัน และ ฝรั่งเศล จับมือ ปฎฺรูป เศรษฐกิจ ร่วมกัน งานนี้ ระยะยาว ส่งผลให้ เยอรมันดูมีอนาคตมากกว่าเดิม หลังจากได้ อนิสงจาก อังกริดที่ออกจาก อียู เจอข่าวนี้อีก
วันที่23/05/2017
เยอรมัน มี ตัวเลข เศรษฐกิจที่ดีขึ้น อย่างชัดเจน มีโครงการที่เข้ามาลงทุน หลายโครงการมาก ทำให้ CONTRUCTING การก่อสร้างเติบโตอย่างรวดเร็ว
ข่าวตาราง EURO เยอรมัน
ในวันจัน 15.00 จึงมีโอกาสที่ จะเป็ฯไปทางบวก
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:51:56 AM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:52:06 AM
JPY
--->สัปดาที่ผ่านมามีตัวเลขออกมาสามตัวคือ
1. adjusted trade balance คือยอดความต่างของยอดนำเข้าและส่งออก โดยถ้าตัวเลข ออกมาติดบวก คือส่งออกมากกว่านำเข้า แต่ตัวเลข ติดลบ แสดงว่านำเข้ามากกว่าส่งออก โดยยอดนี้ เป็นของเดือนมิถุนายนแม้ว่าจะมีการส่งออกมากกว่านำเข้า แต่ก็ตำ่กว่าของเดือนพฤษภาคมและของเดือนพฤษภาก็ตำ่กว่าของเดือนเมษา ซึ่งเอาจริงๆการส่งออกก้ตำ่ลง ตั้งแต่เดือนมิถุนา มาเรื่อยๆเลย
2. japans export yoy อันนี้คือยอดส่งออกเทียบเป็นเงินดอล โดยแม้ตัวเลขของเดือนพฤษภา (อันนี้จะออกย้อนหลังเดือนนึง) จะตำ่กว่าคาดการณ์ แต่ก็ยังสูงกว่ายอดของเดือนเมษาอยู่ดี ทั้งๆที่ยอดการส่งออกเป็นตัน จะตำ่กว่าเดิม แต่นั่นก็แสดงว่าที่ยอดอันนี้ขึ้น เพราะมูลค่าสินค้า มันเพิ่มมากขึ้น
3. trade balance อันนี้เป็นตัวเลขของเดือนพฤษภา โดยจะเอา มูลค่าของสินค้าที่นำเข้ากัยส่งออกมาหักลบกัน โดยถ้าติดลบ แสดงว่านำเข้ามากกว่าที่ส่งออก โดย ตัวเลขนี้ ทุเรษ มาก เพราะติดลบ ถึง 203 แสดงว่าส่งออกขาดทุนอย่างมาก ก็เลยเป็นเหตุทำให้สัปดาที่ผ่านมา ยูเจ บินได้บินดี
US
1. Manufacturing PMI แรงซื้อในภาการผลิต อันนี้ถ้าออกมาเกิน 50 แสดงว่ามันโตขึ้น แต่ถ้าตำ่กว่า 50 แสดงว่ามันหดตัวลง โดยตัวเลขของเดือนนี้ อยู่ที่ 52.1 ตำ่กว่าของเดือนที่แล้ว และตำ่สุดในรอบ หกเดือนแล้ว แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของภาคผลิตลดลง
2. Services PMI อันนี้เป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อของภาคบริการ ก็เกี่ยวกะพวกการท่องเที่ยวอะไรทำนองนี้ รวมไปถึงราคาอาหาร นู่นนี่นั่นด้วย โดย ดรรชนีเหมือนกับของ ข้อ 1 ก็คือ สูงกว่าตำ่กว่า 50 เดือนนี้ตัวเลขออกมาที่ 53.0 ตำ่กว่าคาดการณ์และตำ่กว่าเดือนที่แล้วด้วย ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของภาคการบริการ มีน้อย ก็อาจจะเป็นเพราะคนออกไปท่องเที่ยวและใช้บริการน้อย แต่ก็คงจะเริ่มเพิ่มมากขึ้นได้แล้ว เพราะทุกๆปี ช่วง june จะเปนช่วงพีคของตัวนี้ เพราะ summer คนน่าจะเที่ยวเยอะ (รึป่าว)
3. US current account เมกาส่งออกนำเข้าเปนเงินดอลล่าอยู่แล้วตัวนี้เลยมีผลโดยตรงกะค่าเงิน เพราะเปนยอดส่งออกและนำเข้าของเมกา โดยถ้าสูงกว่าคาดการณ์ก็จะดีต่อค่าเงิน เพราะนั่นหมายถึงเมกาส่งออกเยอะขึ้นโดย ธรรมชาติแล้วเมกาเปนประเทศนำเข้ามากกว่าส่งออกอยู่แล้ว ตัวเลขเลยออกติดลบ ทุกไตรมาศ ของไตรมาศที่ผ่านมาดีกว่าคาดการณ์แต่แย่กว่าของไตรมาศก่อนนั้นอยู่นิดนึง แต่ก็ถือว่าไม่ได้ตำ่สุด อยู่ประมาณค่าเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา พอดิบพอดี
4. US new home sales ตัวนี้คือยอดขายบ้านที่ออกมาก่อน existing home sales คือถึงมันจะเป็นยอดขายบ้านเหมือนกัน แต่ตัวเลขก็ไม่ค่อยจะไปในแนวทางเดียวกัน ทีนี้ ตัวที่มีผล กับกราฟมากกว่า คือ new home sales เพราะมันเป็นยอดการซื้อบ้านใหม่ จริงๆ ในขณะที่ existing home sales จะมีการเอาไปเทียบกับนู่นนี่นั่น กราฟเลยไม่ค่อยวิ่งตาม existing home sales เท่าไหร่ โดยยอดขายบ้านในเดือนนี้ อยู่ที่ 610 สุงกว่าเดือนที่แล้วที่อยู่ที่ 593 แสดงให้เห็นกำลังซื้อของคนมีมาก
------####----
ในสัดาห์นี้ คู่UJ
--->วันอังคาร สามทุ่ม มี consumer confidence index ที่คาดว่าน่าจะออกมาสูงกว่าคาดการณ์เพราะคาดการณ์ไว้ค่อนข้างตำ่ และ ตัวนี้ก็ขึ้นกับ ยอดการซื้อขายปลีก และยอดการจับจ่ายใช้สอย ที่ถ้าย้อนๆดูตัวเลขที่ผ่าน มา ก็ค่อนข้าง ดี เลยคิดว่า น่าจะ ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ ( UJ buy )
--->สามทุ่มวันพุธ จะมี ข่าวยอดขายบ้าน ที่มีคนจองไว้ ละยังไม่ทำสัญญา อันนี้คาดว่าอาจจะออกมาสูงกว่าเดือนี่แล้ว แต่อาจจะตำ่กว่าคาดการณ์เพราะพี่แกคาดการณ์ไว้สูงมาก สงสัยเห็นว่ายอดขายจริงมันเยอะเลยคาดว่ายอดอันนี้ก็น่าจะเยอะด้วย เลยตั้งเพดาน ไว้สูง
( UJ sell)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:52:43 AM
*ภาพรวมตลาด
ภาพรวมตลาดในสัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ราคาทองน่าจะเหวี่ยงได้แรงกว่าสัปดาห์ก่อน
เพราะเท่าที่ผมกวาดสายตา ไปดูที่ตารางปฏิทินเศรษฐกิจ ก็จะเห็นว่า มีคิวที่ ประธานธนาคารกลางของประเทศต่างๆจะต้องขึ้นแถลงการณ์
ไล่ตั้งแต่ช่วงดึกวันนี้เป็นคิวของ มาริโอ้ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB พรุ่งนี้บ่ายจะเป็นคิวของ มาร์ค คาร์นีย์ ประธานธนาคารกลางอังกฤษ BOE
โดยเฉพาะในช่วงดึกคืนวันพรุ่งนี้ ที่จะเป็นคิวของ เยนเลน ประธานธนาคารกลางอเมริกา FED ที่น่าจะเป็นไฮไลท์ที่สุด ล่ะครับ
*ภาพเทคนิค
รายวัน daily
>moving average รอบนี้จะเห็นว่าราคาทองปรับตัวลงมาถึงโซนแนวรับเส้น ema200(สีดำ) แถวโซน1240+- ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา ล่าสุดราคาสามารถขึ้นผ่านเส้น ema5และema10 ขึ้นมาได้แล้ว (ล่าสุดที่ผมกำลังเขียนอัพเดทให้อยู่นี้ ราคาทองอยู่แถว1255) และเส้นema5/10 ก็เริ่มทำ slope บวกเป็นทางขึ้นแล้ว ดังนั่นก็มีความเป็นไปได้สูงที่ เขต1240+-ตรงนั้นจะเป็นจุดต่ำสุดของรอบการปรับฐานที่ราคาลงมาจากยอดแถว1295+- นั่นเองครับ
>macd แท่ง histogram ถึงจะยังคงอยู่ในโซนลบแต่ล่าสุดแท่งhistogramเริ่มทำ slope เป็นศูนย์ แสดงว่ามีโอกาสที่จะกลับไปทำ slope เป็นบวกได้ต่อไปนั่นเองครับ
>stochastic ล่าสุดเส้น%k เกิด golden cross ตัดขึ้นเหนือเส้นsignal line ขึ้นมาได้แล้ว และยังมีแก็ป อัพไซด์ในทางขึ้นอยู่อีกมากครับ
ภาพรายสี่ชั่วโมง h4
>moving average ราคาทองเกิดรูปแบบ golden cross ในทางขาขึ้นชัดเจน แต่ล่าสุดราคาทองกำลังขึ้นทดสอบเส้น ema200 (สีดำ) แถว1258 ในรายh4 และยังไม่สามารถขึ้นผ่านไปได้
>macd แท่งhistogram ล่าสุดกลับขึ้นมาเหนือเส้น zero line แล้ว แสดงถึงว่าในเทรนรายh4 ราคาทองส่งสัญญาณการกลับมาเป็นขาขึ้นแล้ว ซึ่งต้องรอคอนเฟริ์มด้วยภาพในรายวันต่อไปนั่นเองครับ
>stochastic อยู่ในโซนที่ค่อนข้าง overbought และดูท่าว่าเส้น %k อาจจะเกิดการ dead cross ตัดต่ำกว่าเส้น signal line ลงมา แสดงถึงว่าในภาพรายh4 มีโอกาสที่จะเกิดการพักฐานลงมาในระยะสั้น
*กลยุทธ์
>ขาsell เนื่องจากผมมองว่าหน้าเทรนหลักในช่วงนี้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนจากขาลงมาเป็นขาขึ้นและยังเป็นต้นเทรนในทางขาขึ้นด้วย ดังนั่นจึงไม่อยากแนะนำเทรดในทาง sell เพราะจะทำกำไรได้ยากกว่านั่นเองครับ
>ขาbuy หากได้ซื้อแถว1248-1246 และได้ปิดทำกำไร ทำรอบไปบ้างแล้ว ผมแนะนำรอซื้อกลับเล่นรอบแถว1252-1250 โดยมีเป้าหมายทำกำไรถัดไปแถว 1265-1270 และมีจุด SL ที่ 1239
โชคดีนะครับผม
ออนัน (9.28น)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:53:44 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:54:44 AM
อ่านครับ ค่อย ๆ อ่านไป ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 26, 2017, 10:57:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 02:43:38 PM
ใจนึง คิดว่าจะมีผลลบต่อ JPY รึไม่ บวกกับมองที่ EU ทีกำลังมีวามดีมาก มาสนับสนุน
+ ข่าวSpain PPI ลดลง 5.3% จาก 5.9%
พอตลาดเปิด ในฝั่งอังกริด แรงซื้อวิ่งเข้า EURJPY 124.500- 124.808
ผม ยังไม่ได้เข้า เพราะไม่เข้าใจสถานการ
รอการพักตัวของกราฟ 124.880 - 124.950 ระหว่าง หากมีข่าวแรงบวก เข้ามาที่อียู หรือ ข่าว TAKATA มาอีก ครั้ง ผมอาจออกไม้ไป ตรงจุด นี้ผมเฝ้ามอง อินดี้ ต่างๆ หาก ชี้ว่าเป็ฯ ตำแน่งที่เหมาะสมในการออกไม้ บาย ที่ไม่โดนลาก ผมอาจกด หากไม่มี อะไรชี้วัด ผมจะออกไม้ ตอนข่าวออกมาแล้ว 20วินาที
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 26, 2017, 03:57:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 26, 2017, 04:10:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2017, 04:51:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2017, 06:15:44 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2017, 07:30:16 PM
ยังหาจังหวะเข้าไม่ได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 26, 2017, 08:18:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2017, 08:25:20 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 26, 2017, 09:32:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 27, 2017, 03:05:36 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 27, 2017, 07:35:42 AM
วันนี้เรามาอัปเดตสถานการณ์ตลาดกันอีกที หลังจากที่ลุงแมวน้ำเขียนบทความเรื่องคิวอีจบก็โล่งแล้ว มีเวลามาวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดหุ้นได้ละเอียดยิ่งขึ้น เรามาดูกัน
เรามาเริ่มกันที่สหรัฐก่อน หลังจากที่เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐระยะสั้นขยับขึ้นตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวขยับลง ถ้าจินตนาการเป็นเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) ก็หมายความว่าเส้นอัตราผลตอบแทนแบนลง ลักษณะเช่นนี้บ่งชี้ถึงภาวะที่การแข่งขันด้านดอกเบี้ยที่ต่ำ หมายความว่ายังไม่ค่อยมีใครอยากท่าน้เงินไปลงทุนเท่าไรนัก แปลความว่านักลงทุนยังมองเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้สดใสมากนัก ถ้ามั่นใจมากการลงทุนจะร้อนแรงกว่านี้ บอนด์ยีลด์ตัวยาวต้องวิ่งขึ้นแล้ว
เมื่อดูทางด้านการเมืองสหรัฐ ผลงานของรัฐบาลลุงตั้มยังไม่มีอะไรโดดเด่น ร่างกฎหมายสุขภาพที่จะมาแทนโอบามาแคร์ตอนนี้อยู่ในขั้นการพิจารณาของวุฒิสภาก็ดูเหมือนจะติดปัญหาอีก วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนก็ไม่หนุน เรื่องลดภาษีก็ค่อยๆเงียบลงไป โครงการลงทุนต่างๆก็ยังไม่คืบหน้า
ลักษณะเช่นนี้เป็นผลดีต่อตลาดเกิดใหม่ เพราะทำให้เฟดไม่ต้องรีบร้อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งไม่ต้องเร่งรีบดูดเงินออกจากระบบ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัวลง และกระแสทุนกลับออกไปยังตลาดเกิดใหม่
กระแสทุนก็ไปทางอินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง หนักไปทางด้านนั้น ส่วนไทยเรานั้นกระแสทุนแวะมาไม่ได้มากมายนัก อีกทั้งเข้ามาพักในตลาดตราสารหนี้ หากเราดูกราฟกระแสทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ไทยจะเห็นว่าเงินเข้าๆออกๆ ไม่ได้ดุเดือดอะไรนัก
ส่วนตลาดหุ้นไทย ทุนต่างชาติยิ่งไม่แวะมา ตอนนี้สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติต่ำมาก อีกทั้งยังซื้อๆขายๆไม่ได้มากมายนัก ดังนั้นไม่ค่อยมีผลต่อการขับดันตลาดหุ้นไทยเท่าไรนัก ขณะเดียวกันมูลค่าการซื้อของสถาบันกลับสะสมมากขึ้นเรื่อย ส่วนนี้แหละที่พยุงตลาดหุ้นเอาไว้ ซึ่งเราจะสังเกตว่าช่วงเร็วๆนี้ที่ราคาน้ำมันดิบโลกลงแรง ตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะเซ็กเตอร์พลังงานไม่ค่อยกระทบ ที่เป็นเช่นนี้เพราะแรงซื้อสะสมของนักลงทุนสถาบันประคองตลาดเอาไว้นั่นเอง
ถามว่านี่เป็น window dressing หรือเปล่า และหลังจากสิ้นเดือนตลาดหุ้นไทยจะร่วงแรงไหม ลุงแมวน้ำคิดว่าแม้พ้นช่วง window dressing ไปแล้วก็ยังคงไม่ร่วงแรงเพราะสถาบันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะขายแรงๆ เนื่องจากรูปการณ์ตอนนี้สถาบันค่อยๆสะสมหุ้นอยู่มากกว่า ยกเว้นหากตลาดหุั้้นสหรัฐร่วงหนักๆเท่านั้นแหละเราจึงอาจลงแรง
=== ทบทวนมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐ อยู่ในวัฏจักรฟื้นตัวแม้ลุงตั้มยังไม่มีผลงานเด่น ===
แล้วตลาดหุ้นสหรัฐจะลงแรงๆไหม ก็มีโอกาส แต่ลุงแมวน้ำคิดว่าโอกาสลงแรงๆมีไม่มาก แบบตลาดตกใจเศรษฐกิจจะล่มสลายคงไม่ใช่ น่าจะเป็นลักษณะเลี้ยงตัวไซด์เวย์ หรือปรับฐานแรงหน่อย แต่ยังไปต่อได้มากกว่า เนื่องจากตอนนี้ forward p/e ของสหรัฐอยู่ที่ราวๆ 18 เท่า ถือว่าแพง ดังนั้นโอกาสปรับฐานแรงก็มี แต่เป็นโอกาสะสมสมหุ้น ไม่ใช่ต้องหนีตาย
ลุงแมวน้ำทบทวนมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐอีกรอบหนึ่ง หลังจากตัดปัจจัยลุงตั้มออกไปแล้ว ก็ยังคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในวัฏจักรฟื้นตัว เพราะข้อมูลจากอังค์ถัด (UNCTAD) ที่เพิ่งออกรายงานใหม่ปี 2017 มาสดๆร้อน พบว่าการลงทุนทางตรง (FDI, foreign direct invesment) เข้าสหรัฐนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงปี 2015-2016 ตามกราฟที่ลุงแมวน้ำนำมาให้ดู วันนี้ยังไม่อธิบายละเอียด ดูแค่เส้นกราฟสหรัฐก่อน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ลุงแมวน้ำคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวไปได้อย่างน้อยก็อีกปีหรือสองปี ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม
ทีนี้ก็มาถึงคำถามว่าแล้วตลาดหุ้นไทยเมื่อไรจะขึ้นเสียที ติด 1600 มานานแล้วนะ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 27, 2017, 08:12:34 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 27, 2017, 10:56:51 AM
... จะมีการเปลี่ยนแปลงโยบายด้านแรงงาน เน้นให้มีความรู้มากขึ้น
...มีการอนัมัติเงินท่าน้เพิ่ม ให้ธุรกิจขนาดเล็ก
... ประเด็นความเท่าเทียมทางเสดกิจของสมาชิก คือเหตุผลที่ ดอกเบี้ยติดลด
...ธนาคาร ลงทุนในทรัพสิน และธนาบัตเพิ่มขึ้น.....เอาเงินเข้าในระบบมากขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 27, 2017, 12:24:25 PM
วันนี้มีลุ้นละเริ่มที่ สามโมงเย็นก่อนเลย .gif)
*สูง EU 15.00 น. นายมาริโอ ประธาน ECB กล่าวสุนทรพจน์
กลาง AUD 15.30 น. นาย Debelle ผู้ช่วย RBA กล่าวสุนทรพจน์
*สูง GBP 17.00 น. นายมาร์คคาร์นีย์ ประธาน BOE รายงานเสถียรภาพทางการเงิน
กลาง USD 22.15 น. นาย Harker ประธาน Fed'sสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวสุนทรพจน์
*สูง USD 24.00 น. Fed's นางเยลเลน กล่าวเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจโลก
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 27, 2017, 01:50:03 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 27, 2017, 01:53:42 PM
แดง ทั้ง แผง
พอตหรอครับ AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 27, 2017, 04:12:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 28, 2017, 12:16:15 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 28, 2017, 08:56:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 28, 2017, 01:13:20 PM
มันสำคัญขนาดไหน นโยบายสวัสดิการ และ โดยบายการตัดภาษีเพิ่ม แม้ทั้งสองตัวนี่จะเอื้อประโยชน์แก่ ชนชั้นกลางมากว่า แต่ คนอเมริกาก็เอา เพราะกำขี้ดีกว่ากำตบ .....รู้ว่า ทรัมหลอกแต่ยังเปต็มใจให้หลอก
แต่ พรรคฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ และต้องการในปรับรายละเอียดให้ครอบคลุมทุกชนชั้น เรื่องนี้ว่าแรงแต่
เรื่องที่ได้ผลกระทบคือฐาเสียงของทรัมนี่สิ แตกเป็นสองฝ่ายแล้ว เรื่องรายละเอียดตรงนี้ของข้าม มันยาวเกินไป ทรัมกำลังเจอปัญหาคะแนนความเชื่อมั่นลดลง อันนี้ทรัมไม่ตั้งใจแน่นอน ส่งผลให้การดำเนินการในอนาคตติดขัดชัดเจน และสิ่งที่ทรัมจะทำต่อไปคือ การออกมาบอกว่าจะ รีบเร่งดันนโยบายภาษี ที่จะตัดเพิ่มขึ้นให้ผ่าน.....งานงอกละ ดอลล่า วันพฤหัส
คาดว่าไม่รอด เพราะ ประเด็นความไม่เท่าเทียมกันมันชัดเจน กว่าเรื่องสวัสดิกาประกันสุขภาพ
วันนี้ทรัมน่าจะไม่ออกมาพูดอะไร เพราะจะเสียหมาทันที แต่ ทวีตเตอ มีมาแน่นอนเพื่อทดสอบเสียงตอบรับจากตลาดการเงิน
ในสายตามนักลงทุน เทขายดอลล่ารอวันพรุ่งนี้ ถ้าไม่รอดอีก.....ทรัมตายแน่นอน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 28, 2017, 01:14:05 PM
1.อียู แสดงออกด้านความเป็นปึกแผ่นมาก ข่าวตาราง ทางลบ ถ้าไม่ใช่สามดาว เอาไม่อยู่
2. อังกริด ที่แสดงออกมาว่า มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก่ปัญหาแรงงาน และบ้าน
3. เมกา ป้า ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนอะไร นอกจากความต้องการเงินที่จะ ไม่เร่งอัดกระแสเงินเข้าตลาด...ส่วนทางกับทรัม
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 28, 2017, 02:05:53 PM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 28, 2017, 02:49:52 PM
ก็าซโซลิ่น เพิ่มขึ้น 1.4ล้านบาเรล แม้ว่าจะเข้าช่วงซัมเมอไปแล้ว 2-3 อาทิตย์
ทำให้เห็นความต้องการใช้นำ้มันยังมีอยู่มาก
ไปต่อที่จีนก่อน สินค้าค้างสต็อคมีค่อนข้างต่ำ แสดงให้เห็นการจัดการที่ดี และนโยบายการค้าของจีนไปในทางที่ดีมาก
FREETRAD ผลักดันจีนให้เดินหน้าไปนำกำไรเข้าประเทศได้มากโข และทำให้ราคาสินค้า ในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีการประชุมDOVOS ที่ ดาเลี่ยน
จีนได้แสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจ
ส่วนสำคัญคือ การเข้าไปกระฉับความสัมพันกันฟินแลน ในทางบวกนะครับ ทั้งสองจะเซ็นสัญญากันแน่ในอนาคต
การประชุมDAVOS จะทำให้จีนเข้าหาได้หลายประเทศและทำประเทศต้องการเข้าหาจีน ในรายละเอียก คงจะออกมาเรื่อยๆ
Cr.Setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 28, 2017, 04:47:08 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 30, 2017, 08:25:29 AM
วางแผนการเล่น ด้วยแนวความคิด คือการเก็บระยะสั้น 50GBP ต่อวัน การวางแผนเพื่อที่จะสามารถตรวจสอบความผิดพลาดที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน แผนนี้ยังไม่ได้หาข่าวแบบจริงๆจังๆ
GJ EJ จะ มีลักษณะการสวิงที่น้อย....แต่ต้องดูว่า ตัวเลข ญี่ปุ่นเออื้อมากแค่ไหนด้วย ... ซึ่งเป็นปัจจันที่จะออกการสวิงมากน้อยแค่ไหน อีกวิธีที่คนใช้กันคือ เลือกจาก ตะหร้าค่าเงิน
12.50เป็นเวลาที่ กระแสเงินจะเข้าตลาด...ซึ่งเป็นช่วงที่ข่าวเข้าปะทะกันด้วย ญี่ป่นกันเยอรมัน
ผมให้ราคา เยอรมัน มากกว่า ญี่ปุ่น วางไม้ดักไปทาง เยอรมัน มากว่า ญี่ปุ่น ระยะไม่ ห่างที่150 จุด
รักษาระยะห่างจนกว่าจะเกิดแรงกระแทกเข้ามาทะลุไม้ แล้วปล่อยไม้วิ่งไป ดูจากข่าว 300จุดน่าจะได้
13.45 จะเป็นข่าวของฝรั่งเศล อันนี้ไม่้ได้หาข้อมูล
14.55 Germany Unempolyment มุมมองคือ ตลาดแรงงานที่คนตกงานน้อยลง
คาดหวังตัวแดง ค่าเงินยูโรมีแนวโน้มสูงขึ้น
วางไม่ด้ักในระยะ 150 จุด ณ เวลา 14.50 ปรับระยะเพื่อรักษาระยะไว้ที่150จุด เพราะจะอาศัยแรงที่พุ่งไปทางใดทางนึ่ง
15.30 เป็น ข่าวสามดาวของอังกริอ GDP
แผนการรับมือ คือดัก สองทาง ห่างจากจัด ณ เวลา 15.27 ไม้แรก 350 ตั้ง TP ที่ 300 ออกไม้ที่ 0.2 เพราะ เงินในพอตมี 30 ปอนเท่านั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 13, 2017, 12:56:04 PM
วางดักสองทาง ได้เลยครับ แต่ ควรจะตั้งตอนกราฟนิ่งและใกล้้เวลา ที่มันจะกระชาก ทะลุ
- กราฟดอกเบี้ย ไม่ ยึกยัก พุ่งไปทางเดียว
- โอกาส ได้ มี 80%
- วาง ห่าง ร้อยห้าสิบจุด
- วางกับดักวลาแนะนำ สาม ถึง สองนาที ก่อน ข่าวออก
- ปล่อยไม้หนักๆได้ ในไม้แรก และ ซอยไม้ดักอย่าให้เกิน สี่ร้อยจุด เพราะ กราฟดอกเบี้ย วิ่งต่ำสุดที่ หกร้อยจุด หาก วางถี่เกิน สี่ร้อยจุด อาจขาดทุนได้
ในวันที่ 17-18 มีข่าว เงินเฟ้อของ อียู และ อังกริดตามลำดับ
อาจควร หลีดเลี่ยงการเข้า อังกริดในช่วงวันที่18 และ มุ่งเน้นไปที่ อียู เรื่องอัตราเงินเฟ้อ
ในวันที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 13, 2017, 01:06:53 PM
จัดไปดักมัน 2 ทางเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 13, 2017, 10:03:03 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 13, 2017, 10:04:30 PM
ขอบคุณครับท่านทีสุดยอดเร็วกว่าสำนักข่าวสะอีก
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 13, 2017, 10:28:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 09:35:41 AM
1. ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อ
- นาง Yellen ยังคงแสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาสที่ 2
- นาง Yellen ยังคงมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถขยายตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ได้ใน medium term นอกจากนี้ ระบุว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น สอดคล้องกับการตอบคำถามในประเด็นด้านอัตราเงินเฟ้อวานนี้ ซึ่งนาง Yellen เห็นว่า เป็นการเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าอัตราเงินเฟ้อไม่สามารถกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ได้ อย่างไรก็ดี นาง Yellen ยันยันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกดดันอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป
2. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย Reinvestment
- นาง Yellen เน้นถึงกระบวนการปรับลดขนาด Balance sheet ของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดเงินโดยรวม ในรายละเอียด นาง Yellen ประเมินว่า กระบวนการ Balance sheet normalization มีแนวโน้มใช้เวลานานจนกว่าองค์ประกอบของ Balance sheet จะเหลือเพียงพันธบัตรรัฐบาลนอกจากนี้ นาง Yellen ยังระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่มีการกำหนดขนาด Balance sheet เป้าหมายแต่อย่างใด โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ มีเพียงเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงิน 2 ประการ นั่นคือ ด้านราคาและการจ้างงานเท่านั้น
3. การปฏิรูปกฎระเบียบสถาบันการเงิน
- นาง Yellen ได้รับคำถามในประเด็นการปฏิรูปกฎระเบียบสถาบันการเงินจากทั้งวุฒิสมาชิกพรรค Democrats และ Republican ซึ่งโดยรวมนาง Yellen เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของ กฎระเบียบสถาบันการเงินที่มีขึ้นภายหลังวิกฤติการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Capital Requirement สำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี นาง Yellen สนับสนุนการปรับลดความซับซ้อนของกฎต่างๆ ในกลุ่ม community banks ลงเพื่อช่วยให้การขยายตัวของภาคเครดิตและการกระจายตัวของรายได้เป็นไปอย่างทั่วถึงขึ้น นอกจากนี้ นาง Yellen ให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการปรับปรุงและผ่นคลายกฎ Volker rule เพื่อลดอุปสรรคในการประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ลง
- นาง Yellen เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูประบบท่าน้ยืมภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ เพื่อลดภาวะการผูกขาดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Fannie Mae และ Freddie Mac.
4. ประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ
- นาง Yellen หลีกเลี่ยงการให้ความเห็นในส่วนของผลกระทบจากนโยบายการคลังของรัฐบาลนาย Trump โดยกล่าวเพียงว่า การประมาณการของ U.S. Office of Management & Budget (OMB) ซึ่งคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ 3 นั้นอาจเป็นไปได้ยาก แต่หากเกิดขึ้นจริงถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ นาง Yellen สนับสนุนแนวคิดการปฏิรูปโครงสร้างภาษีในภาพรวม โดยมองว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุน productivity growth ของเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ อย่างไรก็ดี นาง Yellen มองว่ายังไม่สามารถสรุปผลเชิงบวกที่จะเกิดขึ้นจริงได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับรายละเอียดของนโยบายเป็นสำคัญ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 09:37:41 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 02:00:24 PM
เมื่อวานจำได้ว่าไปอ่านข่าวอยู่ข่าวหนึ่งเกี่ยวกัที่นางเย็นเล่นพูดถึงเรื่องการเกิดวิกฤตทางการเงิน ซึ่ง " นางบอกว่าในช่วงชีวิตนี้หรืออาจเป็นในช่วงที่เธอดำรงค์ต่ำแหน่งแประธานเฟด คงไม่ได้เห็นวิกฤตทางด้านการเงินหรอก (แหล่งมันใช้คำว่า She lives ผมว่าน่าจะหมายถึงช่วงชีวิตที่หล่อนทำงานงานมากกว่า)
แต่...เมื่อประมาณ 10 กว่าชั่วโมงที่ผ่านมาเธอดันมากลับคำซะงั้นว่า " เราไม่สามารถที่จะมั่นใจได้ว่ามันจะไม่มีวิกฤตทางการเงินอื่น ๆ อีก (ในอนาคต)"
em3.gif
Yellen backtracks: 'We can never be confident there won't be another financial crisis'
AT7.gif
https://www.forexfactory.com/news.php?do=news&id=683125
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 02:40:44 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 07:37:54 PM
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Consumer Price Index (CPI)) ครั้งก่อน 0.1% คาดการณ์ 0.2%ออกจริง 0.1%
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index (CPI))ิ ครั้งก่อน -0.1% คาดการณ์0.1% ออกจริง 0.0%
รายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) ครั้งก่อน -0.3% คาดการณ์ 0.2%ออกจริง -0.2%
รายงานยอดขายปลีก (Retail Sales) ครั้งก่อน -0.3% คาดการณ์ 0.1%ออกจริง -0.2%
ตัวเลขออกมาแย่กว่าที่คาด ส่งผลบวกกับทองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 14, 2017, 07:58:50 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 16, 2017, 08:26:19 PM
ฟองสบู่ Bitcoin Ethereum กำลังแตก / โดย เพจลงทุนแมน
จากที่ผมได้เขียนเรื่อง ฟองสบู่ Bitcoin ไปในวันที่ 13 มิถุนายน ณ ขณะนั้น 1 Bitcoin มีมูลค่า บาท 93,581 บาท
เวลาผ่านไป 1 เดือน..
ตอนนี้มูลค่า Bitcoin ตกลงมาเหลือ 63,880 บาท
ถ้าคนที่ซื้อ Bitcoin ไปในเดือนที่แล้ว..
ตอนนี้เขาจะขาดทุน 32% หรือ จากเงิน 100 บาท จะเหลือแค่ 68 บาท
ในเดือนที่แล้วถ้าใครไปซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาเพื่อขุด bitcoin แล้วหวังจะกำไร ตอนนี้น่าจะผิดหวังไปตามๆกัน
ใครจะไปคิดว่า ค่าเงินดิจิตอลที่หลายคนตั้งความหวังไว้ว่าจะมาแทนเงินสดในอนาคต จะมีความผันผวนแบบนี้
ราคา Bitcoin ตอนนี้เป็นราคาที่ต่ำสุดในรอบหลายเดือน และค่าเงินดิจิตอลอื่นๆก็ตกลงมาไม่แพ้กัน
ตัวที่หนักที่สุดดูเหมือนจะเป็น Ethereum คู่แข่ง Bitcoin ที่ตกลงมามากถึง 62% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายน
จากเดิมที่มูลค่าตลาดของ cryptocurrency ทั้งหมดรวมกันได้ 4 ล้านล้านบาทเมื่อเดือนมิถุนายน ตอนนี้มูลค่าตลาดได้หายไปมากถึง 1.5 ล้านล้านบาท
ผมก็ไม่รู้ว่าค่าเงินพวกนี้ในอนาคตจะเป็นอย่างไร
แต่ดูเหมือนว่าจะมีสกุลเงินดิจิตอลใหม่เกิดขึ้นมากมายในโลกนี้ ด้วยเหตุผลว่าใครๆก็สร้างเงินสกุลดิจิตอลขึ้นมาเองได้..
สุดท้ายก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นว่า เงินดิจิตอลมีจำกัดจริงๆหรือไม่?
คนที่เป็นนักขุดเหมือง เปลี่ยนอาชีพมาเป็นนักสร้างสกุลเงินใหม่ดีกว่าไหม?
ผมขอใช้คำจบแบบเดิมที่ใช้ในบทความเมื่อเดือนที่แล้ว
"ผมสามารถคำนวณการเคลื่อนที่ของดวงดาวได้ แต่ผมไม่สามารถคำนวณความบ้าคลั่งของมนุษย์ได้"
เซอร์ ไอแซค นิวตัน ได้กล่าวไว้หลังเหตุการณ์ฟองสบู่บริษัท South Sea แตกในปี 1720
ดูกราฟฟองสบู่แตกของ Ethereum ได้โดยคลิกที่รูป หรือ ลิงค์นี้ http://longtunman.com/1290
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 16, 2017, 08:53:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 16, 2017, 08:55:51 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 19, 2017, 10:27:37 PM
เมื่อวานลุงแมวน้ำโดนโรคออฟฟิศซินโดรมเล่นงาน ปวดต้นคอกับไหล่มาก แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเป็นมากมายขนาดนี้ ลุงก็เลยแล่นไปนวดอายุรเวทเสียหน่อย โดนหมอทุบๆถองๆร้องโอยๆ แต่ก็รู้สึกดีขึ้น ช่วงนี้ลุงคงต้องลดการทำไงานหน้าจอลงบ้าง ขอพักกินขนมสักหน่อย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 12:20:45 PM
Aud. ทำไฮ ในรอบ 2ปี
Eur. ทำ 28เดือน
Canada ทำ 12เดือน
Swissfrance ทำ12เดือน
Sterlingทำ10เดือน
Newzealand ทำ 10 เดือน
มองทางเทคนิค มันน่าเทชิปเป้ง แต่เมื่อไหร่ละ ?
ในมุมมอง ธนบัตร ดอลล่า ส่งสัญญา การบินออกมาแล้ว และ อยู่เหนือ ค่าเงิน อื่นอีก น่าจะ แสดงออกในตะกร้าด้วย...คงอีกไม่นานเกินรอ
พอมาดูแล้ว ด้วยความเข้าใจ ทางตัวเลข อาจเชื่อได้ว่า ไม่สามารถขึ้นดอกได้ แตาในอดีตที่ผ่านมา แม้เลขไม่ดี ก็ยังขึ้นดอก มีมาแล้ว แต่ ถ้าธนาคารยังคง ปล่อยดอลล่าให้ดิ่งเหวหนักว่านี้ ดอลล่าจะเกิดวิกฤตทางการเงินได้ .... มันจะส่ง ผลร้าย ต่อเมกา ซึ่งมันคัดแนวทางที่เยลน เคยแถลงการไว้ ในตอนไป ร่วมงานกันดราฮี....ที่ว่าจะไม่ยอมให้เกิดวิกฤตทางการเงินในช่วงชีวิตนี้อีก
พอมาดู ตารางข่าวแล้ว และ คาดการแถลงการไว้ เรื่องการรายงาน ตัวเลขของเมกา มี เพียงตลาดแรงงานที่จะ มาช่วยให้ ดอลล่า บินขึ้นได้ และ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีการ คอนเฟรอมว่า ป้าจะมาแถลงการเอง....ถ้าป้าไม่มาละก็ มันจะ ชี้ไป ทาง มาบินดอลล่า เพราะ ป้า น้ำเยอุะ เนื้อ น้อย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 12:24:41 PM
**สรุป..ของยูเจสัปดาที่ผ่านมายังเปนเทรนลงอยู่ ถ้าถามเรื่องลงตามเทรนก็ลงดีอยู่แหละ แต่ทีนี้คือปัญหาเรื่องกราฟที่ไม่วิ่งตามข่าวเริ่มตั้งแต่อันแรกเลย ข่าวนำเข้าส่งออกวันอังคาร18/7ทำไว้ว่าเซล ละตัวเลขก็ออกมาเปนแดง ซึ่งแน่นอนว่าเซล แต่กราฟกับวิ่งขึ้นไปก่อนสองร้อยจุด ละห้านาทีหลังจากนั้นถึงค่อยทุบลงมาห้าร้อยจุด ซึ่งเปนเรื่องแปลกไม่เคยเห็นกราฟเปนแบบนี้
อันต่อมาคือข่าวขายบ้านตอนทุ่มครึ่งของวันที่19/7ที่ธรรมดาวิ่งอย่างน้อยๆก็สี่ร้อยจุด และแน่นอนว่าคาดการไว้ว่าบาย ตัวเลขออกมาเขียวสวยงาม แต่กลับทุบสะงั้น อันนี้ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้เพราะไม่ได้มีข่าวนอกตารางอะไร
ส่วนวันพฤหัสนี่วิคเคราะห์นโยบายการเงินของญี่ปุ่นผิดเต็มๆ ญี่ปุ่นดูไม่ค่อยรีบขึ้นดอกเบี้ย ต่างกะเมกา ที่ดูเหมือนจะเอาแต่ขึ้นๆ โดยไม่ได้ดูสภาพเสดกิดตัวเอง แต่ญี่ปุ่นบอดบริหารดูมีอำนาจต่อรองกะรัฐบาลมากกว่าเลยทำให้เสดกิดเขาค่อยเปนค่อยไป คาดว่าอีกไม่นาน เงินเยน จะแข็งตัวแน่ๆ เพราะตัวเลข ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงบดุลการค้าหรือ ข้อมูลเงินของธนาคารพาณิชย์ในประเทศเดือนนี้ดีที่สุดแล้วในรอบสามปีที่ผ่านมา..
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 12:25:05 PM
ขอบคุณครับท่านที 
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 12:26:40 PM
-->วันจัน 24/7
-20.45 มีข่าว Manufacturing กะ servicing PMI ของ ยูเจ น่าบายอยู่เพราะเลขการผลิตออกมาล่าสุดสูงกว่าคาดการณ์เมื่อสัปดาที่แล้ว ( UJ buy )
-->วันอังคาร 25/7
-ข่าว 06.50 BOj มีประชุมบอร์ดบริหาร (เผื่อมีนโยบายออกมาทีหลัง)
-ข่าว 17.00 อังกฤษ มีข่าว CBI industril tends orders GA น่าเซล เลขการผลิตหลังๆออกมาแย่
-ข่าว 21.00 USD มีข่าว Consumer confidence ถ้าวันจันข่าวออกมาบาย วันนี้ก็น่าบายด้วย แต่ถ้าวันจันเซลวันนี้ก็คงต้องเซลตามๆกันไป
-->วันพุธ 26/7
-ข่าว 8.30 CPI ของออสเตเรีย น่าทำให้ GA sell เพราะตัวเลขเสดกิดครัวเรือนของออส 2-3 สัปดาห์มานี้ดีหมด
-ข่าว 15.30 GDP ของอังกฤษ เป็นข่าวสำคัญ*GDP ออกพร้อมกันสองตัววันพุธ ตอนบ่ายสามครึ่ง อันนึงเป็นของไตรมาศนี้ อันนึงเป็นของครึ่งปี ซึ่งแรงของไตรมาศนี้จะแรงกว่าเพราะเป็นช่วงสั้นๆแสดงให้เห็นถึงช่วงนี้ชัดกว่า และหากย้อนดูสี่ไตรมาศหลังมันแย่ลงมาทุกไตรมาศจนไตรมาศล่าสุดมันออกมาดีกว่าคาดการณ์ แต่ตัวเลขเสดกิดสัปดาที่แล้วออกมาก็ค่อนข้างห่วยละหลังๆห่วยมาตลอดเลยคาดว่าจะได้เซล (GA sell)
-ข่าว 21.00 ข่าวขายบ้านเมกา ไม่น่าเล่นเพราะกราฟไม่วิ่ง
-->วันพฤหัส 27/7
-ข่าว 01.00 ป้าเยเลนออกมาพูด "เรื่องดอกเบี้ยและมีการแถลงการด้วย"
-ข่าว 01.00 FOMC statement
-ข่าว 19.30 Goods trade balnce อันนี้น่า sell UJ นะ เพราะสัปดาที่แล้ว export กะ import ออกมาเปนลบ
-->วันศุก ข่าวเยอะมาก
-ข่าว 6.30 ข่าวเงินเยน มีทั้ง ยอดการจับจ่ายใช้สอยต่อครัวเรือน อันนี้คราวก่อนกราฟวิ่งแรงมากมีอัตราการสมัครงาน ก็เป็นอีกหนึ่งข่าวที่วิ่งแรง เพราะตลาดแรงงานญี่ปุ่นออกรายงานเปนรายเดือนไม่ได้ออกบ่อยแบบเมกาเลยทำให้กราฟวิ่งดี
ละก็ปิดท้ายที่ข่าว retail sales อันนี้น่าจะขึ้นกับยอดการจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือน เพราะการค้าปลีกโดยมากก็มาจากครัวเรือน ดังนั้นโดยส่วนตัวคาดว่าจะ buy UJ เพราะเสดกิดญี่ปุ่นค่อนข้างซบเซา BOJ เลยไม่ประกาศขึ้นดอกเบี้ย
-ข่าว 19.30 GDP ในไตรมาศสองของเมกา ถ้าดูตลาดแรงงานที่ดีขึ้นประกอบการส่งออกที่พอดีในระดับนึงก็คิดว่า GDP คงออกมาดี ถ้าเป็นงั้นจริงก็ให้ buy UJ
----#####----
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 01:19:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 01:11:33 PM
ส่วนข่าวที่น่าสนใจวันนี้ของ USD ก็เห็นจะมีการโหวตนโยบายทรัมป์แคร์ ถ้าไม่ผ่านมีร่วงหนัก หากผ่านก็พุ่งทะยานหนักเช่นกัน แต่เรื่องเวลาผมยังไม่แน่ใจ คงตอนช่วงตลาดอเมริกาเปิดโน่นหละ คงต้องเกาะติดสถาณการณ์กันอย่างเหนียวแน่น
DXY หลุดแนวรับสี Magenta คือดิ่ง
https://www.tradingview.com/chart/WYHpijwo/
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 03:11:46 PM
em3.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 03:29:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 04:27:24 PM
ขอบคุณมากครับ
เริ่มหัวข้อโดย: papae1717 ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 04:38:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 07:01:28 AM
ผลกระทบสูงต่อเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจของ
>>ออสเตรเลีย>>สหราชอาณาจักร>>>สหรัฐอเมริกา
- ออสเตรเลียจะเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของเงินเฟ้อพร้อมเปิดเผยข้อมูล CPI ไตรมาสที่ 3
- คำแถลงการณ์ของ Lowe เรื่อง "" ตลาดแรงงานและนโยบาย
การเงิน""
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจะเปิดเผยการประมาณการ GDP แรกของสหราชอาณาจักร ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
- สหรัฐฯ รายงานการขายบ้านใหม่
- รายงานคลังสินค้าน้ำมันดิบ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ปิดท้ายด้วยคำแถลงของ FOMC เกี่ยวกับอัตราด อกเบี้ยเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มจะสร้างความผันผวนได้อย่างมาก cr Forex in Thai
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 07:35:46 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 08:24:05 AM
08.30 AUD CPI
10.05 RBA Gov Lowe Speak
15.30 UK GDP
21.00 US New Home Sales
21.30 US Crude Oil Inventory
22.30 ECB's Lautenschlaeger Speaks
01.00 FOMC Interest Rate Decision
ก็ไล่ๆไป AUD GBP USD EUR เช้าจดตีหนึ่ง
ตลาดหลักทรัพย์ บวกกันกระหน่ำหลังจากผลประกอบการประกาศออกมาดี รวมถึงคืบหน้าโหวตล้มโอบาม่าแคร์
Dollar รีบาวด์หลังจากตัวเลขเศรษบกิจออกมาดี รับการประชุมเฟดคืนนี้ โดยรวมๆ
1 ไม่ขึ้นดอกเบี้ย
2 อาจมีการลด Balance Sheet
3 มุมมองต่อตัวเลขตัวเลขเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามมีโอกาศเป็นไปได้ว่านักขึ้นดอยอาจตอบสนองไม่มากนัก เพราะอทิตย์หน้า ก็ต้องลุ้นกับตัวเลข NFP ซึ่งไม่เเน่ว่าอาจพาดอลลาร์ดิ่งอีกรอบ
UJ มีแนวต้านใต้ SMA 20 112.64 และ แนวรับ 110.60
EUR ตัวเลขดีเกินคาดของเศณษฐกิจเยอรมัน น่าจะยังส่งผลบวกต่อ EUR
GBP วันนี้มาลุ้น ตัวเลข GDP ก็น่าจะออกมาดี ซึ่งจะทำให้ บวก 2X หลังจากอาทิตย์ท่แล้ว ตัวเลขค้าปลีกก็ออกมาดี และ นักขึ้นดอยยังไม่ได้รับข่าว
AUD รอ RBA แถลงวันนี้
CAD ก็เหวี่ยงขึ้นๆลงระหว่าง 1.25 รอลุ้นสต็อกน้ำมันสหรัฐ ค่ำคืนนี้
OIL รีบาวด์แรงวุ้ย สต็อกตัวเลข API หายไปอื้อ รอลุ้นตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบคืนนี้ ดูท่าอาทิตย์นี้จะสดใส ใช้น้ำมันแพง
GOLD ก็ อ่อนตัวลงหลังจาก ดอลลาร์รีบาวด์
ตลาดผัก ดาวเขียว น้ำมันพุ่ง ดูแล้วน่าจะ เฮ...... มั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 08:25:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 08:44:13 AM
.png)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 08:46:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 08:48:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:11:08 PM
Republicans มี 53 เสียง โหวด Yes 51 , โหวต No 2
Democrats มี 48 เสียง โหวด Yes 0 , โหวต No 48
สรุปคะแนนรวม โหวต Yes = 51 เสียง โหวต No = 50 เสียง ดังนั้นนโยบาย Trump's care จึงผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว แต่ตอนนี้ยังไม่ส่งผลมากนัก เพราะต้องมีการอภิปรายกันอีก(อาจกินเวลาถึง 20 ชม.) หลังจากนั้นเมื่อผ่านการเห็นชอบเรียบร้อยถึงจะส่งไปให้ประธานาธิปดีเซ็นต์อนุมัติให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ส่วนทางด้าน AUD นั้น ได้มีการประกาศออกมาว่าการเติบโตในตลาดแรงงานนั้นขยายตัว แต่...อัตราค่าจ้างแรงงานนั้นต่ำไป ก็คงจะกระทบกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค ตอนนี้ยังคงดำเนินนโยบายเดิมต่อไปซึ่งค่อนข้างมีความท้าทายอยู่ โดยมุ่งเป้าที่การขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อที่ 2-3% ที่เป็นเป้าหมาย
ทางด้าน DXY จากที่ได้ทำราคาลงไปต่ำสุดเมื่อวาน (93.64) ก็ได้รีบาวด์และเบรค High (94.13) ของเมื่อวานได้สำเร็จและยังคงอยู่เหนือบริเวร High ของเมื่อวานได้อยู่ (ตอนนี้ดูเหมือนว่า USD เริ่มจะกลับมาแข็งอีกครั้ง) แต่ก็ต้องคอยจับตาดูการปรับอัตราดอกเบี้ยภายในคืนนี้ประมาณตี 01:00 น. ก่อนหน้าคือ 1.25% คาดการณ์ว่าจะคงดอกเบี้ยงเอาไว้ 1.25% คืนนี้ลุ้นกัน
ผลโหวตเมื่อคืน
https://www.nytimes.com/interactive/2017/07/25/us/politics/senate-vote-republican-health-care-bill.html?mcubz=0
Chooddy รายงาน คริ ๆๆ
AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:13:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:18:23 PM
Republicans มี 52 เสียง โหวด Yes 50 ทำไหมบอกว่า 51 งงๆๆ m:12
หวาย...พิมพ์ผิด ๆ เดียวแก้ (ตาลาย)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:26:23 PM
ครูตอบ..ผมคิดแบบนั้น เพราะอ่านเจอวันจัน แต่ พอมาดูตัวเลขรายไตรมาส ตัวเลขมันสบัด ลง สบัดหมายความว่า หัวถิ่มลงเป็นส่วนใหญ่ Imfลดการ เพิ่มขึ้น ของตัวเลขคาดการมัน ทำให้สามารถดีดไปโดนได้ ง่ายจริงๆ อย่างที่ว่า ปัจจัย สนับสนุนมาจาก แรงงาน ที่มีการเติบโตขึ้นชัดเจน รายไดต่อหัวในไตรมาสที่ผ่านมาบวกมากด้วย งบดุลในกลุ่มธนาคารก็ เพิ่มติดต่อมา สามเดือนสูงสุดในรอบสี่เดือน กระแสเงินในระบบการเงิน มีการไหลเวียนดีขึ้นมากจนไม่สามารถมองข้ามได้ เลย เหมือนร่างกายอ่อนแอ แต่เลือดมันไหลเวียนดีมาก การนำเข้าและส่งออกขาดดุลน้อยลง และหนี้ท่าน้ยืมออกประเทศเริ่มลดลง พอเข้าใจเลยว่าทำไม imfลดการคาดการลง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:36:50 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 12:45:01 PM
ส่วนเมื่อวานดีที่ไม่เล่นยาว เล่นสั้นส่วนใหญ่รอดมาได้กำไรพอหอมปากหอมคอทั้งสองพอร์ตเลย ดูท่าวันนี้คงเล่นยากเพราะมีข่าวการปรับดอกเบี้ยด้วย แถมใน H4 EU, GU, XAU, NZD, AUD ก็ทำท่าจะกลับตัวด้วย พรุ่งนี้คงรู้ผลว่าจะไปทางไหนกันแน่ วันนี้ขอเล่นสั้น ๆ ถึงสั้นมากดีกว่า
em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 01:23:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 09:04:26 PM
ยูนิเครดิตระบุว่า การเจาะระบบได้เกิดขึ้นครั้งแรกในเดือนก.ย.และต.ค.ในปีที่แล้ว และเกิดขึ้นอีกในเดือนมิ.ย.และก.ค.ปีนี้
ธนาคารเปิดเผยว่า แฮกเกอร์สามารถเจาะข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการท่าน้เงินของลูกค้า รวมทั้งชื่อและวันเกิด
ยูนิเครดิตแถลงว่า ทางธนาคารได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังดำเนินการแก้ไขช่องโหว่ของระบบ โดยจะใช้เงิน 2.3 พันล้านยูโรในการปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคาร
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.reuters.com/article/us-cyber-unicredit-attack-idUSKBN1AB0QE
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 09:28:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 09:36:44 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 09:54:08 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 10:02:34 PM
ยังน้อยไปท่านทีได้สะ 1000 บาทกำลังสวย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 10:10:09 PM
(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/em14.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/em14.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/em14.gif)ยังน้อยไปท่านทีได้สะ 1000 บาทกำลังสวย (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(13).gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(13).gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(13).gif)โอเครครับแอดพยายามอยู่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 10:13:19 PM
ให้ได้ทุกวันเลย 
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 10:27:25 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 11:20:54 PM
เคสแย่สุด ให้ ข่าวเงียบๆไปเอง ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับทรัมยอมรับว่าเป็นลูกน้องปูติน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 11:32:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 11:51:41 PM
.gif)
ฝันดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 12:23:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 12:46:30 AM
m:11
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 12:51:15 AM
em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 12:57:40 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 01:24:39 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 01:34:22 AM
m:35
เริ่มหัวข้อโดย: papae1717 ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 01:58:02 AM
สู้ครับๆ
ผมก็ทรงๆไปทางลบ
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 09:36:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 11:36:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 11:37:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 11:38:44 AM
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
"ทางคณะกรรมการคาดหวังว่าจะเริ่มทำการปรับงบดุลเข้าสู่ภาวะปกติ'ในไม่ช้า' โดยขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ เฟดได้เปลี่ยนแปลงการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์จากเดิมที่ใช้คำว่า 'ในปีนี้' เป็น 'ในไม่ช้า' ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดงบดุลในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งต่อไป หลังจากเฟดเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้
การปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2007-2009 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
ในการประชุมเดือนมิ.ย. เฟดเปิดเผยแผนการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS เป็นมูลค่ารวม 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะเพิ่มวงเงินการลดงบดุลเป็น 5 หมื่นล้านดอลลาร์/ไตรมาส
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อเฟดทำการลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS ตามเป้าที่วางไว้ จะส่งผลให้งบดุลของเฟดลดลงสู่ระดับ 2.0-2.5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
เฟดได้ถือครองสินทรัพย์จำนวนมากในช่วงที่ดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นจำนวน 3 รอบเพื่อกระตุ้นการลงทุน และการจ้างงานในช่วงที่สหรัฐเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และภาวะถดถอย
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์เฟดในการประชุมล่าสุดเมื่อวานนี้ระบุว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
เฟดระบุว่าความเสี่ยงในระยะใกล้ยังคงมีความสมดุล โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลางในปีนี้ ส่วนตลาดแรงงานมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง และอัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ยังคงปรับตัวอยู่ต่ำกว่าระดับ 2%
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 11:42:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: I Am TonyJar ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 11:47:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 27, 2017, 12:01:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 28, 2017, 10:49:18 PM
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญีุปุ่นออกมาแถลงการ ที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธมาลงที่น่านน้ำ
ซึ่งข่าวนี้คอนเฟริมโดย แพนตากอน (กระทรวงกลาโหม สหรัฐฯ) ส่งผลให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้น แตะ 20,000 บาท
เริ่มหัวข้อโดย: papae1717 ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 01:05:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 09:37:19 AM
กำไร หรือขาดทุนกัน
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 09:57:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 10:03:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 10:16:47 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 01:33:08 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 04:11:51 PM
- พอร์ต Exness ทุนที่ได้จากค่า Rebate XM 5$ ปิดตลาดเพิ่มเป็น 12.08$ (โชคดีที่พอร์ตนี้รู้จักพอ) สัปดาห์ที่ผ่านมาเบิ๊ลพอร์ตได้ เป้าสัปดาห์หน้าคือเบิ้ลพอร์ตให้ได้อีกโดยวางเป้าหมายที่ยอดรวมเป็น 25$
- พอร์ต XM จากที่เอากำไรเล่นหลังจากถอนกำไรบางส่วนบวกทุนออกไปแล้วก่อนหน้าโดยคงไว้ที่ 20$ ทำกำไรได้แค่ 9.04$ รวมเป็นยอดของทุน 29.04$ จากนั้นมาพลาดวันที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย ล่าสุด ติดลบอยู่ -14.16$ ครึ่งพอร์ต Equity คงเหลือ 14.88$ แต่เปิดค้างอยู่ 2 ไม้ ส่วนเป้าอาทิตย์หน้าคงพยายามเข้าออร์เดอร์แก้ให้พอร์ตกลับมาไม่ขาดทุนก็พอใจแล้ว..(เก็บไม้กำไรสั้น ๆ เพื่อไปตัดยอดซอยจำนวน Lot ลงไปเรื่อย ๆ นี่คือวิธีการแก้พอร์ตของผม)
สรุปเป็นที่น่าพอใจ พลาดตรงยังทนรอจังหวะเข้าออร์เดอร์ยังคงทำได้ไม่ดี ส่วนการ Overtrade ลดลงอย่างเห็นได้ชัดขึ้น
em3.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 03:18:56 PM
ข้อความแรก
อ้างถึง
I am very disappointed in China. Our foolish past leaders have allowed them to make hundreds of billions of dollars a year in trade, yet...
ฉันไม่พอใจจีนเป็นอย่างมาก. บรรดาผู้นำในอดีตที่แสนโง่เขล่าของเราที่ได้มีการอนุญาตให้พวกเขา(จีน) ทำเงินหลายแสนล้านเหรียญต่อปีในด้านการค้า
ข้อความที่สอง
อ้างถึง
...they do Nothing for us with North Korea, just talk. We will no longer allow this to continue. China could easily solve this problem!
พวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้เราเลยกับเกาหลีเหนือ, เพียงแค่พูด(เท่านั้น). เราจะไม่อนุญาตให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินการต่อไป. จีนสามารถที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย
ตามความคิดผมถ้าตีความก็คืออันแรก สหรัฐยังคงขาดดุลการค้าต่อจีนอยู่ เพราะก่อนเข้ามาเป็นปธน. ทรัมป์ประกาศจะลดการขาดดุล ส่วนข้อความที่สอง น่าจะเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงจรวด ทรัมพ์เลยกระแนะกระแหนจีนว่าไม่ได้ช่วยไรเลย ทำได้แต่เพียงพูดเท่านั้น ทั้งสองทวีตนี้เลยทำให้มองค่าเงิน USD ยังคงมืด ๆ อยู่น๊ะเนี๊ยะ
AT9.gif
ที่มา https://www.forexfactory.com/news.php?do=news&id=687001#post10136703
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 03:45:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 06:11:35 PM
-->แผนการเทรดข่าวช่วงระหว่างวันที่ 31/7-4/8
**อังคาร 1สิงหา
-->11.30 aud Rba ดอกเบี้ยออสเตเรีย โดยภาพรวม ตัวเลขน่าขึ้นดอกมาก แต่ติดที่เรื่องปัญหาราคสบ้านที่สูงเกินไป และหนี้บานมาก
จากที่ไป ไล่ๆ อ่านมา แนวโน้ม ออสเตเรีย คือ เดินทาง อเมริกา กับยุโรป แต่ ถ้ายุโรป ใช้ คิวอี ซึ่งเป็นการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน มันส่วนทางกับ ออสเตเรีย ผมเลยไม่คิดว่า ออสเตเรียจะใช้ คิวอี ตอนนี้ มันจะเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต ส่งผลต่อ ระบบเสดกิจ มากเกินไป
ณ ตอนนี้ เสนอว่า ออสเตเรีย คงดอกเบี้ย JUL 4 วิ่ง 550 จุด JUN 6 วิ่ง 300 จุด MAY 2 ย้อนกลับไปดูไม่ได้ ไทม์เฟรมเล็กมันให้ย้อนได้ถึงแค่ 31 พฤษภา
-->13.00 ราคาบ้านของอังกฤษ ผมมองเป็นในทางลง Ga sell
.. เหตุผล ราคาบ้านใน ลอนดอน ร่วงลงมา พอสมควร
ราคาบ้านสะท้อน สภาพของ ตลาดแรงงาน และการผลิต ได้ ค่อนข้างดี JUN 1 วิ่ง 370 จุด Jun 28 วิ่ง 350 จุด อกีครั้งเปนวันที่ 28 พฤษภา กราฟย้อนไม่ถึง
15.30 manufacturing Pmi ส่วนนี้ เมื่อครั้งที่แล้ว retail sale กระโดด พุ่งสูงสุดในสามเดือน ตามข่าวที่หามา เหตุเพราะ ลดสินค้าล้างสต้อกเก่า
ผมไปดู ต้นทุนการผลิต ยังคงที่ มาสามเดือนติด ราคาสินค้าส่งออกกับนำเข้า แถบจะเท่าๆกันเลย เลยไปดูที่การส่งออก การส่งออก จะแสดงถึงเจตจำนงในการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ มันมีการขยับตัวขึ้นมา ไปดูการผลิตรถยน ยังอยู่ในระดับต่ำแต่สูงกว่าครั้งที่แล้ว ราคาเหล็ก ยังคงพุ่งสูง ขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนในการผลิตอีกตัวนึ่ง
"Ga buy" jul 3 วิ่ง 150 จุด แต่กระฉากเยอะ ไส้ยาว ค่อนข้างอันตราย JUn 1 วิ่ง 300 จุด ครั้งนี้ไม่กระฉาก อีกครั้งวันที่ 2 พฤษภา ย้อนดูไม่ได้
วันพุธ 2 สิงหา
-->15.30 gbp Construction ผมมองว่าลง เพราะการก่อสร้าง จะพ่วงไปกับการสร้างบ้าน
Ga sell JUN 2 วิ่ง 200 จุด JUL 4 วิ่ง 600 จุด ส่วนอีกครั้งวันที่ 2 พฤษภา ย้อนไปดูไม่ถึง
**วันพฤหัส 3 สิงหา
-->15.30 Gbp Service Pmi. Jul โดยภาพรวม ยังคงลงต่อ แต่ผมยังไม่ได้ดู ตัวเลขคาดการณ์ 53.5 ตัวเลขเก่า 53.4 อันนี้ย้อนไปดูคราวที่แล้วกราฟวิ่งไม่ถึง 300 จุด "คิดว่าไม่น่าเล่น
-->18.00 Gbp. ดอกเบี้ย และอัตราเงินเฟ้อ GA sell เพราะสถานการณ์อังกฤษตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ันนี้ย้อนดูได้ครั้งดียว เพราะ ออกเปนไตรมาส ด้คือย้อนดูได้วันที่ JUN 15 1000 จุด
**ศุกร์ 4 สิงหา
-->8.30 Aud retail sale ไม่รุ้ว่าจาออกมาทางไหนเพราะมีข่าวพร้อมๆกับนโยบายทางการเงินของออส
-->19.30 Nonfarm parolls มาพร้อมกับ Trade Balance และ Unemployment rate เลย JUN 2 วิ่ง 950 จุด JUl 7 วิ่ง 480 จุด อีกครั้งคือวันที่ 4 พฤษภา อันนี้ย้อนไปไม่ถึง สามข่าวนี้มาพร้อมๆกัน โดยมาก Trade balance ไม่มีผล แต่ NOn farm กับ unemployment rate มักจะวิ่งไปทางเดียวันอยู่แล้ว
**เราช่วยกันหาข่าวออกมาก่อนแล้วค่อยมาหากลยุทธรับมือ **
-----####-----Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 06:41:28 PM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 08:26:26 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 08:37:23 PM
...โลกเริ่มร้อนระอุอีกแล้ว..รัสเซียได้เข้ายึดทรัพย์สินของสหรัฐและขอให้นักการทูตของสหรัฐออกจากรัสเซียก่อนวันที่ 1 กย.นี้..เพื่อเป็นการตอบโต้การที่สภาผู้แทนสหรัฐได้ผ่านกม.ที่กำหนดมาตรการแซงชั่นชุดใหม่ต่อรัสเซีย.. ตอนนี้ลูกบอลจึงอยู่ในมือของเจ้าทรัมป์ว่าจะวีโต้เพื่อรอมชอมกับปูตินหรือไม่ และอาจจะทำให้คนในพรรครีพับริกันขุ่นเคืองมาก..
...เจ้าทรัมป์นะมัวแต่สร้างเรื้องสร้างข่าวสร้างเรื่องได้ทุกวัน โดยไม่ค่อยจะมีสาระ..เมื่อเจอมาตรการตอบโต้แรงๆของปูติน..ทีนี้ก็คงจะตั้งรับแบบตั้งตัวแทบไม่ทันเข้าบ้างแล้วละ.. คงจะหยุดซ่าไปได้สักพัก.. แต่ก็ไม่รู้จะทำโลกป่วนไปอีกสักแค่ไหน..หลังจากที่กม.มาตรการแซงชั่นอันเดียวกันนี้ ทำให้ยุโรปแทบอยากจะเลิกคบอเมริกาไปเลยทีเดียว..อีกด้านหนึ่งก็พยายามไปกดดันจีนให้บีบเกาหลีเหนือ โดยใช้มาตรการการค้ามาต่อรองกับจีน..ทั้งที่จีนบอกให้ตั้งโต๊ะเจรจากับเกาหลีเหนือก็ไม่ยอม...
http://www.independent.co.uk/news/world/europe/russia-us-property-seize-moscow-diplomats-expel-new-sanctions-putin-trump-kremlin-nato-a7864346.html
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 09:15:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 30, 2017, 09:39:15 PM
.
- 1. รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะจัดทำรายงานการจ้างงานนอกภาคจ่ายเดือนกรกฎาคมในเวลา 8.30 น ในวันศุกร์นี้ ตัวเลขคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะแสดงถึงการเติบโตของงานที่183,000 ตำแหน่งในเดือนนี้หลังจากที่เพิ่มขึ้น 222,000 รายในเดือนมิถุนายนโดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงเหลือ4.3%จาก 4.4%
- 2. การประกาศนโยบายของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะประกาศการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ 1100GMT (7:00 น. ET) ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกจากนี้ธนาคารกลางยังได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อรายไตรมาสในเวลาเดียวกัน ผู้ว่าการ BOE Mark Carneyจะจัดงานแถลงข่าวไม่นานหลังการประกาศ
- 3. ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน
ยูโรโซนจะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม ในวันจันทร์ คาดการณ์ว่าจะมีรายงานว่าราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น1.3%ในเดือนนี้ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายนและใกล้เคียงกับเป้าหมายของ ECB ที่ต่ำกว่า 2%
- 4. ข้อมูลการผลิตของจีน
สำนักข่าวลอจิสติกส์และการจัดซื้อของจีนเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก. ค. ในวันจันทร์ (21:00 น. ตามเวลาอาทิตย์) ท่ามกลางความคาดหวังที่จะลดลง51.6จากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 51.7
- 5. การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศออสเตรเลีย
การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของ RBA มีกำหนดในวันอังคาร นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่1.5%ในการประชุมครั้งที่ 11 และรักษาท่าทีนโยบายที่เป็นกลางเนื่องจากความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการท่าน้ยืมเงินในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนขึ้น เงินเฟ้อ.
.
.#forex #forex_forecast #eurusd #signals_forex #binary_options #nordxfx #fx #investing #forexfactory #finviz
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 04:34:54 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 09:19:08 AM
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญอื่น ๆ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE)
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 09:25:54 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 09:39:19 AM
นำเข้าสินค้า คงสุขใจมากเลยนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 06:03:29 PM
โฆษกของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ได้ออกมาบอกว่า การไปมาอย่างอิสระของคนกลุ่มยุโรปเพื่อมายังเครือสหราชอาณาจักร (UK) จะมีการสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2019
ที่มา https://www.fxstreet.com/news/uk-pm-mays-spox-free-movement-of-eu-citizens-to-britain-will-end-in-march-2019-201707311039
AT4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 31, 2017, 06:28:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2017, 06:52:24 AM
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 791.88 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +33.76 จุด อยู่ที่ 21,830.31 จุด
(-) ข่าวที่ส่งผลลบต่อทอง
-การประมาณการณ์จีดีพีออกมาสูงกว่าคาดที่ 2.5%
(+) ข่าวที่ส่งผลบวกต่อทอง
-เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธในช่วงคืนวันศุกร์ ส่งผลกระทบต่อความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง มีผลกับการเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 01, 2017, 07:02:03 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2017, 01:05:30 PM
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อุปสรรคที่สำคัญที่สุด เรื่องหนึ่งสำ หรับการยกระดับศักยภาพของประเทศ คือ กฎเกณฑ์ที่ล้าสมัย ไม่เท่าทันกับรูปแบบการ บริหารธุรกิจและการบริหารความเสี่ยงในโลกใหม่ ธปท. จึงได้เริ่มโครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน (Foreign Exchange Regulation Reform) เป็นลำดับแรก ซึ่งแม้ที่ผ่านมาจะมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ใน เรื่องนี้มาเป็นระยะ แต่หลายเรื่องไม่สอดคล้องกับบริบทของระบบเศรษฐกิจระบบการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยในวันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศโครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงิน (Foreign Exchange Regulation Reform) มีแนวทางในหลายๆประการด้วยกัน ประการหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือ การปรับกฏเกณฑ์ใหม่ ด้วยการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินตราต่างประเทศ (FX license) แก่บริษัทหลักทรัพย์ โดยให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (quote FX) กับลูกค้าทั้งที่เป็นผู้ลงทุนไทยและต่างชาติได้ภายใต้ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ (brokerage) จากก่อนหน้านี้ที่เคยออกระเบียบว่าให้การซื้อ หรือขายเงินตราต่างประเทศ เพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต้องทำกับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น
นอกจากนั้น ยังผ่อนคลายกฏเกณฑ์ให้บุคคลรายย่อยที่มีสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่ 50 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 100 ล้านบาท สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยไม่ผ่านตัวแทนการลงทุนในประเทศ ภายใต้วงเงินลงทุน (grossflow) ไม่เกิน USD 1 ล้าน ต่อรายต่อปี ซึ่งเป็นการแก้ไขกฏเกณฑ์เดิมที่เคยกำหนดว่าบุคคลรายย่อยที่มีสินทรัพย์ทางการเงินต่ำากว่า 100 ล้านบาท ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยผ่านตัวแทนการลงทุนในประเทศเท่านั้น ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และ ธนาคารพาณิชย์
รวมทั้งยังอนุมัติให้ผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาด TFEX รายใหม่ๆ สามารถยื่นขอใบอนุญาตเป็น broker currency futures หรือเป็นนายหน้าในการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ เป็นการรื้อกฏเดิมที่ไม่อนุมัติผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ไม่สามารถยื่นขอประกอบธุรกิจ currency futures broker หรือนายหน้าซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้
โดยการดำเนินการดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้อนุมัติให้ MC หรือผู้ต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สามารถซื้อขายธนบัตรเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ หรือ MC ในต่างประเทศได้ จากเดิมที่กำหนด สามารถซื้อขายธนบัตรเงินตราต่างประเทศกับธนาคารพาณิชย์ และ MC ในประเทศได้เท่านั้น
และรวมทั้งให้MC สามารถซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับลูกค้าในรูปอิเล็กทรอนิกส์ สกุลเงินตราต่างประเทศเช่น e-money ได้ จากเดิมที่เคยกำหนดให้สามารถประกอบธุรกิจ FX ได้เฉพาะการซื้อธนบัตรต่างประเทศหรือเช็คเดินทางที่จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ และขายธนบัตรต่างประเทศแก่ผู้ที่จะเดินทางออกนอกประเทศ เท่านั้น
นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า นอกจากนั้น ยังมีแนวทางการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินอื่นๆที่คณะทำงานได้เห็นชอบร่วมกันแล้วแบ่งเป็น 4 เรื่องหลัก (รายละเอียดตามเอกสารแนบ) ได้แก่
1. ลดขั้นตอนและเอกสาร เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งสนับสนุนการใช้ อิเล็กทรอนิกส์
2. ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงได้คล่องตัวมากขึ้น
3. เพิ่มทางเลือกให้รายย่อยท าธุรกรรมผ่านผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินและโอนเงินระหว่าง ประเทศ รวมทั้งสนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพื่อการค้าการลงทุนในภูมิภาค
4. เพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่นักลงทุนไทยและเพิ่มผู้ให้บริการเพื่อให้เกิดการแข่งขัน โครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน (ease of doing business) โดย ธปท. ยังคงรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อนำมาปรับปรุงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในอนาคตต่อไป
http://www.biztempnews.com/index.php/finance/item/15632-ธปทอนุมัติบลซื้อขายเงินต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2017, 08:09:20 PM
ตามข้อมูลการเข้าลงทุนของนักเก็งกำไรสุทธิของ IMM ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ดอลลาร์สหรัฐตกอยู่ในแดนลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ในสัปดาห์ก่อนเนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐ เงินเฟ้อที่ที่ทำให้ค่าเงินอ่อนแอ และการดึงผลตอบแทนพันธบัตรต่ำลงบน USD
การเร่งขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นในยูโรโซนน่าจะกระตุ้นการหมุนเวียนเงินดอลลาร์สหรัฐออกเป็นสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเงินยูโร
ค่าเงินยูโรหดตัวลงจากระดับสูงสุดสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่ดีขึ้นและความสำเร็จของ Macron ในการเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสทำให้ความรู้สึกของ EUR ขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ โฟกัสอยู่ที่ ECB และคำแนะนำว่ากำลังเตรียมพร้อมที่จะลดโครงการ QE ในปีหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 01, 2017, 08:18:08 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2017, 09:06:34 PM
ISM Manufacturing PMI เดิม 57.8 คาด 56.4 ออก 56.3 เป็นผลบวกกับทอง
Construction Spending m/m เดิม 0.0% คาด 0.4% ออก เป็นผลบวกกับทอง
ISM Manufacturing Prices เดิม 55.0 คาด 56.5 ออก เป็นผลลบกับทอง
โดยรวมเป็นผลบวกกับทองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 01, 2017, 09:24:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 02, 2017, 07:22:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 02, 2017, 07:42:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 02, 2017, 07:50:20 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 02, 2017, 08:08:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 02, 2017, 08:27:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:12:20 AM
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 791.88 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +52.32 จุด อยู่ที่ 22,016.24 จุด
(+) ข่าวที่ส่งผลบวกต่อทอง
-อัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 178,000 ตำแหน่ง
(-) ข่าวที่ส่งผลลบต่อทอง
-สต็อกน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่าคาดที่ -1.5 ล้านบาร์เรล
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:20:41 AM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 03, 2017, 08:39:05 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 09:15:26 AM
m:22 กว่าจะแก้พอร์ได้ เล่น เช้าเลย.....ลงทุน ไป 1050 เหรียญ ตอนปั้นมาได้ 200% ล่ะ... m:29สุดยอดจริงๆท่านดาร์ em5.gif em4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 03, 2017, 09:21:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 09:50:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 03, 2017, 09:55:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:19:42 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:23:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:28:00 AM
ไม่รู้เดียวปิดเดียวเปิด รอดูให้แน่ใจ โบรกอาจมาตั้งในไทยได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:30:25 AM
เล่นกับธนาคารไทยง่ายดี
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:37:56 AM
บริเวณ 1265 ก่อนที่ช่วงเช้าตอนตลาดเงียบๆ มีเเรงขายออกมาจำนวนนึงทำให้ราคาตกไปเเถว 1255 ก่อนที่จะรีบาวกลับมา โดยมีเเนวรับที่ 1260 เราจึงเเนะนำรอซื้อบริเวณ 1260 เพราะเทรนหลักยังเป็นขาขึ้นอยู่
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 11:42:34 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 05:43:37 PM
เรามองว่าราคาทองจะขึ้นไปทดสอบเเนวต้านที่ 1265 ก่อนหากสามารถกลับไปเล่นเหนือ
1265 ได้ก็จะไปทดสอบต่อที่ระดับ 1270 ดังนั้นเราจึงเเนะนำซื้อถ้าราคายืนได้เหนือบริเวณ
1265 เเละขายทำกำไรที่ 1270
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 05:51:39 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:35:40 PM
รายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claims) ครั้งก่อน 244,000 คาดการณ์ 242,000 ออกจริง 240,000
ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการคนว่างงานออกมาดีกว่าที่คาด ส่งผลลบกับทองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:36:34 PM
ขอบคุณครับ .png)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:52:45 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 03, 2017, 07:57:26 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 04, 2017, 06:02:56 PM
ค่อนข้าง Mixed (อีกแล้ว)
-หากมองย้อนรายงานตัวเลขภาคการผลิตและจัดซื้อของสหรัฐฯ จะเห็นว่าในสัปดาห์นี้ ภาพรวมออกมาค่อนข้าง"ลดลง"
-ขณะที่ หากมองย้อนสัปดาห์ก่อนหน้า ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามกัน นั่นคือ ภาพรวมออกมาไปทาง"เพิ่มขึ้น"
..............
เบื้องต้น หาก อัตราต้วเลขการว่างงานออกมาคงที่ (ย้ำคงที่นะครับ) ตัวเลขการจ้างงาน ออก
-มากกว่า 190K-222K ทองย่อ
คล้ายภาพ แนวโน้ม A
-ออกมาน้อยกว่า 170K ปรับขึ้น
คล้ายภาพ แนวโน้ม B
ไม่น่าทำ New High
**แต่จากนำข้อมูลทางเทคนิค มาประกอบการพิจารณา มีโอกาสมากกว่า 65-70% ที่ตัวเลข NFP ครั้งนี้จะออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาด
โชคดีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 04, 2017, 06:09:09 PM
ช่วงบ่ายราคาซึมอยู่ในกรอบ 1267-1270 ไร้ปัจจัยพื้นฐาน คาดนักลงทุนรอเล่น
ข่าวการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-farm payroll) คืนนี้มองกรอบ
1260-1280 แนะนำเล่นด้วยความระมัดระวัง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 04, 2017, 06:28:18 PM
เพราะ สภาพเมกา ตอนนี้ ไม่ได้น่าเกลียดแล้ว
กลับมาอยู่สภาวะปกติในด้านตัวเลข
ที่น่าเกลียดตอนนี้คือ ทรัม
ปล่อยข่าวตัวเองว่า เป็นคนเขียนบทสัมภาษให้ลูกชาย เรื่อง กิ้กรัสเซีย
เขา จงใจ กดดอลล่า
เพื่อ..
เร่ง ตลาดแรงงาน
เขตนั้นคือ เป้าหลักของทรัม
ถ้าทรัมไม่มากด เอง ดอลล่า บินไป นานแล้ว
แต่ ถ้า ทำแบบนั้น ภาคธุรกิจจะพัวทันที เพราะนโยบายการตัดภาษี มันจะทำนให้เกิดฟองสบู่แตก
ทรัมจำเป็น ต้องกดดอลล่าลงเอง ด้วยเหตุผลนี้
นอนฟารม ผมให้ เกินคาดการ แต่ตำ่กว่าครั้งที่แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 04, 2017, 07:06:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ สิงหาคม 04, 2017, 07:11:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 07, 2017, 04:34:14 PM
เกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายโดยมุ่งหวังที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งในรูปแบบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำถึงติดลบ รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบหรือที่เราคุ้นชินกับคำว่า มาตรการ QE ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมาสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจโลกอยู่ในระดับสูง เม็ดเงินเหล่านั้นได้กระจายเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงทองคำเช่นกัน
ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวกลับสู่ระดับการขยายตัวถือเป็น "ปกติ" ดัชนีชี้วัดระบบเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรปและเอเชียล้วนแต่บ่งชี้ไปในทิศทางที่เข้มแข็งขึ้น และแน่นอนว่าเมื่อเวลา “เปลี่ยน” เศรษฐกิจโลก “เปลี่ยน” ไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็ส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มส่งสัญญาณว่าจะ “เปลี่ยน” แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินจากเดิมที่เป็นไปในลักษณะผ่อนคลายเพื่อกลับสู่ภาวะปกติ (Monetary Policy Normalization) เช่นกัน
โดยธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED ถือว่าเป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นกระบวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงมีการประกาศจะเริ่มต้นปรับลดขนาดงบดุล FED ในปีนี้ด้วย ล่าสุดธนาคารกลางชั้นนำหลายแห่งนอกเหนือจาก FED อาทิ ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB, ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE, และธนาคารกลางแคนาดา ออกมาส่งสารที่สอดคล้องกัน
คือ ธนาคารกลางทั่วโลกจะมีการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ มาตรการ QE และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แน่นอนว่าสัญญาณแบบสายเหยี่ยวจากธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดสินทรัพย์ทั่วโลก แรงกระทบดังกล่าว กระเพื่อมมากกว่าผลการประชุมครั้งล่าสุดของ FED ซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในระยะสั้นถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลายแห่งที่บ่งชี้ว่าจะปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายส่งผลหนุนให้ยูโร ดอลลาร์แคนาดาและปอนด์แข็งค่าซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าและส่งผลในเชิงบวกต่อราคาทองคำ
แนวโน้มดังกล่าวกลายเป็นปัจจัยใหม่ที่อาจกดดันราคาทองคำในอนาคต เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทั่วโลกส่งผลให้เกิดแรงเทขายพันธบัตรระยะยาวจากนักลงทุนและเป็นผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลให้ต้นทุนในการถือครองทองคำก็สูงขึ้นตามไปด้วยเพราะทองคำนั้นไม่ให้ดอกเบี้ยผลตอบแทนในการถือครองและปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำ
จุดสิ้นสุดของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายที่ใกล้เข้ามา ถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนทองคำจะต้องเรียนรู้และเตรียมพร้อมรับมือเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนติดตามความชัดเจนของการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆอย่างใกล้ชิด
ที่มา MGR Online
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 07, 2017, 04:36:08 PM
ปัจจัยที่เอื้อ ตอนนี้ คือ การขายปลีกที่เพิ่มขึ้น จากการจับจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่มีการกระโดดของตัวเลข
คาดว่า 10.00 ในวันจัน nzd expectation QoQ. เชื่อว่าเคลื่อนที่ ราว 200จุดได้ ตัวเลขครั้งที่แล้ว 2.2% เป็นตัวเลขคาดหวัง แต่ ตัวเลขเงินเฟ้อจริง คือ 1.7% ต่ำกว่ามากที่ ธนาคารต้องการมาก และชี้ไปทางที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวอีก ดูจาก หลายๆประเทศที่ผ่านมา นอกจาก แคนนาดา ยังไม่มีใครตัดสินใจ เรื่องดอก เลย
เป็นไปได้ ว่า จะ ออกมาต่ำกว่าครั้งที่แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 07, 2017, 04:37:59 PM
-->สรุปสัปดาที่ผ่านมา
USDJPY เป็นไซด์เวย์ โดยวันจันถึงพุธก่อตัวเป็น morning star แบบหลอก ก่อนที่จะมาทุบในวันพฤหัส แล้วพอวันศุกก็บินกลับขึ้นไป (USDJPY อาทิตหน้าคาดว่าน่าจะกลับเป็นเทรนขึ้น เพราะตอนนี้มาสร้างแนวรับใหม่ไว้ที่ 109.84 แล้วโดยเชื่อมกันสองยอดของวันพฤหัส ศุก ละก็จุดตำ่สุดของเมื่อสองเดือนก่อน)
-->GA เป็นกราฟที่มีการกลับเทรนวันพฤหัส โดยกลับแรงมากขนิดที่ว่า แค่วันพฤหัส กับศุก ก็ลง เกือบถึงจุดที่เปิดราคาไปวันจันแล้ว โดยอย่าลืมว่าตอนเปิดตอนแรก สามวันเป็นแทรนขึ้นอยู่ (ส่วน GA ยังไม่แน่ว่าจะลงต่อรึเปล่า)
***ข่าวที่น่าเล่นในสัปดาหน้า
-->วันจันที่ 7/8
-14.30 GBP ข่าวราคาบ้านของฮาลิแฟ็กซ์ อันนี้คาดว่าจะออกมาในทาง BUY เพราะสัปดาที่แล้วดัชนีราคาบ้านของรัฐบาลก็ออกมาบวก ครั้งที่แล้ววันที่ 7 กรกฎา วิ่ง 200 จุด
-->วันอังคารที่ 8/8
-6.00 GBP ข่าวการขายปลีก คาดว่าจะออกมาในทาง buy เพราะตัวเลข ครั้งก่อนอยุ่ที่ 1.2 % ส่วนตอนนี้ตัวเลขที่ไม่เป็นทางการอยู่ที่ 2.6 % ครั้งก่อน วิ่ง 100 จุด ตอนวันที่ 10 กรกฎา
-6.50 JPY adjusted current account อันนี้เกี่ยวกับส่งออกนำเข้าอันไหนมากกว่า อันนี้คาดว่าจะออกมา ทำให้ UJ เซล เพราะว่าเดือนที่ผ่านมา ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นออกมาดี ครั้งก่อนวันที่ 6 กรกฎา วิ่งไป 150 จุด
-08.30 Aud ข่าวNAB Business Confidence
-21.00 USD ข่าวตำแหน่งงานที่พร้อมรับ อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวกนะ เพราะตัวเลขเกี่ยวกับรายได้ครั้งก่อน มันดีขึ้นแสดงให้เห็นว่าต้องมีการเข้าทำงานเพิ่ม ก็คือถ้าคนจะเข้าทำงานได้ ดังนั้นต้องมีตำแหน่งงานให้สมัครก่อน ครั้งก่อน ตอนวันที่ 11 กรกฎา วิ่งไป 100 จุด
-->วันพุธที่ 9/8
-7.30 AUD ข่าวดัชนีชี้วัดผู้บริโภค อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบ เพราะว่าเสดกิดออส ตอนนี้ดูจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องอยู่ จากตัวเลขเสดกิดที่มันไม่ค่อยกระเตื้องในช่วงหลังๆดูจะลดการเจริญเติบโตไป แบบดูโตช้าลง เลยคาดว่าน่าจะทำให้เงินออส อ่อน แล้วน่าจะทำให้ GA ได้บาย แต่ครั้งก่อนตัวนี้ออกมาวันที่ 10 กรกฎา ว่งไป 85 จุด
-08.30 Aud ข่าว Westac Consumer Confidence
-19.30 USD non farm productivity อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะการจะมีผลผลิตได้ ก็แสดงว่าการจ้างงานจะต้องมีมากซึ่ง ข่าวเกี่ยวกับการจ้างงานของนอนฟาม อาทิตที่แล้วก็ออกมาแล้วว่าดีขึ้น ดังนั้นคาดว่าจะได้ buy โดยอันนี้ย้อนไปดูไม่ได้ว่าวิ่งกี่จุดพราะข่าวออกเป็นไตรมาศละมันย้อนไปไกลนิดนึง ไปดูไม่ถึง
-->วันฤหัสที่ 10
-04.00 NZD ข่าวดอกเบี้ย
-15.30 GBP Manufacturing Production อันนี้ไฮไลท์มากๆพราะคราวก่อน วันที่ 7 กรกฎา ทุบลงไป ถึง 200 จุด ในไทม์เฟรม M 5 ละ M 30 ทุบไป 400 จุด โดยอันนี้ส่วนตัวคิดว่าจะออกมาในทาง buy เพราะ ยอดการสงออกล่าสุด ออกมาในทางบวก และการส่งออกก็น่าจะออกมาจากผลผลิตในประเทส เลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวๆกัน แต่ก็อยากให้ครูช่วยดูเพราะคาดว่าตัวนี้แหละที่จะทำกำไรได้เยอะในสัปดานี้
19.30 USD PPI อันนี้ยังไม่รู้วิธีคำนวนแบบละเอียด ถ้าครูมีวิธีคำนวน ก็อยากได้เหมือนกันนะ แต่จะลองวิเคราะห์ดูคร่าวๆจากการดูว่ามันเกี่ยวกับข่าวอะไร โดยอันนี้เกี่ยวกับอำนาจการต่อรองของผู้ผลิต ซึ่งถ้ามีผลผลิตมาก ผู้ผลิต ก็น่าจะมีอำนาจการต่อรองราคาสูง ซึ่งนั่นจะเป็นผลดี และตัวเลขเกี่ยวกับการผลิตในเดือนที่แล้วก็ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ก็เลยคิดว่าน่าจะทำให้ข่าวนี้ได้ buy โดยครั้งล่าสุดข่าวนี้ออกมาวันที่ 13 กค. กราฟวิ่งไป 150 จุด
-->วันศุกที่ 11/8
-05.45 NZD ข่าวเงินเฟ้อ
-08.00 Aud ข่าว Consumer Inflation Expectation
19.30 CORE CPI ข่าวนี้แรงมากๆ แต่ว่าโดยส่วนตัวกลัวและไม่กล้าวิเคราะห์เพราะครั้งก่อนที่มันออกมา วิเคราะห์ไปผิดทาง แล้วโดนล้างพอร์ต เลยโดยอันนี้เป็นดัชนีการชี้วัดผู้บริโภค อันนี้น่าจะขึ้นกับข่าวภาคการผบิตและภาคการบริการเพราผู้บริโภคเปนผู้เข้าไปใช้บริการ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขบ่งชี้ว่าภาคการบริการ ออกมาดีกว่าคาดการณื แต่ในส่วนของภาคการลิตนั้น ตัวเลขจะออกมาในวันพฤหัส ซึ่งจะออกมาก่อนหน้าข่าวนี้เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่ ก็คาดไว้ว่าจะ buy ดังนั้น ตามคาดการณ์ตอนนี้ก็คิดว่าจะ buy เหมือนกันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้ครูช่วยดูให้ด้วยเพราะว่าอาทิตนี้คาดหวังไว้กะข่าว สามตัว ซึ่งมีตัวนี้เป็นหนึ่งในนั้นด้วยโดยครั้งก่อนในวันที่14กรกฎา กราฟวิ่งไป 300 จุดในไทมเฟรม M 5 และ 750 จุด ในT/F m30
ปล. อ้อ ถ้าจะเล่นตามเทรน วัน พฤหัส อย่าลืม ปิด UJ เพราะตอน ตี 1 ของวันศุก มีข่าว Uj
-----####----- cr.credit
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 08, 2017, 07:30:21 PM
.
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นใกล้แตะ 111 เยนในวันนี้ โดยได้รับแรงซื้อต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 20.27 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.20% สู่ระดับ 110.89 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.30% สู่ระดับ 130.67 เยน และขยับขึ้น 0.14% สู่ระดับ 1.1785 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.06% สู่ระดับ 93.48
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันศุกร์
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า แรงซื้อดอลลาร์ยังคงถูกจำกัด โดยนักลงทุนมีความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในสหรัฐ ขณะที่การสอบสวนกรณีรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีที่แล้วยังคงดำเนินต่อไป
ที่มา ryt9
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 08, 2017, 07:31:21 PM
นอกจากนี้ นาย Bullard แสดงความกังวลว่าการที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำนี้ อาจมิได้เป็นเพียงภาวะชั่วคราว เนื่องจากปัจจัยที่จัดเป็น persistent factor อาทิเช่น พัฒนาการทางเทคโนโลยี นั้นส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการหลายประเภท
ด้านนาย Neel Kashkari, Federal Reserve Bank of Minneapolis President (Voter) กล่าวในทำนองเดียวกันว่าการที่ระดับอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย มีความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถทำให้ระดับอัตราเงินเฟ้อเข้าสู้ระดับเป้าหมายได้ และธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ต้องการความเชื่อมั่นจากนักลงทุนโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเงิน
ดังนั้น นาย Kashkari จึงมีความต้องการที่จะเห็นการขยายตัวของอัตราค่าจ้างในระดับที่สูงขึ้น เพื่อประโยชน์ของแรงงาน ชุมชน รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ เองด้วย
Source: BOTSS
Fed won't need to raise interest rates in near term: Bullard
https://www.cnbc.com/2017/08/07/fed-wont-need-to-raise-interest-rates-in-near-term-bullard.html
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 08, 2017, 07:39:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 08, 2017, 07:41:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 08, 2017, 10:37:50 PM
ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินจากสินทรัพย์ ปลอดภัย อย่างทอง เข้าสู้หุ้น ทำให้ทองคำร่วงลงมา 10เหรียญ
ด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นมาก หากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีการปรับตัวดีขึ้น
"อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันยังคงมีความเหมาะสมในระยะใกล้" นายบูลลาร์ดระบุ
ทั้งนี้ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ อยู่ที่ระดับ 1.5% และอยู่ห่างจากระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นายบูลลาร์ดกล่าวว่า มีการคาดการณ์กันว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นเพียงแค่ระดับ 1.8% ถึงแม้อัตราการว่างงานของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 3% จากระดับ 4.3% ในปัจจุบัน ซึ่งจากการที่มีแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อย ทำให้เฟดจึงไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
#ทองลง
#อินเตอร์โกลด์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 08, 2017, 10:40:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2017, 07:10:08 AM
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 786.87 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ -36.64 จุด อยู่ที่ 22,048.70 จุด
(+) ข่าวที่ส่งผลบวกต่อทอง
-สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด -6.5 ล้านบาร์เรล
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 10, 2017, 07:29:32 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2017, 07:31:34 PM
สภาพเศรษฐกิจ มีการ จัดจ่ายงานอย่างมากมาย การว่างงานนั้นลดลงมาก จริงๆ ตัวเลขของพนก.พาทไทม พุ่งแบบก้าวกระโดด แต่จำนวนพนก.งานประจำขยับลดลง มานิด
สิ่งที่พบในตลาดแรงงาน มีอัตรารายได้-0.4% และผลงานของแรงงานต่ำมาก
ค่าอาหาร ยังคงสูง อยู่ เมื่อดู รายได้มาประกอบ ทำให้เห็นว่า ยอดขายปลีก ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จุดสังเกตและสอดคล้องกันคือ การใช้บัตรเครดิต ที่กระหน่ำรูดแบบ ระห่ำ ความมั่นใจผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ดีที่ ดอกเบี้ยของญี่ปุ่น -0.1%
ในภาคธุรกิจ ได้ผมดีในการขอท่าน้ มากและเชื่อว่ามีนโยบายสนัยสนุน ดูจากตัวเลขการล้มละลาย ลดลงแบบ ทุบลงมาซึ่งถือว่าดีทีเดียว บรษัทที่สำรวจยังถือว่าญี่ปุนยังถือว่า ดีเลย
พอมาดูด้านการผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ดูน่าผิดหวังมาก จริงๆ แต่โรงงานขนาดกลางการเมืองญี่ปุ่น การที่แรงงาน มีศักยภาพห่วยแตก ส่งผลในทางลบ ต่อ ภาพเศรษฐกิจชัดเจน
ทำให้ มองว่า การนำเข้าส่งออกจะไปในทางขาดดุลย์มากกว่า
มองไม่เห็นว่าจะญี่ปุ่นจะ บวกได้ไง
สิ่งทีต้องจับตา คือนโยบายการเงิน
การเมือง ยังถือว่าดีกว่า อเมริกามาก
สงคราม....มีบ้างเพราะเมกา
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2017, 07:41:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 10, 2017, 08:56:40 PM
วันนี้ผมไม่ว่าทั้งวันเลย เลยไม่ค่อยได้มาคุย
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ สิงหาคม 10, 2017, 08:57:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2017, 11:57:29 AM
นายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ของสหรัฐที่มีการขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์นั้น ถือเป็นเหตุผลล่าสุดที่อาจทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มฟื้นตัวขึ้น
"อีกครั้งหนึ่งที่เราได้เห็นดัชนี CPI ขยายตัวในระดับที่ต่ำมาก เราควรรอดูสัญญาณบ่งชี้ด้านเงินเฟ้อให้ชัดเจนกว่านี้ ก่อนที่จะดำเนินการใดๆกับนโยบายการเงิน" นายแคชแครีกล่าวในการประชุมนายธนาคารซึ่งจัดขึ้นในรัฐมินเนอาโพลิส
การแสดงความเห็นของนายแคชแครีมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. โดยดัชนีขยายตัวที่ระดับ 0.1% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ การแสดงความเห็นของนายแคชแครียังสอดคล้องกับความเห็นของนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ซึ่งกล่าวเมื่อวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับ"เป็นกลาง" ดังนั้นเฟดควรจะรอด้วยความอดทนต่อไปเพื่อหาหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น ก่อนที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินครั้งใหม่
ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 38% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ โดยลดลงจาก 45% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI
ที่มา ryt9
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 13, 2017, 01:21:20 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 13, 2017, 03:19:50 PM
แสดงว่างานนี้ USD มันคงต้องอ่อนต่อเนื่องแน่ ๆ เลย จากอาทิตย์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นมาเพื่อที่จะทำการย่อขึ้นมาพักเพื่อที่จะลงต่อไป จากที่ได้ติดตามเฝ้าดูคู่ EU ตอนนี้ถึงจะเบรคเกิน 1.18300 ได้แต่ก็ยังคงปิดเหนือราคานี้ไม่ได้เลย ล่าสุดปิดที่ 1.18206 ถ้าปิดได้เหนือราคาดังกล่าวได้ผมคิดว่ามันจะบินไปต่อได้แน่ ๆ เพราะมันค่อนข้างจะสอดคล้องกับข่าวนี้
ส่วนคู่ GU ก็ทำทรงกราฟคล้าย ๆ กัน หากปิดเหนือราคา 1.30200 ได้ก็จะไปต่อได้ (กราฟ H4)
ส่วนคู่ DXY H1 ก็เข้าสู่เทรนด์ขาลงอีกครั้ง จนมาถึงแนวรับ W1 (92.03) เจาะลงแล้วเด้งขึ้น หากวันจันทร์โดนเจาะลงไปอีก USD ก็จะอ่อนตัวเต็ม ๆ
em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 13, 2017, 04:23:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2017, 06:25:09 PM
ทรัมป์เตรียมที่จะทำสงครามการค้ากับจีน หลังจากแซงชั่นรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือเรียบร้อยแล้ว รวมท้ังเตรียมมาตรการทางทหารที่จะเข้าไปล้มรัฐบาลมูโดโรของเวเนซูเอล่า
ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์โทรแจ้งสี จิ้นผิง ผู้นำจีนว่าเขาได้สั่งให้ผู้แทนการค้าตรวจสอบการดำเนินนโยบายทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน ขอให้เตรียมรับมือให้ดีๆ เพราะว่าที่คุยกันก่อนหน้านี้กับสี ให้สีช่วยปรามคิมน้อยแต่ไม่ทำอะไรเลย เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง จำเป็นที่ทรัมป์ต้องตอบโต้จีนด้วยสงครามการค้า
ทรัมป์ได้มอบหมายให้สำนักงานตัวแทนการค้า (US Trade Representative) ให้ไปรวบรวมข้อมูลการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าจีน และการที่จีนบีบให้บริษัทอเมริกันให้ส่งผ่านเทคโนโลยี่ให้บริษัทจีนอย่างไม่เป็นธรรม (forced transfer of technology)ในการทำธุรกิจ
อย่างที่บอก เกาหลีเหนือเป็นเพียงเป้าหลอกของทรัมป์ เป้าจริงคือจีน เพราะว่าจีนกำลังเดินหน้าเพื่อแซงสหรัฐเพื่อเป็นเบอร์1ของโลกทางเศรษฐกิจ ทรัมป์ต้องทำทุกอย่างเพื่อสกัดไม่ให้จีนไปถึงดวงดาว การปั่นคิมน้อยให้เป็นกระแสภัยคุกคามความมั่นคงของสหรัฐก็เพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมายหลักคือการจัดการกับจีนทางด้านเศรษฐกิจแลัการค้าในเบื้องต้น จีนรู้เกมตื้นๆของทรัมป์ดี จึงเล่นผสมโรงด้วยการสนับสนุนคิมน้อยอย่างเต็มที่ในการขู่ทรัมป์กลับด้วยสงครามนิวเคลียร์
สำนักงานUSTRจะสอบสวนจีนตามมาตร301ของกฎหมายการค้าสหรัฐว่าจีนดำเนินนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งก็ต้องหาเรื่องให้เจออยู่แล้ว ทรัมป์จะลงนามตอบโต้จีนด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามรายการที่แล้วแต่จะเลือกเอาตามใจสอบ เพื่อให้จีนขายของในตลาดสหรัฐไม่ได้
ต้องคอยดูว่าจีนจะตอบโต้สงครามการค้ากับสหรัฐอย่างไร ช่วงนี้ทรัมป์หน้าหงายเพราะเห็นขีปนาวุธนิวเคลียร์ของคิมน้อยแล้วขนลุกเหมือนกัน จึงอาจจะเบนความสนใจมายังจีนก่อน เพื่อให้เพนตากอนได้มีโอกาสตั้งหลักคิดแผนการที่จะจัดการกับจีนและเกาหลีเหนือไปพร้อมๆกันไปเลย
http://www.nbcmontana.com/news/trump-to-china-trade-probe-is-coming-monday/603744666
thanong
13/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 09:45:39 AM
ทองเริ่มเข้าสู่โหมดพักฐานสะสมพลังใหม่อีกรอบในวันนี้ หลังจากที่วันศุกร์ไม่สามารถข้าม 1293 ได้ โดยรวมในสัปดาห์นี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเยอะและประชุมเล็กของเฟด จึงน่าจะทำให้ราคาทองแกว่งตัวผันผวน ประกอบกับความตึงเครียดจากเกาหลีเหนือยังหลอกหลอนตลาดหุ้นทั่วโลก จึงยังทำให้ทองเป็นภาพเชิงบวกต่อ กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น ย่อซื้อขึ้นขาย คาดการแกว่งตัว SW UP วันนี้รอซื้อเมื่อย่อตัว 1275-1282 เหรียญ ทองไม่ควรหลุด 1270 เหรียญเพื่อรักษาภาพเชิงบวก
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 14, 2017, 10:36:39 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 14, 2017, 10:57:41 AM
1. เวเนซูเอลา -- เศรษฐกิจกำลังแย่ เงินเฟ้อพุ่งหลายร้อยเปอร์เซนต์ การเมืองสั่นคลอน: ทรัมป์บอกเดี๋ยวส่งทหารเข้าไปจัดการให้ .. ผลคือ โดนรัฐบาลลาตินอเมริกาหลายแห่งประนามว่าเผือก
2. ความรุนแรงที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ -- กลุ่มคนขาวนักแบ่งแยกชาติพันธุ์หัวรุนแรง สร้างความโกลาหลในเมือง จนมีคนเสียชีวิต: ทรัมป์นิ่ง ไม่ออกมาประนาม อารมณ์ให้ท้าย .. ผลคือ โดนพรรคตัวเองด่า
3. ความตึงเครียดกับเกาหลี -- คิมจองอุนขู่ถล่มเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนในอานัติของสหรัฐฯ ทรัมป์บอก กรูก็ล็อคเป้าและบรรจุกระสุน (Locked and loaded) เตรียมถล่มเอ็งเช่นกัน .. ผลคือทั่วโลกกลัวสงครามนิวเคลียร์บังเกิด โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเซียยิ่งมีความกังวลเป็นพิเศษ
ใครที่แช่งให้ทรัมป์ทำสหรัฐฯ พังไปซะ อาจจะต้องหยุดแช่ง แล้วหันมาสวดมนต์ให้นายทรัมป์ได้สติเสียที .. เพราะถึงเราจะไม่ได้เลือกนายทรัมป์ขึ้นมา ไม่ใช่ประเทศเรา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าผู้นำประเทศใหญ่ขยับตัวไปในทางเสื่อม มันก็ส่งผลลบไปทั่วโลกเช่นกัน และเผอิญเราดันอยู่ในโลกเดียวกันซะด้วย
ช่วย เสริม ท่าน tee
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 14, 2017, 02:15:31 PM
เกี่ยวกับเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธนั้นหลายคนยังคงสับสนว่า เกาหลีเหนือจะเริ่มก่อสงครามจริงหรือ? การยิงขีปนาวุธพิสัยไกลในครั้งนี้ ทางเกาหลีเหนือนั้นต้องการเพื่อทำการทดลองการยิงอาวุธเหมือนกับครั้งก่อน ๆ เพราะว่าเป้าหมายไม่ใช่เกิดขึ้นและเล็งเป้าตรง ๆ ไปยังเกาะกวมเลยทีเดียว แต่เป้าคืออยู่ในทะเลห่างจากเกาะกวมประมาณ 30-40 กิโลเมตร
ส่วนทางด้านเบเนสู่เอ้ลลา (Venezuela) นั้น ทางฝ่ายรัฐบาลที่นำโดยมาดู้โรนั้น สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มควบคุมสถานการณ์ปัจจุบันได้แล้ว โดยฝ่ายกบฏเริ่มอ่อนแรงลง ทางสหรัฐเลยจะทำการส่งทหารของตนบุกเข้าไปเพื่อโค่นล้มรัฐบาลเพื่อโค่นล้มมาดู้โรให้ได้ (อเมริกาสนับสนุนกลุ่มกบฏ) ส่วนฝ่ายรัฐบาลบอกว่าตอนนี้หากรัฐบาลโดนอเมริกาบุกเข้ามาจริง ๆ ก็ต้องเจอกลุ่มพันธมิตรในเขตละตินอเมริกาประมาณ 10 กว่าประเทศจะร่วมมือช่วยกันถล่มกลับสหรัฐอเมริกาอย่างสาสม โดยบอกว่าอเมริกาจะเจ็บกว่าตนถึง 15 เท่ากันเลยทีเดียว
สรุปแล้วอเมริกาเปิดศึกหลายด้านเหลือเกิน.. แถมล่าสุดก็ศึกภายในอย่างเวอร์จิเนียอีก ไหนจะเรื่องการเมืองภายในอีก ส่วนล่าสุด Fedwatch ก็บอกว่าอาจไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนธันวาคมนี้... ไหนเลยจากการ Sanction กับรัสเซียอีกซึ่งประเทศสมาชิกยุโรปหลายประเทศไม่พอใจเพราะต้องนำเข้าก๊าซจากทางฝั่งรัสเซียอยู่ เพราะจากที่อ่านข่าวมาหลายสำนักบอกว่าเหมือนเป็นการบีบให้ประเทศยุโรปต้องหันไปซื้อเชื้อเพลิง(ก๊าซ) จากทางฝั่งอเมริกาแทน เหมือนกับที่ยูเครนเองปัจจุบันก็ต้องหันไปซื้อถ่านหินจากทางฝังอเมริกาแทนแล้วด้วยราคาที่แพงกว่าเดิมถึงสามเท่า.. เพราะโดยปรกติยูเครนเองนั้นจะซื้อจากทางฝั่งของฝ่ายกบฏโปรรัสเซีย แต่กลุ่มฝ่ายขวาจัดกลุ่มโปรรัฐบาลก็ดันไปปิดเส้นทางหรือถล่มเส้นทางการขนส่งทำให้การขนส่งทำไม่ได้ เลยจำเป็นต้องนำเข้าถ่านหินจากอเมริกาแทน
AT4.gif
Make America GREAN Again !!
AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 02:37:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 14, 2017, 04:09:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 04:59:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 14, 2017, 05:05:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 06:17:33 PM
ดู ยังงัย ครับ ท่าน tee ดู ไม่ค่อย ออก อ่ะด็สกุลอื่นติดลบไปเรื่อยๆ ซ้ายสุดคือ USD ตะกร้าเงิน ณ ตอนนั้น USDยังแข็งอยู่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 14, 2017, 06:49:54 PM
ขอบคุณมากครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 07:05:45 PM
วันจัน
- 6.50 มีข่าว GDP ญี่ปุ่น คิดว่าไตรมาศนี้น่าจะออกมาดีกว่าคาดการณ์เพราะรายได้หลักของญี่ปุ่นที่มาจากภาคโรงงานก็ดูดีขึ้นโดยไตรมาศนี้ยอดหารผลิตของโรงงานตำ่กว่าคาดการณ์แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง แถมยังมีราคาส่งออกที่ค่อนข้างสูงแสดงให้เห็นถึงอำนาจต่อรองของญี่ปุ่นได้อย่างดี
- 8.30 ข่าว AUD เป็นการประชุมธนาคารก็คือเขาจะเข้าประชุมกัน ต้องรออ่านสรุปประชุม น่าจะเป็นการประชุมเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเสดกิดและการเงินต่างๆ
(8.30 ผมเข้าใจว่าออสเตเรียจะขึ้น)
วันอังคาร
- 19.30 ข่าวการขายปลีกของเมกา อันนี้โดยส่วนตัวคาดว่าจะตำ่ลง เพราะดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่น่าจะเกี่ยวกับการซื้อขายปลีกลดลงในเดือนที่แล้วโดยกราฟเดือนที่แล้วข่าวนี้วิ่ง 150 จุด USDCAD น่าจะ เซล
วันพุธ
- 8.30 ข่าวการขึ้นเงินเดือนของออสเตรเลียอันนี้ คาดว่าจะปรับตัวได้ถึงตามเป้านะ เพราะเป้าอยู่ที่ 1.8 % ละภาคตลาดแรงงานในช่วงที่ผ่านมาก็โตขึ้นมาก ดังนั้นส่วนตัวคิดว่า การปรับขึ้นแค่ นี ไม่น่าใช่ปัญหาอะไรอันนี้ย้อนไปดูกราฟไม่ได้ เพราะล่าสุดเดือนมีนานู่น gbpaud เซล
- 15.30 unemployment rate ของอังกิดอันนี้คาดว่าน่าจะออกมาในทางบวกนะเพราะว่าตัวเลขที่เกี่ยวกับตลาดแรงงานออกมาค่อนข้างสูงรวมไปถึงตัวเลขด้านการผลิตด้วย ซึ่งผลผลิตก็มาจากแรงงานอยู่แล้วดังนั้นเลยคิดว่าการว่างงานไม่น่ามีมากเท่าไหร่นักสำหรับอังกิดครั้งก่อน วันที่ 12 กค วิ่ง 250 จุด GBPAUD น่าจะบาย
วันพฤหัส
- 8.30 unemployment rate ของออสอันนี้ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจเลยว่าออกมาทางลบ เพราะว่าข่าวตลาดแรงงานของพวกคนจบใหม่ที่ออกมาเมื่อสองอาทิตก่อนก็เปนของเดือนก่อนหน้าเหมือนกับข่าวนี้ออกมาในทางลบ เพราะมีอัตราว่างงานสูงขึ้นถึง 2 % กว่าๆ เลยคาดว่าน่าจะส่งผลต่อตลาดแรงงานโดยรวมด้วย(ที่อันนี้วิเคราะไม่เหมือนกับเรื่องเงินเดือน เพราะอันนั้นเขาเป็นข่าวระยะยาว อันนี้เป็นรายเดือนต่อเดือน) ครั้งก่อนข่าวนี้ วิ่ง 100 จุด ถ้าสเปรดไม่ถ่างมากก็น่าเล่นนะ GBPAUD น่าจะ บาย
- 15.30 ข่าวขายปลีก
ของอังกิด อันนี้ส่วนตัวคาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะยอดเงินหมุนเวียนในประเทศสูงขึ้นและยังมีเงินเดือนที่สูงขึ้นอีกซึ่งนาจะเอามาซัพพอทในการจับจ่ายใช้สอยได้เปนอย่างดี ซึ่งครั้งก่อน กราฟวิ่งไป 150 จุด บวกกับกระชากอีกนิดๆรวมๆก้ 200 จุดได้ ถ้าหากว่าปืดทันนะ GBPAUD น่าจะ บาย
- 19.30 Manufacturing Sales ของ Canada อันนี้คาดว่าออกมาในทางบวก เพราะว่ายอดการส่งออกของแคนาดาเดือนที่ผ่านมาเป็นบวก และการส่งออกส่วนมากของประเทศนี้ก็เกี่ยวกับการผลิตนี่หละ ส่วนกราฟย้อนไปวัดไม่ได้เพราะออกล่าสุดเดือนพฤษภา USDCAD น่าจะเซล
- 20.15 industrial production ของเมกา อันนี้ถึงครั้งก่อนจะไม่วิ่ง แต่จะลองดูอีกครั้ง เพราะมันเคยเป้นข่าวที่วิ่งมาก่อน โดยส่วนตัวคาดว่าครั้งนี้ยอดการผลิตอันนี้จะออกมาเปนบวก เพราะมันเปนข่าวที่ค่อนข้างจะพ้อง กะนอนฟาม เนื่องจากอันนี้คือภาคอุตสาหกรม และนอนฟาม คือที่ไม่ใช่ภาคเกษตร ประกอบกับยอดการสั่งซื้อจากตปท เดือนที่ผ่านมา ของเมกา สูงขึ้นเลยคาดว่า ยอดการ ผลิต ของภาค อุตสาหกรรม ก็น่าจะสูงขึ้นด้วย USDCAD น่าจะ buy
วันศุกร์
- 19.30 Core CPI ของแคนาดา อันนี้ยังไม่กล้าทำ เพราะไม่มั่นใจ**ส่งการบ้าน ตารางเทรดข่าวระหว่างวันที่ 14-18/8**
วันจัน
- 6.50 มีข่าว GDP ญี่ปุ่น คิดว่าไตรมาศนี้น่าจะออกมาดีกว่าคาดการณ์เพราะรายได้หลักของญี่ปุ่นที่มาจากภาคโรงงานก็ดูดีขึ้นโดยไตรมาศนี้ยอดหารผลิตของโรงงานตำ่กว่าคาดการณ์แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง แถมยังมีราคาส่งออกที่ค่อนข้างสูงแสดงให้เห็นถึงอำนาจต่อรองของญี่ปุ่นได้อย่างดี
- 8.30 ข่าว AUD เป็นการประชุมธนาคารก็คือเขาจะเข้าประชุมกัน ต้องรออ่านสรุปประชุม น่าจะเป็นการประชุมเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายเสดกิดและการเงินต่างๆ
(8.30 ผมเข้าใจว่าออสเตเรียจะขึ้น)
วันอังคาร
- 19.30 ข่าวการขายปลีกของเมกา อันนี้โดยส่วนตัวคาดว่าจะตำ่ลง เพราะดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่น่าจะเกี่ยวกับการซื้อขายปลีกลดลงในเดือนที่แล้วโดยกราฟเดือนที่แล้วข่าวนี้วิ่ง 150 จุด USDCAD น่าจะ เซล
วันพุธ
- 8.30 ข่าวการขึ้นเงินเดือนของออสเตรเลียอันนี้ คาดว่าจะปรับตัวได้ถึงตามเป้านะ เพราะเป้าอยู่ที่ 1.8 % ละภาคตลาดแรงงานในช่วงที่ผ่านมาก็โตขึ้นมาก ดังนั้นส่วนตัวคิดว่า การปรับขึ้นแค่ นี ไม่น่าใช่ปัญหาอะไรอันนี้ย้อนไปดูกราฟไม่ได้ เพราะล่าสุดเดือนมีนานู่น gbpaud เซล
- 15.30 unemployment rate ของอังกิดอันนี้คาดว่าน่าจะออกมาในทางบวกนะเพราะว่าตัวเลขที่เกี่ยวกับตลาดแรงงานออกมาค่อนข้างสูงรวมไปถึงตัวเลขด้านการผลิตด้วย ซึ่งผลผลิตก็มาจากแรงงานอยู่แล้วดังนั้นเลยคิดว่าการว่างงานไม่น่ามีมากเท่าไหร่นักสำหรับอังกิดครั้งก่อน วันที่ 12 กค วิ่ง 250 จุด GBPAUD น่าจะบาย
วันพฤหัส
- 8.30 unemployment rate ของออสอันนี้ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจเลยว่าออกมาทางลบ เพราะว่าข่าวตลาดแรงงานของพวกคนจบใหม่ที่ออกมาเมื่อสองอาทิตก่อนก็เปนของเดือนก่อนหน้าเหมือนกับข่าวนี้ออกมาในทางลบ เพราะมีอัตราว่างงานสูงขึ้นถึง 2 % กว่าๆ เลยคาดว่าน่าจะส่งผลต่อตลาดแรงงานโดยรวมด้วย(ที่อันนี้วิเคราะไม่เหมือนกับเรื่องเงินเดือน เพราะอันนั้นเขาเป็นข่าวระยะยาว อันนี้เป็นรายเดือนต่อเดือน) ครั้งก่อนข่าวนี้ วิ่ง 100 จุด ถ้าสเปรดไม่ถ่างมากก็น่าเล่นนะ GBPAUD น่าจะ บาย
- 15.30 ข่าวขายปลีก
ของอังกิด อันนี้ส่วนตัวคาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะยอดเงินหมุนเวียนในประเทศสูงขึ้นและยังมีเงินเดือนที่สูงขึ้นอีกซึ่งนาจะเอามาซัพพอทในการจับจ่ายใช้สอยได้เปนอย่างดี ซึ่งครั้งก่อน กราฟวิ่งไป 150 จุด บวกกับกระชากอีกนิดๆรวมๆก้ 200 จุดได้ ถ้าหากว่าปืดทันนะ GBPAUD น่าจะ บาย
- 19.30 Manufacturing Sales ของ Canada อันนี้คาดว่าออกมาในทางบวก เพราะว่ายอดการส่งออกของแคนาดาเดือนที่ผ่านมาเป็นบวก และการส่งออกส่วนมากของประเทศนี้ก็เกี่ยวกับการผลิตนี่หละ ส่วนกราฟย้อนไปวัดไม่ได้เพราะออกล่าสุดเดือนพฤษภา USDCAD น่าจะเซล
- 20.15 industrial production ของเมกา อันนี้ถึงครั้งก่อนจะไม่วิ่ง แต่จะลองดูอีกครั้ง เพราะมันเคยเป้นข่าวที่วิ่งมาก่อน โดยส่วนตัวคาดว่าครั้งนี้ยอดการผลิตอันนี้จะออกมาเปนบวก เพราะมันเปนข่าวที่ค่อนข้างจะพ้อง กะนอนฟาม เนื่องจากอันนี้คือภาคอุตสาหกรม และนอนฟาม คือที่ไม่ใช่ภาคเกษตร ประกอบกับยอดการสั่งซื้อจากตปท เดือนที่ผ่านมา ของเมกา สูงขึ้นเลยคาดว่า ยอดการ ผลิต ของภาค อุตสาหกรรม ก็น่าจะสูงขึ้นด้วย USDCAD น่าจะ buy
วันศุกร์
- 19.30 Core CPI ของแคนาดา อันนี้ยังไม่กล้าทำ เพราะไม่มั่นใจว่าหลักการจะเหมือนของเมการึเปล่า ถ้าสมมติว่าเหมือนก็คาดว่าจะออกมาในทางบวก แต่ก็ไม่อยากฟัน ธง ดังนั้นอันนี้เลยจะขอให้ครูช่วยนะฮะ
-----####----cr.setsisri
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 14, 2017, 07:10:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2017, 08:42:51 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 14, 2017, 08:55:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:42:46 PM
การประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้นั้น จะมีการรือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและประเทศต่างๆทั่วโลก โดยจะมีผู้ว่าการธนาคาร รัฐมนตรีกระทรวงคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย
สำหรับในการประชุมปีนี้ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเข้าร่วมด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่า นายดรากีอาจจะส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะลดการพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:47:15 PM
*สูง USD 01.00 น. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
(เช้าวันที่ 17 ส.ค.) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:49:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:50:04 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 17, 2017, 08:32:58 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 17, 2017, 08:38:54 AM
เมือคืนตี 1 วิ่งแรงมากเกิบทุกคู่เลย สู้ครับท่าน 
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 17, 2017, 08:46:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 17, 2017, 08:48:26 AM
นั่นสิท่าน เข้ามาขโมยของตอนหลับสนิทสะด้วย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 18, 2017, 02:55:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 18, 2017, 02:56:04 PM
นายแคปแลน ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการเฟดที่มีสิทธิ์ออกเสียงกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในปีนี้ ระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอทำให้เขามีความกังวล ดังนั้นเขาจึงต้องการสิ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวสู่ทิศทางขาขึ้น "ในช่วงระยะกลาง" ก่อนที่เขาจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ทั้งนี้ ในรายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ค. ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน โดยฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า การชะลอตัวลงของราคาผู้บริโภคเป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นชั่วคราว พร้อมกับเสนอว่าเฟดไม่ควรถอนมาตรการคุมเข้มทางการเงิน ขณะที่อีกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงนายแคปแลนนั้น มีความเห็นตรงกันข้าม
"ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังเคลื่อนตัวลงนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา" แคปแลนกล่าวเสริม โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปีของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 2.2%
"ผมค่อนข้างหวั่นวิตกกับข้อมูลดังกล่าว และคิดว่าเราจำเป็นต้องอดทนและมีความระมัดระวังและรอบคอบเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไป" แคปแลนกล่าว
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 18, 2017, 03:41:53 PM
สูง USD 21.15 น. FOMC นาย Kaplan ประธานเฟสสาขาดัลลัสกล่าวสุนทรพจน์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 18, 2017, 08:31:38 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 18, 2017, 08:36:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 18, 2017, 08:44:10 PM
ครับท่านที รอลุ้นข่าวรอบสุดท้ายอยู่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 18, 2017, 08:48:38 PM
ราคาทองบวกต่อเนื่องทำ HIGH ใหม่และกำลังเคาะประตู1300 เหรียญ คืนนี้มีลุ้นขึ้นต่อ แต่ตัวเลขประกาศไม่มาก ทองจะไกลแค่ไหนต้องลุ้นตลาดหุ้นสหรัฐลงต่อไหมและ USD จะลงอีกครั้งหรือไม่ แนะนำขายทำกำไร ลดพอร์ต เล่นสั้นไปก่อน ไว้ยืน 1300-1307 เหรียญ ได้ค่อยเก็งกำไรต่อ กรอบวันนี้ 1285-1305 เหรียญ
แนวต้าน 1300/1305/1310
แนวรับ 1285/1280/1275
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 18, 2017, 09:03:07 PM
.png)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 21, 2017, 10:39:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 21, 2017, 11:18:00 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 21, 2017, 11:36:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 21, 2017, 05:17:05 PM
วันจันทร์ 21 สิงหาคม 2017
ข่าว, ต่างประเทศ, ทันเหตุการณ์
การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีใต้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่าวันนี้(21 ส.ค.) การซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ครั้งแรก หลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปสองลูกไปเมื่อเดือนที่แล้วและขู่ที่จะโจมตีเกาะกวม โดยการซ้อมรบร่วมภายใต้ชื่อ อึลจีฟรีดอมการ์เดียน (Ulchi Freedom Guardian) จะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ และเน้นไปที่ยุทธศาสตร์การป้องปรามร่วม โดยสหรัฐฯได้ส่งทหารเข้าร่วมจำนวน 17,500 นาย แต่ลดลงมาจากก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกของกองกำลังสหประชาชาติเข้าร่วมด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยทหารจากออสเตรเลีย แคนาดา โคลอมเบีย เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์และอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯสามนายจะเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้น
ส่วนในฝั่งของเกาหลีใต้นั้น มีการส่งทหารเข้าร่วมจำนวนหลายหมื่นนาย แต่กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจน โดยบอกเพียงว่า จำนวนทหารที่เข้าฝึกในปีนี้พอๆกับปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วนั้นตัวเลขอยู่ที่ 5 หมื่นนาย
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 21, 2017, 08:38:47 PM
แหม..ทั้งคู่นี่มันก็ผลัดกันยั่วยุ พอ ๆ กันเลย em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 23, 2017, 09:28:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 23, 2017, 09:30:55 AM
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1751 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1816 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2826 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2899 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7906 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7938 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.52 เยน จากระดับ 108.75 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9684 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9617 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.49% สู่ระดับ 93.554 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าเฟดจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินหลังจากนี้นั้น ได้บรรเทาลง สืบเนื่องจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 41% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านสหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
นอกจากการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 23, 2017, 09:31:24 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2017, 10:20:59 AM
ขอบคุณมากครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 23, 2017, 10:52:01 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2017, 01:42:29 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ สิงหาคม 23, 2017, 01:48:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2017, 01:54:51 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 23, 2017, 03:05:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2017, 04:16:46 PM
จะรีบไปไหน .gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 24, 2017, 09:16:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 24, 2017, 09:26:05 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 24, 2017, 10:11:11 AM
ประมาณไปสร้างกำเเพง ซึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นถึงความขัดเเย้งภายในรัฐบาลของทรัมป์เอง
ส่วนเรื่องเทคนิคในระยยาวเเละสั้นกราฟยังฟอร์มตัวเป็นขาขึ้นดังนั้นเราจึงเเนะนำซื้อโดยให้
ราคาเป้าหมายที่ 1295 เเละมีเเนวรับที่ 1287 1282 ตามลำดับ
บทวิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2560 (ช่วงเช้า)
#บทวิเคราะห์ทอง #ซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์
#อินเตอร์โกลด์ #InterGOLD #ลงทุนทองคำแท่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 24, 2017, 07:37:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 24, 2017, 08:12:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 24, 2017, 09:10:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 24, 2017, 09:29:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 25, 2017, 02:56:43 PM
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูว่า นางเยลเลนจะส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่ ก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของนางเยลเลนจะหมดลงในเดือนก.พ.ปีนี้ ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะแต่งตั้งเธอให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมแจ็กสัน โฮล ในวันนี้เช่นกัน
การประชุมที่แจ็กสัน โฮล ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Fostering a Dynamic Global Economy" และมีขึ้นในช่วงเวลาที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา
Janet Yellen's omission of one key concept in her Jackson Hole speech could make waves on Wall Street
http://www.businessinsider.com/fed-chair-janet-yellen-jackson-hole-speech-preview-2017-8
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 25, 2017, 03:17:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 25, 2017, 06:10:09 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 25, 2017, 07:30:08 PM
ทองแกว่งSWกรอย 1280-90 แคบๆเพื่อรอระเบิดเป็นแนวโน้มใหม่ โดยคืนนี้จะมีปัจจัยข่าวตลอดทั้งคืน คาดว่าแกว่งทะลุด้านใดด้านหนึ่งเร๋วๆนี้ แนะนำเล่นสั้น รอเทรดตามแนวโน้ม ส่วนเฟด/ECBน่าจะคงเดิม
แนวรับ 1280/1275/1270
แนวต้าน 1290/1295/1300
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 25, 2017, 07:31:07 PM
Core Durable Goods Orders m/m เดิม 0.1% คาด 0.4% ออก 0.5% เป็นผลลบกับทอง
Durable Goods Orders m/m เดิม 6.4% คาด -6.0% ออก -6.8% เป็นผลบวกกับทอง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 25, 2017, 07:38:51 PM
คืนนี้รอป้าบ่นกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 25, 2017, 08:24:16 PM
Fed’s Kaplan: Could Hike Rates One More Time In 2017, Wants To See How Inflation Goes - BBG TV
From @DeItaOne
BREAKING
ตกลงเอาไงกันแน่เน๊าะ เดี๋ยวขึ้นบ้าง เดี๋ยวไม่ขึ้นบ้าง
รอป้าเยน ตอน 3 ทุ่มดีกว่า mm27
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 25, 2017, 08:43:48 PM
AT4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 25, 2017, 08:50:09 PM
ขึ้นแล้วก็ดิ่งหลายคู่เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ สิงหาคม 25, 2017, 08:59:50 PM
กำลังตัดสินใจว่าจะเข้า Buy Gold อยู่
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 31, 2017, 04:14:32 PM
ผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกก๊วนเดียวกันที่เชื่อในเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก คือ ฟรังโก มอดิเกลียนี และ เจมส์ โทบิน ตามลำดับ ทั้งคู่ได้รับรางวัลโนเบลทางเศรษฐศาสตร์ในเวลาต่อมา โดยนางเยลเลนเคยเข้าไปร่วมรับฟังการพรีเซ้นท์ผลงานเพื่อจบดอกเตอร์เอกของนายดรากิ ในตอนนั้นทั้งคู่ได้มีโอกาสประชุมเชิงวิชาการร่วมกันแบบนักเศรษฐศาสตร์วัยใสเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน
ข้ามมา 40 ปีต่อมา ที่งานสัมมนาเฟด ณ เมืองแจ็คสันโฮล ปี 2017 ทั้งคู่ กลับมาเป็นไฮไลต์ของงานอีกครั้ง บทความนี้ ขอประเมินสุนทรพจน์ของทั้งคู่ ดังนี้
ผมมองว่า นายดรากิ พูดมีนัยที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
ผมคิดว่านายดรากิน่าจะมองว่านโยบายการเงินสำหรับยุโรปถือว่ามาสู่จุดที่พ้นโหมดผ่อนคลายได้ในไม่ช้าจึงมุ่งเน้นในส่วนของเสถียรภาพของสถาบันการเงินในช่วงท้ายของสุนทรพจน์ โดยมองว่าในช่วงนโยบายการเงินแบบอัตราดอกเบี้ยต่ำ การยกการ์ดสูงของนโยบายสถาบันการเงินเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจเติบโตตามนโยบายการเงินที่เอื้อให้เกิดฟองสบู่ได้แบบไม่เสี่ยง
หากสังเกตดีๆ นายดรากิพูดเพื่อโน้มน้าวให้กระแสที่มาแรงมากในช่วง 1-2 ปีนี้ คือ ‘protectionism’ ลดระดับความน่าเชื่อถือลงโดยเขาตั้งคำถามว่าภายใต้สภาวะแวดล้อมที่โลกตะวันตกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จะมีตัวช่วยใดที่สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้เร็วพอที่จะช่วยเลี้ยงดูผู้สูงอายุในอีก 10-20 ปีต่อจากนี้ คำตอบคือการเปิดให้มีการค้าขายกันอย่างเสรี เนื่องจากสิ่งนี้ จะไปเพิ่มระดับผลิตภาพหรือ ประสิทธิภาพในการผลิต ให้ทันกับแรงงานที่ลดลง หากคิดเหมือนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ที่คิดจะเอาแต่ตัวเองรอดโดยไปกีดกันการค้ากับประเทศอื่นๆ ท้ายสุด สหรัฐเองจะไม่รอดเองในระยะยาว ทั้งนี้ประโยคสุดท้ายนั้น นายดรากิมิได้พูดตรงๆ แต่คงจะตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
สาม นายดรากิได้ยกตัวอย่าง ‘ประชานิยม’ ที่ว่ากันว่าจะเป็นตัวขจัดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน โดยแท้จริงแล้ว สหภาพยุโรปได้ทำให้ ‘การเปิดกว้างทางการค้าและแรงงาน’ มีความเท่าเทียมและปลอดภัยได้โดยที่สหภาพยุโรปได้ทำให้เห็นผ่านการออกกฎหมาย Single European Act ในปี 1986
โดยรวมแล้ว เนื้อความที่นายดรากิกล่าวนั้น ถือว่าเป็นสุนทรพจน์ที่มีนัยทางการเมืองอยู่ไม่น้อย
มาถึงคิวของเจ้าภาพของงานนี้กันบ้าง ผมประเมินสุนทรพจน์ของนางเยลเลน พร้อมๆกับการอ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด แล้วรู้สึกได้เลยว่าทีมเฟดรู้สึกอึดอัดกับการแก้กฎหมายทางการเงินสหรัฐหรือ Dodd frank bill ของรัฐบาลสหรัฐที่เวอร์ชั่นเดิมปรับให้เข้มต่อแบงก์มากขึ้นให้กลับไปให้อ่อนลง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของธนาคารพาณิชย์โดยตรง หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสไปนับคำที่นางเยลเลนใช้บ่อยที่สุดในสุนทรพจน์ของงานสัมมนาแจ็คสันโฮล ปี 2017 คำที่เธอใช้บ่อยที่สุดคือ ‘regulation’ มีการพูดซ้ำคำๆ นี้ถึง 20 ครั้ง ในการกล่าวสุนทรพจน์เป็นเวลา 18 นาที คงไม่ต้องพูดถึงความอึดอัดใจกับการแก้กฎหมาย Dodd frank bill ของนางเยลเลน
ในสุนทรพจน์นี้ นางเยลเลนตอบคำถามของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ว่ากฎหมายการเงินที่เข้มจะไปกดให้การเติบโตเศรษฐกิจลดลงว่าแม้งานวิจัยต่างๆ จะไม่ฟันธงว่าการที่ดำรงอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงขึ้น จะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นจริงๆหรือไม่ ทว่านางเยลเลนได้กล่าวว่าช่วงปี 2009 ที่แบงก์สหรัฐได้เข้าโปรแกรมที่บังคับให้ดำรงอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้สูงขึ้นนั้น ได้ส่งผลให้แบงก์สหรัฐมีการปล่อยท่าน้และผลกำไรดีกว่าแบงก์ต่างๆ ทั่วโลก แม้ผู้ที่มีคะแนนเครดิตแย่ จะไม่ได้รับการปล่อยสินเชื่อก็ตาม
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังได้กล่าวว่าภายใต้บรรยากาศที่ตลาดหุ้นได้ถูกกองทุนที่ใช้ algorithm หรือการตั้งสูตรทางคณิตศาสตร์โดยใช้ AI คลอบงำในการเทรดนั้น กฎ Volcker Rule ที่แยกบัญชีของแบงก์ที่มาจากเงินฝากและสินเชื่อออกจากบัญชีของแบงก์ที่ใช้เทรดหุ้น จะสามารถป้องกันไม่ให้แบงก์ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาดหุ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ค้านกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ทั้งหมด
มาถึงคำถามที่หลายคนอยากทราบคือ แล้วมีสัญญาณอะไรที่นางเยลเลนส่งถึงการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปไหม
ก่อนไปถึงตรงนั้น สำหรับงานสัมมนาแจ็คสันโฮว์เที่ยวนี้ จะเห็นว่าสุนทรพจน์ของเยลเลนมีเนื้อหาค้านกับสิ่งที่ทรัมป์ทำอยู่อย่างชัดเจน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอในตำแหน่งประธานเฟดกับงานประชุมหนนี้
ในมุมของนโยบายการเงินนั้น ถ้าท่านยังจำได้ การลงจากตำแหน่งของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ฝากชาวโลกไว้ด้วยการลดขนาด QE ในการประชุมเฟดแบบเป็นทางการครั้งสุดท้ายของนางเยลเลน ผมยังคิดว่าการที่น่าจะลงจากตำแหน่งประธานเฟดของนางเยลเลน ก็น่าจะฝากชาวโลกไว้ด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามของเฟด รวมถึงการลดขนาดงบดุลมีโอกาสสูงขึ้นมากกว่าเดิมที่น่าจะเกิดขึ้นหลังเดือนก.ย.นี้
อาจกล่าวได้ว่า หลังการประชุม ค่อนข้างชัดว่าเฟดน่าจะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลออกไป 1-2 เดือนจากตารางเวลาที่ตลาดเคยคาดไว้ก่อนการประชุม ในขณะที่อีซีบีกลับส่งสัญญาณแบบลางๆ เหมือนจะย้ำว่า หากนายดรากิจะลดขนาด QE ก็ไม่น่าจะแปลกใจ เพราะนายดรากิไม่พูดถึงความกังวลเรื่องค่าเงินยูโรที่แข็งขึ้นเลยในการประชุมครั้งนี้จะเห็นได้ว่า 40 ปีต่อมา นายดรากิก็กลับมาให้กำลังใจนางเยลเลนในฐานะผู้มาเยือนกับงานสัมมนาวิชาการของเฟด ก่อนที่น่าจะจากกันเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะที่ทั้งคู่เป็นนายธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกครับ
โดย ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ
คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ "มุมคิดมหภาค"
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642347
ภาพจาก Financial Review
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 31, 2017, 04:57:18 PM
รอพรุ้งนี้อย่างเดียวเลยตอนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 09:38:43 AM
-SPDR ซื้อเพิ่ม 14.78 ตัน ถือครองสุทธิ 831.21 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +39.46 จุด อยู่ที่ 21,987.56 จุด
-อัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาต่ำกว่าคาดที่ 156,000 ราย
-อัตราการว่างงานสูงกว่าคาดที่ 4.4%
-เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ไฮโดรเจนหลังจากตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าได้มีการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 จริง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 04, 2017, 09:46:44 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 09:47:05 AM
--> Usd
ปิดตัวได้ห่วยที่สุดแม้ตัวเลขการผลติและการเงินหมุนเวียนในประอัตราขะดีขึ้นแต่ตัวเลขสำคัญอย่างนอนฟาร์ม และ อัตราการว่างงาน กลับออกมาในทางลบอย่างน่าตกใจ เพราะเมื่อตอนทุ่มครึ่งทั้งๆที่เทรนเริ่มจะกลับตัวแล้วแรงจากนอนฟาม และ จากอัตราว่างงานที่เพิ้มมากขึ้นยังสามารถกระชากให้กราฟที่เปนเขียวมาลงไปแดงได้ แถมแรงขนาดที่ว่านาทีเดียวทุบลงไปนับร้อยจุด ประกอบกับสถานการสงครามนำ้ลายกับเกาหลีเหนือตอนนี้็ยังตึงๆอยู่แถมด้วยเกาหลีเนหือเพิ่งยิงจรวดข้ามญป ที่ถือเปนพันธมิตรกับเมกาไปอีก สถานการตอนนี้ของเมกาเลยดูแย่ๆหน่อย
-->Gbp
สัปดานี้ ถือว่าออกมาในทาที่ดีเลย ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นจากอาทิตที่แล้ว มูลค่าพันธบัตรรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นแต่อันี้จะก่อปัญหาเล็กน้อยเชิงหนี้สะสมซึ่งกว่าปัญหาจะมาก็คงอีกนานพอควร แต่สิ่งที่ออกมาแย่หน่อยก็คือราคาบ้าน ก็เพราะว่าราคาบ้านเนี่ยเริ่มต่ำลง ซึ่งราคาบ้านต่ำลงก็อาาจจะมาจากกำลังซื้อที่ต่ำลงซึ่งยังไม่สอดคล้องกับว่าทำไมมีธนาคารปล่อยเงินท่าน้ที่รัฐให้การยอมรับเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังไม่สามาถออกมาซัฟเรื่องราคาบ้านได้
-->Aud
ทางด้านของ AUD
ตลาดหุ้นถทอว่าประบตัวขึ้นค่อนข้างสูง โดยคาดว่าน่าจะเปนผลพลอยได้จากการที่ อัตราการว่างงานโดยรวมของเดือนที่แล้วต่ำลงจาก 5.7% เหลือเพียง 5.6% แม้ว่าหากมองลงไปลึกๆแล้วจะสามารถคาดการได้เลยว่าเดือนหน้าอัตราว่างงานจะสูงขึ้นแน่นอน เดราะตำแหน่งการจ้างงานทั้งงานประจำและงานพาร์ทไทม์ลดลงอย่างมากในเดือนที่ผ่านมา บวกกับนโยบายการเพิ่มอายุการเกษียณ จาก 65 เปน 65.5 นั่นคาดว่าจะทำให้คนจบใหม่จะหางานหด้ยากขึ้นส่งผลกับตลาดแรงงานแน่นอน และประกอบกับอัตราเงินเดือนที่ต่ำลง คาดว่าจะส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงาน เลยค่อนข้างมั่นใจว่าอัตราว่างงานในเดือนนหน้า น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนส่วนทางด้านยอดการส่งออกและนำเข้า ในเดือนที่แล้ว ยอดส่งออกมากกว่ายอดนำเข้า แต่ก็ปกติจองออสอยู่แล้วที่ส่งออกมากกว่า แต่ในเดือนที่แล้วถือว่าผลต่างค่อนข้างน้อย จากเดือนก่อนนั้นที่ 2023 ล้าน เดือนนี้ลดบงมาเหลือแค่ 856 ล้าน โดยรวมฟคาดว่าภาพรวมของออส กำลังอ่อนตัวลง
-->Cad
สำหรับ CAD ปัญหาทางด้านเศรษฐกิตนำเข้าส่งออกไม่มีอะไร แต่ตัวเลขที่น่าสนจองประเทศนี้คือพวกสถิติ ต่างๆ เริ่มจาก อัตราการส่างงาน ที่ก่อนหน้านี้พุ่งสูงขึ้นตลอดสองสามเดือนเดือนนี้ก็เริ่มกลับตัวลงมาแล้วโดยลดลงมาอยู่ที่ 6.3% จาก 6.5% และยังมีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เปน 1.2% จาก 1.0% ซึ่งก็ถือว่ากำลังประบคัวขึ้นไปตามเป้สของรัฐบาลเขาที่เป้าอยู่ที่ 1.6% และนอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นเปน 0.75% จาก 0.5% ตัวเลขเดียวที่น่าเปนห่วงคือการส่งออกและนำเข้าลบกัน balance of trade นั่นเอง ทำมะดาก็ติดลบอยู่แล้ว แต่เดือนนี้ ลบ 3602 ล้าน จาก 1360 ซึ่งก็อาจจะเปนเพราะตัวแคนาดากำลังจะเข้าหน้าผนาว เลยต้องเพิ่มการนำเข้าผลิตภัณต่างๆรึเปล่า
**ตารางการเทรดสัปดานี้ ( 4-8/9/17)
-->วันจัน
เปนวันหยุดธนาคาร เมกา และแคนาดา เนื่องในวันแรงงาน
- 15.30 มีข่าว Construction PMI
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 04, 2017, 10:01:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 04, 2017, 10:10:03 AM
ได้โอกาสค่อยออกหมัด 
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 10:10:12 AM
-->วันจัน
เปนวันหยุดธนาคาร เมกา และแคนาดา เนื่องในวันแรงงาน
- 15.30 มีข่าว Construction PMI ของอังกฤษ อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบจากการที่ราคาบ้านของอังกฤษต่ำลง เลยตาดว่าพอราคาต่ำลงการสร้างก็น่าจะน้อยลงด้วย GA ก็น่าจะเซล ครั้งก่อนกราฟวิ่ง 150 จุดได้
-->วันอังคาร
- 8.30 Current account ของออส อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะยอดงบดุลการค้าของออสในไตรมาศที่ผ่านมาออกมาในทางที่ดีขึ้นทั้งสามเดือนแม้ว่าเดือนที่ผ่านมาจะเปนบวกน้อยไปนิดก็ตาม ดังนั้น GA ก็น่าจะเซล คาั้งก่อนวิ่ง 100 จุดนิดๆ
- 11.30 ข่าวอัตราดอกเบี้ยของออส อันนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนะ ละก็ข่าวดอกเบี้ยนี่ถ้าคงดอกเบี้ยยังไงก็เซล น่าจะได้สัก 300 จุด ได้อยู่
- 21.00 factory orders ของเมกา อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก จากยอดการผลิตเดือนที่แล้วที่เพิ่มขึ้นเลยคิดว่าอันนี้ที่เปนยอดย้อนหลัง ก็น่าจะออกมาเพิ่มเช่ากัน ถึงเขาจะคาดการออกมาเปนลบ แต่คาดว่าจะไม่ถึง -3.0% กราฟนี้วิ่งบ้างไม่วิ่งบ้าง เลยไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่
-->วันพุธ
- 8.30 GDP ของออส อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบ เพราะว่าเสดกิดในช่วงที่ผ่านๆมา ออกมาค่อนข้างลุ่มๆดอนๆ ละก็เดือนที่ผ่านมานี่ดูจะแย่เปนพิเศษ จุดแข็งเดียวจองออสคือการส่งออกละเดือนที่แล้วก็ต่ำลงมากด้วย GA ก็น่าจะบาย กราฟควรจะวิ่งได้เกือบๆ 200 จุดนะ
- 21.00 อัตราดอกเบี้ยของแคนาดา อันนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ก่อนเพราะเพิ่งประบขึ้นไป แม้ว่าตัวเลขเสดกิดจะค่อนข้างดี ดังนั้น Ucad ก็น่าจะเซล
-->วันพฤหัส
- 19.30 nonfarm productivity อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบ เพราะตัวเลขเดี่ยกับนอนฟาม ออกมาในทางลบหมดเลย กราฟน่าจะวิ่งได้เกือบๆ 300 จุด
-->วันศุก
- 15.30 ข่าวการผลิตของอังกฤษคาดว่าจะออกมาในทางบวกเพราะยอดการส่งออกเพื่มขึ้นกราฟควรจะวิ่งได้สัก 150 จุด น่าจะบาย
- 19.30 อัตราการว่างงานของแคนาดา อันนี้คาดว่าตะลดลงนะ ดังนั้น UCad น่าจะบาย เพราะว่าเดือนที่ผ่านมาตำแหน่งงานเปิดใหม่มากขึ้นเยอะกราฟน่าจะเซล ได้ถึง 200 จุด
Cr.setsiri
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 10:56:18 AM
มาถึงเจ้าพ่อแห่งกองทุน SPDR ซื้อเข้าทองคำเข้าเก็บ มากถึง 14.78 ตัน คือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก สำหรับการซื้อที่ระดับนี้ รวมสุทธิขณะนี้ ที่ 831.21 ตันครับ
รอบการขึ้่นของทองครั้งนี้ ผมมองว่า SPDR อาจจะได้ไปแตะที่ 900 ตัน ครับ
US INDEX ยังคงทรงตัวอยู่ที่แนว 92-93 คือ ยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปทางไหนดี รอข่าวต่อไปครับ
ดาวโจนส์ ปิดตลาดหลุด 22,000 ลงมาได้ เป็นสัญญาณว่า นักลงทุนทยอยถอนเงินออกจากตลาดหุ้น เอาเงินเข้ามาสู่สินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ ด้วยกับภาวะเสี่ยงต่อสงครามเช่นนี้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 10:56:55 AM
"ภัยคุกคามใดๆ ก็ตามที่มีต่อสหรัฐฯ หรือดินแดนของสหรัฐฯ เช่น เกาะกวม รวมทั้งภัยที่มีต่อพันธมิตรของเรา จะต้องพบกับการตอบโต้ทางทหารครั้งมโหฬาร ซึ่งจะเป็นการตอบโต้ที่ทั้งมีประสิทธิภาพ และโจมตีอย่างเต็มกำลังจากทุกด้าน" นายแมตทิสกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังหวังว่าจะสามารถปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้ "เพราะเราไม่ต้องการจะทำลายประเทศที่ชื่อว่าเกาหลีเหนือลงทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง"
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีกำหนดจะจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในวันนี้ (4 ส.ค.) ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ประณามการทดสอบดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์และอันตรายอย่างยิ่ง
ถอดรหัสภาพ คิมตรวจ 'หัวรบนิวเคลียร์' ก่อนเกาหลีเหนือ 'ทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6'
เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จทดสอบนิวเคลียร์
นายทรัมป์ยังชี้ว่าเกาหลีเหนือนั้นเป็น "ชาติอันธพาล" ซึ่งได้กลายมาเป็นความอับอายขายหน้าและภัยอันใหญ่หลวงต่อจีนซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ส่วนการพูดจาโน้มน้าวประนีประนอมของเกาหลีใต้ก็ไม่ได้ผล เพราะเกาหลีเหนือนั้น "รู้จักและเข้าใจอยู่เพียงสิ่งเดียว" ต่อมานายทรัมป์ยังได้ลงข้อความทางทวิตเตอร์ว่า จะหยุดทำการค้าทั้งหมดกับชาติใดก็ตามที่ร่วมคบค้าทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
ก่อนหน้านี้ นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือว่าเป็นสิ่งที่ "ให้อภัยไม่ได้" ส่วนประธานาธิบดีมุน เจ อิน ของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้มีการออกมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น มาตรการคว่ำบาตรที่จะโดดเดี่ยวเกาหลีเหนืออย่างสิ้นเชิง ส่วนรัสเซียเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าเจรจากัน ซึ่งนับเป็นทางออกเดียวจากปัญหานี้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 04, 2017, 11:06:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 04, 2017, 02:07:55 PM
กองทัพเกาหลีใต้จัดการซ้อมยิงขีปนาวุธที่ชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอ้างว่าเป็นระเบิดไฮโดรเจนวานนี้ (3 ก.ย.)
ผู้สื่อข่าวบีบีซีที่กรุงโซลรายงานว่า มีการซ้อมยิงขีปนาวุธจากเครื่องบินรบและการทดสอบยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้น "ฮุนมู" (Hyunmoo) ลงทะเล เพื่อเป็นการแสดงแสนยานุภาพ และส่งสัญญาณว่าเกาหลีใต้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังการโจมตีจากเกาหลีเหนือในระดับสูงสุด
กองทัพเกาหลีใต้แถลงด้วยว่า เป้าหมายของขีปนาวุธที่ตั้งไว้ในการซ้อมยิงครั้งนี้ ตั้งไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีสถานที่ทดลองนิวเคลียร์หมู่บ้านปุงเกของเกาหลีเหนือที่อาจมีขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่เกาหลีใต้ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ทำให้สามารถยิงทดสอบได้แต่ขีปนาวุธแบบดั้งเดิมเท่านั้น
สหรัฐฯ ขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยกำลังทหาร
ย้อนรอย 6 ครั้ง ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
"การซ้อมยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงถึงความมุ่งมั่นของกองทัพเกาหลีใต้ในการทำลายแหล่งกำเนิดการกระทำยั่วยุเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความแน่วแน่ที่จะทำลายผู้นำของศัตรูและกองกำลังสนับสนุน หากมีการข่มขู่คุกคามความปลอดภัยของประชาชนของเรา" โฆษกกองทัพเกาหลีใต้กล่าว
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 04, 2017, 02:23:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 04, 2017, 02:29:39 PM
พี่น้องกันทำไมต้องตีกันด้วยนะ .gif)
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 04, 2017, 02:32:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 08, 2017, 11:38:53 AM
นอกจาก จีนและรัสเซียเท่านั้น ความตั้งใจที่จะปั้นราคาทองเพื่อเอาเงินมาเข้าประเทศมันใช้ได้ดีทีเดียว
ราคาทอง มีผลต่อ ค่าเงินที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมรก เพราะแรงความกดดันทีเกิดขึ้น ส่งผลต่อความกลัวของนักลงทุน
จนเกิดการเทขายค่าเงิน เข้าถือ ทองคำ กลุุ่ม ประเทศที่ส่งออกและนำเข้าทองคำ จึงใช้โอกสในการเก็งกำไร ในระยะสั้นๆ เพื่อ ลดความเสี่ยงเพื่อ หลีกเลี่ยงการทุบราคา ดูได้จาก โบรคมีการ เปลี่ยนมือ ซื้อเข้าขายออก สลับไปมา เลี้ยงประคองราคาในอาทิตที่ผ่านมา ดูได้จาก กราฟที่เป็น โดจิ = การที่มีแรงเทขายซื้อเข้าในระดับสูสีกัน นั้นเอง
ดู จาก ราคาทองจะสร้างความลำบากต่อ ค่าเงินมาก เพราะ หลายตัวได้บงต่ำจนทะลุ แนวรับรายสัปดาไปหลายตัวแล้ว หากเป็นแบบนี้ ค่าเงินที่เกี่ยวข้อง จะเกิดการดีดกลับได้ เนื่องจากว่า
การที่ค่าเงินหดตัวลง อย่างมากส่งผลต่อพื้นฐานประเทศแบบอัตโนมัติ จะเกิดคำสั่งผลิตขึ้นและการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทันที ส่งผลต่อการส่งออกใน เดือนทัดไป เพราะ การส่งออกไม่สามารถเตรียมการในวันสองวันได้ ต้องอาศัยเวลาในการผลิต และการจัดเตรียมเอกสารต่าง
ประเทศที่ จะได้ ผลดี คือ อังกริด
อเมริกา ~ แต่ มีเรื่องพายุถล่ม อาจไม่ได้รับ ผลพรอยได้จากทองคำนี้
cr.setsisi
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 08, 2017, 12:04:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 08, 2017, 02:10:27 PM
ทองคำราคาวันนี้ วิ่งทะลุเข้าโซนราคาเดียวกันของปีที่แล้ว เช้านี้เบรกทำ New High รอบปีเป็นที่เรียบร้อย ระดับ 1353 เป็นการบวกเพิ่มรุนแรง สองวันติดจากแนว 1335 ท่ามกลางประเด็นบรรยายกาศความตรึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี บวกกับการอ่อนค่าของ USD ที่ช่วงนี้มีประเด็นกดดันทั้งการเมือง(เพดานหนี้) ประเด็น Fed และเรื่องพายุเฮอริเคน Harvey ที่รุนแรงและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับสหรัฐ
ราคาทองคำรอบนี้ ยกตัวผ่าน 1300 ช่วงต้นเดือน กย. ก็วิ่งทะยานต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ แม้ทำท่าชะลอแถวโซน 1335 แกว่งกรอบ 1325 - 1345 แต่ล่าสุดสัปดาห์นี้ก็มีแรงซื้อเข้ามาไล่ ลากทะลุโซนผ่าน 1350 ไปแล้ว คงลุ้นว่ายืนแนวนี้อยู่หรือไม่ เพราะมองด้าน sentimental ประเด็นเกาหลีเหนือก็ยังหาทางออก หรือยังไม่มีจุดลงตัว เช่นเดียวกันกับค่าเงิน usd ที่ประมาทไม่ได้ เพราะเข้าใกล้การประชุม FOMC ของ Fed โอกาสที่จะเกิด volatile และทำให้มีการกระชากตัวก็มีได้เช่นกัน
ทองคำสัปดาห์นี้ติดตามการยืนโซน 1350 ถ้าหมดแรงซื้อ ราคาอาจจะปรับตัวกลับมาพักแถว 1335 1325 ได้ เช่นเดียวกัน กรณีถ้ามีแรงซื้อทองคำเข้ามาเพิ่ม โอกาสจะได้เห็นการยกตัวไปทดสอบ 1362 ก็เป็นไปได้เช่นกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 08, 2017, 02:15:15 PM
กองทัพเรือของสหรัฐเปิดเผยว่า เรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกน ได้เดินทางออกจากฐานที่เมืองโยโกสึกะ เพื่อปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในระยะยาวแล้ววันนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยและความมั่นคงในบริเวณอินโด-เอเชีย-แปซิฟิค
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การออกลาดตระเวนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐและเกาหลีใต้เห็นพ้องเรื่องการประจำการของเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์และเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นในพื้นที่รอบๆและใกล้เคียงกับประเทศเกาหลีใต้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นกับการยิงขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
เรือโรนัลด์ เรแกน ได้ประจำการอยู่ที่เมืองโยโกสึกะตั้งแต่ช่วงต้นเดือนส.ค. หลังจากทที่ได้ปฏิบัติภารกิจระยะเวลา 3 เดือนควบคู่กับไปกับเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน ซึ่งประจำการอยู่ในทะเลญี่ปุ่น เพื่อทำภารกิจร่วมกับกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 08, 2017, 02:52:29 PM
จะเปิดฉากกันเมื่อไรนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 08, 2017, 03:27:19 PM
06.50 Japan GDP
15.30 UK Manufacturing Production
19.00 UK NIESR GDP Estimate
19.30 CAD Employment Season
วันนี้วันของอังกฤษ สหรัฐคืนนี้ไม่มีตัวให้ลุ้น สงสัยมีเทคกำไร
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปิดยืนๆ ปัจจัยไม่แน่นอน มีความกังวลบางอย่าง นักวิเคราะห์แต่ละสำนักเขียนกันไปคนละทางสองทาง
ดอลลาร์พาผิดหวัง นึกว่าโชคจะช่วยจาก Sell-Off EUR กลับเป็นว่าท่าน่ไม่กลับ
เมื่อวานลงก็ไม่ได้เหยี่ยวอะไรมากมาย แต่นักลงทุนถอดระหัสว่า โทนเสียงของลุงยาสีฟันเรื่องลด QE คือ When ไม่ใช่ If ดังนั้นมั่นใจได้ว่า ลดชัวร์ นอกจากนี้ยังมองกันว่า ลุงน่าจะลดในการประชุมเดือน ตุลาคมแทนที่จะเป็นเดือน ธันวาคม และ ทาง ECB เองยังปรับเป้า GDP เพิ่ขึ้น [ มองบวกกันขนาดนี้ สงสัยฉุดไม่อยู่แระ ]
ดอลลาร์เองยังได้รับผลกระทบจากเมื่อวานตัวเลขว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นไปได้จากผลกระทบของ ฮาร์วีย์ และ ลูกให้ที่จะมา ก็น่าจะเพิ่มความเสียหายให้สหรัฐ ดังนั้นนักขึ้นดอยมองว่า การขึ้นดอกเบี้ยคงจบแล้ว
ผลกระทบจากการลาออกของลุงฟิชเชอร์ สร้างความกังวลให้นักขึ้นดอยพอควร แถมอายุงานป้าเย็นก็ใกล้หมดแล้วด้วยเช่นกัน ลุงโด่ ทรัมป์จะส่งใครมาแทน
CAD รวมๆก็ยังแข็งแกร่ง และเป็นตัวที่กดดอลลาร์อีกตัวหนึง ถ้าวันนี้ตัวเลข Ivey ออกมาดีอีก แมวเหมียวของนู๋มาลี ได้เเข็งค่าระเบิดอีกรอบแน่ ดอลลาร์ตรู ชีช้ำกล่ำปลี
AUD NZD คงได้อนิสงค์ การอ่อนตัวของดอลลาร์
GBP ก็แข็งเเกร่ง เมื่อวานตัวเลขเศรษฐกิจกออกมาดี บากกับดอลลาร์อ่อนตัว วันนี้ตัวเลขสำคัญรอลุ้นช่วงบ่าย ค่ำ
GOLD อืมมม ไปสวรรค์อีกแล้ว ไปๆ แต่ วันที่ 9 เดือน 9 สงสัยไม่มีอะไรในก่อไผ่ ดูเหมือนว่า คนที่ได้กำไรที่สุดงานนี้คือ สหรัฐ อาวุธก็ขายได้ แถมทั้ง ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ กวักมือให้รีบๆ มาตั้งฐานทัพ จากเมื่อก่อนกีดกัน จีน กับ รัสเซีย คงสะดุดแระ ถ้าปล่อยให้นู๋คิมซ่าต่อไป ไม่ดีแน่ เดาว่าน่าจะเริ่มผ่อนคลายแระ ไม่งั้นเสียดุลแน่
ตลาดผัก เอาฮิ้ว............
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 08, 2017, 04:44:23 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ กันยายน 08, 2017, 06:02:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 09, 2017, 10:00:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 11, 2017, 01:31:06 PM
รัฐบาลเปียงยางประกาศกร้าวว่า สหรัฐ "ต้องชดใช้อย่างสาสม" หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) ว่าสหรัฐกำลัง "พยายามอย่างบ้าคลั่ง" ในการ "เป่าหู" ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ผ่านมติ "อันไร้ความชอบธรรม" ในการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลเปียงยาง ซึ่งหากมติดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจริง อเมริกา "ต้องชดใช้อย่างสาสม
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 11, 2017, 01:31:44 PM
นายดัดลีย์ระบุว่า ผลกระทบจากพายุในระยะแรกในแง่ของต้นทุนทางเศรษฐกิจ และชีวิตมนุษย์ถือเป็นความเจ็บปวด แต่ในระยะยาว เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว
"ผลกระทบดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ในระยะยาว ผลกระทบจากภัยพิบัตินี้จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพราะเราจะต้องฟื้นฟู และก่อสร้างสิ่งที่เสียหาย และถูกทำลายจากพายุ" เชากล่าว
นายดัดลีย์ระบุว่า เขาไม่คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากพายุดังกล่าวในระยะใกล้ จะมีผลกระทบมากนักต่อนโยบายของเฟด โดยเขายังคงเชื่อว่าเฟดจะเริ่มปรับลดงบดุลจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในไม่ช้า
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 11, 2017, 01:38:11 PM
รัฐบาลได้ใช้ตังบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 11, 2017, 05:58:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 13, 2017, 09:25:09 AM
ณ เวลา 21.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,130.28 จุด เพิ่มขึ้น 72.91 จุด หรือ 0.33%
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ราคาหุ้นของแอปเปิลดีดตัวขึ้น 0.25% ในการซื้อขายวันนี้
นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ เตรียมเปิดตัว "ไอโฟน เอ็กซ์" ในวันนี้ เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเที่ยงคืนนี้ตามเวลาไทย เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีของการผลิตไอโฟน
ในช่วงแรกสื่อคาดการณ์ว่าแอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟนรุ่นพิเศษโดยใช้ชื่อ ไอโฟน เอดิชั่น หรือไอโฟน โปร แต่ก็มาลงตัวที่ชื่อ ไอโฟน เอ็กซ์ เนื่องจากเอ็กซ์ (X) เป็นตัวเลขโรมันที่มีความหมายว่า 10 ซึ่งสอดคล้องกับการครบรอบ 10 ปีของไอโฟน
ขณะเดียวกัน แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน 8 และไอโฟน 8 พลัสในวันนี้ โดยจะไม่มีการออกรุ่นไอโฟน 7 เอส และไอโฟน 7 เอสพลัส ตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า การวางจำหน่ายไอโฟน เอ็กซ์ของแอปเปิลในครั้งนี้ อาจเผชิญปัญหาล่าช้า เนื่องจากการขาดแคลนหน้าจอ OLED รวมทั้งจากการที่แอปเปิลจำเป็นต้องหาซัพพลายเออร์หน้าจอรายใหม่นอกเหนือจากซัมซุง
คาดว่าไอโฟน เอ็กซ์จะสามารถจดจำใบหน้าของผู้ใช้ เนื่องจากมีเซนเซอร์ 3D ทางด้านหน้าของโทรศัพท์ และจะมีราคาขายเริ่มต้นที่ระดับ 1,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ยังมีการคาดการณ์กันว่า นายทิม คุก จะเปิดตัวแอปเปิลทีวี 4K รวมทั้งแอปเปิล วอทช์รุ่นใหม่ในวันนี้
ทั้งนี้ แอปเปิล อิงค์มักทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนก.ย. โดยเมื่อปีที่แล้ว ทางบริษัทได้ส่งบัตรเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวในวันที่ 7 ก.ย. เพื่อเปิดตัวไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส รวมทั้งไอแพดรุ่นใหม่ และแอปเปิล วอทช์ 2
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การปฏิรูปภาษีถือเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ความสำคัญสูงสุด และเขาให้ความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐจะให้การอนุมัติต่อการปฏิรูปภาษีดังกล่าวภายในปีนี้
นายมนูชินยังกล่าวว่า รัฐบาลของปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณาให้การปปฏิรูปภาษีมีผลบังคับย้อนหลังไปถึงช่วงต้นปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
เพิ่มเติม
Apple set to unveil anniversary iPhone in major product launch: http://www.reuters.com/article/us-apple-iphone/apple-set-to-unveil-anniversary-iphone-in-major-product-launch-idUSKCN1BN0LV
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 13, 2017, 09:50:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กันยายน 18, 2017, 07:43:35 AM
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับค่าเงิน EURUSD, GBPUSD, USDJPY และ USDCHF ประจำวันที่ 18 – 22 กันยายน 2560
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- EUR/USD ครั้งที่แล้วผู้เชี่ยวชาญจำนวน 40% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ได้คาดการณ์ว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่แนวโน้มคงที่ในช่วง 1.1885-1.2070 ในขณะเดียวกันนั้น มีออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 ให้สัญญาณว่าราคาถูกซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าราคาอาจจะขยับลงในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงเย็นของวันพุธที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ราคาได้ขยับถึงเพดานด้านล่าง และในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาพยายามทะลุลง อย่างไรก็ตาม แรงหมีได้อ่อนล้าและภายในหนึ่งชั่วโมงราคาก็กลับไปยังเซ็ทจำกัดเดิม โดยปิดตลาดอยู่ที่ 1.1960 ซึ่งเป็นระดับเส้นแนวกลางของช่วงคงที่
- 30% ของผู้เชี่ยวชาญ ดัชนีแนวโน้มราคาอีก 100% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และออสซิลเลเตอร์จำนวนกว่า 80% ได้เทคะแนนเสียงว่าราคา GBP/USD จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายแรงกระทิงอยู่ที่ 1.3440 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการประกาศรายงานประจำไตรมาสของธนาคารกลางอังกฤษและคำแถลงโดยกรรมาธิการธนาคารนาย Gertjan Vlieghe เกี่ยวกับนโยบายการเงินโดยสนับสนุนให้ปรับอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานเพิ่มขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปของธนาคารกลางอังกฤษ ค่าเงินปอนด์ก็ได้รับแรงดันขึ้นเพิ่มเติม โดยขยับขึ้นกว่า 450 จุด อยู่ที่ระดับ 1.3600
- สำหรับ USD/JPY ในขณะค่าเงินปอนด์แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอันน่าประทับใจต่อค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินเยนญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงการขยับลงมาที่น่าประทับใจเช่นกัน โดยแนวโน้มเชิงบวกปรากฏในเศรษฐกิจญี่ปุ่นทำให้ตลาดหุ้นเติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันก็เกิดแรงกดดันต่อค่าเงินเยน การลดปริมาณ QE (มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ) โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ และเงินลงทุนที่ไหลเวียนมาจากหลักทรัพย์ที่เชื่อถือได้แต่ไม่ทำกำไร รวมถึงหลักทรัพย์ที่เชื่อถือได้น้อยกว่าแต่ทำกำไรสูงกว่านั้นก็เกิดแรงกดดันต่อค่าเงินเยนเช่นกัน ทำให้ค่าเงินเย็นอ่อนตัวลงมากกว่า 350 จุดต่อเงินดอลลาร์สหรัฐในระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมา
- มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 10% และออสซิลเลเตอร์ 20% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ได้คาดการณ์ว่ากราฟจะขยับขึ้น เมื่อได้คำนวณแล้วว่าราคา USD/CHF ได้แตะถึงเพดานด้านล่างและราคาจะขยับถึงระดับ 0.9620 ราคาได้ขยับขึ้นจริงและแตะที่ความสูง 0.9700 เหนือความคาดหมาย หลังจากนั้น ราคาขยับลงมา 100 จุดและปิดตัวที่โซนแนวรับ/แนวต้านกำลังแรงที่ 0.9600
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ จึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- สำหรับ EUR/USD หลังจากแนวโน้มขาขึ้นเริ่มชะลอตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญต่างมีความเห็นแตกต่างกันไป โดย 40% ของผู้เชี่ยวชาญมองว่าราคาจะขยับขึ้น อีก 40% คาดว่าราคาจะปรับตัวลง และอีก 20% เห็นว่าราคาจะอยู่ในช่วงคงที่ ดัชนีต่างๆ ก็ไม่ได้ให้สัญญาณที่มีความชัดเจนนัก มีผลการวิเคราะห์ที่ปรากฏออกมาแตกต่างกันออกไป การวิเคราะห์ทั้งในกรอบ H4 และ D1 เป็นตัววิเคราะห์เดียวที่มองว่าราคาจะขยับขึ้น โดยมีแนวต้านอยู่ 1.1985, 1.2075 และ 1.2165 และระดับแนวรับอยู่ที่ 1.1915 และ 1.1825
แนวโน้มสกุลเงินที่คู่กับดอลลาร์อาจได้รับอิทธิพลจากการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยและคำคาดการณ์ที่จะมีขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธที่ 20 กันยายนนี้
- สำหรับอนาคตของ GBP/USD ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (65%) สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์จำนวน 40% คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวโดยขยับลงมาที่ระดับ 1.3500 ในกรณีที่ราคาสามารถขยับทะลุลงมาที่ระดับดังกล่าว ค่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1.3440 และ 1.3385
ความเห็นอีกทางหนึ่งโดยสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวน 35% และดัชนีแนวโน้มราคา 100% และออสซิลเลเตอร์จำนวน 60% ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มราคาขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงที่ระดับ 1.3665 หลังจากนั้น ราคาจะขยับขึ้นอีก 100 จุดสูงขึ้นจากจุดเดิม โดยมีเป้าหมายระยะกลางสุดท้ายของแรงกระทิงอยู่ที่ระดับ 1.4000
- สำหรับ USD/JPY คำทำนายสำหรับคู่นี้คือราคาจะคงที่โดยแรงหมีจะมีกำลังมากกว่าเล็กน้อย ความเห็นนี้สนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวน 85% มีระดับแนวรับอยู่ที่ 109.55 และ 108.85 และมีระดับแนวต้านอยู่ที่ 111.00 และ 111.30
ผู้เชี่ยวชาญส่วนน้อย (15% เท่านั้น) และดัชนีส่วนใหญ่ (ประมาณ 90%) มองว่าราคาจะเป็นกราฟแรงกระทิง พวกเขาเชื่อว่าราคาจะกลับมาที่เพดานของช่วงคงที่ในระยะกลาง ในกรณีนี้ เป้าหมายระยะสั้นของราคาจะแตะที่เพดานด้านบนที่ 114.50 และแน่นอนว่า เราควรคำนึงถึงการแถลงข่าวของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผลอัตราดอกเบี้ยอีกด้วย
- "ทิศใต้และทิศใต้เท่านั้น" เป็นคำทำนายของราคา USD/CHF ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังคงเป็นคำทำนายในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยนักวิเคราะห์กว่า 75% และดัชนีในกรอบ H4 จำนวนเดียวกันนั้นให้คะแนนเสียงในทิศทางนี้ว่าราคาจะเร่งขยับไปที่ค่าแนวรับที่ 0.9415
ในขณะเดียวกัน มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 10% และดัชนีในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะอยู่ในช่งวคงที่
ทั้งนี้ การเติบโตขึ้นของราคาได้รับการสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวน 15% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ในความเห็นของพวกเขา ราคาจะขยับไปที่ 0.9765 ในตอนแรกและหลังจากนั้นจะขยับต่อไปที่ระดับ 0.9845
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการทำงานในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
Roman Butko, NordFX
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ กันยายน 18, 2017, 07:55:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กันยายน 18, 2017, 07:59:15 AM
ผมชอบ ข้อมูลแบบนี้มาก ขอบคุณครับ AT4.gif
ถ้ามีมาอีก เดี๋ยวจะก๊อปปี้มาให้อีกครับ em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 18, 2017, 08:09:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 18, 2017, 11:28:02 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 18, 2017, 11:48:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 18, 2017, 07:45:43 PM
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีคาดว่าปอนด์จะแตะระดับ 1.35 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ เอชเอสบีซียังคาดว่า ปอนด์จะอยู่ที่ระดับ 1.26 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปีหน้า
BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 14 ก.ย.
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นท่าน้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์
อย่างไรก็ดี BoE ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
"สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ในรายงานเงินเฟ้อในเดือนส.ค. ก็จำเป็นต้องมีการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้" แถลงการณ์หลังการประชุมระบุ
"สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงปรับตัวสอดคล้องกับแนวโน้มการบรรเทาลงของภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ ขณะที่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น การถอนนโยบายกระตุ้นทางการเงินก็มีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน" แถลงการณ์ระบุ
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
http://www.reuters.com/article/us-britain-markets-hsbc/hsbc-sees-two-uk-interest-rate-hikes-by-end-2018-idUSKCN1BT0QG
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 19, 2017, 10:24:24 AM
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นสหรัฐมีระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยดัชนี S&P 500 ทะลุระดับ 2,500 จุดเป็นครั้งแรก หุ้นสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในช่วงต้นปี 2552 เป็น 269% ทำให้เกิด "ตลาดสภาวะกระทิง" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ 2 และมีอัตราผลตอบแทนที่แข็งแกร่งเป็นอันดับที่ 3
ดังนั้น; สิ่งที่ทำให้เกิดการบันทึกคะแนนสูง? อาจเป็นความจริงที่ว่าพายุเฮอริเคนอิมม่าไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างที่คาดไว้และสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือไม่รุนแรงมากนัก
นอกจากนี้เมื่อเรามองหุ้นทั่วโลก เฉพาะในสหราชอาณาจักรและยุโรปหุ้นไม่ได้ทำเช่นเดียวกับที่คาดไว้ - ส่วนใหญ่เนื่องจากความผันผวนสูงและความไม่แน่นอน เมื่อมองที่ราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีพ. ศ. 2560 เราเห็นได้ชัดว่าหุ้นสหรัฐมีการซื้อขายเพิ่มขึ้น 12% ขณะที่หุ้นยุโรปมีเพียง 5% และสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 2% แม้ว่าได้รับการเตือนของการเคลื่อนไหวของสกุลเงิน; เนื่องจาก EUR ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% ในปีนี้ขณะที่ GBP อยู่ที่ 10% (เทียบกับ USD) บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมสหราชอาณาจักรและนักลงทุนในสหภาพยุโรปในสหรัฐที่ซื้อหุ้นจึงแทบจะไม่สามารถทำเงินได้หลังจากที่ได้รับรู้ว่าพวกเขาสูญเสียการเคลื่อนไหวของสกุลเงินมากเกินไป
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 19, 2017, 10:54:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 19, 2017, 08:38:47 PM
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ย. 60)--ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โดยได้ระบุว่า เขาจะกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่กรุงนิวยอร์กในวันนี้เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
"วันนี้เป็นวันยิ่งใหญ่ที่สหประชาชาติ โดยจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น และบางเรื่องก็ยากลำบาก แต่เรามีคณะทำงานที่ดี และผมจะกล่าวสุนทรพจน์ในเวลา 10.00 น." ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ถึงแม้ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยว่าเขาจะกล่าวถึงประเด็นใดบนเวทีสหประชาชาติในวันนี้ แต่สื่อคาดการณ์ว่าเขาจะกล่าวประณามการกระทำที่ยั่วยุของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ได้ทำการยิงขีปนาวุธและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะกล่าววิพากษ์วิจารณ์อิหร่าน เวเนซูเอล่า และอาจรวมถึงประเด็นก่อการร้ายในวันนี้
คาดว่าการกล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์บนเวทีสหประชาชาติวันนี้จะได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกจากสถานีข่าวระดับโลก เช่น CNN และ BBC
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 08:37:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 20, 2017, 08:55:02 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 20, 2017, 09:02:11 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 09:21:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 20, 2017, 09:40:21 AM
แนวโน้มจะเป็นอย่างนั้นนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 09:52:19 AM
ทำให้สถานการณ์ของแม่ทองกระดี้กระด้าขึ้นมาได้บ้างทรงตัวในลักษณะ Sideway ที่ 1306-1309 ก่อนที่จะอาจหาญทะลุไปที่เหนือ1310 อีกครั้งและกระทิงกำลังวัดกำลังฝ่ายหมีอยู่
ในทางเทคนิคคัลถ้าที่เราคิดว่าเป็นการปรับตัวของ H4 ถูกต้อง...ก็ยังไม่ใช่เวลาของกระทิงยังคงต้องรอต่อไป แต่ก็ให้น่าเป็นห่วงเพราะขณะนี้กราฟได้ไต่อยู่ขอบเหวริมเส้นของ Long term trend และผลุบโผล่หลุด-ไม่หลุดมาสองวันเข้าไปแล้ว ถ้าวันนี้มีการซัดแรงก่อนประกาศของ FOMC เพื่อให้จบ H4 ก็จะเป็นโอกาสดีที่จะได้กระโดดขึ้นขี่หลังกระทิง..เมื่อฝุ่นหมีจางลงอย่างที่บอกไว้สำหรับการวิเคราะห์ที่ผ่านมาว่าดอกเบี้ยไม่น่าจะรีบขึ้น แต่ที่ยังมองไม่เห็นเป็น High light คือ Reverse QE ที่ได้มีการบอกว่าจะเริ่มลดเป็นสัดส่วนเท่านั้นเท่านี้จะได้เริ่มขึ้นเมื่อใดกันแน่ แต่ก็เตือนผู้ที่จะกระโดดขึ้นกระทิงให้เตรียม SL ไว้ด้วย เพราะการซัดลงครั้งนี้จะทำให้ขาเอสระยะยาวเข้าร่วมวงเพราะได้หลุดเทรนลงมานั่นเอง คิดเอาง่าย ๆ ว่าการทำ QE ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อทำ Reverse QE ดอลลาร์ควรจะไปตรงข้ามคือแข็งขึ้นในทางทฤษฎีแต่ความจริงจะเป็นเหมือนทฤษฎีได้ไหมยังน่าคิดกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 09:54:48 AM
ผู้นำสหรัฐประกาศกลางที่ประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ สหรัฐพร้อมที่จะทำลายล้างเกาหลีเหนือให้ราบคาบ หากยังไม่ล้มเลิกความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สำนักข่าวเอพี รอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานจากสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมประจำปี สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อวันอังคาร โดยเนื้อหาหลักทรัมป์ได้กล่าวเตือนเกาหลีเหนือด้วยถ้อยคำแข็งกร้าวที่สุดเท่าที่เคยมีมา ให้ล้มเลิกความพยายามเดินทางพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และสหรัฐพร้อมที่จะทำลายล้างเปียงยางเพื่อขัดขวางความพยายาม "สหรัฐอเมิรกามีกำลังและความอดทนมหาศาล แต่ถ้าจำเป็นต้องป้องกันตนเองหรือกลุ่มพันธมิตรก็ไม่มีทางเลือก นอกจากถล่มเกาหลีเหนือให้แหลกราญราบคาบ" ทรัมป์ กล่าว พร้อมกับตั้งนามฉายาให้นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือว่า "มนุษย์จรวด" ที่ได้รับมอบหมายภารกิจฆ่าตัวตายสำหรับตนเองและระบอบ ทรัมป์ยังกล่าวถึงอิหร่านว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับ 6 ชาติมหาอำนาจโลก ไม่สามารถยับยั้งบทบาทบ่อนทำลายของอิหร่านในความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้ พร้อมกับประกาศชัดเจนว่า เขามีแผนจะประกาศว่าเตหะรานละเมิดข้อตกลง เมื่อเขาส่งรายงานเสนอสภาคองเกรสในเดือนหน้า "เราไม่อาจปล่อยให้ระบอบฆาตกรสานต่อกิจกรรมทำลายความมั่นคงเหล่านี้ขณะที่สร้างขีปนาวุธอันตรายไปด้วย และเราไม่สามารถยึดมั่นต่อข้อตกลง หากมันถูกใช้เป็นสิ่งกำบังการก่อสร้างโครงการนิวเคลียร์ในบั้นปลาย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 07:42:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ กันยายน 20, 2017, 07:45:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 20, 2017, 07:51:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 20, 2017, 07:52:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 20, 2017, 07:56:03 PM
คืนนี้เลย เช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2560
*สูง USD 01.00 น. FOMC คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
*สูง USD 01.30 น. FOMC แถลงข่าว
เช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2560*สูง USD 01.00 น. FOMC คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
*สูง USD 01.30 น. FOMC แถลงข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2017, 08:00:24 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 21, 2017, 07:00:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 21, 2017, 07:15:06 AM
คืนนี้เลย
*สูง USD 01.00 น. FOMC คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
*สูง USD 01.30 น. FOMC แถลงข่าว
.png)
ทองล่วงหนักเลย กลายเป็นข่าวพี่ทรัมป์ไม่มีความหมายเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 21, 2017, 09:10:42 AM
เยลเลนกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงการปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เฟดกำลังเดินหน้าถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ใช้ในช่วงหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทั่วโลกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
"เรายังคงคาดการณ์ว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งนั้น จะทำให้เราสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" นางเยลเลนแถลงต่อสื่อมวลชน
ประธานเฟดกล่าวด้วยว่า การที่เงินเฟ้อเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในปีนี้ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่เธอกล่าวเสริมว่า ธนาคารกลางสหรัฐพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยหากมีความจำเป็น
"สิ่งที่เราต้องหาคำตอบในเวลานี้ก็คือ ปัจจัยต่างๆที่ฉุดรั้งอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายนั้น จะยังคงปรากฏอยู่ต่อเนื่องหรือไม่" เยลเลระบุ "หากเป็นเช่นนั้น เฟดก็จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน"
สำหรับการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้
นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
ภายใต้นโยบายปรับลดงบดุลของเฟด เฟดจะกำหนดวงเงินพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และ MBS ที่เฟดจะปล่อยให้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปลงทุนใหม่ และจะเพิ่มเพดานตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด โดยในเบื้องต้น เฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองตราสารเหล่านี้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองตราสารอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนกระทั่งแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนต.ค.2018
ขณะเดียวกัน กรรมการเฟดจำนวน 12 จาก 16 รายยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย.
ส่วนกรรมการเฟดจำนวน 11 จาก 16 รายคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2019
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 21, 2017, 09:12:24 AM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ กันยายน 21, 2017, 09:22:42 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 21, 2017, 09:32:15 AM
กองทุนทองคำที่ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก SPDR ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้เมื่อคืนนี้ทองจะดิ่งลงมาที่ LOW ที่ 1295 ก็ตาม
US INDEX สามารถยก LH ได้แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งเทรนขึ้น หมายถึงอนาคต USD จะเริ่มแข็งค่าแล้วครับ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ นักลงทุนเริ่มมั่นใจในถ้อยแถลงของ เฟดที่จะควบคุมการขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ค่อยเป็นค่อยไป เมื่อคืนนี้ สามารถปิด + ได้ ต่อเนื่องครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 21, 2017, 09:36:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ กันยายน 21, 2017, 09:39:58 AM
มี order ติดอยู่หลายไม้ รอลุ้นอยู่ m:9 AT3.gif
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 21, 2017, 10:49:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 21, 2017, 10:52:40 AM
- บีโอเจคงการเข้าซื้อพันธบัตรรายปีที่จำนวน 80 ล้านล้านเยน
- บีโอเจคงนโยบายการเงิน
- บีโอเจคงเป้าหมายดอกเบี้ยระยะสัันที่ -0.1%
- บีโอเจคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นที่ระดับประมาณ 0%
- บีโอเจ ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวได้านกลาง
- สมาชิกบีโอเจมีมุมมมองว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2% ได้ในปีหน้า โดยระดับการเคลื่อนไหวของดัชนี CPI อยู่ที่ 0.5%
ที่มา: Forex Live
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 21, 2017, 11:17:23 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ กันยายน 21, 2017, 02:05:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 21, 2017, 07:46:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 22, 2017, 10:05:20 AM
คิม จอง อึน ออกสื่อ KCNA ตอบโต้ทรัมป์ว่า เกาหลีเหนือเห็นว่าเป็นการประกาศสงคราม“War declaration” จากไอ้บ้าคลั่ง “mentally deranged” และขณะนี้ได้เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดในประวัติศาสตร์และเป้าหมายหนึ่งที่่เล็งนิวเคลียร์ไว้คือบ้านของทรัมป์
เรื่องน่าจับตาวันนี้ปู่ดรากิจะพูดอะไรที่กรุงดับลิน ไอร์แลนด์ ในหัวข้อ “Macroprudential policy beyond banking”
ก๊วนสมาชิกเฟด..Williams พูดถึง SNB ส่วน George และ Kaplan พูดที่ Dallas กับ Kansas เรื่องเดียวกันคือ “Global Oil Supply & Demand: Prospects for Greater Balance”
มีการประชุมระหว่างสมาชิก Opec และ Non-Opec อีกครั้งวันนี้ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย
ข้อมูลเงินเฟ้อ PMI จะประกาศทั้งของ EUR และ USD ส่วน Canada มีประกาศ CPI
การเลือกตั้งในนิวซีแลนด์จะมีขึ้นวันเสาร์พรุ่งนี้และในเยอรมันวันอาทิตย์ ใครจะมาเป็นผู้นำก็คงเห็นตัวเลา ๆ แล้วจากโพลทั้งหลาย คงสมใจแร้งที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
ทางเทคนิคคัลของกราฟทองคำได้ลงมาถึงพรมแดนของหมีแล้วในเฟรม H4 และพร้อมเด้งกลับถ้ากระทิงมีพลังเพียงพอซึ่งก็แสดงให้เห็นในวันวานนี้ถ้าวันนี้ทดสอบที่ 1295 ไม่ผ่านในครั้งที่สามก็คงโดนหมีสวนถอยตกทะเลลงไปอีกที่ 1281 แต่ถ้าผ่าน 1295 ได้ กระทิงมีเฮอีกครั้ง
กรอบการสงคราม 1285-1300 เช้านี้สนใจแนว 1295 ที่จะเป็นโลกของหมีหรือกระทิงในวันนี้ หมีต้องรุกไล่ให้กระทิงถอยหลุด 1289 ไปที่ 1285-1280-1275 แต่ฝ่ายกระทิงก็ต้องดันหมีกลับไปให้ได้ที่ 1305-1310-1315
กลยุทธ์รักฝ่ายไหนก็เลือกได้เลยตามถนัด..โอกาสเท่ากัน 1295 คือเป้าลุ้นวันนี้สำหรับระยะสั้น โดยมี JPY และ CHF คู่คิดมิตรคู่ใจ Save heaven เป็นที่สังเกตนอกเหนือจากดัชนีดอลลาร์ ส่วนลุงลักษ์ขอย้ายมาชิมลางข้างกระทิงลองแหย่ขาดูลาดเลาโดยมี SL แค่เอามัน 5 ดอลก็พอแล้วค่าขนมขบเคี้ยว แต่ถ้าหลุดไปได้ถือเป็นมื้อโต เพราะกระแสดอกเบี้ยที่ป้าเย็นปล่อยออกมายังทมึนไปจนถึงสิ้นปี
ขอให้ทุกท่านได้พักผ่อนวันหยุดด้วยความสุขสดใส ไร้กังวลโดยทั่วหน้ากัน
สวัสดี CR เพจลุงรักษ์ ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 22, 2017, 04:44:49 PM
สรุปคำแนะนำวันนี้ : กรอบวัดใจราคาทองคำวันนี้ จนถึง วันจันทร์ จะอยู่ที่ 1290 - 1306 $ อยากจะไล่ตาม อยากจะสวนทาง ก็พลิกแพลงเกมกันต่อเอง
แต่!! ถ้าทะลุ 1306 $ ได้ เจอเป้าหมายสุดท้าย 1315 $
แต่!! ถ้าหลุดต่ำกว่า 1290 $ ได้ เจอเป้าหมายสุดท้าย 1279 $
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 22, 2017, 05:08:11 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ กันยายน 24, 2017, 11:33:34 PM
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับค่าเงิน EURUSD, GBPUSD, USDJPY และ USDCHF ประจำวันที่ 25 – 29 กันยายน 2560
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- EUR/USD ในครั้งที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันในการให้คำทำนายในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในสัปดาห์ที่แล้ว มี 40% ของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดโหวตคะแนนเสียงว่าราคาจะขยับสูงขึ้น อีก 40% คาดว่าราคาจะลดต่ำลง และอีก 20%
ที่เหลือคาดว่าราคาจะอยู่ในแนวโน้มคงที่ ดัชนีก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้นแต่อย่างใด โดยมีบทวิเคราะห์ที่ค่อนข้างกระจัดกระจายคล้ายกันนี้ การวิเคราะห์กราฟอย่างเดียวบ่งชี้ให้เห็นว่าราคาอาจจะขยับขึ้นในทิศเหนือ ซึ่งราคาก็ได้ขยับขึ้นโดยแตะที่ระดับ 1.2033 ในวันพุธที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา
เหตุการณ์สำคัญของวันคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งได้ยืนยันว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นอีกครั้งในปี 2560 นี้และจะมีการปรับสูงขึ้นอีกสามครั้งในปี 2561 นอกจากนี้ ธนาคารกลางได้มีผลการตัดสินใจให้เริ่มลดดุลงบประมาณ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้นโดยทันที และค่าเงิน EUR/USD จึงอ่อนค่าลงไป 170 จุด หยุดอยู่ที่ 1.1860 หลังจากนั้น แรงกระทิงก็เริ่มเอาชนะโดยการขยับขึ้นมา และราคาก็ปิดตัวแทบจะในตำแหน่งราคาเดียวกันกับเมื่อตอนเปิดตลาดที่ประมาณ 1.1950 โดยการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามกลุ่มได้คาดการณ์ไว้
- สำหรับอนาคตของ GBP/USD ผู้เชี่ยวชาญเกือบทั้งหมด (65%) สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและ 40% ของออสซิลเลเตอร์คาดการณ์ว่าราคาจะมีการปรับตัวและขยับลดลงไปที่ระดับ 1.3500 โดยมีเป้าหมายค่าแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1.3665 คำคาดการณ์นี้ปรากฏว่าถูกต้องเกือบ 100% เนื่องจากราคามีการปรับตัวและขยับมาที่ระดับดังกล่าว
ในช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์ ราคาตกลงมาที่ 1.3463 หลังจากนั้น เมื่อมีการประกาศข้อมูลการขายปลีกของอังกฤษ ราคาก็เริ่มขยับสูงขึ้น หลังจากนั้นราคาก็ตอบสนองต่อการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ จนราคาได้วกกลับไปที่ 1.3500
- ตามธรรมชาติแล้ว ราคา USD/JPY จะไม่สามารถเพิกเฉยต่อข่าวจากฝั่งสหรัฐฯได้เช่นกัน ในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ คำทำนายของราคาคู่นี้อยู่ในช่วงคงที่ซึ่งสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์กว่า 85% และคำคาดการณ์ดังกล่าวปรากฏขึ้นจริงโดยมีความแม่นยำที่ห่างกันแค่ 1 จุด โดยราคาในช่วงต้นสัปดาห์อยู่ที่ 111.09 และต่อมาได้มีแถลงการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากนั้น ค่าเงินเยนเริ่มอ่อนค่าและปิดตลาดห้าวันของสัปดาห์ที่โซนกลางของค่าคงที่ในระยะกลาง ซึ่งราคาได้อยู่ในช่วงนี้มามากกว่าหกเดือนแล้วโดยอยู่ที่ระดับ 112.00
- สำหรับคู่ USD/CHF มีนักวิเคราะห์เพียง 15% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ที่เห็นว่าราคาจะอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยได้วิเคราะห์ราคาน่าจะขยับขึ้นมาที่ระดับ 0.9765 แต่เสียงข้างน้อยนี้ก็ได้รับแรงสนับสนุนจากการประกาศของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ราคาเกือบถึงเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยราคาได้ขยับสูงขึ้นไปที่ 0.9746 และในช่วงท้ายสัปดาห์ ราคาปิดตัวที่ระดับแนวรับ/แนวต้านที่ 0.9700
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ จึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- สำหรับราคา EUR/USD เนื่องด้วยผลการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในปี 2560-2561 นี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญส่วนมาก (60%) คาดการณ์ว่าราคาจะเข้าช่วงขาลง โดยค่าเงินดอลลาร์จะค่อยๆ แข็งตัวขึ้นและขยับลงในที่สุด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ต่างๆ ชี้ว่าการผันผวนจะอยู่ในช่วง 1.1800-1.2100 ซึ่งอาจทำให้เราพอได้เห็นแนวโน้มคงที่ซึ่งจะดำเนินต่อไปต่อเนื่องจากสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับการวิเคราะห์กราฟ ในอีกสองหรือสามสัปดาห์ข้างหน้าคาดว่าราคาจะขยับลงถึงที่ระดับ 1.1650 ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าผลการเลือกตั้งในเยอรมนีจะไม่นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจใดๆ ต่อตลาด
- สำหรับอนาคตของคู่ GBP/USD เป็นที่ชัดเจนว่าดัชนีส่วนใหญ่ในกรอบ D1 กำลังมุ่งไปในทิศเหนือเป็นหลัก ในขณะที่ดัชนีในกรอบ H4 คาดว่าทิศทางจะอยู่ในแนวราบหรือในทิศตะวันออกเป็นหลัก การวิเคราะห์กราฟคาดว่าแนวโน้มคงที่จะยังคงดำเนินต่อไปในช่วง 1.3460-1.3660 เช่นกัน โดยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญสำหรับแนวโน้มราคาในสัปดาห์หน้านี้มีดังต่อไปนี้ 35% คาดว่าราคาจะขยับขึ้น อีก 45% คาดว่าราคาจะขยับลง และอีก 20% ที่เหลือคาดว่าราคาจะคงที่ หากเราพิจารณาการวิเคราะห์ในระยะกลาง เราจะเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญกว่า 80% เทคะแนนเสียงว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งตัวขึ้นและค่าเงินปอนด์จะอ่อนค่าลง โดยมีระดับแนวรับอยู่ที่ 1.3460, 1.3160 และ 1.2850 และระดับแนวต้านอยู่ที่ 1.3600, 1.3835 และ 1.4000
- USD/JPY กว่า 85% ของนักวิเคราะห์ทั้งหมดซึ่งสนับสนุนโดยหนึ่งในสามของออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 คาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะขยับลงมาที่ 110.70 หลังจากนั้นแนวโน้มขาขึ้นจะเริ่มขึ้นโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 112.65, 113.50 และ 114.50 โดยค่าแนวรับอยู่ที่ 111.10, 110.70, 109.85 และ 109.40
- กว่า 80% ของดัชนีทั้งหมดรวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 คาดการณ์ว่าราคาคู่ USD/CHF จะขยับสูงขึ้นไปที่ 0.9770 และในกรณีที่ราคาสามารถทะลุตำแหน่งได้ ราคาน่าจะขยับขึ้นไป 50 จุดโดยแตะที่ระดับ 0.9820 โดยมีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ความสูง 0.9900 อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญเพียง 20% ที่เห็นด้วยกับแนวโน้มดังกล่าว ในทางกลับกัน ผู้เชี่ยวชาญอีก 80% ที่เหลือคาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะขยับลงและจะเคลื่อนที่ในโซน 0.9585-0.9770 ซึ่งแนวโน้มนี้ได้รับการสนับสนุนโดยออสซิลเลเตอร์จำนวน 25% ซึ่งให้สัญญาณว่าราคานี้อยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป หากราคาสามารถขยับทะลุเพดานด้านล่างได้ ค่าแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 0.9525
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการทำงานในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
Roman Butko, NordFX
em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ กันยายน 25, 2017, 06:49:36 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 25, 2017, 11:02:14 AM
-->USD
สภาพการเงินของเมกา ตอนนี้ อัตราเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นมาจาก 1.7% เป็น 1.9% ซึ่งถือว่าไม่ได้ดีกับสภาพการเงินของเมกา ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ย FED ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะแม้จะขึ้นมานานแล้ว แต่สภาพเสดกิกสองสามสัปดาหลังของเมกา ถือว่าค่อนข้างอ่อนแอ แถมตัวเลขการผลิตและส่งออกก็ยังแย่ลงเรื่อยเพราะ balance of trade จาก -43543 สัปดานี้เพิ่มเปน -43689 และตลาดหุ้นก็ยังร่วงต่อเนื่องจาก 22359 จุด เปน 22350 จุด แต่ถือว่าชะลอตัวลงมาน่าจะเปนสัญญาณว่ากำลังเริ่มชะลอตัวและเริ่มจะกลับตัวขึ้นเพราะแม้ balance of trade จะแย่ลงแต่การผลิต และการส่งออกก็เพิ่มขึ้นอาจจะลดลงก็คงเปนเพราะ นำเข้ามากไปนิดนึง อาจจะเปนการกักตุนสินค้านิดนึง แต่ก็ดูเปนไปในทิศทางที่ดีขึ้นสำหรับตลาดเมกา ส่วนปัญหาต่อเนื่องก็คือเรื่องอัตราว่างงาน ที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตอนนี้อยู่ที่ 4.4% ก็ไม่รู้ว่าจะออกนโยบายไหนมาช่วยเหมือนกัน อันนี้ต้องคอยรอดูๆกันไป
-->GBP
ส่วนของอังกิด กำลังดีขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะตัวเลขเงินเฟ้อ ถือว่าทำได้ดี ที่ยังคงตัวเลขไว้ได้ที่ 2.9% และอัตราการว่างงานก็ยังต่ำลงเรื่อยๆจาก 4.4% เป็น 4.3% แล้วซึ่งเปนตัวเลขที่ตำ่ที่สุดตี้งแต่เมื่อต้นปีแล้ว และตัวเลข balance of trade ก็ดีขึ้นจาก -2914 เป็น -2872 ซึ่งดีขึ้นทั้งการส่งออกที่มากขึ้นและการนำเข้าก็ลดลง แสดงให้เห็นว่าการผลิตและการใช้จ่ายต่างๆในอังกิด ตลาดมีสภาพคล่องและพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นอาทิตนี้ถือว่าขึ้นเยอะมากๆ เพราะ ขึ้นขาก 7264 จุดเปน 7311 จุด ถือว่าขึ้นมาเกือบ 50 จุด และอัตราการชี้การโตของ GDP ก็มากขึ้นจาก 0.2% เป็น 0.3% ซึ่งคิดว่าเปนเรื่องที่ดี เพราะว่า อังกฤษต้องรีบพัฒนาเสดกิดตัวเองถ้าไม่อยากมีปัญหา ตอนออกจากอียูเต็มตัว แต่ตอนนี้ก็ดูจะมาในทิศทางที่ดีขึ้น
-->AUD
ออสเตรเลียสัปดานี้ถือว่าแก้ปัญหาอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นมาตลอดได้ด้วยการคงอัตราว่างงานไว้ที่ 5.6% แถมตลาดหุ้นก็ยังขึ้นต่อเนื่องเปนอาทิตที่สองแล้ว หลังจากลงต่อเนื่องมาเปนเดือนๆสองอาทิตนี้ตลาดหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยสัปดานี้ปรับตัวขึ้นจาก 5655 เป็น 5682 แถมตัวเลขการว่างงานมีโอกาสว่าจะลดลงอีก เพราะตอนนี้ตัวเลขของคนที่มีงานทำ เพิ่มมากขึ้นแล้ว ซึ่งถ้า เทียบกับเดือนก่อนถือว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากในเวลาอีกสักอาทิตถึงสองอาทิตตัวเลขนี้น่าส่งผลต่ออัตราการว่างงานในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน ส่วนตลาดการนำเข้าและส่งออก ก็ยังแย่ลงเรื่อยๆ เพราะออส อยู่ในฤดูกาลที่การผลิตของออสจะต่ำลงหน่อยเพราะเป็นหน้าหนาวปลายๆแล้ว แต่ถ้าถามเอาตรงๆสภาพตลาดออสก็ฝืดๆจิงๆ แต่อาจจะไม่ได้มีไรมากน่าจะเปนแค่ตามฤดูกาลแหละ
-->CAD
แคนาดา
สัปดาที่แล้วแทบไม่มีข่าวไรเลยของแคนาดาเลยไม่ได้มีตัวเลขอะไรออกมามาก เท่าที่ดูที่เปนตัวเลขใหม่ กผ่จะมีอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจาก 1.2% เป็น 1.4% อัตราว่างงานยังคงเดินที่ 6.2% ส่วนตัวเลขที่เฝ้าๆอยู่อย่างนำเข้าส่งออกก็ไม่มีอะไรออกมาเลยแต่ตัวเลขที่ดีขึ้นคือพันธบัตรรัฐบาลที่อัตราเติบโตลดลง เปน 2.11% นั่นหมายความว่าหนี้ในระยะยาวจองแคนาดาเมื่อพันธบัตรหมดเวลาจะน้อยลงซึ่งก็ถือว่าเปนเรื่องที่ดีในระยะยาว
**วางแผนการเทรด
-->วันจัน
ไม่มีข่าวอะไรเลย สบายใจได้
-->วันอังคาร
- 15.30 BBA mortgage approvals อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะธนาคารกลางในอังกิดน่าจะอนุมัติยอมรับธนาคารพานิชมากขึ้น เพราะสภาพการเงินของอังกิดโดยรวมตอนนี้สภาพคล่องดีขึ้น คาดว่า GA จะเซล
- 23.45 ป้าเยเลน ออกมาพูดอันนี้ไม่รู้เลยว่าจะเปนไงบ้างน่าจะ พูดเรื่องดอกเบี้ยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะออกมาในทางไหน
-->วันพุธ
- 19.30 core durable goods ของเมกา อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางที่ดีเพราะสินค้าของเมกา ตอนนี้กำลังมีการผลิตและส่งออก ออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้น UCAD น่าจะได้บาย
- 23.45 มีประธานธนาคารกลางแคนาดาออกมาพูด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเปนยังไง
-->วันพฤหัส
- 19.30 มี GDP ของเมกา คาดว่าจะออกมาในทิศทางที่เีขึ้นจากดัชนี GDP ที่เพิ่มสูงขึ้นในสองเดือนที่ผ่านมา UCAD น่าจะบายแน่นอน
-->วันศุก
- 15.30 GDP ของอังกฤษ คาดว่าจะออกมาในทางที่มากขึ้น เพราะรายได้ของอังกฤษในไตรมาศที่ผ่านมา ออกมาในทิศทางที่เพิ่มมากขึ้น GA น่าจะได้บาย
- 19.30 GDP ของแคนาดา อันนี้ออกมาในทางที่ดีแน่นอนเพราะรายได้ของแคนาดาในไตรมาศนี้ออกมาเพิ่มขึ้นเนื่องจากการผลิตและส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นเลยทำให้รายได้รวมน่าจะเพิ่มขึ้นไปด้วยดังนั้น UCAD น่าจะเซล
- 21.45ประธานธนาคารกลางอังกฤษออกมาพูดเรื่องไรก็ไม่รู้
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กันยายน 25, 2017, 11:24:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 25, 2017, 11:26:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 27, 2017, 03:32:06 PM
การเมือง....ติดเรื่อง รัฐผสมของป้ามาเคล ไปในทางลบมากกว่าบวก จนกว่าจะสามารถ ควบคุม ได้ .....เมื่อไหร่รึ....อีกนานมาก
เสดกิจ ธนาคาร ออกมาบอกว่า หดตัว แล้วนะ......เม่าแบบผมคงไม่มองขึ้น แน่นอน
รอ ดากี่ พี่จะออกมาว่า บอกว่า แม้ว่าสภาพการเงินจะขาดความสมดุล แต่เราก็สามารถเติบโตได้ อีกไหม.....ฟังมา สามครั้งละ ผมก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะยอมบอกว่า หดตัว ......สุดท้าย ธนาคารยุโรปก็ออกมาสักที ว่า หดนะจ้ะ หด
สงคราม.......มองข้ามม่ะได้ สามารถเกิดได้ ทุกเดือน เดือนละครั้ง
มุมมอง กับ สายอี ไปทางลบ ไม่มองว่าขึ้นแข็งแรง ต่อให้ ขึ้นไป สัก สองพันจุด มันไม่ยืนราคาได้ จะทำได้......
....ป้ามาเคล ควบคุมสมาชิกได้
....สัญญาการค้า ......จะมีไหนเนี่ย ...
....ดราฮี ขึ้น ดอกเบี้ย.....ยากสาดๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 29, 2017, 02:08:40 PM
29 กันยายน 2560
ทำเนียบขาวกำลังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปภาษี โดยหลายๆฝ่ายกล่าวหาว่านโยบายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะเป็นการช่วยประชาชนที่มีฐานะร่ำรวย ขณะที่ประชาชนที่มีฐานะปานกลางลงมาจะได้รับผลกระทบในทางลบ
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อ้างว่านโยบายปฏิรูปภาษีคือ “ปาฏิหาริย์สำหรับชนชั้นกลาง” ขณะที่นายแกรี่ โคน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เผยว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ประชาชนที่มีฐานะปานกลางทุกคนจะได้รับการลดหย่อนภาษี
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินว่า หากนโยบายปรับลดภาษีผ่าน จะส่งผลให้ภาครัฐมีรายได้ลดน้อยลงกว่า 5 ล้านล้านเหรียญ ในอีก 10 ปี ซึ่งระดับหนี้ของสหรัฐฯในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 20 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งพรรครีพับลิกันไม่ได้มีการให้สัญญาณใดๆที่จะมีการเข้ามาแก้ปัญหาในจุดนี้แต่อย่างใด ขณะที่มุ่งเน้นแต่เพียงการปรับลดภาษีเพียงอย่างเดียว
เดิมที ระดับภาษีที่คณะบริหารของนายทรัมป์ตั้งใจจะปรับลดลง มีดังต่อไปนี้
1. ปรับลดภาษีสำหรับนิติบุคคลจากเดิม 35% สู่ระดับ 20%
2. ปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจากเดิม 39.6% สู่ระดับ 25%
3. ปรับลดภาษีสำหรับบุคคลแนวหน้า จากเดิม 39.6% สู่ระดับ 35%
อย่างไรก็ดี คณะบริหารของนายทรัมป์ก็ยังไม่ได้มีการประเมินเรื่องของรายได้ส่วนบุคคลกับอัตราภาษีที่ต้องชำระแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้นโยบายปฏิรูปภาษีมีผลบังคับใช้จริงภายในเดือนมกราคม ปี 2018 ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะเป็นไปได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2018
ที่มา: Reuters
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 29, 2017, 02:09:05 PM
29 กันยายน 2560
CNBC ระบุว่า สัปดาห์นี้ปัจจัย 2 ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้จะเป็นส่วนที่ช่วยในการตัดสินใจว่าเฟดจะขึ้นอัตรดอกเบี้ยหรือไม่ในเดือนธ.ค. นี้ คือ ข้อมูลจีดีพีไตรมาสที่ 2/2017 และข้อมูลดัชนีราคาการอุปโภคบริโภค (Core PCE Price Index) ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่เฟดนำมาเป็นองค์ประกอบของมาตรวัดเงินเฟ้อนั่นเอง
ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ กล่าวในรายการ Trading Nation ของทางสถานี CNBC โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อจะเป็นมาตรวัดสำคัญต่อโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค. ซึ่งหากข้อมูลจีดีพีขยายตัวได้สูงกว่า 3% ตามคาดการณ์ ก็จะส่งผลให้เฟดมีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม และมองว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งเพียงพอที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ขณะที่ข้อมูล Core PCE Price Index ที่ประกาศในคืนนี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 0.10% และหากข้อมูลมาตรวัดเงินเฟ้อดังกล่าวออกมาดีขึ้นตามคาดก็จะส่งผลสะท้อนว่า เงินเฟ้อกำลังฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางที่ควรจะเป็น และอาจจะกลับมาหนุนความเชื่อมั่นของเฟดต่อเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง รวมทั้งจะหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯและค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ที่มา: CNBC
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 02, 2017, 02:44:38 PM
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ผลการตัดสินใจของธนาคารกลางในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึงสี่เท่าของปี 2560-2561 ยังคงครอบงำคู่ EUR/USD ต่อไป รวมถึงผลการเลือกตั้งประเทศเยอรมนีซึ่งไม่ได้ปรากฏออกมาสมบูรณ์แบบสำหรับนายกรัฐมนตรีแมร์เคล ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากได้คาดการณ์ไว้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากกว่า 230 จุดในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในเวลาต่อมาค่าเงินยูโรก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นโดยขยับขึ้นมาที่ 1.1815
- สำหรับคู่ GBP/USD ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบ้างอีกครั้ง แต่ยังไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าในกรณีของค่าเงินยูโร ในขณะที่ค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงประมาณ 100 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- USD/JPY มีนักวิเคราะห์กว่า 85% ซึ่งสนับสนุนโดยหนึ่งในสามของออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 ได้คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวลดลงและหลังจากนั้นเทรนด์ขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ราคาได้ปรับตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 กันยายน ราคาก็ได้ถอยลดลงที่ 111.50 หลังจากนั้นราคาก็กลับเข้าสู่ขาขึ้นสู่ที่ระดับ 113.25 ในวันพุธ สำรับในท้ายสัปดาห์ ราคาปิดตลาดห้าวันที่ระดับ 112.50 ซึ่งให้เหตุผลในการพูดถึงการชะลอตัวของราคาอย่างช้าๆ ของแนวโน้มขาขึ้น
- สำหรับ USD/CHF มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 80% อีกทั้งจำนวนดัชนีและการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ระบุว่าระดับที่ 0.9770 เป็นค่าสูงสุดประจำสัปดาห์สำหรับคู่นี้ และผลออกมาถูกต้อง 100% ราคาอยู่ที่ระดับนี้เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และเป็นจุดนี้เองที่เทรนด์ราคาวกกลับทำให้ราคาปิดตลาดที่ 20 จุดต่ำกว่าราคาเมื่อตอนเปิดตลาดในช่วงต้นสัปดาห์
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ จึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- สถานการณ์ของคู่ EUR/USD ดูไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงแบ่งออกเป็นครึ่งต่อครึ่ง โดย 50% ของผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าราคาจะขยับขึ้น ในขณะที่อีก 50% เห็นว่าราคาจะขยับลง สำหรับดัชนีแนวโน้มราคาในกรอบ H4 และสองในสามของดัชนีทั้งหมดส่งสัญญาณสีเขียว อีกหนึ่งในสามส่งสัญญาณสีแดง สำหรับในกรอบ D1 ส่งผลออกมาตรงกันข้าม ออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 ให้ความสำคัญกับสีเขียวเช่นกัน ดังนั้น จึงเข้าสู่ความขัดแย้งที่หาข้อสรุปไม่ได้เนื่องจากออสซิลเลเตอร์ส่งสัญญาณสีแดงในกรอบเวลาหนึ่งวัน
จากการวิเคราะห์กราฟ ราคาจะพยายามอีกครั้งที่จะขยับถึงระดับความสูงที่ 1.2100 ในอีก 2-3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นราคาจะวกกลับลงทิศใต้ โดยมีเป้าหมายหลักที่ค่าแนวรับ 1.1660
เราควรคำนึงถึงผลลัพธ์ของการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพุธที่ 4 ตุลาคม รวมถึงการประกาศข้อมูลจำนวนการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ ที่อยู่นอกเหนือภาคการเกษตร (NFP) ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ซึ่งจะส่งผลต่อการก่อตัวของแนวโน้มราคา ตามที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขอาจขยับลงจาก 156K ถึง 98K และอาจถึง 75K อีกด้วย เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าตัวเลข NFP จะลดต่ำลงอย่างยิ่งจนนำไปสู่การอ่อนค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นรายใหญ่มักมีท่าทีที่ตรงกันข้ามกับกฎทั่วไปในช่วงหลังมานี้ ผลลัพธ์ก็คือนักลงทุนหลายคนต้องขาดทุนเป็นจำนวนมหาศาล
- เมื่อกล่าวถึงอนาคตของค่าเงิน GBP/USD นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (55%) คาดการณ์ว่าราคากำลังเข้าสู่ขาลง ดัชนีเทรนด์ในกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟสนับสนุนแนวโน้มขาลงนี้เช่นเดียวกัน โดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ชี้ว่าในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ราคาจะขยับเข้าสู่เพดานด้านล่างของระยะกลางที่กำลังเติบโตขึ้นเริ่มตั้งแต่มกราคมนี้ เป้าหมายอยู่ที่ 1.4670 โดยมีค่าแนวรับอยู่ที่ 1.3500
สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่เหลือ มี 20% ของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเทคะแนนเสียงให้กับการเติบโตขึ้นของราคาขึ้นที่ 1.3600 และอีก 25% คาดว่าราคาจะคงที่ ในขณะที่ออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ในกรอบ D1 มีท่าทีเป็นกลางเช่นกัน
- สำหรับคู่ USD/JPY มีนักวิเคราะห์ 55% ที่สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์อีก 25% เชื่อว่าราคาจะเข้าสู่ช่วงปรับตัวและในขณะนี้คาดว่าราคาอาจจะขยับลงชั่วคราวไปในโซน 111.00-111.50
ความเห็นอีกทางคาดว่าราคาจะไม่มีการปรับตัว และราคาจะยังคงขยับขึ้นสู่ทิศเหนือโดยไม่หยุดชะงัก ความเห็นนี้ได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% มีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่เพดานด้านบนของระยะกลางที่ระดับ 114.50
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายอาเบะ ก็เข้าข้างตลาดขาขึ้นเช่นกันจากผลการตัดสินใจยุบสภาและจัดการเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนดในวันที่ 22 ตุลาคมที่จะถึงนี้
- การคาดการณ์ราคา USD/CHF มองว่าราคาคู่นี้จะขยับเข้าสู่ช่วงคงที่ในโซน 0.9585-0.9770 เป็นเวลาระยะหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์จำนวนหนึ่งในสามกำลังให้สัญญาณว่ามีการถูกซื้อมากเกินไป ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาอาจจะขยับลงในช่วงแรกไปยังเพดานด้านล่างและฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 60% ดัชนีแนวโน้มราคาในกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 เห็นด้วยกับความเห็นนี้
Roman Butko, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
em3.gif em3.gif em3.gif
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 02, 2017, 03:10:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 02, 2017, 03:15:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 03, 2017, 08:34:32 AM
สาย ยูโร ยังต้อง จับตา ด้านการเมือง ต่อไปว่า ความขัดแย้งจะทวีความรุนแรง เพิ่มอีกไหม ที่ คาทาโลเนีย แค่ มาออกเสียง ยังมีผู้บาดเจ็บไป เก้าร้อยคน แล้ว นี่รวมตรวจด้วย แคว้นนี้ มีความสำคัญมากต่อเสปน เพราะจ่ายภาษีมากที่สุด
เมื่อไม่นานมานี้การเลือกตั้งมาเคลของเยอรมัน ก็ ชี้ไปทาง ลบต่อค่าเงิน เพราะเป็นรัฐบาลผสม......นึกไม่ออกว่าเป็นไง ก็ นึกถึง พรรคการเมืองชาติพัฒนา พรรครักไทยบ้านเราที่มันทะเลาะๆๆๆ ไปเรื่อย
ความเสี่ยง
การเมือง กำลังติดลบ
เสดกิจ ชะล่อตัว
สงคราม อาจมีในอาทิตนี้ ขึ้นอยู่กับผล พรุ่งนี้
จีน ไป เที่ยวอยู่
ญี่ปุ่น ได้แรงบวกจาก อาเบะ ในการยุปสภา และความเชื่อมั่นในตัวอาเบะเพิ่มขึ้นด้วย เสดกิจภาพรวม ก็ไปทางบวก ถือว่า แกร่งอยู่
การเมือง บวกๆ
เสดกิจ บวกๆ
สงคราม......เกาหลีเหนือจะยิงข้ามประเทศ รึไม่ม่ะรู้
อเมริกา ตอบยาก พอตัว ความผันผวน ขึ้นกับ นโยบาย ประกันสุขภาพ และภาษี คนรอการอัพเดตข้อมูล
ข่าวตัวเลขPmi ของเมกา เป็นที่จับจ้องอยู่ มันจะชี้ว่า อเมริกาพร้อม ขึ้นดอกไหมและจะส่งผลต่อสภาพแรงงาน...เรื่องเดิมๆ ปัจจัยหลักที่จะส่งผลคือ การประกาศตัวเลขว่างงาน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 04, 2017, 11:14:15 AM
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 ตุลาคม 2560 08:30:29 น.
คณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ยื่นรายชื่อบุคคลที่ได้รับพิจารณาจากทางคณะที่ปรึกษาให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ. 2561 โดยการเสนอรายชื่อบุคคลในครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย และนับเป็นการสิ้นสุดการเฟ้นหาตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่
รายงานระบุว่า นางเยลเลน ยังคงอยู่ในรายชื่อบุคคลที่ได้รับการพิจารณา แม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้แสดงท่าทีว่าอาจจะไม่แต่งตั้งเธอให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2
นอกจากนี้ ทรัมป์กำลังพิจารณานายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และนายเจอโรม พาวเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดชุดปัจจุบัน ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 04, 2017, 11:33:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ตุลาคม 04, 2017, 01:58:37 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 06, 2017, 09:56:45 AM
13.00 Germany Factory Orders
19.00 Bank of England (BoE) Monetary Policy Committee (MPC) Member Haldane Speaks
19.30 U.S. Nonfarm Payrolls and Canada Employment Change
21.00 Canada Ivey Purchasing Managers Index (PMI)
22.45 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Rosengren Speaks
23.15 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Dudley Speaks
23.45 FOMC Member Kaplan Speaks
เงียบทั้งวัน ค่ำลุ้น สหรัฐ กับ แคนนาดา
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ หนีตลาดผักสุดๆ นักผจญดอยลุ้นเรื่องนโยบายลดภาษี ดูเหมือนว่าจะมีความคืบหน้า และ ลุ้นข่าวดีเร็วๆนี้จากสภาคองเกรส นอกจากนี้เมื่อวานทั้งตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานกับตัวเลขว่างงานออกมาต่ำกว่าที่คาด ไม่ได้รับผลกระทบจากพายุ ก็เป็นตัวหนุน
ดอยล่าร์ เอ้ย ดอลลาร์ ก็รับอนิสงค์ไปด้วย ลุ้นตัวเลข NFP ค่ำนี้อาจเเจ่มกว่าคาด บวกกับเมื่อวาน Fed Presidents Harker and Williams ทั้งสองลุงมองว่า จากสภาพเศรษฐกิจ น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้
เกี่ยวกับ NFP สิ่งที่ต้องคำนึงคือ
1 อีกสามเดือนถึงขึ้นดอกเบี้ย ยังมีเวลาดูตัวเลขเศรษฐกิจ และ เปลี่ยนใจได้
2 จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ จากปี 2005 ที่เคยโดนพายุถล่ม ตัวเลขจ้างงาน รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจ จะได้รับผลกระทบ 1 เดือนหลังจากนั้น ก็หมายถึง เดือนนี้รู้ผล
วันนี้ นักผจญดอยรับทราบเรื่อง ตัวเลขอาจดีเกินคาด เมื่อวานก็รับข่าวกันแล้ว ดังนั้นตัวตัดสินว่าจะแรงหรือไม่จะไปอยู่ที่ตัวเลขอัตราค่าจ้างเด้อ
UJ นักวิเคราะห์ก็รอผลตอนเลข ก็มองว่าถ้าดีก็ทดสอบ 113.50 ถ้าผิดหวังก็ 112.00 แต่ดูเหมือนเชียร์ให้ลุ้นเก็ย EURUSD มากว่า แถวๆ 1.1850
EUR เมื่อวานโดน ดอยล่าร์ เอ้ย ดอลลาร์ถล่ม บวกกับรายงานการประชุม ECB ก็ไม่เหยี่ยว แถมยังมีติ่งว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังจำเป็นอยู่ นักผจญดอยรับรู้ว่าอาจจจะแค่ลด QE แต่ไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามที่หวังใว้ เลยมีบางส่วนเทขายออกมา แต่ก็ยังมีลุ้นอยู่ว่าจะรีบาวด์
GBP เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีอะไรมาก ดอลลาร์เเข็ง นักผจญดอยไม่รับลูกเหยี่ยวจาก BoE member McCafferty ตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลง รวมถึงท่าทีเมื่อวันพุธของป้าเมย์ที่ออกสื่อ นักผจญดอยวิเคาะห์ว่า ป้าแกมีความอ่อนแอลง และยังมีเรื่อง Brexit ล่าสุด A number of Tory MPs ก็มาไล่ป้าก็ให้ลาออกเถอะ ตอนนี้สถานะการกดกัดสุดๆ GBP น่าจะถอยก่อน นักวิเคราะห์มองว่าก้าหลุด 1.31 เจอกันที 1.3050
CAD วันนี้ Big Day มีทั้งตัวเลขจ้างงานกับ IVEY ชาวเเมวเหมียวห้ามพลาด มีรายงานข่าวว่า นักผจญดอย ซ็อต UCAD มาอย่างหนักหน่วงล่วงหน้าแล้ว
AUD หลุด 0.78 แล้ว RBA พิราบ บวกกับเมื่อวานเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ดี แต่ดุลการค้ายังดีอยู่เลยพยุง น้องอู๊ดอยู่ได้ รอลุ้นดอลลาร์ค่ำนี้ก่ะ
OIL รีบาวด์เก็งการจับมือกันระหว่า ซาอุดิอารเบีย กับ รัสเซีย จะดีลเรื่องลดกำลังการผลิต และ พายุลูกใหม่ถล่มอเมริกากลาง กำลังมุ่งหน้าเข้าสหรัฐ
GOLD รอลุ้นค่ำนี้ ว่าจะลงต่อ หรือ รีบาวด์
ตลาดผัก จี้เข้าไป จี้เข้าไป อย่าให้ดาวโจนส์ทิ้งห่าง มีสุภาษิตจอมทอง จากท่านขงเติ้ลกล่าวใว้ว่า
นักลงทุนที่ฉลาดจะไม่ซื้อของแพง จะรอจังหวะตอนของถูก
แต่พอท่านขงเติ้ลตื่นขึ้นมาก็บอกเพิ่มเติมว่า
ถ้าอารมณ์ทุกคนมองกันว่า มันยังมีโอกาศไปต่อได้อีก ฉนั้นอย่าเกี่ยงว่าแพง เพราะท่านอาจเสีย โอกาศ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 06, 2017, 10:31:29 AM
คืนนี้อย่าลืม นอนฟาร์มด้วยนะ ไม่เราก็หุ้น ได้นอนแน่
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ตุลาคม 06, 2017, 01:41:51 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 09, 2017, 11:00:13 AM
นอกจากนี้ ในการเปิดเผยตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ พบว่าเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. หรือเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ สู่ระดับ 26.55 ดอลลาร์ และเท่ากับพุ่งขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสูงกว่าระดับเงินเฟ้อที่ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด สิ่งนี้หมายความว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจในรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และอีกหลายรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐต้องปิดกิจการ ส่งผลให้แรงงานจำนวนมากประสบภาวะตกงานชั่วคราว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%
มีการคาดการณ์กันว่า ตัวเลขการจ้างงานจะพุ่งขึ้นในเดือนต.ค.และพ.ย. จากการที่ภาคธุรกิจกลับมาเปิดกิจการ และบริษัทในภาคก่อสร้างทำการซ่อมแซม และบูรณะเขตที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 138,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 189,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 169,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.ย. ภาคเอกชนมีการจ้างงานลดลง 40,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 7,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 63.1%
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 09, 2017, 12:21:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 09, 2017, 12:21:54 PM
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในสัปดาห์ที่แล้วเราไม่สามารถให้คำทำนายราคา EUR/USD ที่บ่งชี้อย่างเฉพาะเจาะจงได้ เนื่องจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งแยกออกเป็นครึ่งต่อครึ่ง โดย 50% ของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดโหวตว่าราคาจะปรับตัวขึ้นและอีก 50% เห็นว่าราคาจะปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ตลาดเกิดภาวะแข็งตัวในช่วงที่รอการประกาศข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อมูลได้มีการประกาศออกมาแล้ว ตลาดกลับตอบสนองในทางที่ค่อนข้างสงบเช่นเดียวกัน ดังนั้น ราคาคู่นี้จึงขยับกลับไปสู่ราคาของเดือนสิงหาคมและปิดตลาดท้ายสัปดาห์ ณ จุด Pivot Point ที่ 1.1733
- ในขณะที่บทวิเคราะห์คู่ GBP/USD ปรากฏออกมาแม่นยำอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ซึ่งสนับสนุนด้วยดัชนีเทรนด์ราคาในกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะเข้าสู่ช่วงกราฟหมี (กราฟขาลง) โดยได้คาดการณ์ว่าราคาจะขยับลดลงมาที่เพดานล่างของระยะกลางของช่วงขาขึ้นและได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.3040 ซึ่งราคาได้ขยับถึงระดับนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลอดสัปดาห์ที่ราคาได้ขยับลดลงไปประมาณ 375 จุด
- USD/JPY นักวิเคราะห์กว่า 55% ได้คาดการณ์ว่าราคาจะเข้าสู่ช่วงขาลง ในขณะที่อีก 45% ได้คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ผลปรากฏว่าราคาไม่เป็นไปตามทั้งสองทางนี้และกลับปิดตัวในช่วงท้ายสัปดาห์ในระดับเดียวกันกับช่วงเปิดตลาดต้นสัปดาห์ที่ 112.65
- การวิเคราะห์สำหรับคู่ราคา USD/CHF ได้คาดการณ์ว่าราคาจะขยับเข้าสู่ช่วงคงที่ 0.9585-0.9770 ในระยะหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันนั้น แรงกระทิงพยายามทะลุเพดานด้านบนอยู่หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน ความพยายามที่ทรงพลังมากที่สุดปรากฏเมื่อวันศุกร์จากการปล่อยข่าวของฝั่งสหรัฐฯ แต่ก็ไม่เป็นที่สำเร็จแต่อย่างใด ไม่นานนักราคาก็กลับมาที่โซน 0.9770-0.9780
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- “ทิศใต้และทิศใต้เท่านั้น” คือความเห็นของ 85% ของผู้เชี่ยวชาญ การวิเคราะห์กราฟ ดัชนีแนวโน้มราคาและออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 ของคู่ EUR/USD ในที่นี้ไม่เป็นที่คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งตัวขึ้นเท่าไรนัก โดยค่าแนวรับหลักคาดว่าจะอยู่ที่ 1.1660 และค่าแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1.1600
หลังจากการปรับตัวลดลงของราคานี้ จากการวิเคราะห์กราฟคาดว่าราคาจะวกกลับเป็น U-turn และกลับเข้าสู่ค่าสูงสุดของเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยมีระดับแนวต้านที่ 1.1835 และ 1.2035 และเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ 1.2090
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในกรอบ H4 เห็นว่าราคาอาจยังคงอยู่ในช่วงคงที่ต่อไปในโซน 1.1700-1.1835 อยู่สักระยะ โดย 15% ของผู้เชี่ยวชาญที่เหลือเห็นด้วยกับความเห็นนี้เช่นกัน
- เมื่อกล่าวถึงอนาคตของคู่ GBP/USD นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ 55% ซึ่งสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและดัชนีจำนวนสองในสามยังคงคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวลดลง ตามความเห็นของกลุ่มนี้ ราคายังคงไม่ถึงจุดต่ำสุดที่ระดับ 1.2770
สำหรับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่เหลือเชื่อว่าราคาจะไม่สามารถขยับทะลุค่าแนวรับระยะกลางที่แข็งแรงในช่วง 1.3000-1.3045 ได้ พวกเขาเชื่อว่าราคาจะใช้ค่าแนวรับนี้ในการปรับตัวเข้าสู่ช่วงคงที่ โดยมีระดับแนวต้านอยู่ที่ 1.3125, 1.3150 และ 1.3250 โดยหนึ่งในสามของออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 เห็นด้วยกับสถานการณ์นี้และให้สัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไป
- สำหรับราคา USD/JPY ได้เคลื่อนที่ในช่วงคงที่ที่ 108.00-114.50 ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาและขณะนี้กำลังขยับเข้าสู่เพดานด้านบน นักวิเคราะห์จำนวน 70% เห็นด้วยกับความเห็นในทิศทางนี้ รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ดัชนีเทรนด์อีกกว่า 90% และออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 โดยแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 113.25
ความเห็นทางเลือกอีกทางหนึ่งซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 30% และดัชนีบนกรอบ H4 ส่วนใหญ่นั้นเชื่อว่าก่อนที่ราคาจะปรับตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ราคาจะพยายามทดสอบเพดานด้านล่างในโซน 111.75-112.00 ก่อน
- ความเห็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้ของราคา USD/CHF แบ่งออกเป็นครึ่งต่อครึ่งอย่างเท่ากัน โดย 50% ของผู้เชี่ยวชาญคาดว่าราคาจะขยับขึ้น ในส่วนการวิเคราะห์โดยดัชนีส่วนใหญ่และการวิเคราะห์กราฟให้ความเห็นว่าราคาน่าจะพยายามขยับไปที่จุดสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 0.9835 เป็นอันดับแรกก่อนที่จะกลับมาที่แนวรับ 0.9770 หลังจากนั้นราคาจะพยายามทะลุค่านี้ และหากทำได้สำเร็จ ราคาจะถอยลงมาที่ระดับ 0.9685
ควรเป็นที่คำนึงว่าสำหรับการวิเคราะห์ในระยะกลางนั้น มีนักวิเคราะห์กว่า 70% ที่สนับสนุนปัจจัยราคาขาลงซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวลดลงที่ระดับ 0.9600 หรืออาจต่ำกว่านั้นอีกถึง 100 จุด
- กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่สามารถส่งอิทธิพลต่อทิศทางแนวโน้มราคาและความผันผวนของคู่ราคาในการวิเคราะห์นี้ ในสัปดาห์นี้ นักเทรดควรให้ความสนใจกับการประกาศของธนาคารกลางสหรัฐฯเกี่ยวกับนโยบายตลาดการเงินในวันพุธที่ 11 ตุลาคมนี้ อีกข่าวสำคัญคือการประกาศข้อมูลตลาดผู้บริโภคของสหรัฐฯในวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ ในขณะที่ทางฝั่งยูโรโซน ควรให้ความสนใจกับคำแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป นายมาริโอ ดรากิห์ ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคมนี้
โรมัน บุทโก, NordFX
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 09, 2017, 01:59:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ ตุลาคม 09, 2017, 02:37:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 11, 2017, 10:00:04 AM
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 858.45 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +69.61 จุด อยู่ที่ 22,830.68 จุด
-นักวิเคราะห์เตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำงานทดลองขีปนาวุธอีกครั้ง วันที่ 18 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในรอบ 5 ปี เนื่องจากความสัมพันธ์ที่เริ่มตึงเครียดขึ้น หลังจากจีนได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือตามมติสหประชาชาติ
#ข่าวและตัวเลขเศรษฐกิจ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 11, 2017, 10:23:20 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 11, 2017, 11:59:57 AM
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาผู้ที่มีแนวโน้มจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน โดยมีการคาดการณ์ว่า นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟดสายเหยี่ยว ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจได้รับเลือกให้เป็นประธานเฟดคนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 11, 2017, 12:36:58 PM
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 11, 2017, 01:29:09 PM
วันอังคารที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ประธานาธิบดีคาตาโลเนียลงนามประกาศเอกราชจากสเปน แต่จะยังไม่มีผลบังคับใช้ไปอีก 2-3 สัปดาห์เพื่อเปิดให้มีการเจรจา
คาร์ลส์ ปุยก์เดอมงต์ ประธานาธิบดีแคว้นคาตาโลเนีย ได้แถลงการณ์ ณ รัฐสภาคาตาลันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังมีการลงประชามติไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม
“คาตาโลเนียได้สิทธิที่จะกลายเป็นรัฐเอกราช” เขากล่าว เรียกร้องให้รัฐบาลสเปนยอมรับการไกล่เกลี่ย
ปุยก์เดอมงต์เน้นย้ำระหว่างแถลงการณ์ว่า ปัญหาของคาตาลันคือปัญหาของชาวยุโรป พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องลดความตึงเครียด และเผยว่าวิธีเดียวที่จะดำเนินการได้คือกระทำโดยสันติและเป็นประชาธิปไตย
โซรายา แซนซ์ เดอ ซานตามาเรีย รองนายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า ปุยก์เดอมงต์ได้ทำให้คาตาโลเนียขาดเสถียรภาพ และคำแถลงของเขาก็แสดงชัดว่าเขาไม่รู้ทิศทางว่าตนกำลังมุ่งหน้าไปไหน
ซานตามาเรียระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นคาตาโลเนียไม่สามารถยืนยันผลการทำประชามติได้เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
“ไม่ว่าปุยก์เดอมงต์หรือใครก็ตาม ล้วนไม่สามารถวาดผลสรุปขึ้นมาเองจากกฎหมายที่ไม่มีอยู่จริง และจากการลงประชามติที่ไม่ได้เกิดขึ้น” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่ากฎหมายที่ผ่านโดยรัฐสภาคาตาลันก็ผิดกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลสเปนได้ประกาศให้มีประชุมด่วนในวันนี้ (11 ต.ค.) หลังปุยก์เดอมงต์ลงนามประกาศเอกราช
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 12, 2017, 01:02:32 PM
1. ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ
คณะกรรมการยังคงประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวแบบ “moderate pace” ท่ามกลางการปรับลดการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในส่วนของผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Harvey, Irma และ Maria นั้น คณะกรรมการประเมินว่าจะส่งผลกระทบเพียงในระยะสั้น กล่าวคือ GDP และตัวเลขภาคการจ้างงานในช่วงไตรมาส 3 อาจปรับลดลง ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4 ต่อไป
- ภาคการใช้จ่ายผู้บริโภค: คณะกรรมการมองว่าภาคการใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวแบบ moderate ในช่วง Summer ที่ผ่านมา โดยอาจมีความผันผวนอยู่บ้างจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการยังคงประเมินว่าภาคการใช้จ่ายผู้บริโภคมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระยะต่อไป จากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ เช่น ภาคการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง, Balance sheet ของภาคครัวเรือนปรับดีขึ้น และ ความมั่นใจของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับสูง เป็นต้น นอกจากนี้ Minutes ยังคงมีการกล่าวถึงการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ในช่วง Summer ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ผลิตชะลอการผลิตลง อย่างไรก็ตาม A couple of participants รายงานว่า ผู้ผลิตบางรายคาดการณ์ว่าอุปสงค์การซื้อรถยนต์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวในระยะต่อไป เนื่องจาก ภาคธุรกิจและครัวเรือนมีความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อทดแทนรถยนต์ที่เสียหายจากเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคน
- ภาคการลงทุน: A number of participants รายงานว่า ผู้ประกอบการหลายรายมีความมั่นใจมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ นอกจากนี้ National Federation of Independent Business รายงานว่า บริษัทขนาดเล็กมีมุมมองในเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเช่นกัน และวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนใน Capital expenditures อนึ่ง A couple of participants ระบุว่าการแข่งขันที่สูงขึ้นและตลาดแรงงานที่ตึงตัวเพิ่มแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจลงทุนใน Capital ทดแทนการจ้างงาน รวมถึงเพิ่มการลงทุนเพื่อพัฒนาด้าน Information technology อีกด้วย
- ภาคการส่งออก: คณะกรรมการประเมินว่า เศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ สรอ. ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อภาคการส่งออกสหรัฐฯ ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ความเสี่ยงต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะสั้นเป็นไปในลักษณะ “roughly balanced” เช่นเดียวกับการประเมินในการประชุมครั้งก่อนหน้า
2. ภาคการจ้างงาน
ภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ปรับแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยถึงแม้ว่าอัตราการว่างงานจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วงเดือน มี.ค. - ส.ค. อัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า longer-run normal rate ทั้งนี้ Several participants กล่าวว่า ภาวะ Wage growth ที่ชะลอตัวสะท้อนถึงระดับ longer-run normal rate ที่อาจต่ำกว่าการคาดการณ์ ประกอบกับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างอื่นๆ ได้แก่ Productivity growth ที่อ่อนแอ โครงสร้างตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป และบริษัทนายจ้างที่ต้องการปรับลดต้นทุน เป็นต้น อย่างไรก็ดี Most participants คาดว่า Wage growth จะเร่งตัวขึ้นในระยะต่อไป ท่ามกลางภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น
3. อัตราเงินเฟ้อ
คณะกรรมการยังคงคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวขึ้นและปรับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ได้ในระยะ medium-term จากปัจจัยภาวะตึงตัวของภาคการจ้างงานประกอบกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี Several participants แสดงความกังวลว่าการปรับเข้าสู่ระดับเป้าหมายดังกล่าวของอัตราเงินเฟ้ออาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำในปีนี้ ได้รับแรงกดดันหลักจากปัจจัยด้าน idiosyncratic นอกจากนี้ คณะกรรมการหลายท่านมองว่าการปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน และสินค้าอื่นๆ อันเป็นผลมาจากพายุเฮอร์ริเคนต่างๆ จะทำให้เกิดความซับซ้อนในการตีความอัตราเงินเฟ้อในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ คณะกรรมการมีการอภิปรายเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในปีนี้อยู่ในระดับต่ำ และประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบเพียงชั่วคราว หรือเป็นปัจจัยที่จะคงอยู่ต่อไป โดย Some participants มองว่าผลกระทบจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมในการแข่งขันและกำหนดราคา จัดเป็น secular trend ที่อาจส่งผลกดดันอัตราเงินเฟ้ออย่างรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ การที่อัตราเงินเฟ้อของประเทศ advance economy อื่นๆ อยู่ระดับต่ำเช่นกัน อาจชี้ให้เห็นถึง common global factors ที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ อยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายมาเป็นเวลานานด้วยเช่นกัน โดยอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้ federal funds rate คงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับ effective lower bound ขณะที่ Few participants ระบุว่าควรพิจารณาถึงผลต่ออัตราเงินเฟ้อจากความตึงตัวใน resource utilization ที่ยังไม่แสดงออกมา ซึ่งอาจทำให้เกิด upside risk หากภาคการจ้างงานยังคงแข็งแกร่งต่อไป
สำหรับมุมมองด้าน Inflation expectation นั้น Several participants มองว่าดัชนีชี้วัด Inflation expectation ทั้ง survey-based และ market-based ชี้ให้เห็นว่า Longer-run inflation expectation นั้นยังคง reasonably stable ขณะที่ Few participants มองว่าดัชนีชี้วัดบางตัวนั้นชี้ให้เห็นถึง Inflation expectation ที่อยู่ในระดับต่ำ
4. Financial Conditions & Financial Stability
คณะกรรมการประเมินว่า Financial conditions ยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลาย โดยตลาดการเงินสหรัฐฯ เคลื่อนไหวตามข่าวเศรษฐกิจและการเงินจากต่างประเทศมากกว่าปัจจัยภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมา อนึ่ง Many participants มองว่า Financial conditions ที่อยู่ในระดับผ่อนคลาย มีแนวโน้มสนับสนุนการขยายตัวทางเศรฐกิจของสหรัฐฯ ต่อไป ขณะที่ A couple of those participants แสดงความกังวลว่าหาก Financial conditions ยังคงอยู่ในภาวะผ่อนคลายต่อไปเป็นระยะเวลานาน จะเกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินได้ นอกจากนี้ Few participants มองว่าภาวะ Financial conditions ที่ผ่อนคลายอาจไม่กระตุ้น aggregate demand มากนัก เพราะอาจเป็นเพียงการสะท้อนมุมมองต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวที่ไม่ดีนัก รวมถึงมุมมองต่อ long-run neutral rate ของสหรัฐฯ ที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
5. Monetary Policy
5.1 Interest Rate Tools
คณะกรรมการ FOMC ทุกท่านเห็นพ้องถึงความเหมาะสมในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.00-1.25 เนื่องจากภาพแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะปานกลางยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2 และ Neutral rate of interest rate ที่อยู่ในระดับต่ำ โดยระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในลักษณะ accommodative ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาคการจ้างงานให้ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับร้อยละ 2 ได้อย่างยั่งยืน สำหรับในระยะต่อไปนั้น คณะกรรมการยังคงยืนยันท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป (gradual) โดยระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงอยู่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน longer-run ไปอีกระยะหนึ่ง (for some time) ทั้งนี้ path ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ประเมินจากตัวเลขเศรษฐกิจในระยะต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะกรรมการจะมีการติดตามอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์อย่างใกล้ชิดว่าสอดคล้องกับเป้าหมาย symmetric inflation goal ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือไม่
สำหรับท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้นั้น คณะกรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้ง “later this year” หากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะ medium term เป็นไปตามการคาดการณ์ นอกจากนี้ Several participants ระบุเสริมว่าการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินในระยะเวลาอันใกล้จะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจเป็นสำคัญ เนื่องจากภาพรวมด้านอัตราเงินเฟ้อยังมีความไม่แน่นอนอยู่ อย่างไรก็ดี A few participants ประเมินว่าควรเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไป จนกว่าจะมีข้อมูลยืนยันว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในปีนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น รวมถึงอัตราเงินเฟ้อส่งสัญญาณการขยายตัวสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 อย่างชัดเจน
อนึ่ง คณะกรรมการมีมุมมองที่แตกต่างกันในประเด็นแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงิน โดยคณะกรรมการหลายท่านแสดงความกังวลว่าการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น ส่งผลให้การตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินในลักษณะ“patience” เป็นสิ่งที่เหมาะสม ดังนั้น A few participants จึงเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะเวลาอันใกล้ นอกจากนี้ path ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายควรอยู่ในลักษณะ “quite shallow” อย่างไรก็ดี คณะกรรมการอีกส่วนหนึ่งแสดงความกังวลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช้าเกินไปอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อ overshoot และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินและภาวะความไม่สมดุลอื่น ซึ่งยากที่จะแก้ไขภายหลัง นอกจากนี้ ความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้ออยู่ในลักษณะ “upside risks” มากกว่าเนื่องจาก เศรษฐกิจอยู่ในภาวะการจ้างงานสูงสุด รวมถึงตลาดแรงงานมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง
5.2 Balance Sheet Tool
คณะกรรมการ FOMC ทุกท่านเห็นพ้องถึงความเหมาะสมในการประกาศเริ่มดำเนินนโยบาย Balance sheet normalization ในเดือนตุลาคมนี้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ในการประชุมเดือน มิ.ย. ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจในระยะ medium term ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยรายละเอียดการปรับลดขนาด Balance sheet เป็นไปตามรายงาน Policy Principle Normalization Principles and Plans ที่เผยแพร่ในการประชุม FOMC วันที่ 13-14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ คณะกรรมการระบุว่าการปรับขนาด Balance sheet จะเป็นไปในลักษณะ “gradual” สอดคล้องกับความเข้าใจของนักลงทุน ดังนั้น คณะกรรมการจึงคาดว่าผลกระทบต่อตลาดการเงินจากนโยบายปรับลดขนาด Balance sheet จะอยู่ในระดับที่จำกัด
Source: BOTSS
เพิ่มเติม
1. Fed minutes: December rate hike all but certain despite low inflation:
https://www.cnbc.com/2017/10/11/fed-minutes-december-rate-hike-all-but-certain-despite-low-inflation.html
2. The Fed is worried that it won't achieve one of its key objectives for a while: http://www.businessinsider.com/fed-minutes-september-2017-meeting-balance-sheet-inflation-2017-10
3. รายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. https://www.federalreserve.gov/monetarypolicy/files/fomcminutes20170920.pdf
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 12, 2017, 01:35:33 PM
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ควรพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่บางคนมองว่า เฟดยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะกลาง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 12, 2017, 02:12:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ตุลาคม 12, 2017, 02:59:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 12, 2017, 03:43:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 12, 2017, 09:05:32 PM
เมื่อกี้เปิดดูคู่เงิน Bitcoin วันนี้ทำ New High ซะด้วยละที่ 5,251$ (โอ้ว...ใครมีซักเหรียญนี่ถือว่ารวยเลยน๊ะเนี๊ยะ) AT4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 13, 2017, 08:34:25 AM
อิสราเอล ขานรับการตัดสินใจของสหรัฐในการประกาศถอนตัวออกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และอิสราเอลกำลังพิจารณาถอนตัวตามสหรัฐ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโก เนื่องจากยูเนสโกมีแนวโน้มต่อต้านชาวยิว ซึ่งการถอนตัวของสหรัฐ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธ.ค.2561 ซึ่งหลังจากนั้น สหรัฐจะมีสถานะเป็นประเทศสังเกตุการณ์ที่ไม่เป็นสมาชิกของยูเนสโก
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวยกย่องการดำเนินการของสหรัฐว่า เป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ และมีคุณธรรม พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล เตรียมพร้อมที่จะถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโกเช่นเดียวกัน โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันเดียวกันกับสหรัฐ
ในช่วงต้นปีนี้ ยูเนสโก สร้างความไม่พอใจต่ออิสราเอลด้วยการขึ้นทะเบียนเมืองเฮบรอนเป็นเมืองมรดกโลก โดยระบุว่าเมืองดังกล่าวตั้งอยู่ในรัฐปาเลสไตน์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 13, 2017, 08:50:43 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 13, 2017, 10:44:12 AM
07.00 Reserve Bank of Australia Financial Stability Review
08.15 China Trade Balance
13.00 Germany Consumer Price Index (CPI)
19.30 U.S. Core Consumer Price Index (CPI)
19.30 U.S. Core Retail Sales
21.00 U.S. Michigan Consumer Sentiment
ค่ำคืนนี้ โอกาศสุดท้ายของดอลลาร์แล้ว จะวิ่ง จะแป๊ก ก็ค่ำคืนนี้นี้ชี้ชะตะ หรือ มรณะ
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐเริ่มสะดุดกับผลประกอบการนำล่องโดยAT&T JPMorgan and Citigroup เราเฮฮา มาสองไตรมาสที่ออกมาแจ่มๆ แต่ไตรมาสที่สาม อาจเป็นคนละสตอรี่ มารอดูกัน
ดอลลาร์ โอกาศสุดท้ายสำหรับท่านแล้ว โดยรวมมองว่าน่าจะออกมาดีเพราะ จากตัวเลขจ้างงาน ตัวเลขค่าจ้าง ตัวเลขของราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวดีขึ้น และผลกระทบจาพายุที่ต่ำคาด ล้วนส่งผลดีทั้งนั้น
UJ นักวิเคราะห์ลุ้น 113 สำหรับตัวเลขที่ออกมาดี แต่ถ้าพลิกล็อกถล่มทลาย ก็ 112
GBP เขาเล่าเมื่อเคืนวันพุธก่อนปิดตลาด หลังจากมีรายงานการประชุมของ ECB ออกมา ด้วยท่าทีผ่อนคลายกับอังกฤษ เรื่อง Brexit ถึงแม้ว่าภาพรวมจะดีต่อ อังกฤษ และ GBP แต่นักผจญดอยกลับมองว่า เป็นการเล่นเกมส์ของ EU เทขาย GBP สะงั้น แต่โดยสรุปดูเหมือนว่า จะยังไม่ชัดเจนกับท่าทีของนักขึ้นดอยที่มีต่อ GBP ว่าจะไปทางใหน ส่วนเรื่องขึ้นดอกเบี้ยกกับลุงคาร์นี่ย์ ก็ดูเหมือนลมเพลมพัด น่าจะไซต๋เวย์ เหวี่ยง ทุบ เหวี่ยง ทุบไปก่อน มั๊ง
EUR ลุ้นลุงยาสีฟันกันเมื่อวาน แล้วลุงยาสีฟันก็พาผิดหวังตามคาด ลุงบอกว่า รอดูเรื่องอัตราค่าจ้างก่อน ทาง ECB คิดว่าอัตราค่าจ้างใน Eurozone ยังต่ำไป ลุงมาแนวพิราบแระ งั้นไอ้ที่ลุ้นกัน เก็งกันจะแผ่วใหมเนี่ย สงสัยจะมาได้แค่ 1.1800 หรือ อาจเเถวๆ 1.1770 เต็มที่
CAD เมื่อวานตัวเลขราคาน้ำมันไม่แจ่ม ตัวเลขเศรษฐกิจไม่จรัส แถม Canadian yields อ่อนตัวลง ดอลลาร์อ่อนตัว ทิศทางระยะสั้นน้องแมวเหมียวไม่ชัดเจน
AUD น้องอุ๊ เห็นว่าราคา stronger data, rising gold, iron ore and copper prices ทำให้น้องอุ๊ยังแข็งแรง
NZD ลุ้นคืนนี้ New Zealand’s manufacturing PMI index เช้าที่ทั้ง AUD NZD ลุ้นตัวเลขจีนก่อน
OIL ว้าเมื่อวานแย่จุง ทาง IEA งวดนี้ไม่เหยี่ยววุ้ย กับออกมาบอกว่า ภาพรวมปีหน้า ความต้องการน้ำมันไม่เพิ่ม ถัวไปกับข่าวดีที่สต็อกน้ำมันสหรัฐลดต่อเนื่อง ไม่รู้ยังไงเหมือนกัน
GOLD ลุ้นค่ำๆนี้กับตัวเลขเงินเฟ้อ และ ค้าปลีกสหรัฐ ดูท่าว่า ถ้านู๋คิมไม่ยิง สงสัยสักระยะมีเทขายแน่ๆ
ตลาดผัก อืมมม ว่าไปตามกราฟ แต่ว่าวันนี้เป็นวันหยุด
วันจะเดินทางออกทะเล ฉนั้นช่วงวันหยุดไม่มีข่าวมั่ว นะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 13, 2017, 11:43:39 AM
AT4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 15, 2017, 06:34:51 PM
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับค่าเงิน EURUSD, GBPUSD, USDJPY และ USDCHF ประจำวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2560
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในครั้งที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญจำนวนส่วนมากคาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยให้คำทำนายว่าคู่ EUR/USD จะถอยลงมาที่แนวรับ 1.1660 ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม จุดต่ำสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่เหนือจุดดังกล่าวเพียง 60 จุดที่ระดับ 1.1720 ในส่นคำทำนายจากการวิเคราะห์กราฟซึ่งสนับสนุนโดย H4 และนักวิเคราะห์จำนวน 15% ปรากฏออกมาถูกต้องโดยได้ให้บทวิเคราะห์ว่าแนวโน้มราคาคู่นี้จะวกกลับและขยับเข้าสู่ขาขึ้นในช่วงแรกที่แนวต้าน 1.1835 และในกรณีที่ทะลุราคาได้จะขยับขึ้นไปอีกที่ 1.2035 โดยคำทำนายนี้ปรากฏว่าเกิดขึ้นจริง แต่ราคาไม่สามารถปิดตัวที่แนวต้านดังกล่าวได้สำเร็จจึงปิดตลาดท้ายสัปดาห์ใกล้ระดับ 1.1820
- เมื่อกล่าวถึงอนาคตของคู่สกุล GBP/USD มีนักวิเคราะห์จำนวน 45% ที่มั่นใจว่าราคาจะไม่สามารถทะลุแนวรับระยะกลางในโซน 1.3000-1.3045 และคล้ายกันกับ EUR/USD ราคาจะขยับขึ้น โดยหนึ่งในสามของออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 ได้ให้สัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไปและเห็นด้วยกับคำทำนายนี้โดยได้ตั้งเป้าหมายสุดท้ายไว้ที่ระดับ 1.3250 ทั้งนี้ราคาได้ไต่ถึงครึ่งแรกในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากนั้นราคาก็ตกลงมาเป็นจำนวน 140 จุด อย่างไรก็ตาม แรงหมีในกราฟขาลงนั้นไม่เพียงพอทำให้กราฟกระทิงฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงปิดตลาดที่ระดับ 1.3282
- หนึ่งในคำทำนายโดยหนึ่งในสามของผู้เชี่ยวชาญและดัชนีในกรอบ H4 ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ว่าก่อนที่คู่ USD/JPY จะขยับขึ้นต่อไป คู่สกุล USD/JPY จะทดสอบเพดานด้านล่างในช่วง 111.75-112.00 ซึ่งเรื่องนี้ปรากฏขึ้นจริง ราคาอ่อนค่าลงประมาณ 80 จุดในช่วงตลอดสัปดาห์และปิดตัวที่ช่วง 111.83
- สำหรับคู่ USD/CHF ดัชนีส่วนมากและการวิเคราะห์กราฟให้สัญญาณว่าราคาจะพยายามขยับให้ถึงจุดสูงสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 0.9835 ก่อนที่จะลดกลับลงมาที่ค่าแนวรับ 0.9770 และถ้าหากพยายามทะลุระดับนี้ได้อย่างสำเร็จ ราคาจะขยับลดลงมาอีกที่ 0.9685 ซึ่งคำทำนายเหล่านี้ต่างเกิดขึ้นจริงแม้ว่าการเคลื่อนที่ของราคามีความผันผวนน้อยกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ในช่วงแรก ราคาได้ขยับขึ้นไปที่ระดับ 0.9806 และกลับไปสู่ค่าแนวรับ 0.9770 จนราคาทะลุกรอบปรับตัวลงไปที่เพดานด้านล่าง 0.9700 โดยราคาได้ปิดตลาดท้ายสัปดาห์ในโซน Pivot Point ของเดือนตุลาคมที่ 0.9745
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- EUR/USD: จากเหตุการณ์ความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ คำแถลงการณ์เกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน การสู้รบในซีเรีย โอกาสการขึ้นราคาน้ำมัน การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปวาระพิเศษ เหตุการณ์เหล่านี้และเหตุการณ์อีกมากมายเป็นปัจจัยให้สถานการณ์เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถให้ความเห็นที่เป็นเสียงเดียวกันเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้หรือแม้แต่ในระยะกลางได้ โดย 45% ของผู้เชี่ยวชาญคาดว่าราคาจะขยับขึ้น ในขณะที่อีก 45% เห็นว่าราคาจะปรับตัวลดลง และอีก 10% กลับไม่ได้ให้คำตอบชัดเจนใดๆ
ในส่วนของดัชนีต่างๆ ให้ผลลัพธ์เดียวกันกับนักวิเคราะห์ในกรอบ H4 แต่สำหรับในกรอบ D1 สถานการณ์มีความแน่นอนมากกว่า: โดย 80% ของดัชนีให้สัญญาณสีเขียว อย่างไรก็ตามอีก 20% ของออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณเป็นสีแดงโดยชี้ว่าคู่สกุลนี้อยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป
ท้ายที่สุด การวิเคราะห์กราฟได้สรุปผลวิเคราะห์จากกรอบ H4 และ D1 โดยสามารถขีดเส้นแนวรับได้ที่ระดับ 1.1750, 1.1685 และ 1.600 และเส้นแนวต้านที่ 1.1920 และ 1.2030
- สถานการณ์สำหรับคู่ GBP/USD ดูชัดเจนกว่าเมื่อเทียบกับคู่ EUR/USD เล็กน้อย ในที่นี้นักวิเคราะห์กว่า 55% รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะปรับตัวลงโดยคาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะลดลงไปที่ระดับแนวรับ 1.3150 และในกรณีที่สามารถทะลุกรอบนี้ได้จะลงไปได้อีก 110 จุด โดยลดลงไปที่ระดับ 1.3040
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% ที่เหลือและดัชนีจำนวนมาก (85%) เชื่อว่าแนวโน้มราคาสัปดาห์ที่แล้วจะยังคงดำเนินต่อไป และราคาจะขยับขึ้นสู่ระดับแนวต้านที่ 1.3450 และแนวต้านถัดไปที่ 1.3600 อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้อาจมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อยในช่วงตต้นของสัปดาห์ เนื่องจากออสซิลเลเตอร์จำนวนหนึ่งในสี่บ่งชี้สัญญาณแล้วว่าราคายังคงอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป
- สำหรับคู่ USD/JPY หนึ่งในสี่ของออสซิลเลเตอร์ในทั้งในกรอบ H4 และ D1 บ่งชี้ว่าราคาถูกขายมากเกินไป บทวิเคราะห์นี้ได้รับการยืนยันโดยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนมากซึ่งคาดว่าราคากำลังจะขยับถึงเพดานด้านบนในช่องระยะกลางที่ 108.00-114.50 และคาดว่าน่าจะขยับก้าวกระโดดขึ้นอีก
อย่างไกร็ตาม ควรคำนึงด้วยเช่นกันว่าขณะนี้ราคายังคงอยู่ในช่วงโซน Pivot Point ดังนั้นราคาอาจจะอยู่ในช่วงนี้สักระยะโดยจะขยับในโซน 110.65-112.20
- สุดท้ายนี้เป็นบทวิเคราะห์คู่สกุล USD/CHF โดยการวิเคราะห์กราฟ ดัชนีเทรนด์ราคา และออสซิลเลเตอร์ต่างให้ความเห็นที่เป็นกลาง ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 จะสามารถสังเกตเห็นน้ำหนักที่เทไปทางแรงกระทิงมากกว่าเล็กน้อย โดยคาดว่าราคาอาจพยายามขยับในช่วง 0.9800-0.9835
สำหรับผู้เชี่ยวชาญจำนวน 75% ได้เทคะแนนเสียงว่าราคาจะปรับตัวลดลง โดยมีระดับแนวรับที่ 0.9700, 0.9670 และ 0.9560.
โรมัน บุทโก, NordFX
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 16, 2017, 07:07:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 17, 2017, 08:59:46 AM
ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนางเยลเลน ซึ่งขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างทวีปอเมริกา (IDB) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างมั่นคง เช่นเดียวกับตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้
ถ้อยแถลงล่าสุดของเยลเลนทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐมีทิศทางการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่ตลาดแรงงานก็อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 17, 2017, 09:09:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 17, 2017, 09:23:42 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 17, 2017, 11:29:16 AM
ต่อจากนั้นไม่ถึง 40 นาที ก็มี Breaking News ออกมาอีกข่าวหนึ่งว่า " ทางการเกาหลีเหนือออกมาชี้แจงว่าจากที่มีข่าวออกมาก่อนหน้าว่าทั้งสองจะทูตเข้าเจรจากันนั้น ไม่เป็นความจริง" เท่านั้นแหละราคาก็ค่อย ๆ ดีดตัวขึ้นกลับไปจนถึง 1,296 จนปิดตลาดเมื่อวาน" (นักลงทุนเริ่มกลับมากังวลอีกครั้ง)
จากที่ผมเข้าใจตอนนั้นผมคิดว่าทองคำอยู่ในภาวะที่นักลงทุนกำลังกังวลเกี่ยวกับการที่ทางเกาหลีเหนือกำลังจะทำการทดลอง ICBM อีกครั้งในวันที่ 18 ที่จะถึงนี้ แถมวันที่ 16 ที่ผ่านกองทัพของอเมริกากับเกาหลีใต้ก็ซ้อมรบกันอยู่ในอ่าวเกาหลี หากวันที่ 18 นี้เกาหลียิงมิสไซต์จริง แล้วเกิดการใช้ระบบป้องกันสกัด (THAAD) หรือจากใด ๆ ก็ตาม งานนี้อาจมีสงครามได้
ส่วนข่าวตอนที่นางเยลเลนนั้น ตอนนั้นผมสังเกตุราคาก็ไม่ค่อยจะวิ่งเท่าไหร่ ซึ่งราคาจะแกว่งแค่อยู่ในช่วง 1,303 - 1,305 เท่านั้น
ป.ล. เมื่อคืนพอร์ตแข่ง FBS ของผมได้จากคู่ทองนี้ 150% ของพอร์ตเลยใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลย อิอิ ส่วนพอร์ตจริงผมไม่ได้เล่นคู่นี้ เห็นว่าราคามันค่อนข้างจะผันผวนเลยไปเล่นคู่ Sell GU แทนได้กำไรมาหน่อย (พอร์ต Exness ที่แอ๊ดมินฯ โอนเงินรางวัลมาให้ ) ตอนนี้ถอนทุนบวกกำไรออกมาเรียบร้อย เลยกลับไปเล่นพอร์ตหลักที่ XM ต่อ อิอิ
em2.gif em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 17, 2017, 02:42:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 17, 2017, 03:25:10 PM
ทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อครับ เพราะสัญญาณขายมาแล้ว และธันวาคมนี้ ตามข่าวที่ได้รับคือมีแนวโน้มที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสูง หลังจากการแถลงการณ์ของ เจเนตเยเลนเมื่อวานนี้ ตอนนี้ข่าวที่จะดันให้ทองพุ่งขึ้นมาอีก คงต้องให้เกาหลีเหนือยิงใส่สหรัฐจริงๆละครับ เพราะตอนนี้ตลาดเริ่มชินกับข่าวสงครามแล้ว เพราะขู่กันไปขู่กันมา ยังไม่เอากันจริงๆซักที ทองเลยบอกว่า ขอตัวขายทำกำไรก่อน
ขอบคุณครับท่านที.. ดูเหมือนว่าเป็นแบบนั้นละครับ แนวโน้มน่าจะลงต่อถึง 1.260 - 1.275 ถ้าจะ Buy ต้องไปรอเข้าแถว ๆ โซนนั้นอีกที ตอนนี้ขอหาจังหวะ Sell ก่อนละกัน
เมื่อช่วงเที่ยงกด Sell Gold จัดหนักในพอร์ตแข่ง ตอนนี้ขยับอันดับจาก 115 ขึ้นมาที่ 29 แล้วละครับ กำลังลุ้นหาจังหวะเข้าใหม่ ตั้งเป้าว่าแค่ติด Top Ten เราจะทำได้มั๊ย?
em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 17, 2017, 07:38:18 PM
แต่พอร์ตจริงติดลบ เล่น Sell EU ไม่ไปไหนเลย กรรม!! m:4
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 17, 2017, 07:58:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 17, 2017, 08:07:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 18, 2017, 07:38:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 18, 2017, 01:05:26 PM
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีราคานำเข้าเดือนก.ย.ที่แข็งแกร่งเกินคาด แต่ยังคงขาดแรงซึ้อเนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยขี้นำใหม่ๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการคัดเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนต่อไปจากตัวเก็ง 5 รายได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
แหล่งข่าวระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ก่อนที่จะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในช่วงต้นเดือนหน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 19, 2017, 11:32:05 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 19, 2017, 11:34:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 19, 2017, 12:37:06 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 19, 2017, 12:51:13 PM
ส่วนทองคำตอนนี้มันลงมาเทสแนวรับ H1 @1276.78 สามครั้งละยังเจาะลงไม่ได้ ตอนนี้ผมเลยยังไม่กล้าเปิด Sell gold ต่อ รอดูก่อนว่าจะเจาะลงได้ป่าววันนี้ หากเจาะได้นี่มีโอกาสลงยาว ๆ เลยน๊ะเนี๊ยะ ถ้าอยากจะขึ้นนี่ต้องภาวนาให้น้องคิมจุดบั้งไฟกันเลยทีเดียว อิอิ AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 21, 2017, 02:03:00 PM
การตัดสินใจของเขาเกิดขึ้นในช่วงที่คะแนนนิยมของเขากระเตื้องขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และพรรคฝ่ายค้านกำลังโกลาหล นายอาเบะ ได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในช่วงประวัติศาสตร์หลังสงคราม
1.ตัวเลือกมีใครบ้าง?
นายชินโซ อาเบะ ซึ่งมาจากพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LDP หาเสียงจากนโยบายท่าทีที่แข็งกร้าวด้านความมั่นคงและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นนโยบายด้านสังคมภายในประเทศด้วย
หลังจากก้าวเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงสั้น ๆ เมื่อปี 2006 เขากลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง หลังชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปี 2012 แต่ก็เห็นแล้วว่า คำสัญญาต่าง ๆ ที่เขาบอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะซบเซานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ
เขายังสนับสนุนให้กลับมาใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างเต็มที่อีกครั้ง ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน เนื่องจากภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิในปี 2011 โดยปกติแล้ว คู่แข่งหลักของพรรค LDP น่าจะเป็นพรรคประชาธิปไตย แต่ทางพรรคเผชิญกับความวุ่นวายเกี่ยวกับตำแหน่งผู้นำพรรคเมื่อเดือนกรกฎาคม และในช่วงปลายเดือนกันยายนสมาชิกพรรคก็แยกย้ายกันไปเกือบหมด
อดีตสมาชิกบางส่วนได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครอิสระ หรือไม่ก็ลงสมัครในนามของพรรคการเมืองขนาดเล็ก หนึ่งในพรรคการเมืองขนาดเล็กคือพรรคประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น หรือ CDPJ ซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นในเดือนนี้
นายอาเบะเผชิญกับความท้าทายใหม่จากนางยูริโกะ โคอิเกะ อดีตรัฐมนตรีที่เคยอยู่พรรค LDP และผู้ว่าการกรุงโตเกียว ซึ่งได้เปิดตัวพรรคแห่งชาติพรรคใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากประชาชนในช่วงแรกสะดุดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนางโคอิเกะตัดสินใจไม่ลงสมัครด้วยตัวเอง และส่วนหนึ่งเป็นเพราะแทบไม่มีเวลาเตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้ง
นโยบายพรรคความหวังใหม่ของเธอ ไม่ได้ต่างจากพรรคของนายอาเบะมากนัก แต่ที่แตกต่างกันคือ การรับปากว่าจะยุติการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามแผนเดิม และจะยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในปี 2030 นางโคอิเกะ ยังถือว่าเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพในอนาคตของพรรค LDP และอาจจะลงรับสมัครในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
2.ทำไมจึงจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด?
นักวิเคราะห์เห็นว่า การเลือกตั้งก่อนกำหนด เป็นความพยายามของนายอาเบะที่ต้องการใช้โอกาสช่วงที่ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นคว้าชัยในการเลือกตั้ง และฉวยจังหวะที่ฝ่ายค้านกำลังอ่อนแอ
หลายเดือนก่อนหน้านี้ ความนิยมของนายอาเบะได้รับผลกระทบอย่างมากจากเรื่องอื้อฉาวและนโยบายที่ประชาชนไม่ชื่นชอบ
เขาถูกกล่าวหา แต่ปฏิเสธว่า ใช้อิทธิพลช่วยเพื่อนให้ได้รับการอนุมัติให้เปิดมหาวิทยาลัยเอกชน
เขาถูกกล่าวหา แต่ปฏิเสธว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงเรียนชาตินิยมสุดโต่ง และซื้อที่ดินของรัฐในราคาที่ต่ำกว่าตลาด
เขาผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านกลาโหมใฝ่สันติในช่วงหลังสงครามของญี่ปุ่น โดยเรียกร้องให้ยอมรับกองทัพญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในรัฐธรรมนูญ
เขาใช้กฎหมายต่อต้านก่อการร้ายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
เมื่อเดือนกรกฎาคม คะแนนนิยมของเขาตกลงมาสู่ระดับน้อยกว่า 30% แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นมาสู่ระดับเกิน 50% ในเดือนกันยายน
การที่คะแนนนิยมตกต่ำ ทำให้นายอาเบะถูกกดดันจากภายในพรรค แต่หากผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ออกมาดี ก็จะช่วยทำให้ลดแรงกดดันจากคู่แข่งภายในพรรคของเขาได้
3.โพลล์ว่าใครจะชนะ?
ผลการสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่านายอาเบะมีคะแนนนำ โดยตัวเลขล่าสุดคาดว่าพรรค LDP ของนายอาเบะจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรราว 300 ที่นั่งจาก 465 ที่นั่ง
ส่วนพรรคของโคเมอิโตะ พันธมิตรของเขา คาดว่าจะได้มากกว่า 30 ที่นั่ง รัฐบาลภายใต้การนำของนายอาเบะในสมัยหน้าจึงจะคงรักษาเสียงส่วนใหญ่ไว้ได้ 2 ใน 3 ของที่นั่งทั้งหมด ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐธรรมนูญก็ห้ามกองทัพญี่ปุ่นใช้กำลังในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างประเทศ ยกเว้นในกรณีป้องกันตัวเอง
นายอาเบะ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้สามารถส่งทหารญี่ปุ่นไปร่วมภารกิจระหว่างประเทศพร้อมกับชาติพันธมิตรทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
พรรคความหวังใหม่ของนางโคอิเกะ คาดว่าจะได้ที่นั่งราว 50 ที่นั่ง ถูกทิ้งห่างจากพรรคที่ได้ที่นั่งมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งก็เชื่อถือไม่ได้ และการจัดการเลือกตั้งก่อนถึงกำหนดก็มีความเสี่ยงหลายอย่าง
ในสหราชอาณาจักร แผนการเลือกตั้งก่อนกำหนดของนางเทเรซา เมย์ ทำให้เธอสูญเสียการเป็นเสียงส่วนมากในสภา และต้องตั้งรัฐบาลผสมเพื่อรักษาอำนาจไว้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 21, 2017, 02:43:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 21, 2017, 04:51:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 22, 2017, 06:27:32 PM
จากที่ได้ลองนั่งสังเกตุดูเหมือนราคาจะวิ่งทางเดียวกับค่าเงินดอลล่าห์เลย
หากเดาเล่น ๆ เปิดวันจันทร์ UJ อาจมีทิ้งตัวลงก็ได้ เพราะราคาปัจจุบันก็กำลังทดสอบแนวต้านอยู่ อ๊ะ...ก็ว่ากันไป AT4.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 22, 2017, 11:21:57 PM
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ในสัปดาห์ที่แล้ว เราไม่สามารถให้บทวิเคราะห์ที่แน่ชัดสำหรับคู่ EUR/USD ได้ โดยความลังเลของเรานั้นปรากฏว่าสมเหตุสมผล ในครั้งที่แล้วมีความเห็นที่แตกแยกกันในบรรดาผู้เชี่ยวชาญและดัชนีต่างๆ บางส่วนคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น บ้างเห็นว่าราคาจะขยับลง และอีกบางส่วนมองว่าราคาจะขยับปรับตัวเพียงเล็กน้อยโดยไม่สามารถให้คำทำนายได้ ทั้งนี้ ราคาดูเหมือนจะเป็นไปตามความเห็นที่แตกแยกนี้ โดยในตอนแรกราคาได้ขยับลง ขยับขึ้นและลงอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ราคาไม่ได้ขยับไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างแน่ชัด ราคาได้ปิดตัวลงในตลาดท้ายสัปดาห์ใกล้ระดับ 1.1780 ซึ่งเป็นระดับกลับตัวที่ราคาได้ขยับตัวลดลงในบริเวณดังกล่าวมาตลอดระยะเวลาสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
- เมื่อพูดถึงอนาคตของคู่สกุล GBP/USD มีนักวิเคราะห์จำนวน 55% รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะเข้าช่วงกราฟหมี โดยได้ทำนายว่าราคาจะขยับลดลงมาที่ค่าแนวรับ 1.3150 และในกรณีที่ราคาสามารถทะลุได้จะยิ่งลดลงไปอีก 110 จุด ซึ่งบทวิเคราะห์นี้ปรากฏให้เห็นจริง โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาได้เริ่มถอยลงมาทีละจุดจนลดลงไปอยู่ที่ระดับ 1.3150 ในวันพุธ หลังจากนั้นราคาได้พยายามที่จะทะลุระดับนี้และไต่ลงมาถึงจุด 1.3085 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกราฟหมีได้อ่อนล้าลงและในช่วงตลาดท้ายสัปดาห์ แรงกระทิงช่วยให้ราคาฟื้นคืนขึ้นมาอีก 100 จุด ดังนั้นราคาจึงได้ขยับขึ้นมาที่ 1.3185
- USD/JPY บทวิเคราะห์สำหรับคู่นี้ปรากฏออกมาแม่นยำอย่างยิ่งเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยออสซิลเลเตอร์เห็นด้วยว่าราคากำลังเข้าสู่ช่วงเพดานด้านบนในช่องระยะกลาง 108.00-114.50 และเราสามารถคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ในช่วงขาขึ้นสูงสุด ท้ายที่สุดราคาปิดตัวโดยขาดไป 200 จุด ทำให้ราคาปิดตัวท้ายสัปดาห์ที่จุดสูงสุด 113.56 โดยไม่สามารถไต่ถึงเป้าหมายสุดท้ายได้และขาดไป 100 จุดด้วยกัน
- USD/CHF สำหรับคู่นี้ กราฟกระทิงมีข้อได้เปรียบเล็กน้อยจากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ซึ่งได้ทำนายไว้ว่าเป้าหมายของราคาคู่นี้จะอยู่ในโซน 0.9800-0.9835 สำหรับนักวิเคราะห์แล้วนั้น มีเพียงนักวิเคราะห์ 25% ที่โหวตว่าราคาจะขยับสูงขึ้น แต่เสียงนี้เราก็ต้องรับฟังเช่นกัน เนื่องจากราคาเพิ่มไปถึง 100 จุดในระหว่างสัปดาห์จนกระทั่งปิดตลาดในโซน 0.9840
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- EUR/USD ควรเป็นที่คำนึงว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่สามารถที่จะให้ความเห็นอย่างแน่ชัดเกี่ยวกับทิศทางของราคาคู่นี้มาเป็นระยะเวลาสองสัปดาห์ด้วยกัน แม้ว่าวุฒิสภาของสหรัฐฯได้ตัดสินใจเห็นชอบร่างงบประมาณประจำปี 2561 และอนุมัติการบังคับใช้การปฏิรูประบบภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แล้วนั้น มีนักวิเคราะห์เพียง 50% ที่ให้คะแนนเสียงว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น แต่อีกเสียงเห็นว่าแม้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น จะคงอยู่เพียงระยะสั้นชั่วคราวเท่านั้น
นอกจากนักวิเคราะห์แล้ว ออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ราคาในกรอบ D1 ต่างไม่เห็นด้วยหรือให้ความเห็นที่เป็นกลางมากกว่า โดยมีในกรอบ H4 เท่านั้นที่มองว่าราคาจะมีแนวโน้มลดตัวลง สำหรับการวิเคราะห์กราฟให้ผลว่าราคาจะอยู่ในช่วงคงที่ในโซน 1.1665-1.1925 โดยมีแนวรับอยู่ที่โซน 1.1575
ทั้งนี้ ควรเป็นที่คำนึงว่าบทวิเคราะห์ในระยะกลางให้ภาพที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยผู้เชี่ยวชาญประมาณ 80% ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะขยับขึ้นไปยังช่วง 1.2000-1.2100
- บทวิเคราะห์ของคู่สกุล GBP/USD ปรากฏออกมาในแง่ลบเป็นหลัก โดยความเห็นนี้เป็นของนักวิเคราะห์ส่วนมาก (55%) ซึ่งคาดว่าค่าแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ในโซน 1.3000 นอกเหนือไปจากความเห็นของนักวิเคราะห์แล้ว ดัชนีเทรนด์ราคากว่า 70% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เห็นว่าราคาจะปรับตัวลดลง
สำหรับปัจจัยกราฟขาขึ้นได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญที่เหลือจำนวน 45% ซึ่งเห็นว่าราคาอาจจะพยายามทดสอบค่าสูงสุดของเดือนตุลาคมในโซน 1.335
- คล้ายกันกับในสัปดาห์ที่แล้ว คู่สกุล USD/JPY กำลังประสบกับสัญญาณสีเขียวเป็นหลัก โดยนักวิเคราะห์จำนวน 65% ดัชนีเทรนด์ราคา 100% และออสซิลเลเตอร์จำนวน 75% ในกรอบ H4 และ D1 เชื่อว่าราคาจะขยับตัวสูงขึ้นไปยังเพดานด้านบนในระยะกลางช่วง 108.00-114.50 อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่าราคาอาจมีการปรับตัวบ้างในระหว่างทางนี้ ซึ่ง 25% ที่เหลือของออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณเพียงพอว่าราคาอาจจะปรับตัวลดลงในช่วงสั้นๆ โดยมีค่าแนวรับอยู่ใกล้บริเวณ 112.00-112.30 และค่าแนวรับถัดไปอยู่ที่ 111.65
- สุดท้ายนี้ บทวิเคราะห์คู่สุดท้ายของเราคือคู่ USD/CHF โดยออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 จำนวนหนึ่งในสี่ได้ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% คาดว่าราคาจะปรับตัวเข้าสู่ทิศใต้ นอกจากนี้ หากเปลี่ยนจากบทวิเคราะห์รายสัปดาห์เป็นบทวิเคราะห์รายเดือนจะเห็นได้ว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเพิ่มสูงขึ้นถึง 85% ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่ระดับ 0.9700 และจากนั้นอาจจะลงไปได้อีกถึง 100 จุด
ทั้งนี้ ยังคงปรากฏเสียงสนับสนุนกราฟขาขึ้นโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ที่เชื่อว่าแนวโน้มในการขยับสูงขึ้นของราคานั้นยังไม่อ่อนล้าหมดลงเสียทีเดียว และราคามีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 0.9900 หรืออาจจะสูงกว่านั้นที่ระดับหลัก 1.0000 อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของคู่สกุล EUR/USD ซึ่งส่งผลต่อราคา USD/CHF เช่นกัน
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 23, 2017, 12:20:59 AM
คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของญี่ปุ่นบางพื้นที่ เปิดเผยว่า บางพื้นที่ยังไม่สามารถเริ่มการนับคะแนนได้ และอาจจะเริ่มนับคะแนนได้อย่างเร็วที่สุดวันจันทร์นี้ เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น"ลัง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ได้ก่อให้เกิดฝนตกอย่างหนักและลมกรรโชกแรงเป็นวงกว้างในประเทศ บริการเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมโยงหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ห่างไกลและเมืองต่างๆต้องระงับการให้บริการ ส่งผลให้คณะกรรมการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่สามารถนำตู้ลงคะแนนเสียงออกจากพื้นที่ที่เป็นเกาะได้
พื้นที่นับคะแนนที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น ได้แก่ ฮากิในจังหวัดยามากุจิ คารัตสึในจังหวัดซากะ และโนเบโอกะในจังหวัดมิยาซากิ ซึ่งล้วนอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น และยังมีเขตนิชิโอะ ในจังหวัดไอจิทางตอนกลางของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
ปกติแล้ว การนับคะแนนจะเริ่มต้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงที่ปิดคูหา เวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 23, 2017, 07:20:39 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 27, 2017, 02:30:57 PM
ทองคำ ขณะนี้เป็นขาลง ให้สังเกตแนวรับสำคัญที่ผมให้มุมมองว่ามันมีโอกาศที่จะกลับบตัวได้ที่แนว 1260-1263.50 ถ้าหลุดแนวนี้ได้ ร่วงยาว ๆเป้ารับถัดไปแถว 1240 ครับ
สามารถเสี่ยงซื้อเบาๆได้ที่แนว 1260-1263.50 ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 27, 2017, 02:31:32 PM
อย่างไรก็ตาม วอชิงตัน โพสต์ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย และจากสถิติที่ผ่านมานั้น ทรัมป์เป็นที่รู้จักกันดีถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่สำคัญๆ ในนาทีสุดท้าย
ทั้งนี้ แม้นายพาวเวลและนายเทย์เลอร์ต่างก็เป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน แต่ทั้งสองก็มีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินในธนาคารกลางสหรัฐ โดยนายพาวเวลมีแนวโน้มที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของนางเยลเลนในการดำเนินนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีความระมัดระวังในการคุมเข้มนโยบายการเงิน ในขณะที่นายเทย์เลอร์ ซึ่งมีจุดยืนในการใช้นโยบายที่เข้มงวดนั้น ถูกมองว่ เป็นนักเศรษฐศาสตร์สายเหยี่ยวที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ บิสิเนส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขาจะพิจารณาเลือกทั้งนายพาวเวล และนายเทย์เลอร์ โดยให้คนหนึ่งเป็นประธานเฟด และอีกคนหนึ่งเป็นรองประธานเฟด แทนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ ซึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 ต.ค.
ทั้งนี้ คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจเลือกประธานเฟดคนใหม่ ก่อนที่เขาจะเดินทางเนือนประเทศต่างๆในเอเชีย ในวันที่ 3 พ.ย.นี้
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่ง
เป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝาก
ไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า จะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า แต่จะลดวง
เงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากระดับปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. ปีหน้าเป็นต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 27, 2017, 03:57:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 27, 2017, 04:45:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 27, 2017, 05:21:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 27, 2017, 05:53:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ตุลาคม 30, 2017, 01:37:38 AM
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ความเห็นของนักวิเคราะห์แตกแยกเป็นสองส่วน 50/ 50 โดยเราได้ตัดสินใจว่าไม่สามารถให้คำทำนายที่แน่ชัดได้เป็นเวลาสองสัปดาห์ติดต่อกัน แม้ว่าแรงกราฟกระทิงจะได้เปรียบในตอนต้นของสัปดาห์ แต่แรงกราฟหมีก็ได้มีชัยชนะ ทั้งนี้ สภาผู้แทนฯ ของคองเกรสสหรัฐอเมริกามีส่วนเกี่ยวข้องกับแนวโน้มตลาดดังกล่าว โดยสภานี้ได้อนุมัติให้วุฒิสภาเห็นชอบการปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตามเสียงข้างมาก แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงสนับสนุนจากการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรปซึ่งอนุมัติการขยายเวลามาตรการผ่อนคลายทางการเงินและดำเนินการซื้อพันธบัตรต่อไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนปี 2561 การตัดสินใจเหล่านี้ส่งผลอย่างยิ่งต่อค่าเงินยูโร ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 250 จุดต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐภายในเวลาสองวัน
มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าการวิเคราะห์กราฟจะสามารถตระหนักถึงแผนการณ์ของสภาคองเกรสและธนาคารกลางยุโรปได้ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์กราฟได้ทำนายว่าค่าเงินยูโรจะถดถอยลงมามากสุดที่ระดับ1.1575 ด้วยความแม่นยำ 100% ผลที่ตามมาก็คือราคาปิดตลาดรอบสามเดือนที่โซน “หัว-ช่วงไหล่ และหยุดอยู่ที่ประมาณ 1.1605
- GBP/USD สำหรับคู่นี้แรงสนับสนุนกราฟหมีมีความได้เปรียบเล็กน้อย โดยคิดเป็น 55% ต่อ 45% และราคานี้มีชัยชนะด้วยข้อได้เปรียบเล็กน้อยนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาไม่ได้ขยับขึ้นหรือลง โดยราคาได้ปิดตลาดห้าวันที่ระดับ 70 จุดต่ำกว่าจุดเริ่มต้นในต้นสัปดาห์
- บทวิเคราะห์สำหรับคู่ USD/JPY ปรากฏว่าถูกต้องแม่นยำเช่นกัน แม้ว่าราคาจะมีความลำบากในการขยับทะลุแนวต้านจากแรงตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ราคาได้ขยับถึงจุดที่คาดไว้ โดยมีเพดานด้านบนของระยะกลางที่ 108.00-114.50 หรืออย่างแน่ชัดที่ระดับความสูง 114.45, หลังจากนั้นราคาก็โต้กลับกลับไปที่จุดวกกลับของสัปดาห์ที่ระดับ 113.70 ในตอนท้ายวันศุกร์ที่ผ่านมา
- หนึ่งในบทวิเคราะห์ของคู่ USD/CHF ที่เราได้ทำนายในสัปดาห์ที่แล้วคาดว่าราคาจะขยับไปสู่ระดับสำคัญที่ 1.0000 และแม้ว่าคำทำนายนี้จะได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ราคาก็ปรากฏออกมาว่าถูกต้องแม่นยำ โดยราคาได้รับแรงอิทธิพลจากพฤติกรรมของคู่ ยEUR/USD เป็นอย่างมาก ทำให้ราคาคู่นี้ขยับขึ้นไปถึง 200 จุด
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- EUR/USD เป็นอีกครั้งที่ผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งแยกออกเป็นสองเสียงเท่าๆ กัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างมีท่าทีดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกัน ในขณะที่ดัชนีแนวโน้มราคากว่า 90% ให้สัญญาณว่าราคาจะขยับลงทิศใต้ ในส่วนออสซิลเลเตอร์กลับให้สัญญาณที่ต่างออกไป โดยครึ่งหนึ่งของออสซิลเลเตอร์ทั้งหมดให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ก็เห็นด้วยในส่วนนี้และให้คำวิเคราะห์ว่าราคาคาดว่าจะกลับมาที่จุดสูงสุดของเดือนตุลาคมในโซน 1.1835-1.1880 และหลังจากนั้นราคาจะขยับไปยังจุดสูงสุดของเดือนกันยายนที่ระดับ 1.2000-1.2100 โดยควรคำนึงว่าในระยะกลางมีนักวิเคราะห์ประมาณ 70% เทคะแนนเสียงว่าราคาจะวกกลับมาที่ช่วง 1.1800-1.2100
สำหรับในสัปดาห์นี้ มีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อแนวโน้มตลาด ได้แก่ การประกาศตัวเลขล่าสุดในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ สถิตินี้รวมถึงดัชนีนอนฟาร์มที่มีความสำคัญอย่างยิ่งซึ่งมีตัวเลขจำนวนงานใหม่ที่สร้างขึ้นในภาคนอกภาคการเกษตร ในเดือนที่แล้ว ดัชนีนี้มีค่าลบอยู่ที่ลบ 33K หากดัชนีนอนฟาร์มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 270-300K ตามที่คาดไว้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยควรคำนึงว่าผู้เล่นในตลาดรายใหญ่มักเริ่มเทรดจากข่าวล่วงหน้าแม้สองถึงสามวันก่อนการประกาศข่าวอย่างเป็นทางการ
แน่นอนว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่เราควรต้องจับตามมองในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ซึ่งจะมีการประกาศผลการแต่งตั้งประธานธนาคารกลาง ในระหว่างนี้ นางเจเน็ต เยลเลน และนายเควิน วาร์ช ถูกตัดออกจากรายชื่อในการแข่งขันนี้แล้ว
- บทวิเคราะห์สำหรับคู่ GBP/USD ยังคงปรากฏเป็นสัญญาณลบอยู่ ซึ่งเป็นความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จำนวน60% การวิเคราะห์กราฟและดัชนีจำนวน 90% ในกรอบH4 และ D1 อย่างไรก็ดี เมื่อพูดถึงความเห็นกรอบเวลาระยะยาวขึ้น เช่น W1 ปรากฏภาพที่เปลี่ยนไป โดยสามารถพูดถึงแนวโน้มคงที่โดยมีแนวรับอยู่ในช่วง 1.3000-1.3020 ค่าแนวรับถัดไปอยู่ต่ำลงมาอีก 100 จุด ค่าแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1.3225 และ 1.3285 เป้าหมายสูงสุดในกรณีราคาขยับขึ้นอยู่ที่ 1.3335
ในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน จะเป็นวันสำคัญสำหรับค่าเงินปอนด์อังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศข่าวจำนวนมากจากธนาคารกลางอังกฤษ ตามคำทำนายแล้ว เสียงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นสามเท่า โดยอัตราดอกเบี้ยอาจจะถูกปรับขึ้นตั้งแต่ 0.25% ถึง 0.50%
- สำหรับคู่ USD/JPY โอกาสที่ราคาจะขยับสูงขึ้นอยู่ที่อัตรา 2 ต่อ 1 โดยผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 65% เชื่อว่าที่แนวรับ 113.25 ราคาจะพยายามจะทดสอบเพดานด้านบนของระยะกลางในช่วง 108.00-114.50 อีกครั้ง โดยการวิเคราะห์ในกรอบ H4 เห็นด้วยกับคำทำนายนี้เช่นกัน
สำหรับความเห็นทางเลือกอีกทางเชื่อว่าแรงขยับสูงขึ้นของคู่นี้ได้อ่อนล้าลงแล้ว และราคาจะหยุดพักสักระยะโดยจะขยับลงเข้ามาสู่ในโซน 112.25-113.25
- และสุดท้ายนี้คือบทวิเคราะห์ของคู่ USD/CHF ในที่นี้มีนักวิเคราะห์จำนวน 75% โดยมีการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่คาดว่าราคาจะพยายามฟื้นคืนขึ้นมาเหนือระดับ 1.0000 ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 1.0100 อย่างไรก็ดี หากค่าเงินดอลลาร์เริ่มเสียตำแหน่งต่อค่าเงินยูโร จะมีความเป็นไปได้สูงที่ดอลลาร์จะมีผลทำให้ค่าเงินฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงเช่นกัน โดยคู่นี้อาจจะขยับลงมาอยู่ในโซน 0.9750-0.9800
โรมัน บุทโก, NordFX
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 30, 2017, 09:09:34 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 30, 2017, 10:47:59 AM
-->USD
สัปดานี้ข่าวเมกา ก็ทรงๆตัว แต่ตัวเลขสำคัญที่ออกมาคือ balance of trade ก็ดีขึเน แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร โดย ติดลบน้อยลงมานิดนึง ทั้งนี้นังดูรายละเอียดไม่ได้ว่าที่ติดลบน้อยลงมา เปนเพราะส่งออกเพิ่มขึ้น หรือนำเข้าน้อยลง แต่ คาดว่าตัวเลขแบบละเอียดน่าจะออกมา_ายในอาทิตนี่แหละ จะได้นำมาประเมิณสภาพเสดกิดของเมกากัน ส่วนตลาดหุ้นก็ยังถือว่าพอดูได้ ประบตัวขึ้นมาจาก 23401 เปน 23434 ซึ่งเอาจริงๆหุ้นเมกาขึเนเรื่อยๆมา ประมาณ เดือนนึงได้แล้วก็ถือว่าเปนเรื่องที่ดี ส้วนอัตราว่างงาน ตำ่ลง จาก 4.4% เป็น 4.2% แต่คาดว่าภาค ของ non farm จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในเดือนนี้ เพราะดูดัชนีชี้วัด รายได้มันลดลง ยังไงก็ไม่รู้
-->AUD
สัปดานี้ชัดเจนเลยว่าสภาพการเงินขออง ออส ดีขึ้นอย่างมาก จากดัชนี้ชี้วัด GDP ที่เพิ่มขึ้นเปน 0.8% และอัตราว่างงานที่ตำ่ลง เป็า 5.5% และ balance of trade ที่ 989 ล้านดอลลาร์ แต่ถึงตัวเลขทางเสดกิกจะดีขึ้น ตลาดหุ้นก็ยังตกอยู่ แต่คิดว่าอีกสักพักน่าจะเริ่มประบตัวขึ้นมาได้อยู่ ส่วนตลาดแรงงานตอนนี้ถือว่าเข้มแข็งมากๆและเปรไปตามคาดว่า ถ้าตำแหน่งว่างวานยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบบค่อยๆเพิ่มอย่างงี้ นาาจะช่วย แก้ปัญหาเรื่องการว่างงานของออส ได้มากพอตัวเลยทีเดียว
-->CAD
สัปดานี้จริงๆแคนาดาไม่ได้มีข่าวอะไรสลักสำคัญออกมาเลย นอกจากเรื่องอัตราดอกเบี้ย ซึ่งพวกเขาตัดสินใจคงอะตราดอกเบี้ยไวเที่ 1% ก็ไม่น่าแปลกหรอกเพราะไตรมาศที่ผ่านมาเพื่งปรับตัวขึ้นไป และคาดว่า อีกสักพักก็อาจจะได้ประบขึ้นอีกเ้วย เพราะตอนนี้ตัวเลขเงินเฟ้อ กำละงจะถึงเป้าของพวกเขาที่ 1.9% ตอนนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.6% แล้วจาก 1.4% ในข่วงก่อนนหน้า และดัชนี้ชี้วัดการโตของ GDP ก็ประบตัวขึ้นจาก 0.9% เป็น 1.1% แล้วด้วยโดยรวมแลเวตอนนี้ตัวเลขพวกสถิติแคนาดา มีค่าเงินที่แข็งแรงมาก ส่วนพวกตลาดต่างๆยังไม่มีอัพเดตอะไรในตอนนี้
**ตารางเทรดข่าว**
-->วันจัน
- 19.30 personal spending ของเมกา อันนี้คาดว่าเพิ่มขึ้นแน่นอนน นะ เพราะ อัตรารายได้ที่สูงขึ้น ประชาชนก็น่าจะจับจ่ายมากขึ้นดังนั้น UCad น่าจะบาย
-->อังคาร
- 19.30 employment cost index ของเมกา อันนี้เพิ่มแน่นอน เพราะว่ารายได้เพิ่มขึ้นดังนั้น ทุนในการจ้างงานก็ต้องเพิ่มอยู่แล้ว ไม่มั่นใจว่าจะส่งผลกับกราฟยังไงนะ
- 19.30 GDP ของแคนาดา คาดว่าจะออกมาบวก เพราะว่าดัชนี้ชี้วัดแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเสดกิดที่ดี ucad น่าจะเซล
- 21.00 consumer confidence ของเมกา อันนี้คาดว่าจะออกเปนบวก จากราคาสินค้าที่จับต้องได้บวกกับอัตราเงินได้ที่เพิ่มขึ้นซึ่งัมนสอดคล้องไปในทางเดียวกัน ดังนั้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็น่าจะสูงขึ้นเช่นกัน Ucad น่าจะบาย
-->วันพุธ
- 5.30 manufacturing index ของออส อันนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากการส่งออกที่มากขึ้นก็น่าจะมีผลจากการผลิตที่เพิ่มขึ้น GA น่าจะเซล
- 16.30 manufacturing pmi ของอังกิก ราคาการผลิตตอนนี้น่าจะเพิ่มขึ้นแน่ๆ เพราะสภาพตลาดการส่งออกของอังกิดเปนบวก มาสักพักนึงแล้ว GA น่าจะ บาย
- 19.15 ADP nonfarm employment อันนี้คาดว่าจะออกมาเป็นลบ เพราะดัชนีถาคนอนฟาม เดือนนี้อ่อนตัวลงเยอะ แบบออกไปทางติดลบเลย คาดว่า ucad จะเซล
-->วันพฤหัส
- 19.00 ข่าวอัตราดอกเบี้ยของอังกิด อันนี้คาดว่าจะยังคงดอกเบีเยอยู่ที่คงดอกเบี้ย GA ก็น่าจะเซล วันนี้ให้รอเล่นตัวนี้เดียวเลยตัวอื่นไม่น่าเล่นเท่าไหร่
-->วันศุก
- 7.30 service pmi ของออส ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวราคาบริการอะไรทำนองนี้ก็น่าจะต่ำลงดังนั้น Ga น่าจะได้บาย
- 19.30 non farm อันนี้ค่อนข้างเขื่อมั่นในกัชนีชีเ้วัดว่าจะออกมาอ่อนลง เลยคาดว่า Ucad น่าจะเซล
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ ตุลาคม 30, 2017, 10:49:09 AM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ตุลาคม 30, 2017, 01:22:44 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 31, 2017, 11:03:16 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 31, 2017, 12:29:46 PM
8/1
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 31, 2017, 01:44:29 PM
ขณะที่ BoJ Outlook แสดงให้เห็นว่า
คาดการณ์เงินเฟ้อ (Core CPI) ปีนี้คาดอยู่ที่ 0.8% และปีหน้า 1.4%
คาดการณ์จีดีพี ปีนี้อยู่ที่ 1.9% ปีหน้า 1.4% และปี 2019 อยู่ที่ 0.7%
พร้อมกันนี้ นายคุโรดะ ผู้ว่าการ BoJ คาดเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 15 ปี อาจคงอยู่แถวระดับไม่น้อยกว่า 0.2% ขณะที่ความเสี่ยงด้านราคานั้นดูลดน้อยลง ขณะที่ความเสี่ยงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังอยู่ในภาวะสมดุล
ที่มา: Daily FX
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 31, 2017, 01:45:06 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 08, 2017, 08:59:42 AM
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดได้ปิดทำการลงแล้ว
ตลาดการเงินจับตาถ้อยแถลงของนางเยเลน ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซีเมื่อวานนี้ ในโอกาสที่เธอเข้ารับรางวัลด้านจริยธรรมจากรัฐบาล โดยนักลงทุนเตรียมหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ก็แย้มถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 96.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนส.ค. และไม่ไกลจากตัวเลข 6.14 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนก.ย. เกิดจากการที่พายุเฮอร์ริเคนได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในโรงแรม และร้านอาหาร
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 14, 2017, 10:22:13 AM
US INDEX ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 95 ได้ อาจจะมีการรีบาวด์เพื่อสะสมแรงก่อนครับ
แนวโน้มระยะสั้น USD อ่อนตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 14, 2017, 10:30:46 AM
-SPDR ไม่มีการเคลื่อนไหว ถือครองสุทธิ 843.09 ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +17.49 จุด อยู่ที่ 23,439.70 จุด
-นักลงทุนยังติดตามการเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตในวันพรุ่งนี้ โดยมีผู้ที่จะเข้าร่วม ได้แก่ ประธานธนาคารกลางจากสหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน
#ข่าวและตัวเลขเศรษฐกิจ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 14, 2017, 10:42:52 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 14, 2017, 10:51:40 AM
เย็นนี้สนุกแน่ *สูง EU 17.00 น. ประธาน ECB นาย Draghi กล่าวสุนทรพจน์
*สูง JPY 17.00 น. นายคุโรดะ ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์
*สูง GBP 17.00 น. มาร์คคาร์นีย์ ประธาน BoE กล่าวสุนทรพจน์
*สูง USD 17.00 น. นางเยเลนประธานเฟส กล่าวสุนทรพจน์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 15, 2017, 11:00:37 AM
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.52น. ของวันที่ 14/11/60)
แนวโน้มวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ จนกดดันราคาทองคำ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 ปี ในขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและระระยาวกลับมาปรับตัวแบนราบลงอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ธ.ค. ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตัน โดยเขามีกำหนดจะหารือกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันในวันพฤหัสบดี ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะทำการโหวตร่างกฎหมายภาษี ความพยายามผลักดันมาตรการปฏิรูปกฎหมายภาษี ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการถือครองทองคำ เพราะในช่วงที่ ปธน.ทรัมป์ เดินทางเยือนเอเชียนั้น เขาได้ทวีตข้อเสนอแนะเรื่องกฎหมายภาษีบางประการ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่แตกต่างเป็นอย่างมากจากร่างกฎหมายทั้งฉบับของสภาผู้แทนราษฎรและฉบับของวุฒิสภา ทั้งนี้นักลงทุนจับตาความชัดเจนจากมาตรการปรับลดภาษีนี้ เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ ขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนตกลงที่จะเริ่มต้นหารือกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในรายละเอียดของกรอบการทำงานสำหรับแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นความพยายามคลี่คลายปัญหาขัดแย้งอย่างสันติ โดยการหารือนี้จะเป็นการสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคนี้ ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดปัจจัยหนุน ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำมีการแกว่งตัวแคบ เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงของการพักฐาน หากยืนเหนือบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,285-1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ
SPDR คงสถานะ ไม่มีการซื้อขายเพิ่มเติม
ดาวโจนส์ ยังทำ NEWHIGH ไม่ได้ แนวโน้ม เงินไหลออกต่อเนื่อง นั้นส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 15, 2017, 11:09:12 AM
นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวบนเวทีการประชุมเมื่อวานนี้ว่า "ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยควรปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยทิศทางด้านนโยบายของเรานั้นยังคงอยู่ในระดับผ่อนคลายมากกว่าที่จะอยู่ในระดับที่มีความเป็นกลาง (neutral) "
หากธันวาคมนี้ ไม่ปรับดอกเบี้ยจริงๆ ทองมีโอกาศยืนเหนือ 1300 อีกครั้ง ครับ
นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันจนกว่าที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นที่น่าแปลกใจว่าข้อมูลเงินเฟ้อในปัจจุบันนี้ยังคงอยู่ในภาวะขาลง จึงนำไปสู่คำถามที่ว่าอันที่จริงเงินเฟ้อควรกลับขึ้นสู่ระดับเป้าหมายได้แล้ว แต่การที่เฟดจะทำให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% นั้น ก็อาจไม่ง่ายนักที่จะเห็นในช่วงก่อนปี 2018 หรือ 2019
นายบุลลาร์ด กล่าวย้ำว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเขายังกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และคาดการณ์เงินเฟ้อที่ปรับลดลงนั้น เขาอาจจะโหวต “No” ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งหน้า
ในปัจจุบันภาพรวมเงินเฟ้อสหรัฐฯยังคงทรงตัวบริเวณ 1.3% โดยยังอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเฟดในช่วง 5 ปีครึ่ง
ที่มา: CNBC
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 15, 2017, 11:33:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 17, 2017, 08:49:34 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 17, 2017, 09:05:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 09:54:41 AM
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 60)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี หลังจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่าย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 21.20 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ระดับ 1275.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 2 เดือน
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 53.1 เซนต์ หรือ 3.06% ปิดที่ 16.842 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 31 ดอลลาร์ หรือ 3.25% ปิดที่ 923.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.7% ปิดที่ 986.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า พรรคCDU ของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่าย ขณะที่นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีเยอรมนี ได้ออกมาเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในรัฐสภา ร่วมมือกันในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ
ทั้งนี้ การประชุมร่วมระหว่างพรรครัฐบาลผสมซึ่งนำโดยนางแมร์เคิลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม (CDU/CSU), พรรค FDP และพรรคกรีน (Green Party) ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หลังที่ประชุมไม่สามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือใหม่ของพรรครัฐบาลผสมภายใต้ชื่อ "กรอบความร่วมมือจาไมก้า" (Jamaica Coalition) ขณะที่มีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นผู้อพยพและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดย Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นเพียง 0.6%
ทั้งนี้ ดัชนี LEI ถือเป็นดัชนีบ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคำนวณจากตัวเลขเศรษฐกิจ 10 รายการ ซึ่งรวมถึง คำสั่งซื้อใหม่ของภาคการผลิต, ราคาหุ้น และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำ!!!!!!!
*** ค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม
กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะทองคำซื้อขายเป็นเงิน
ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลดลง ราคาทองคำ
จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อไรที่ค่าเงินดอลลาร์เพิ่มค่าขึ้น
ราคาทองจะปรับตัวลดลง
***ดีมานด์ซัพพลาย ในแง่ของดีมานด์และซัพพลายในตลาดโลกจะมีอยู่ 2 มิติ คือ
มิติที่ 1 เป็นความต้องการบริโภคทองคำจริงๆในยามที่เศรษฐกิจโลกดี คนจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณ
ความต้องการบริโภคทองคำมากขึ้น ในขณะที่ยามที่เศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อของคนจะลดน้อยลงไป ความต้องการบริโภคทองคำก็จะลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
ในมิติที่ 2 เป็นความต้องการบริโภคทองคำในแง่ของการลงทุน ซึ่งดูจะตรงข้ามกับมุมมองแรก คือ ในยามที่เศรษฐกิจแย่ คนมีแนวโน้มจะหันมาถือครองทองคำมากขึ้น ในฐานะที่ทองคำมีคุณลักษณะของสินทรัพย์ ที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูง แต่ถ้าเศรษฐกิจดี คนก็จะถือครองทองคำลดลง
***เงินเฟ้อ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ต่อสู้กับเงินเฟ้อได้ดี (Inflation Hedge) ในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูง ราคาทองคำก็จะ
ปรับตัวสูงขึ้น และในยามที่อัตราเงินเฟ้อต่ำ ราคาทองคำก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน
***นอกจากนี้ยังจะมีความต้องการถือครองทองคำมากขึ้นในช่วงที่มี**ภาวะสงคราม**เกิดขึ้น เหล่านี้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ผู้ลงทุน ควรจะต้องรู้
Cr.SCT Gold
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 09:56:57 AM
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งในปี 2561 ขณะที่อัตราว่างงานอยู่เริ่มปรับตัวลดลง และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกในวันข้างหน้า
ราคาทองปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ แต่ช่วงบวกถูกจำกัดจากการที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันว่าจะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
คำแนะนำส่วนตัวผม สำหรับทองคำวันนี้ ขณะนี้ทองคำอยู่ในกรอบ 1271-1280 สามารถเข้าSELL เบาๆที่ 1279-1280 ได้ หากราคายังไม่ยืนเหนือ 1281 แต่หากยืนเหนือ 1281 ได้ ให้ซื้อ BUY ตามกรอบราคาที่ส่งให้ก่อนหน้านี้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 10:06:22 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 21, 2017, 10:38:17 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 09:47:27 AM
-->ในสัปดาที่ผ่านมา ออส ออกตัวเลขสำคัญคืออัตราดอกเบี้ย โดยพวกเขาตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลกับสภาพเสดกิดตอนนี้ที่ไม่ได้แข็งแรงมาก แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ มาก เพราะตลาาดแรงงานก็กำลังทรงๆตัวิยู่ ส่วนตลาดการค้า (การปลิตและส่งออก) ของพวกเขาดีขึ้นมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่ายมา คาดว่ากำลังเปนไปในทิศทางดีขึ้นสำหรับออสเตรเลีย
-->สำหรับ เมกา สัปดาที่ผ่านมา เปนไปตามคาดว่าตัวเลขเกี่ยวกับภาคการผลิต (ราคาสินค้าคาดการ) จะออกมาในทิศทางที่ดีขี้น แต่ในขณะเดียวกัน ยอดเงินคงคลังก็น้อยลงเลยอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมมีการพูดคุยกันเรื่องภาษีในตอนนี้อันนี้ก็ต้องดูๆกันไปว่าสุดท้ายแล้วนโยบายภาษีจะออกมาในแนวทางไหน ส่วนยอดขายปลีกก็สนับสนุนกับตลาดแรงงานที่กำลังแข็งแรงขึ้น โดยส่วนตัวคาดว่าถ้ามีการปรับขึ้นนโยบายภาษีจิง แน่นอนว่าปชช. อาจจะไม่พอใจ แต่ปัจจัยรายได้ในตอนนี้ของปชช ก็ดูๆแล้วไม่น่ามีปัญหาไรถ้าเกิดการปรับขี้นมาจริงๆ แต่ในส่วนของสินค้าส่งออกมูลค่าทางการตลาดก้ยังตำ่ลง แต่อันนี้ไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะอะไร
-->ส่วน อังกิด
ราคาสินค้าในอังกิด ตำ่ลง ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายปลีก เมื่อเดือนก่อนยอดตกลง แต่กระนั้นคาดว่าเดี๋ยวจะกลับตัวขึ้นเพราะ ว่าดรรชนีรายได้ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนตลาดค้าปลีกเดือนนี้กลับปิดตัวเลขขึ้นเลยคาดการได้ว่าราคาสินค้าในเดือนหน้าก็น่าจะดีขึ้นทั้งในมุมมองของผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะปัจจัยทางเศรษฐศาสตรเริ่มสอดคล้องกันแล้ว
-->แคนาดา
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวสำคัญออกสองตัว คือยอดการผลิต ซึ่งออกมาในทางที่ดีขึ้นคาดว่าจะส่งผลกับยอดการส่งออกที่น่าจะเพิ่มขึ้นได้ ส่วนราคาสินค้าภายในประเทศออกมาในทางบวก แต่ถ้าตัวที่เป็นค่าเฉลี่ยยังต่ำกว่าค่าก่อนหน้าอยู่แต่ถ้ายังออกมาในทางที่ดีขึ้นอย่างนี้เรื่อยๆ ก็น่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในอนาคตใกล้ๆนี้
**ตารางเทรคข่าวประจำวันที่ 20-24/11/17**
-->วันจัน
ไม่มีข่าวอะไร
-->วันอังคาร
- 17.00 GBP ข่าวอัตราเงินเฟ้อ ถ้าได้ตามเป้า เงินจะแข็งแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้ตามเป้าเงินจะอ่อนหน่อย แต่ไม่มากเพราะคาดว่าจะไม่ได้ตามเป้าเพราะจะเกินเป้า นี่แหละ ส่วนตัวคาดว่า GA อาจจะเซล เพราะตัวเลขน่าจะออกมาเกินเป้าแน่นอน
- 20.30 cad ยอดการขายส่ง อันนัเคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ก็น่าจะส่งผลให้การค้าส่งเพิ่มขึ้นด้วยดังนั้น UCad น่าเซล
-->วันพุธ
- 6.00 ป้าเยเลน ออกมาพูดอันนี้ไม่รุ้เลยว่าอะไรน่าจะเรื่องภาษีแต่คาดไม่ถุกเลยว่าทางไหน
- 20.30 Usd ยอดการส่งสินค้า อันนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามยอดการผลิต ที่เพิ่มขึ้นเพราะจะผลิตไรก้คงต้องมีออเดอร์มาก่อนอยู่แล้ว ucad น่าบาย
-->วันพฤหัส
- วันหยุดธนาคารเมกา แต่ตอนตี 2 มีการประชุมของ FOMc อย่าได้ค้างออเดอร์ไว้เชียว เพราะน่าจะคุยเรื่องภาษีกัน คงตื่นมาแก้ไรไม่ทันถ้าคิางไรไว้
- 16.30 GDP ของอังกิดมนไตรมาศนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามภาพรวมทางเสดกิดที่เห่นๆกันอยู่ว่าดีขึ้น ดังนั้น GA น่าบาย
- 20.30 ยอดการขายตรงของแคนาดา อันนี้ดรรชนีชีเว่าจะเพิ่มก็คงต้องเตรียมตัวบายแหละ
-->วันศุก ไม่มีข่าวอะไรสลักสำคัญที่ทำให้กราฟวิ่งแต่มีข่าวเกี่ยวกับธนาคารของอังกฤษที่ผ่านการรับรองจากธนาคารกลาง อันนี้จะส่งผล กับภาพรวมเสดกิดมากกว่าไม่ส่งผลให้กราฟวิ่งเท่าไหร
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 09:56:56 AM
ใช้เครื่องสะแกนกันเลยนะครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 10:57:48 AM
ปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด แม้ว่าตลาดแรงงานจะส่งสัญญาณที่กระเตื้องขึ้นก็ตาม โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญนั้น เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และขยับขึ้นเพียง 0.9% จากไตรมาส 2
"เฟดกำลังเผชิญปัญหาในการกำหนดนโยบายการเงินที่จะช่วยรักษาภาวะการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกันก็ช่วยหนุนเงินเฟ้อให้ปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของเราที่ 2%" นางเยลเลน กล่าว
นางเยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.ปีหน้า และจะก้าวลงจากตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดด้วยนั้น กล่าวเตือนว่า "ระดับเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไปนั้น อาจส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลง ดังที่เคยปรากฏให้เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา" อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่า ที่ผ่านมานั้น การคาดการณ์เงินเฟ้อได้ปรับตัวลงไม่มาก
เธอกล่าวเสริมด้วยว่า หากเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าเป้าหมาย จะส่งผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) รวมถึงการพิจารณาระดับอัตราดอกเบี้ยปกติ (neutral rate) ใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นตัวเลขต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้มาก ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยปกติคือระดับดอกเบี้ยที่ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า หากเฟดถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินช้าจนเกินไป อาจส่งผลให้ตลาดแรงงานตกอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป และอาจหนุนตัวเลขเงินเฟ้อให้พุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%
นางเยลเลนคาดว่า เงินเฟ้อสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีหน้า แต่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับราคาผู้บริโภค พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า เฟดจะจับตาตัวเลขเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดต่อไป
ราคาทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบโดยกลับมายืนเหนือ 1,280 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเมื่อวานนี้ของสหรัฐฯ ได้แก่ Existing Home Sales ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาด ด้าน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 843.39 ตัน และไม่มีข่าวใดๆเข้าสู่ตลาด ขณะที่นักลงทุนรอรายงานประชุมแผนภาษีของทรัมป์ที่จะมีการอภิปรายในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าทางส.ว.จะมีการลงมติประมาณวันที่ 30 พ.ย. หรือช่วงตีหนึ่งของวันที่ 1 ธ.ค
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 11:05:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 11:10:28 AM
สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐ และการฟื้นตัวของสกุลเงินยูโร
วันนี้แนะนำนักลงทุนติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจาก ม.มิชิแกน และจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 22, 2017, 04:47:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 24, 2017, 10:34:45 AM
1.ด้านภาวะตลาดการเงิน
นาย Coeure รายงานว่าที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลในยูโรโซนปรับสูงขึ้นไม่มากนัก แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรฯระยะสิบปีของสหรัฐฯจะปรับสูงขึ้นถึง 35 bps ตั้งแต่การประชุมรอบเดือนกันยายนก็ตาม นอกจากนี้ ความผันผวนในตลาดยุโรปยังอยู่ในระดับต่ำมาก และความเห็นในตลาดเป็นหนึ่งเดียวกันว่า ECB จะยังคงการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่อไปในปี 2018 และ sovereign bond spreads ในยูโรโซนก็ปรับลดลงในเดือนตุลาคมเช่นกัน นอกจากนี้ ยังรายงานว่า นักลงทุนในหุ้นกำลังพยายามบริหาร trade-off ระหว่างการหาผลตอบแทน (search for yield) และความเสี่ยงที่มูลค่าของหุ้นได้ปรับสูงขึ้นมามากแล้ว (stretched valuations) โดยจากผลสำรวจล่าสุด พบว่าผู้จัดการกองทุนเริ่มแนะนำให้ออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯเพื่อเข้ามาในตลาดหุ้นยุโรป ญี่ปุ่น และ emerging markets โดยเฉพาะเอเชียแทน
2. ด้านเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และ leading indicators ต่างๆยังคงชี้ถึงมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น ในยูโรโซน การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง และ output ของประเทศสมาชิกปรับสูงขึ้น โดยสภาวะทางการเงินที่ดี รายได้ที่มั่นคง และกำไรที่เติบโตขึ้น ต่างเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนความต้องการภายในประเทศ และการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน
3.ด้านอัตราเงินเฟ้อ
คณะกรรมการต่างเห็นด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเริ่มปรับสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ แต่โดยรวมแล้วยังคงอยู่ในระดับต่ำ และยังไม่มีสัญญาณที่น่าเชื่อถือว่าจะปรับเข้าสู่ระดับเป้าหมายของ ECB ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะกลาง ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายการเงินของ ECB เศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง และค่าจ้างแรงงานที่ปรับสูงขึ้น
คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่ายังคงมีความเหมาะสมในการคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะที่ underlying inflation กำลังเริ่มก่อตัว และเป็นการช่วยหลีกเลี่ยง inflation expectation ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายอีกด้วย และคณะกรรมการเห็นด้วยกับข้อเสนอของนาย Praet ให้ขยายมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ ที่ปริมาณ 30 พันล้านยูโร เป็นเวลาเก้าเดือนจนถึงเดือนกันยายน 2018 หรือนานกว่านั้น หากจำเป็น นอกจากนี้ ยังเห็นเหมาะสมให้คง forward guidance ในด้านอัตราดอกเบี้ยและมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ และเพิ่มความชัดเจนใน forward guidance ในด้าน reinvestment เงินต้นที่ครบกำหนด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว the Governing Council จึงมีมติดังนี้
- คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ติดลบร้อยละ -0.40 และคาดว่าจะอยู่ในระดับปัจจุบัน “for an extended period of time” และยังคงอยู่แม้การเข้าซื้อสินทรัพย์จะสิ้นสุดลง (well past the horizon of the net asset purchases)
- คงปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ APP ที่ 60 พันล้านยูโรต่อเดือน จนกระทั่งถึงเดือน ธ.ค. 2017 และลดลงเหลือ 30 พันล้านยูโรต่อเดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2018 จนถึงเดือน ก.ย. 2018 หรือนานกว่านั้น หากมีความจำเป็น
- reinvest เงินต้นของพันธบัตรที่ครบกำหนดภายใต้มาตรการ APP ต่อไปอีก “for an extended period of time” ภายหลังจากสิ้นสุดมาตรการการเข้าซื้อสินทรัพย์แล้ว ตราบเท่าที่จำเป็น
- ขยายระยะเวลาสำหรับ fixed rate full allotment สำหรับ Main refinancing operations และ Long-term refinancing operations ระยะเวลา 3 เดือนต่อไปนานเท่าที่จำเป็น หรืออย่างน้อยจนถึงสิ้นสุด reserve maintenance period สุดท้ายประจำปี 2019
นอกจากนี้ Governing Council ยังเปิดเผยจำนวนเงินต้นของพันธบัตรที่ครบกำหนดภายใต้การเข้าซื้อสินทรัพย์ในระยะเวลา “rolling 12 months” รวมถึง actual redemption จริงของเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการเพิ่มความโปร่งใสของ ECB
Source: BOTSS
เพิ่มเติม
1. ECB split over keeping bond buys open-ended: minutes
https://ca.reuters.com/article/businessNews/idCAKBN1DN19N-OCABS
2. ECB Officials Differed on Future of QE at October Meeting
https://www.wsj.com/articles/ecb-officials-differed-on-qe-at-october-meeting-1511443199
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 24, 2017, 10:56:37 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ พฤศจิกายน 26, 2017, 06:37:25 PM
em2.gif
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD เราได้ให้คำทำนายบนพื้นฐานของการวิเคราะห์กราฟที่ถือว่าเป็นการวิเคราะห์ที่ดูสดใสมากที่สุด และการตัดสินใจของเราก็ไม่มีผิดพลาด ในสัปดาห์ที่แล้วจากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ราคาคู่นี้คาดว่าจะเคลื่อนที่ในทิศทางด้านข้างในช่วงระหว่าง 1.1700 ถึง 1.1860 โดยหลังจากที่ราคาขยับถึงเพดานด้านล่าง คาดว่าราคาน่าจะพุ่งทะยานขึ้นมา และคำทำนายนี้ก็เกิดขึ้นจริง โดยราคาคู่นี้ได้ขยับไปยังช่วงราคาขั้นต่ำที่ระดับ 1.1712 และหลังจากมีผลการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับสถานการณ์ในเกาหลีเหนือและข่าวจากธนาคารกลางที่ออกมา ราคาคู่นี้ก็เริ่มไต่สูงขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยราคาได้ขยับถึงจุดสูงสุดที่ 1.1943 ในช่วงท้ายสัปดาห์
- สำหรับบทวิเคราะห์คู่ GBP/USD ได้มีนักวิเคราะห์จำนวน 60% ที่โน้มน้าวไปทางที่ว่าราคาจะขยับอยู่ในช่วงกลางของระยะกลางในช่องด้านข้าง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม สำหรับผู้เชี่ยวชาญ 40% ที่เหลือสนับสนุนด้วยดัชนีจำนวนเกือบ 90% ได้คาดว่าราคาจะออกจากโซนดังกล่าวและขยับไปยังเพดานด้านบนของช่องนี้ ซึ่งสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริงอย่างแม่นยำ 100% โดยในช่วงก่อนกลางสัปดาห์ ราคาพยายามขยับคงที่อยู่ใกล้ช่วงกลางของระยะกลาง โดยมีจุด Pivot Point เป็นค่าแนวรับ และหลังจากนั้นราคาก็ขยับขึ้นมาถึงระดับสูงสุดของเดือนตุลาคมที่ 1.3338 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- USD/JPY สำหรับคู่นี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (75%) ซึ่งสนับสนุนโดยดัชนีจำนวนข้างมาก (90%) ได้ให้บทวิเคราะห์ว่าราคาจะทดสอบค่าแนวรับในพื้นที่แถว Pivot Point ของระยะกลางที่ 108.00 – 114.50 ในช่องด้านข้าง บทวิเคราะห์นี้ก็เกิดขึ้นจริงเช่นกัน โดยราคาได้ทะลุระดับ 111.70 และราคาขยับไปค่าต่ำสุดของสัปดาห์ที่ระดับ 111.05 หลังจากนั้นราคาก็ตีตื้นขึ้นมาโดยปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่โซน 111.50
- บทวิเคราะห์สำหรับคู่ USD/CHF ก็ถูกต้องเช่นกัน โดยมีระดับ 0.9940 เป็นค่าแนวต้านที่ใกล้ที่สุด ตามที่ทำนายโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 60% และดัชนีจำนวน 75% ราคาคู่นี้ได้ฟื้นขึ้นมาจากระดับนี้ก่อนที่จะวิ่งลงทิศใต้ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 0.9800 และราคาได้ขยับมาหยุดอยู่ใกล้ระดับดังกล่าวในท้ายสัปดาห์
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ในสัปดาห์นี้ได้ดังต่อไปนี้
- 65% ของผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนตัวลงและราคา EUR/USD จะขยับสูงขึ้นอย่างน้อยที่ระดับ 1.2000 โดยมีค่าแนวต้านอยู่ที่ 1.2045 และ 1.2090 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเดือนสิงหาคม ทั้งการวิเคราะห์กราฟและดัชนีเทรนด์ราคาทั้งหมด 100% ต่างเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์นี้ สำหรับออสซิลเลเตอร์ มีสัญญาณจำนวนหนึ่งในสามที่บ่งบอกว่ามีการซื้อมากเกินไป ในขณะที่นักวิเคราะห์จำนวน 35% คาดว่ายังอาจมีการปรับตัวของราคาที่ปรับตัวลดลงมาก็เป็นได้ ซึ่งนักวิเคราะห์กลุ่มนี้มองว่าราคาจะถอยลงมาที่แนวรับที่ระดับ 1.1855 และในกรณีที่ราคาทะลุได้ก็จะลงไปอีกที่ถึงบริเวณ 1.1800
- ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีจำนวน 100% เห็นด้วยว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินปอนด์เช่นกัน ในความเห็นกลุ่มนี้ แนวโน้มขาขึ้นของคู่ GBP/USD ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2560 นี้จะยังคงดำเนินต่อไป และราคาคู่นี้จะเร่งขยับตัวไปที่จุดสูงสุดของเดือนกันยายนที่โซน 1.3650 และค่าแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 113.25
บทวิเคราะห์อีกมุมหนึ่งซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวน 30% มองว่าราคาได้แตะเพดานด้านบนในฤดูใบไม้ร่วงในระยะกลางที่ช่วง 1.3035 – 1.3335 แล้ว ดังนั้นราคาน่าจะกลับมาสู่ Pivot Point ที่ 1.3200
- ค่าเงินดอลลาร์นั้นกำลังอ่อนตัวตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% ก็มีผลต่อคู่เงิน USD/JPY เช่นกัน เป้าหมายของคู่นี้อยู่ในช่วง 110.00 – 110.50 อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางภาพบทวิเคราะห์จะเปลี่ยนแปลงไป โดยมีนักวิเคราะห์จำนวน 65% ให้คะแนนเสียงว่าราคาคู่นี้จะขยับขึ้นมาที่ช่วง 1120.00 – 113.45 และขยับต่อไปอีกที่ 114.45 การวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์หลายตัวในกรอบ D1 ก็ให้สัญญาณที่บ่งบอกแนวโน้มนี้เช่นเดียวกัน
- ทิศใต้และทิศใต้เท่านั้น เป็นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญกว่า 70% และการวิเคราะห์กราฟและดัชนีเทรนด์อีก 100% รวมถึงออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 จำนวนกว่า 80% โดยมีแนวรับที่ระดับ 0.9750, 0.9675 และ 0.9560
สำหรับการวิเคราะห์กราฟ มีความเห็นตรงกับออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ซึ่งให้สัญญาณว่าก่อนที่ราคาจะขยับลงนั้น ราคาอาจจะปรับตัวขยับขึ้นชั่วคราวที่ระดับ 0.9865
สุดท้ายนี้ มีนักวิเคราะห์จำนวน 30% ที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแรงสนับสนุนขาลง ซึ่งนักวิเคราะห์กลุ่มนี้มองว่าราคาน่าจะวกกลับไปที่ 1.000 ในอนาคตอันใกล้นี้
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ พฤศจิกายน 27, 2017, 07:26:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 27, 2017, 08:08:34 AM
ขอบคุณครับท่าน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 27, 2017, 09:11:32 AM
-->ออสเตรเลีย
สัปดาที่ผ่านมา ไม่ได้ออกตัวเลขอะไรสำคัญๆมาเลย ดังเห็นได้จากตารางข่าวที่ไม่ได้เทรด Aud เลย แต่สภาพเสดกิดโดยรวมๆตอนนี้ ก็ยังคงทรงๆไปในทิศทางที่ดีขึ้นเหมือนเดิม จากปัจจัยที่เห้นได้ชัดคือคลาดหุ้นที่ขยับขึ้นอยู่ตลอด
-->เมกา
ก็ยืนยันเปนที่เรียบร้อยแล้ววว่า หลังจาก หมดเวลาในตำแหน่งปีหน้า ป้าเยเลนจะไม่อยู่ต่อ ทรัมป์เลือกคนใหม่ไว้แล้ว คือ powell ที่เอาตรงๆก็เหมือนหุ่นเชิดของทรัมป์ความคิดอะไนก็แนวเดียวๆกัน ต่อไปนี้ทรัมป์คงทำอะไรเกี่ยวกับการเงินสะดวกขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตลาดเมกาถึงอ่อนๆในอาทิตที่ผ่านมา เพราะเหตุผลทางการเมืองนี่เอง ส่วนตัวเลขเรื่องราคาการผลิต ออกมาไม่ค่อยดี แสดงว่ายอดการส่งออกไรงี้ก็น่าจะลดลง แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภายในยังดีอยู่ โดยรวมๆถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
-->แคนาดา
มีข่าวออกมาสามตัว เปนทางลบหมดเลย และข่าวทุกตัวเกี่ยวกับการค้าภายในแสดงว่า สภาพเสดกิดตอนนี้ไม่ค่อยดี ประชาชนจับจ่ายใช้สอยน้อยลง อาจตีความไปได้ถึงอัตราว่างงานที่อาจจะเพื่มขึ้นก็เปนได้ โดยตัวเลข การขายปลีก ไม่ได้ตกลงแต่ไม่ถึงคาดการณ์ ส่วนตัวเลข การขายส่ง ไม่ถึงเป้าและตกลงมาเยอะเลย ดังนั้นสภาพตลาดของแคนาดาตอนนี้น่าจะค่อนข้างอ่อนๆหน่อย
-->อังกิด
ตัวเลขเขียวที่ประกาศออกมา คืออัตราการลงทุนในภาคธุรกิจที่ออกมาตกลง ส่วนตัวจีดีพี ยังคงเท่าเดิม แต่คาดว่าถ้าตัวเลขจากการลงทุนตำ่ลง จีดีพีในไตรมาศหน้าก็อาจจะไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว ส่วนตัวเลขธนาคารพาณิชที่ได้รับการยอมรับจากธนาคารกลาง ก็ลดลง แสดงให้เห็นถึงสภาพการเงินที่น่าจะค่อนข้างอ่อนแอในช่วงนี้ขนาดส่งผลกระทบถึงสถาบันการเงินได้
**ตารางเทรดข่าวประจำวันที่ 27/11-1/12/17**
-->วันจัน
มีแต่ข่าวขายบ้านของเมกาที่กราฟไม่วิ่ง
-->วันอังคาร
- 14.00 รายงานสภาพการเงินของอังกิดจากธนาคารกลาง อันนี้ไม่เคยเจอไม่รู้ว่าผลเปนไงรายละเอียดมีไรบ้าง
- 22.00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเมกา อันนี้คาดว่าจะออกมาทางบวก เพราะอาทิตที่ผ่านมา เพิ่งมีรัฐใหญ่ทำไป ดังนั้น ucad น่าบาย
-->วันพุธ
- 20.30 GDP ของเมกา อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวกนะ เพราะเรื่องการลงทุนไรของเมกาไตรมาศออกมาในทิศทางที่ดีมาโดยตลอด แม้จะมีปัญหาเรื่องการค้าบ้าง แต่ไม่น่าใช่ปัจจัยสำคัญอะไร ดังนั้น ucad น่าบาย
- 22.00 ป้าเยเลนมาพูดน่าจะเกี่ยวกับการลงจากตำแหน่งในปีหน้า คาดว่าคงทำให้ u อ่อนพอตัว ถ้าวิ่งก็คงเซล ucad
-->วันพฤหัส
มีการประชุม opec ที่จะส่งผลกระทบต่อราคานำ้มัน แต่ยังไม่รู้เวลาที่แน่นอน
- 20.30 curren account ของแคนาดา คือกระแสเงินสดหมุนเวียนในประเทศที่คาดว่าจะออกมาทางลบ จากตัวเลขที่เกี่ยวกับการค้าที่ตกลงไปค่อนข้างมากดังนั้น ucad น่าบาย
-->วันศุกร์
- 16.30 ยอดการผลิตของอังกิดคาดว่า จะออกมาในทิศทางที่ดีจากยอดการค้าส่งที่มากขึ้น ดังนั้น GA น่าจะบาย
- 20.30 GDP ของแคนาดา อันนี้ยังมั่นใจในกัชนีที่บอกว่าจะออกมาในทางบวก แต่ก็กลัวๆจากการที่ตลาดการค้าออกมาในทางลบเมื่อสัปดาที่ผ่านมา แต่ถ้าบวกจริง Ucad จะเซล
----####
ปล.ข่าวน้อยหน่อยเพราะ สมาชิก fomc กับธนาคารกลางประเทศอื่นๆ มีคิวออกมาพูดเยอะ
เริ่มหัวข้อโดย: friday ที่ พฤศจิกายน 27, 2017, 09:34:11 AM
em14.gif em14.gif em14.gif
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 27, 2017, 02:27:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 30, 2017, 12:22:26 PM
นายวิลเลียมส์กล่าวสุนทรพจน์ในงาน "Annual Economic Forecast Luncheon" ครั้งที่ 54 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ว่า "ตราบใดที่ข้อมูลยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อออกมาดีตามที่คาดการณ์ไว้ ผมคิดว่าเราควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆในปีหน้านี้"
ประธานเฟดซานฟรานซิสโกกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีนี้จนถึงสิ้นปี 2561 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสของเฟดที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และอีก 3 ครั้งในปี 2561
นายวิลเลียมส์เตือนว่า การปล่อยอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำนานเกินไปนั้น จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และอาจสร้างปัจจัยเสี่ยงที่จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในวันข้างหน้า
ทั้งนี้ นายวิลเลียมส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.5% ในปีนี้ และจากนั้นจะชะลอตัวลงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า พร้อมกับคาดว่า ตลาดแรงงานจะยังคงเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงแตะระดับ 3.75% ในปี 2561 จากปัจจุบันที่ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤศจิกายน 30, 2017, 12:47:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ธันวาคม 04, 2017, 03:11:21 PM
em2.gif
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ตามการปฏิบัติแสดงให้เห็นว่ามีสัญญาณจากออสซิลเลเตอร์อย่างน้อย 25-30% ที่บ่งบอกว่าคู่ราคานั้นถูกซื้อหรือถูกขายมากเกินไป และคาดว่าราคาจะมีการปรับตัว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วกับคู่สกุลเงิน EUR/USD ในตอนต้นสัปดาห์ ดูเหมือนว่าราคาจะปรับตัวไปทิศเหนือโดยขยับต่อจากเทรนด์หลักของเดือนพฤศจิกายน แต่แรงกระทิงก็อ่อนล้าลงอย่างรวดเร็วและไม่นานนักคู่ราคานี้ก็ถอยลงมาตามจุดที่หนึ่งในสามของนักวิเคราะห์และออสซิลเลเตอร์ได้คาดการณ์ไว้ ไปอยู่ที่เพดานช่วงล่างในโซน 1.1800 อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ราคาคู่นี้กำลังถดถอยลงมา แรงกระทิงก็เริ่มฟื้นกำลังและภายในช่วงท้ายสัปดาห์ สามารถฟื้นกลับตัวขึ้นมาที่ระดับ 1.1900 ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับระดับที่ราคาเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมา
- เมื่อให้คำทำนายสำหรับคู่ GBP/USD มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีทั้งหมดได้ตกลงมาเทรนด์ขาขึ้นของคู่นี้ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 จะดำเนินต่อไป และราคาจะรีบวิ่งไปที่โซนค่าสูงสุดของเดือนกันยายนที่ 1.3650 โดยได้ระบุระดับ 1.3450 เป็นค่าแนวต้านที่ใกล้ที่สุด
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าความเป็นจริงอยู่ตรงกลาง และครั้งนี้ก็เกิดขึ้นเช่นกัน ค่าสูงสุดที่ราคาสามารถไต่ขึ้นไปได้อยู่ที่ระดับความสูง 1.3550 หลังจากนั้นแรงดันขาขึ้นก็เริ่มปรับตัว จนราคากลับมาปิดตัวท้ายสัปดาห์ที่ระดับ 1.3470
- USD/JPY บทวิเคราะห์สำหรับคู่นี้ได้คาดการณ์ไว้ว่าราคาจะขยับลงมาที่โซน 110.00-110.50 จากนั้นถึงจะขยับขึ้นไปที่โซน 112.00-113.45 และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงโดยมีการปรับตัวเล็กน้อย ในช่วงแรก ราคาถอยลงมาที่ระดับ 110.83 และหลังจากนั้น ราคาก็วกกลับขึ้นไปที่ระดับ 112.87 ต่อมาราคาถดถอยดิ่งลงมาถึง 140 จุดและขึ้นไปอีก 80 จุด จนปิดตลาดที่ 112.20
- คำทำนายพื้นฐานปรากฏออกมาแม่นยำสำหรับคู่ USD/CHF เช่นกัน “ทิศใต้และทิศใต้เท่านั้น” ตามที่คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีเทรนด์จำนวน 100% รวมถึงออสซิลเลเตอร์อีก 80% มีค่าแนวรับอยู่ที่ 0.9750 ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ร่วมกับออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ให้สัญญาณเตือนว่าก่อนที่ราคาจะขยับถอยลงมา ราคาอาจขยับขึ้นชั่วคราวไปที่ระดับ 0.9865
ความถูกต้องของคำทำนายนี้เห็นได้ชัดบนกราฟราคา โดยมีการขยับค่อยๆ สูงขึ้นไปที่ความสูง 0.9880 จากนั้นก็วิ่งต่ำลงมาที่ระดับ 0.9733 และปิดราคา ณ จุดที่ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.9760
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ เราจึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- เหมือนกับสัปดาห์ที่แล้ว ครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% ทำนายว่าค่าเงินดอลลาร์จะยิ่งอ่อนตัวลงและราคาคู่ EUR/USD จะขยับสูงถึงระดับ 1.2000 เป็นอย่างน้อย โดยมีค่าแนวต้านอยู่ที่ 1.2045 และ 1.2090 ซึ่งเป็นค่าสูงสุดของเดือนสิงหาคม ทั้งการวิเคราะห์กราฟละดัชนีจำนวน 95% เห็นด้วยกับคำทำนายนี้ แต่สำหรับคำทำนายในระยะกลาง แรงสนับสนุนขาขึ้นลดลงไป 35% และถ่วงดุลกันกับแรงหมี โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ราคาอยู่ในช่วงด้านข้างในช่วง 1.1575 – 1.2090 ดังนั้น หากราคาแตะถึงเพดานด้านบนของช่วงนี้ ราคาก็น่าจะวกตัวกลับไปยังจุด Pivot Point ในโซน 1.1835
ในขณะเดียวกัน เมื่อเปิดตำแหน่งใดๆ ของคู่ EUR/USD จำเป็นต้องพิจารณาเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์หรือการเพิ่มขึ้นของความผันผวนในราคาคู่นี้ โดยบรรดาเหตุการณ์สำคัญๆ ได้แก่การประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพุธที่ 6 ธันวาคมนี้ การประกาศข้อมูล GDP ของยูโรโซนในวันพฤหัสบดี และการประกาศข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้
- ค่าเงินดอลลาร์คาดว่าจะอ่อนตัวลงต่อค่าเงินปอนด์อังกฤษเช่นกัน ดังนั้น ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 60% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 รวมถึงดัชนีจำนวนประมาณ 90% โดยเป้าหมายของคู่ GBP/USD คือค่าสูงสุดของเดือนกันยายนที่ 1.3650 โดยมีค่าแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.3600 ในกรณีที่เทรนด์วกตัวกลับในขณะนี้ ค่าแนวรับที่แข็งแรงที่สุดจะอยู่ที่ระดับ 1.3325, 1.3265 และ 1.3050 ทั้งนี้จำเป็นต้องคำนึงว่าราคาได้ขยับมาที่ช่วงด้านข้างที่ 1.30 50 – 1.3325 มาเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว และในสัปดาห์แล้วเองนั้น ราคาได้ขยับขึ้นมาจนทะลุเพดานด้านบน ดังนั้น เป็นไปได้ว่าแรงหมีอาจมีกำลังมากพอที่จะทำให้ราคากลับไปอยู่ในช่วงเดิมและก็แรงหมีดังกล่าวก็พร้อมที่จะใช้โอกาสแรกได้ทุกขณะ โดยมีนักวิเคราะห์จำนวน 70% ที่ไม่ตัดโอกาสดังกล่าวออกไปในระยะกลาง
- หากคุณพยายามให้คำทำนายใดๆ สำหรับคู่ USD/JPY โดยการใช้ดัชนี คุณจะไม่สามารถทำได้ สัญญาณบางส่วนนั้นปรากฏเป็นสีเขียว บางสัญญาณให้สีแดง บางสัญญาณก็ให้สัญญาณสีเทาที่เป็นกลางทั้งในกรอบ H4 และ D1 ซึ่งเป็นสัญญาณของทั้งดัชนีเทรนด์และออสซิลเลเตอร์
ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญปรากฏว่ามีข้อได้เปรียบเล็กน้อย (60% ต่อ 40%) สำหรับผู้ที่สนับสนุนแรงกระทิง โดยพวกเขามองว่าคู่ราคานี้จะพยายามที่จะไต่ไปถึงระดับ 113.30 – 114.00 ซึ่งได้รับการยืนยันโดยการวิเคราะห์กราฟบน H4 เช่นกัน อย่างไรก็ดี หากเราดูที่กราฟ D1 จะสามารถมองเห็นความพยายามของคู่นี้ในการทดสอบจุด Pivot Point ในช่องระยะกลางช่วง 108.00 – 114.50 ที่ระดับ 111.70 ได้อย่างชัดเจน หากระดับดังกล่าวทะลุได้อย่างสำเร็จ ราคาคู่นี้จะเร่งขยับไปที่เพดานด้านล่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถย้อนสังเกตดูราคาของช่วงตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 11 เมษายน ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ถึง 6 มิถุนายน และตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมถึง 31 กรกฎาคมปีนี้
- USD/CHF สำหรับคู่นี้มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% ที่เชื่อว่าหลังจากราคาได้แตะที่ระดับแนวรับ/แนวต้านที่ 0.9760 ราคาจะเริ่มแตกตัวและขยับไปที่ระดับแนวต้านที่ 0.9845 และในกรณีที่ราคาเกิดการทะลุก็อาจขยับเหนือขึ้นไปอีก 100 จุด ทั้งนี้ การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 รวมถึงออสซิลเลเตอร์จำนวนหนึ่งในสี่ให้สัญญาณว่าราคามีการขายมากเกินไปและเห็นด้วยกับการพัฒนาในทิศทางเช่นนี้เช่นกัน
เมื่อพูดถึงการเคลื่อนที่ของราคาไปยังทิศเหนือ ควรคำนึงว่าในระยะกลาง จำนวนแรงสนับสนุนการเติบโตไปที่ระดับ 1.0100 เพิ่มขึ้นถึง 65% ในขณะเดียวกัน แรงสนับสนุนหมีก็ทำนายขาลงของราคาลงไปที่ระดับ 0.9700 โดยเป็นความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (55%)
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ ธันวาคม 04, 2017, 05:10:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 04, 2017, 05:34:33 PM
เจอเมื่อวันศุกร์หรือป่าวานะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ธันวาคม 04, 2017, 09:12:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 05, 2017, 10:58:40 AM
-->เมกา
สัปดาที่ผ่านมาของเมกาถือว่าเป็นสัปดาที่ดีมากในเชิงเสดกิดเพราะตัวเลขยอดขายบ้านที่ถึงแม้จะไม่ส่งผลให้กราฟวิ่ง แต่มันก็เปนตัวบ่งสภาพเสดกิดได้และถ้ามันเพิ่มแสดงว่าประชาชนมีเงินในมือมาก เพราะถ้าไม่มีงินจะซื้อบ้านได้ไง ซึ่งนั่นก็สอดคล้องกับยอด personal income ที่มันเพิ่มขึนจากในไตรมาศที่แล้ว ส่วนในภาคการผลิตแม้ตัวเลขยอดการผลิตจะตกลงเป็ฯเดือนที่สองติดกันแล้ว แต่ยอดเงินรวม GDP หมายถึงรายได้ประชาชาติหน่ะก็ยังคงออกมาในทางบวกอยู่ ทีนี้ปัญหาเล็กน้อยก็คือประชาชนมีเงินเข้ามากแต่การจับจ่ายใช้สอยกับน้อย ทั้งๆที่ช่วงนี้เป็ฯช่วงปลายปีและเดือนที่ผ่านมาก็มีเทศกาล thanksgiving รายจ่ายควรจะมากดังนั้นคิดว่าประชาชนอาจจะมีความเชื่อมั่นในภาคการตลาดและการเงินของรัฐบาลค่อนข้างต่ำเลยมีการประหยัดมากขึ้น ส่วนวันศุกสถานการณ์ไม่ดีเลยสำหรับเมกาจากข่าว เกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้ง เรียกด้ว่าความเชื่อมั่นในรัฐบาลหดหาย ตลาดหุ้นเมกาเลยร่วงระนาวเลยเมื่อวาน
-->อังกิด
สัปดาที่ผ่านมาข่าวการเมืองไม่มีอะไรเลย ส่วนข่าวเสดกิดมีสองตัว คือราคาบ้าน ที่แม้จะยังโตเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเติบโตก็ถือว่าชะลอตัวเพราะช้าที่สุดแล้วในรอบสามเดือนที่ผ่านมา และยอดการผลิตก็ยังเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาทั้งไตรมาศแล้วซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอังกิด ในภาคผู้บริโภคดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคตกลง ซึ่งยังไม่ร็สาเหตุว่าทำไมแต่จะพยายามหาให้ได้เพราะสภาพการเงินที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้นและยอดราคาสินค้าอะไรก็เข้าใกล้เส้นดุลยภาพมากๆแล้วแต่ไม่ทราบว่าทำไมดัชนีผู้บริโภคถึงตกลง
-->ออสเตรเลีย
ไม่มีข่าวอะไรที่บ่งบอกได้เลยว่าสภาพเสดกิดต่างๆไปในทิศทางไหนมีแต่ข่าวที่ไม่มีอิมแพคเท่าไหร่
-->แคนาดา
มีข่าวสำคัญมากๆตัวนึงคืออัตราการเติบโตของ GDP ที่เรียกได้ว่าปีนี้โตมาทั้งปี แต่ไตรมาศนี้แข็งแรงเป็ฯพิเศษคาดการณืที่ 1.4 และตัวเลขจริงออกมาที่ 1.9 ส่วนเรื่องของตลาดแรงงาน อัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 75.3 จาก 15 เรียกได้ว่าอัตราการว่างงานได้ลดลงมากเลยทีเดียวจาก 6.2 กลายเป็น 5.9 ก็ถือว่าแคนาดามีสภาพเสดกิดที่ดีในตอนนี้
**ตารางเทรดข่าวประจำวันที่ 4-8/12/17*
-->วันจัน
- 16.30 Construction PMI ของอังกิดอันนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพราะราคาอสังหาริมทรัพที่เพิ่ทขึ้น ดังนั้นพวกผู้ก่อสร้างก็คงอยากสร้างมาขายเหมือนกัน ทำมะดากราฟไม่วิ่งนะ
-->วันอังคาร
-10.30 ข่าวอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลีย อันนีคาดว่าจะคงดอกเบี้ย ถ้าคงดอกเบีย ก็ให้เซล GA แต่ถ้าเพิ่มก็ให้บาย
- 16.30 servicing pmi ดาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้เนื่องจากมีเงินในมือประชาชนเพิ่มมากขึ้นดังนั้นู้ฝให้บริการก็น่าจะมีการเพิ่ราคาการบริการของตัวเองด้วย GA น่าจะบาย
-->วันพุธ
- 7.30 GDP ของออสเตรเลียอันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบเพราะปีนี้รายได้ของออสที่มาจากการส่งออกเปนหลักน่าจะออกมาในทางลบมากๆ เพราะว่ายอดการส่งออกตกต่ำมาหลายไตรมาศติดๆกันแล้วแม้ไตรมาศที่ผ่านมาจะดีขึ้นแต่คาดว่าคงไท่สามารถฉุดสถานการณ์ขึ้นมาได้ดังนั้น น่า บาย GA
- 22.00 ข่าวอัตราดอกเบี้ยของแคนาดา นนี้คาดว่าคงจะคงดอก เพราะเพิ่งขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน ดังนั้น uCad น่าบาย
-->วันพฤฤหัส
- มีข่าว IVEY PMI ของแคนาดา ไม่ร็ว่าคือข่าวอะไรอยากขอให้ครูช่วยดูหน่อย
-->วันศุกร์
- 20.30 nonfarm อันนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าจะออกมาในทางบวก เพราะอัตราการขอรับการช่วยเหลือจากการว่างงานเดือนที่ผ่านมาน้อยลงดังนั้นคาดว่า จะออกมาในทางที่ดี ประกอบกับดัชนีที่ชี้ว่ามันจะออกมาดีขึนเลยคาดว่าจะได้บาย ucad
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 05, 2017, 11:04:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ธันวาคม 05, 2017, 01:47:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 07, 2017, 02:58:39 PM
ส่วนเมื่อวานนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 235,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
รายงานของ ADP ระบุว่า ภาคบริการมีการจ้างงานพุ่งขึ้น 155,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 35,000 ตำแหน่ง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 07, 2017, 03:08:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 07, 2017, 03:16:29 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 10, 2017, 04:48:15 PM
-->Aud สัปดาที่ผ่านมาถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับออสเตรเลีย เพราะตัวเลข งบดุลการค้า ลดตำ่ลงจากเดิมมาก ทั้งๆที่นี่ก็เข้าสู่หน้าการผลิตของออสแล้ว แสดงว่าการส่งออกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งนั่นก็ส่งผลต่อ GDP เพราะรายได้ของออสเตรเลียในปีนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ดังเห็นได้จาก จีดีพี ที่ลดต่ำลงเหลือการเติบโตแค่ 0.6% ในไตรมาศนี้เอง
-->CAD
สัปดาที่ผ่านมาตัวเลขออกมาก็ปนๆกันอยู่ สภาพเสดกิดถือว่าดีขึ้นจากงบดุลการค้าที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ และดรรชนีชี้วัดราคาสินค้าก็ดีขึ้นด้วย ส่วนเรื่องที่แย่คือตลาดแรงงาน ที่มีอัตราการทำงาน ได้งานน้อยลง ก็คือผลผลิตจากตลาดแรงงานนั่นแหละ และก็ไม่แปลกใจทำไมรัฐบาลยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.0% อยู่โดยรวมๆก็ถือว่าดีนะสำหรับแคนนาดา
-->GBP
ของอังกฤษสัปดานี้ตัวเลขสำคัญคือดรรชนีชี้ราคาบริการที่ตกลงมา แต่นั่นก็บังไม่ส่งผลเท่ากับตัวเลขงบดุลการค้าที่โดยรวมแล้วดีขึ้น แต่ตัวที่น่าสนใจคืองบดุลการค้าที่ไม่เกี่ยวกับอียู ตัวนี้ดีขึ้นมากแสดงให้เห็นว่าอังกฤษเริ่มเตรียมตัวหาพันธมิตรทางธุรกิจไว้แล้วถ้าไม่นับอียูเพราะอีกไม่นานมากก็คงได้ออกแบบเต็มตัวแล้ว
-->Usd
ยอดการสั่งซื้อผลผลิตเพิ่มขึ้นก็จริงแต่..งบดุลการค้าในช่วงที่ผ่านมากับติดลบแบบติดลบอย่างรุนแรงเลยด้วย -48.70 พันล้าน จากแค่ -44.90 พันล้าน ซึ่งนั่นอาจเปนตัวชี้วัดว่าต่างชาติไม่ได้มีความมั่นใจกับการทำธุรกิจกับเมกา หรือไม่ก็อาจจะเป็นแค่เพราะฤดูกาลก็ได้แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากการวางตัวของทรัมป์ที่หลังๆกร่างไปทั่ว ส่วนด้านตลาดแรงงานอัตราว่างงานยังต่ำลงเรื่อยๆ ในส่วนของนอนฟาม งวดนี้ออกมาดีทุกตัว แต่ก็สงสัยว่าทำไมทองบิน ทั้งๆที่ยูเอส ควรจะแข็งในตอนที่มีข่าว
-----####-----
**ตารางเทรดข่าวตั้งแต่วันที่ 11-15/12/17**
-->วันจัน
- 22.00 เมกามีข่าวตำแหน่งงานที่เปิดรับอันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะว่าอัตราการว่างงานลดลงสอดรับเสดกิดที่ดูตเแงการแรงงานมากขึ้นดังนั้น ucad น่าบาย
-->อังคาร
- 16.30 CPI อังกิด คาดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะผู้บริโภคน่าจะมีกำลังซื้อมากขึ้ร เลยน่าจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มได้ GA น่าบาย
- 20.30 PPI ของเมกา ผู้ผลิตอยากเพิ่มราคาแน่นอนเพราะยอดการผลิตสูงขึ้นเยอะดังนั้น ucad น่าบาย
-->พุธ
- 16.30 รายได้เฉลี่ยของอังกิด อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางบวก เนื่องจากผลผลิตจากตลาดแรงงานดีขึ้น ดังนั้นก็น่าจะมีการตอบแทนด้วยการเพิ่มอัตราค่าจ้างด้วย GA น่าบาย
-->วันพฤหัส
- 02.00 มีข่าวดอกเบี้ยของเมกา อย่าลืมปิดออดเอร์ก่อนนอนคืนวันพุธ คาดว่าป้าเยเลนคงทำทุกทางให้ดอกเบี้ยยังคงอยู่ที่เดิมก่อนป้าจะต้องลงจากตำแหน่งถ้าเป็นงั้นจิง ucad คงเซล
- 19.00 ข่าวดอกเบี้ยของอังกิก อันนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยแน่นอน เพราะอัตราเงินเฟ้อยังเกินๆเป้าอยู่ แถมยอดการผลิตและการส่งออกก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่ ดังนั้นเลยคาดว่า Ga น่าจะเซล
----####----
ปล.เสดซะที
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ ธันวาคม 10, 2017, 06:10:09 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 10, 2017, 06:46:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 10, 2017, 07:11:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ ธันวาคม 10, 2017, 07:47:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 10, 2017, 08:00:41 PM
แสนกว่าเงินไทยเลยนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 10, 2017, 08:51:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 11, 2017, 07:50:09 AM
เอกชนทำงานต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ ธันวาคม 11, 2017, 08:32:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 11, 2017, 08:35:21 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 10:41:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 11, 2017, 10:51:35 AM
เงินเดือนเยอะ ก็ต้องทำเยอะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 11:10:32 AM
(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif) เงินเดือนเยอะ ก็ต้องทำเยอะครับ (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)ขยายเปิดเพิ่ม อีก แต่เงินเดือน ไม่ได้เพิ่มเลยครับ ต้องรอให้ ขึ้นตำแหน่ง ถึงจะเพิ่มครับ แอด ไม่รู้จะไหวไหมครับ AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 11:11:35 AM
.
- 1. การตัดสินใจของ Federal Reserve Rate
ธนาคารกลางสหรัฐคาดว่าจะมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะได้รับเงินสนับสนุนในช่วงเป้าหมายประมาณร้อยละสี่ในตอนท้ายของการประชุมนโยบาย 2 วันเวลา 14.00 น. ตามเวลาตะวันออกกลางซึ่งจะทำให้อยู่ในช่วงระหว่าง1.25-1.50 %
- 2. การประชุมนโยบายธนาคารกลางยุโรป
การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของธนาคารกลางยุโรปในเวลา 1245GMT (7:45 น. ET) ในวันพฤหัสบดีนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ
- 3. การประกาศนโยบายธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะประกาศการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ 1200GMT (7:00 AM ET) ในวันพฤหัสบดีนี้โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในนโยบายเนื่องจากผู้กำหนดนโยบายต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit การเติบโตของค่าแรงต่ำและการผลิตที่อ่อนแอ เศรษฐกิจ.
- 4. การประเมินนโยบาย SNB
การประเมินนโยบายการเงินรายไตรมาสของธนาคารสวิสแห่งชาติสวิสมีกำหนดวันพฤหัสบดีเวลา 08:30 น. (3.30 น. ET) นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางมาตรฐานที่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่-0.75%
- 5. ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน
จีนจะปล่อยตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. ที่ราว 0200GMT ในวันพฤหัสบดีท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น 6.2% ก่อนหน้านี้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 11:12:13 AM
วันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ธ.ค.) สันนิบาตอาหรับประกาศเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกการตัดสินใจที่จะรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล โดยกล่าวว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะยิ่งโหมกระพือความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค
สันนิบาตอาหรับระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมครบองค์ที่กรุงไคโรว่า คำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้นเป็น “การฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศที่อันตรายยิ่ง” อีกทั้งไม่มีผลทางกฎหมายและ “เป็นโมฆะ”
การที่ทรัมป์สนับสนุนอิสราเอลให้ถือสิทธิ์ครอบครองเยรูซาเล็มในฐานะเมืองหลวงนั้นจะขัดแย้งต่อนโยบายที่ดำเนินมายาวนานของสหรัฐฯ เอง ซึ่งเดิมกำหนดว่าสถานะของเยรูซาเล็มนั้นต้องตัดสินผ่านการเจราจากับชาวปาเลสไตน์ด้วย
“การตัดสินใจนั้นไม่มีผลทางกฎหมาย... มันยิ่งทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น จุดประกายความโกรธ และเป็นอันตรายต่อการผลักดันภูมิภาคนี้ไปสู่ความรุนแรงและความวุ่นวายมากขึ้น” สันนิบาตอาหรับแถลงเมื่อเวลา 3 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น หลังสิ้นสุดการประชุมที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันเสาร์
ทางสันนิบาตอาหรับเสริมว่าจะหาทางออกผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อปฏิเสธคำประกาศของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ แถลงการณ์ข้างต้นสืบเนื่องจากสันนิบาตอาหรับเรียกรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจากประเทศสมาชิกทั้งหมดเข้าประชุมวาระเร่งด่วน หลังการชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรงในเขตเวสต์แบงค์และฉนวนกาซาดำเนินติดต่อกันมา 3 วัน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 11, 2017, 11:39:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ธันวาคม 11, 2017, 02:47:01 PM
อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- คำทำนายระยะกลางมักปรากฏว่าเป็นจริงรวดเร็วกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์จำนวน 65% ได้ทำนายไว้ว่าคู่สกุลเงิน EUR/USD จะขยับมาทดสอบช่องด้านข้างที่ 1.1575 – 1.2090 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาคู่นี้ได้เคลื่อนที่มาเป็นเวลาหลายเดือนในระยะกลาง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่แล้วนี้ ราคาก็เริ่มกลับมาสู่ค่าประจำของเดือนสิงหาคมอีกครั้งและท้าทายความคาดหมายของแรงขาขึ้นในระยะสั้น
- สถานการณ์ที่คล้ายกันก็ปรากฏสำหรับคู่ GBP/USD เช่นกัน โดยมีนักวิเคราะห์จำนวน 70% ที่ได้คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น และมีผู้เชี่ยวชาญอีก 70% ที่คาดว่าราคาจะถดถอยลงมาในระยะกลาง ทั้งยังพบด้วยว่าแรงขาลงที่จะพาราคาให้ถอยลงมาที่เพดานด้านล่างของช่วงด้านข้างที่ 1.3050 - 1.3325 ก็มีกำลังแรงพอเช่นกันและราคาพร้อมที่จะตอบสนองต่อกรณีนี้ได้ทุกเมื่อ และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ที่ผ่านมา ราคาได้ถอยกลับลงมาที่ 1.3318 และปิดตลาดที่ 1.3380
- USD/JPY สำหรับคู่นี้ไม่สามารถใช้ดัชนีช่วยในการให้คำทำนายได้ ไม่ว่าจะเป็นในกรอบ H4 หรือ D1 บางดัชนีให้สัญญาณสีเขียว บ้างก็ให้สีแดง บ้างก็ให้เป็นสัญญาณสีเทากลางๆ สำหรับความเห็นผู้เชี่ยวชาญค่อนข้างโน้มไปทางแรงขาขึ้นเล็กน้อย (60% ต่อ 40%) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าราคาคู่นี้จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 113.30 – 114.00 ซึ่งได้รับการยืนยันโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 อย่างไรก็ดี ในกรอบ D1 ราคาดูเหมือนจะทดสอบจุด Pivot Point ในช่วงด้านข้างของระยะกลางอีกครั้งที่ 108.00 – 114.50 ใกล้บริเวณ 111.70
หากคุณพิจารณากราฟจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคำทำนายทั้งสองนี้ปรากฏออกมาอย่างถูกต้อง ราคาถอยลงมาที่ระดับ 111.98 ในช่วงกลางสัปดาห์และก็เริ่มวกกลับไปตามกำลังขาขึ้นที่คาดไว้ ในช่วงปิดตลาดห้าวันท้ายสัปดาห์ราคาได้ขยับไปที่ 113.58
- USD/CHF มีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% ได้ให้คำทำนายว่าเมื่อราคาแตะที่ระดับแนวรับ/แนวต้านกำลังแรงที่ 0.9760 ราคาจะฟื้นตัวโดยในอันดับแรกจะขยับไปที่ค่าแนวต้าน 0.9845 และก็จะวิ่งขึ้นไปอีก 100 จุดด้วยกัน สถานการณ์นี้ได้รับการยืนยันโดยออสซิลเลเตอร์เช่นกัน ซึ่งให้สัญญาณว่ามีการขายมากเกินไป คำทำนายจึงปรากฏออกมาถูกต้อง 100% โดยราคาขยับอย่างต่อเนื่องไปทางทิศเหนือตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่ 0.9975 หลังจากนั้นมีการปรับตัวลงมาอีก 50 จุดและปิดตลาดที่ 0.9925
***
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่ได้มาจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์กราฟ เราจึงสามารถสรุปผลคำทำนายได้ดังต่อไปนี้
- ด้วยเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ใกล้เข้ามาถึง เราสามารถคาดการณ์ได้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะลดต่ำลงตามปกติ อย่างไรก็ดี เมื่อการซื้อขายเริ่มมีปริมาณ “น้อยลง” ก็ยังเป็นไปได้ที่นักเก็งกำไรส่วนน้อยสามารถส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน
สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD แรงกำลังขาลงมีข้อได้เปรียบกว่ามาก (80% ต่อ 20%) โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าราคาจะขยับลงมาที่เพดานด้านล่างในระยะกลางของช่วงด้านข้าง 1.1575 – 1.2090 ในขณะเดียวกัน เป็นไปได้ว่าในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ ราคาจะขยับในช่วงโซนที่แคบกว่าเดิมที่ 1.1685 – 1.1900
การวิเคราะห์กราฟและดัชนีจำนวนประมาณ 70% เห็นด้วยกับคำทำนายนี้เช่นกัน สำหรับแรงสนับสนุนขาขึ้นมีปรากฏจากออสซิลเลเตอร์เพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่ให้สัญญาณว่าราคามีการขายมากเกินไป อย่างไรก็ตามในสถานการณ์นี้ราคาไม่น่าจะขยับขึ้นเหนือโซน 1.1850 – 1.1900
- การอ่านดัชนีต่างๆ สำหรับอนาคตของราคา GBP/USD ในกรอบ H4 และ D1 ปรากฏออกมาตรงกันข้ามอย่างเท่าๆ กัน ในกรอบ H4 ดัชนีต่างๆ ระบุว่าราคาจะวิ่งลงทิศใต้ ในขณะที่ในกรอบ D1 ราคาดูเหมือนว่าจะขยับไปทางทิศเหนือ สถานการณ์เดียวกันนี้ก็ปรากฏกับการวิเคราะห์กราฟ แต่ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญส่วนมากเห็นว่าราคามีกำลังขาลง โดยมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะปรับตัวลดลง โดยมีค่าแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ในโซน 1.3300 แนวรับถัดมาจะอยู่ในช่วง 1.3125 – 1.3200 และระดับแนวต้านหลักอยู่ที่ 1.3550
- USD/JPY สำหรับคู่นี้คำทำนายเหมือนกับสัปดาห์ที่แล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (75%) ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายที่ 114.00 114.45 และ 114.75 คำทำนายนี้ได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีเกือบทั้งหมดรวมถึงการวิเคราะห์กราฟ อีกด้านหนึ่งนั้นมีออสซิลเลเตอร์จำนวน 25% ในกรอบ H4 ให้สัญญาณว่าราคามีการซื้อมากเกินไปจึงอาจส่งผลให้เกิดการปรับตัวลดลงของราคาลงมาที่ 112.00 – 113.00
- USD/CHF ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 90% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีจำนวน 90% ในกรอบ H4 และ D1 เชื่อว่าราคาคู่นี้จะขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องไปที่ระดับ 1.0100 โดยมีค่าแนวต้านอยู่ที่ 1.0000 ทั้งนี้ มีนักวิเคราะห์เพียง 10% และออสซิลเลเตอร์อีก 10% เท่านั้นที่ให้ความเห็นที่ตรงกันข้าม โดยมองว่าราคามีการซื้อมากเกินไป จึงคาดว่าจะถอยลงมาที่ค่าแนวรับที่ 0.9880 และมีค่าแนวรับถัดไปที่ระดับ 0.9845
โรมัน บุทโก, NordFX
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 03:00:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Chooddy ที่ ธันวาคม 11, 2017, 05:41:17 PM
จากที่ได้ทดลองไปเทรดค่าเงินดิจิตอลในเวป bx.in.th เวปที่คนไทยซื้อขายกันเยอะอันดับที่หนึ่งในไทย ปรากกฏว่าปิดออร์เดอร์ฯ ผมก็ทำกำไรได้มานิดหน่อย จากการเข้าซื้อ BTC/THB
ผมว่ามันเป็นเวปที่แปลกดี ที่คนเทรดในนั้นเทรดไปคุยแชทไป ใครอ่านตรงแชทเยอะ ถ้าใจไม่นิ่งมีเขวแน่นอน 555 ผมว่าการเทรดที่เวป bx นี้มันเหมือนกับเราเทรดหุ้นในตลาด SET เลย แต่การขึ้นลงของราคาจะมาในทางที่ผันผวนแบบ Forex (เผลอ ๆ แรงกว่า Forex อีก)
จากที่ลองสังเกตุในห้องแชท จะมีมือใหม่ในเรื่องการเทรดอยู่ค่อนข้างเยอะ บางคนเทรดตามกระแส ดูเทรนด์พื้นฐานยังไม่ค่อยเป็นเลยก็มี บางทีน๊ะ กราฟ H1, H4 ยังเขียวอยู่เลย บางคนบอกว่าอ้าวราคาโดนทุบแล้ว รีบหนี ๆ (สงสัยคงจะดู TF M1 , M5 กัน) พอเขียวทีแห่ซื้อ พอแท่งแดงแห่ขาย เหมือนคนกรีดกันเมื่อนั่งเรือไวกิ้งตามสวนสนุกเลย 555
เอ้อ..แต่ก็สนุกดีน๊ะ em3.gif ผมว่าเพื่อน ๆ ในบอร์ดนี้สู้ได้สบาย ๆ เลย em3.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 11, 2017, 09:01:39 PM
Breaking News!
New York: USA
เกิดเหตุระเบิดที่ศูนย์รถขนส่งสาธารณะ หรือ Port Authority Bus Terminal ในย่านแมนฮัตตั้น บริเวณถนนเลขที่ 42 (42nd Stret) ตัดกับถนนเลขที่ 8 (8th Anenue) ซึ่งอยู่ใกล้กับย่านไทม์ สแควร์ เมืองนิวยอร์ค สหรัฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์คสั่งปิดการจราจรบริเวณใกล้เคียง และอพยพผู้โดยสารในรถไฟใต้ดินออกจากจุดเกิดเหตุ ล่าสุด กำลังตรวจสอบสถานการณ์เกี่ยวกับความเสียหาย และผู้ได้รับบาดเจ็บ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 11, 2017, 09:06:11 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 12, 2017, 06:46:53 AM
เกิดเหตุระเบิดในย่านไทม์สแควร์ในแมนฮัตตันวันนี้ ขณะที่ตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการที่ไปป์บอมบ์ที่เขาทำขึ้นได้เกิดระเบิดออกมา
สื่อบางสำนักรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ตำรวจยืนยันว่ามีผู้บาดเจ็บเพียงรายเดียวคือผู้ต้องสงสัยรายนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.20 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.20 น.ตามเวลาไทย ใกล้กับสถานีรถโดยสารในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานีที่มีจำนวนรถโดยสารคับคั่งที่สุดในโลก
ตำรวจได้ทำการอพยพประชาชนออกจากสถานีรถไฟใต้ดินในบริเวณใกล้เคียง
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ธันวาคม 12, 2017, 11:07:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 12, 2017, 11:44:34 AM
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ว่า ผู้หญิง 3 คนประกอบด้วย เจสซิกา ลีดส์, ซาแมนธา โฮลวีย์ และ ราเชล ครูกส์ ออกมาเปิดเผยในรายการ”เมจิน เคลลีย์ ทูเดย์”ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เคยถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐทำอนาจารทางเพศ จึงเรียกร้องให้สภาคองเกรสทำการสอบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมและข้อกล่าวหาว่ากระทำการโดยมิชอบ
ราเชล ครูกส์ อ้างว่าเคยถูกประธานาธิบดีทรัมป์จูบที่ริมฝีปากหลังจากเธอแนะนำตัวกับเขาที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์กของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2548 จึงเรียกร้องให้สมาชิกสภาคองเกรสลืมเรื่องพรรคการเมืองไว้ก่อนแล้วหันมาตรวจสอบประวัติการทำอนาจารทางเพศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และยอมรับความจริงที่ว่าบางอย่างเอาชนะการเมืองได้
ขณะที่เจสซิกา ลีดส์ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาถูกเปิดเผยเพราะเคยมีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นกับบุคคลในวงการบันเทิงของฮอลลีวู้ดคือนายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำผิดทางเพศจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่กระทำลงไป เธอหวังเพียงให้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับนายฮาร์วีย์ ไวน์สตีนและคนอื่นๆซึ่งต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำลงไป เธอบอกว่าเคยถูกประธานาธิบดีทรัมป์ทำอนาจารระหว่างเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์
ส่วนซาแมนธา โฮลวีย์ เคยเป็นผู้เข้าประกวดมิสยูเอสเอมาก่อน และระหว่างที่เธอกับเพื่อนผู้เข้าประกวดคนอื่นๆอยู่หลังเวทีในสภาพที่ไม่มีเครื่องแต่งกายนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เดินเข้ามาหลังเวที
ด้านทำเนียบขาวได้กล่าวย้ำปฏิเสธอีกครั้งถึงข้อกล่าวหาอนาจารทางเพศของผู้หญิงทั้ง 3 คนนี้โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด มีการกล่าวอ้างมาครั้งแรกระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว เป็นข้อกล่าวหาที่พยานบุคคลก็ขัดแย้ง ซึ่งคนอเมริกันได้ตัดสินกรณีนี้ไปแล้ว โดยเลือกและมอบชัยชนะในการเลือกตั้งให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ และเชื่อว่าอาจมีการเมืองอยู่เบื้องหลังข้อกล่าวหา ... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/foreign/615392
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮ รวมทั้งปัจจัยกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันนั้น นักลงทุนได้เข้าซื้อสัญญาทองคำ หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในย่านไทม์สแควร์ เมืองแมนฮัตตันของสหรัฐเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.20 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.20 น.ตามเวลาไทย เมื่อวานนี้ ใกล้กับสถานีรถขนส่งในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานีที่มีจำนวนรถขนส่งคับคั่งที่สุดในโลก ขณะที่ตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งเป็นชายวัย 27 ปี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 12, 2017, 12:19:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 12, 2017, 02:51:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 13, 2017, 08:35:20 PM
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core Consumer Price Index (CPI)) ครั้งก่อน 0.2% คาดการณ์ 0.2% ออกจริง 0.1% เป็นบวกทอง
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index (CPI)) ครั้งก่อน 0.1% คาดการณ์ 0.4% ออกจริง 0.4% ไม่ส่งผล
ตัวเลขออกมาแย่กว่าที่คาด เป็นบวกทองครับ
แรงกันหลายคู่เลยครับ แอดมิน แต่ผมได้แต่นั่งดู
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 13, 2017, 11:56:46 PM
ในมุมมองผมคิดว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้หากว่าปรับขึ้น 0.25% จริงจะมีผลแค่ทำให้ usd ขึ้นระยะสั้นเท่านั้น จบกระแสจะเห็น usd ร่วงลงได้อีก แนะนำถ้าจะเล่นข่าวดอกเบี้ยให้เล่นระยะสั้นตามผลพอ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 14, 2017, 09:14:27 AM
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 14, 2017, 10:43:19 AM
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ประเภท 7 วัน สู่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.45% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย reverse repo ประเภท 28 วัน สู่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.75%
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLF ประเภท 1 ปี สู่ระดับ 3.25% จากระดับ 3.20%
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย MLF ถือเป็นเครื่องมือด้านนโยบายที่ธนาคารกลางนำมาใช้เพื่อจัดการภาวะด้านการเงินและอัตราดอกเบี้ยระยะกลางในระบบการเงินและตลาดเงิน ให้เป็นไปอย่างสมดุล ส่วนอัตราดอกเบี้ย reverse repo นั้น เป็นการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO
การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLF และอัตราดอกเบี้ย reverse repo ของธนาคารกลางจีน มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.25-1.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา
https://www.bloomberg.com/news/articles/2017-12-14/china-s-central-bank-raises-borrowing-costs-following-fed-hike
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 14, 2017, 10:46:39 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ธันวาคม 14, 2017, 10:54:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ธันวาคม 14, 2017, 01:10:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 16, 2017, 08:36:43 PM
สว และ สส พรรค republican ตกลงเรื่องร่างภาษีได้แล้ว ภาษีนิติบุคคลลดลงจาก 35% เป็น 21% ส่วนภาษีบุคคลธรรมดาเรตสูงสุดจาก 39.6% เป็น 37%
คาดว่าจะโหวตได้ภายในกลางสัปดาห์หน้านี้
คาดว่าจะทำให้. USD แข็งวันจันทร์ ตลาดจะเฉลยนะครับ UJ Ucad Uchf
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 16, 2017, 08:41:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ธันวาคม 17, 2017, 08:17:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 17, 2017, 09:07:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: neoben ที่ ธันวาคม 17, 2017, 10:55:38 AM
USD อาจจะแข็ง แต่ Cad แข็งกว่าแน่นอน em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 17, 2017, 11:27:23 AM
มันก็ไม่แน่นะ อาจติ่งไปหา TP เราก่อนแล้วค่อยขึ้นก็เป็นได้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 07, 2018, 08:29:11 PM
—>Aud
สัปดาที่ผ่านมาออกตัวเลขคือยอดดุลการค้าที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นแต่กลับผิดคาดตำ่กว่าคาดการณ์ละยังตำ่กว่ายอดเดิมอีก
—>Cad
สถานการณ์ตลาดแรงงานดีขึ้นมากตำแหน่งว่างงานตำ่ลง อัตราว่างงานลดลงจาก 5.9 เป็น 5.7 ถือว่าลดเยอะเลยทีเดียว แต่งบดุลการค้าก็ยังไม่ค่อยดีอยู่ดีนั่นแหละ ก็ปกติของแคนาดา ที่ไม่ได้มีจุดขายเปนเรื่องการตลาดอยู่แล้ว
—>Gbp
กำลังซื้อของภาคการก่อสร้างถือว่าสูงขึ้นมาก ซึ่งนั่นน่าจะมาจากปัจจัยที่ว่าราคาบ้านสุงขึ้นเลยทำให้พวกภาคส่วนการก่อสร้างมีรายได้มากขึ้นกำลังซื้อก็เลยสูงขึ้นตามไปนั่นเอง และนอกจากนี้กำลังซื้อของภาคการบริการก็ยังสูงขึ้นด้วยเช่นกัน แสดงว่าผลประกอบการของการท่องเที่ยวน่าจะออกมาดี คิดว่าน่าจะส่งผลกับ trade balance ที่จะออกรายงานในรอบนี้ด้วย โดยรวมๆถือว่าอังกฤษดูเปิดตัวได้ดีในปีใหม่นี้
—>Usd
กำลังซื้อภาคการผลิตสูงขึ้นมาก ดังนั้นคาดไว้ก่อนว่าผลประกอบการการผลิตน่าจะดีขึ้น แต่การจ้างงานในภาคการผลิตกลับต่ำลง แต่ดัชนีรายได้จากส่วนนี้ไม่ต่ำลงก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้ค่อนไปทางดี ตัวเลขผุ้ว่างงานสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วน non farm ก็เป็นไปตามคาดว่าจะออกมาอ่อนลง จากการที่ดัชนีชี้วัด นอนฟามออกมาต่ำ และนอกจากนี้ แม้ ตัวเลขภาคการผลิตจะออกมาดีขึ้นก็ไม่สามารถมาช่วยได้กับตัวเลข trade balance ที่ยังคงตกลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองติดต่อกันแล้ว โดยรวมของ เมกาถือว่าค่อนข้างอ่อนแอ แถมยังมีการประชุมลับของเฟดอีกคาดว่าคงไม่ได้คุยไรกันนอกจากเรื่องที่ว่าจะขึ้นดอกเบี้ย ให้ได้สามครั้งในปีนี้ แต่ส่วนตัวคาดว่าถ้าทำงั้นจริง เสดกิดเมกาแตกแน่นอน
—--####——
**ตารางเทรดข่าวประจำสัปดาห์วันที่ 8-12/1/18**
—>วันจันไม่มีข่าวไร
—>วันอังคาร
7.00 ข้าวยอดการขายปลีกของอังกฤษอันนี้คาดว่าจะออกมาดีเพราะดัชนีรายได้ล่าสุดของปชช อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึเน ดังนัเน GA น่าบาย
22.00 ข่าวตำแหน่งงานที่เปิดรับของเมกา อันนี้คิดว่าคงมีมากขึ้น จากกำลังการจับจ่ายของภาคการผลิต ดะงนั้นก็น่าจะมีการขยับขยายองกรด้วยกังนั้น ucad น่าบาย
—>วันพุธ
16.30 trade balance ของอังกฤษ อันนี้คิดว่าจะออกมาในทางบวก เพราะตัวเลขการผลิตออกมาสูงขึ้น ดังนั้นงบดุลการค้าก็น่าจะดี GA น่าบาย
20.30 export price index ของเมกาอันนี้เก็บข้อมูลไว้ trade balance รอบหน้า
—>วันพฤหัส
7.30 ยอดขายปลีกของออส คิดว่าคงออกมาดีขึ้นจากการที่ตลาดแรงงานดีขึ้นกำลังซื้อภาคครัวเรือนก็น่าจะโอเคขึ้น Ga อาจได้เซล
20.30 PPI ของเมกา อันนี้ดคาดว่าสูงขึ้นแน่นอนเพราะผู้ผลิตของเมกาทั้งภาคสินค้าและบริการมีกำลังซื้อสูงขึ้น ดังนั้นมุมมองราคาของพวกเขาก็คงสูงขึ้นเช่นกัน UCad น่าบาย
—>วันเศุก
2.00 ระวังข่าวงบดุลของเฟดไว้ มันวิ่งบ้างไม่วิ่งบ้าง แต่ไม่ควรค้างออเดอร์ไว้เพราะถ้ามันวิ่งจะยุ่ง
20.30 CPI ตลาดแรงงานออกมาค่อนข้างแย่ และรายได้ปชช ก็ตำ่ลงนิดหน่อยดังนั้น
มุมมองราคาของผู้บริโภคน่าจะออกมาตำ่ลง คาดว่า ucad เซล
——####—
ปล.ส่งการบ้านล่ะเด้ออครู
ผลวิเคราะห์ของครู มองว่า.. สัญญาญ ข้อมูลชี้ว่าราคาน้ำมันอาจ sideway ลงมาแล้วนะ ข่าวของดอลล่าตอนนี้ มีมูลค่า 1 ล้านๆ ดอลล่า และยังหาเพดานไม่ได้(มูลค่า ตลาดน่ะ อย่าเข้าใจผิด )อัพเดตสายตานักวิเคราะห์ในเมกาก็ทั่วๆไปคือกำลังรอท่าทีของเฟด 2018 ความหมายคือ รอดูว่า ธนาคารกลางต้องการอะไร? หากใช้ข้อมูลปัจจุบันคือ การทำให้ ดอลล่ากลับมาแกร่ง เพื่อรับกับนโยบายภาษีที่ผ่านมาแล้ว ท่าทีของ เฟดต้องการ เพิ่มราคาอสังหาริมทรัพย์ และกระแสเงินในระบบการเงิน ท่าทีที่เฟดแจ้งไว้ หากยังไม่มีอะไรเข้ามา ปัจจัยนี้ก็ชี้ให้เห็นกันไปแล้วว่าต้องการให้ดอลล่าแข็ง โฟกัสที่อิหร่านเป็นหลักๆ เพราะเป็นเป้าเมกาตอนนี้โดยส่วนตัว ม็อบจัดตั้งจากเมกาน่าจะมีท่าทีอ่อนลง จากการออกมาของผู้สนับสนุนรัฐบาลที่เป็นสายเคร่งศาสนา ท่าทีทรัม ณ ตอนนี้ หากทรัมออกมาแถลงการณ์ จะมีผลไปในทางบวกดอลล่าเป็นหลัก จากนโยบายภาษี ที่ผ่านได้ ขนาดทวิตข้อความสนตีนๆไปหาเรื่องเกาหลีเหนือทั้งๆที่เกาหลีเหนือยอมเจรจาแล้ว ลองเชิงผลราคาทองคำ ยังไม่สามารถกระตุกราคาได้ ทรัมไม่โง่ ไม่บ้า แต่เจ้าเล่ห์มาก
**การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เขามองว่า ราคาน้ำมันจะลงมา ต่ำในช่วงกุมภา (ส่วนตัวมองว่า กุมภาจะเป็นช่วงที่ตัวเลขของ มค.ออกมาสู่สายตานักลงทุน และเป็นช่วงเวลาที่นักธุรกิจได้ประโยชน์ในการลงทุนในเมกา ณ ตอนนี้ยังมองว่าเมกาจะมีเสดกิจที่ดี...
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 07, 2018, 08:42:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 09, 2018, 10:47:13 AM
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2050 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3565 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3571 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7841 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7868 ดอลลาร์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 09, 2018, 10:47:56 AM
ขณะที่ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างมั่นคงด้วยอัตราว่างงานที่ต่ำมากเช่นนี้ จะหนุนให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ในปี 2561
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ของเฟด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนธ.ค. ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ม.ค. และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค. ในศุกร์ที่ 12 ม.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนธ.ค. โดย NFIB, ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 09, 2018, 10:51:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 09, 2018, 11:43:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 10, 2018, 10:24:21 PM
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 10 มกราคม 2561 20:24:56 น.
ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดิ่งลงมากกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลงในคืนนี้ หลังจากมีข่าวว่า จีนอาจชะลอ หรือระงับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 20.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 115 จุด หรือ 0.45% สู่ระดับ 25,258 จุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้เสนอให้มีการชะลอ หรือระงับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งมีหน้าที่พิจารณาการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน ได้เสนอให้รัฐบาลจีนชะลอ หรือระงับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
แหล่งข่าวระบุว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มมีความน่าดึงดูดลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากนี้ ความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐ
ทั้งนี้ จีนนับเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงที่สุดในโลก
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 2.593% หลังจากดีดตัวทะลุ 2.50% เมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดพันธบัตรสหรัฐ
นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นกำลังสร้างความวิตกต่อนักลงทุน
หากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ก็จะเป็นการทรุดตัวหนักที่สุดของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทนับตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
เจ้าหน้าที่เฟดที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ได้แก่ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก, นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส และนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนหลุยส์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 10, 2018, 10:28:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 11, 2018, 09:28:30 AM
07.30 Australia Retail Sales
17.00 Eurozone Industrial Production
19.30 ECB Publishes Account of Monetary Policy Meeting
20.30 U.S. Producer Price Index (PPI)
20.30 Canada New Housing Price Index
02.00 U.S. Federal Budget Balance
03.30 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Dudley Speaks
วันนี้ก็เงียบๆอีก 1 วัน ก่อนจะเข้าโหมดความมันส์
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐสะดุด หลังจากมีข่าวออกจากทางจีนว่า มีคนเสนอให้รัฐบาลจีนชลอ หรือ ลดการเข้าซื้อลงทุนในพันธะบัตรของสหรัฐ ที่ผลตอบแทนไม่น่าสนใจ และ สะท้อนที่ความหมางเมินของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ก็มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการเรื่อง ลุงโด่ จะเดินออกจากการเจรจา NAFTA
ดอลลาร์เองก็สะดุดตามเหมือนกัน จากเรื่องที่จีนจะชลการลงทุนในพันธะบัตรสหรัฐ แถม ก่อนหน้าก็เจอ ญี่ปุ่น ที่ลดเรื่องการเข้าซื้อพันธบัตรในโครงการ QE ทำเอา JPY แข็งค่าขึ้นมา เปิดมา ดอลลาร์โดนเตะสกัดจาก 2 ยักษ์ใหญ่ จะรอดใหมเนี่ย
UJ ลงมาแตะเส้น 200 วันแระ รอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อ ในคืนนี้ กับ พรุ่งนี้
GU เมื่อวานตัวเลขภาคการผลิตออกดี แต่ตัวเลขการค้าลดลง ก็เกลี่ยๆกันไป ไม่มีอะไรลุ้นแระ
EU/EG เพิ่มขึ้นนิดหน่อย วันนี้ ลุ้นรายงานการประชุม ECB
UCAD ราคาน้ำมันแพงขนาดนี้ ดอลลาร์เองก็ยังโดนเตะสกัด จะรีบาวด์ใหวใหมน้า
OIL แพงจุง เดี๋ยวหันมาเติมน้ำแทนแระ
BATH แข็งจุง หาซื้อของต่อดีกว่า
GOLD ยัง 50/50 น่าจะรอดูคืนพรุ่งนี้ โดยรวมๆ ดอลลาร์ยังไม่แข็ง ก็ยังไม่น่าลง แต่ก็ก่อนหน้าก็เห็นมีกังวลเรื่อง เฟด ก็อาจจะยังไม่ไป
ตลาดผัก กำลังสร้างกระแสแนวต้าน เช้าลาก บ่ายแจกของ ถอยมาทับตรูตลอด เซ็งจุง เดี๋ยวพอตรูขาย เช้าลาก บ่ายไปต่อ ไม่ถอยมาทับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 11, 2018, 09:31:50 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 11, 2018, 10:59:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 11, 2018, 03:37:52 PM
ทั้งนี้ เฟดได้จ่ายดอกเบี้ยแก่ธนาคารต่างๆ เป็นจำนวนเงิน 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน เฟดได้โอนกำไรจำนวน 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กระทรวงการคลังสหรัฐในปี 2559
ราคาทองคำมีการแกว่งตัวโดยมีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่ายวานนี้ หลังจากที่ Bloomberg รายงานว่า จีนจะมีการชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงทันทีประมาณ 0.6% มาแถวระดับ 91.9 จุด ก่อนจะมีการดีดกลับในช่วงตลาด COMEX ซึ่งนักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า จีนต้องใช้ระยะเวลานานกว่าที่จีนจะปรับลดได้จริงจัง หรือผลกระทบดังกล่าวอาจไม่มากนัก เนื่องจากจีนมีการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯค่อนข้างมาก โดยในช่วงปลายตลาด COMEX ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 92.20 จุด และเช้านี้ย่อลงมาบริเวณ 92.08 จุด ทางด้านค่าเงินบาทกลับแข็งค่าลงมาอีกครั้งแถวระดับ 32.11 บาท/ดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนค่าไปบริเวณ 32.28 บาท/ดอลลาร์วานนี้ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ PPI และ Core PPI ที่คาดว่าจะทรงตัวหรือออกมาลดลงเล็กน้อย ขณะที่ Unemployment Claims คาดว่าจะออกมาทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์โดยทั่วไปมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจโดยทั่วไปไม่มีผลตค่อค่าเงินดอลลาร์เท่าไหร่นัก แต่น่าจะได้รับผลกระทบจากข่าวการเมืองมากกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 13, 2018, 09:46:44 PM
สร้างกระแสให้กระทรวงการคลังต้องออกมาเต้น สั่งคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งข้อมูล แม้ตามกฎระเบียบของ ตลท. และ ก.ล.ต.ระบุว่า บริษัทหลักทรัพย์สามารถชักชวนหรือให้บริการนักลงทุนไทยไปลงทุนบิตคอยน์ในต่างประเทศได้ ทั้งๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ออกมาเตือนเสมอว่า ยังไม่มีการรับรองสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และไทยไม่ได้มีการเปิดให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศ
ล่าสุด พรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า คณะทำงานร่วม 4 ฝ่าย ระหว่างกระทรวงการคลัง ตลท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ ก.ล.ต. จะมีการประชุม หาแนวทางป้องกันการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาภายในเดือน ม.ค.นี้ พร้อมกับได้แจ้งให้ ตลท.และ ก.ล.ต.ไปติดตามและศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเรื่องนี้และรายงานกลับมาให้คณะทำงานรับทราบโดยด่วน
แม้ว่าการที่บริษัทหลักทรัพย์ชักชวนให้คนไทยไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลถือเป็นการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้ยังไม่ได้มีกฎหมายห้าม แต่ ธปท.ก็ควรที่จะต้องไปดูว่าเป็นการนำเงินออกไปลงทุนเป็นไปตามระเบียบที่ ธปท.กำหนดไว้หรือไม่
สิ่งที่เป็นห่วงหน่วยงานที่กำกับดูแลจะวิ่งไล่ตามทันรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ได้หรือไม่ รวมทั้งจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้นักลงทุน รับทราบถึงอันตรายและความเสี่ยงจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลให้นักลงทุนรับทราบด้วย
และต้องขีดเส้นใต้ย้ำให้ชัดว่า "หากเกิดความเสียหายขึ้นมา นักลงทุนต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง" อีกประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วงทุนในสกุลเงินดิจิทัล มีความเสี่ยงขาดทุนเพราะมีมูลค่ามีความผันผวนสูง และ มีลักษณะคล้ายการพนันซึ่งเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นทั้งหมด เสี่ยงชำระหนี้ไม่ได้เพราะไม่สามารถนำมาใช้แทนเงินบาทตามกฎหมายได้ เสี่ยงผิดกฎหมายโดยอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่กฎหมาย เช่น การฟอกเงิน โดยไม่รู้ตัว และเสี่ยงแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอาจถูกหลอกลวงไปลงทุนในแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างอิงเงินสกุลดิจิทัลและจูงใจด้วยผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริง
"การลงทุนมีความเสี่ยง" ในแง่ผู้ที่จะลงทุน จะต้องรู้กฎการลงทุนว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน" คำเตือนนี้มาคู่เสมอกับคำเชิญชวนลงทุน แต่นักลงทุนบางคนเลือกมองข้ามไป ทั้งที่ประเด็นนี้สำคัญมาก
ถ้าคนที่ลงทุนยังไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ตัวเองลงทุนมีความเสี่ยงอะไรรออยู่ ภายภาคหน้าหากมีเหตุไม่คาดคิด ขาดทุน หมดตัว ก็มิอาจย้อนเวลามาแก้ไขการตัดสินใจลงทุนได้ ไม่สามารถกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของใครได้ เพราะแท้จริงแล้วก็ผิดที่ตัวเองไม่รู้จักศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน
โดยเฉพาะการลงทุนรูปแบบใหม่ "ซื้อขายบิตคอยน์ฟิวเจอร์ส" แม้ว่า บล.ฟิลลิป จะบอกว่า กลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นคนที่มีประสบการณ์ลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สอยู่แล้ว และสนใจลงทุนบิตคอยน์ แต่ไม่ต้องการไปซื้อผ่านเว็บไซต์หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีการรับรอง แต่ก็อาจมีกลุ่มที่ไม่ใช่เป้าหมาย อยากรวยเร็ว ขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบเดิน เข้าสู่เส้นทางนี้ด้วย
ในมุมมองหนึ่ง เมื่อบริษัทหลักทรัพย์ที่อยู่ภายใต้หน่วยงานกำกับ เปิดให้บริการเช่นนี้ย่อมดีกว่าปล่อยให้ นักลงทุนไปซื้อขายผ่านเว็บไซต์หรือโบรกเกอร์เถื่อนที่ไม่ได้มีใบอนุญาต ถ้าเป็นเช่นนั้นอาจเสี่ยงถูกหลอก ถูกโกง เสี่ยงจากระบบการให้บริการที่ไม่มีเสถียรภาพ การซื้อขายผ่านบริษัทที่มีใบอนุญาตย่อมดีกว่า แต่อีกมุม ก็เป็นช่องทางขยายวงนักลงทุนให้เข้าสู่การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น แม้เป็นเพียงซื้อสัญญาอนาคตที่ขายสัญญาออกก่อนหาบิตคอยน์มาปิดสัญญาได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดหน่วยงานกำกับ จำเป็นมากที่ต้องเข้ามาจับตาเรื่องนี้มากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความรู้ประชาชน นักลงทุน ที่ต้องเข้มข้น ลึกซึ้งกว่าเดิม เพราะเมื่อมีบริษัทหลักทรัพย์ที่มีใบอนุญาตให้บริการซื้อขายบิตคอยน์ฟิวเจอร์ส อาจเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนที่ไม่ได้เข้าใจบิตคอยน์ดีพอ อยากไปทดลองลงทุนในบิตคอยน์มากขึ้น ผ่านการซื้อขายบิตคอยน์ฟิวเจอร์ส
การโฆษณาว่าการเปิดซื้อขาย บิตคอยน์ฟิวเจอร์สผ่านตลาดซีบีโออี และซีเอ็มอี เป็นสิ่งที่บริษัทหลักทรัพย์ไทยให้บริการลูกค้าที่ต้องการลงทุนผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในต่างประเทศได้ เพราะตลาดเหล่านี้อยู่ใต้กำกับขององค์กรสมาชิก ก.ล.ต.นานาชาติ (ไอโอเอสซีโอ) ซึ่งมีข้อตกลงความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ไม่น่ากังวลเรื่องฉ้อโกงหรือฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์นี้มีความเสี่ยงสูงจากหลายปัจจัย ทั้งความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นสินค้าอ้างอิง รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทด (เลเวอเรจ) ในตัว ทำให้อัตราผลกำไรขาดทุนสูงกว่าสินค้าอ้างอิง และต้อง เตรียมสภาพคล่องรองรับการถูกเรียกหลักประกันเพิ่มรายวัน ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงความสามารถรับความเสี่ยงของตน หากไม่เข้าใจหรือไม่พร้อม ควรหลีกเลี่ยง ซึ่ง ก.ล.ต.ได้กำชับบริษัทหลักทรัพย์ต้องประเมินความเหมาะสมในการแนะนำลูกค้า คำนึงถึงความรู้ความเข้าใจผลิตภัณฑ์ ฐานะทางการเงิน และความสามารถรับความเสี่ยงของลูกค้า
ทั้งนี้ บิตคอยน์ฟิวเจอร์ส เหมาะกับคนที่รู้จักและลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) และสัญญาใช้สิทธิ (ออปชั่น) รวมถึงรู้จักและลงทุนบิตคอยน์อยู่แล้ว คือควรมี 2 องค์ประกอบคู่กันคนที่รู้หรือเชี่ยวชาญลงทุนแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เหมาะลงทุน
ขณะที่คนที่เข้าใจ เคยลงทุน ในตลาดฟิวเจอร์สอยู่แล้ว ไม่เข้าใจ บิตคอยน์ดีพอ ก็ไม่เหมาะลงทุน เพราะสินค้าอ้างอิงอย่างบิตคอยน์ มีความเสี่ยงสูงมากๆ ยิ่งกว่า ทอง น้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ยิ่งเป็นเงินสกุลดิจิทัลที่ ธปท.ไม่ได้รับรองเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ธนาคารกลางทั่วโลกก็ยังไม่มีที่ใดยอมรับชัดเจน
แถมมีคำเตือนเสมอว่า บิตคอยน์อยู่ในสภาวะฟองสบู่ใกล้แตก อาจได้เห็นฟองสบู่แตกปีนี้ก็ได้ เรียกว่าความเสี่ยงตลาดฟิวเจอร์สและบิตคอยน์รวมกันเพิ่มระดับเท่าตัว จะเห็นได้ว่า แม้การซื้อขายบิตคอยน์ฟิวเจอร์สจะทำผ่านตลาดฟิวเจอร์สที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่โดยสถานะที่แท้จริง สินค้า
ที่ถูกอ้างอิงกับสัญญาฟิวเจอร์ส คือ บิตคอยน์ ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี
พึงเตือนใจตัวเองเสมอว่า "อย่าโลภ" เพราะจะตกเป็น "เหยื่อ"
โดย จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์
Source: Posttoday
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 14, 2018, 05:43:08 PM
พรุ้งนี้จันทร์อีกแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 18, 2018, 10:13:31 AM
หมายความว่า ดอลล่า จะเปลี่ยนเทรน เป็นขาขึ้นได้
แต่มีความเป็นห่วงที่จะมองว่าภาพเสดกิจจะเติบโตเกินไป เชื่อว่ามีแผ่นรับมือ จากธนาคาร จุดที่เฟดเป็นห่วงคือ ในไตรมาสแรกหากเงินเฟ้อ ไม่ถึง 2% จะทำให้เฟดไม่สามารถปรับดอกเบี้ยในกลางปีได้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 18, 2018, 10:47:38 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 18, 2018, 10:50:23 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 18, 2018, 11:17:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 19, 2018, 08:56:46 AM
-SPDR ซื้อเพิ่ม 11.80 ตัน ถือครองสุทธิ 840.76 ตัน
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ -97.84 จุด อยู่ที่ 26,017.81 จุด
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาต่ำกว่าคาดที่ 220,000 ราย
- จำนวนของการเริ่มก่อสร้างบ้านใหม่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 1.19 ล้าน
- จำนวนการอนุญาติก่อสร้างอาคารใหม่ออกมาสูงกว่าคาดที่ 1.30 ล้าน
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 19, 2018, 09:09:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 19, 2018, 09:57:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 21, 2018, 08:12:47 AM
YLG News Updates
รัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานราชการบางส่วนแล้ว หลังวุฒิสภาสหรัฐไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เพียงพอที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันหลายคนโหวตคัดค้าน
ขณะที่การชัตดาวน์ครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2556 ซึ่งส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นเวลา 17 วัน
ที่มา : RYT9
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 21, 2018, 08:38:11 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 21, 2018, 08:52:43 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 21, 2018, 09:02:37 AM
อย่างที่เราทราบกันว่า ทุกๆวินาที รัฐบาลสหรัฐฯมีปริมาณหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อให้อัตราการเพิ่มของหนี้รัฐฯมันไม่พุ่งปรี๊ดรุนแรง ก็เลยมีกฎหมายกำหนดเพดานหนี้ไว้ว่า แต่ละรัฐบาล ห้ามก่อหนี้เกินเพดานเท่านั้นเท่านี้
ซึ่งที่ผ่านมา พอใกล้เส้นตาย รัฐบาล ทั้งสภาล่าง และสภาบน ก็จะพยายามหาข้อสรุปร่วมกัน ในการขยายเพดานหนี้ออกไปเรื่อยๆ (เหมือนยื้อปัญหาไป ไม่จบไม่สิ้น)
เมื่อวานนี้ คือ เส้นตายของการผ่านร่างงบประมาณเพื่อปูทางไปสู่การขยายเพดานหนี้ โดยรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจงในสภาว่า จะนำงบประมาณที่มีไปทำอะไร จะเพิ่มอะไร ลดอะไรจากเดิม
เรื่องก็เหมือนว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหา สาเหตุเพราะ รัฐบาลของนายทรัมป์ และพรรค Republican มีเสียงข้างมากทั้งในสภาล่าง (Congress) และสภาบน (Senate) ดังนั้นการโหวตผ่านงบประมาณก็น่าจะผ่านได้ด้วยดี
เมื่อคืนวันพฤหัสฯ สภาล่างโหวตกันด้วยคะแนน 230 ต่อ 197 สามารถผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวได้อย่างสบายๆ
เหมือนจะไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?
ไม่ใช่เลย เพราะช่วงเที่ยงคืนที่สหรัฐฯ (เที่ยงวันในไทย) ร่างงบประมาณถูกส่งขึ้นไปให้สภาบนโหวต แต่ผลคือ วุฒิสภาไม่สามารถผ่านร่างดังกล่าวให้ โดยได้เพียง 50 เสียงจาก 100 เสียง ทั้งๆที่ต้องการถึง 60 เสียงทีเดียว
แสดงให้เห็นว่า สว.ใน Republican เองก็มี ส.ว.โหวตค้านร่างงบประมาณฯซะงั้น (Republican มีที่นั่งใน Senate 51 ที่ จากทั้งหมด 100)
ทำไม?
เพราะทรัมป์จะเอางบประมาณไปสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯและเม็กซิโก ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ไม่เห็นด้วย รวมถึงจะยกเลิกโครงการดาก้า ซึ่งให้การคุ้มครองเยาวชนที่อพยพเข้าสหรัฯอย่างผิดกม. (อเมริกาเรียกเยาวชนกลุ่มนี้ว่า young dreamer)
ผลจากการผ่านร่างไม่ทัน deadline คือ อาจต้องปิดหน่วยงานรัฐฯบางส่วนภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า เพราะขาดงบประมาณ ส่วนจะนานเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า จะกลับไปแก้ไข และตกลงกันได้เร็วขนาดไหน
ผลต่อตลาดหุ้นละ?
สถิติย้อนหลัง สหรัฐฯเกิด Government Shutdown มาแล้วทั้งหมด 17 ครั้ง มีทั้งหมด 8 ครั้งที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขยับเป็นบวกได้ สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดหุ้นไม่ได้ให้น้ำหนักประเด็นนี้มากนักนะครับ
แต่มันสะท้อนสิ่งที่เป็นปัญหาหนักกว่า คือ ภาวะความเป็นผู้นำ และนโยบายที่รัฐบาลของทรัมป์ผลักดันอยู่นี้ มีคนไม่เห็นด้วยทั้งในสภา (และบนโลกนี้) เยอะเหลือเกิน
ถือว่าเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปี ของ ปธน.ทรัมป์ ที่โหดเอาการทีเดียว
วันจันทร์ ตลาดจะตอบรับยังไง เรามาดูไปพร้อมๆกันครับ
ปล. นี้อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติสหรัฐฯ ที่เกิด Government Shutdown ทั้งๆที่ Congress และ Senate เสียงข้างมากในสภาคือพรรคเดียวกัน
แหล่งข่าว
https://www.reuters.com/…/u-s-government-shutdown-begins-as…
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 21, 2018, 09:09:18 AM
นายทรัมป์ต้องการสนับสนุนการยกเลิกงบประมาณโครงการดาก้า ซึ่งเป็นโครงการสมัยรัฐบาลโอบาม่า เพื่อคุ้มครองเยาวชนที่เดินทางเข้าสหรัฐอย่างผิดกฎหมายให้มีโอกาสได้รับการศึกษา จึงทำให้บรรดาสว.พรรคแดโมเครตและรีพับลิกันบางส่วนไม่พอใจอีกทั้งนายทรัมป์ต้องการนำงบประมาณไปก่อสร้างกำแพงกั้นระหว่างพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกซึ่งการชัตดาวน์ในครั้งนี้ตรงกับช่วงวันครบรอบการดำรงตำแหน่1 ปีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พอดี ทั้งนี้สำหรับภาวะการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐเกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1-17 เดือนตุลาคมปี 2013 ในสมัยรัฐบาลบารัก โอบามา
สำหรับความเสียหายของการชัตดาวน์ภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ครั้งนี้สหพันธ์ลูกจ้างรัฐอเมริกันประเมินว่าจะมีพนักงานและลูกจ้างของรัฐที่ได้รับผลกระทบราว 850,000 คน จากทั้งหมด 3.5 ล้านคน โดยหน่วยงานที่จะไม่ได้รับผลกระทบจาการชัตดาวน์ได้แก่ หน่วยงานด้านกลาโหมและการรักษาความปลอดภัย หน่วยงานหลักอย่างทำเนียบขาวรัฐสภาและศาล หน่วยงานด้านการเดินทาง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 21, 2018, 09:31:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: bird2000 ที่ มกราคม 21, 2018, 03:37:58 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 21, 2018, 09:40:06 PM
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นหมายความว่า หน่วยงานรัฐบาลกลางจำเป็นต้องระงับการปฏิบัติหน้าที่ "อย่างไม่มีกำหนด" โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่รัฐราว 850,000 คน จากทั้งหมดราว 3.5 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งนอกเหนือจากการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะไม่ได้รับค่าตอบแทนตามระยะเวลาที่มีการชัตดาวน์เช่นกัน เนื่องจากถือว่ารัฐบาลกลางไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสภาคองเกรส ทั้งที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการสำคัญที่รวมถึง กองทัพ ระบบสาธารณสุข ธนาคารกลาง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หน่วยข่าวกรอง และหน่วยงานรักษากฎหมายทุกแห่ง จะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไปภายใต้งบประมาณ "ฉุกเฉิน" ที่เป็นคนละส่วนกัน
พรุ่งนี้เช้า คาดว่าตลาดเปิดน่าจะเกิด GAP นะครับ สำหรับคู่ที่จับกับ USD
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 22, 2018, 07:32:34 AM
โล่งใจเลยนึกว่าจะกระโดดแรง เช้าวันจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 22, 2018, 08:49:04 AM
Update: ข่าวเศรษฐกิจช่วงเช้า
-SPDR ซื้อเพิ่ม 5.91 ตัน ถือครองสุทธิ 846.67 ตัน
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก +53.91 จุด อยู่ที่ 26071.72 จุด
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ
ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้วุฒิสภาสหรัฐ
พิจารณาเป็นลำดับต่อไป
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 22, 2018, 08:53:45 AM
นึกว่าจะดิ่งสะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 23, 2018, 07:05:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 23, 2018, 08:27:05 PM
อย่าให้เกิดที่ใหนเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 09:08:07 AM
—>GBP
สัปดาที่ผ่านมา CPI ออกมาตามเป้า แสดงให้เห็นว่าในภาคผุ้บริโภคมีความพร้อมกับการที่ราคาสินค้าจะโตขึ้น แสดงให้เห็นว่าน่าจะมีรายได้ดี แต่ในขณะเดียวกันยอดการขายปลีก กลับตกลง ทั้งๆที่ราคาสินค้าในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้สูงเท่าตอนนี้ แต่ผู้บริโภคกลับมองว่าราคาสินค้าสามารถขึ้นได้อีกโดยไม่ส่งผลเดือดร้อนกับพวกเขาก็แปลกๆดี
—>AUD
อัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้สร้างบ้านสูงขึ้นแสดงว่ามีการท่าน้มากขึ้น น่าจะมาจากรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ยังไม่มีตัวเลขออกมา แต่ในภาคของตลาดแรงงาน มีการจ้างงานที่สูงขึ้นอัตราว่างงานที่ต่ำลง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผล จากการส่งออกที่ดีขึ้น
—>CAD
ข่าวทุกอย่างที่ออกมาไม่นับดอกเบี้ยไม่ทำให้กราฟวิ่งเลย และไปดูอิมแพคต่อสภาพเสดกิดก้ไม่มีอะไรเลย ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็ไม่แปลกที่จะยังไม่ขึ้นเนื่องจาก balance of trade ยังไม่กระเตื้องเท่าไหร่ แต่ในภาคส่วนอื่นๆจากที่ทำไว้ก่อนๆก็ดีขึ้น คาดว่าประกาศอีกสองสามครั้งก็คงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพราะเท่าที่ดูๆธนาคารกลางจะขึ้นให้ได้สองครั้งในปีนี้ ก็ต้องดู ๆ กันไป
—>Usa
ข่าวสำคัญเดียวที่ออกมาคือ ตัวเลขยอดการผลิต ที่ออกมาดีขึ้น คาดว่าจะส่งผลต่อการส่งออกที่จะทำให้ดีขึ้นเพราะถ้าผลิตได้มากขึ้นก็น่าจะส่งออกได้มากขึ้นด้วย ส่วนตลาดแรงงานก็มีผลดี เพราะตัวเลขคนว่างงานน้อยลง
—--####——
**ตารางเทรดข่าวที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ประจำวันที่ 22-26/1/18**
—>วันพุธ
16.30 GbP อัตราการว่างงานคาดว่าจะออกมาตำ่ลง จากการที่ดัชนีราคาผู้บริโภคก้อขึ้น คาดว่า GA จะบาย
21.45 USA manufacturing pmi คาดว่าจะดีขึ้นเพราะว่ายอดการผลิตสูงขึ้นดังนั้นภาคผู้ผลิตก็น่าจะคิดว่าราคาสินค้าของพวกเขาจะดีขึ้น ucad น่าบาย
—>วันศุกร์
16.30 GDP ของอังกฤษ คาดว่าจะbuy เพราะในไตรมาศล่าสุด ยอดการส่งออก การผลิต และรายได้ของอังกฤษเพิ่มขึ้นมากกว่าลดลง ดังนั้นค่อนข้างชัวร์ว่า GA บาย
20.30 GDP เมกา อันนี้คาดว่าจะออกมาในทางลบ คาดว่าจะเซล เพราะในไตรมาศล่าสุด เมกาปิดงบดุลการค้าเปนลบ ไปสองในสามครั้งก็ถือว่าแย่พอตัว ucad น่าเซล
——####——
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 24, 2018, 09:15:40 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 09:45:18 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 24, 2018, 10:00:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 11:02:53 AM
Gdp ของ ญี่ปุ่น เข้าไตรมาสแรกปีนี้จะมีการขยายตัวมาก
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 11:03:12 AM
ปลอดภัยกานดีใช่มัยท่านที แผ่นดินไหวอ่ะ m:9ปลอดภัยดีครับ อยู่เมืองไทย AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 24, 2018, 11:05:39 AM
ง่ะ ผมหมายถึง ตรงที่แผ่นดินไหวอ่ะ ของท่านอ่ะไหว 10 ริกเตอร์คงไม่เป็นรัย สาว ๆ ล้อมรอบตัว คงปลอดภัย AT9.gifปลอดภัยกานดีใช่มัยท่านที แผ่นดินไหวอ่ะ m:9ปลอดภัยดีครับ อยู่เมืองไทย AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 24, 2018, 12:40:09 PM
ง่ะ ผมหมายถึง ตรงที่แผ่นดินไหวอ่ะ ของท่านอ่ะไหว 10 ริกเตอร์คงไม่เป็นรัย สาว ๆ ล้อมรอบตัว คงปลอดภัย AT9.gifปลอดภัยกานดีใช่มัยท่านที แผ่นดินไหวอ่ะ m:9ปลอดภัยดีครับ อยู่เมืองไทย AT9.gif AT9.gif
อิจฉาพ่อรูปหล่อ สาว ๆ ลุมล้อม
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 01:26:48 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 24, 2018, 01:50:16 PM
สม......
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 03:01:36 PM
(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)สม......ผมล้อเล่นนะแอดมิน มาสม ผมอีก ฮ่าๆ AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 24, 2018, 03:04:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 24, 2018, 03:14:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 24, 2018, 08:02:55 PM
เปิด 123 ห้อง บัญชีหัวหมุนแน่ เงินเดือนต้องเพิ่มแน่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 25, 2018, 08:41:51 AM
ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักหลุดระดับ 110 เยนในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของยูโร ซึ่งดีดตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์
ณ เวลา 18.47 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.73% สู่ระดับ 109.48 เยน ขณะที่ยูโรดีดตัวขึ้น 0.37% สู่ระดับ 1.2343 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับ 1.2345 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และยูโรร่วงลง 0.35% สู่ระดับ 135.17 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.53% สู่ระดับ 89.64
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ว่า สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 25, 2018, 10:10:55 AM
จังหวะนี้ ย่อ ตาม MA แล้วเฉลี่ยซื้อไปก่อน กลับตัวจริงๆ มีสัญญาณชัวร์ค่อยปิดBUY ครับ อย่าสวนเยอะครับ ถ้าคิดจะสวนต้องทิ้งช่วง ให้ห่างระดับ 5000 จุดได้ ยิ่งดี สำหรับทองคำ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 25, 2018, 10:34:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 25, 2018, 11:32:08 AM
อย่างนี้ก็ยาวเลยสินะ US จะลงเหวไปถึงไหนเนีย 
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 26, 2018, 09:51:35 AM
กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาตอบรับ : โถ ไอ้ทรั้ม ไอ้ควายเอ๊ย!! ..
นั่นมันตรุษจีนโว้ย AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 26, 2018, 09:57:54 AM
แรงได้ใจจริง อีทรัมป์
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 26, 2018, 10:10:18 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 26, 2018, 10:24:15 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 26, 2018, 01:43:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: jax(เจ๊ก) ที่ มกราคม 26, 2018, 01:51:25 PM
ปธน.อเมริกาทรัมป์ออกแถลงการณ์ : ในอีกไม่ถึง1เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจจีนจะตกต่ำแบบที่เคยเกิดขึ้นในประเทศตะวันตก รง.หยุดการผลิต บริษัทห้างร้านปิด สถานที่ราชการหยุดทำการ ตลาดหุ้นไม่มีการซื้อขาย คนมีเงินหอบลูกจูงหลานออกนอกประเทศ ปชช.คนธรรมดาเอาเงินไปแลกเป็นอาหาร หน้าบ้านของหลายครอบครัวติดแผ่นกระดาษอ้อนวอนขอพร ตามท้องถนนเต็มไปด้วยร่องรอยของวัตถุระเบิดกลิ่นดินปืน ผู้คนไม่ทำการทำงานเอาแต่กินเหล้าเมายา เล่นไพ่AT4.gif ตั้งใจอ่านซะเต็มที่เลย
กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาตอบรับ : โถ ไอ้ทรั้ม ไอ้ควายเอ๊ย!! ..
นั่นมันตรุษจีนโว้ย AT9.gif AT9.gif
คุณหลอกดาว AT6.gif
AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 26, 2018, 02:00:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 28, 2018, 09:21:23 PM
—>แคนาดา
สัปดาที่ผ่านมาตัวเลขที่ออกมาที่สำคัญๆ คือการขายส่ง ซึ่งโดยมากจะทำกับต่างชาติ และเปนไปตามคาดว่าจากการผลิตที่ลดลง จะทำให้การค้าขายส่งออก ลดลงด้วย ซึ่งนั่นก็ส่งผลกับการค้าส่งเต็มๆ เพราะตำ่ลงมาจากเดิมถึง 0.9% ใน๘ณะที่การจับจ่ายใช้สอยในประเทศกับสวนทางกันกับดรรชนีรายได้เพราะรายได้เพิ่มขึ้นแต่นอดการค้าปลีกกลับลดลง ส่วนดรรชนีราคาของผู้บริโภคในเดือนนี้ ลงมาติดลบเลยซึ่งไม่ทราบว่าทำไมทั้งๆที่ดรรชนีเงินได้ก็เพิ่มขึ้นอยู่
—>ออสเตรเลีย
สัปดาที่ผ่านมาไม่มีข่าวอะไรเลยทั้งตัวเลขเกี่ยวกับเสดกิดและเหตุการณ์ทางการเมือง
—>อังกฤษ
แนวโน้มการสั่งการผลิตสินค้าทางอุตสาหกรรมสูงขึ้น ในเดือนที่ผ่านมา แสดงว่าเสดกิดน่าจะกำลังโตสำหรับภาคการส่งออก ดรรชนีเงินได้ ยังคงที่อยู่ที่ 2.5% ซึ่งก็ถือว่าเปนเรื่องดี ส่วน GdP ของอังกฤษ ออกมาดีขึ้นทั้งตัวเลขในไตรมาศนี้และสรุปของรอบปีที่ผ่านมา โดยรวมถ้าดูสถิติย้อนปีนึงถือว่าอังกฤษสอบผ่านฉลุยในแง่ของการเติบโตทางเสดกิด
—>เมกา
นำ้มันคงคลังมีเยอะมากๆ แบบเยอะจนหน้าตกใจ ไม่รู้ว่าเปนการตุนเพราะราคานำ้มันกำลังจะพุ่งขึ้น หรือว่าเปนการที่แสดงให้เห็นว่าการผลิตกำลังตกตำ่ลงจนไม่ต้องใช้ปัจจัยพื้นฐานในการผลิตก็ไม่รู้ ส่วนดรรชนีการผลิตของเดือนที่ผ่าน ยังคงออกมาในทางบวก ส่วนตลาดแรงงานอัตราว่างงานยังคงต่ำลงมาเรื่อยๆเปนสัปดาที่สามติดต่อกัน ส่วนยอดการสั่งซื้อสินค้าของเดือนก่อนก็เพิ่มขึ้นซึ่งถือว่าเปนเรื่องที่ดี แต่ตัวเลขจีดีพี ออกมาคงเดิม ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรแต่ไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ที่ เติบโต 3.0% ลืมอีกอันคือ goods trade balance ของเมกาถือว่าติดลบอย่างหนักในเพิ่มขึ้นจาก 69.99 เป็น 71.58 ก็คือขาดดุลทางการค้ามากขึ้นนั่นเอง
—--####——
**ตารางเทรดข่าวประจำสัปดาห์ วันที่ 29/1-2/2/17**
—>อังคาร
10.30 ดอกเบี้ยออส คาดว่าจะยังคงดอกอยู่ นั่นจะทำให้ au ทุบแน่นอน เพราะสภาพเสดกิจของออสไม่ได้ดีขนาดจะมีการขึ้นดอกได้
—>วันพฤหัส
19.00
ดอกเบี้ยอังกฤษ อันนี้คาดว่าจะยังคงดอกอยู่ถ้าเปนงั้น Gu จะทุบ
——####——
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 29, 2018, 07:52:11 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 29, 2018, 10:18:10 AM
ดอลล่า สู้กลับเหล่าคู้เงินหลักๆ มีเพี่ยง gbpที่ดอลล่าไม่สามารถ กดลงได้มาก เพราะ สัปดาที่ผ่านมา อังกริด มีตัวเลขที่ดีมาก การเจรจาทุกด้านไปทางบวกหมด และเอื้อต้อการเจรจาในอนาคตกับ อียู จึงเป็นรากฐานให้ช่วงเช้านี้ guทนต่อแรวข่าว naftaของเมกาได้
แรงกดดันต่อตลาดเอเชีย ตลาดหุ้นเอเชีย ตอนดู กราฟ มองความกังวลชัดเจนมา เลนไป หาดูว่าอะไร ยังไง ทำไม
จาก นโยบายที่ทรัมพูดที่ดาวอส เรื่อง กำแพงภาษี เหล็กและเครื่องสักผ้า ทำให้ เกิดความวิตกว่า ราคาต้นทุนวัตถุดิบโรงงานจะพุ่ง ซึ่งนั้นร่วมทั้ทองด้วย มันส่งผลมากต่อจีนซึ่งเป็นผู้ส่งออก้หล็กอันดับต้นๆไปเมกา และบวกกับดอลล่าออ่น ตอนนี้เกิดการซื้อทองคำแท่ง เก็บกันมาก แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นมา แต่ราคาทองคำแท่งขยับไม่มากหรอก ส่วนต่างค่าเงินดอลล่าที่ออ่นจึงทำให้คนกลับไปถือทองคำแท่งกัน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 29, 2018, 10:32:16 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 29, 2018, 01:39:29 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 31, 2018, 11:26:53 AM
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกล่าวว่า มาตรการปรับลดภาษีขนาดใหญ่ของรัฐบาล ได้ช่วยฟื้นฟูภาคเอกชนให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้ค่าแรงปรับตัวสูงขึ้นในที่สุด
การแถลงนโยบายประจำปีดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งในปีที่แล้ว
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา
เพิ่มเติม
- Live Now: U.S. President Trump Delivers State of the Union Address
https://www.bloomberg.com/news/live-blog/2018-01-25/u-s-president-trump-delivers-state-of-the-union-address
- ชมคลิป In first State of the Union, President says he wants to unite amid 'tremendous divisiveness'
https://edition.cnn.com/2018/01/30/politics/trump-state-of-the-union-latest/index.html
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 31, 2018, 01:43:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 31, 2018, 02:49:28 PM
ทรัมว่าดี แต่ทำไมยูเอส ดิ่งลงเลีอย ๆ ละ โม้หรือป่าว พูดแบบนี้น่าจะทยานกระจายไปแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มกราคม 31, 2018, 03:10:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2018, 12:45:22 PM
แล้ว เสดกิจ ทวีป ยุโรป มีการเติบโต จากการคาดการ อาทิตหน้า จะมีโอกาส บวก ยูโรในช่วงวัน อังคาร
ดอลล่า nicholas calas, data treak research
ภาพใหญ่ รายได้แรงงานนั้นเพิ่มขึ้น จะทำให้ อัตราเงินเฟ้อ นั้นขยับตัว และ พันธบัตรดอลล่ามีการดีดตัวเพื่อปรับฐาน ทำให้ ตลาดมองว่า จะมีการขึ้นดอกได้เร็วขึ้น
Ing ตลาดคลายความกังวลเรื่องสภาพแรงงาน
Ubs global ecomonic จะมีการเพิ่มดอกเบี้ย หรือเดินนโยบายลดเงินเฟ้อ ในช่วง พฤษภา จากสภาพเสดกิจที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะ euro zone ข้อมูลจะออกมาในสัปดาหน้า
Hsbc ให้จับตา วันพุธ german Industrail Production จะเป็นตัว คอนเฟริม ของ ยูโร
BOE จะเจอสำคัญ โลกแตกว่า จะพร้อมขึ้นดอกไหม
เชื่อว่าไม่
ส่วนท่าทีของ ออสเตเรีย กับ นิวซีแลน ด้านนโยบายการเงิน เพื่อตั้งรับการปรับดอกของเมกา มีไหม........ไม่มีท่าทีในครึ่งปีแรก
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2018, 01:57:50 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2018, 05:27:50 PM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2018, 12:40:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2018, 01:35:24 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2018, 10:51:14 AM
—>Canada
ตัวเลขสำคัญที่ออกมาคือ ยอดการขายของที่ได้จากการผลิตภายใน ซึ่งตกลงถึงสามพันล้าน แต่ก็ไม่แปลก เพราะแคนาดาผลิตและส่งออกน้อยอยูแล้ว ตัวอื่นๆก็ไม่มีอะไรมาก
อังกฤษ
ยอด Cpi ดีขึ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อน่าจะมีกำลังบริโภคที่ดี แนวโน้มสินค้าถึงออกมาในทางบวก แต่ยอดการขายปลีกกลับตกลง อาจจะเป็นเพราะพอมองว่าราคาขึ้น ก็เลยลดการบริโภคลงไปหรือเปลา
AUS
ยอดคนว่างงานต่ำลง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะต่ำลงครั้งแรกในรอบสองสามเดือนเลย
USA
สถานการเดียวกับอังกฤษ คือดรรชนีราคา ในภาคผู้บริโภค สูงขึ้น แต่ยอดการขายปลีกกลับตกลง ซึ่งคาดว่าสาเหตุก็คงเป็นสาเหตุเดียวกัน เพราะของเมกา ตัวเลขรายได้พื้นฐานยังไม่ได้ปรับขึ้นเลย ที่ดรรชนีราคาปรับขึ้นน่าจะมีผลมาแค่จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่วนข่าวใหญ่ๆอีกอันคือ เมกา ประกาศขาย bond มา งวดนี้ ญี่ปุ่นเหมา ไปเกือบหมดเลย คาดว่าจะทำให้ญี่ปุ่นยังสามารถตีตลาดเมกาได้อีกนาน และเมกาก็น่าจะขาดดุลกะญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย เพราะญี่ปุ่นถือบอนไว้เยอะทำอะไรไม่เข้าตา ขึ้นมา อาจจะโดนขายบอน กลับ ละไม่มีตังค์จ่ายก็เป็นได้
——####——
**ตารางเทรดข่าวประจำสัปดาห์ของวันที่ 19-23/2/18**
—>วันพุธ
16.30 GBP average income index อันนี้คาดว่าจะมาทางบวกเพราะผู้บริโภคมองว่าราคาสินค้าอไรจะสูงขึ้นได้ ซึ่งนั่นน่าจะมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะมาจากเงินได้ที่เพิ่มขึ้น GU น่าบาย
21.15 อันนี้ข่าวอัตราเงินเฟ้อ อังกฤษ หาดูย้อนหลังไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะวิ่งอยู่ โดยส่วนตัวคิดว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะคงตัวซึ่งถ้าเปนงั้นจะทำให้เงินปอนแข็งเพราะเป้าเขาคือลดอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นถ้าคงตัวหรือตำ่กว่าน่าจะ ได้บาย GU อยู่
วันพฤหัส
16.30 GDP อังกฤษคาดว่าจะออกมาในทางบวก จากดุลการค้าที่ในไตรมาศนี้เปนบวกไปสองเดือน และยอดการผลิตอะไรก็ยังดีขึ้นจากเดินประมาณนึงเลย รวมถึง ดรรชนีรายได้ก็เพิ่มขึ้นมาสองครั้งแล้ว ดังนั้นเงินได้รวมน่าจะโอเค อยู่ภาคการลงทุนความน่าเชื่อถือก็ดีขึ้น GU น่าบาย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2018, 07:31:09 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2018, 11:41:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 09:57:47 AM
ตัวเลขเสดกิจ เมกา ภาพรวมอย่างที่ทราบคือ แกร่งมาก อยู้แล้ว ปัจจัยด้านราคาน้ำมันเริ่มไม่มีผลทางลบ ต่อ เมกาแล้ว เพราะสามารถผลิตน้ำมันใช้เองได้ สัปดาละ 10ล้านบาเรล ซึ่งมากพอสำหรับ ปลายฤดูหนาว ที่กำลังจะผ่านไป
จุดสำคัญนโยบายหลัก คือ เฟดไม่ได้ลดจำนวนครั้งในการขึ้นดอกปีนี้ ที่สามครั้งลง และ แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า ขึ้นดอกแน่นอน
************************************************
ทุกข้อมูล ตอนนี้ไป ทางดอลล่า แม้แต่ ทางญี่ปุ่น กำลังคิดเรื่องถือ สกุลเงินต่างประเทศ
ทางเทคนิค ทองคำกำลังลง ต่อ มีแรงซื้อในช่วง ตลาดจีนมาพยุงราคา และ เข้าถือ เยน
pig.gif pig.gif pig.gif pig.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 11:24:46 AM
ขอบคุณครับ .gif)
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2018, 01:06:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2018, 08:55:20 AM
—>Aus
ดัชนีเงินได้สูงขึ้น 0.6% ถือว่าเปนเรื่องที่ดี นอกนั้นก็ไม่มีข่าวอะไร แต่มีการประชุม ของธนาคารกลางออส แต่ยังไม่เห็นว่าประชุมกันเรื่องอะไร เพราะเปนประชุมสามัญปกติเฉยๆ
Cad
ยอดการขายส่งตกลง
ซึ่งนั่นจะส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออกและแน่นอนกระทบกับ balance of traadee ไปด้วย แต่มนขณะเดียวกัน อย่างที่รู้กันว่าแคนาดาไม่ใช่ประเทศส่งออกอยู่แล้ว สถานการภายในประเทศ ยอดการปลีกตกลง แต่ประชาชนมองว่า ราคาสินค้าจะมีแนวโน้มประบตัวเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังซื้อซึ่งนั่นเปนเรื่องที่ดี
Gbp
ธนาคารกลางประกาศเพิ่มเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อเปน 2% เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเสดกิด โดยจะคง อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าจะเพิ่มอัตราเงินเฟ้ออัตราดอกเบี้ยน่าจะยังไม่ขึ้นในเร็วๆนี้แน่นอน แต่อัตราว่างงานในเดือนนี้สํงขึ้นเล็กน้อย ส่วนอัตราการเติบโตของ gdp ก็ชลอตัวเปนไตรมาศแรก หลังจากโตดีกว่าคาดมาสองสามไตรมาศแล้ว โดยรวมถือว่าเหมือนสะดุดๆนิดนึงของอังกฤษ
Usa
สัปดานี้ไม่ได้มีตัวเลขอะไรสำคัญๆ ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริงๆ
—-####—
**ตารางเทรดข่าวแระจำสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 26/2-2/3/18**
—>วันศุก
20.30 unemployment rate ของเมกา กะ UCad ไว้ คิดว่าจะออกมาในทางลบจากยอดผลประกอบการที่แย่ลง การว่างงานน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คราวนี้ออกพร้อมกะ nonfarm เลยด้วย น่าจะเปนโบนัสได้ดี หลบ ucad ดีกว่าเพราะ cad ก็มีข่าว gdp มาพร้อมๆกัน เพราะฉะนั้น ดูวันศุกให้ดีๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2018, 10:51:33 AM
ตลาด นิเคอิ บวก 1%
Wall street s&p500 เพิ่มขึ้น 1.18% จากการลดลงของพันธบัตร ดอลล่า ที่ลงจาก จุดสูงสุดในรอบ สี่ปี
ชี้ว่า มีเงิน บ้างส่วน ออกมานอกระบบ รอการเทกลับเข้าระบบตลาด ดอลล่าจึงมีโอกาสที่จะผันผวนในช่วงตลาดเมกาเปิดได้มาก
ีอียู ตามที่เก็บข้อมูลครับ ดราฮี เป็นคนบอกเองว่า เสดกิจทีขึ้น แต่เกิดการชะงักด้านเงินเฟ้อไม่เติบโต และยังไม่มีแผนรับมือ
จึงมองว่า อียูไม่มุแรงดีด มาก และยืนราคายาก
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2018, 09:50:13 AM
ทั้งนี้ ในการกล่าวตอบข้อซักถามจากคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดมีแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และอาจมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นเป็น 4 ครั้ง หลังจากมีการใช้มาตรการด้านการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล
นายพาวเวลกล่าวว่า กรรมการเฟดแต่ละคนจะทำการประเมินครั้งใหม่ต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 มี.ค.
"ผมไม่ต้องการที่จะตัดสินล่วงหน้าเกี่ยวกับการประเมินครั้งใหม่ แต่เราจะพิจารณาจากปัจจัยทุกอย่างที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา" นายพาวเวลกล่าว
นายพาวเวลยังระบุว่า เฟดจำเป็นต้องจับตาภาวะไร้สมดุลในระบบการเงิน แต่ขณะนี้ดูเหมือนยังไม่มีอันตรายจากแนวโน้มดังกล่าว
นายพาวเวลระบุว่า เขาไม่ได้มีความกังวลต่อภาวะผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยการแกว่งตัวอย่างรุนแรงของตลาดจะไม่มีผลกระทบต่อมุมมองของเขาที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ โดยเขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ประธานเฟดกล่าวว่า สภาวะการเงินยังคงอยู่ในภาวะผ่อนคลาย แม้เกิดภาวะผันผวนในตลาดการเงิน
นายพาวเวลย้ำว่าตลาดแรงงาน และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่ค่าจ้างมีการเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งตัว
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุว่า การเพิ่มขึ้นของการส่งออก และนโยบายการคลังในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยใหม่ที่ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ในประเด็นเงินเฟ้อ นายพาวเวลระบุว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ และจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ขณะที่จะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ในระยะกลาง
นายพาวเวลกล่าวว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมีความสมดุล แต่เจ้าหน้าที่เฟดจะจับตาเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ประธานเฟดยังระบุว่า การปรับลดงบดุลของเฟดกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2018, 09:54:23 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2018, 10:24:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 10, 2018, 04:28:04 PM
สภาพโดยรวม ของยุโรป แน่นอน สมาชิกทางเหนือ เยอรมันฝรั่งเศล มีสภาพเสดกิจที่ดี แต่ สมาชิกทางใต้....กรีก สเปน อิตาลี และ อื่นๆ อยู่ในภาวะแย่ ไม่ต้องพูด้รื่องหนี้สิน อิตาลี ติดปัญหานี้
จุดpeak คือ ยุโรป สามารถกลับไปตกในสภาพวิกฤตทางการเงิน 2011
เพราะฉะนั้น เมื่อมองกราฟ อีเจ เกิดสงสัยว่า ยุโรป สามารถนกตัวได้ไง
ข่าวทรัม คุณท่านจะไม่หยุดแค่การตัดกำแพงภาษีเหล็กกัยอะลูมิเนียม เท่านั้น
ผลของการตั้งกำแพงภาษี ทำให้ หลายบริษัทในตลาดหุ้นที่นำเข้าเหล็ก จาก รัสเซีย จีน จุกกันแบบ อวมกันหนัก แต่ บริษัทเหล็กในเมกากลับ ดีดๆ มีการจ้างงานเพิ่ม 500ตำแหน่ง เป็นการประกาศสงครามการค้า ที่เห็นแก่เมกาเท่านั้น หลายทวีป ออกมา ต่อต้าน แต่ทวีปเมกา เหนือ และใต้นั้นยอมจำนน แล้ว เพราะ ทรัมให้สิทธิพิเศษ ซึ่งข่าวม่ะไดเแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 10, 2018, 04:39:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 21, 2018, 10:11:50 PM
#ออหมี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 22, 2018, 07:26:19 AM
วิ่งกระจายเกือบทุกคู่เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 22, 2018, 08:51:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 22, 2018, 02:28:34 PM
การประชุม FOMC "Fed Interest Rate Decision" ในคืนที่ผ่านมา (ช่วงเวลา 1.00 น. ของวันนี้) โดยเป็นการประชุมครั้งแรก ของ "เจอโรม พาวเวล" ในฐานะประธานเฟดคนใหม่ ทั้งนี้ตลาดเคยคาดการณ์ว่าการประชุมครั้งนี้จะต้องมีการปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยนโนบายอย่างแน่นอน และก็เป็นไปตามคาดหลังจาก Fed เพิ่มดอกเบี้ยอีก 0.25 Basis Points จาก 1.5 สู่ระดับ 1.75% โดยอ้างอิงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น
ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาถือครอง USD ทำให้ความต้องการสูงขึ้นและค่าเงินจะแข็งค่าขึ้น ปัจจุบันกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า "ไม่ใช่แบบนั้น" หากติดตามความเคลื่อนไหวตลอดการประชุม จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่า Dollar ตอบสนองในทางที่เป็นลบต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตลอด และในครั้งนี้ส่งผลให้ EURUSD ทะลุระดับ 1.236
ครั้งนี้ยังดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลาย Fed และธนาคารกลางทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเข้าระบบ เราเรียกการกระทำนั้นว่า "QE" สภาพคล่องล้นโลกและไหลเข้าไปเก็งดันราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ให้สูงเกินจริง ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น แต่ทว่าในปัจจุบันเรากำลังอยู่ในภาวะ "Exit Strategy " ธนาคารกลางลดขนาดงบดุลหรือเท่ากับถอน QE ออกจาก และภาพที่สภาพคล่องล้นโลกกำลังเปลี่ยน
เม็ดเงิน QE ที่ไหลออกจากพันธบัตรสหรัฐฯ วิ่งสู่ทรัพย์สินปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" มาโดยตลอด ซ้ำร้าย นโยบายภาษี (Tariffs) ที่ 'โดนัลด์ ทรัมป์' หมายมั่นจะ "Make America Great Again" จะยิ่งกดดันให้ USD ดิ่งลงเหวเข้าไปอีก
บทสรุปของเรื่องนี้ยังเป็นการที่ USD จะอ่อนค่าอย่างหนักลงเรื่อยๆ ในสิ้นปีนี้ ทั้งจากปัญหาหนี้ของสหรัฐฯ เอง นโยบายภาษี และที่สำคัญที่สุดคือการค่อยๆ ลดขนาดงบดุลที่ Fed ได้เปลี่ยนภาพของสภาพคล่องทั้งหมด และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนธุรกิจสูงขึ้น จะยิ่งกดดันภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยนไปตลอดทั้งปี
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 23, 2018, 03:22:26 PM
เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี(22มี.ค.) จากความกังวลต่อกำลังผลิตสหรัฐฯ ส่วนดาวโจนส์ร่วงหนักกว่า 700 จุด หลังทรัมป์ลงนามในคำสั่งเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน ขณะที่ทองคำปิดบวกพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 64.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯที่เผยแพร่ในวันพุธ(21มี.ค.) จะระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 มีนาคม ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
แต่ขณะเดียวกันสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯเผยด้วยว่ากำลังผลิตรายสัปดาห์ของประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 26,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 10.407 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบแรงในวันพฤหัสบดี(22มี.ค.) โดยดาวโจนส์ร่วงลงถึง 700 จุด หลังความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ลงนามในคำสั่งงเพิ่มภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าสูงสุด 60,000 ล้านดอลลาร์ กระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ดาวโจนส์ ลดลง 724.42 จุด (2.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,957.89 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 68.24 จุด (2.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,643.69 จุด แนสแดค ลดลง 178.61 จุด (2.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,166.68 จุด
"มันจะเป็นมาตรการทางการค้าชุดแรกในหลายๆชุด" ทรัมป์กล่าวพร้อมกับลงนามในคำสั่งเพิ่มภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าสูงสุด 60,000 ล้านดอลลาร์ อ้างเพื่อแก้แค้นกรณีปักกิ่งขโมยทรัพย์สินทางปัญญาอเมริกา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระพือความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ในขณะที่ปักกิ่งประกาศกร้าวว่าจะปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ส่งสัญญาณว่าอาจตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งพวกนักวิเคราะห์เกรงว่าจะก่อความเสียหายแก่ทั้งสองประเทศ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งฟื้นตัว
ข้อวิตกดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่่ยงต่ำ และดันให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(22มี.ค.) ขยับขึ้นพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 23, 2018, 08:03:24 PM
.png)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 27, 2018, 09:40:42 AM
ใช้บัตรเดบิตของทุกธนาคารที่ออกในประเทศไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
ใช้บัตร ATM ของธนาคารกรุงไทย ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
ใช้บัตรเดรดิตที่มีสัญลักษณ์ VISA/ MASTER ของทุกธนาคาร ชำระได้ โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารเรียกเก็บ
ใช้การสแกน QR CODE บน Mobile Application ของทุกธนาคาร ชำระได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มีนาคม 27, 2018, 10:16:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 27, 2018, 10:24:12 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 02, 2018, 08:35:17 PM
"มาริโอ้ ดรากี้" (Mario Draghi) ที่นักเทรดค่าเงิน ต้องรู้จักและคุ้นเคยกันดีในฐานะประธานธนาคารกลางยุโรป แม้ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจะมีถึง "ตุลาคม" ปี 2019 ซึ่งก็นับว่าอีกหลายเดือนมาก แต่ตลาดได้คาดการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ทายาทที่จะมารับตำแหน่งต่อไปคือใคร
แต่ไม่ว่าก็ตามที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก "ดรากี้" เขาต้องรับภาระที่หนักอึ้งไม่แตกต่างกัน ปัญหาเรื้อรังที่ทราบกันดี "อิตาลี" ภายใต้การบริหารของ "Silvio Berlusconi" สร้างปัญหาที่ฉุดรั้งทั้งสหภาพยุโรป ดอกเบี้ยพันธบัตรสูงสุดถึงขีดสุดตามกฏ "High Risk High Return" สะท้อนว่าไม่มีใครกล้าแบกรับความเสี่ยงเข้าไปรับซื้อ Bond ของอิตาลี
วิธีการเยียวยาปัญหาของอิตาลีที่ผ่านมา คือ การเข้าไปรับซื้อพันธบัตรเพื่อให้กดดันให้ดอกเบี้ยพันธบัตรต่ำลง ซึ่งทำให้อิตาลีมีภาระการชำระดอกเบี้ยเงินท่าน้ที่ต่ำลง และนี่คือวิธีที่จะรักษา "Eurozone" ให้คงอยู่เหมือนเดิม และนั่นหมายถึงนโยบายแบบผ่อนคลาย หรือการ"กระตุ้นเศรษฐกิจ" ด้วยการรับซื้อพันธบัตร จำเป็นจะต้องมีอยู่!
ปัญหาในอนาคตที่มีแนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับตลาด คือ ผลสำรวจของ Bloomberg ที่ระบุว่า เจนส์ เวดมานน์ (Jens Weidmann) ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนีคนปัจจุบัน มีโอกาสจะได้เป็นประธาน ECB คนต่อไปมากที่สุด
"เวดมานน์" ไม่เห็นด้วยที่จะให้ Euro Zone คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ "ศูนย์เปอร์เซ็นต์" และพยาการณ์ว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นในกลางปี 2562 นั่นสะท้อนมุมมองของเขาที่เป็นนโยบายแบบ "หดตัว" นั่นหมายถึงแนวโน้มที่จะไม่รับซื้อพันธบัตรเพื่อเยียวยาประเทศอย่างอิตาลีด้วย แถม "เสียง" ของคนในเยอรมนีก็มีแนวคิดที่อยากจะ "ตัดทาง" ประเทศที่มีปัญหาเหล่านั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ความกังวลเกี่ยวกับ EURUSD ยิ่งมีมากขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านี้ทาง "อาร์โด แฮนสัน" (Ardo Hansson) หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB เป็นคนกล่าวเองว่า หากตัวเลขเงินเฟ้อถึงเป้า จะยุติการทำ QE หลังกันยายน 2018 นี่คือสิ่งที่นักลงทุนกังวล เพราะต่อให้ตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น แต่หากอิตาลีไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เพียงพอก็ยังจะรั้ง Eurozone ให้เติบโตได้ต่ำอยู่ และการตกต่ำของสกุลเงิน EUR ก็ใกล้เข้ามาทุกที
รูปภาพ : Bloomberg
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 11, 2018, 10:09:56 AM
เช่นเดียวกบที่ธนาคาร จำเป็นต้องรีบสะสม ทองคำ
เพราะ นโยบาย ตัดภาษีของทรัม สร้างภาระหนี้สิน และความกังวลไปสู่ พันธบัตรดอลล่า แล้วที่จะหวั่นเกรงจะถูกเทขายหลัง การขึ้นดอกครั้งทุี่สองจองปีซึ่งจะเกิดขึ้นนเดือน พฤษภาคม
เนื่องจาก หนี้ที่เกิดจากการลงทุนเพิ่มทวีขึ้นในตลาดตราสารทุน และ ภาวะที่ไม่สามารถปฏิเสธการทำสงครามการค้าของเมกาที่อาจเกิดขึ้นกับนานาชาตินั้นได้ ไม่เป็นผลดีในระยะยาว ต่อการค้าในปีหน้าเลย แม้ทรัมบอกว่าไม่ต้องการแต่ นานาชาติต้องหาวิธีรับมือแน่นอน
**************
วันนี้ มีประเด็น อยู่ 4 อย่าง
ออสเตเรียที่จะมา ตอนเที่ยง ซึ่งตอนนี้ ม่ะได้ทำการบ้านออสเตเรีย เดาว่าอาจลบกับทอง
จากนั้นช่วง18.00 ดราฮีมา หากยึดตามข้อมูล ธนาคารล่าสุด สนชี้ไปทางบวก มากกว่าลบ ต้องใช้ความระวังมาก เพราะ พี่ท่านมาที เคยเจอ 1000 จุดในสองชั่วโมง
ต่อ ด้วยเงินเมกาที่คาดว่าคงที่ ตัวนี้เป็นตัวชวนปวดหัวมาก เรื่องการเมืองภายในของทรัม จะเอายังไงต่อ
em9.gif em9.gif em9.gif em9.gif em9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 14, 2018, 10:30:05 PM
การสู้รบในซีเรียมีมาตั้งแต่ปี 2011 เริ่มต้นจากรัฐบาล บัชชาร อัลอะซัด ทำการปราบม็อบอาหรับสปริง กลายเป็นขยายวง มีหลายกลุ่มที่ร่วมวงต่อสู้ หลักๆจะมี รัฐบาล (รัสเซียและอิรัก ให้การสนับสนุน) กลุ่มปลดปล่อยซีเรีย (สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ซาอุฯ และ G7 ยกเว้นรัสเซียให้การสนับสนุน) และกลุ่ม ISIS
ความตึงเครียดของสงครามตัวแทน สหรัฐ + อื่นๆ และรัสเซีย ต่อเรื่องซีเรียมีมาแล้วหลายครั้ง อย่างเมื่อ เม.ย.60 ทรัมป์ตัดสินใจสั่งโจมตีฐานทัพอากาศ Shayrat ของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ด้วยขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์คจำนวน 59 ลูก
สถานการณ์รุนแรงจนถึงขั้นที่ เซอร์เก ลาฟรอน รมต ต่างประเทศรัสเซีย ออกมาพูดว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงในช่วงแรก 1.6% ก่อนจะฟื้นตัวในช่วงปลาย เม.ย.60 3.3%
ทั้งนี้ไม่ว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจะกดดันกันมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังไม่เคยบานปลายจนเป็นการตอบโต้กันระหว่างชาติมหาอำนาจ
สำหรับครั้งนี้ การเปิดปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐ และพันธมิตร อังกฤษ ฝรั่งเศส ยังจำกัดเป้าแค่คลังเก็บอาวุธเคมีของกองทัพซีเรียเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นเข้าไปล้มล้างรัฐบาลซีเรีย ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่น่าบานปลายจนรัสเซียต้องเข้ามาตอบโต้กลับ
ผลกระทบอาจแบ่งเป็น 2 ด้าน ด้านแรกในแง่ Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้น ต้องมีโดนบ้าง แต่เชื่อว่าไม่หนัก และยังมีความหวังที่จะมีการเจรจาตกลงกันได้
อีกด้านคือเรื่องการเคลื่อนไหวของกระแสเงินทุน เดิมทีไทยถูกมองเป็น safe haven อยู่แล้ว ความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์ครั้งนี้ อาจยิ่งทำให้ไทยกลายเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัยกว่าเดิม จึงไม่น่าได้รับผลกระทบในเรื่องเงินทุนไหลออก
Cr. ประกิต สิริวัฒนเกตุ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 15, 2018, 12:28:10 PM
.
1. รัฐเป็นเจ้าของและบริหารธนาคารกลางซีเรียเอง
2. ซีเรียไม่เคยเป็นหนี้ IMF
3. ซีเรียมีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำรองมาก
4. ซีเรียเลิกปฏิเสธเปโตรดอลลาร์ของสหรัฐฯ
5. ซีเรียห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ GMO
6. ซีเรียเป็นประเทศสุดท้ายในตะวันออกกลาง
ที่มุสลิมต่างนิกายอยู่ด้วยกันโดยไม่มีข้อพิพาทกัน
7. พลเมืองซีเรียมีความรู้และเข้าใจว่าเปโตรดอลล่าร์
ให้ผลประโยชน์ต่อสหรัฐฯอย่างไรในตะวันออกกลาง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 15, 2018, 01:40:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ เมษายน 15, 2018, 03:13:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 16, 2018, 10:49:36 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 16, 2018, 10:52:39 AM
ไม่มีผลดีแล้ว ไม่ได้ปิดออเดอร์บานเลย โชคดีไป...
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 16, 2018, 12:09:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ เมษายน 16, 2018, 01:42:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 16, 2018, 07:48:37 PM
วานนี้ (15 เม.ย) นิกกี ฮาเลย์(Nikki Haley) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติกล่าวกับวำนักข่าว Fox News ของสหรัฐฯว่า สหรัฐอเมริกาจะไม่ถอนกองกำลังออกจากซีเรียจนกว่าจะบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยกล่าวว่าเป้าหมายของสหรัฐฯมี 3 ประการคือ ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการใช้อาวุธเคมีด้วยวิธีใดก็ตามที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ตามมาด้วยการเอาชนะไอซิล(ISIL) และจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการจับตาดูว่าอิหร่านกำลังทำอะไรอยู่
"การได้เห็นทหารอเมริกันกลับบ้านเป็นเป้าหมายของเรา แต่เราจะไม่ไปไหนจนกว่าเราจะมั่นใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายในข้างต้น" ฮาเลย์กล่าว
เมื่อพูดถึงความสำพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซียในตอนนี้ เธอกล่าวว่า"ตึงเครียดอย่างมาก"
คำพูดในข้างต้นของนิกกี ฮาเลย์ เกิดขึ้นหลังจากการผนึกกำลังโจมตีซีเรียของกองกำลังสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ด้วยข้อกล่าวหาว่าด้วยเรื่องการใช้อาวุธเคมีในนครดูมา(Douma)ของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสามชาติได้ร่วมกันทำปฏิบัติการ ฮาเลย์กล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติว่า สหรัฐฯ "ล็อคเป้าและพร้อมยิง" ได้ทุกเมื่อ หากพบว่าซีเรียภายใต้การบริหารของบาชาร์ อัล-อัสซาดใช้อาวุธเคมีในประเทศอีก
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ เมษายน 16, 2018, 08:14:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 18, 2018, 12:52:04 PM
Today
API Weekly Crude Oil Stock -1.047M 0.625M 1.758M
15.30 U.K. Consumer Price Index (CPI)
16.00 Eurozone Consumer Price Index (CPI)
21.00 Canada Interest Rate Decision
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
01.00 Beige Book
02.15 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Quarles Speaks
03.15 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Dudley Speaks
เเทบไใ่ใีอะไรลุ้นเลย
Tech stocks, Netflix power Wall Street's gains
เมื่อรับข่าวร้ายมาเต็มๆ นักผจญดอยบอกพอเเล้ว หันมาเล่นข่าวดีบ้าง Netflix กับ United Health กำไรอู้ฟู่ ก็ตามนั้น
----------
BoC Preview: What To Expect From USD/CAD
ตลาดเงียบเกือบทั้งวัน มีลุ้นบ่ายๆ ค่ำๆ นิดหน่อย ดอลลาร์รีบาวด์หลังจากฝรั่งบอกว่า No News is Good News ตัวเลขเศรษฐกิจ Building permits and industrial production ออกมาดี และ No Trump Tweets ส่วนคืนนี้ดึกๆ มีลุ้นแค่ Beige Book
CAD วันนี้ Big Day กับการประชุม BoC ซึ่งคาดว่า SAME SAME แต่นักผจญดอยรอความเห็นจากลุงโพลอซ ยืนแถลงประมาน 75 นาที ซึ่งเดาๆกันว่าถ้าถ้อยแถลงออกมาดี น้องแมวเหมียวมีสิทธิ์แตะ 1.2500 แต่ก็ไม่ควร ประมาทเพราะน้องเเมวเหมียวเเข็งมาเยอะแล้ว อาจเจอเเรงเทขายทำกำไร อาจใหลไป 1.2700
AUD NZD น้องอู๊ด น้องกีวี่เจอเเรงขายทำกำไร หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนชลอตัว ประมานนั้น
EUR กับ GBP เจอกระแสการอ่อนตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ แต่เห็นนักวิเคราะห์บอกว่าฝั่ง EUR ไม่น่าเเปลกใจเพราะคาดการกันอญุ่แล้วว่า เมษายน ร่วง (มันไปคาดกันตอนใหนหว่า)
ส่วน GBP งงๆ ทีเดียว ดูเหมือนเมื่อวานจะปิดคาดตรงที่อัตตราค่าจ้างดันไม่โดตามที่คาดหวัง แต่ชั่งมัน วันนี้ Big Day 2nd กับ ตัวเลข CPI และ GDP ลุ้นๆว่าจะรีบาวด์หรือพูลแบ๊ก
------------
Crude Oil Prices Settle Higher as Traders Eye Draw in US Crude Supplies
เช้านี้ตัวเลข API ก็ออกมาดี ลุ้นคืนนี้กับสต็อกน้ำมันดิบอีกรอบ
-----------
Gold Prices Off Lows as Dollar Gives Up
จะว่าไป มันไซต์เวย์แระ ดอลลาร์รีบาวด์ ทองก็หยุดดีที่ยังไม่ลง ถ้าดอลลาร์รีบาวด์ต่อ สงสัยไม่รอด หรือ ไม่ลุ้นลุงโด้ ทวีสคืนนี้ แกเงียบไปคืนหนึงแระ เงียบนานๆ นอนไม่หลับ
-----------
ตลาดผัก เลือกไม่เบรก เป็นไปตามข่าวลือ ก็โอเคนะ ดูเหมือนว่า ตลาดจะเลือกไม่เบรกแนวต้าน-พักตัวไซต์เวย์ ก็รอดูว่าจะเป็นไปตามข่าวลือหรือไม่ว่า พักยาว
พักตัวหลังจากขึ้นมาแรงนะก่ะ ไม่ใช่จบรอบ พักผ่อนเติมเงินกันบ้าง ฮา...
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 19, 2018, 08:05:52 PM
19/04/18 07:10 PM
1. ราคาโลหะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลที่มีต่อสถานการณ์สหรัฐฯคว่ำบาตรรัสเซียที่เป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่
2. ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดตั้งแต่ปลายปี 2014 ก่อนการประชุม OPEC
3. นักลงทุนให้ความสนใจกับการเรียกร้องสิทธิคนว่างงาน ข้อมูลจากธนาคารกลางธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย และการแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ
4. ผลกำไรจากสถาบันการเงินยังคงเป็นที่สนใจในตลาดวอลล์สตรีท
5. หุ้นสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงการเปิดตลาดที่ต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนเฝ้ารอผลกำไรและข้อมูลเศรษฐกิจ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 19, 2018, 09:45:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 23, 2018, 05:47:27 AM
1มีการประกาศรัฐประหารซาอุดีอาระเบียในคืนวันเสาร์
2เริ่มการโจมตีที่พระราชวัง เริ่มขึ้นโดยใช้ยานพาหนะที่ติดตั้งปืนกลขนาด 50 มม
3องครักษ์7คนถูกยิงเสียชีวิต แต่คณะรัฐประหารหาตัว กษัตร์และเจ้าชายไม่เจอ
4มีราชวงค์หลายคนเข้าร่วมในการนี้
5เสียงปืนดังกินเวลาหนึ่งชั่วโมงถึงจะสงบ
6มีการยิงปืนใหญ่ใส่พระราชวังเป็นระยะ
7องครักที่ใกล้ชิดนำตัวกษัตรและเจ้าชายไปยังบังเกอร์ที่ฐานทัพอากาศในเมืองภายใต้การอารักขาของทหารสหรัฐ
8รัฐประหารกำลังดำเนินการอยู่
9น่านฟ้าซาอุปิดแล้วสำหรับเที่ยวบินพลเรือนทั้งหมด
10มีรถถังและเฮลิคอปเตอร์จำนวนมากในริยาด
ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการใดๆทั้งสิ้นเกี่ยวกับรัฐประหาร และการเสียชีวิต
BY>>>>>Giant Khan<<<<<
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 23, 2018, 05:47:46 AM
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเสียงปืนดังขึ้นใกล้พระราชวังของกษัตริย์ซัลมานอาจเป็นการทำรัฐประหาร ว่ากันว่าขณะนี้ ข้าราชบริพารพากษัตริย์ซัลมานเสด็จไปอยู่ใกล้ๆ กองทัพอากาศ ข่าวนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ขณะที่รายงานข่าวบางสำนักบอกว่าเป็นการยิงโดรนที่ลักลอบเข้ามาในบริเวณพระราชวัง ทหารที่เฝ้าอารักขาพระราชวังอยู่จึงยิงสกัด
https://twitter.com/IraqiSecurity/status/987770950488862720
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 23, 2018, 08:05:43 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 25, 2018, 12:47:28 PM
TODAY
Australia - ANZAC Holiday Day
New Zealand - ANZAC Holiday Day
API Weekly Crude Oil Stock 1.099M -1.047
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
03.15 Bank of Canada Governor Poloz Speaks
ทำใมเงียบสนิทขนาดนี้
Wall Street slides as high bond yields fan cost worries
เมื่อคืนดูเหมือนว่าผลประกอบการ กับ U.S. 10-year Treasury yield ถล่มดาวโจนส์ยับ ความกังวลเกิดขึ้น
--------------------
It’s Getting Costly To Sell Dollars
ดลลาร์เริ่มเเพง ส่วน UJ โดน Short Covering ดอลลาร์ปรับตัวได้ดีเมื่อเทียบกับ CHF และ NZD แต่ทรงๆตัวเมื่อเทียบกับ EUR GBP AUD และ CAD เห็นนักวิเคราะห์บอกว่าเป็นปรากฎการที่นักผจญดอยดูตื่นๆ ที่จะเข้าซื้อดอลลาร์
ภาพรวมคอนนี้คือ การที่ U.S. 10-year Treasury yield พุ่งสูงปรี๊ด เห็นว่าแตะระดับ 3% แล้วจะส่งผลให้ดัชนี้เงินเฟ้อพุ่งตาม และจะเป็นตัวเร่งให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย
EUR ผจญปัญหาการอ่อนตัวของตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมันที่เเทบจะชลอตัวในทุกส่วน และน่าจะส่งผลต่อการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้
ตอนนี้แนวรับอยู่ที่ 1.22 และถ้า U.S. 10-year Treasury yield ยังสูงอยู่ รวมถึงลุงยาสีฟันในวันพรุ่งนี้ มีความกังวล EU มีสิทะิ์ลงมาทดสอบ 1.20
GBP อืมมม ผลิกฟื้นหลังจากตัวเลขสถานะทางการคลังเมื่อวานออกมาแข็งแกร่ง ซึงถือว่าด๊มากนับตั้งแต่ปี 2000 แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าอย่าหลงประเด็น มันไม่ได้ช่วยกลบความกังวลของ BoE เรื่องเศรษฐกิจชลอตัว รวมถึงความเชื่อมั่นในเศณษฐกิจที่กลับมาติดลบ
NZD น้องกีวีเห็นว่าเจอเเรงเทขายอย่างหนัก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ค่อยแจ่ม และ เชือว่าทาง RBNZ ไม่น่าจะมีปารปรับเปลี่ยนนโยบายในระยะสั้นในการประชุมเดือนหน้า
CAD น้องเเมวเหมียวเหมือนจะหลับมาแข็งค่ากลังจากมีข่าวลือจาก Mexico’s Kalach ว่า NAFTA จะบรรลุข้อตกลงในอีก 10 วันข้างหน้า แต่ก็ช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นทาง Mexico’s economy Minister and NAFTA Chief s ออกมาบอกว่า ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จยังต้องผ่านด่านลุงโด้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะยังไง
AUD ก็ยังน่าจะมีแรงกดดัน รวมถึงทิศทางที่ยังไม่ชัดเจน เพราะตัวเศรษฐกิจออกมาผสมผสาน และ โดยภาพรวมก็ต่ำกว่าทาง RBA ประมาณการ
--------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower as Bets on New US Sanctions Against Iran Fall
เมื่อเช้าตัวเลขสต็อกน้ำมัน API ออกมาเยอะพอควร รวมถึงเมื่อคืน ลุงโด้ กับ หลานมากรอง มีข่าวว่าน่าจะบรรลุข้อตกลงร่วมมือกันแซงชั่น อิหร่าน
อย่างไรก็ตาม โอเปคมีประชุมอีกครั้งในเดือนมิถุนายน รอดูผลตอนนั้นว่า มาตราการเรื่องลดกำลังการผลิตน้ำมันจะออกมาในทิศทางใหน
--------------------------
Gold looks toward the 100 day MA nd . Key technical level
มีการมองเป็น 2 ส่วนว่า เป็นเทคนิเคลรีบาวด์ในบริเวณ SMA 100 Day กับอีกส่วนหนึงมองว่าโมเมนตัมของดอลลาร์ชลอตัวลง ทำให้ทองรีบาวด์
อย่างไรก็ตามนักวเคราะห์ให้จับตาดู U.S. 10-year Treasury yield ว่าจะหยุดร้อนแรงเมื่อใหร่
-----------------------------
ตลาดผัก ก็ไม่มีอะไร น่าจะเริ่มเห็นรูปร่างการไซต์เวย์ในกรอบมากขึ้น และ ที่เดาว่าน่าจะพักตัวในกรอบที่เคยมั่ว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 26, 2018, 09:23:42 AM
-SPDR ซื้อเพิ่ม 5.71 ตัน ถือครองสุทธิ 871.20ตัน
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่+59.7 จุด อยู่ที่ 24083.83จุด
- ดอลล์แข็งเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีพุ่งเเตะ 3 %
- รัสเซียเผยกําลังศึกษาขีปนาวุธโทมาฮอว์ค หลังตกในซีเรีย แต่ไม่ระเบิด
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ เมษายน 26, 2018, 09:11:58 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 28, 2018, 03:14:24 PM
1. Nafta ที่วันนี้จัดการประเด็นสำคัญอยู ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลพรุ่งนี้ ซึ่งนั้นจะนำไปสู่การเซ็นสัญญาในเร็ววัน
2. สตีฟ ไป จีน อาทิตย์หน้า ซึ่ง ผลลัพธ์ จะออกมาในมุมไหน รอดู
3. ข่าว เกาหลี เหนือ ที่จะออกมาวันนี้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 28, 2018, 04:09:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 29, 2018, 10:29:40 AM
BOJ ได้ตัดสินใจยกเลิกการกำหนดช่วงเวลาการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นนั้นอ่อนแรงลงในช่วงที่ผ่านมา
#GBS Research
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 29, 2018, 10:59:59 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ เมษายน 29, 2018, 04:40:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 29, 2018, 06:35:03 PM
.
- 1. การตัดสินใจของ Federal Reserve Rate
ธนาคารกลางสหรัฐฯคาดการณ์ว่าจะไม่ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสรุปของการประชุมนโยบาย 2 วันเวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศพุธซึ่งทำให้อยู่ในช่วงระหว่าง 1.5% -1.75%
ธนาคารกลางจะออกแถลงการณ์หลังการประชุมเนื่องจากนักลงทุนมองหาคำแนะนำว่าจะมองเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้ออย่างไร
- 2. รายงานงานของสหรัฐฯ
มีรายงานเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปเนื่องจากปฏิทินม้วนถึงเดือนพฤษภาคมนับจากเดือนเมษายนโดยมีข้อมูลการจ้างงานรายเดือนในสปอตไลท์
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะจัดทำรายงานการจ้างงานที่ไม่หวังผลกำไรในเดือนเมษายนในเวลา 8.30 น. ตามเวลาแปซิฟิก (1230GMT) ในวันศุกร์และจะมีการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าจ้างมากกว่าการจ้างงาน
- 3 Apple พูดถึงผลกำไร
ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมากกว่าหนึ่งในห้าของ บริษัทS & P 500ประกาศรายได้โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี bellwether Apple (NASDAQ: AAPL ) เนื่องจากหลังจากวันอังคารปิดเสียงระฆัง
สต็อกผู้ผลิต iPhone ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขายโทรศัพท์ที่ชะลอตัวและขณะนี้ลดลงมากกว่า 4% สำหรับปีและมากกว่า 10% จากระดับสูงสุดตลอดเวลา
- 4. อัตราเงินเฟ้อ Euro Zone Flash
ยูโรโซนจะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนที่ 0900GMT (5:00 AM ET) ในวันพฤหัสบดีซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของธนาคารกลางยุโรปว่าจะไม่รีบเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
การคาดการณ์ที่สอดคล้องกันคือรายงานจะแสดงราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น1.3%หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงกันในเดือนมีนาคม
- 5. UK PMI's
สหราชอาณาจักรจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายนที่ 0830GMT (4.30 น. ตามเวลา ET) ในวันอังคารตามด้วยรายงานเกี่ยวกับภาคก่อสร้างในวันพุธและภาคบริการในวันพฤหัสบดีนี้
คาดว่าอุตสาหกรรมการผลิตจะชะลอตัวลงสู่54.9จาก 55.1 เดือนก่อนหน้าที่คาดว่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเป็น50.9จากระดับ 47.0 ในขณะที่การคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมบริการยักษ์ใหญ่ของอังกฤษจะปรับตัวดีขึ้นเป็น53.3จากระดับ 51.7
.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 29, 2018, 07:27:33 PM
ขอบคุณครับท่่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 30, 2018, 03:03:25 PM
.
- EUR/USD เทียบกับสัปดาห์ที่แล้วที่มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งในสี่โหวตว่าราคาจะขยับอยู่ในโซน 1.1915-1.2085 สัปดาห์นี้มีผู้เชี่ยวชาญที่เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 60% ในส่วนดัชนีจำนวน 80% ให้สัญญาณเป็นสีแดงเช่นกัน แรงสนับสนุนในค่าเงินดอลลาร์ส่งผลมาจากการจับตารอคอยสถิติจากตลาดแรงงานที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ ตามคำทำนายพบว่าจำนวนตำแหน่งงานใหม่นอกภาคการเกษตร (NFP) อาจเพิ่มขึ้นจาก 103K เป็น 198K ซึ่งไม่รวมโอกาสที่ราคาจะปรับลดลงมาอีก 100-115 จุดไปยังระดับแนวรับที่ 1.1800
ในครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 40% และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ได้เข้าข้างกราฟกระทิง (ขาขึ้น) ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมองว่าราคาที่จะลดลงต่ำกว่าระดับ 1.2200 นั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และราคาจะฟื้นตัวกลับขึ้นไปที่ช่องด้านข้างระยะกลางภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์โดยราคาจะขยับไปที่ 1.2415 ในส่วนออสซิลเลเตอร์ให้สัญญาณยืนยัน 20% ว่าราคานี้อยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป
- GBP/USD เป็นที่ชัดเจนว่าดัชนีเทรนด์ทั้งหมดปรากฏออกมาในทิศใต้หลังจากผลลัพธ์ในสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ในที่นี้แรงสนับสนุนขาลงเป็นต่ออยู่เล็กน้อยอยู่ที่ 55% กับแรงสนับสนุนขาขึ้นที่ 45% โดยตลาดกระทิงยังได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาณออสซิลเลเตอร์จำนวนหนึ่งในสี่ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาคู่นี้ถูกขายมากเกินไป เช่นเดียวกันกับการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1
หาก “ฝ่ายแรงขาขึ้น” ชนะ ราคาน่าจะขยับสูงขึ้นไปอีกโดยเริ่มจากระดับแนวรับที่ 1.3750 มีเป้าหมายจะวิ่งขึ้นไปเหนือระดับ 1.4000 และอาจเป็นไปได้ว่าราคาจะแตะถึง 1.4075 โดยมีค่าแนวต้านที่ 1.3840
แต่ถ้าหากราคาเป็นไปตามแรงขาลง โดยราคาจะวิ่งลงทิศใต้ซึ่งมีระดับแนวรับดังต่อไปนี้ 1.3585 1.3455 และ 1.3300
- USD/JPY นักวิเคราะห์จำนวน 70% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีส่วนใหญ่และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 คาดการณ์ว่าราคาจะยังคงอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นต่อไป มีเป้าหมายวางไว้ที่ 109.80 110.45 และ 111.25 โดยผู้เชี่ยวชาญที่เหลือรวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 เชื่อว่าราคาได้ขยับถึงจุดสูงสุดในช่วงราคาแล้ว และคาดว่าราคาน่าจะปรับตัวลงมาที่ระดับ 108.35 ในตอนต้นก่อนที่จะลดลงไปอีกในกรณีที่ทะลุราคาได้สำเร็จ โดยจะมีเป้าหมายอยู่ที่ 107.40 และ 106.60
ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ยังปรากฏว่าความเป็นไปได้ว่าราคาอาจปรับลงมาที่ 106.60 แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะหลังจากที่ราคาได้ขยับถึงระดับ 111.00 เป็นอย่างน้อยแล้วเท่านั้น
- คริปโตเคอเรนซี ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าราคา BTC/USD จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 10,000 ในตอนต้นและอาจปรับสูงขึ้นไปอีก 500-700 จุด โดยมีระดับแนวรับหลักอยู่ที่ 8,620 ในกรณีที่ราคาทะลุลงมา ราคาอาจปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 7,785
คำทำนายหลักสำหรับคู่ ETH/USD คือราคาน่าจะปรับสูงขึ้นไปที่ 785 และมีเป้าหมายถัดไปที่ 865 และค่าแนวรับที่ใกล้ที่สุดที่ 594 และ 500 สำหรับคู่ LTC/USD มีเป้าหมายว่าราคาจะกลับไปที่ราคาสูงสุดของเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ 165.00 และมีแนวรับที่ 140.00 สำหรับคู่ XRP/USD มีเป้าหมายว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 0.92 และต่อมาจะไปที่โซน 0.942-0.985 โดยมีแนวรับที่ 0.
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 30, 2018, 04:21:11 PM
เพราะ ตอนนี้ ยอดการส่งออก ทองคำเพิ่มขึ้น 40% แล้ว
จาก ยอด ทั่วโลก
คำสั่งซื้อ ทองคำ เกิดจาก ยอดหนี้สินที่เพิ่มขึ้น จาก ยุโรป และเมกา บวกราคาทองคำที่ลง มา ต่ำนะเวลานี้
การสั่งซื้อ ทองคำ ไปจีน ฮองกงเพิ่มสูงขึ้น มาก เพราะจีนกำลังเปิด ธนาคารaiib เพื่อสู้กับธนาคารโลก รวมกับรัสเซีย
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 01, 2018, 09:47:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ พฤษภาคม 01, 2018, 11:58:31 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ พฤษภาคม 01, 2018, 12:49:24 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 01, 2018, 12:50:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 07, 2018, 02:02:16 PM
—>ออส
สัปดาที่ผ่านมา ตัวเลขการขอสินเชื่อภาคบุคคล สูงขึ้นกว่าคาดการณ์เล็กน้อย อาจจะเป็นตัวชี้วัดว่ากำลังนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน อาจจะกำลังกลับมาอีกกครั้ง ส่วนอัตราดอกเบี้ยก็ยังคงไว้เท่าเดิม ซึ่งไม่ได้ส่งผลไรมาก เพราะรัฐบาล เขาไม่ได้มีเป้าหมายจะขึ้นดอกอยู่แล้ว ส่วนยอดดุลบัญชีกาค้า ได้ดุลเพิ่มมากขึ้นกว่า สองร้อยล้าน และดีกว่าที่คาดการณ์ ไว้ ถึง เจ็ดร้อยล้าน คาดว่านี่จะเป็นผลดีกับตลาดแรงงาน และสภาพคล่องในประเทศด้วย
—>อังกฤษ
ตัวเลขดัชนีการผลิตออกมาตำ่ลง คาดว่าจะส่งผลในด้านที่ไม่ดีเท่าที่ควรกับการส่งออก และตลาดแรงงานในรอบหน้า แต่สภาพเสดกิดโดยรวมก็ยังถือว่าดี อันนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ออกมาตำ่กว่าคาดการณ์ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
—>แคนาดา
ตัวเลข gdp ออกมาดีขึ้นครั้งแรกหลังจากสองไตรมาศก่อนชะลอตัวไปประมาณนึง คาดว่าน่าจะมาจากการที่ยอดการผลิตสองสามเดือนหลัง ดีขึ้นรวมไปถึงยอดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ดีขึ้นในช่วงหลังๆด้วย แต่ของเดือนนี้ดุลบัญชีการค้าก็กลับไปขาดดุลเหมือนเดิม ก็ปกติของแคนาดาที่ไม่ได้กำไรจากการค้ามากมายนักอยู่แล้ว ส่วนดัชนี IVEY ของแคนาดาที่วัดการเติบโตภายในประเทศก็สูงถึง 70 ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่แข็งแรงมากๆ
—>เมกา
ยังไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ ซึ่งก็ไม่น่าตกใจอะไรเพราะการชะลอตัวของเสดกิดในช่วงหลังบวกกับ ความเอาแต่ใจเรื่องเกาหลีและอะไรหลายๆอย่างรวมถึงการบอมบ์ซีเรียด้วย เลยทำให้สภาพเสดกิดเมกาฝืดๆหน่อยในช่วงหลังๆมานี้ ส่วนบัญชีการค้าขาดดุลมหาศาลแต่ดีกว่าคาดการณ์มากเช่นกัน ส่วนตัวเลข นอนฟามออกมาดีขึ้นจริงๆแสดงว่าผลการผลิต น่าจะเพ่ิมมาขึ้นค่อข้างสูง แต่ถึงยังไงก็ยังไม่ถึงคาดการณ์ที่คาดไว้สูงเวอร์ คาดว่านะเป็ฯความพยายามของ ทรัมป์ที่จะปั่นเลขเสดกิดให้ออกมาดีขึ้น
—>วันพฤหัส
18.00 ข่าวดอกเบี้ยอังกฤษ ตัวนี้เป็นดอกเบี้ยที่วิ่งเสถียรที่สุดแล้วคาดว่าอังกฤษจะคงดอกเบี้ยไว้ ดังนั้นคิดว่า gu น่าจะบินนะ
นอกนั้นไม่มีข่าวไหนที่ชัวร์ๆเลยในสัปดานี้
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 07, 2018, 02:09:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 07, 2018, 04:20:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 07, 2018, 06:55:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 08, 2018, 10:48:50 AM
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐว่าจะตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านหรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 19, 2018, 08:00:32 AM
Huawei มีความสามารถในการแข่งขันกับ iphoneแล้ว มีอยู่ 170 ประเทศ
สองเรื่องใหญ่ ที่เมกากลัวจีนคือ AI จีนเริ่มทดสอบระบบแสกนใบหน้า ตามสี่แยก และทดสอบการใช้จับจ่าย และ . 5g......กำลังมาแล้วในจีน อเมริกายังไม่สามารถทำได้....เรื่องซีเรียสจริงๆ อเมริกากลัวอะไร กลัวด้านการค้าอย่างเดียวรึ
เปล่า อเมริกากลัวว่าจีนจะมีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนั้นคือสิ่งที่ลุงฉี่ต้องการที่สุด
เมื่อต้นปี ทรัมสั่งห้ามการซื้อบริษุลัทสร้างชิป kluwcom เพราะทรัมรู้ว่า บริษัทสิงค์โปที่เป็นนอมินีของ ฮัวเว่ยต้องการเทคโนโลยี
Zteที่ถูกเมกาแบนไม่ให้ใช้อุปกรณ์ บ้างส่วนที่ผลิตจากเมกา
เพราะ zteทำการค้ากับ เกาหลีเหนือ และ อิร่าน แต่ทรัมยอม เปิดทาง เมื่ต้นปีที่ผ่านมา
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมพึ่งกลับคำพูด เพื่อให้บริษัทzteนั้นสามารถใช้สิ้นส่วนอุปกรณ์ที่นำเข้าจากเมกา เพราะzteเป็นคู่แข่งฮั่วเวยนั้นเอง และเป็นการเอาใจจีนและเกาหลีเหนือ
เสดกิจ ของเกาหลีเหนือกับจีน มันเชื่อมโยงกันมานานมากแล้ว ทรัมกำลังพยายามทำอะไร.....ทรัมพยายามจะยึดเสดกิจเกาหลีเหนือให้ได้ก่อนจีน....ซึ่งจีนรู้เช่นกัน
คิมจองอึน จะใช้ไม้ไหนในเมื่อประเทศต่างๆต้องการเข้ามาในเค็กชิ้นโตนี้ คนๆนี้ไม่กระจอกไม้ไก่กา แต่ ฉลาดมากๆ ลึกซึ้ง
และมีภรรยาที่ฉลาดเช่นกัน เกมนี้เป็นเกมแบ่งเค็ก เกมยึดสัดส่วน
คิมเปลี่ยนแนวทางการเดินนโยบายการเปิดประเทศ เพื่อเป็นอย่างยุค เตินเฉี่ียวผิ่ง เมื่อ สามสิบปีก่อน เพื่อจะให้ชาติอื่นสามารถเข้ามาได้ โดยข้อแลกเปลี่ยนคือในวันที่
23~25นี้จะมีการระเบิด สถานนีทดลองนิวเคลีย แล้วจะให้ทั้งโลกให้ดู เป็นใบเบิกทางสู่สันติภาพ และเปิดประเทศ
นั้นหมายความว่า ทองคำจะลงได้อีก
คิมจะให้ขั้วอำนาจทางเสดกิจมาต่ิสู้ใน เวทีที่คิมเป็นผู้กำหนดกฏ เพราะเกาหลีเหนือมีวิถีแห่งประชาธิปไตยในแบบของตน
หนทาที่จะไปถึงจุดนั้น ไม่ใช่ไปอย่างง่ายๆ แต่ในสายตานักทุนทองคำ มันน่าสนใจมากๆ
เล็งว่า 1265 จะมาได้ จาก กระแสการ ระเบิดสถานทดลองนิวเคลียในเกาหลีเหนือ
ถ้า เกาหลีเหนือกลับคำพูด...... จะทำยังไง เอาง่ายๆ ตอนนี้ เครื่องบินเสตล รุ่น บี...กว่า สามสิบชำลอยลำอยู่แถวเกาหลีใต้ที่มีการซ้อมรบร่วมกับ อเมริกาด้วยกระสุนจริง ย้ำว่ากระสุนจริง
คิม ต้องเดินเกมแบบ ตูม่ะยอมๆๆ แต่สุดท้ายต้องมองด้านสันติภาพ ทรัมตอนนี้ เปิดไพ่ว่า ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ.....คือ ผิดวิสัย ปกติ ทรัมต้องการ เข้าเกาหลีเหนือเพื่อจะเป็นเกียติภูมิของโลกว่า ยุคเขายุติสงครามเกาหลีเหนือที่บาดหมางมานานได้อย่างสันติ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 19, 2018, 09:02:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 19, 2018, 09:59:20 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 19, 2018, 04:13:28 PM
19/05/2018
เมื่อจีนเข้ามา Weight ในตลาด EM มากขึ้น ไทยก็โดนขายสิครัช ช่วงนี้ถ้าเห็นต่างชาติขายหุ้นไทยเยอะๆ โปรดอย่าได้แปลกใจ เพราะมีจีนจะเข้ามาใน MSCI เรื่อยๆ จนถึงปี 2022 ในระหว่างนี้ประเทศที่อยู่ใน MSCI จะโดนลดน้ำหนักลด ไทยก็โดน ไทยมี 2.25% ตอนนี้ และในปี 2022 จะเหลือ 1.88% นั่นคือผลกระทบที่เงินจะออก ตามข้อมูลของ JP morgan (ตามที่ประเมินผลกระทบที่อินเดีย) สำหรับไทยน่าจะได้รับผลกระทบราวๆ 2 หมื่นกว่าล้านในปีนี้ โดยแบ่งเป็นสองช่วงที่ MSCI มีการปรับน้ำหนักในเดือน พค และเดือนสิงหาคม ส่วนผลกระทบยาวน่าจะมีเงินย้ายการลงทุนไปจีนราวๆเกือบ 1 แสนล้าน จนถึงปี 2021-2022
ในช่วงนี้เห็นเงินไหลออก ก็อย่าเพิ่งตกใจไป มีการปรับน้ำหนักพอร์ตกันในตลาดค๊าฟ มีเพื่อนบ้านเราโดนด้วย โปรดอย่ากังวล ถ้าผมคำนวณตรงไหนผิดไป ต้องขออภัยด้วยนะครัช
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 07:40:46 AM
จอมพลังดอลลาร์ อาทิตย์นี้มีแค่ตัวเลขเศรษฐกิจขำๆ ให้ลุ้น มีไม่ขำก็แค่รายงานการประชุมเฟด แต่คู่แข่งไม่ว่า EUR GBP น่าจะ Big Week เลยที่เดียว ส่วน YEN กับ NZD ก็น่าจับยายด้วยเช่นกัน
Japanese exports eyed for Q2 growth outlook
หลังจากก่อนหน้านี้ตัวเลขออกมาต่ำคาด อาทิตย์นี้มาลุ้นกันใหม่ว่าเริ่มไตรมาสจะปังใหม
วันจันทร์ Japanese exports คาดว่าน่าจะโตขึ้น
วันพุธ flash manufacturing PMI for May
รวมๆก็คาดกันว่าน่าจะออกมากี แต่ถ้าพลิกล็อก UJ ก็ยังไปต่อ
----------------------
Kiwi hoping for rebound from New Zealand retail sales data
น้องกีวี วิ่งสู้ฟัดมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ยังทำคะแนนได้ไม่ดีนัก เพราะดอลลาร์เเข็งแกร่งจิมๆ
วันจันทร์ ตัวเลขค้าปลีกไตรมาส 1 ถ้าออกมาดีก็น่าจะวิ่งสู้ฟัดกับดอลลาร์ได้
วันพฤหัส ตัวเลขดุลการค้า
---------------------
Will Eurozone flash PMIs point to turnaround?
หลังจากที่หลังตัวเลขเศรษฐกิจชลอตัว ทาง ECB ก็ไม่มีสัญญาณลด QE เร็วกว่าปรกติ รวมถึงล่าสุด รวมทีมรัฐบาลไก่ย่างห้าดาว อิตาลี่ มาเสริมความกังวลอีก ทำเอา EUR ทิ่มเอา ทิ่มเอา
วันพุธ The reports from IHS Markit รวมถึง the manufacturing, services and composite PMIs. คาดกันว่าน่าจะออกมาดี
วันพฤหัส the European Central Bank’s account of the May policy meeting out ตัวนี้น่าจะออกมากลางๆไปทางพิราบทำนองดัชนีเงินเฟ้อยังไม่กระเตื้อง ดังนั้นเรื่องยกเลิก QE เอาใว้ก่อน
วันศุกร์ Ifo business confidence gauge out of Germany น่าจะทรงๆตัว
ตอนนี้วงในรายงานว่า เหล่านักผจญดอยรอ ข่าวดีมาสนับสนุนการไล่ซื้อ EUR อีกรอบเพราะตอนนี้ ทางเทคนิเคลมัน ขายมาเกินไปแล้ว
----------------------
UK inflation and retail sales in spotlight
น่าจะ Big Week พอๆกับ EUR ซึ่งเคเบิลเองต้องถือว่าเเข็งแกร่ง หลังขายขายทิ้งเพราะไม่ขึ้นดอกเบี้ย ราคาก็ยังทรงๆตังไม่ร่วงตัว ทั้งๆที่ดอลลาร์ และ บอนด์ยิลด์สหรัฐ เดินหน้าไม่หยุด
วันอังคาร ลุงคาร์นี่ย์ สปี๊ก testifies before Parliament’s Treasury Select Committee
วันพุธ Inflation data for April เดือนที่แล้วร่วงลงอย่างไม่น่าเชื่อ โดยมีเหตุผลจากคลื่นความเย็นเมื่อต้นปี แรงเทขาย GBP กระหน่ำ คาดว่างวดนี้แค่ยืนได้เท่าเดิม GBP ก็พร้อมรีบาวด์แล้ว นักผจญดอยพร้อมกลับมาเก็งกำไร ขึ้นดอกเบี้ยเดือนสิงหาคม แต่ถ้าออกมาผิดคาดก็ Self Who Self It
วันพฤหัส Retail sales คาดกันว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นนิดหน่อย (แค่ดีขึ้นก็ดีใจแล้ว)
วันศุกร์ the second estimate of GDP growth for the first quarter คิดว่าน่าเป็นเป็นรอบแรก ผลคงไม่เยอะมาก รอรอบสอง รอบสาม เตรียมลุ้นระหว่างขึ้นดอกเบี้ย สิงหาคม หรือ พฤศจิกายน
-----------------------
Quieter week for the US
อาทิตย์นี้น่าจะเงียบๆ
วันพุธ IHS Markit will publish its flash PMIs for May New home sales
วันพฤหัส existing home sales อ่อ มี FOMC minutes ด้วย
วันศุกร์ the April durable goods orders คาดว่าน่าจะชลอตัว the University of Michigan’s consumer sentiment index for May.
นักวิเคราะห์มองว่า เนื่องจากไม่มีอะไรลุ้น ดอลลาร์อาจจะพักตัว มีลุ้นแค่รายงานการประชุมเฟด
@@@@ มั่วซับไทย โดยถ้วยจบ @@@@
https://m.investing.com/analysis/week-ahead--euro-looks-to-ez-pmis-for-bounce-pound-eyes-uk-cpi-and-retail-sales-200317314
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 07:51:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 08:21:33 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 09:28:35 AM
.
ถ้านับเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ประเทศจีนมียอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2018 เกือบ 50% ของรถอีวีที่ขายได้ทั่วโลก
.
รัฐบาลจีนวางเป้าหมายขายยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2018 ให้ได้ 1 ล้านคัน ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะเข้าเป้า และวางเป้ายอดขายปี 2020 เป็น 2 ล้านคัน โดยมีการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนซื้อรถอีวี เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาเรื่องมลพิษในอากาศได้
.
ตามข่าวแจ้งว่ารัฐบาลจีนสนับสนุนผู้ซื้อรถอีวีแต่ละคันมากถึง 100,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500,000 บาท
.
รัฐบาลจีนมีข้อบังคับหลายอย่างสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีน มีตัวเลขที่โรงงานแต่ละแห่งต้องหาทางเพิ่มโควต้ายอดขายรถที่ใช้แบตเตอรี่มากขึ้น
.
หลายประเทศมีกำหนดปีที่จะเลิกขายรถใช้น้ำมันแล้ว เช่น นอร์เวย์ 2025, เนเธอร์แลนด์ 2025, อินเดีย 2030, ฝรั่งเศส 2040, สหราชอาณาจักร 2040...
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 11:12:01 AM
จุดที่เป็นประเด็นขึ้น 200billion dollarที่จีนตัดสิ้นค้าเมกา ยังไม่สามารถจัดการได้ในทันที แต่ ตอนนี้ก็ถึงว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ว่า ภาวะตึ่งเครียดด้านสงครามการค้า ทุเลาลงบ้าง สอดคล่องกับกระแสทิศทางโลกในสัปดาหน้า เรื่ิงเกาหลีเหนือ
และ เดือนหกจะมีการเจรจาอีกรอบที่ วอชิงตัน
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 02:04:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 04:31:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 06:29:26 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 07:21:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ พฤษภาคม 20, 2018, 08:19:46 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 12:02:02 PM
สำนักข่าว Bloomberg ให้ความเห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการทำหน้าที่ประธานของ ECB ต่อจากนาย Mario Draghi ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในปลายปี 2019
อย่างไรก็ตาม นาย Weidmann ระบุว่า การที่ตลาดเริ่มหารือเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนในขณะนี้นั้นยังเร็วเกินไปมาก โดยคาดว่ารัฐบาลของยูโรโซนจะยังไม่มีการตัดสินใจใดๆภายในปีนี้ นอกจากนั้น ในประเด็นด้านนโยบายการเงิน นาย Weidmann ระบุว่า เศรษฐกิจของยูโรโซนนั้นมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และบริษัทต่างๆนั้นกำลังดำเนินงานแบบใกล้ขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นตนจึงเห็นว่าเป็นการเหมาะสมที่จะให้ความชัดเจนและประกาศวันสิ้นสุดมาตรการซื้อสินทรัพย์ของ ECB ลง อย่างไรก็ตามนาย Weidmann ระบุว่า หนทางของการ normalization นโยบายทางการเงินนั้นเป็นหนทางที่ยาวไกลมาก
ในขณะเดียวกัน นาย Erkki Liikanen ซึ่งเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางของฟินแลนด์ และ Governing Council member ของ ECB กล่าวว่า ตนจะไม่ดำเนินการหาเสียงเพื่อตำแหน่งต่างๆแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนพร้อมที่จะพิจารณาหากได้รับการเสนอตำแหน่ง
Source: BOTSS
https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-05-19/weidmann-signals-openness-to-succeeding-draghi-as-ecb-president
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 01:26:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 01:50:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 03:25:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 04:02:04 PM
"โดนัลด์ ทรัมป์" คือปัจจัยสำคัญที่เพิ่มแรงกดดันให้ U.S. Dollar อ่อนตัวลง คาดการณ์กันว่าจะขาดดุลงบประมาณจะวิ่งสู่ระดับ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2020 และนี่คือเหตุผลที่ "ดอลลาร์" จะแย่ในระยะยาว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 06:09:31 PM
มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์(21พ.ค.) กังวลสหรัฐฯคว่ำบาตรเวเนซุเอลารอบใหม่หลังประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้ง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำปรับลด คลายกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 72.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ ปิดที่ 79.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังครืน ได้นั่งเก้าอี้ผู้นำต่ออีกสมัยในวาระ 4 ปี หลังคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งที่ทางฝ่ายค้านบอยคอตต์และโดนประณามจากสหรัฐฯและชาติอื่นๆว่า "จอมปลอม"
ไมคฺ์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุในวันจันทร์(21พ.ค.) ว่าการเลือกตั้งของเวเนซุเอลา เป็นการเลือกตั้งเก๊ ปราศจากความอิสระและยุติธรรม พร้อมเผยว่าอเมริกาจะเคลื่อนไหวทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทูตในทันที เพื่อสนับสนุนกอบท่าน้ประชาธิปไตยในเวเนซุเอลา
ทั้งนี้มาตรการคว่ำบาตรใดๆต่อการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา จะซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานโลกตึงเครียด หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลของทรัมป์ เพิ่งถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและเคลื่อนไหวกลับมาคว่ำบารเตหะรานอีกครั้ง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์(21พ.ค.) ปิดบวกแรง นักลงทุนพบเห็นสัญญาณบวกในการเจรจาระหว่างอเมริกากับจีน ซึ่งตัดสินใจถอยห่างจากความเป็นไปได้ที่จะเปิดสงครามการค้าระหว่างกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 298.20 จุด (1.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,013.29 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.04 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,733.01 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 39.70 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,394.04 จุด
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของทรัมป์ ให้คำสัญญาว่าจะระงับข้อพิพาททางการค้ากับจีนเอาไว้ก่อน หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุความเห็นร่วมกันในความพยายามลดความขัดแย้งทางการค้า
ความกังวลที่ลดน้อยลงไปเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ผลักให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและปัจจัยนี้ฉุดให้ราคาทองคำในวันจันทร์(21พ.ค.) ปิดลบเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 1,290.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ผู้จัดการ online
---------------------------------------------
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 22, 2018, 06:44:37 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 23, 2018, 12:41:16 PM
หมายความว่า 55555555555555 สงครามการค้าาาาาา ดรต่อใจ
ทำไมดีต่อใจ สงครามการค้า คราวก่อนที่ผ่านมา ลาก ทอง ไป1365
มาแบบนี้ สำหรับผม รางวัลที่1ชัดๆ
เขากำหนเคือ วันที่ 1มิถุนายน รับ ซัมเมอ
พรุ่ง ผมเล็ง 2เรื่อง
1. ผลการแระชุม ทรัมกับมูนแจอึน....ควต้องดูจาก ทวีตเตอ
2. กระแสนักข่าวที่เตรียมถ่ายทำข่าวการระเบิดสถานีทดลองนิวเคลีย ในวัน พฤหัสที่ 23
ง่ะ คิดได้ไงว่า เหรียญดิจิตัล ไม่ต้องมีคนกำกับดูแล ใช้ บล้อคเชนตรวจสอบได้....
แค่ตอนนี้ เงินก่อการร้ายส่งเป็น บิทคอย ... ciaยังตรวจสอบไม่ได้เลย
มูนแจอึน จะ พบ ทรัม ช่วง ตีสี่บ้านเรา ประชุมสองชั่วโมง ก็น่าจะเสร็จ หกโมงเช้า
ตื่นมาก็ คงได้เห็น
อีเว้นที่จะส่งผลใน ช่วง มิถุนายน มาเต็ม ท้งอิร่าน....ที่เมกาจะมีนโยบายข่มเหงให้หนักขึ้น ทั้งภาษีที่จะรีดๆ ทั้งหนี้สินแลพการออ่นค่าดอลล่า
มีอีกเพียบ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 23, 2018, 01:22:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 24, 2018, 11:08:43 AM
Today
08.30 BoJ Board Member Sakurai Speaks
13.00 Germany Gross Domestic Product (GDP)
15.00 Bank of England Governor Carney Speaks
15.15 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Dudley Speaks
15.30 U.K. Retail Sales
European Central Bank Praet Speaks
18.00 ECB Publishes Account of Monetary Policy Meeting
19.30 U.S. Initial Jobless Claims
21.00 U.S. Existing Home Sales
21.25 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Bostic Speaks
00.00 FOMC Member Harker Speaks
วันนี้น่าจะไม่เหงา ทั้ง JPY EUR GBP และ USD
Wall St. ends up as Fed seen keeping gradual approach to rate hikes
ตลาดไอติิมปิดบวกกันได้นิดหน่อยหลังจากรายงานการประชุมเฟดไม่เหยี่ยวตามคาด โดยที่ตลาดดีดตังกลับหลังจากรายงานการประชุม
ตลาดมีโอกาศได้หายใจอีกครั้งหลังจาก การที่ดัชนี้เงินเฟ้อเอตะ 2% ไม่ได้มีนัยยะว่าเฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ส่วนผลประกอบการเมื่อวานที่ประกาศออกมาก็ผสมๆกันมีดีบ้าง ไม่เป็นตามคาดบ้าง
ส่วนลุงโด้ สร้างความกดดันนิดหน่อย โดยออกมาบอกว่า ไม่ปลื้มปลเจรจากับจีนรอบสอง และ ดูเหมือนว่า จะยากที่จะได้ข้อสรุปตามที่หวัง
--------------------
Fed's Minutes: June Rate Hike on Track as Inflation Nears Target
รายงานการประชุมเฟด ก็ไม่เหยี่ยวตามคาด โดยที่เฟดมองว่า เศณษฐกิจโดยรวมยังเป็นไปตามคาดไม่ได้ร้อนแรง ยกเว้นเฉพาะตลาดแรงงานเพียงตัวเดียวที่ร้อนแรงเกินไป ส่วนดัชนี้เงินเฟ้อที่ใกล้ 2% ไม่ใช่ตัวผลักดันให้เฟดต้องรีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผน ก็ตามนั้นไม่ได้มีอะไรเกินนักผจญดอยคาด
YEN แข็งค่าอย่างแรงหลังจาก ลุงโด้ ไม่ปลื้มกับผลเจรจาการค้า แถมหยอดเพิ่มความกังวลว่า ดูเหมือนว่ายากจะเจรจากันได้ ทำให้นักผจญดอยบางส่วนกลับเข้าสินทรัพย์ระดับสวรรค์ทันที
GBP แห้วไปเเล้ว กับการลุ้น BoE ขึ้นดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าเมื่อวานตัวเลขจะออกมาดี แต่ก็ต่ากว่าฝ่ายการตลาดคาด ฝ่ายขายก็สังหารทันที วันนี้ลุ้นต่อกับตัวเลขค้าปลีก น่าจะรีบาวด์กลับมาได้มั้ง
EUR ลุ้นไไม่ขึ้น ดูเหมือนว่าทาง ECB กังวลกับการชลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ วันนี้มีรายงานการประชุม เดาว่าน่าจะไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากนี้ก่อนหน้าลุ้นตัวเลข GDP เยอนมัน
เช้านี้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจน้องกีวี ออกมาปังทีเดียว
---------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower After Surprise Surge in U.S. Crude Supplies
เมื่อคืนสต็อกน้ำมันดิบออกมาบึมส์ แต่ราคาก็ปรับลงนิดเดียว แพงต่อไป (ให้คนไทยทะเลาะกันต่อเรื่องน้ำมันแพง ก็พูดยากนะ น้ำมันแพงทีก็ขุดเอาเรื่องเดิมๆ มาเมาส์ พอช่วงน้ำมันถูก ก็ศรีษะหายไปกันหมด น้ำมันนีี เรื่องเมาส์มันส์จริงๆ)
------------------------------
Gold Prices Flat as Geopolitical Uncertainty Offsets Dollar Pressure
เมื่อวานก็สวิงแรงที่เดียว แต่ดูเหมือนจะพักๆตัวยกโลว์ขึ้น แต่คุณภาพแท่งเทียนก็ยังไม่เเข็งแรง อาจแค่พักตัวเพื่อรอ (ลง) อีกรอบมั้ง
------------------------------
ตลาดผัก บีบไปวันละนิด ให้นักผจญดอยดิ้นไม่ออก ลงมาแตะ แนว....แระ จะเอาไงก่ะ จะไปหัวหิน หรือ พักเเถวเพชรบุรี ก่อน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 24, 2018, 11:11:28 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 24, 2018, 11:14:02 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 24, 2018, 02:52:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 11:44:20 AM
25 พฤษภาคม 2561 592
ด้านนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แสดงความเสียใจที่มีการยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานโดยอ้างคำพูดของนายคิม คเย กวาน รมช.ต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆร่วมกับสหรัฐ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือวิธีการใดก็ตาม หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า
“เราได้เล็งเห็นถึงความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ อย่างที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดเคยทำมาก่อน ในความตั้งใจที่จะจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ และเราอยากบอกกับสหรัฐอีกครั้งว่า เราเปิดกว้างสำหรับการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือวิธีการใดก็ตาม”นายคิม ระบุ
ด้านนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แสดงความเสียใจที่มีการยกเลิกการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
“เป็นเรื่องที่น่าลำบากใจ และน่าเสียใจที่การประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือไม่สามารถมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.” นายมุน กล่าว หลังจากการประชุมฉุกเฉินของสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ทั้งนี้ นายมุนได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงทันที หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นในเวลา 23.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น.ตามเวลาไทย ของวันพฤหัสบดี (24พ.ค.)และมีขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี
ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ได้แก่ หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดี ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ รวมทั้งรัฐมนตรีจากกระทรวงรวมชาติ กลาโหม และต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 12:40:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 01:32:35 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 02:35:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 05:01:09 PM
-------------------------------------------------------------------------—
Jeerachart Jongsomchai / "กองทุนน้ำมัน ทางทฤษฎีกับปฏิบัติ ต่างกันราวนรกกับสวรรค์"
... ทางทฤษฎีนั้นสวยหรูมากเพื่อสร้างกองทุนเอาเงินมารักษาเสถียรภาพทางราคาขายน้ำมันแก๊สภายในประเทศให้นิ่งไม่ผันผวนแปรผัน ตามช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนขึ้นลง, เหมือนสร้างฝายน้ำตัวกลางระหว่างแม่น้ำใหญ่กับระดับน้ำในนาข้าวเรา เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำสูงก็ยังมีฝายตัวนี้กั้นอยู่
... ในวงจรการตั้งกำหนดราคาน้ำมันและแก๊ส ภายในประเทศก่อนจะขายปลีกให้ชาวบ้านร้านตลาด จะต้องบวกค่าที่ต้องจ่ายให้ "กองทุนน้ำมัน" นี้ทุกครั้ง คล้ายๆภาษีอย่างหนึ่ง
... เช่น ช่วงราคาน้ำมันตลาดโลกขึ้น รัฐต้องเอาเงินจากตรงนี้มาชดเชย จ่ายออกไปก่อน จะไม่ขึ้นราคาขายปลีกภายในประเทศวันต่อวัน ทันทีเป็นเงาตลาดโลกแบบที่เราเห็นอยู่ , และเมื่อราคาโลกต่ำลงก็สามารถไปเก็บมากขึ้นในภายหลัง โดยการไม่ลดราคาขายน้ำมัน แก๊ส ปลีกลงตามทันทีในช่วงเวลาหนึ่ง
... แต่ความเป็นจริง ไม่เป็นแบบนั้น
... เพราะว่าน้ำมันแก๊สที่เราใช้กันภายในประเทศนั้น มีส่วนหลักสามส่วน สามพี่น้อง คือ ภาคการผลิต( ทั้งอุตสาหกรรมทั่วไป ใหญ่เล็ก ส่วนใหญ่ เครือปตทรพี. ใช้แก๊สตรงนี้มาก ), ภาคการขนส่ง( ก็ทั้งขนส่งของที่เกี่ยวกับชาวบ้าน รถบขส. เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม ปตทรพี. ก็มี) และ ภาคครัวเรือน เช่นน้ำมันเติมมอเตอร์ไซค์ เติมรถยนตร์ เติมแก๊สหุงข้าว )
... ปัญหาคือ เงินที่เก็บจากพี่น้องสามคน สามภาคนี้ พี่คนโตอย่างภาคอุตสาหกรรมใช้้เงินเยอะสุด พ่อแม่กระทรวงพลังงานเอาไปปรนเปรอภาคนี้เยอะสุด กระเป๋าเดียวกัน สามพี่น้องหยอดกระปุกออมสินเท่ากัน แต่จ่ายให้พี่น้องไม่เท่ากัน
... เคยมีการเสนอให้แยกกระเป๋ากองทุนน้ำมันเป็นสามส่วนชัดเจนไปเลย เพื่อกันการรักลูกไม่เท่ากัน กันการรั่วไหลของเงินกองทุนที่มาจากภาคครัวเรือนไหลไปอุ้มอุตสาหกรรมคนรวย แต่ก็ไร้ผล เพราะกระทรวงพลังงานชอบคบคนรวย เนรคุณคนจนมาทุกสมัย
... และภาคอุตสาหกรรมหลายส่วนที่ต้องใช้แก๊สเฉพาะที่ต้องนำเข้า ต้องเป็นภาระให้ประชาชนคนจนไทยอุ้มคนรวยมาโดยตลอด
... และอีกอย่างสมัยนี้มีการซื้อน้ำมันล่วงหน้าหลายเดือน การจะขึ้นราคาน้ำมันทันทีเป็นเงาวันต่อวัน จึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและโกงกินได้ เพราะแม้ราคาโลกจะแปรปรวนแค่ไม่กี่วัน กี่สัปดาห์ คุณก็ได้ราคาเดิมอยู่แล้ว
... เปรียบเสมือนนายทุนเหมาซื้อทุเรียนกับเจ้าของสวนตอนก่อนน้ำท่วมที่ กิโลกรัมละ 80 เป็นเวลาสามปี , แล้วพอน้ำท่วมทุเรียนแพงขึ้นเป็น กิโลละ 140 บาท พ่อค้าคนกลางก็อ้างว่าน้ำท่วมสวนทุเรียน เลยต้องขึ้นราคาตามตลาดทุเรียน แต่ตัวเองซื้อมาแค่ 80 แปลว่าส่วนต่างตอนน้ำมันขึ้น พวกเขาก็ได้กำไรไปอีกเท่าแสนเท่าตัวอีกสามปี
... ดังนั้นการขึ้นราคาตามตลาดโลกแบบวันต่อวันเป็นเงารีลไทม์จึงเป็นการคดโกงประชาชนผู้บริโภคออย่างโหดร้ายและไร้คุณธรรมมาก
... เหมือนปล่อยให้โจรต่างชาติต่างบ้าน เข้ามาข่มขืนลูกสาวตัวเองในบ้าน โดยที่ไม่ช่วยเหลืออะไรเลย เอาแต่นั่งยิ้มนับเงินจากโจร
... และตามซ้ำเติมด้วย การขึ้นราคาทันทีตามตลาดโลกในจำนวนสัดส่วนที่มากกว่า แต่ไม่ลดลงราคาตามตลาดโลกทันที ช้ารีรออยู่หลายวันและน้อยกว่าสัดส่วนที่ตลาดโลกลดลงจริง เป็นการโกงกินและปล้นคนจนอย่างหนึ่ง อุ้มคนรวย
... เราถูกผู้ผลิตขายน้ำมันโกงเรามาตลอด โดยการรับรู้จากผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานทุกยุคทุกสมัย
... ยังไม่นับการเอาเงินไปซื้อกองทุนประกันความเสี่ยงในตลาดฟิวเจอร์อีก พวกเขาไม่ขาดทุนแน่นอน
... ดังนั้น "กองทุนน้ำมัน" ทางตัวอักษรจึงสวยหรู แต่ตามความจริงมันคือความแสนเจ็บปวด และเป็นการปล้นเงินคนจนไปอุ้มคนรวยโดยผ่านผู้ปกครองทุกยุคทุกสมัย เป็นบ่อน้ำฝายแห่งการคดโกง
... ทางแก้ปัญหาคือ แยกกองทุนให้ชัดเจนเป็นสามกอง ถ้าทำไม่ได้ก็ยุบดีกว่า แล้วหาทางรักษาเสถียรภาพอย่างอื่น อย่าปล้นคนจนไปบำเรอคนรวยอีกเลย สงสารเราเถอะ
-------------------------------------------------------------------------—
เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn
หรือเข้า LINE และ Search พิมคำว่า "@mheecnn" แล้วแอดเข้าถ้ำ
เพจสำรองของหมี CNN คือ เพจ " หมี RT " Search หาใน FB ตามชื่อนี้เลยเด้อคร๊า ดูโลโก้ หมีอี้จับซา(ชักดาบ)
เพจ VK ของรัสเซีย (www.vk.com/id448335733) หรือ Search เพื่อน พิมคำว่า Frank Mheecnn
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 05:36:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 25, 2018, 05:41:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 26, 2018, 12:16:50 PM
จีน มีแรงงานมหาศาลที่พร้อมลุยเหมือนทหารที่ใช้ดาบและวิธีต่อสู้แบบโบราณ ฮองเต้ซี่ จิน ผิง ต้องการที่ ปรับปรุงแรงงาน ด้วยนวัฒตกรรม จึงส่งคนไปพยายามขโมย บริษัทสร้างชิป ของ อเมริกา อย่าง คราวคอม.... ผลิตสร้างชิป ส่ง บริษัทใหญ่ๆที่ท่านนึกชื่อได้ แต่ ทางอเมริกาจับทางได้ เลย เสียทีอเมริกาไป
ทรัม ได้ เจรจากับ ลุงซี่ในเรื่อง บริษัทZTEยักษ์ใหญ่มือถือ ในจีน คู่แข่งฮัวเว่ย ที่ทรัม กีดกั้นการส่งชิ้นส่วนสำคัญจากอเมริกา ไปประกอบ.....ชิ้นส่วนสำคัญ พอนึกออกไหมว่า มือถือ มีอะไรที่สำคัญ
ทรัมเสนอว่า หาก ฮ่องเต้ ยอม จ่ายเงิน 1.3billion dollar จะนอมปล่อยzteไป
จึงมีความเป็นไปได้ว่า จีน จะยอมชดภาษนำเข้าีถั่วเหลืองของอเมริกา และ นำเข้าสิ้นค้าเกษตรตัวอื่นๆ
อเมริกา หา เริ่ม หาเรื่อง ซีเรีย แต่ยังม่ะมีผลใน ช่วงนี้ Fed. Powell ให้มุมมอง ในการ ประเมินประสิทธิภาพในระบบการเงิน เพื่อเพิ่มความมั่มใจในตลาดการเงิน
และสตญญาว่าจะ มีการ สื่อสารอกมาถึงผลเป็นระยะๆ ความต้องการของเขา คือ การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินที่มีมาตั้งแต่ 2008เพราะว่านโยบายการค้าและความสัมพันประเทศต่างๆของทรัมมัน
บ้าาาาาๆๆๆ
เป้าของโพเวลคือ การ ปรับปรุงการบริการทางการเงิน และเพิ่มความเข้มแข็ง และการเพิ่มมูลค่าทางการเงินอย่างเป็นระบบ
เขา ต้องการขึ้รดอกเบี้ย เลยต้องยกเครื่องการเงินใหม่ ป้องกันการเกิดวิกฤต ทองลง ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 26, 2018, 04:00:26 PM
น้ำมันดิบโลกสองตลอดคืนวันศุกร์ ลงหนัก WTI ลง 2.83 บาร์เรล หรือ4.17% มาปิดที่ 67.88 บาร์เรล
brent ลง 2.35 บาร์เรล หรือ 3.07% มาปิดที่ 76.44 บาร์เรล
ในขณะที่ ปตท.ลดให้แค่ 0.50 สตางค์ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วยังไม่คุ้มค่ากับที่ขึ้นไปหลายวันติด ร่วมๆ 11% แบบนี้จะไม่ให้ ปตท. กำไรทุกปีได้ไง ในขณะที่กระทรวงคลังถือหุ้นใหญ่ ปากไม่มีหรือ?.. ว่ากำลังเอาเปรียบประชาชน แล้วกองทุนกับภาษีน้ำมันเมื่อไหร่จะเลิกเก็บ หาวิธีเก็บภาษีแบบขูดเลือดประชาชนทางอื่นบ้างก็ได้ หาเงินช่องอื่นโดยที่ไม่ขูดเลือดประชาชนเป็นไหม
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 27, 2018, 08:32:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 27, 2018, 08:38:06 AM
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 27, 2018, 12:45:54 PM
บริษัทในอเมริกา กำลังจะต้องจ่าย ดอก ค่าท่าน้ยืมในการทำธุรกิจ และ สภาพเสดกิจไม่ได้ดูดีอย่สงที่ทรัมปากดีไว้ ผมลัพของนโยบายตัดภาษีนั้นออกมาได้ ดีต่อเสดกิจ อย่างที่ ธนาคารคาดหวัง นักลวทุนเองไม่วางใจในธนาคารอเมริกา ด้วยนโยบายDodd Frankคือ นโยบายที่โอบาม่าใช้เพื่อปกป้องการเงินภายในอเมริกา โดยเปิดโอกาสในธนาคารขนาดกลางสามารถลงทุนได้มากขึ้น ลดข้อจำกัดต่างๆ จึงทำให้เมกา ผ่าน2008 มาได้
แต่.....นี้ยุคทรัมที่มีนโยบายสุดโต้งด้านการค้า การค้าการลงทุนคือต้นกำหนดเงินตรา นโยบายที่ผลักดันเสดกิจแบบไม่สนโลก แทนที่จะมีผลดีเหมือนช่วงแรกๆ กลับส่งผลตรงกันข้าม เขาเลือกใช้ Dodd Frank จะเร่งการอนุมัติเงินท่าน้ให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น มันเหมือนถีบเสดกิจไปสุดทางอย่างรวดเร็ว จนเมื่อวานโพเวล ประธานเฟดออกมา ว่าจะต้องปรับนโยบายการเงินที่ออกตั้งแต่ 2008 เพื่อ รับมือทางการเงิน
มองตามเนื้อผ้า คนอเมริกาตกงานเริ่มเยอะขึ้น เพราะนโยบาย บ้าๆบอๆเรื่องคนต่างด้าว จะสร้างกำแพงกั้น จนตอนนี้ อเมริกา อนุมัติคนเข้าทำงานในอเมริกา เพิ่มอีก 15000คน ด้วย วิซ่าH 2b ปีที่แล้ว ช่วงปลายปีก็เพิ่มไปอีก 15000คน
เป็นสัณญาญว่า ดอลล่า ใกล้ละ ทอง ละ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 27, 2018, 12:51:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 27, 2018, 03:52:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 04:31:25 AM
เรารู้กันทั่วไปหมดแล้วใช่มั้ยครับว่าอเมริกาได้คว่ำบาตรรัสเซียและชักนำให้เหล่าประเทศอียูคว่ำบาตรรัสเซียไปด้วย? อเมริกาต้องการจะขายก๊าซให้อียู พยายามมิให้อียูซื้อก๊าซจากรัสเซีย ปัญหาก็คืออเมริกายังไม่ได้วางท่อไปอียูเลย และถ้าจะซื้อก๊าซของอเมริกา ราคาจะสูงกว่าซื้อก๊าซของรัสเซียมากกว่าเกือบ ๒ เท่า
ไม่เพียงแต่อียูหลายประเทศจะกบถ ไม่เชื่อรัฐบาลอเมริกา แม้แต่บริษัทค้าพลังงานของอเมริกาบางบริษัทเองเองก็แอบไปซื้อก๊าซและน้ำมันรัสเซียมาขายให้ประเทศยุโรปในราคาที่แพงกว่า กลายเป็นว่าชาวอเมริกันนั่นเองที่ละเมิดข้อตกลงคว่ำบาตรรัสเซีย
วันก่อน เยอรมนีสนับสนุนท่อก๊าซรัสเซีย วันนี้ มีฝรั่งเศสและญี่ปุ่นมาร่วมแจมการค้ากับรัสเซียด้วย ท่านเห็นหายนะของเงินสกุลดอลล่าร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาหรือยังครับ? เงินสกุลดอลล่าร์กำลังสูญเสียตลาดด้วยเหตุผล ๒ อย่าง:-
ข้อแรก จีนสร้างเปโตรหยวนขึ้นมาเพื่อแย่งตลาด โดยที่เปโตรหยวนมีทองคำหนุนแต่เงินสกุลดอลล่าร์ไม่มีทองคำหนุน ขณะนี้มีหลายชาติที่ทำมาค้าขายกับจีนยกเลิกเงินสกุลดอลล่าร์กันแล้ว ยิ่งจีนมีลูกค้าเพียงใด กลุ่มผู้เลิกใช้เงินเปโตรดอลล่าร์ก็จะลดลงเพียงนั้น
ข้อที่ ๒ อเมริกาคว่ำบาตรชาติไหน ชาตินั้นก็เลิกใช้เงินสกุลดอลล่าร์ไปด้วย ชาติที่อเมริกาคว่ำบาตร ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งมีหลายชาติ มีทั้งรัสเซีย เกาหลีเหนือ รัสเซีย เวเนซุเอล่า อิหร่าน ฯลฯ ชาติเหล่านี้เลิกใช้เงินสกุลดอลล่าร์หมด เวลานี้ รัสเซียกำลังทำการค้าพลังงานกับบรรดาประเทศอียู รัสเซียเชิญชวนให้บรรดาประเทศอียูใช้เงินสกุลยูโรแทนเงินสกุลดอลล่าร์ค้าขาย
อียูตอบรับเป็นแถว มีแต่ประเทศบางประเทศในยุโรปที่ยอมตนเป็นขี้ข้าอเมริกา เช่น อังกฤษเท่านั้นที่ยังภักดีต่ออเมริกาอยู่ทั้งๆ ที่รู้ว่าอเมริกาถือนโยบายชาตินิยมจัด (America First Policy) ไม่เพียงประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสจะอยากทำการค้ากับรัสเซียเหมือนที่เยอรมนีแสดงเจตนารมณ์มาก่อนนี้ ยังพยายามดึงรัสเซียให้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในยุโรปด้วย ถ้าอียูค้าขายกับรัสเซียด้วยเงินสกุลยูโร มาตรการคว่ำบาตรของอเมริกาก็จะเป็นหมันไปโดยปริยาย ไม่เพียงเท่านั้น อเมริกายังจะขาดตลาดการค้าอย่างน่าสมน้ำหน้าอีกด้วย
ท่าทีของนางแมเคิร์ลของเยอรมนีและมาครงของฝรั่งเศสที่มีต่อรัสเซีย แสดงว่าอะไรครับ? แสดงว่าชาติต่างๆ ในยุโรปกำลังหมดศรัทธาต่ออเมริกานะสิครับ อเมริกากำลัง เร่งฆ่าเงินสกุลดอลล่าร์ตัวเองด้วยนโยบายต่างประเทศโดยแท้แลแม่จำเนียร
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑
หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ๓.โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ถ้าสะกดผิดจะลบออกทันที ๔.ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* จะลบออกทุกครั้งที่เห็น ๕.ผู้ที่สะกดผิดบ่อยครั้งหรือใช้คำหยาบบ่อยครั้ง จะบล็อคอย่างถาวร ๖.คนที่ใหม่ต่อการเมืองระหว่างประเทศ ควรจะอ่านข่าวจากเพจนี้ย้อนหลังไป ๓ เดือนเป็นอย่างน้อยก่อนจะวิจารณ์ใดๆ ๗.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ
https://www.rt.com/news/427820-putin-macron-russia-europe/
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 06:38:59 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 10:56:00 AM
อาทิตย์นีื ปิดเดือนพฤษภาคม เข้าสู่เดือนมิถุนายน ตัวเลขเศรษฐกิจทะลัก แต่ตัวเลขหลักน่าจะอยู่ที่สหรัฐ กับตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ และ ตัวเลขจ้างงาน
ข้ามมหาสมุทรเเอตเเลนติสมา จับลุงกันที่ตัวเลข the first estimate of euro zone inflation figures ลุ้นว่า EUR จะรีบาวด์ได้หรือไม่
ลองข้ามแปซิฟิก มีตัวเลข monthly data on China's manufacturing sector จากจีน
ขึ้นเหนือไปก็ มีน้องแมวเหมียวกับ a monetary policy announcement from the Bank of Canada
จากอาทิตย์ที่แล้วที่ลุงโด้ออกมาลากทอง และ หยุดการขึ้นของดอลลาร์ โดยให้ข่าวว่า ไม่ปลื้มกับผลการเจรจาการค้ารอบสองกับจีน รวมถึงยกเลิกการประชุมกับนู๋คิม ก็เป็นประเด็นที่ต้องตามว่า นักผจญดอยจะยังกังวลต่อหรือไม่ หรือ ลุงโด้จะม่อะไร ฮาๆ.. ออกมาเพิ่มเติม
1. U.S. Jobs Report
วันศุกร์ Nonfarm Payrolls ซึ่งคาดว่าตัวเลขจ้างงานยังน่าจะสูงกว่า 175K และ อัตราว่างงานน่าจะยังต่ำกว่า 4% แต่ประเด็นไฮท์ไลท์อยู่ที่อัตราค่าจ้างรายชั่วโมง คาดกันว่าน่าจะออกมาดีขึ้น ถ้าจริง โอกาศที่ดอลลาร์จะไปแรงๆ และ ทองหลุด 1300 ก็สูงทีเดียว
-------------------------
2. U.S. PCE Inflation Data
วันพุธ the second estimate of GDP คาดกันว่าน่าจะออกมาดี
วันพฤหัส ตัวเลขรายรับ รายจ่าย รวมถึงดัชนีเงินเฟ้อภาคประชาชน เอเเต่ดูเหมือนว่าจะคาดการกันว่าน่าจะชลอตัวลง
นอกจากนี้ยังมีตัวเลขขำๆ เช่น CB consumer confidence, ADP private sector payrolls, car sales, trade figures, construction spending and the ISM manufacturing PMI ให้ลุ้นกันตลอดอาทิตย์
เฟดมีการประชุมขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 12-13 มิถุนายน (เร็ววุ้ย ไม่ต้องรอนาน) ตลาดคาดหวังโบนัสการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมปลายปี แต่ดูจากรายงานการประชุมเดือนพฤษภาคม มันพิราบยังไงพิกล
-------------------------
3. Euro Zone Flash Inflation Figures
วันพฤหัส กับ flash inflation figures for May คาดกันว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น (EUR มีลุ้น)
นอกจากนี้มีขำๆตลอกอาทิตย์กับตัวเลข CPI ของ Germany, France, Italy and Spain
สภาพเหตุการณ์ในอิตาลี่ และ สเปน น่าจะยังกดดันการรีบาวด์ของ EUR อยู่พอควร
เฟดมีประชุม 12-13 ส่วน ECB ประชุม 14 มาลุ้นว่าจะมีสัญญาณเรื่องการยกเลิก QE หรือไม่ (แต่ดูจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา รวมถึงท่าทีของ ECB เอง ไม่น่าจะยกเลิกได้ EUR คงไม่มีปัจจัยให้รีบาวด์ในภาพรวม)
--------------------------
4. Chinese Manufacturing PMI
วันพฤหัส The China Federation of Logistics and Purchasing is to release data on May manufacturing sector activity คาดกันว่าน่าจะทรงตัว
วันศุกร์ Caixin manufacturing index คาดกันว่าน่าจะชลอตัวลง
--------------------------
5. Bank of Canada Rate Decision
วันพุธ Bank of Canada (BOC) Rate Statement คาดกันว่าน่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย หลังจากปี 2017 ขึ้นมา 3 รอบ ปี 2018 เงียบสนิท อย่างน้อยก็ปัจจัยความไม่แน่นอนจากการเจรจา NAFTA รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจไม่ปังเหมือนปีทีแล้ว ทาง BoC น่าจะเฝ้าดูต่อ
วันพฤหัส มี Canadian GDP figures
--------------------------
GBP พอมีขำๆ อาทิตย์นี้ แต่เห็นเเว๊บๆ ในบทวิเคราะห์ AUD ก็มีด้วย
จะปิดเดือนแระ ลากๆทุบๆ กันสะให้พอใจ เปิดมาจะได้ลุ้นกับการประชุม FOMC และ ECB ปลายๆเดือนดูเหมือนจะมี การประชุม Brexit ส่วนเรื่องน้ำมัน OPEC มีประชุม 22 มิถุนายน เห็นมีเทน้ำมันลาดถนน กันออกมาแล้วว่า การที่สหรัฐแวงชั่นเวแนซุเอล่า และ น่าจะเเซงชั่น อิหร่าน ทางโอเปค และ รัสเซียเห็นว่า น่าจะผลิตน้ำมันเพิ่ม มาทดแทนส่วนที่คาดว่าน่าจะหาย ซึ่งถ้าเป็นจริง จะได้เลิกบ่น ก่นด่า PTT เรื่องน้ำมันแพงเสียที ฮา.....
@@@@ มั่วซับไทย โดยถ้วยจบ @@@@
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 10:57:04 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 11:07:35 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 01:41:23 PM
ี 1. กำลังกลับมาในภาวะสงครามการค้ากันอีก รอบ
2. อียูที่ยังติดปัญหา การเมืองอิตาลี ที่ไม่สามารถหาทางออกได้ในตอนนี้ เพิ่มความเสี่ยงทางการเมืองเข้าไปอีก จน moody. แจ้งเรตอิตาลีในมุมแย่ ส่งผลต่อ ยูโรที่ชะล่อตัวอยู่
3. การประชุมที่ เซนปีเตอเบิก รัสเซีย ทั่วโลกต่างด่า อเมริกา แม้แต่ ไอเอ็มเอฟ ว่าเป็นตัวทำให้เสดกิจโลกชะล่อตัว
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 01:56:15 PM
ดีมาเลยข้อมูล
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 02:18:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 02:21:36 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 02:42:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ พฤษภาคม 28, 2018, 09:03:31 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 12:14:15 PM
Gdp. เมกา ที่มีแนวโน้ม ขึ้นค่อนข้างชัด เงินเฟ้อเยอรมัน ที่ไปทางชะล่อตัว นอนฟารม ที่ไม่น่าขึ้น เกิดคาดการณ์ เบื้องต้น มองว่า ทอง ลง มาก่อน
พรุ่งนี้ จะเจอ จีดีพี เอดีพี และ ดอกเบี้ย แคนนาดา ที่มีท่าทีในการคงดอกเบี้ย จะทำให้ ดอลล่า แข็งขึ้น ตอนนี้ แรงสะสม บายทองคำ นั้นมีสูง
วันนี้ ตารางไม่มีอะไร งั้นหมายความว่า นอกตาราง มีมา
อีเว้นใกล้ สุด มีสามเรื่อง
1. เกาหลีเหนือ การเตรียมการในวันที่ 12 ซึ่งออกข่าวเมื่อว่าน ในวันที่ตลาดปิด วนข่าวซ้ำด้วยนักวิเคราะ มีความเป็นไปได้
2. จีดีพี เมกา
3. การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่แคลิฟอเนียในวันที่ 5 ซึ่งทรัมยังไม่ออกมาพูดถึง
รอดู ท่าทีเฟด ว่ามองแบบโพเวลไหม ถ้ามอง นิ่งๆก่อน คือ อยากขึ้นดอก แต่ต้องปรับนโยบาย การเงิน em6.gif em6.gif em6.gif
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 12:25:45 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 01:07:48 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 02:10:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 07:38:12 PM
.
- 1. ทะเลสีแดงในยุโรปในฐานะตลาดความเสี่ยงของอิตาลี
วิกฤตทางการเมืองลึกในอิตาลีเจ็บใจเป็นวันที่สองของการขายอย่างหนักในตลาดการเงินยุโรปกับเงินยูโรตัดไป 6-1 / 2 เดือนต่ำ , หุ้นลงโทษและต้นทุนการท่าน้ยืมระยะสั้นเพิ่มขึ้นของรัฐบาลในกรุงโรม
ดัชนี FTSE MIBของอิตาลีร่วงลงสู่ระดับทั่วโลกโดยดัชนีร่วงลงประมาณ 3%
นักลงทุนยังหนีจากหนี้อิตาลีเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีสูงขึ้นถึง 172 จุดเป็น 2.42% นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535
- 2. ดาวน์ Dow ลดลง 200 คะแนน
หุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐชี้ให้เห็นว่าหุ้นโอเพ่นซอร์สร่วงลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากนักลงทุนกลับมาที่โต๊ะหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับการตรวจสอบความวุ่นวายทางการเมืองในอิตาลีในขณะที่รอข้อมูลใหม่และรายได้
เมื่อเวลา 5:50 น. ตามเวลาสหรัฐฟิวเจอร์ส Dow - Dow Jones ร่วงลง 200 จุดหรือ 0.8% ฟิวเจอร์ส S & P 500ลดลง 21 จุดหรือเกือบ 0.8% ขณะที่Nasdaq 100 Futures ปรับตัวลดลง 47 จุดหรือประมาณ 0.7%
- 3. ระดมทุนการชุมนุมท่ามกลางความเสี่ยง
ในอีกสัญญาณหนึ่งว่านักลงทุนกำลังเดินหน้าไปสู่การเดิมพันปลอดภัยมากขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของดัชนีชี้วัดลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 2.799% โดยล่าสุดยืนอยู่ที่ประมาณ 2.85% ลดลง 8.6 จุดพื้นฐาน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรตั๋วเงินคลังอายุ 30 ปีอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 3.02%
ราคาหุ้นท่าน้หลักในยุโรปปรับตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่มีความเสี่ยงจากตลาดทั่วโลก
ดัชนีหักเหของเยอรมนีในรอบ 10 ปีลดลง 6.0% เหลือ 0.27% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 5 ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
- 4. ดอลลาร์กระโดดไปใกล้ 7 เดือน Highs
การขาดดุลยภาพของความเสี่ยงส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นโดยยกดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทั่วโลก 6 แห่งแตะที่ 94.91 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน
- 5. ราคาน้ำมันอยู่ภายใต้ความกดดัน
ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญกับระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ท่ามกลางความคาดหวังว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะสูบน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณการจัดหาที่อาจเกิดขึ้น
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 20 เซนต์หรือ 0.3% อยู่ที่ 75.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมที่ระดับ 74.53 เหรียญฯ ขึ้นไปในช่วงที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดิบ WTI WTI ของ West Texas Texasลดลง 1.36 เหรียญหรือ 2% ปิดที่ 66.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งอยู่ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน
.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 08:16:05 PM
ช่วงนี้เหนี่ยมาก
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ พฤษภาคม 29, 2018, 08:41:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 30, 2018, 12:25:40 PM
#สำนักถ้วยจบ#
Today
07.00 Bank of Japan Governor Kuroda Speaks
08.10 Reserve Bank of New Zealand Governor Orr Speaks
08.30 Australia Building Approvals
15.00 Germany Unemployment Change
19.15 U.S. ADP Nonfarm Employment Change
19.30 U.S. Gross Domestic Product (GDP)
21.00 Canada Interest Rate Decision
21.45 Swiss National Bank Chairman Thomas Jordan speaks
01.00 Beige Book
03.30 U.S. API Weekly Crude Oil Stock
06.01 U.K. GfK Consumer Confidence
น่าจะมันส์ โดยเฉพาะช่วงเวลาค่ำๆ ไล่ไปจนเที่ยงคืน GDP, Labor Market Data, Beige Book in Focus and API Data Eyed ตะลุ่งตุ้งแช่
Wall Street falls on Italy worries; bank shares drop
อิตาลี่มันจะอะไรกันนักหนา ลามมาถึงตลาดไอติมแระ หลังเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม เริ่มเลียนแบบเยอรมัน จน ณ บัดนี้ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้
เอาเป็นว่านักลงทุนกังวลแระกัน
----------------------------
Forex - Dollar Rides Euro Woes to Fresh 6-Month Highs
ดอลลาร์ฉุดไม่อยู่ แถมวันนี้มีตัวเล่นขำๆ ช่วงค่ำๆ เช่น ADP Nonfarm กับ GDP และข้ามไปหลังเที่ยงคืนกับ Beige Book ซึ่งสองเดือนหลังนี้ สวิงอร่อยมาก คาดว่าคืนนี้รสชาติน่าจะอร่อยเหมือนเดิม
EUR ยังมาคุกับ การเมืองในอิตาลี่ รวมถึง ดราม่าการเมืองในสเปน น่าจะยังคงถล่ม EUR ต่อไป
GBP วันนี้ พรุ่งนี้มีตัวเลขขำๆ ใหลตาม EUR เมื่อวานเดาว่าน่าจะยังจับมือหันใหลอยู่
JPY NZP เช้านี้มีลุ้นกับ ลุงคุ ลุงออร์ น่าจะอร่อยมั้ง
CAD น้องแมวเหมียวค่ำๆ กับกรประชุม BoC ถึงแม้ว่าคาดกันว่าน่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่คาดว่านักผจญดอยรอลุ้นมุมมองจาก BoC มากกว่า ล่าสุดเห็นว่าหยอดว่า NAFTA ไม่น่ากังวล น่าจะจบสวย
-----------------------------
Crude Oil Prices Settle Nearly 2% Lower as Traders Fret Rise in OPEC Output
ยังเรื่องเดิมๆ แต่ช่วยลดกระแสถล่ม PTT ได้เยอะพอควร รอลุ้นพรุ่งนี้กับกตัวเลขสต็อกน้ำมัน
-----------------------------
Gold Prices Gain Amid Italian Turmoil
อิตาลี่กับสเปนช่วยหนุนทอง แต่ดอลลาร์ก็เเข็งมาก ก็น่าเสียวๆอยู่ ทองมาได้เพราะกระแสความกังวล ถ้าวันใหนเลิกกังวล และ ดอลลาร์แข็งขนาด สงสัยท้องร่วง
-----------------------------
ตลาดผัก Descending Triangle หรือเปล่าก่ะ ถ้าใช่ ทรงแบบนี้ คือ..... ฮา
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 30, 2018, 04:45:30 PM
(2 stars)นักวิเคราะห์จาก Julius Baer กล่าวว่า แม้ทองคำจะมีแรงหนุนจากภาวะความวุ่นวายทางการเมือง แต่วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ย รวมไปถึงการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ก็ดูจะเข้ากดดันทองคำเช่นกัน จึงมีโอกาสเห็นราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบระยะสั้นๆ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 30, 2018, 06:44:45 PM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 31, 2018, 12:10:04 PM
ทางจีนได้ เปิดตัว shfe หรือ ตลาดซื้อขายล้วงหน้า....เอาให้ง่ายดว่านั้น เริ่มตลาดซื้อราคาทองคำแท่งล้วนหน้าในวันนี้
หากได้อ่านเคยลงไว้ ที่ผ่านๆ
1.อินเดีย เดิยนโยบาย เร่งราคาสินค้าเกษตร และ สินค้าเกษตรของ อินเดียวนั้นไป ประเทศมหาอำนาจมานอน อยู่ในต้นทุนร้านอาหารใน นิวยอค การเพิ่มราคาสิ้นค้าเกษตรเป็นผลโดยตรงต่อ อัตราเงินเฟ้อ
2. จีนสะสมทองรวมกับ รัสเซีย และเปิดนโยบายธนาคาร AiiBเพื่อปล่อยท่าน้ในนานาชาติที่โครงการเส้นทางสายไหม 2018 แล่นผ่าน ทองคำเป็นประกันความเสี่ยง
3. การตื่นตัวในจีนด้ายเทคโนโลยี เพิ่มการใช่งาน มือถือ ระดับ ร้อยล้านเครื่อง
4.การที่อียู เริ่ม ฟื้นการสถานการณ์ การเมืองอิตาลี และ ตัวเลขทางเสดกิจที่ คงที่ไม่แย่ลงต่ำกว่าที่ทางธนาคารกลางนั้นคาดการณ์ และมีโอกาส สูงที่จะมีการปรับนโยบายในสิงหา
5. ตัวเลข และสถานการณ์ในญี่ปุ่นที่กำลังผ่านความเสี่ยงในคาบสมุทรเกาหลี ตัวเลขเสดกิจของญี่ปุ่นถือว่าแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
6. ทาง โบรคjp morgan golbmansche ทำการสต้อคทองคำเพิ่มขึ้น ล่าสุดทาง
Louis Oganesชี้ว่า ทอง ไป1700 จะเป็นเรื่อง ปกติ ที่จะเกิดขึ้น ในปีหน้า ช่วงเดือน5
7. สถานการณ์ ปัจจุบัน สถาบันการเงิน และ ธนาคารกลางทำการเก็บ ทองคำในช่วงราคา ปัจจุบันเป็นเวลา สามสัปดาที่ผ่านมา เพราะปัจจัย ที่เสดกิจโลกนั้นผูกติดไปกับอเมริกามาช้านาน และสถานการปัจจุบันของเมกา เข้าไปในเขตเริ่มอันตรายแล้ว ธนาคารกลางเมกา นายโพเวลออกมากล่าวถึงการปรับนโยบายการ และเอาดอดแฟรงมาใช้ เป็นสัญาณที่มองว่าการเงินของเมกาไม่ดีเท่าที่ควร
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 31, 2018, 02:09:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ พฤษภาคม 31, 2018, 05:37:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 31, 2018, 07:17:59 PM
นักกลยุทธ์หลายคนกล่าวว่า มีโอกาสน้อยที่เศรษฐกิจอันดับสามของยูโรโซน จะออกจากเงินสกุลเดียวซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาไปทั่วทวีป แต่ความวุ่นวายภายในประเทศและการเลือกตั้งใหม่ อาจทำให้ฤดูร้อนปี้นี้เป็นฤดูร้อนที่ทุกข์มากสำหรับตลาดและอาจถึงขนาดกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในยุโรปได้
อิตาลีได้กลายเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดความกังวลแก่หลาย ๆ ตลาดหลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ได้เกิดดราม่าทางการเมือง เมื่อประธานาธิบดีเซอร์กิโอ แมตทาเรลลา ได้ขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลที่จะต้องต่อต้านเงินยูโรอย่างแน่นอน
พรรคไฟว์-สตาร์ มูฟเมนต์ ซึ่งเป็นพรรคใหญ่สุดของอิตาลีแต่เป็นพรรคที่มีนโยบายต่อต้านสถาบัน และพรรคลีก ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ได้เลือก เปาโล ซาโวนา ซึ่งเป็นผู้ที่วิจารณ์เงินยูโร ขึ้นเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ทั้งสองพรรคนี้ได้โจมตีเงินสกุลเดียวของยุโรป แต่ได้ชนะเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อเดือนมีนาคมมากกว่าครึ่ง ประธานาธิบดีแมตทาเรลลาใช้สิทธิ์ยับยั้งและขอให้ คาร์โล คอตทาเรลลี อดีตเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟ ตั้งรัฐบาลชั่วคราว แต่ทั้งสองพรรคปฏิเสธไม่ยอมรับคอตทาเรลลี ในขณะนี้จึงมีการคาดการณ์ว่า อิตาลีจะลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ในปลายเดือนกรกฎาคม
เงินยูโรอ่อนตัวลง 0.7% เมื่อวันอังคาร และอยู่ที่ประมาณ 1.1540 ดอลลาร์ และนักลงทุนยังได้เทขายพันธบัตรอิตาลีในขณะเดียวกันก็มองหาความปลอดภัยในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและพันธบัตรเยอรมนี ผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีที่มีอายุไถ่ถอน 2 ปี จึงพุ่งสูงกว่า 2.73% เป็นช่วงสั้น ๆ และเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงจากที่อยู่ในระดับ 0.48% เมื่อวันศุกร์เท่านั้น และจากที่ติดลบเมื่อต้นเดือนนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหนักในวันอังคาร ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งกว่า 450 จุด โดยมีแรงเทขายหุ้นธนาคารและภาคการเงินของดัชนีเอสแอนด์พี ปรับตัวลงมากว่า 3% ส่วนในยุโรป ผลตอบแทนตราสารหนี้ของธนาคารอิตาลี พุ่งแรงเมื่อมีแรงเทขายหุ้นธนาคาร
คริสต์ รัพคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงินของเอ็มยูเอฟจี ยูเนียน แบงก์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ทำให้เกิดความกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับการเติบโตในยุโรป นี่จึงอาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายในกรณีของแนวโน้มสำหรับยุโรป และมันจะลุกลามไปยังสหรัฐฯ ดังนั้นจึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
รัพคีย์ยังบอกด้วยว่า ตลาดกำลังมีปฏิกิริยาต่อข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นวันหยุด 3 วันในสหรัฐฯ ดังนั้นการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในวันพุธอาจจะไม่วุ่นวาย เนื่องจากมันยังไม่ใช่วิกฤติหนี้รัฐบาลยุโรปอย่างเต็มตัว และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลี อยู่ที่ 3% กว่า ๆ เล็กน้อย ซึ่งไม่ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อปี 2555 ที่สูงถึง 8%
เทรดเดอร์ในอเมริกาจำนวนมากหวังว่ายุโรปจะยับยั้งการลงประชามติย่อยที่จะชี้ว่าเงินยูโรจะอยู่รอดหรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็จะยืดเยื้อเป็นเวลานานซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการซื้อขาย
เทรดเดอร์ส่วนหนึ่งมองว่า วิกฤติการเมืองในอิตาลีเป็นเดจาวูของวิกฤติหนี้กรีซ ซึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่ได้กระพือให้เกิดความวิตกว่าโครงสร้างเศรษฐกิจและการเงินโดยรวมของยูโรโซน อาจล้มลง
มาร์ก แชนเดิลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยน ของบราวน์ บราเธอร์ แฮร์ริแมน กล่าวว่า ความวุ่นวายในยุโรปกำลังผลักให้อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯลดลง ดังนั้นเงินกำลังหนีออกจากยุโรปและไหลไปยังสหรัฐฯ ซึ่งทำให้คนคิดว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและการแข็งค่าของดอลลาร์ อาจทำให้เฟดทบทวนนโยบาย นอกจากนี้มันยังเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงเพราะอเมริกาเป็นคู่ค้าใหญ่ของยุโรป
ธนาคารกลางสหรัฐกำลังจะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองของปีนี้เมื่อมีการประชุมในวันที่ 13 มิถุนายน เฟดได้คาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ แต่ตลาดได้คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นเพิ่มอีกครั้งในเดือนกันยายน นอกเหนือจากเดือนธันวาคม
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวมากที่สุดต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ได้ลดลงเหลือ 2.38% หลังจากที่แตะ 2.60% เมื่อเร็ว ๆ นี้ ส่วนผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ลดลงเหลือ 2.82% จาก 3.12% เมื่อเจ็ดสัปดาห์ก่อนนี้เท่านั้น
แชนเดิลเลอร์ไม่คาดว่ารัฐบาลใหม่อิตาลีจะผลักดันให้อิตาลีออกจากเงินยูโร แม้อาจขู่ว่ามีมาตรการอื่น ๆ อิตาลีเป็นลูกหนี้ใหญ่สุดในยูโรโซน โดยมีหนี้ 2.3 ล้านล้านยูโร หรือ 132% ของจีดีพีปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าหนี้เยอรมนีสองเท่า และสูงกว่า 87% ของยูโรโซน รัฐบาลผสมชุดต่อไปของอิตาลีอาจมีข้อเสนอที่ท้าทายระเบียบของอียู แต่จะไม่ออกจากอียูโดยทันที ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดให้ระบบ แต่โอกาสที่อิตาลีจะออกจากเงินยูโรมีน้อยมาก
สเปนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สร้างความกังวลให้แก่ตลาด เนื่องจากจะมีการลงมติไว้วางใจในปลายสัปดาห์นี้ต่อคณะบริหารของนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวทางการเงินในการหาเสียง ซึ่งอาจบีบให้สเปนต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งที่สเปนมีความแตกแยกอย่างรุนแรงอยู่แล้วเกี่ยวกับแคว้นกาตาลุญญาที่ต้องการแยกตัวออกไป
แชนเดลเลอร์ กล่าวว่า ผลลัพธ์ในอิตาลียากที่จะเห็นผลลัพธ์ที่เป็นมิตรกับการลงทุน ซึ่งสเปนน่าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นมิตรกับนักลงทุนได้ง่ายกว่า หากอิตาลีต้องเลือกตั้งใหม่ ผลที่อาจจะเกิดขึ้นคือ อดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ อาจได้บริหารประเทศอีกครั้งเนื่องจากศาลได้ตัดสินว่าอดีตนายกรัฐมนตรีสามสมัย อาจลงสมัครเลือกตั้งได้อีกครั้งหลังจากที่ถูกห้ามเพราะฉ้อโกงภาษีมานานกว่า 5 ปี และแบร์ลุสโคนี่ เป็นผู้ที่ได้สนับสนุนให้มีเงิน “คู่ขนาน” กับเงินยูโร
ยังไม่มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อความวุ่นวายในอิตาลี และนักกลยุทธ์บางคนกล่าวว่า มาริโอ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางยุโรปจะต้องคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแน่นอนเมื่อมีความจำเป็น มีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะประกาศในเดือนกันยายนว่าจะพักการซื้อสินทรัพย์ไว้ชั่วคราวแต่หากปัญหาอิตาลีลุกลามเข้าสู่เศรษฐกิจในวงกว้าง ก็อาจไม่แน่ว่าจะทำเช่นนั้น
เทรดเดอร์บางคนมองสถานการณ์ในอิตาลีว่าเพียงพอที่จะยกธงแดงให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อังกฤษลงประชามติที่จะออกจากอียูจนทำให้ตลาดปรับฐาน แต่แชนเดิลเลอร์กล่าวว่า ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า เมื่อคำนึงถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่จะออกมาในสัปดาห์นี้
โรเบิร์ต ซินเช หัวหน้านักกลยุทธ์ทั่วโลกของแอมเฮิร์ส เพียร์พอนต์ก็มองว่าความเสียหายจากสถานการณ์ในอิตาลีไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
“ผมคิดว่าจะมีความวุ่นวายมาก แต่เราได้เคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อนสามหรือสี่ครั้ง อิตาลียังอยู่ในยูโรโซนและชีวิตดำเนินต่อไป โดยอาจมีความไม่แน่นอนอีกเล็กน้อยในช่วงฤดูร้อน พวกเขาได้ตระหนักในเรื่องนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเลื่อนการเลือกตั้งไปปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม” ซินเช กล่าว
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม
- Here's why markets are so scared of the latest Italian political drama
https://www.cnbc.com/2018/05/29/heres-why-markets-are-so-scared-of-the-latest-italian-political-drama.html
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 31, 2018, 08:07:40 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 01, 2018, 08:34:33 AM
ตัวละคร ที่จะมีบทบาทคือ ไอเอ็มเอฟ ว่าจะ พูดประเด็นไหน ระหว่าง สงครามการค้า กับ การเจรจาเกาหลีเหนือ ท่าที เฟดคอนนี้ คือ ขึ้น แม้อาจจะไม่มีผลต่อราคาทองคำ มากนัก แต่ หากมองแบบกลยุทธ.....หากนะๆ จะ ออกมาย้ำว่าขึ้น สิ่งที่ทรัมทำ เพื่อ เก็บเงินเพื่อ มากลบหนี้ และ รั้งเสดกิจโลดใน ชะล่อตัวลง เพื่อให้นโยบายการตัดภาษีทำงานได้ นานขึ้น มิฉะนั้น เสดกิจเมกาจะเข้าขั้นวิกฤตไปแล้วในภาวะ เงินเข้าระบบเร็วเกิดไปหมุนไม่ทัน หมายความว่า ทุกอย่างที่ทำแค่ ชั่วคร่าว สุดท้าย อาจใช้เา สักปี สองปี เขาก็ต้องยกเลิก ซึ่งทางจีน ดูออก จึงออกมากล่าวว่า เขาเข้าใจและไม่แปลกใจหาก เมกาจะกีดกั้นทางการค้าแล้วเลิกกีดกั้น Cr. ท่าน set pig.gif pig.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 01, 2018, 09:28:37 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 01, 2018, 09:47:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 01, 2018, 01:19:47 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 01, 2018, 11:14:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 02, 2018, 10:39:02 PM
วานนี้ (1 มิ.ย.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าการประชุมสุดยอดระหว่างเขากับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะเกิดขึ้นตามแผนการเดิมในวันที่ 12 มิ.ย. ณ ประเทศสิงคโปร์ หลังจากเขาได้หารือพิเศษกับทูตระดับสูงจากกรุงเปียงยาง
ทรัมป์ยอมรับว่าประเด็นเกาหลีเหนือยังอยู่ในกระบวนการ ซึ่งเขาเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวจะ “ประสบผลสำเร็จ” ในท้ายที่สุด พร้อมเสริมว่าจดหมายจากคิม จองอึน ที่ส่งถึงเขาผ่านคิม ยองชอล นั้น “ดีมาก” และ “น่าสนใจมาก” แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
การยืนยันของทรัมป์ว่าการประชุมครั้งสำคัญกับคิมจะเป็นจริงเกิดขึ้นหลังทรัมป์สั่งยกเลิกมันอย่างไม่มีใครคาดคิดเมื่อราวสัปดาห์ก่อน แต่สถานการณ์ก็พลิกกลับอีกครั้งหลังมีการดำเนินภารกิจการทูตอย่างหนักหน่วงเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดดังกล่าว
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 03, 2018, 07:40:35 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 03, 2018, 09:12:22 PM
จีนโต้ตอบการค้ากับเมกา หากยังดึงดันจะเดินหน้านโยบายการค้าแบบนี้มุมมอง ทอง ไปใน ทางสวิงกว้าง และเป็น ขาลง ต่อไป
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2018, 05:14:11 AM
ประเด็นสำคัญ คือ ทาง สมาชิก อียูจะแสดงท่าทีออกมาเช่นไร
หากออกมา ขัดใจอิตาลี เพราะรู้ทั้งรู้ว่า อิตาลีใกล้ถังแตกแบบ กรีก แล้วยังจะให้ แบก ผู้อพยพกว่า 700 000 คน อีก จะส่งผลให้ อียู สั่นคลอนทันที หมายความว่า ยูโรจะเกิดการเทขายได้
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 04, 2018, 06:48:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 04, 2018, 10:49:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ มิถุนายน 04, 2018, 10:54:56 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 04, 2018, 11:41:35 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 06, 2018, 03:02:03 PM
สมดุลการค้า ที่กำลังจะออกมีโอกาส เพิ่มสูงขึ้น แล้วจะเรียก นักลงทุนรายย่อย เข้าดอลล่า ให้ระวัง em2.gif em2.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 06, 2018, 08:08:46 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 06, 2018, 08:39:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2018, 11:20:08 AM
1. ระเบิดซีเรีย วัดอำนาจ เกาหลีเหนือ
2. บีบด้วยกองกำลังทหาร
3.ยอม เจรจาในที่สุด
ได้ ขั้นตอนการเจรจามา นี้ สำคัญมาก ตามคาด กระแส เกาหลีเหนือ มาละ พรุ่งนี้ จะเป็นบทบาท ของ ชินโสะ กับ ทรัม ในการเจรจา เรื่อง อำนาจและความสัมพัน ระหว่าว ญี่ปุ่น และเมกา ในเรื่องเกาหลีเหนือ ญี่ปุ่นต้องการให้ กองทัพเมกาใน โอกินาว่า. และ ฮอนชู ยังอยู่
และสนับสนุน อเมริกาใยด้านการเจรจา....บงบอกถึงสัญญาญสันติภาพที่ชัดเจน
เมกา ต้องการอำนาจ และผลลัพในการเจรจา ที่พยายาม กดดัน ตามกลยุทธการเจรจาของทรัม
เมกา กดดัน บีบบังคับ ญี่ปุ่น เพื่อให้ยอมต่อเมกา และจึงจะ
้ ยอมเจรจาการค้า ด้วย ตอนนี้ อยู่ในขั้นตอนการบีบบังคับ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายในญี่ปุ่น ตามขั้นตอนการเจรจาของทรัม
ข้อมูล ผมให้ ทริคลักไก่
เวลาการออกข่าวนี้สำคัญ เกิดจากการตั้งสมมุติฐานว่า
ข้อมูลที่เป็นเรื่องใหญ่ ทั่วโลกต้องรู้เบื้องต้น ส่วนรายละเอียดค่อยตามมา คนเราตัดสินทุกอย่างในชีวิต ผ่านอารมเป็นหลัก เป็นกฎธรรมชาติ
เพราะฉะนั้น หากเรารู้ว่า ข้อมูลในตลาดเอเชีย ซึ่งเปิดก่อน ยุโรปและอังกริด เราก็ได้เปรียบกว่า เจ้าที่ต้องรอ ข้อมูลจากสำนักข่าว เลยได้ ทดลอง ดู ราวๆปีนึ่ง ด้วยการรวมข้อมูลในตลาดเช้า เพื่อมาลงในตลาดบ่าย
แล้ว ข้อมูล หลังตลาดเมกาปิดไปแล้ว มาใช้ในตลาดเมกาเปิด ผล คือ เทรดไม่ยากอย่างที่คิด มีผิดพลาดบ้าง แต่อยู่ในเกณที่รับได้ วลาช่วงเช้า
9.30~10.30 ราวๆ นี้
11.30~12.30....ช่วงนี้ ข้อมูลจะรวบมาจากช่วงเช้า จับประเด็นให้ถูก
13.30~14.30
18.30~~
22.30
00.00~01.30
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ มิถุนายน 07, 2018, 01:54:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 07, 2018, 02:19:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 07, 2018, 09:46:36 PM
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตามข้อตกลงดังกล่าว ZTE จะต้องจ่ายค่าปรับ 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับวางเงินมัดจำจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินดังกล่าวจะถูกริบ หากพบว่าบริษัทได้กระทำความผิดอีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน สหรัฐจะส่งเจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งเข้าประจำอยู่ในบริษัท เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของ ZTE
นอกจากนี้ ZTE ยังต้องทำการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัทภายในเวลา 30 วัน
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้สั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับ ZTE เนื่องจาก ZTE ได้ส่งออกสินค้าไปยังอิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ การที่สหรัฐออกมาตรการลงโทษ ZTE ในเดือนเม.ย.นั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อ ZTE เนื่องจากบริษัทสหรัฐได้จัดหาชิ้นส่วนต่างๆซึ่งใช้ในการผลิตอุปกรณ์ของ ZTE ในสัดส่วนราว 20-30% ของอุปกรณ์ทั้งหมดของ ZTE ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน และชิ้นส่วนที่ใช้ในการสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้ ZTE เลื่อนการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 โดยระบุว่าทางบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการประเมินผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับทางบริษัท
Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.cnbc.com/2018/06/07/commerce-secretary-wilbur-ross-the-us-strikes-a-deal-with-zte.html
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 08, 2018, 11:10:03 AM
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าววันนี้ว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก หดตัวลงร้อยละ 0.2 ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเบื้องต้น ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้เป็นการหยุดสถิติเศรษฐกิจที่ขยายตัวติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ไม่เคยเกิดดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นรุ่งเรืองอย่างที่สุดในยุคทศวรรษหลังปี 1980 นอกจากนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวยังถือเป็นความถดถอยของนโยบายเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่เรียกว่า “อาเบะโนมิกส์” อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดหมายว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดแรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นและความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงดีอย่างต่อเนื่อง
Source: ำนักข่าวไทย
https://www.cnbc.com/2018/06/07/japans-economy-contracted-as-expected-in-the-first-quarter.html
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 08, 2018, 11:10:29 AM
Today
07.00 Japan Gross Domestic Product (GDP)
13.00 Germany Industrial Production
15.30 U.K. Industrial Production and
U.K. Manufacturing Production
19.30 Canada Employment Change
00.00 U.S. Baker Hughes Oil Rig Count
S&P, Nasdaq drop as tech rally ends
คาดกันว่านักผจญดอยจะเข้าโหมดจำศีล เนื่องจากวันนี้ลุงโด้ ป๊ะกับG7 เรื่อง Trade War และ อาทิตย์หน้า มีทั้งประชุมเเบงค๋ชาติ US และ EU
เปิดฟังค์ชั่น ปลอดภัยใว้ก่อน ฮา....
----------------
Forex - Dollar Poised to Snap Three Week Winning Streak as Euro Rises
ก่อนหน้านี้ หลายๆสำนักเริ่มสงสัยว่าดอลลาร์จะหมดแรง ไม่รู้ว่าเผาจริง หรือ เปาหลอก ลากกันมาเรื่องเฟดขึ้นขึ้นดอกเบี้ย พออาทิตย์หน้าจะประชุมเฟด แผ่วไปสะงั้น มวยล้มต้มคนดูยังไงพิกล
EUR หลังจากค่าการคาดหวังเรื่อง หยุด QE ห่างหายไป 2-3 เดือน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจชลอตัวลง และก็ยังไม่ดีขึ้น อยู่ๆทาง ECB ออกมาให้ข่าวว่า การประชุมวันพฤหัสจะมีการพิจารณาเรื่อง ยกเลิก QE เท่านั้นเอง กระแสย้ายจาก Dollar มา EUR ทันที่ อาทิตย์หนี้น่าจะจบลงบน EUR
GBP สนุกจริง อยู่ดีๆ เรื่อง Brexit ก็กลับมาสะงั้น ตรงแนวต้านพอดี ก็นะมีข่าวลือทันทีว่า ลุง เดวิท เดวิส รัฐมนตรี Brexit จะลาออก (เหมือนว่าก่อนหน้าโน่นก็มีข่าวลือมา รอบหนึงเเล้ว) นักผจญดอยเทคกำไรกันทันทีตรงเเนวต้าน วันนี้ Medium Day กับ GBP กับตัวลขเศรษฐกิจ น่าไรก็ตาม น่าจะปลายเดือน น่าจะมีการประชุม Brexit กับ EU อีกรอบ อาจเป็นปัจจัยลบ ก็ได้
แต่ก็น่าวันนี้ลุ้นปัจจัยบวกก่อน
CAD น้องแมวเหมียว วันนี้ Big Day กับตัวเลขจ้างงาน ซึ่งคาดการกันว่าน่าจะออกมาดี และ รอกระแสลุ้นเรื่องขึ้นดอกเบี้ย เบื้องต้นลุ้นกันว่าน้องแมวเหมียวจะแข็ง
ภัยพิบัติปิดอาทิตย์ ลุงโด้ พบ G7 ค่าเงินที่จะกระทบตรงๆ มี EUR CAD และ MXN ผลประชุมออกเมื่อไหร่ คิดว่าไม่นรก ก็ สวรรค์ ความเสี่ยงสูง
-------------------------------
Crude Oil Prices Settle Higher as Fears OPEC Set to Raise Output Ease
อ้าวเลิกกลัว เลิกกังวลสะงั้น ยังไม่ได้เติมน้ำมันถูกเลย มีข่าวออกมาว่าตัวเลขส่งออกจาก Venezuela ลดลง สงสัยต้องรีบไปเติมก่อนแระ
-------------------------------
Gold Prices Inch Higher Amid Weaker Dollar
ถ้าดอลลาร์จบรอบจริง ทองก็อาจจะเริ่มรอบใหม่ รอกระแส ลุงโด้ แอนด์ G7 ว่าจะสนับสนุนหรือไม่ ส่วนปัจจัยลบ ก็มีเรื่องการประชุม US + EU อาทิตย์หน้า
-------------------------------
ตลาดผัก ปลายๆอาทิตย์เทคกำไรมั้ง รอบๆโลกมีความไม่น่าใว้วางใจสูง รอลุ้นหลายเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ มิถุนายน 08, 2018, 11:51:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ มิถุนายน 08, 2018, 01:44:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 08, 2018, 09:36:36 PM
.
- 1. G7 ความตึงเครียดทางการค้าอย่างต่อเนื่อง
ผู้เข้าร่วมตลาดจะมุ่งเน้นไปที่การประชุมสุดยอด G7 ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในควิเบกภายใต้ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับสหรัฐจากกลุ่มพันธมิตร 7 ประเทศ
ฝรั่งเศสและเยอรมนีเตือนสหรัฐว่าพวกเขาจะไม่ลงนามในแถลงการณ์ร่วมโดยไม่มีข้ออ้าง แต่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจชั้นนำของสหรัฐฯ Larry Kudlow เตือนในสัปดาห์นี้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์
- 2. ตลาดหุ้นทั่วโลกลดความกังวลด้านการค้า
ฟิวเจอร์สสหรัฐชี้ให้เห็นถึงการเปิดตลาดวอลล์สตรีทที่ลดลงเนื่องจากนักลงทุนหันมาระมัดระวังในเรื่องของความตึงเครียดทางการค้าในการประชุมสุดยอด G7 เมื่อเวลา 5:53 น. ตามเวลายุโรป (9: 53GMT) สัญญา futures ของหุ้นบลูชิพฟิวเจอร์สร่วงลง 162 จุดหรือ 0.64% หุ้นS & P 500ขาดทุน 17 คะแนนหรือ 0.60% ขณะที่สัญญาฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 ปรับตัวลดลง 75 จุดหรือ 1.05%
ตลาดหุ้นยุโรปต่างสะท้อนความเสี่ยงจากความเสี่ยงลดลงในช่วงกลางวัน เมื่อเวลา 5.40 น. ตามเวลา ETE (9: 54GMT) ยูโร Stoxx 50 ยูโรปรับตัวลง 0.9%, Daxของเยอรมนีลดลง 1.1% ขณะที่ดัชนี FTSE 100ของลอนดอนร่วงลง 0.8%
ก่อนหน้านี้หุ้นเอเชียปรับตัวลดลง 0.5% ในขณะที่ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ของจีนร่วงลง 1.4%
- 3. ดอลลาร์อ่อนตัวลง 4 วัน
ในช่วงที่ไม่มีรายงานทางเศรษฐกิจที่สำคัญเงินดอลลาร์กระดอนในวันศุกร์ย้ายขึ้นหลังจากที่สี่ช่วงต่อเนื่องในสีแดง เมื่อเวลา 5:55 น. ตามเวลา ETE (9: 55GMT) ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งวัดความเข้มแข็งของดอลลาร์ต่อตะกร้าหกสกุลเงินหลักที่ทำรายได้ทางการค้าเพิ่มขึ้น 0.19% ที่ 93.61 จุด
- 4. หัวน้ำมันลดลงด้วยสายตาในการผลิตของสหรัฐฯ
การผ่อนชำระรายสัปดาห์ของกิจกรรมการขุดเจาะจาก Baker Hughes ในวันศุกร์นี้จะช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อการผลิตและความต้องการของสหรัฐในขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐลดลง 0.39% มาที่ 65.69 เหรียญที่ 5:56 ตามเวลา ET (9: 56GMT) ขณะที่น้ำมัน Brent ปรับตัวขึ้น 0.53% มาอยู่ที่ 76.91 เหรียญ
- 5. การขาดดุลการค้าสหรัฐฯ - จีนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 24.6 พันล้านดอลลาร์
จีนยังมีอัตราการเติบโตของการส่งออกที่แข็งแกร่ง 12.6% ในเดือนพฤษภาคมซึ่งช้ากว่าเดือนเมษายนเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นข่าวดีสำหรับผู้กำหนดนโยบายของปักกิ่งในขณะที่พวกเขาจัดการกับการเจรจาทางการค้าที่รุนแรงกับวอชิงตัน
.
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 10, 2018, 03:34:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: kubeever ที่ มิถุนายน 10, 2018, 05:34:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 10, 2018, 05:39:28 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 10, 2018, 05:53:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 10, 2018, 06:40:21 PM
10-15. นี้ ผมไปเที่ยวจีนครับ ค่อยเอาภาพมาฝากนะครับ Cat.gifแม่เจ้า เทรดได้กำไรไม่นาน ได้ไปเทียวจีนแล้ว ขอสาวจีนขาว ๆ สักคนนะท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 10, 2018, 08:17:46 PM
ขาวๆมีขนด้วยเอาไหมที่ขอบตามันดำๆ ไหมครับ AT9.gif em9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 11, 2018, 10:32:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2018, 10:44:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 13, 2018, 06:27:15 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 13, 2018, 07:18:25 AM
เหมือนจะไม่ค่อยหนาวเลยนะครับท่าน อย่าลืมของฝากด้วยนะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 13, 2018, 05:42:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 13, 2018, 06:03:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 13, 2018, 09:09:30 PM
หล่อแบบใต้ ๆ เลยนะครับเข้มจริง ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 14, 2018, 01:22:39 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 15, 2018, 03:06:29 PM
หากอ้างอิ้งจาก การประชุมล่าสุดกัลชินโสะอาเบะ นั่น คือ ทุกอย่างคงเดิม เพื่อดูสถานการณ์ ....ตอนนี้. ดอกเบี้ยเมกา ปรับตัวขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินเยนถ้าคงนโยบายเดิม .....
ไอเอ็มเอฟ อกมาตอนนี้ ต่อว่าเรื่องการกีดกั้นทางการค้าของเมกา นั้นต่อต้าน เสดกิจโลก ราคาทองลงมาที่ 1301พอดิบพอดี
ธนาคารญุ่ปุ่นออกมาตามที่เข้าใจ เป็นปกติ เดียว 14.30 คุโรดะ จะมาแถลวการด้วยการให้คำตอบว่าทำไม เกิดเหตุการชะล่อตัวเงินเฟ้อนั้รเกิดขึ้น ซึ่งจากที่เคยตามคุโรดะ ให้ความเห็นว่า การชะล่อตัวนั้นเป็นวงจรธุรกิจ และเป้าหมายระยะเวลาที่ธน่คารญี่ปุ่นจะทำการปลดนโยบายการเงินที่ใช้ในปัจจุบันยังคงเดิม 2019
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 15, 2018, 04:03:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 15, 2018, 04:34:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 15, 2018, 04:51:21 PM
เห็นในเฟสแล้ว ทำไมไม่จับใส่กระเป๋ากลับบ้านเลยละท่านที เป็นของฝากดีนักแล...
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 15, 2018, 06:43:09 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 15, 2018, 09:25:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 16, 2018, 12:26:24 PM
กรามจะสวิงแรงกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาแน่นอน โดยเฉพาะขณะที่จีนจะตอบโต้มาตรการการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของเมกา
โดยเฉพาะทองคำ อาจจะได้เห็น Swing ต่อวันอยู่ที่ 13-18 เหรียญ
ขา by ยังไม่แนะนำถ้าเข้าไปอาจจะ ต้องใช้ทุนพอสมควร
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 16, 2018, 12:48:20 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 17, 2018, 05:46:16 PM
.
- 1. ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
การกล่าวสุนทรพจน์ทางการค้าที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้นักลงทุนเข้าสู่ปลายนิ้วหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมพ์ประกาศลดอัตราภาษีศุลกากรมูลค่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระตุ้นให้กรุงปักกิ่งเตือนถึงการตอบสนองที่คล้ายกันเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศใหญ่ที่สุดในโลก
ทรัมพ์นำเสนอรายการสินค้านำเข้าที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์มากกว่า 800 ชิ้นจากประเทศจีนซึ่งจะต้องได้รับอัตราภาษี 25% ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคมเป็นต้นไปซึ่งรวมถึงรถยนต์รูปลักษณ์ใหม่ล่าสุดที่มีต่อการค้าโดยประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ได้ถกเถียงกันอยู่แล้วกับพันธมิตร
- 2. "ธนาคารกลาง"
ธนาคารกลางยุโรปครั้งที่ 5 (ECB) "Forum on Central Banking" มีกำหนดจะจัดขึ้นที่เมืองซินตราประเทศโปรตุเกสตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพุธ
จะมุ่งเน้นไปที่การกำหนดราคาและค่าจ้างในประเทศที่พัฒนาแล้ว
ในช่วงสามวันของการประชุมและการติดตั้งประมาณ 150 ผู้ว่าการธนาคารกลางนักวิชาการนักข่าวการเงินและผู้แทนตลาดการเงินในระดับสูงจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนโยบายปัจจุบันและอภิปรายหัวข้อที่เลือกจากมุมมองในระยะยาว
- 3. การประกาศนโยบายธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะมีนโยบายระงับเมื่อมีการประชุมกันในสัปดาห์นี้แม้ว่าส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่สัญญาณว่าอะไรคือความต้องการในการเดินป่าต่อไปในปี 2561
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นที่ 1200GMT (8:00 น. ET) ในวันพฤหัสบดีนี้โดยไม่มีการแถลงข่าวแม้ว่าBoE Mark Carneyจะเป็นผู้พูดในงานเลี้ยงอาหารค่ำประจำปีของนายธนาคารที่ Mansion House ในกรุงลอนดอนในเย็นวันนั้น
- 4. Flash Euro Zone PMIs
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMI ของกลุ่ม IHS Markit สำหรับยูโรโซนมีกำหนดเวลา 08.00GMT (4:00 น. ET) ในวันศุกร์ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 53.9ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบสองปี
ดัชนีนี้เป็นตัววัดผลลัพธ์รวมของทั้งภาคการผลิตและภาคบริการและถือเป็นแนวทางที่ดีสำหรับสุขภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม
ก่อนที่ PMI ในยูโรโซนฝรั่งเศสและเยอรมนีจะปล่อยรายงาน PMI ของตนเองที่ 0700GMT และ 0730GMT ตามลำดับ
- 5. การประชุมโอเปค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) รัสเซียและประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อื่น ๆ จะพบกันที่กรุงเวียนนาในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์เพื่อทบทวนข้อตกลงการผลิตในปัจจุบัน
นักวิเคราะห์ตลาดส่วนใหญ่คาดว่ากลุ่มผู้ค้าน้ำมันจะพิจารณาปรับเปลี่ยนข้อตกลงการผลิตที่มีการถือครองน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันจากตลาดในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
รัสเซียได้ผลักดันให้มีการส่งคืนล้านบาร์เรลต่อวันกลับเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามซาอุดีอาระเบียต้องการลดปริมาณการสั่งซื้อให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาลดลงมากนัก
.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 17, 2018, 06:15:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2018, 09:56:19 AM
แนวราคาควรเฝ้าระวัง 1284.50
แรงขายต่ำกว่า 1284.50 เป้าหมายต่อไปที่ 1275.00 และ 1269.00
จุดอ้างอิงทำกำไร รอเซล : 1284.50
จุดที่ต้องการ: ถ้าแรงขายต่ำกว่า 1284.50 เป้าหมายต่อไปที่ 1275.00 และ 1269.00
ทางเลือกการลงทุน: ถ้าแรงซื้อสูงกว่า 1284.50 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1290.00 และ 1293.50 เป็นเป้าหมาย
แนวรับและแนวต้าน:
1293.50 - 1262.50
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2018, 11:58:56 AM
แต่จีนทำสิ่งนึ่งที่ เมกาคิดไม่ทันแน่นอน จีนออเดอ สินค้าเมกา มากกว่าเดิมในกลุ่มพลังานจากถ่านหิน โดยบริษัทchina national petrolium corp ออเดอ 271ล้านตันต่อปี แต่จีนทำการเพิ่มภาษีนำเข้าถ่านหิน จีนไมลดการนำเข้าถั่วเหลือง่ แต่เพิ่มภาษีนำเข้ามากขึ้น
และตีกลุ่มกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กแปรรูป.....จำพวกรถ อย่างบีเอ็มบัดบิวที่มีโรงงานในเมกา และทุกแบรน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาหนักในเมกา เพราะ เมกาตั้งภา@าีเหล็กอลุมีเมียมจากจีน ทำให้ อุตสาหกรรมเหล๊็ก ขาดวัตถุดิบ em15.gif em15.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 18, 2018, 12:11:10 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 18, 2018, 01:19:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 18, 2018, 03:34:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 19, 2018, 04:06:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 19, 2018, 07:23:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 20, 2018, 12:23:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 20, 2018, 01:45:27 PM
Today
U.S. API Weekly Crude Oil Stock -3.016M 0.833M
07.00 Japan Monetary Policy Meeting Minutes
15.00 European Central Bank Lautenschlaeger Speaks
17.00 U.K. CBI Industrial Trends Orders
-------------------
20.30 U.S. Fed Chair Powell Speaks
Bank of Japan Governor Kuroda Speaks
European Central Bank President Draghi Speaks
-------------------
21.00 U.S. Existing Home Sales
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
05.45 New Zealand Gross Domestic Product (GDP)
Trade fears rattle Wall Street, Dow gives up 2018 gains
Trade fears slam stocks and commodities as investors eye safety
ช่วงหน้าหดหู่เกินคำบรรยาย เมื่อวานตลาดทั้งโลกพากันสะท้อนความกังวล หลังจากลุงโด้เต็มสตีมสงครามการค้ากับจีน
รอดูวันนี้ว่า ยังจะตกใจต่อ หรือ พอแล้ว
----------------------------------
US Dollar Price Action Setups After USD Sets Fresh 11-Month High after ECB
ดอลลาร์ไม่มีอะไรมากไปกว่าสินทรัพย์ระดับสวรรค์ (นักผจญดอยมองกันแบบนั้น) รวมถึงแรงส่งจาก FOMC และ ECB เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทำให้ดอลลาร๋ยังเป็นดางรุ่งพุ่งแรง
EUR/USD COULD BE SETTING A SHORT-TERM BEAR TRAP
หลังจากที่ราาเบรกโลว์ 1.1685-1.1736 และแนวๆนี้ ฝ่ายขายยังไม่ได้ทำอะไรชัดเจน คาดว่าน่าจะมี Pull Back บ้างเพื่อลงต่อ มี 2 ทางเลือก คือ
หลุด 1.1500 ก็จัดคาม
หรือ พูลเเบ๊กที่ 1.1685-1.1736 ค่อยจัด
GBP/USD BEAR FLAG BREAK AHEAD OF BOE
คงต้องรอลุ้น BoE วันพรุ่งนี้ ในส่วนของตังเลขเศรษฐิจถึงแม้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็คงไม่ปังพอที่จะทำให้ BoE มีการตัดสินใจอะไร ในเดือนสิงหาคม ช่วงต่อจากนี้ เรื่อง Brexit น่าจะมีผลกระทบและทำให้ GBP ผันผวนเสียมากกว่า
USD/JPY TESTS BACK-BELOW 110.00 AS RISK AVERSION PICKS UP
ดูเหือนว่าลุงโด้จะทำเยนแข็งค่าหลุด bullish channel แว้ว ดูเหมือนว่าทั้ง UJ และ GJ จะเคลื่อนที่ไปในแนวเดียวกัน
AUD/USD SMASHES BELOW SUPPORT
NZD/USD RETAINS RANGE POTENTIAL
GBP/JPY FOR CONTINUED RISK AVERSION
DOW NEARING KEY SUPPORT – CAN BUYERS HOLD THE LOW?
-----------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower as Rising Dollar, Output Hike Fears Weigh
เมื่อเช้าตัวเลขสต็อก API ก็ออกมาลดลง ไม่รู้ว่าจะมีรีบาวด์เล็กๆ หรือเปล่า
คืนนี้ลุ้นตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ
วันศุกร์ประชุม OPEC
---------------------------
Gold Prices Struggle to Find Footing as Dollar Rallies
ดูเหมือนว่าควมกังวลจะกระทบแค่ ตลาดหลักทรัพย์ ตลาดอื่นดูเฉยๆ ทองก็ไม่ตอบสนอง เห็นมองกันว่าดอลลาร์เเข็ง ทองเลยไปไม่ได้
นักวิเคาะห์เองก็ใช้คำว่า "very surprised" that investment demand in gold has "cooled again" of late
---------------------------
ตลาดผัก แรงกว่าที่คิด หรือจะไม่มีเลือกตั้งหว่า หรือ เตรียมทำราคารับเลือกตั้งหว่า
พักไปปิดกำไร ครบ 1 ปี เอาที่สบายใจ มีตังค์แล้วค่อยกลับมาลากใหม่ก่ะ
วันนี้ อังเคิลเจโพล ลุงยาสีฟัน ลุงคุโรดะ มีแถลงนะก่ะ ชาวฟอร์เร็กซ์อย่าประมาท เพราะเบื้องต้น นักวิเคราะห์มองกันว่า น่าจะเป็นจังหวะสวิง กินเรียบ
นักผจญดอยคงจับตาไปที่ลุงยาสีฟัน ถ้ายังมีอาการพิราบเหมือนตอนประชุม ECB ก็มีเเววว่า ดอลลาร์ไปต่อ และ EUR ร่วงต่อ แต่ถ้ามุมกลับ ดอลลาร์อาจพัก EUR ก็รีบาวด์ได้
ฝากความหวังใว้กับลุงยาสีฟัน นักอยู่ดอยไทย ก็ระวังๆ หน่อยแระกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Regera ที่ มิถุนายน 20, 2018, 02:10:25 PM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ มิถุนายน 20, 2018, 04:17:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 20, 2018, 05:10:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 21, 2018, 10:27:25 AM
โดยการที่ อินเดียกำลังหา รัฐมนตรีการค้าและการเงิน ทำให้ ราคาทองในฟังเอเชียขาดแรงซื้อ และประจวบเหมาะมากที่ทรัมออกมาอาละวาด พอดิบพอดี
ทาง อินเดียมีนโยบายการ กว้างซื้อทอง ตามนานาชาติอยู่แล้ว แต่ขาดทีมกำหนดนโยบายใน ช่วงนี้ นานาชาติ กำลังทำสิ่งนึ่งคือการดึง ทองที่ฝากไว้ในเมกาออกมา เช่นเดียวกับที่ อิร่าน.... ตุรกี ทำ ...อิร่านเนี่ยนะ....อริแท้ๆ ยังมีทองฝากในเมกา เพื่อให้ องค์ประกอบครบ รอ ตามข่าวอินเดีย
จีน รัสเซีย อิร่าน และอินเดีย นำเข้า ทองรูปพรรณในระดับมหาศาล และในมีผลในการกำหนดราคาทอง
Goldman sacheบอกว่าขึ้น สิงหา เพราะปอนออ่น
Barclayบอก สิ้นปี ขึ้นเพราะตอนนี้ยังเสี่ยงไป
แสดงว่ามีโอกาสขึ้รแต่ไม่ใช่ ครั้งนี้ แต่ขึ้นปีนี่ Uk ป้าเม ชนะการโหวต เพื่อ ปกป้อง brexit ซึ่งสำคัญมากๆ เดียวค่อยดูรายละเอียด พรุ่งนี้ว่ามีอะไรบ้าง Goldman sacheบอกว่าขึ้น สิงหา เพราะปอนออ่น
Barclayบอก สิ้นปี ขึ้นเพราะตอนนี้ยังเสี่ยงไป แสดงว่ามีโอกาสขึ้รแต่ไม่ใช่ ครั้งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 21, 2018, 12:55:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 21, 2018, 03:38:30 PM
1 ชม. ·
------------------------------------
ปูตินสั่งเททิ้งพันธบัตรสหรัฐให้หมดพอร์ต แล้วจีนจะกระทืบซ้ำ?
สื่อSputnikของรัสเซียรายงานช็อคโลกการเงินในวันที่16มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ทางรัฐบาลรัสเซียได้เทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐออกไป$47,500ล้่าน หรือเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของพอร์ตที่ถืออยู่ มีการคาดคะเนว่า ปูตินจะสั่งเทขายพันธบัตรที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้หมดไปจากพอร์ตภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะได้จบๆกัน ขนเงินกลับมอสโควดีกว่า แทนที่จะให้รัฐบาลสหรัฐท่าน้ ที่ทำเช่นนั้น เพราะปูตินรำคาญใจที่โดนพวกดีบสเต็ทเล่นงาน โดยกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี เพื่อช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มีการเสี้ยมให้รัสเซียผิดใจกับนานาประเทศ
https://sputniknews.com/…/201806161065457168-hussia-sells-…/
ประเด็นที่ต้องจับตาต่อไป คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีนจะใช้กลยุทธเดียวกันกับปูตินหรือไม่ เพราะว่าทรัมป์ก่อสงครามการค้ากับจีนรอบ2ไปแล้ว ด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีน25%ในปริมาณ$34,000ล้าน ซึ่งโดยพวกเป็นสินค้าอีเลคโทรนิกส์ และอุปกรณ์เทเลคอม
จีนถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอยู่$1.2ล้านล้าน เท่ากับว่าจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของสหรัฐ
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สื่อCNBCรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนกังวลใจว่า ถ้าหากเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จีนสามารถตอบโต้ด้วยอาวุธทางการเมือง คือลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ถ้าจีนเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นจำนวนมาก ดอลล่าร์จะอ่อนค่า ดอกเบี้ยสหรัฐจะพุ่งสูง และที่สำคัญนักลงทุน หรือประเทศอื่นๆที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอาจจะขายทิ้งเหมือนกัน
ความกังวลใจนี้เกิดขึ้นในขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐมีการเพิ่มซับไพลพันธบัตรเข้าไปในตลาด เนื่องจากงบประมาณแผ่นดินขาดดุลสูงขึ้น$200,000ล้านถึง$300,000ล้านเป็น$1ล้านล้านจากนโยบายลดภาษีของทรัมป์ ทำให้รัฐบาลชักหน้าไม่ถึงหลังเพิ่มขึ้น ผลก็คือในที่สุดแล้ว ตลาดพันธบัตรสหรัฐอาจจะมีปัญหา
https://www.cnbc.com/…/chinas-1-point-2-trillion-weapon-tha…
thanong
17/6/2018
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 21, 2018, 04:16:19 PM
ภาพใหญ่ลงได้อีก แค่เก็บเล่นช่วงย่อ พักตัว ควนหนีก่อนตลาดเมกาเปิด
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 21, 2018, 05:51:01 PM
ดอลล่าจะได้ดิ่งบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 21, 2018, 10:52:13 PM
AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 22, 2018, 08:16:19 AM
ส่วน ในภูมิภาค คงเป็น ฟิลิปิน โดน ถล่มค่าเงิน เปโซ เนื่องจาก ประกาศ เพิ่มดอกเบี้ย ส่งผลให้ เงินบาท อ่อนค่า (ถอนได้กำไร)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 22, 2018, 08:48:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 22, 2018, 09:12:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2018, 09:33:17 AM
ทาง ธนาคารกลางได้ปรับตัวเลขการเติบโตจาก 2.1 เป็น 2.4 ถือว่าเยอะมาก และให้คำนิยามแนวโน้มต่อไปว่า ....แข็งแกร่ง และขยายตัว พร้อมรับมือต่อวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต em15.gif em15.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 26, 2018, 10:22:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 26, 2018, 07:50:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 27, 2018, 10:44:07 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มิถุนายน 27, 2018, 03:30:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 28, 2018, 08:41:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 28, 2018, 08:50:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ มิถุนายน 28, 2018, 09:21:58 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 02, 2018, 06:53:03 AM
อังกฤษนั่นเป็นประเทศที่ให้บริการทางการเงินและธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่ตอนนี้กำลังขาดความเชื่อมั่นด้านการเงินการบริษัทการเงิน เสียอย่างนั้นจาก ผมสำรวจcbi และpwcที่ขัดเลือก บริษัท100บริษัท มีความคิดเห็นถึงความกังวลด้านการเงิน
ในเมื่อด้านการเงินนั่นขาดความเชื่อมั่น จึงส่งให้เกิดปฎิกริยาต่อการลงทุนด้านต่างๆได้ ที่มีสิทธิทำให้การลงทุนนั่นออกจาก อังกฤษ
ซึ่ง เหตุการณ์ ส่งผลเสียมากต่อการตัดวินใจในอนาคตของ คาร์นี่ ,
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 02, 2018, 07:28:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ กรกฎาคม 02, 2018, 08:28:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 03, 2018, 11:09:49 AM
และ ทรัม สามารถคุมเกม ในการเจรจาได้ อย่างดี ด้วยปัจจัยที่ออกมาใหม่ คือ การเลือกตั้ง มิดเทอม... ซึ่ง เขาเตรียมเป็นข้อต่อรองด้านเวลา ที่จะ ยื้อเวลาการเจรจากับ แคนนาดา ่วงเวลานี้ ตามขั้นตอนการเจรจาของทรัม ตามหนังสือที่ทรัมเขียน the art of. Deal. อยู่ในขั้นตอนการ การวัดกำลัง ดูว่าใครจะแบกรับความเสียหายได้มากกว่ากัน ซึ่งมุมนี้ ต้องกราบทรัมกันเลย เพราะว่า ทรัมนั้นได้ เตรียมตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 08, 2018, 10:58:12 AM
—>canada สัปดาที่ผ่านมาตัวเลขที่ออกมีสองตัวคือยอดอัตราการปลี่ยนแปลงของการจ้างงาน ผลออกมาว่า ตัวเลขคนถูกจ้างงานเพิ่มขึ้นดังนั้นคาดการว่า ตัวเลขคนว่างงานน่าจะลดลงในเดือนถัดไป แม้ว่าอัตราว่างงานย้อนหลังจะสูงขึ้น เล็กน้อยก็ตาม ส่วนยอดดุลบัญชีการค้าก็ยังคงติดลบเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากยอดการผลิตที่ลดลงในไตรมาศที่ผ่านมา
—>อังกฤษ
ดรรชนีราคาสินค้าประเภทบริการสูงขึ้นอาจจะเปนเพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว ของประเทศอยู่ นอกนั้นไม่มีตัวเลขอะไรสำคัญนอกจากดรรชนีราคาการก่อสร้างที่ออกมาสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนๆ ย้อนหลังไปได้หนึ่งไตรมาศเลย
—>ออสเตรเลีย
ธนาคารกลางยังงตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5 เปอเซนต์ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะพวกเขาประกาศไวค่อนข้างชัดเจนว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่านี้ ตลอดปี นอกนั้นไม่ได้มีตัวเลขอะไรที่สำคัญ ออกมา
—>อเมริกา
อาทิตนี้ถือได้ว่าข่าวเยอะมากๆ ตั้งแต่ดรรชนีราคาการผลิตที่เพิ่มขึ้น ติดต่อกันเปนเดือนที่สองแล้ว ในขณะที่ดรรชีนีราคาสินค้าประเภทบริการยังคงคงที่อยู่ ในส่วนของตัวเลขส่งออกดีขึ้นกว่าเดือนที่แล้วสี่พันล้านและตัวเลขนำเข้าเพิ่มขึ้นแค่ พันล้านเท่านั้นทำให้เดือนนี้น่าจะขาดดุลน้อยที่สุดในรอบปีเลยก็ได้ อัตราการว่างงานยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเริ่มน่าเปนห่วงเพราะกลับไปที่ ร้อยละ 4 แล้ว แต่ในภาคของนอนฟาม ตัวเลขยังดีขึ้นอยู่ ทำให้คิดว่าภาคการว่างงานที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นภาคการเกษตรที่ไม่ได้เปนรายได้หลักของเมกาดังนั้นอาจจะไม่ได้ใหญ่หลวงอะไรมาก
—-#%$€¥—-
วันพุธ
19.30 PPI เมกา คราวนี้มาเดี่ยวๆไม่ได้มาพร้อมการผลิตไม่แน่ใจว่าจะแรงมากมั้ย แต่คาดว่าอาจจะได้ 300-500 จุด คิดว่าภาคการผลิตน่าจะมองราคาว่าขึ้นจากยอดการส่งออกที่ดีขึ้น คิดว่า ucad คงได้บาย
21.00 ดอกเบี้ยแคนาดา คาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้แหละ แม้จะมีตัวเลขคาดการณ์ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยแต่ตามนโยบายพวกเขาบอกว่าจะยังไม่ขึ้นจนกว่าต้นไตรมาศที่สาม คิดว่า ucad น่าจะบิน แต่ถ้าเกิดปรับขึ้นอัตราขึ้นมาจริงๆก็น่าจะทุบแรงพอตัว
วันพฤหัส
19.30 CPI คราวนี้มาพร้อมกัน ทั้ง yoy mom และ core คิดว่านน่าจะออกมาในทางลบจากการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเล้กน้อย ucad ดังนั้นน่าจะทุบ
—-#%¥€$—-
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 08, 2018, 03:12:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 10, 2018, 09:23:12 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 10, 2018, 11:06:52 AM
กำลังเดินขึ้นอยู่เลย
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ กรกฎาคม 10, 2018, 11:39:02 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 09:21:36 AM
ณ เวลา 21.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,773.48 จุด ลดลง 146.18 จุด หรือ 0.59%
หุ้นทุกกลุ่มต่างปรับตัวลงในตลาดวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ และโบอิ้งร่วงลงมากกว่า 1% เนื่องจากอยู่ในกลุ่มบริษัทที่มีการลงทุนในต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ
ส่วนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพ เช่น อินเทล และแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส ต่างก็ปรับตัวลงมากกว่า 0.5%
รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันนี้ โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า โดยคาดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า การที่จีนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า และไม่ดำเนินนโยบายการค้าอย่างเป็นธรรม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงมีคำสั่งให้ USTR เริ่มกระบวนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินสูงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การตัดสินใจล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐยังมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนมากกว่า 800 รายการ ในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า รัฐบาลจีนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะใช้มาตรการที่จำเป็น และจีนขอประท้วงการตัดสินใจของสหรัฐที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่นี้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
การปรับตัวขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 3.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 20% หลังจากที่พุ่งขึ้น 24% ในไตรมาสแรก
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 09:33:47 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 12, 2018, 10:47:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 13, 2018, 10:32:50 AM
ด้านนาย Patrick Harker, Federal Reserve Bank of Philadelphia President (Non-voter) ให้ความเห็นสนับสนุนอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายแบบสมมาตร และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกินกว่าร้อยละ 2.5 ขึ้นไปถึงน่าจะเป็นกังวล โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งหมด 3 ครั้งในปีนี้และ ปีหน้า หรืออาจปรับเพิ่มขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งในปีนี้ หากอัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่าคาด นอกจากนี้นาย Harker คาดว่า Benchmark lending rate อาจอยู่ที่ร้อยละ 3 ในระยะยาว ต่ำกว่าคาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ร้อยละ 3.25
Source: BOTSS
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 15, 2018, 08:28:05 PM
.
- 1. การประชุมสุดยอด Trump-Putin
ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ทรัมพ์และประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์ปูตินจัดประชุมสุดยอดครั้งแรกที่เมืองเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ในวันจันทร์นี้
- 2. กำไรไตรมาส 2 ของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ High Gear
มี บริษัทเอสแอนด์พี 500ประมาณ 60 แห่งที่รายงานกำไรในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าซึ่งรวมถึงหุ้นของดาวโจนส์อีกเจ็ดแห่งซึ่งเป็นสัปดาห์ใหญ่สุดของช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
- 3. เฟดประธานพาวเวอร์
Federal Reserve ประธานเจอโรมพาวเวลล์กำลังเตรียมมอบคำแถลงนโยบายการเงินครึ่งปีของเขาต่อเศรษฐกิจก่อนที่วุฒิสภาและคณะกรรมการสภาในกรุงวอชิงตันดีซี
Powell มีกำหนดจะเป็นพยานต่อเศรษฐกิจก่อนที่วุฒิสภาคณะกรรมการธนาคารเวลา 10.00 น. ET วันอังคาร ในวันพุธเขาจะปรากฏตัวต่อหน้า House Financial Services Committee เมื่อเวลา 10:00 น.
- 4. การขายปลีกในสหรัฐฯ
กระทรวงพาณิชย์จะเผยแพร่ข้อมูลการขายปลีกในเดือนมิถุนายนเวลา 8.30 น. ตามเวลา ET
การคาดการณ์ที่สอดคล้องกันคือรายงานจะแสดงยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น0.4% ในเดือนก่อนหน้าซึ่งลดลงจาก 0.8% ในเดือนพฤษภาคม
หากไม่นับรวมรถยนต์ยอดขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น0.4%หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก่อนหน้า
- 5. GDP ไตรมาสที่ 2 ของจีน
จีนจะเป็นประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่แห่งแรกที่รายงานตัวเลขการเติบโตในไตรมาสที่สองเมื่อมีการเผยแพร่ตัวเลข GDP ที่ระดับ 0200GMT ในวันจันทร์ (10:00 PM ET อาทิตย์)
รายงานคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกขยายตัว6.7%ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อยจากที่ขยายตัว 6.8% ในไตรมาสแรก
.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 16, 2018, 07:28:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 17, 2018, 05:18:33 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 17, 2018, 08:40:07 PM
ลง 10 นาทีให้รอดก่อน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 08:37:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 08:48:30 AM
และเสนอ วิธี ทำให้ เงินเฟ้อ เมกาขยับตัวเพิ่มขึ้น นั้น ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ เงินเฟ้อ ไป อยู่ 2%
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 09:09:47 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 09:10:40 AM
ไม่ไหวครับ ฝนตก สนามอย่างกับนา ให้น้องๆ เขาลงกันก่อน AT9.gif AT9.gifโทษฟ้าโทษฝน ไม่ไหวก็บอกกันตรง ๆ ก็ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 02:14:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 04:48:08 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 08:58:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 18, 2018, 09:02:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 19, 2018, 09:45:33 AM
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในนิวซีแลนด์อาจช่วยสนับสนุนดอลลาร์นิวซีแลนด์ปรับขึ้นทำลายเส้นแนวโน้มลง หาก NZD / USD พุ่งขึ้นเหนือ 0.6786 จุด อาจมุ่งขึ้นที่ 0.6850 จุด บนระดับ fibo ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอาจแกว่งตามปัจจัยของดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย RBA อาจไม่มีเรื่องประหลาดใจ ในความเห็นของดิฉัน AUD / USD อาจเคลื่อนไหวระหว่าง 0.7300-0.7450 จุดต่อ ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และ USD/THB อาจกำลังสร้างคลื่นที่3 ซึ่งอาจมุ่งขึ้นที่ 33.70 จุด อย่างไรก็ตามความแรงของแนวโน้มขึ้นของดอลลาร์สหรัฐเริ่มชะลอตัวลง และอาจค่อยๆขึ้นแบบไซด์เวย์อัพ ขึ้นทดสอบ 33.40 จุดอีกครั้งในวันนี้
เงินปอนด์อังกฤษทรงตัวเหนือระดับ 1.3200 ดอลลาร์ในวันจันทร์ และอาจแกว่งตัวในกรอบ 1.3200-1.3300 รอดูข้อมูลทางเศรษฐกิจวันนี้ หากตลาดแรงงานในอังกฤษยังแข็งแกร่ง และรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นรวดเร็ว เงินปอนด์อาจมีแรงซื้อมาก จากการเก็งกำไร นักลงทุนอาจคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ BoE อาจเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ งและรายได้ที่เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ประเทศไทยกำลังวางแผนที่จะใช้ 'Bond Coin' เพื่อเป็นชำระคืนหลักทรัพย์ในประเทศไทยได้เร็วขึ้น ในขณะที่ราคาของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 6,200 ดอลลาร์ และอาจขึ้นไปถึง 6,500 ดอลลาร์ ดิฉันคิดว่าแนวโน้มขึ้นของบิทคอยน์ยังไม่แข็งแกร่ง เนื่องจากวอลูมยังต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย ดังนั้นอาจเคลื่อนไซด์เวย์อัพ
ดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญ:
· นิวซีแลนด์: CPI (ไตรมาส 2) เวลา 05.45 น.
· ออสเตรเลีย: RBA รายงานการประชุม เวลา 08.30 น.
· สหราชอาณาจักร: ดัชนีรายได้เฉลี่ย + โบนัส (พ.ค.) และการเปลี่ยนแปลงจำนวนคนยื่นรับสวัสดิการ (มิ.ย.) เวลา 15.30 น
· สหรัฐอเมริกา: คำแถลงการณ์ของผู้ว่าการเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ เวลา 21.00 น.
โดย นิรมล นิตย์นิธิพฤทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 24, 2018, 07:04:50 AM
.
โดยเพจ "ถามอีกกับอิก เรื่องลงทุน"
.
1.ผู้เชี่ยวชาญมองถ้าความตึงเครียด สหรัฐ-อิหร่าน บานปลายจะทำให้น้ำมันพุ่ง 200$
.
ถือว่าเป็นมวยคู่ใหม่ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดครับ
.
เมื่อประธานาธิบดีอิหร่านบอกว่า “ตอนนี้อิหร่านกำลังยับยั้งชั่งใจ และเราจะไม่ต่อสู้หรือทำสงครามกับใคร แต่ศัตรูเองก็ต้องเข้าใจว่าการทำสงครามกับอิหร่าน มีแต่จะสร้างความเสียหายกตมากกว่าสงครามที่เคยเกิดขึ้นในอดีต”
.
แหม...ได้ยินอย่างนี้ พี่ทรัมป์แกจะอยู่เฉยๆได้ไงจริงไหมครับ
.
แกตอบกลับทันที “อย่าได้ข่มขู่สหรัฐอีกแม้แต่ครั้งเดียว ไม่งั้นคุณนั่นแหละคือคนที่จะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ชนิดที่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์”
.
“สหรัฐจะไม่ใช่ประเทศที่อดทนต่อคำพูดที่บ้าบอ ของคุณที่สะท้อนถึงความรุนแรงและความตายอีกต่อไป จงระหวังตัวเองให้ดี !!!”
.
จุดนี้ต้องระวังมากๆ เพราะอิหร่านเป็นหนึ่งในมหาอำนาจในตะวันออกกลางและมีโอกาสที่จะปิดช่องแคบ ฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือ ขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก
.
=============
.
2.หุ้น Alphabet พุ่งหลังจากประกาศผลประกอบการดีกว่าที่คาด
.
บริษัทแม่ของ Google เพิ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่Alphดีกว่าที่คาด
.
ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลไปเลยครับ หลังจากก่อนหน้านี้ถูกปรับจากสหภาพยุโรปคิดเป็นมูลค่า 5 พันล้านเหรียญ หรือ 1.5 แสนล้านบาท
.
โดยมีรายได้ 32.66 พันล้านเหรียญ หรือ 9.8 แสนล้านบาท และมีกำไรกว่า 3.2 พันล้านเหรียญ หรือ 9.6 หมื่นล้านบาท
.
“Google จะยังคงครองแชมป์ และกุมเม็ดเงินโฆษณาของทั้งโลกสัดส่วน 31% แม้ว่าจะลดลงจากปีที่แล้วที่เคยอยู่ระดับ 31.7% ก็ตาม” บทวิจัยของ eMarketerบอกครับ
.
แต่ถ้าไม่นับว่าโดนปรับ จะเห็นว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้น 11.75$ มากกว่าที่คาด 21%
.
CEO คุณ ซุนดา พิชัย บอกว่า “ธุรกิจโฆษณายังเติบโตได้ดีและเป็นธุรกิจหลักของเรา แต่ตอนนี้ธุรกิจ cloud กำลังมีโมเมนตัมที่ดี”
.
ในขณะที่เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 พันล้านเหรียญหรือ 1.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนใหญ่หมดไปกับการลงทุนสร้าง Data Centers, วิจัย
.
=============
.
3.”อินเดีย” ตลาดแห่งความหวังของ IKEA เจ้าตลาดเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดน
.
“อินเดีย เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับ IKEA อย่างน้อยๆก็อีก 75 ปีข้างหน้า” หลังจากที่ผู้บริหารระดับสูงของ IKEA คุณ Juvencio Maeztu ฝังตัวศึกษาตลาดอินเดียมานานกว่า 6 ปี
.
สิ่งที่ทำให้มั่นใจว่าตลาดนี้น่าสนใจคือ คนส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางที่กำลังซื้อกำลังเติบโต และครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศที่มีกว่า 1.3 พันล้านคน อายุต่ำกว่า 25 ปี
.
และที่สำคัญจากการเก็บตัวเลขจะเห็นว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ตลาดเฟอร์นิเจอร์เติบโตเป็น 34.45 พันล้านเหรียญ หรือ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 90%
.
แต่ IKEA เองก็ต้องมีการนำเสนอสินค้าแปลกใหม่ให้เข้ากับคนอินเดียเช่นกัน เช่น กระทะสำหรับทำขนมปัง, ที่นอนที่ทำมาจากไฟเบอร์ของมะพร้าว หรือกล่องอาหารกลางวัน เป็นต้น
.
“อินเดียคือ โอกาสการเติบโตก้าวกระโดดของพวกเรา” ผู้บริหารกล่าวทิ้งท้าย
.
=============
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 24, 2018, 07:18:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 24, 2018, 10:30:10 AM
วันนี้มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่ฝั่งญี่ปุ่น คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 0.09% พุ่งขึ้นวันเดียว 0.06% ทีเดียว ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 0.08%
การพุ่งขึ้นแรงเช่นนี้ สาเหตุมาจาก นักลงทุนคาดการณ์กันว่า ในการประชุม BOJ วันที่ 31 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ที่ประชุมเตรียมจะหารือและเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายของ 2 นโยบายหลักที่ทำอยู่ตอนนี้
1. Yield Curve Control หรือ นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งปัจจุบันมีความพยายามปักหมุด พันธบัตรอายุ 10 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.0%
2. วงเงิน QQE ที่รับซื้อพันธบัตรรัฐบาล และการเข้าซื้อกองทุน ETF เพื่อพยุงราคาหุ้นในตลาด ซึ่งก็เข้าซื้อมาตลอดตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว จนทำให้สิ้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานออกมาว่า BOJ ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ติด Top 10 Holdings มากกว่า 1,446 บริษัท จากทั้งหมดที่ในตลาดมีอยู่ที่ 3,735 บริษัทเลยทีเดียว
ที่ตลาดกังวลกันก็คือ จะยกเลิกการปักหมุดพันธบัตรรัฐบาลไหม? หรือจะไปลดวงเงิน QQE ชะลอการซื้อพันธบัตร และชะลอการซื้อหุ้น?
เมื่อความไม่แน่นอนเกิดขึ้น...
ความผันผวนก็ตามมาเป็นเงาตามตัว
ไปดูตลาดหุ้นญี่ปุ่นวันนี้ ปิดลบไปเบาๆ -300.89 จุด หรือคิดเป็น -1.33%
ส่วนการประชุมจริง BOJ จะทำอะไรไหม ก็คงต้องรอให้ถึงวันที่ 31 ก.ค. เพียงอย่างเดียว เราถึงจะทราบกันได้
ด้านค่าเงินเยน จากที่อ่อนค่ามาตั้งแต่เดือนเม.ย. ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในพันธบัตรระยะสั้น จนทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่ามาอยู่ที่ 111 เยน/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ตรงนี้ก็เป็นแนวรับ
ถ้าไปดูดัชนี Nikkei 225 จะพบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่สามารถผ่าน 23,000 จุด ขึ้นมาได้ เมื่อยังทำ Higher High ไม่ผ่าน ขาขึ้นก็ยังต้องรอไป ซึ่งหัวใจหลักก็คงต้องไปรอ BOJ ประชุมเรื่องการเปลี่ยนท่าทีกา.รดำเนินนโยบายการเงิน ว่าจะไปทางไหนนะครับ
แหล่งที่มาข้อมูล : Bloomberg.com
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ กรกฎาคม 24, 2018, 10:54:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 25, 2018, 09:01:23 AM
(+/-) จับตาการเคลื่อนไหว ECB คืนนี้!!!
(-) ดาวโจนส์ปิดบวก 197.65 จุด ตามความคาดหวังผลประกอบไตรมาส 2
(+/-) SPDR ไม่มีความเคลื่อนไหวการถือครองสุทธิที่ 802.55 ตัน
(+/-) อิหร่านเผยพร้อมใช้มาตรการตอบโต้หากสหรัฐฯเดินหน้าคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 25, 2018, 10:58:15 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 25, 2018, 01:20:32 PM
Today
API Weekly Crude Oil Stock -3.160M -3.000M 0.629M
08.30 Australia Consumer Price Index (CPI)
15.00 Germany Ifo Business Climate Index
17.00 U.K. CBI Distributive Trades Survey
21.00 U.S. New Home SALES
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
Stocks - Dow Notches Triple-Digit Gains Amid Earnings-Infused Rally
เมื่อคืนผลประกอบการออกมาน่าพอใจ กลุ่มพลังงาน และ สื่อสารเป็นตัวนำตลาด
ตัวเลขพื้นฐานเมื่อคืน U.S. manufacturing PMI for July ออกมา OK แต่ the services PMI พลาดเป้า
โดยรวมๆ นักผจญดอยลุ้น U.S. second-quarter GDP ที่คาดว่าออกมาดี ตลาดก็ดีใจล่วงหน้า
วันนี้ ลุงโด้ ป๊ะกับ European Commission President Jean-Claude Juncker and European Union Trade Commissioner Cecilia Malmström ที่ทำเนียบขาว
---------------------------------
Forex - Dollar Rally Pauses as Pound Gains
DXY ยังชลอๆตัวอยู่จาตัวเลขพื้นฐานเมื่อคืนที่ออกมาผสมผสาน
เเละทางการที่ป้าเมย์ออกมาบอกเมื่อคืนว่า UK PM May says she will lead Brexit talks from now on ป้าจะลุยเอง ฮา... GBP รีบาวด์เลย
EUR ยังต้องรอคืนนี้ การพบกันระหว่างผู้นำสหรัฐ กับ ผุ้นำ EU และ พรุ่งนี้กับการประชุม ECB และ การเเถลงของลุงยาสีฟัน
NZD เมื่อเช้าตัวเลขดุลการค้า รวมถึงตัวเลขส่งออก ออกมาน่าผิดหวัง น่าจะสังเวยไปแแล้วมั้ง
AUD น้องอู๊ด เช้านี้มีลุ้น (จะตามน้องกีวี่ไปใหม)
-------------------------------------
Crude Oil Prices Settle Higher Ahead of Inventory Data
เมื่อเช้าตัวเลขสต็อกน้ำมัน API ออกมาใช้ใด้ รอลุ้นคืนนี้สต็อกน้ำมันดิบอีกรอบ
-------------------------------------
Metal Prices Rally as Dollar Takes a Breather
ก็ตามนั้น น่าจะรอชี้ชะตาวันศุกร์
-------------------------------------
ตลาดผักก็ไม่มีอะไร ติดต้าน ดาวเทรนด์ไลน์ มั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 25, 2018, 02:35:44 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 26, 2018, 08:06:04 AM
สาเหตุ เมื่อคืน แต่ ผมได้ แจ้งในห้อง Line ในช่วงหัวค่ำเมื่อวาน
Trump เข้าพบกับ สหภาพยุโรป Juncker ตอนสายๆๆในกรุงวอชิงตัน ลือกันว่า ดอลล่าจะอ่อนหลังข่าว
ความต้องการเมกา USD***การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะมุ่งเน้นไปที่อัตราค่าระวางของสหรัฐฯในด้านเหล็กและอลูมิเนียมรวมทั้งการขยายไปยังรถยนต์ยุโรป
ความต้องการEUR***เป้าหมายหลักของประธานาธิบดี Juncker คาดว่าจะเป็นการลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศใหญ่ ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 26, 2018, 08:49:21 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 27, 2018, 10:17:17 AM
(+/-) SPDR ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในยอดถือครองที่ 800.2 ตัน
(+/-) ติดตามการประกาศ GDP สหรัฐฯ คืนนี้ 19.30 นักวิเคราะห์คาดการณ์ตัวสูงกว่าครั้งก่อน
(-) ธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ย!! ส่งผลยูโรอ่อนเทียบดอลลาร์
(+) เรือบรรทุกน้ำมันซาอุฯ โดนโจมตีกลางทะเลแดง –ซาอุระงับส่งออกส่งผลราคาดีดขึ้น
(+/-) เม็กซิโก-สหรัฐฯ เลื่อนประชุม NAFTA เร็วขึ้นคาดเดือน ส.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 27, 2018, 01:55:09 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 28, 2018, 09:03:30 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 28, 2018, 08:42:44 PM
ทางญี่ปุ่น ที่จะมีเรื่องดอกเบี้ยมานั้น ในวันอังคาร
มีมุมมองในเชิงลบ เพราะจากข้อมูลล่าสุด คุโรดะจัง...เรียกซะน่ารัก แจ้งออกมา เป้าหมายที่จะทำให้ เงินเฟ้อ ขยับตัวนั้น ต้องเลื่อนออกไป มากสุด 3ปี แต่ทิ้งท้ายว่าหากมีแนวทางแก้ไขจะมาแจ้ง .....แล้ว คุโรดะจังก็หายยยยยไป เลย
จึง มองว่า ค่าเงินเยน มีความออ่นตัว ค่อนข้างชัด เมื่อ เทียบกับ ดอลล่า
อาทิตหน้านี้ กราฟ สวิงตั้งแต่ อังคารกันเลย น่าสนใจ จริงๆ
ดอกเบี้ย เมกามาในวัน พฤหัส ตี1
นอนฟามมาวันศุก
หากดู ข้อมูล เดือนนี้ นอนฟาร์ม มีมุมมองเชิงลบ ต่อดอลล่าพอสมควร เลย
ณ ตอนนี้
มองว่า ทอง ลง จัน อังคาร พุธ พฤหัส ศุกนี้ ทองจะดีด ได้ เลย แต่นี้ยังไม่ร่วม เรื่องปูตินที่จะมาน่ะ
ตอนนี้ ข่าว เริ่ม เกริ่นนำเรื่อง ทรัม ปูติน กันมาได้ 7ช.ม.
ปูตินบอกว่า พร้อมจะมา
มา อะ แน่ๆ แต่วันไหน แหะๆ จริงๆ เขา บอกมาเมื่อกลางสัปดา แล้ว แต่จำม่ะได้
มาที ผม โยน ทุกอย่างทิ้ง เลย เพราะไปได้ หมด ขึ้นดอย ลงเหวได้ หมด
เจอละ ทรัม บอก อย่างช้า ปีหน้า
ง่ะ ทรัมจะมาในวันอังคาร เวลาบ้านเราน่าะ หกโมง ~สองทุ่ม
เบื้องต้น จากข้อมูล ตินนี้ ยอมรับว่า เสดกิจ เมกา ณ ปัจจุบันนั้น เพิ่มสูงขึ้น หากเทียบกับ ญี่ปุ่น อังกริด อียู ถือว่า เมกามาชัดที่สุด
จึงทำให้ มองว่า ท่าทีของเฟด จะเดินหน้า ขึ้นดอกต่อไป ที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสนี้
ส่วนเรื่องราคาบ้านกับตลาดบ้านในเมกา ที่ส่งสัญญาญการชะล่อเสดกิจในภาพใหญ่ แล้วนั้น รอดูว่าจะ ส่งผลเชิงลบ ตอนไหน
ทางญี่ปุ่น ที่จะมีเรื่องดอกเบี้ยมานั้น ในวันอังคาร
มีมุมมองในเชิงลบ เพราะจากข้อมูลล่าสุด คุโรดะจัง...เรียกซะน่ารัก แจ้งออกมา เป้าหมายที่จะทำให้ เงินเฟ้อ ขยับตัวนั้น ต้องเลื่อนออกไป มากสุด 3ปี แต่ทิ้งท้ายว่าหากมีแนวทางแก้ไขจะมาแจ้ง .....แล้ว คุโรดะจังก็หายยยยยไป เลย
จึง มองว่า ค่าเงินเยน มีความออ่นตัว ค่อนข้างชัด เมื่อ เทียบกับ ดอลล่า
อาทิตหน้านี้ กราฟ สวิงตั้งแต่ อังคารกันเลย น่าสนใจ จริงๆ
ดอกเบี้ย เมกามาในวัน พฤหัส ตี1
นอนฟามมาวันศุก
หากดู ข้อมูล เดือนนี้ นอนฟาร์ม มีมุมมองเชิงลบ ต่อดอลล่าพอสมควร เลย
ณ ตอนนี้
มองว่า ทอง ลง จัน อังคาร พุธ พฤหัส ศุกนี้ ทองจะดีด ได้ เลย แต่นี้ยังไม่ร่วม เรื่องปูตินที่จะมาน่ะ
ตอนนี้ ข่าว เริ่ม เกริ่นนำเรื่อง ทรัม ปูติน กันมาได้ 7ช.ม.
ปูตินบอกว่า พร้อมจะมา
มา อะ แน่ๆ แต่วันไหน แหะๆ จริงๆ เขา บอกมาเมื่อกลางสัปดา แล้ว แต่จำม่ะได้
มาที ผม โยน ทุกอย่างทิ้ง เลย เพราะไปได้ หมด ขึ้นดอย ลงเหวได้ หมด
เจอละ ทรัม บอก อย่างช้า ปีหน้า
ง่ะ ทรัมจะมาในวันอังคาร เวลาบ้านเราน่าะ หกโมง ~สองทุ่ม
อังคาร เลย.... เหอะๆ
ทรัมไป ต้องมี อวยเมกา แน่ๆ เรื่องภาษีจีน เป็นแระเด็นได้ เลย จีดีพีที่เพิ่มขึ้นนับจาก 2014
ทองคำ จึงมองลง ถ้า ชนต้าน 1225 1233 เหอะๆ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 29, 2018, 08:57:10 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 29, 2018, 03:57:33 PM
โดยล่าสุดสัปดาห์ก่อนเขาได้แสดง ความไม่เห็นด้วยอย่างเปิดเผยผ่านการ ให้สัมภาษณ์สื่อ เกี่ยวกับแผนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ที่คาดว่าน่าจะปรับขึ้น 4 ครั้ง เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจค่อนข้างเติบโตแข็งแกร่งและเงินเฟ้อขยายตัว
โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาไม่แฮปปี้กับการขึ้นดอกเบี้ย เพราะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและหยวน ทำให้สหรัฐแข่งขันได้น้อยลง "ผมไม่พอใจที่พวกเขา (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยทุกครั้งที่เศรษฐกิจเติบโต"
คำวิจารณ์ของทรัมป์ในครั้งนี้ ตรงข้าม กับที่เขาเคยตำหนิประธานเฟดคนที่แล้วคือ เจเน็ต เยลเลน ในยุครัฐบาล บารัก โอบามา โดยครั้งนั้นทรัมป์โจมตีเยลเลนว่า ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ต่ำนานเกินไปเพื่อช่วยเหลือพรรคเดโมแครตในด้านเศรษฐกิจ ทั้งที่ควรขึ้นดอกเบี้ยมานานแล้ว
คำพูดของทรัมป์สร้างความกังวลถึง "อิสระ" ของเฟด เพราะโดยหลักการแล้ว นักการเมืองต้องไม่แทรกแซงธนาคารกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ ขณะที่ประธานาธิบดีก่อนหน้าทรัมป์ คนอื่น ๆ มักจะหลีกเลี่ยงวิจารณ์เฟด อย่างเปิดเผย
ซึ่งแม้ว่าในตอนท้ายทรัมป์จะกล่าวว่า ถึงแม้จะไม่พอใจนโยบายของเฟด แต่ก็จะปล่อยให้เฟดทำในสิ่งที่คิดว่า ดีที่สุด แต่อย่างน้อยก็เท่ากับส่ง สัญญาณว่าผู้นำประเทศแสดงความปรารถนาที่มีจะมีอิทธิพลเหนือนโยบายการเงิน
ไจลส์ คีตติ้ง ประธานสถาบันการลงทุนเวิร์ธสไตน์ ให้ความเห็นว่า เฟดคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องขึ้นดอกเบี้ย เฟดไม่สามารถจะปล่อยให้ตัวเองถูกมองว่าโอนอ่อนไปตามที่ประธานาธิบดีต้องการ "ดังนั้นพวกเขาต้องเดินหน้า" อีกอย่างหนึ่งการขึ้นดอกเบี้ยเป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์พื้นฐานง่าย ๆ กล่าวคือเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวและเงินเฟ้อขยับขึ้น ก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจร้อนแรงและเงินเฟ้อสูงเกินไป
ปีเตอร์ คอนติ-บราวน์ อาจารย์ วาร์ตันสคูลแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ชี้ว่า เฟดกำลังเผชิญกับการรักษาสมดุล ที่บอบบางระหว่างการสนับสนุนให้ เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนโดยที่ ไม่ไปกระตุ้นเงินเฟ้อที่ขณะนี้ขยาย ตัวต่อเนื่องเกือบจะยาวนานเป็น ประวัติการณ์
แต่ในเมื่อประธานาธิบดีได้ออกมา วิจารณ์เฟดอย่างเปิดเผยเช่นนี้ การตัดสินใจใด ๆ ของเฟดจากนี้ไปจะถูกมองว่าตอบสนองต่อประธานาธิบดี
"ถ้าเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยช้าลง ผมคาดว่าทรัมป์คงคุยโอ้อวดว่าเป็นชัยชนะ ซึ่งนั่นก็จะทำลายชื่อเสียงของเฟด แต่ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามแผนเดิมของปีนี้คืออีก 2 ครั้ง ก็จะกลายเป็นว่าเฟดท้าทายอำนาจทรัมป์"
ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คนแสดงความเห็นว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนปัจจุบันซึ่งช่ำชองการเมือง คงจะสามารถ ฝ่าฟันอุปสรรคจากทำเนียบขาวได้ นั่นคืออาศัยสภาคองเกรสเป็นเกราะป้องกัน นั่นหมายความว่า หากต้องการให้เฟดทำอะไร ก็จะต้องมีการผ่านกฎหมายและผ่านความเห็นของสาธารณชน
เจอร์โรม พาวเวลล์ ได้รับแต่งตั้งจากทรัมป์ให้เป็นประธานเฟดต่อจากเจนเน็ต เยลเลน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งตลอดมาเขาปฏิเสธข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า ทรัมป์พยายามจะเข้า มามีอิทธิพลเหนือนโยบายของเฟดโดยตรง และเมื่อทรัมป์วิจารณ์เฟดในครั้งนี้ พาวเวลล์ก็ไม่ได้มีแถลงการณ์ตอบโต้แต่อย่างใด
กระนั้นก็ตาม พาวเวลล์ได้แสดงจุดยืนทางอ้อม โดยไม่ได้พาดพิงถึงทรัมป์โดยตรง เช่น สัปดาห์ก่อนเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่งว่า "เรามี ประเพณีมายาวนานในการดำเนินนโยบายเฉพาะตัว โดยเป็นอิสระจากการเมือง เราทำงานอย่างเข้มงวดโดย ปราศจากการเมือง เราใช้การวิเคราะห์ ที่ละเอียดมาตัดสินใจ ไม่ได้นำการเมืองมาพิจารณา"
ผู้สนับสนุนความเป็นอิสระของเฟด ยกตัวอย่างในอดีตมาเป็นเหตุผล โดยชี้ไปที่กรณีของอาร์เธอร์ เบิร์นส์ ประธานเฟดในขณะนั้น ซึ่งถูกอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จากพรรครีพับลิกัน กดดันให้รักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำในห้วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1972 ผลก็คือเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ประธานเฟดคนต่อมาคือ พอล วอล์กเกอร์ ต้องขึ้นดอกเบี้ย สูงพรวดถึง 20% เพื่อควบคุม เงินเฟ้อ
คอลัมน์ ชีพจรเศรษฐกิจโลก: นงนุช สิงหเดชะ
Source: ประชาชาติธุรกิจ
เพิ่มเติม
- Will the Fed Become Trump’s Next Punching Bag? https://www.bloomberg.com/news/audio/2018-07-20/will-the-fed-become-trump-s-next-punching-bag
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 29, 2018, 07:34:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 30, 2018, 09:03:25 AM
.
- 1. การตัดสินใจของ Federal Reserve Rate
เฟดไม่คาดว่าจะดำเนินการกับอัตราดอกเบี้ยที่ข้อสรุปของการประชุมนโยบายวันที่สองของมันที่ 14:00 ET ในวันพุธที่ทำให้มันอยู่ในช่วงระหว่าง1.75% -2.0%
ธนาคารกลางจะออกแถลงการณ์หลังการประชุมเนื่องจากนักลงทุนมองหาคำแนะนำว่าจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและอีกครั้งในเดือนธันวาคมหรือไม่
เฟดได้คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราอีกครั้งในปีพ. ศ. 2561 อีกครั้งโดยมีนโยบายเข้มงวดขึ้นสองครั้งในปีนี้
เฟดประธาน Jerome Powell กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ากรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงแข็งแกร่งส่งสัญญาณว่าต้นทุนการท่าน้ยืมจะยังคงเพิ่มขึ้นในปีนี้แม้จะมีความผันผวนของตลาดล่าสุดที่เกิดจากข้อพิพาททางการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐฯกับจีน
- 2. รายงานงานของสหรัฐฯ
มีรายงานเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปเนื่องจากปฏิทินม้วนถึงสิงหาคมนับจากเดือนกรกฎาคมโดยมีข้อมูลการจ้างงานรายเดือนอยู่ในสปอตไลท์
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะปล่อยรายงานเงินเดือน nonfarm สำหรับเดือนกรกฎาคมเวลา 8:30 น. ET ในวันศุกร์และจะดูเพิ่มเติมสำหรับสิ่งที่พูดเกี่ยวกับค่าจ้างกว่าการจ้างงาน
ตัวเลขคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะแสดงถึงการเติบโตของงาน190,000ตำแหน่งหลังจากเพิ่มตำแหน่ง 213,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายนขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือ3.9%จาก 4.0%
อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น0.3%ซึ่งน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบเป็นรายปีคาดว่าค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นราว 2.8%ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกันในเดือนมิถุนายน
- 3 แอปเปิ้ลกับสัปดาห์ที่วุ่นวายของกำไร
ประมาณหนึ่งในสี่ของS & P 500บริษัท รายงานในสิ่งที่จะเป็นสัปดาห์ใหญ่สุดท้ายสำหรับรายได้ในไตรมาสที่สอง
Apple (NASDAQ: AAPL ) จะได้รับความสนใจมากที่สุดเมื่อรายงานเมื่อวันอังคารหลังจากปิดเสียงระฆัง ผู้ผลิต iPhone มีรายได้ด้านเทคโนโลยีที่ได้รับผลบวกอย่างมากโดยมีข้อยกเว้นที่เห็นได้ชัดคือ Netflix (NASDAQ: NFLX ), Facebook (NASDAQ: FB ) และ Twitter ( NTR : TWTR ) ซึ่งทั้งหมดได้รับผลกระทบจากการขาย การคาดการณ์ที่น่าผิดหวัง
- 4. การประกาศอัตราธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) จะประกาศการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ 1200GMT (8:00 น. ET) ในวันพฤหัสบดีนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขียนไว้ธนาคารกลางอังกฤษจะเร่งอัตราดอกเบี้ยขึ้น0.75%ซึ่งจะเกินอัตราการเพิ่มขึ้นของเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาถึง 0.5%
มันจะเป็นสัญลักษณ์ที่จะได้รับอัตรา BoE เหนือระดับต่ำสุดฉุกเฉินของการล่มสลายทางการเงินระดับโลกในปีพ. ศ. 2550-2551 เป็นครั้งแรก แต่อาจมีปัญหากับ Brexit ที่กำลังเข้าใกล้ผู้ว่าราชการ Mark Carneyอาจระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม
- 5. การประชุมนโยบายธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) คาดว่าจะเริ่มเตรียมตลาดเพื่อปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการเงินที่มีลักษณะพิเศษและไม่เหมือนใครในตอนท้ายของการประชุมสองวันนี้เมื่อวันอังคาร
สื่อรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นว่า BoJ กำลังพิจารณาการปรับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อให้เกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นเช่นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการเลือกซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงแม้จะเล็กจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีพ. ศ. 2516 และสัญญาณล่าสุดของผู้ว่าราชการ Haruhiko Kurodaกำลังค่อยๆเดินจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รุนแรงของเขาซึ่งใช้เวลาห้าปีที่ผ่านมาเพื่อสร้างความตื่นตกใจให้กับประชาชนจากความคิดลดหย่อน
หลังจากที่การพิมพ์เงินเป็นเวลากว่าครึ่งทศวรรษที่ผ่านมาล้มเหลวในการกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ BoJ อยู่ภายใต้แรงกดดันในการแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายในการผ่อนคลายที่ยืดเยื้อเช่นการกดดันผลกำไรของธนาคารจากอัตราใกล้ศูนย์ซึ่งจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 30, 2018, 01:58:03 PM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ กรกฎาคม 30, 2018, 06:52:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 08:46:45 AM
ดูเหมือน จะเกิดการช้อนซื้อ ในตลาดหุ้นเมกา จากที่เมื่อ อาทิตที่แล้วที่ ตกหวบ ดูเหมือน จะเกิดการช้อนซื้อ ในตลาดหุ้นเมกา
แนวคิดอินโด – แปซิฟิก เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นซึ่งครอบคลุมทั้งด้านการเมืองที่ต้องการให้สหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทในภูมิภาคในบริบทที่จีนได้แผ่ขยายอิทธิพลในภูมิภาคมากขึ้นเรื่อย ๆ และด้านเศรษฐกิจที่ต้องการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาครอบมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย โดยมุ่งเน้นความสนใจไปที่อินเดียและแอฟริกา ทั้งนี้ เพื่อขยายตลาดและเครือข่ายความเชื่อมโยงในภูมิภาค และแม้ว่าสหรัฐฯ หรือประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคจะมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่แนวคิดฯ ดังกล่าวจะเป็นหมุดหมายสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของหลาย ๆ ประเทศในอนาคต
ปอลิง มีอินเดียกับออสเตเรียเป็นแกนหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 09:16:35 AM
(+) หุ้นเทคโนโลยีดิ่งหนักฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 144.23 จุด
(+) ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก นักลงทุนชะลอซือขายก่อนรู้ผลประชุมธนาคารกลางรายใหญ่
(+) หุ้นเทคโนโลยีดิ่งหนัก ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 144.23 จุด
(-) ผลสํารวจชีความเชื่อมั่นทางศก.ยูโรโซนลดลงในเดือนก.ค. จากปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐ-ยุโรป
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 11:49:17 AM
การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเดือนก. ค
Headlines via Reuters:
BOJ รักษาดัชนีเป้าหมายระยะยาวไว้ข้างหลัง PCT ทำให้โครงสร้างนโยบายของ บริษัท มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
BOJ คงอัตราดอกเบี้ยจ่ายลดลงเล็กน้อยที่ -0.1 PCT
BOJ เปลี่ยนแปลงการกำหนดเป้าหมายระยะยาว
BOJ: แนวทางปฏิบัติตามนโยบายทางการเงิน
BOJ: คงที่ระดับที่ต่ำมากสำหรับระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น
BOJ: ราคาหุ้นในระยะยาวอาจเพิ่มขึ้นและลดลงจากระดับ PER ที่ขึ้นอยู่กับการลงทุนใน ECON, PRICE DEVELOPMENTS
BOJ: จะนำ JGB ไปซื้อในรูปแบบที่ยืดหยุ่นได้ดังนั้นยอดคงเหลือจะเพิ่มขึ้นเมื่อ PACE ของรอบ 80 TRLN YEN
BOJ: จะรักษาระดับที่ต่ำมากให้อยู่ในบัญชีการเงินที่ไม่เป็นหลักประกันทางบัญชีรวมถึงภาษีการขายของปีถัดไป
Cr.PU
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 31, 2018, 01:54:33 PM
ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้มีมติเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี โดยจะเปิดทางให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวเคลื่อนไหวในวงกว้างมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นยังได้ออกสัญญาณชี้นำล่วงหน้า (Forward guidance) ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากต่อไปอีกระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ BOJ ยังได้เปลี่ยนโพสิชั่นของการซื้อกองทุน ETF ไปสู่การซื้อกองทุนที่เกี่ยวข้องกับดัชนี TOPIX มากยิ่งขึ้น
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq27/2863746
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2018, 08:44:42 AM
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,233.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 15.559 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 14.3 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 845.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 931.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของสัญญาทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้น 0.14% แตะระดับ 94.245 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ยังส่งผลให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานข่าวว่า นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน กำลังเจรจากันอย่างลับๆ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2018, 09:10:50 AM
(+/-) SPDR ไม่มีความเปลี่ยนแปลงในยอดถือครองที่ 800.2 ตัน
(+) รอทองเลือกทาง!! จับตาสหรัฐฯประกาศตัวเลขคืนนี้
(-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง รับข่าวสหรัฐ-จีนเจรจาสงบสงครามการค้า
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ สูงกว่าคาดการณ์สำหรับเดือน ก.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 01, 2018, 09:11:20 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2018, 07:23:37 PM
Today
API Weekly Crude Oil Stock 5.590M -3.160M
08.45 China Caixin Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI)
13.00 U.K. Nationwide HPI
14.55 Germany Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI)
15.30 U.K. Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI)
18.00 OPEC Meeting
19.15 U.S. ADP Nonfarm Employment Change
21.00 U.S. ISM Manufacturing Purchasing Managers Index (PMI)
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
-------------------------------------------
00.00 Fed Interest Rate Decision
-------------------------------------------
เมื่อเช้าตัวเลขเศรษฐกิจน้องกีวี่ออกมาดีทุกตัว ยกเว้นว่างานที่สูงขึ้น ไม่รู้ว่าเช้านี้น้องกีวี่เป็นยังไงบ้าง
วันนี้ตัวเลขปัจจัยพื้นฐานหลากหลายให้ลุ้นเยอะ ยันเที่ยงคืนเลยทีเดียว
Stocks - S&P 500 Closes Higher Amid Trade Optimism, Tech Rebound
เมื่อคืนมีข่าวว่า สหรัฐ-จีนจะมีการเจรจากันอีกรอบ นักผจญดอยแอบเชียร์อยู่
คืนนี้เตรียมลุ้น ผลประกอบการ กับการประชุมเฟด
-----------------------------------
How You Should Trade This Month’s FOMC
เมื่อคืนก็เม้งแตก สะบัดกินรวบกันหลายคู่ มาม๊ะคืนนี้ลุ้นต่อว่าจะสะบัดกินรวบอีกรอบใหม
โดยรอบนี้เป็นที่รู้ๆกันว่าเฟดเองยังไม่มีเเอ๊กชั่นอะไร ก่อนหน้านี้ทาง BoJ ก็สังหารนักเก็งกำไรไปเรียบร้อย โดยออกข่าวว่าจะลด QE พอของจริงก็บอกว่า ยังคง QE อยู่
ปัจจัยพื้นฐานสหรัฐที่ผ่านมา ตัวเลขจ้างงานแข็งแกร่ง ดัชนีเงินเฟ้อ GDP ปรับตัวดีขึ้น ตัวเลขภาคอุตสาหกรรม และ บริการก็ขยายตัว
โดยรวมๆคืนนี้นักผจญดอยรอรายงานการประชุมเฟดว่าจะเหยี่ยวขนาดใหน หลังจากที่ก่อนหน้า เซนไตเจโพลที่ไปแถลงต่อสภาก็เหยี่ยวสุดๆ จนลุงโด้ ต้องออกมาเบรก แรงๆ
นอกจากนี้ปลายอาทิตย์ยังมี NFP อีก ดังนั้นในส่วนของ UJ ยังมีโอกาศไปต่อ
CAD น้องแมวเหมียวเมื่อคืนก็ผิดคาด ตัวเลข GDP โตเกินเหตุ ส่งผลให้น้องแมวเหมียวเเข็งค่าตามคาด ทำให้นักผจญดอยลุ้นเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เรื่อง NAFTA ที่ยังไม่คืบหน้าอาจทำให้น้องแมวเหมียวเเข็งค่าไปไม่ได้ไกลนัก คืนนี้เตรียมเฮ กับการประชุม FOMC
AUD เมื่อวานน้องอู๊ดก็ โอนะ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาใช้ได้ รวมถึง สหรัฐ-จีนก็จะมีการเจรจากันทำให้ผ่อนคลายเเรงกดดัน คืนนี้เตรียมเฮ กับการประชุม FOMC
NZD เมื่อวานยังแจ่มสู้น้องอู๊ดไม่ได้ ทั้งน้องอู๊ด น้องกีวี่เช้านี้ลุ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนก่อน คืคืนนี้เตรียมเฮ กับการประชุม FOMC
GBP ยังทรงๆตัวอยู่ รอผลการประชุม BoE รวมถึง Bank of England Inflation Report ถึงค่อยสวิงมั้ง โดยรวมๆ นักวิเคราะห์มองว่า น่าจะสวิงแรง เบรกเอ๊าท์ กันบ้างแระ อย่างไรก็ตามวันนี้ลุ้น Manufacturing PMI ก่อน คืนนี้เตรียมเฮ กับการประชุม FOMC
EUR ก็พอๆกับ GBP ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาชลอตัว วันนี้ลุ้นตัวเลขเยอรมันช่วงบ่าย คืนนี้เตรียมเฮ กับการประชุม FOMC
------------------------------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower Ahead of Inventory Data Servoล
ตัวเลขสต็อกน้ำมัน API เช้านี้ออกมาบึมส์ คืนนี้เตรียมลุ้นกับ รายงานประจำเดือนของโอเปค และ ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ
------------------------------------------------
บาท ดูแปลกๆ เริ่มแข็งๆ ยังไงพิกล ฝรั่งจะเข้ามาฉลองซัมเมอร์ ผึ่งแดดกับตลาดผักหรา....
------------------------------------------------
Metals Prices Rise on Hopes for Easing China-U.S. Trade Tensions
มิน่าเมือคืนสะบัดสะ เดี๋ยวไปสะบัดกันต่อตอนเที่ยงคืนกับ FOMC
-------------------------------------------------
ตลาดผัก ดูแปลกๆไป หรือว่าฝรั่งจะมาผึ่งแดด บามก็ดูเริ่มแข็งๆ แถม บายฟิวเจอร์กันไม่หยุด มันยังไง หรือจะเบรกกรอบแนวลุ้นของเราหว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 01, 2018, 07:27:06 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 01, 2018, 07:48:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 02, 2018, 06:33:07 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 02, 2018, 07:21:32 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 02, 2018, 06:17:33 PM
Today
08.30 Bank of Japan Deputy Governor Masayoshi Amamiya Speaks
15.30 U.K. Construction Purchasing Managers Index (PMI)
++++++++++++++++++++++++
18.00 U.K. Interest Rate Decision
18.30 Bank of England Governor Carney Speaks
++++++++++++++++++++++++
19.30 U.S. Initial Jobless Claims
Stocks - S&P 500 Closes Lower as Trade-War Jitters Offset Tech Rally
หลังจากมีข่าวว่า สหรัฐ จีนจะมีการเจรจา ตลาดก็ดีใจ แต่คล้อยหลังไม่นานทางทำเนียบขาวกลัว นักผจญดอยจะเฮ... ก็ออกมาบอกว่ากำลังพิจารณาเพิ่มการขึ้นภาษีจีน เท่านั้นเอง นักผจญดอยก็กลับมากังวลตามที่ลุงโด้ต้องการ (Trump could more than double his proposed tariffs on $200 billion of Chinese goods — and China is preparing to strike back against US 'blackmail')
เมื่อคืนตัวเลขจ้างงานก็ออกมาดีเกินคาด คาดกันว่าตัวเลข NFP ค่ำพรุ่งนี้ก็น่าจะปัง
ส่วนเซนไตเจโพลก็บอกว่า ไม่สนลุงโด้ คงเดินกน้าขึ้นดอกเบี้ยตามแผน
---------------------------------------------
BoE: Dovish Or Hawkish Hike – Or No Hike At All?
DXY เมื่อคืนการเเถลงของ FOMC ไม่ได้ช่วยดอลลร์ตามที่นักวิเคราะห์คาดหวัง (เอาน่าพรุ่งนี้มีเทกระจาดกับ NFP) มีการมองกันว่าเฟดเปลี่นคำพูดเป็นพิราบนิดหน่อย ดอลลาร์เลยถูกสังหารไป และดูเหมือนว่านักผจญดอยจะกังวลกับเรื่อง โด้-สี มากกว่า
ทางเทคนิเคล DXY กำลังผอร์มตัวใน Wedge Patter รอเบรก นักวิเคราะห์ว่างั้น
AUD NZD น่าจะยังไม่รุ่ง เพราะ ลุงโด้-สี กลับมาอีกแล้ว ยังต้องรอดูผลกระทบที่จีนจะได้รับ ตัวเลขเศรษฐกิจน้องอู๊ดก็ไม่ค่อยปัง ส่วนน้องกีวี่ตัวเลขจ้างงานดูดีขึ้นนิดเดียว คงไม่ได้ช่วยอะไร
GBP วันนี้ก็รู้ผลแระ จะขึ้น หรือ จะเลือน โดยรวมๆ มีกลุ่มหนึงมองว่า ราคาตอนนี้มัน Price-In การขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ถึงขึ้นจริง อาจเจอ Sell-Off ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่า ทาง BoE บวกกับลุงคาร์นี่ย์แถลงมีทีท่า พิราบ หรือ เสียงแตกในการขึ้นดอกเบี้ย
อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าถ้าขึ้นจริง GBP อาจจะยังวิ่งต่อไปที่แนวต้านได้อีกหน่อย
แต่ทั้งสองกลุ่มมองเหมืนกันคือ ถ้าทีท่าของ BoE ไม่เหยี่ยว หรือ เลือนขึ้นดอกเบี้ย ทีมขายจัดโปร แรงแน่ๆ ดูเหมือนว่า Up Side จะจำกัด แต่ Down Side ตรึม
Brexit เริ่มมีกระแสว่า No Deal เห็นว่า หยุด 6 อาทิตย์ ป้าเมย์ไม่หยุด ต้องเดินสาย หาเสียงสนับสนุ่น ทั้งจาก EU และ UK เพื่อการประชุมในเดือนตุลาคม
ทางเทคนิเคล GBP เคลื่อนที่อยู่ใน ชาเเนลหมี ซึ่งมองว่าเบรกบนยาก หมีดักตบ
-----------------------------------------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower After Surprise Inventory Build
ตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐเมื่อคืน ออกมาเยอะ ก็ตามนั้น
---------------------------------------------------------
Metal Prices Backtrack on Fears Over Escalating U.S.-China Trade War
ทองก็ยังทรงๆตัวอยู่ คงรอคืนพรุ่งนี้ กับ NFP มั้ง
--------------------------------------------------------
ตลาดผัก มาถึงแนวรอลุ้น ของสำนักเราจนได้ ยังเหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ ยังไม่น่ากังวล เพราะดูเหมือนว่า ทั้งต่างชาติ ทั้งกองทุน เข้าซื้อฟิวเจอร์ไม่หยุด
เมื่อวานลองลาก Gann Square มันไปได้ถึง 1760 1770 เลย เอ๊า เฮ... ลุ้นต่อไป
วันนี้ไม่มีกราฟ Windows ยัง Update ไม่เสร็จเบย คอมทำงานไม่ได้ หมุนติ้วๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 06, 2018, 11:16:48 AM
ซาอุเตรียมออกวีซ่าแก่นักการทูตอิหร่านเพื่อดำเนินการเปิด Interests Section ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านประจำซาอุ หลังความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองชาติสะบั้นลงเมื่อ 2 ปีก่อน
แหล่งข่าวทางการทูตได้เปิดเผยกับสำนักข่าวอิรนาว่ากระทรวงต่างประเทศซาอุตกลงที่ออกวีซ่าแก่นักการทูตชาวอิหร่าน เพื่อเดินทางไปเปิด Interest Section ในเมืองเจดดะห์ ซึ่งท่าทีดังกล่าวถือเป็นการสานสัมพันธ์ทางการทูตครั้งแรกหลังทั้งสองได้เผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงเมื่อ 2 ปีก่อน
*รออัพเดต*
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 06, 2018, 11:27:29 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 06, 2018, 01:00:54 PM
ด่วน...... ซาอุดีอาระเบียขับไล่เอกอัครราชทูตแคนาดาออกจากประเทศ
ในเช้าวันจันทร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดิอาระเบียเพื่อตอบสนองต่อการแสดงความวิตกกังวลของรัฐบาลแคนาดาในการจับกุมนักเคลื่อนไหวด้านกิจกรรมภาคประชาสังคมและสิทธิสตรีในซาอุดีอาระเบีย ได้ขับไล่เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำกรุงริยาดโดยให้เดินทางออกจากซาอุดีอาระเบียภายใน 24 ชั่วโมง
ซาอุดิอาระเบียยังได้เรียกทูตของตนในแคนาดากลับประเทศ และได้ระงับทุกกิจกรรมทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ในประเทศแคนาดา
ในคืนวันอังคาร ระบอบการปกครองซาอุดีอาระเบียได้จับกุมนักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิพลเมืองและสิทธิสตรีในซาอุดิอาระเบียสองคน "Samar Badawi" และ "Nasimeh al-Sadeh"
หลังจากการจับกุมนักเคลื่อนไหว ทางแคนาดาได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการจับกุมนักเคลื่อนไหวในซาอุดีอาระเบียและเรียกร้องให้ปล่อยตัว
องค์กรสิทธิระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนหลายแห่งรวมทั้งแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลและ Human Rights Watch ได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย
ตามที่องค์กรเหล่านี้ระบุ ระบอบซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในชาติอันดับต้นๆที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในโลก
สถิติของนักโทษการเมืองในซาอุดิอาระเบียมีจำนวนทั้งสิ้น 30,000 คนซึ่งเป็นตัวเลขที่มาจากความลึกซึ้งของนโยบายของตำรวจในระบอบเผด็จที่มีต่อการต่อต้านของประชาชนต่อระบอบซาอุดิอาราเบีย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 06, 2018, 01:49:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 07, 2018, 09:10:21 AM
สภาพเศรษฐกิจที่ ขึ่นๆลงๆไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่ชัดคือ ค่าอาหารที่เพิ่มขึ้นแต่รายได้เท่าเดิม จะ ส่งผลต่ออังกฤษหนตกขึ้นได้ ถ้าไม่ออกมาชี้ทิศทางให้ชัดๆว่าจะทำไง จึง มองว่า ปอน ไม่มีควาชัดเจน อะไรเลย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 07, 2018, 02:04:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ สิงหาคม 07, 2018, 04:03:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 07, 2018, 05:41:05 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 08, 2018, 09:20:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 08, 2018, 09:34:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 09, 2018, 07:23:24 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 09, 2018, 08:32:21 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 09, 2018, 08:57:11 AM
(-) SPDR ลดการถือครองเล็กน้อย -1.45 ตัน สุทธิที่ 786.08 ตัน
(+) ดอลลาร์อ่อนค่า!! รับความกังวล สหรัฐ-จีน
(-) ราคาน้ำลงแรงหลังคลังน้ำมันหลายประเทศลดน้อยกว่าคาด
(+) ดาวโจนส์ลบ 45.16 จุด วิตกสหรัฐ-จีน, หุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดหลังราคาน้ำมันลง
(+/-) เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งหลัง Fund Flow เริ่มไหลกลับ AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 09, 2018, 08:59:22 AM
ขอบคุณคับผม
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 09, 2018, 01:39:20 PM
em15.gif em15.gif em15.gif em15.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 09, 2018, 08:44:32 PM
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้ข้ามคืน สู่ระดับ 4.50% และปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืน สู่ระดับ 3.50%
ธนาคารกลางระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์มีความเสี่ยงที่จะพุ่งเกินระดับเป้าหมายในปีหน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.พุ่งแตะ 4.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.philstar.com/business/2018/08/09/1841095/bsp-delivers-strongest-policy-action-10-years-fight-inflation
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 09, 2018, 08:45:05 PM
บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอพท์ เรียกสงครามการค้าในปัจจุบันว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว ซึ่งอาจกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการจ้างงาน
เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเท่าที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีสภาพที่กำลังไปได้ดีมาก แต่อาจจะถูกกระทบจากปัญหาภาษีนำเข้าที่ประเทศต่างๆกำลังนำออกมาใช้ตอบโต้กัน
บิล เกตส์ ย้ำว่าข้อพิพาททางการค้าในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะผู้นำประเทศบางคนมีวิสัยทัศน์ที่มองเข้าหาตัวเองโดยเลือกปรับขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งคงจะทำให้เศรษฐกิจโลกไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยดี และทุกคนไม่ควรลืมว่า การค้าเป็นเรื่องที่ได้สร้างคุณประโยชน์มหาศาลให้แก่มนุษย์
ประเทศต่างๆหลายประเทศได้ถูกบีบบังคับให้เข้าไปร่วมทำสงครามการค้า โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากมาตรการที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ในสัปดาห์ที่แล้ว จีนประกาศความพร้อมตอบโต้สหรัฐด้วยการเก็บภาษีจากสินค้าสหรัฐเพิ่มอีกประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาได้สั่งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐ โรเบิร์ต ไลธิเซอร์ พิจารณาเลือกสินค้าจีนอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้นเป็น 25% จากเดิมที่จะเก็บเพียง 10%
นอกจากนั้น สหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก ก็ได้ถูกดึงให้เข้ามาร่วมเกี่ยวข้องกับปัญหาข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐ
บิล เกตส์ กล่าวว่าการใช้มาตรการทางภาษีจะสร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ระบบห่วงโซ่อุปทานที่สลับซับซ้อน
เขากล่าวว่า การที่ระบบการค้าของโลก ต้องมีอุปสรรคสิ่งกีดขวางในรูปของภาษีนำเข้าจำนวนมาก ย่อมจะเป็นปัจจัยที่จะถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และการสร้างงานใหม่ๆ
ความเห็นของผู้ก่อตั้งไมโครซอพท์ มีออกมาพร้อมๆกับคำเตือนจากองค์กรใหญ่ๆของโลกหลายแห่ง เกี่ยวกับผลกระทบที่จะมาจากสงครามการค้าโลกอย่างเต็มรูปแบบ
องค์การการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เตือนในเดือนก.ค. ว่า คำประกาศขู่ของสหรัฐที่จะใช้มาตรการภาษีกับสินค้าที่มาจากประเทศคู่ค้าต่างๆ อาจจะลดตัวเลขการขยายตัวของ GDP โลกลงปีละ 0.5% ภายในปี 2020 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าได้ถึงปีละประมาณ 430,000 ล้านดอลลาร์
แปลและเรียบเรียง โดยวิฑูรย์ อมรวิรัตนสกุล
Source: Money Channel
http://www.moneychannel.co.th/news_detail/23101/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2
- Bill Gates says trade issues are 'scary' and could put a 'burden' on global growth and jobs
https://www.cnbc.com/2018/08/08/bill-gates-trade-issues-are-scary-and-could-put-a-burden-growth.html
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 10, 2018, 12:09:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2018, 09:12:30 AM
(+/-) กองทุน SPDR ไม่มีความเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ 786.08 ตัน
(-) ดัชนี PPI สหรัฐฯ ทรงตัวผิดคาดนักวิเคราะห์ที่คาดเพิ่ม 0.2%
(+) ดาวโจนส์ปิดลบ 74.52 เครียดสงครามการค้า
(-) ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักรับข่าวดีตัวเลข ศก.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 10, 2018, 09:20:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 10, 2018, 10:31:05 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2018, 02:53:15 PM
โดยค่าเงินยูโรร่วงลงไป 0.6% แตะ 1.146 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 13 เดือน!!
ที่มา: Financial Times
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2018, 02:54:25 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 10, 2018, 05:48:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 10, 2018, 09:30:52 PM
1.เฟด หรือธนาคารกลางสหรัฐมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย
2.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลง
3.การจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Non farm payrolls เพิ่มขึ้น
4.GDP หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้น
5.ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนบวก
ข่าวที่ส่งผลบวกต่อราคาทอง
1.ข่าวสงคราม ที่มีประเทศมหาอำนาจร่วมด้วย
2.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานเพิ่มขึ้น
3.การจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Non farm payrolls ลดลง
4.GDP หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ลดลง
5.ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนลบ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 10, 2018, 10:03:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 11, 2018, 06:05:35 PM
—>ออสเตรเลีย ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5 % นอกนั้นก็ไม่ได้มีตัวเลขรายงานทางเสดกิดอะไรออกมาเลย
แคนาดา อตราการว่าจ้างดีขึ้น ก้คือประชาชนมีงานทำมากขึ้นนั่นเอง และยังส่งผลต่อยอด unemployment rate ด้วย ซึ่งลดต่ำลงไปที 5.8%
ทำให้สภาพของแคนาดาตอนนี้ถือว่าค่อนข้างแข็งเลย
อังกฤษ ยอดอัตราการเติบโตการขายปลีกตกลงมาที่ 0.5% แต่อัตราการโต ของ gdp ทั้งสามตัวยังคงที่เท่ากับไตรมาศที่แล้ว และดุลการค้าแม้จะขาดดดุลอยู่แต่ตัวเลขก็ดีขึ้นกว่าไตรมาศที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าโดยรวมอังกฤษยังดีอยู่แม้อาทิตที่แล้วีข่าวเมือนจะล้มๆ
เมกา ดัชนีราคาภาคผู้ผลิตตกลงมาที่ 0.1% แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่ก็ถือว่าเป็ฯการชะลอตัว แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตไม่ค่อยมั่นจกับสภาพตลาดในตอนนี้เท่าไหร่ แต่ดัชนีราคาของผู้บริโภัค เป็นบวกอย่างชัดเจนที่ 2.4% แสดงให้เห็ฯว่าประชาชนมีกำลังซื้อค่อนข้างมาก ซึ่งเปนผลพวงมาจากการว่างงานที่ลดลง และอัตราเงินได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย
—#$€¥%#—
**วันอังคาร 15.30 อัตราว่างงานของอังกิด คาดการณ์ว่าจะออกมาเท่าเดิมดังนั้น gbp น่าจะแข็ง คิดว่า gu คงบิน
วันพฤหัส 15.30 ยอดขายปบีกของอังกฤษ ตวเลขคาดการณืว่าจะเพิ่มขึ้นแต่ดัชนี ในอาทิตที่แล้วชี้ว่ามันลดลง ดังนั้นคาดว่า GU คงทุบ
วันศุกร์ 19.30 CPI แคนาดา ครั้งนี้มาเดี่ยวๆไม่แน่ใจว่าจะแรงมั้ย แต่คาดการณ์ออกมาเท่าเดิม ดังนั้น ucad น่าจะทุบ
—#$€¥%#—
ปอลิง.. วันนี้ว่างส่งการบ้านแล้วเด้อครู
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 11, 2018, 09:16:04 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 11, 2018, 09:57:53 PM
ณ เวลา 21.28 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.886% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.041%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ค่าเงินลีราของตุรกียังคงดิ่งลงไม่หยุดในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลง 20% เทียบดอลลาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่า
ทั้งนี้ ลีราดิ่งลง 20% แตะระดับ 6.797 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังปธน.ทรัมป์ประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อตุรกี
"ผมได้สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่า ขณะที่ค่าเงินลีราของตุรกีดิ่งลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยขณะนี้ อัตราภาษีต่อเหล็กนำเข้าจะอยู่ที่ 50% และอลูมิเนียมอยู่ที่ 20% โดยความสัมพันธ์ของเรากับตุรกีไม่ราบรื่นในขณะนี้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
การเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีมีขึ้น หลังการเจรจาซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างตุรกีกับสหรัฐ ประสบภาวะชะงักงัน
ทั้งนี้ สหรัฐเรียกร้องให้ตุรกีปล่อยตัวบาทหลวงแอนดรูว์ บรุนสัน ซึ่งถูกทางการตุรกีควบคุมตัวตั้งแต่ปี 2559 ในข้อหาให้การสนับสนุนการก่อรัฐประหารในปี 2559
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. สหรัฐได้ประกาศคว่ำบาตรต่อรัฐมนตรีมหาดไทยและยุติธรรมของตุรกี ซึ่งส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐของบุคคลทั้งสอง และชาวสหรัฐจะถูกห้ามทำธุรกรรมกับพวกเขา
นอกจากนี้ ค่าเงินตุรกียังถูกกดดัน หลังจากที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวเรียกร้องให้ชาวตุรกีแปลงสกุลเงินดอลลาร์และทองคำให้อยู่ในรูปสกุลเงินลีรา
นายเออร์โดกันกล่าวว่า ตุรกีกำลังเผชิญสงครามเศรษฐกิจ และตุรกีจะตอบโต้ประเทศที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อสงครามดังกล่าว
ผู้นำตุรกียังกล่าวว่า ดอลลาร์จะไม่สามารถสกัดการขยายตัวของตุรกี และเขาเรียกร้องให้ตุรกีเพิ่มการผลิต และการส่งออก
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานวันนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการดิ่งลงของค่าเงินลีราของตุรกีที่จะมีต่อธนาคารยุโรป โดยเฉพาะธนาคาร BBVA ของสเปน, ธนาคาร UniCredit ของอิตาลี และธนาคาร BNP Paribas ของฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ลีราได้ทรุดตัวลง 33% เทียบดอลลาร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น, การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และการที่รัฐบาลตุรกีใช้งบประมาณจำนวนมากในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้เข้าแทรกแซงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
การดิ่งลงของค่าเงินลีราจะส่งผลกระทบต่อธนาคารยุโรปที่ได้เข้าไปทำธุรกิจในตุรกี โดย ECB วิตกว่าการทรุดตัวของค่าเงินจะทำให้ภาคธุรกิจของตุรกีผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ เนื่องจากจะทำให้ลูกหนี้ในตุรกีต้องชำระหนี้ในมูลค่าของลีราที่สูงขึ้น โดยหนี้สกุลเงินต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของสินทรัพย์ในภาคธนาคารของตุรกี
ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า ภาคธนาคารของสเปนได้ปล่อยสินเชื่อแก่ตุรกีคิดเป็นวงเงิน 8.33 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารฝรั่งเศสปล่อยสินเชื่อ 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารอิตาลีปล่อยสินเชื่อ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ประเทศในยูโรโซนมีการเกินดุลการค้ากับตุรกี โดยได้ส่งออกคิดเป็นมูลค่า 6.3 หมื่นล้านยูโรในปีที่แล้ว ดังนั้น หากตุรกีประสบภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย ก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของยูโรโซนเช่นกัน
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq22/2869886
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 11, 2018, 11:08:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2018, 09:24:35 AM
(-) ผู้นำเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เตรียมนัดเจรจาปรองดองเพิ่มเติมกันในเดือนนี้
(+) ค่าเงินไลร่าอ่อนค่ากว่า15% หลังนักลงทุนกังวลวิกฤติเศรษฐกิจในตุรกี
(+/-) SPDR ไม่มีความเคลื่อนไหวการถือครองสุทธิที่ 786.08 ตัน
(+/-) เงินดอลแข็งค่ามาที่96.31จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ออกมาแย่กว่าคาดที่ 0%
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 13, 2018, 11:02:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 13, 2018, 11:32:27 AM
ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2018, 07:28:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2018, 09:07:16 PM
หมายความว่ามีโอกาสที่ทองคำจะมีแรงผลักดันทางบวก
ด้านการเมืองเมกา ศาลยกฟ้องข้อกล่าวหากับี่มูเล่อ ที่ฝ่ายทรัมออกมาบอกว่าการสอบสวนของมูเลอนั้นละเมิด
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 13, 2018, 09:26:50 PM
ข่าวความวิตกกังวลต่อวิกฤตสกุลเงินลีราของตุรกีอาจส่งผลกระทบต่อยูโรโซนทั้งหมดตามรายงานของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) เนื่องจากการทรุดตัวของค่าเงินลีราจะทำให้ภาคธุรกิจของตุรกีผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศ
นอกจากนี้ ประเทศในยูโรโซนมีการเกินดุลการค้ากับตุรกี ดังนั้น หากตุรกีประสบภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย ก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของยูโรโซนเช่นกัน
สกุลเงินลีราของตุรกีดิ่งลงไปถึง 20% แตะระดับ 6.797 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีกสองเท่า
ทั้งนี้ ปกติแล้วหากเกิดเหตุวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทองคำจะถูกเข้าซื้อในฐานะสินทร้พย์ปลอดภัยส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 13, 2018, 10:30:31 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 14, 2018, 03:43:31 PM
แนวรับ : 1198 หรือ 18,890
แนวต้าน : 1192 หรือ 18,8865
ยังคงคาดการณ์เหมือนเมื่อเช้าคือราคาทองคำโลกเคลื่อนตัวในกรอบ 1192 ถึง 1198 แต่เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นจึงทำให้ราคาทองคำไทยปรับลดลง
สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ยังไม่ได้เข้าซื้อให้เข้าซื้อที่แนวรับ 1192 หรือ 18865 และขายทำกำไรสั้นๆที่ราว 1198 หรือ 18890 ส่วนนักลงทุนระยะกลางถึงยาว
แนะนำให้รอดูสัญญาณการเลือกทางที่ชัดเจนเหมือนที่ได้วิเคราะห์ไปในภาคเช้า
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 14, 2018, 04:03:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 15, 2018, 09:11:27 AM
(-) SPDR ลดการถือครอง 7.97 ตัน สุทธิที่ 776.65 ตัน
(-) ดาวโจนส์ปิดบวกแรง 112.22 จุด รับข่าวเงินตุรกีฟื้น
(-) บอนด์ยีลต์ U.S.
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 15, 2018, 08:18:00 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 16, 2018, 09:50:58 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 16, 2018, 09:54:55 AM
ไปเร็วเลย
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 16, 2018, 11:37:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 17, 2018, 10:17:19 AM
(-) SPDR ขาย1.18ตัน ถือครองสุทธิที่ 773.41 ตัน
(-) ดาวโจนส์ปิดบวกแรง!! 396.32 จุด หลังสหรัฐฯและจีนมีแนวโน้มบวกในการกลับมาตกลงทางการค้า
(+) ทรัมป์ยังคงยืนยันอนากให้ค่าเงินดอลอ่อนค่าเพื่อช่วยภาคการส่งออก
(-) นโยบายการค้าล่าสุดของทรัมป์ได้หนุนให้ US dollar index ขึ้นไปถึง 96.5
(+/-) นักวิเคราะห์ธปทให้มุมมองรัฐบาลทั่วโลกได้แทรกแซงค่าเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังศกโลกมีความผันผวน
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 17, 2018, 10:20:33 AM
m:17 m:17 m:17 m:17 m:17
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 17, 2018, 10:21:05 AM
AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 17, 2018, 11:16:07 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 17, 2018, 11:32:32 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 17, 2018, 07:07:25 PM
เมื่อวานนี้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ทำให้ EUR และ GBP มีโอกาศฟื้นตัวทดสอบแนวต้านได้ อย่างไรก็ตามเราจะสังเกตเห็นว่า EURUSD ไม่หลุดแนวต้านที่ 1.1400 และ GBPUSD ที่ 1.2750
ความต้องการเงิน USD ยังคงสูงมาก ถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวลงตามเทคนิค หรือจะมีการบีบตัวระยะสั้นใน EUR หรือ GBP
เหตุผลที่ EURUSD ไม่สามารถที่จะอยู่สูงกว่า 1.1400 ได้น่าจะมาจาก การที่สหรัฐเพิ่มการคว่ำบาตรต่อตุรกี เพราะเขาปฏิเสธที่จะปล่อยตัวบาทหลวงชาวอเมริกันที่ถูกช่วยไว้จากผู้มีอำนาจชาวตุรกี
ขณะที่ สกุลเงินที่จับคู่กับ JPY ก็ปรับตัวขึ้นด้วย จากข่าวที่ว่าจีนและสหรัฐจะมีการหารือกันเรื่องการค้าที่วอชิงตันในสัปดาห์หน้า
นายโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า “มีเงินไหลเข้าที่สหรัฐอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” ประเด็นนี้ถูกติดตามโดยที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของเขา Larry Kudlow กล่าวว่า “มันแสดงถึงความเชื่อมั่นในสหรัฐ”
ผมคิดว่าทางทีมบริหารของทรัมป์ ต้องการให้ USD อ่อนค่าลง ผมเดาว่าในใจของทรัมป์ ถ้า USD แข็งค่าขึ้นได้ เขาก็ต้องการความเชื่อถือจากผู้คน ว่าเขาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งกาจ
ข้อมูลที่น่าติดตามวันนี้คือ CPI เดือนกรกฎาคม ของ Euro Zone และ Canada
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 17, 2018, 07:18:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 20, 2018, 09:48:34 AM
...ตลาดเอเชียมีโอกาสโดนโจมตีจากการแซงชั่นของมกา ต่อ หลังจากที่ ศาล ตุรกีไม่ยอม ปล่อยตัว อาจารสอนศาสนาชาวเมกา
....ในวันพฤหัส จะได้ผลสรุป การเจรจา นาฟต้า เทกา กับ แม้กซิโก วันเดียวกัน จะเริ่มมีการประชุมเฟด
....วันศุก เจโรมี โพเวล จะมา อาจมีแถลงการ สั้น ซึ่ง แนวโน้มคือ การปรับดอกเบี้ยในเดือนกันยา
จึงบอกได้ว่า ดอลล่ายังไปต่อ ได้ ทองมีโอกาสลงได้
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 20, 2018, 10:55:59 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ สิงหาคม 20, 2018, 07:26:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 21, 2018, 01:53:00 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 21, 2018, 03:00:32 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 21, 2018, 04:53:10 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 23, 2018, 08:34:37 AM
ช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาน้อยครั้งนัก ที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะวิจารณ์เฟด เนื่องจากความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งต่อเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจ แต่ทรัมป์ฉีกขนบเดิมประกาศว่า เขาจะวิจารณ์อีกหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเดือน ก.ค.ทรัมป์เคยเขย่าขวัญ นักลงทุนด้วยการวิจารณ์นโยบายการเงิน ตึงตัวของเฟด ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นประธานาธิบดีสหรัฐ เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เฟดควร ยืดหยุ่นเรื่องอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้
"ผมไม่ตื่นเต้นเลยที่เขาขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ไม่เลย ไม่ตื่นเต้น" ทรัมป์กล่าวถึง พาวเวลล์ ที่เขาเสนอชื่อเมื่อปีก่อน ให้ดำรง ตำแหน่งประธานเฟดแทนเจเน็ต เยลเลน ราคาหุ้นสหรัฐร่วงลงทันทีหลังทรัมป์ แสดงทัศนะ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับ สกุลเงินหลักอื่นๆ
สมัยลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์วิจารณ์เฟดว่า ประเทศอื่นล้วน ได้ประโยชน์จากธนาคารกลางของตน ระหว่างที่กำลังเจรจาการค้าดุเดือด แต่สหรัฐ ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากเฟด
"เรากำลังเจรจาอย่างเอาเป็นเอาตาย กับประเทศอื่น และกำลังจะชนะอยู่แล้ว แต่ระหว่างเข้าด้ายเข้าเข็ม ผมควรได้รับ แรงสนับสนุนจากเฟด ประเทศอื่นเขาได้ ประโยชน์จากธนาคารกลางของเขา กันทั้งนั้น"
ปีนี้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้ง และจะขึ้นอีกในเดือนหน้า หลังจากเงินเฟ้อ ผู้บริโภคขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.9% ในเดือน ก.ค. สูงสุดในรอบ 6 ปี การว่างงานอยู่ที่ 3.9% ต่ำสุดในราว 20 ปีหลังจากปล่อยให้อัตรา ดอกเบี้ยนโยบายต่ำเป็นประวัติการณ์ราว 6 ปี หลังวิกฤติการเงินโลกเมื่อปี 2551 เฟดก็เริ่ม ทยอยขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเมื่อปลายปี 2558
นอกจากนี้ท่ามกลางกระแสข้อพิพาท การค้านานาประเทศ ทรัมป์ยังกล่าวหาจีน และยุโรปอ่อนค่าเงิน ระบุว่าจีนนั้นปรับค่า เงินหยวนเพื่อนำมาชดเชยกับภาษีนำเข้า ที่ถูกรัฐบาลวอชิงตันเรียกเก็บ
"ผมคิดว่าจีนกำลังอ่อนค่าเงินของตัวเอง แน่นอนเลย และผมคิดว่ายูโรก็ทำแบบ เดียวกันด้วยเพื่อชดเชยกับเงินที่ต้อง จ่ายไปหลายร้อยล้านดอลลาร์ บางทีก็ หลายพันล้านดอลลาร์เข้าคลังสหรัฐ พวกเขาก็เลยต้องจัดการให้เหมาะสม แต่ผมไม่ทำแบบนั้น แล้วผมก็ชนะอยู่ดี"
บ่อยครั้งที่ทรัมป์กล่าวหาจีนด้วยเรื่อง ทำนองนี้ กระนั้นรัฐบาลของเขาก็ยัง ไม่ยอมประกาศชื่อจีนอย่างเป็นทางการ ว่าเป็นประเทศปั่นค่าเงิน ในรายงานภาค ครึ่งปีของกระทรวงการคลัง
ด้านโฆษกเฟดไม่ได้ให้ความเห็นต่อ ทัศนะของประธานาธิบดี เดือนก่อนพาวเวลล์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า เฟดเป็นอิสระจาก ข้อกังวลทางการเมืองมานานแล้ว และ ไม่เคยมีคนในรัฐบาลทรัมป์มาพูดอะไร กับเขาเป็นพิเศษ
"เราก็ทำงานของเราไปอย่างเป็นกลาง ทางการเมือง ไม่เอาประเด็นทางการเมือง มาพิจารณา ทำตามอาณัติที่คองเกรส ให้เรา" พาวเวลล์กล่าว
นอกเหนือจากเลือกพาวเวลล์ เป็นประธานเฟดแล้ว ทรัมป์ยังแต่งตั้ง เรนเดล ควอลส์ เป็นคณะกรรมการบริหาร อีก 1 คน และเสนอชื่อกรรมการอีก 3 คน ในจำนวนนี้คาดว่า วุฒิสภาจะรับรอง 2 คน ในเร็วๆ นี้ ยังเปิดโอกาสให้ทรัมป์แต่งตั้ง ได้อย่างน้อยอีก 1 คน
เมื่อถามว่า เขาเชื่อในความเป็นอิสระ ของเฟดหรือไม่
"ผมเชื่อว่าเฟดกำลังทำในสิ่งที่ดีกับ ประเทศ ส่วนผมแฮปปี้กับคนที่เลือกมั้ย น่ะเหรอ (พาวเวลล์)? อีก 7 ปีค่อยบอก แล้วกัน"
Source: กรุงเทพธุรกิจ
เพิ่มเติม
- Jerome Powell privately promises Fed’s independence amid Trump’s public attacks : https://www.washingtonpost.com/business/economy/powell-privately-promises-feds-independence-amid-trumps-public-attacks/2018/08/21/9cb4729a-a571-11e8-a656-943eefab5daf_story.html?noredirect=on&utm_term=.f0dce9f2069d
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2018, 09:22:59 AM
แต่ทรัมป์ฉีกขนบเดิมประกาศว่า เขาจะวิจารณ์อีกหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ สิงหาคม 23, 2018, 10:19:35 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 23, 2018, 10:26:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 23, 2018, 03:48:22 PM
รัสเซียทูเดย์ - ธนาคารกลางรัสเซียซื้อทองคำ 26.1 ตันในเดือนกรกฏาคม ถือเป็นการเข้าซื้อเดิอนเดียวมากสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2017 ทำให้ปริมาณทองคำสำรองที่อยู่ในความครอบครองเพิ่มขึ้นเป็น 2,170 ตัน ตามข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ที่รวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
ข้อมูลบนเว็บไซต์ของธนาคารกลางรัสเซียระบุว่ามูลค่าทองคำสำรองในช่วงสิ้นเดือนที่แล้วอยู่ที่ 77,400 ล้านดอลลาร์(ราว 2.5 ล้านล้านบาท) แต่หากคิดตามราคาในปัจจุบัน คลังทองคำสำรองของรัสเซียจะมีมูลค่าราว 83,600 ล้านดอลลาร์(ราว 2.7 ล้านล้านบาท)
การถือครองทองคำของรัสเซียขยับเข้าใกล้ระดับพีคสุดสมัยโซเวียตที่ตอนนั้นมีปริมาณทองคำสำรอง 2,800 ตัน ช่วงปี 1941 โดยช่วงทศวรรษที่แล้ว ปริมาณทองคำสำรองของประเทศแห่งนี้เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ในขณะที่รัสเซียเดินหน้าลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ
ตามข้อมูลพบว่ารัสเซียลดการถือครองสินทรัพย์ตราสารหนี้ของอเมริกาจาก 96,100 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม เหลือเพียง 14,900 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม
ความเคลื่อนไหวเข้าซื้อทองคำเพิ่มของรัสเซีย มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อมอสโก โดย ดมิทรี ตูลิน รองผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซียคนที่ 1 บอกว่ามอสโกมองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ได้รับประกันทางกฎหมายและรองรับความเสี่ยงทางการเมืองได้แบบ 100%
ธนาคารกลางแห่งนี้ยังชี้แจงด้วยว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระจายคลังสำรองของประเทศให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงดอลลาร์
สภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่ารัสเซียไม่ใช่แค่ผู้ซื้อทองคำอย่างเป็นทางการรายใหญ่ที่สุด แต่ยังเป็นชาติผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกด้วย โดยธนาคารกลางรัสเซียซื้อทองคำจากเหมืองภายในประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้แค่ทศวรรษที่แล้วช่วงเดียว เหมืองรัสเซียสามารถผลิตทองคำได้มากกว่า 2,000 ตัน และคาดหมายว่ากำลังผลิตทองคำรายปีของรัสเซียจะเพิ่มขึ้นอีก 400 ตันภายในปี 2030
ผู้จัดการ online
------------------------------------------
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 23, 2018, 04:00:50 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 23, 2018, 08:31:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 28, 2018, 11:15:48 AM
(+/-) SPDR ไม่เปลี่ยนแปลง ถือครองสุทธิเท่าเดิมที่ 764.58
(-) ดาวโจนส์ ปิดบวก 259จุด รับข่าวข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก
(+/-) สหรัฐและเม็กซิโกผ่านข้อตกลงทางการค้ากันได้แล้ว แต่ยังไม่ใช่NAFTA เนื่องจากแคนาดายังไม่ตกลงด้วย
(+) ทรัมป์เผย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาคุยเรื่องการค้ากับจีน แต่คาดว่าเวลานั้นน่าจะมาถึงในซักวันนึง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 28, 2018, 11:21:39 AM
รวมถึงเมื่อคืนก็ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่1212ได้ และเมื่อดูจากเครื่องมือRSI ที่ลงมาแถวๆ 40 เป็นการส่งสัญญาณว่าการพักฐานในขาขึ้นใกล้จะจบลง และทองจะรีบาวด์ขึ้นต่อได้แล้ว แนะนำรอเข้าซื้อได้ที่แนวรับ 1209 และ 1203 ไปขายทำกำไรสั้นๆได้ที่ 1212 หรือ ระยะกลางที่ 1220
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ สิงหาคม 28, 2018, 12:06:51 PM
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ สิงหาคม 28, 2018, 12:08:46 PM
เริ่มหัวข้อโดย: niwat ที่ สิงหาคม 28, 2018, 12:09:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 28, 2018, 12:33:52 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 28, 2018, 12:44:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 29, 2018, 10:14:41 AM
ตามที่ผมวิเคราะห์อยู่ในเวฟ B ทำขาขึ้น 1-5
สันนิษฐานไว้ก่อนน่าจะขึ้นแบบ Zigzag (5-3-5)
เวฟ 5 น่าจะจบดูจากการเกิดสัญญาณ Price Pattern กลับตัว และอินดี้เกิดไดเวอเจนใน TF Day
ขาขึ้นชุดแรกของเวฟ B จบจะต้องทำขาลง A-B-C ต่อ จะลงเท่าไหร่ไม่รู้?
แต่ให้เปรียบเทียบ Retrace A เพื่อนำมาเทียบกับ Retrace B ที่จะเกิดขึ้น
ผู้รู้เขาว่ากันว่ามันจะต้องสัมพันธ์กันทั้งเรื่องเวลาและขนาด หรือใกล้เคียงกัน
Retrace A เวฟ 3x ไป 4 ใช้เวลา 8 แท่งสัปดาห์ ขึ้นมา 3.90 จุด
ฉะนั้นใน Retrace B จะต้องใกล้เคียงกัน (ผมประเมินไว้หลังจากนี้อีก 3-5 แท่ง)
และอีกประเด็นคือขาขึ้น WAVE A มา WAVE B
ใช้เวลาขึ้น 18 แท่ง เขาว่ากันว่าเวลาพักต้องพัก
อย่างน้อย 1ใน 3 นั่นหมายถึงต้องพักอย่างน้อย 6 แท่ง มากกว่าได้มั้ย "ตอบว่าได้ครับ"
ฉะนั้นในชุด Retrace B มุมมองส่วนตัวยังมองว่า
usd ยังลงอยู่ตามที่กล่าวข้างต้นครับ
เมื่อจบเวฟ B แล้วจะต้องมีเวฟ C อีก 1 เวฟ
สิ่งที่ต้องสังเกตุเรื่องเวลา
เวฟ 5 มา A ใช้เวลาประมาณ 1 ปี
โดยปกติแล้ว B จะต้องไม่ยาว A
ส่วน C ยาวได้ตั้งแต่ fibo 38.2 จนถึง 161.8 ของ A
ผมจะคอยอัพเดทหลังจบ Retrace B อีกครั้ง
สุดท้ายนี้ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 29, 2018, 12:16:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 30, 2018, 08:36:03 AM
Today
06.50 Japan Retail Sales
08.00 New Zealand ANZ Business Confidence
14.55 Germany Unemployment Change
19.30 Canada Gross Domestic Product (GDP)
Stocks - S&P Closes Above 2,900 for First Time on Tech, Trade Optimism
ตลาดหลักทรัพย์ยุคลุงโด้ หยุดไม่อยู่ โดยรวมนักผจญดอยมองเเง่บวกกับการเจรจา U.S-Canada ในอาทิตย์หน้า หลังจากที่ Mexico คลี่คลายไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ตัวเลข GDP สหรัฐยังขยายตัวเกินคาด สมกับยุค พระศรีโด้จริงๆ
-------------------------------------
Cable Jumps 1%: Is 1.32 Next?
นับว่ากลับจากพักร้อนของฝรั่ง ก็อบอุ่นเลยที่เดียว การเจรจาการค้าคืบหน้า ออกโทนอบอุ่น คาดกันว่าอาทิตย์หน้าการเจรจากับ แคนาดา และ อียู ก็น่าจะชื่นมื่น ตัวเลขเศรษฐกิจสหัฐสะท้อนผ่าน GDP ก็โตกว่าคาด หักปากกาเซียนกันหมด วันนี้รอลุ้น Thursday’s personal income and spending reports คาดกันว่าน่าจะแจ่มแมวเช่นกัน เหลือรออารมณ์นักผจญดอยลุ้นเฟดกลับลำ
GBP ดีดดึ๊งๆไปกว่า 1% หลังจากที่ทาง Brexit Secretary Dominic Raab ออกมาบอกว่าทาง European Union’s Chief Brexit negotiator Barnier ไม่ยอมเจรจา จนเกิดแรงกดดันอย่างแรงอยู่ไม่ใหวต้องออกมาบอกว่า ทาง EU มีข้อเสนอพิเศษให้อังกฤษแบบสุดๆ นอกจากนี้ในที่สุด Brexit Secretary Dominic Raab ก็จะไปเจรจาในวันศุกร์นี้ นี่แระคือสิ่งที่นักผจญดอยรอ
ถึงแม้ว่า EU ยังไม่ได้ตกลง แค่ EU อยากเจรจา แค่นี้ก็พอเเล้วที่จะส่ง จะดัน GBP
เห็นมีรายงานว่า นักผจญดอยเริ่ม Short หนักๆ เมื่อวาน สุดท้ายต้องรีบทำ Short Covering กันแทบไม่ทัน เเหม ฝรั่งก็มีกินเม่า เหมือนกัน
EUR ถึงเวลา Pull Back หรือยังหลังจากที่เเรลลี่ปฎิเสธตัวเลขชลอตัวทางเศรษฐกิจของ เยอรมันและฝรั่งเศษ ส่วนเรื่องอิตาลี่ก็มีความไม่แน่นอน และ ความเสี่ยงสูง อาจเกิดอาการทิ้ง EUR เข้า GBP
CAD น้องแมวเหมียวยังทรงๆตัว (จะเเอบเป็นเเบบ GBP ใหมน้า) เพราะกำลังรอลุ้นข่าวดีการเจรจากับสหรัฐ แต่ดูเหมือนว่านักผจญดอยมองว่าน่าจะไม่ใช่ข่าวดีเพราะแคนาดาจะถูกมัดมือชกสะมากกว่าเมื่อเทียบกับ เม๊กซิโก
อย่างไรก็ตามคาดกันว่า น้องแมวเหมียวน่าจะเลือกข้างตาม ป้าเมย์ไปเร็วๆนี้
AUD น้องอู๊ดเห็นว่าร่วง ได้ข่าวว่าทาง Westpac มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินท่าน้ ส่งผลกระทบกับพวกมีหนี้ที่ต้องชำระ และทำให้การที่ RBA จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่ลุ้นกัน ท่าทางจะไม่เกิด
NZD น้องกีวี่ วิ่งตาม EUR และ GBP ไป ทั้งคู้ยังต้องรอลุ้นตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
------------------------------------
Crude Oil Prices Settle at 3-Week Highs as Supplies Sink, Iran Exports Ease
เมือคืนน้ำมันมีข่าวดี 2 เรื่องคือ น้ำมันส่งออกจากอิหร่านลดลง บวกกับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเมื่อคืนก็ต่ำคาด (แพงอีกแล้ว)
------------------------------------
Metals Prices Mixed as Copper Pares Gains on China Slowdown Concerns
ทองดูทรงๆตัวยังไงพิกล ดอลลาร์ Pull Back ก็ยังดูเฉยๆ แปลกๆ
-----------------------------------
ตลาดผักก็ยังไม่มีอะไร ดูยังอายๆ ที่จะเบรกอยู่ ช่วยกันดันหน่อย พี่น้อง สหรัฐเค้านำไปแล้วกับพระศรีโด้ เราก็ยังรอพระศรีตู่ อยู่
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 30, 2018, 09:41:48 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 30, 2018, 01:10:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 30, 2018, 02:34:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ สิงหาคม 31, 2018, 11:22:10 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 05, 2018, 06:40:32 AM
เป็นบทความสั้นๆ บอกเล่าพัฒนาการทางจิตวิทยาที่ผู้เล่น Forex ส่วนใหญ่มักจะต้องประสบ ซึ่งตอนเข้าสู่ตลาด Forex ใหม่ๆ ผมก็เคยอ่านแล้วแต่ไม่ได้ติดใจอะไร จนกระทั่งอยู่ในตลาดมาเป็นปีแล้วนั้นแหละ พอได้อ่านอีกรอบถึงรู้สึกว่า มันตรงจริงๆ
ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของบทความเป็นใคร แต่ผู้ที่นำมาเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักกัน คือ Dial แห่ง Forex Factory
ระยะที่ 1 - ง่ายจัง รวยเร็ว ลงทุนเลยดีกว่า!!
ต้นฉบับใช้คำว่า Unconscious Incompetence แปลง่ายๆ คือ ไม่รู้ตัวว่าเทรดไม่เป็น
ความประทับใจแรกพบ (ผิดๆ) ของทุกคนที่เริ่มรู้จักกับ Forex ก็คือ... มัน ง่าย!
ก็จริงไหมล่ะ กราฟมันวิ่งได้แค่ 2 ทางเท่านั้นเอง คือขึ้นกับลง จะไปยากอะไร? ความประทับใจดังกล่าวมีแต่จะยิ่งถูกตอกย้ำจากเรื่องเล่าต่างๆ เช่น เศรษฐีเงินล้านรวยจาก Forex มั่งล่ะ เพิ่มเงินลงทุนเป็นเท่าตัวมั่งล่ะ ... ซ้ำร้ายกว่านั้น พอคุณลองเล่น Demo ก็ฟลุคๆ ได้กำไรเสียอีก
คุณเริ่มคิดว่า นี่แหละคือเส้นทางสู่อิสระภาพทางการเงินของเรา เทรดเดอร์มือใหม่จึงมักกระโจนเข้าสู่ตลาดจริงทันทีเพราะอยากรีบทำเงิน ไม่อยากเสียโอกาสทำกำไร
แต่อนิจจา มันก็เหมือนคนเดินดินธรรมดา ที่จู่ๆ ก็ลำพองใจกระโดดขึ้นเวทีชกกับบัวขาวนั่นแหละ
คุณเทรดไม่หยุด นั่งเฝ้าหน้าคอม 24 ชั่วโมง อิสระภาพที่คุณนึกฝันไม่เหลือแม้แต่เงา พอแทงขาลงกราฟก็วิ่งขึ้น เปลี่ยนมาแทงขาขึ้นกราฟก็ดันวิ่งลง พอฟลุ๊กๆ แทงถูกทางก็ยิ่งตอกย้ำลงในสมองเราว่า มัน ง่าย จริงๆ ด้วย! ทำให้ยิ่งแทงหนัก เสี่ยงหนักเข้าไปอีก
ผมใช้คำว่า "แทง" เพราะในระยะนี้ เราเล่น Forex แบบ เล่นพนัน จริงๆ ยิ่งเสียยิ่งแทงมากขึ้นเป็นทวีคูณ หวังว่าชนะทีเดียวจะคืนทุนได้หมด พอพอร์ตเริ่มร่อยหรอก็แทงหมดตัว... ลงเอยอย่างไรเป็นที่รู้กัน
แน่นอน คุณลงจากสังเวียนอย่างสะบักสะบอม ทั้งจิตใจทั้งกระเป๋าเงินชอกช้ำไม่มีชิ้นดี ... คนส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่ระยะต่อไป
ระยะที่ 2 - เรามันอ่อนหัดเหลือเกิน!!
พอแพ้น็อคไม่เป็นท่าจากยกแรก หลายๆ คนจึงตาสว่างว่าตลาด Forex มีอะไรมากกว่าที่คิด
... คุณรู้ตัวแล้ว ว่าคุณเทรดไม่เป็น!
(อีกส่วนหนึ่งจะคิดว่า Forex คือการแทงดีชัดๆ และเลิกเล่นไป)
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาที่จะเริ่มศึกษาหาความรู้ คุณอ่านทุกอย่าง เวบ หนังสือ บทความ e-book ทั้งร่วมงานสัมนา จ่ายเงินเรียน ฯลฯ
คุณเริ่มเรียนรู้ระบบเทรดและนำระบบหลายตัวมาทดลองใช้ คุณเริ่มใช้ Indicator (อินดี้) เริ่มตื่นเต้นเมื่อค้นพบระบบหรืออินดี้ใหม่ๆ บางระบบคุณถึงกับควักกระเป๋าซื้อ คุณพยายามซื้อที่จุดต่ำสุดและขายที่จุดสูงสูงโดยใช้อินดี้มากมายเข้าช่วยหาจุดกลับตัว พอราคาไม่วิ่งไปในทางที่คิดคุณเริ่มหัวฟัดหัวเหวี่ยงและยิ่งเปิดเทรดสะเปะสะปะมากขึ้น และผมเชื่อว่าแทบทุกคนจะต้องเคยลองเทรดด้วยบ็อทอัตโนมัติ (EA) มาแล้วทั้งนั้น... แต่ก็ไม่เป็นผล
คุณเริ่มถามคำถามมากมายกับเทรดเดอร์ผู้ประสบความสำเร็จ พวกเขาแนะคุณเรื่องจิตวิทยาและการบริหารความเสี่ยง แต่คุณไม่สน คุณไม่ได้อยากฟังเรื่องไร้สาระพวกนั้น คุณอยากรู้วิธีทำกำไรต่างหาก... บางคนอาจลอง copy trade ตามมืออาชีพ หรือกระทั่งจ่ายเงินซื้อสัญญาณเข้าออกจากหลายๆ เซอร์วิส
หลายคนดวงซวยยิ่งกว่าเมื่อเจอนักต้มตุ๋นในคราบท่านรู พาคุณเทรดไปด้วยกันจนหมดเนื้อหมดตัวกันเป็นแถว
หลายคนถึงกับคิด ว่า ผู้ที่กำไรจาก Forex เป็นเรื่องโกหก ไม่มีทางทำได้จริง! ... ทว่า คุณก็ยังเห็นพอร์ตของผู้มีประสบการณ์เติบโตต่อไป ในขณะที่ของพอร์ตคุณหดเล็กลง เล็กลง
นี่เป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุด อาจกินเวลาได้ตั้งแต่ 2-3 เดือนจนถึง 2-3 ปี...
- เทรดเดอร์ 80% ล้มหายตายจากไปในระยะนี้
- 60% เลิกไปใน 3 เดือนแรก
- อีก 20% เลิกไปใน 1-2 ปี
- เหลือเพียง 20% เท่านั้นที่ยังคงดั้นด้นไม่ยอมแพ้
หลายคนเสียเงินเรียนมากมาย บางคนล้างพอร์ตหลายพอร์ต บางคนอาจเลิกไปแล้วกลับมาใหม่ถึง 3-4 รอบ ความเครียด ความสับสน ความไม่เข้าใจ มีแต่จะทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่แล้ววันหนึ่ง อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย... คุณก็จะเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 - จู่ๆ ก็เข้าใจ...
คำแนะนำที่คุณเมิน ไม่สนใจ อยู่ๆ คุณก็รับฟังมันขึ้นมาเฉยๆ อาจเพราะมันค่อยๆ ซึมซับลงในสมองคุณก็ได้ ...
คุณเริ่มเข้าใจว่าระบบไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเลย อาจจะมีอินดี้แค่ตัวเดียวก็ทำกำไรได้
คุณเริ่มเห็นความสำคัญ ของการบริหารความเสี่ยงและบริหารเงินทุน
คุณเริ่มอ่านและศึกษาเกี่ยวกับจิตวิทยาการเทรด แทนที่จะมุศึกษาแต่การวิเคราะห์กราฟ
คุณเริ่มยอมรับความจริง ว่า ไม่มีใครรู้อนาคต จริงอยู่เราอาจจะคาดเดาทิศทางได้ แต่มันไม่มีทางถูก 100% เราไม่รู้ ไม่มีทางรู้
จากที่เคยเปลี่ยนระบบสลับไปสลับมา คุณเริ่มใช้เพียงระบบเดียวที่ตรงใจคุณที่สุด และขัดเกลาปรับปรุงจนเหมาะกับนิสัยและการเทรดของคุณเอง
คุณเริ่มกำหนดกฏเกณฑ์และวางวินัยในการเปิดออเดอร์ สามารถตัดใจได้เมื่อเห็นสัญญาณซื้อขายที่ไม่ได้คุณภาพ คุณรู้ว่าระบบของคุณทำกำไรในระยะยาวได้แน่ๆ คุณเริ่มเข้าใจว่าเทรดจะติดลบบ้างไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือภาพรวมต่างหาก
กฏเกณฑ์และวินัยคือเกราะป้องกันตัว ในขณะที่ความสม่ำเสมอและระเบียบวินัยคืออาวุธของเรา ในตลาด Forex
ระยะที่ 4 - ทำตามกฏที่ตั้งไว้อย่างเข้มงวด
ถึงจุดนี้ คุณรู้ตัวแล้วว่าคุณมีความรู้ความสามารถเพียงพอ รู้ว่าระบบของคุณทำกำไรได้
ความมั่นใจตรงนี้ทำให้คุณเทรดได้อย่างวางใจมากขึ้น สามารถเก็บกำไรและตัด Stoploss ได้โดยไม่เอาอารมณ์หรือความรู้สึกมาเกี่ยว
คุณยังคงขัดเกลาระบบ จิตวิทยา และความสามารถของตัวเองต่อไป และยิ่งสั่งสมประสบการณ์ แนวโน้มการทำกำไรของคุณก็ยิ่งมากขึ้น
เพียงไม่ถึงปีเท่านั้นคุณก็จะเข้าสู่ระยะต่อไป
ระยะที่ 5 - การเทรด กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
คุณเทรดได้โดยไม่ต้องนึกถึงมันเลย
เหมือนคนว่ายน้ำเป็น กระโดดลงน้ำก็ลอยตัวได้โดยไม่ต้องคิด
เหมือนคนขับรถเป็น สตาร์ทรถแล้วก็ขับได้โดยสัญชาติญาณ
สิ่งที่เรียนรู้มาได้หล่อหลอมซึมซับจนเป็นกิจวัตรไปแล้ว การเทรดไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรอีกต่อไป ตรงกันข้าม อาจกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ มันก็แค่การทำงานหาเงินอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง จะเทรดได้เทรดเสียก็ไม่ทำให้คุณรู้สึกยินดียินร้ายแต่อย่างใด
คุณกลายเป็นผู้มีประสบการณ์ มีผู้เลื่อมใส มีผู้นับถือ มีน้องๆ ถามคำถาม คุณให้คำแนะนำแก่รุ่นน้องอย่างจริงใจ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาไม่ฟัง คุณรู้ เพราะคุณเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว
ฝีมือ สายตา และระบบของคุณยังคงเหมือนเดิม และพัฒนาขึ้น พัฒนาขึ้น เรื่อยๆ
จุดนี้แหละครับ ที่ถือว่า คุณ เป็นเทรดเดอร์มืออาชีพแล้ว
----------------------------------------------------------------------------------------
หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้นะครับ บางคนอาจเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มาแล้วกับตัว
สิ่งที่จะลืมไม่ได้ คือ ผู้ที่เข้าสู่ตลาด Forex มีไม่ถึง 5% เท่านั้นที่จะฝ่าฟันมาถึงระยะที่ 5 ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความเก่งครับ แต่เป็นทัศนะคติและมุมมองมากกว่า
Forex ไม่ใช่ รวยเร็ว
Forex ที่ประสบความสำเร็จ ต้อง รวยช้า ครับ
ขอบคุณครับ
ก๊อปมานะคับ cr.เจ้าของบทความ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 05, 2018, 07:18:23 AM
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ กันยายน 05, 2018, 07:20:47 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 05, 2018, 10:03:33 PM
การเปลี่ยนตำแหน่งในเยอรมันตำแหน่งในสหราชอาณาจักรอาจช่วยลดเส้นทางสู่ข้อตกลงของ Brexit ได้
มีสัญญาณของความคืบหน้าในการสนับสนุนชายแดนไอร์แลนด์
Bloomberg รายงานว่าทั้งรัฐบาลอังกฤษและเยอรมันได้ละทิ้งความต้องการ Brexit ที่สำคัญโดยอ้างว่าคนคุ้นเคย
พวกเขากล่าวว่าเยอรมนีพร้อมที่จะยอมรับข้อตกลงที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตในการเสนอราคาเพื่อทำข้อตกลง สหราชอาณาจักรยินดีที่จะยอมรับข้อความเจตนาที่คลุมเครือมากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคต
รายงานระบุว่าการคัดค้านแผนหมากฮอสไม่จำเป็นต้องเป็นอุปสรรคต่อการตกลง
ข้อตกลงดังกล่าวได้ถูกตัดออกเป็นสองส่วนแล้ว ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงและ Brexit ด้านเทคนิคที่จะเป็นระเบียบ หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเน้นที่การเจรจาความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคต ก่อนหน้านี้พวกเขาพยายามหาเค้าโครงความสัมพันธ์ในอนาคตอย่างน้อยก่อนกำหนดเส้นตาย Brexit ในวันที่ 29 มีนาคม 2019
ปอนด์แข็งค่าขึ้นทั่วกระดานในรายงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงที่ 1.2961 จากระดับก่อนหน้า 1.2829 นับตั้งแต่กลับมานั่งที่ 1.2940
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กันยายน 06, 2018, 12:13:31 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 06, 2018, 03:53:04 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 06, 2018, 09:41:11 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 06, 2018, 10:56:05 PM
ในช่วงท้ายช่วงโมงนี้จะเป็นการปิดตลาดของผู้เล่นโซนยุโรป ขอให้ผู้เล่นทำการระมัดระวังและไม่ควรออกออรเด้อในตอนนี้นะครับ เพื่อเป็นการเซฟตัวเอง ขอบคุณครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 06, 2018, 10:56:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 07, 2018, 11:13:20 AM
เจมส์ ฟรีแมน คอลัมนิสต์ของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เปิดเผยโดยอ้างถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.ทรัมป์ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ระบุถึงความพันธ์ที่ดีระหว่างเขาและผู้นำญี่ปุ่น แต่ก็ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "แน่นอนว่า ความสัมพันธ์อันดีนี้จะสิ้นสุดลง ทันทีที่ผมบอกกับญี่ปุ่นว่าพวกเขาจะต้องจ่ายมากเท่าใด"
ทั้งนี้ คาดว่าประเด็นการค้าจะเป็นหัวข้อหลักในการเจรจาระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศในระหว่างการพบปะกันวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นการพบปะนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ฟรีแมนระบุว่า "แม้ว่าปธน.ทรัมป์สามารถได้ข้อสรุปในการเจรจากับแคนาดา เม็กซิโก และยุโรป แต่ความไม่แน่นอนด้านการค้าก็จะยังไม่สิ้นสุดลง และดูเหมือนว่าปธน.ทรัมป์ยังคงไม่พอใจในประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น"
ฟรีแมนยังเปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์นั้น ปธน.ทรัมป์ยังคงแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการลดการขาดดุลการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้าของสหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย "American First"
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้ผลักดันให้ญี่ปุ่นเปิดตลาดรถยนต์และสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของควมพยายามในการลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่มีมูลค่ามหาศาล
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา
-President Trump hints to WSJ that trade fight with Japan could be next:
https://www.cnbc.com/2018/09/06/president-trump-hints-to-wsj-that-trade-fight-with-japan-could-be-next.html
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 07, 2018, 11:34:25 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 07, 2018, 12:04:30 PM
Today
10.15 China Trade Balance
16.00 Eurozone Gross Domestic Product (GDP)
19.30 U.S. Nonfarm Payrolls
Canada Employment Change
20.00 U.S. Federal Open Market Committee (FOMC) Member Mester Speaks
21.00 Canada Ivey Purchasing Managers Index (PMI)
00.00 U.S. Baker Hughes Oil Rig Count
ถึงเวลาลุ้น NFP แระ แต่จากตัวเลข ADP การจ้างงานก็ออกมาต่ำคาด เดือนที่แล้วสหรัฐหยุดพักร้อน ดังนั้นถ้าตัวเลขจ้างงานไม่ปังก็ไม่น่าแปลก
Stocks - S&P Drops as Tech Wreck Weighs; Trump Eyes Japan Trade Battle
เเรงเทขายในกลุ่มเทคโนโลยี่ยังออกมาต่อเนื่อง เห็นว่ากลุ่ม DRAM กับ NAND ได้รับผลกระทบจากมีผู้ผลิตมากเกินไป ส่วน Twitter Alpahbet Facebook ก็ยังเผชิญมรสุมกับลุงโด้อยู่
เรื่องการขึ้นภาษีจีนอีก $200 billion more of Chinese imports ยังรอลุงโด้ประกาศอยู่ (น่าจะวันนี้มั้ง) นอกจากนี้ลุงโด้ เล็งไปที่ญี่ปุ่น เหยื่อรายใหม่
ปิดอาทิตย์แบบสนุกๆ กับลุงโด้พาเพลิน (หรือไม่เพลิน)
------------------------------------------
Will NFP Drive Euro To 1.17?
เอาเป็นว่ามาลุ้นว่าตัวเลขจ้างงานอนกภาคการเกษตร รวมถึงอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงจะออกมาอย่างไร เบื้องต้นคาดกันว่าส่งผลต่อ DXY และ คู่เเพร์ ว่าจะไปสวรรค์ หรือ ลงนรก
เเนวทางมีทั้งมองว่าการจ้างงานจะออกมาดี และ ไม่ดี ลองมาดูปัจัยแบบขำๆ
เเนวออกมาดี
1. Consumer Confidence Index Hits 17-Year High
2. Employment component of Non-Manufacturing ISM rises to 56.7 from 56.1
3. Employment component of Manufacturing ISM rises to 58.5 from 56.5
4. 4-Week Average Jobless Claims at 209.5K vs. 214.5K
5. Continuing Claims drop to 1.7M from 1.72M
แนวออกมาไม่ดี
1. ADP Employment Change at 163k vs. 217K Previous
2. Challenger Reports 13.7% Increase in Layoffs
3. University of Michigan Consumer Sentiment Index Dropped to 7 Month Lows
(อืมมตัวเลขปลดคนงานก็สูงแฮะ)
CAD น้องแมวเหมียวก็มีลุ้น ตัวเลขจ้างงานสู้กับสหรัฐเหมือนกัน แถมด้วยตัวเลข IVEY PMI น่าจะสู้กันมันส์หยด ส่วนการประชุม NAFTA เห็นว่าประชุมกันยันดึกแต่ยังไม่การอัพเดทออกมา
ก็เช่นกัน น้องเเมวเหมียวจะอ่อนค่า หรือ แข็งค่าท้า DXY รู้กันคืนนี้
GBP มาฟอร์มเดิมเหมืนตอนรับข่าวที่ EU ออกมาบอกว่าจะมีข้อเสนอพิเศษ ลากขึ้นมารับข่าวแล้วนิ่ง นักผจญดอยมองว่า การที่เยอรมันออกมาบอกว่าจะลดข้อต่อรอง มันแค่หาทางออก ผ่าทางตันแค่นั้น ยังไม่มีรายละเอียดเป็นรูปธรรม การเจรจาก็ยังดำเนินต่อไป และคิดว่าทางอังกฤษก็ยังไม่ล้มเลิกแผนสำรอง No Deal Hard Brexit
นักผจญดอยบอกว่า มันยังไม่เเน่นอน การที่จะกลับตัวของ GBP เอาใว้ก่อน รอดูความชัดเจน แล้วค่อยว่ากัน
CHF เห็นว่า แข็งแล้วเเข็งอีก อาจจะเเข็งไปเรื่องในฐานะสินทรัพย์ระดับสวรรค์
---------------------------------------
Crude Oil Prices Settle Lower on Surging Fuel Stockpiles
เมื่อคืนตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบออกมาต่ำกว่าคาด แต่ราคาน้ำมันดิ่ง เพราะนักผจญดอยเจอว่า สต็อกน้ำมันสุก เพิ่มขึ้น ฮา....เลย
นอกจานี้เห็นว่า สามยักษ์ใหญ่ อย่าง สหรัฐ รัสเซีย ซาอุ มีการร่วมมือกันควบคุมไม่มห้ราคาน้ำมันแพงเกินไป
---------------------------------------
Metals Prices Mixed on Fears Trump Trade Smackdown on China Imminent
ทองคำก็ตามฟอร์ม DXY ไม่เเข็ง งั้น XAU เเข็งแทน บวกกับกระเเสความกังวลเรื่อง สหรัฐจะขึ้นภาษีจีนรอบใหม่ ก็ประมาณนี้
--------------------------------------
ตลาดผัก ก็ตามนั้นลงมาใกล้แนวรับก็เด้งโขว์ ไม่ให้นักผจญดอยขวัญเสีย ช่วงนี้ ขายกันทั่วโลก เราคงไม่สวนตลาดมั้ง ประครองๆ รอลุงตู่ไป คิดว่างั้น
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กันยายน 07, 2018, 02:02:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 10, 2018, 03:15:03 PM
ราคาน้ำมันยังช่วยหนุนให้ CAD ทำให้สกุล USDCAD ยังขึ้นต่อไม่ได้
ข่าวเรื่องของ Brexit 80 สส(ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ) ลงคะแนนเสียงไม่เห็นด้วยกับแผนการของ นายกเม ทางด้าน EUR คุณแบนเนอร์ได้รับมอบหมายจากผู้นำสหภาพยุโรปในการต่อรองและทำเรื่องของ Brexit ให้ลุล่วงจะจบแบบไหนยังไม่มีใครทราบนะครับ
ส่วนสกุลเงิน AUD ที่แข็งขึ้นมาเมื่อไม่นานตามปัจจัยข่าวคือ ทางการจีนออกมากล่าวว่า พร้อมจะตอบโต้สหรัฐถ้ายังเดินหน้าเรืองของภาษีอีก
ทางเทคนิค ยังไม่มีอะไรครับของทุกสกุลเนื่องจากวันจันทร์กราฟจะมีการกลับหน้าไปมาเป็นปกติครับ ขอให้ใช้ความรัดกุม
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 10, 2018, 05:28:20 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 11, 2018, 11:41:09 AM
ถ้าไม่ขึ้น จะเจอ ปัญหา เงิน เฟ้อ ส่งผลค่าครองชีพแม้ว่า รายได้ คนเมกา จะดูดีที่สุดในรอบ แปดปี ที่ผ่านมา
เสดกิจเมกายังอยู่ใน จุดดีที่สุดเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง นั้นสร้างความมั่นใจ ในการลงทุนได้อีก
ตัวที่แปลกใจ วันนี้ คือ อังกริด ดีด แบบสูง จริง
ม่ะได้ ตามดู งง เลย ดีด จีดีพี...ไม่น่าใช่ ทรัมออกมา เชียอัพ ภาพเสดกิจที่เติบโต 4.2 อัตราการว่างงาน สูงที่สุดในรอบ 100ปี...... นั้นแสดงบทบาทและความรับผิดชอบได้ดีมาก
นั่ง ดู jp morgan. Blackrock. ออกมา พูดในมุมเดียสกัน ถึง สภาพเสดกิจที่แกร่งมาก แรงงานที่ดีที่สุด บวกกับ การปรับภาษี เฟดสอง ก่อนการเลือกตั้งใน พฤศจิกายน ทรัมจะ เอาให้ได้ ใน กลางตุลา
กลบ ข่าวนาฟต้ากับ แคนาดา เงียบกริบ กันไป ตอนนี้ จะ กลายเป็นว่า นักลง
ทุนใน วอลสตีท ดีใจ ที่จะมีการตัดภาษี ใน ระยะเวลาอันใกล้ หุ้นเมกา ดีด ตัวทันที
ข่าวนี้จะเป็นข่าวใหญ่ในวันพรุ่งนี้ได้ ใน ภาคเอเชีย ยุโรป Feb bostic บอกว่า จะขึ้นดอก ได้ อีก 1รอบ ในความเห็นเขา นั้น คงเป็น กันยา หาก นับ เฟด ที่เห็นด้วยกับการขึ้นดอก เพียง 1 ครั้ง คือ ทุกคน Kapla willium mester. Bostic ต่าง มอง เพียง แค่ 1 ที่เหลือ ไม่น่าหลุด กรอบ ผ่านวัน อังคาร ดอลล่า ทองคำ จะชตดเจน กว่า นี้ได้ แน่ๆ มุม มอง ยังเหมือน เดิม 1180 จากนั้น จะ หลุด ไหม รอ ดู อีกที เพราะเริ่ม มีปัจจัย ตัดภาษีเฟดสองมา
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 11, 2018, 03:06:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 11, 2018, 04:56:15 PM
ขณะที่ข้อเสนอ Brexit ของนาง Theresa May นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกำลังพบกับความยากลำบากในการหาเสียงสนับสนุน: เนื่องจากพรรค Conservative ของนาง Theresa May มีความเห็นที่แตกแยกกันมาก และคาดว่าสมาชิกพรรคมากกว่า 80 คนจะออกเสียงคัดค้านแผน Brexit ของนาง May โดยหากสมาชิกพรรคกลุ่มดังกล่าวออกเสียงคัดค้าน จะทำให้อำนาจในการกำหนดทิศทาง exit process ตกไปอยู่ที่พรรค Labour ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านแทน
ด้านนาย Boris Johnson อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แสดงความคิดเห็นต่อ Brexit plan ของนาง Theresa May ว่าเป็น “a suicide vest” ที่จะมาครอบงำรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร ขณะที่นาย Steve Baker อดีต Junior Brexit minister ซึ่งลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ Brexit ดังกล่าว ให้ความเห็นว่า นาง May จะพบกับปัญหาใหญ่ในการประชุมพรรคระหว่างวันที่ 30 ก.ย. – 3 ต.ค. ที่จะถึงนี้
บริษัท Aquis Exchange เตรียมเปิดสำนักงานที่กรุงปารีส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ Brexit
บริษัท Aquis Exchange ซึ่งให้บริการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ ข้อมูลทางสถิติ บทวิเคราะห์วิจัย และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีแผนจะตั้งสำนักงานที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรเพื่อรับรองว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่นภายหลัง Brexit ทั้งนี้บริษัทได้ทำการยื่นใบสมัครเพื่อเปิดสำนักงานในกรุงปารีสแล้วซึ่งจะเป็นใบอนุญาตประเภท investment firm ที่มีสิทธิ์ในการดำเนินงานเกี่ยวกับ multilateral trading facility
Source: BOTSS
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กันยายน 11, 2018, 09:56:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 14, 2018, 10:33:01 AM
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่ง ภายหลังจากประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวสหรัฐกล่าวในวันพุธว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เชิญเจ้าหน้าที่จีนเพื่อเริ่มเจรจาการค้ากันหลังจากที่มีความวิตกเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนและจีนประกาศจะตอบโต้ในทำนองเดียวกัน ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงเชื่อว่า ทั้งจีนและสหรัฐไม่ต้องการให้สงครามการค้าปะทุขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายกำลังหารือในรายละเอียดเรื่องการเจรจาที่จะมีขึ้น
Source: สำนักข่าวไทย
https://www.tnamcot.com/view/5b9a18b5e3f8e40ad9f51194
***********************
สหรัฐเสนอให้มีการเจรจาการค้ากับจีนอีกครั้ง:
หลายสำนักข่าวรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนเตรียมเจรจาการค้ากับจีนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายท่าน นำโดยนาย Steven Mnuchin, U.S. Treasury Secretary ได้ยื่นคำเชิญต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในจีน นำโดยนาย Liu He, Vice Premier เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าวและลดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ ความเห็นภายในทำเนียบขาวเกี่ยวกับแนวทางการเจรจาข้อตกลงทางการค้า แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่
1) กลุ่มที่ต้องการบรรลุข้อตกลงโดยเร็ว เนื่องจากเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน นำโดยนาย Mnuchin และ นาย Larry Kudlow, the National Economic Council director และ
2) กลุ่มที่ต้องการประวิงเวลาเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองให้แก่สหรัฐฯ นำโดยนาย Robert Lighthizer, U.S. Trade Representative
อนึ่ง ในการเจรจารอบที่ผ่านมา จีนเสนอที่จะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น และเปิดให้ต่างชาติเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการให้บริการทางการเงิน ซึ่งไม่ตรงกับจุดมุ่งหมายของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ทางการจีนลดการให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันแก่บริษัทสัญชาติอเมริกัน
Source: BOTSS
- China welcomes US offer of talks as tariffs loom on $200 billion of goods:
https://edition.cnn.com/2018/09/13/politics/china-trade-war-kudlow/index.html
- Wall Street gains on tech rebound, trade relief: https://www.reuters.com/article/us-usa-stocks/wall-street-gains-on-tech-rebound-trade-relief-idUSKCN1LT1RO
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 14, 2018, 10:52:22 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 15, 2018, 05:17:43 PM
ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสาขาชิคาโก Charles Evans ออกมายืนยันอีกครั้งในวันศุกร์ว่าภายในปีนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจ ซึ่งหนึ่งในสองครั้งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมค่อนข้างสูง
นอกจากนี้การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและแคนาดาก็มีท่าทีว่ายังมีความคืบหน้าในทิศทางที่ดี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 15, 2018, 06:04:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 17, 2018, 05:56:32 PM
วันจันทร์
-ยอด CPI ของ EU ช่วง 16:00
-ดัชนีภาคการผลิต NY ช่วง 19:00
วันอังคาร
-ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (NZD) 05:00
-รายงานประชุมนโยบายการเงิน (AUD) ช่วง 08:30
-ประชุม OPEC 17:00
-ยอดขายภาคการผลิต (CAD) 19:30
-ดัชนีการค้านมและผลิตภัณฑ์นมโลก 21:15 (NZD)
วันพุธ หนักแน่น!!
-ดัชนีธุรกรรมระยะยาวจาก TIC 03:00 (USA)
-รายงานสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบ 03:30
-บัญชีเดินสะพัด ออสเตรเลีย 05:45
-ปริมาณการนำเข้า/ส่งออก ญี่ปุ่น 06:50
-แถลงการณ์ของ Kent 08:30
-แถลงการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น + การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ช่วง 10:00
-แถลงการณ์ธนาคารญี่ปุ่น อีกรอบช่วง 13:30**
-ยอด CPI ของ GBP ช่วง 15:30
-การประมูล Bond อายุ10ปีเยอรมนี
-รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (USA) 19:30
-แถลงการณ์ของ Draghi 20:00
-สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ 21:30
วันพฤหัส
-การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย บราซิล ช่วง 04:00
-ยอด GDP ของ NZD 5:45 **
-การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย + การประเมินนโยบายการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ 14:30
-ยอดค้าปลีกของ GBP ช่วง 15:30
-ประชุม OPEC ช่วง 17:00
-ยอดการว่างงาน, ดัชนีภาคการผลิตรัฐฟิลาเดลเฟีย ช่วง 19:30
-ยอดขายบ้านมือสอง ช่วง 21:00
**** เดี๋ยวมาอัพเดพต่อนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 19, 2018, 11:18:16 AM
• นักวิเคราะห์จาก FOREX.com มองว่า ราคาทองคำยังทรงตัวต่ำกว่ากรอบแนวต้าน 1,205 – 1,215 เหรียญ จึงเป็นการบ่งชี้ว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง
• นักวิเคราะห์จาก ETF Securities กล่าวว่า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ราคาทองคำกำลังเผชิญ ที่บั่นทอนความพยายามในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำมาจากสถานะการถือครองของนักลงทุนที่มีการปรับลดลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2001 และทองคำก็ดูจะไม่สามารถมีแรงสนับสนุนเพียงพอในฐานะ Safe-Haven
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 19, 2018, 11:32:16 AM
Today
API Weekly Crude Oil Stock 1.250M -8.636M
10.00 Japan Interest Rate Decision
13.00 Bank of Japan Press Conference
15.00 Bank of England (BoE) Monetary Policy Committee (MPC) Member Haldane Speaks
15.30 U.K. Consumer Price Index (CPI)
19.30 U.S. Building Permits
21.00 European Central Bank President Draghi Speaks
21.30 U.S. Crude Oil Inventories
05.45 New Zealand Gross Domestic Product (GDP)
วันนี้น่าจะเริ่มสนุก สายๆกับการประชุม BoJ บ่ายๆ กับ UK MPC และ ดัชนีเงินเฟ้อ ค่ำๆ ตัวเลขบ้านสหรัฐ ค่ำอีกนิดกับลุงยาสีฟัน คู่เเพร์ JPY GBP EUR น่าจะสนุก
พรุ่งนี้เช้าก็น้องกีวี่กับตัวเลข GDP
Stocks - S&P Rallies as Tech Rebounds, Tariffs Less Harsh Than Feared
ถึงแม้ช่วงนี้ตลาดหลักทรัพย์จะผันปวนแต่ดูจากทิศทางกราฟก็ไปสวรรค์แล้ว ก็น่าจะปันปวนลากราคามากันขนาดนี้ มีอะไรนิดหน่อยก็ต้องรีบล็อกกำไรกัน
ตลาดน่าจะดูผ่อนคลายในเชิงที่นักผจญดอยมองว่า สหรัฐเองขึ้นภาษีจีนน้อยกว่าทุกครั้ง
แต่ลุงโด้น่าจะลากยาวไปจนเลือกตั้ง
-------------------------------------
Forex - Dollar Off Lows as Euro Reverses Gains, Trade Concerns Linger
วันนี้สหรัฐไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญให้ลุ้นึงมีเกี่ยวกับตัวเลขบ้าน หลังจากขึ้นดอกเบี้ยมาหลายรอบ ชาวมะกันคงมีภาระดอกเบี้ยผ่อนบ้านที่สูงขึ้น ตัวเลขคืนนี้น่าจะออกมาไม่ดีนัก
แถมวันนี้ยังต้องเจอ BoJ UK MPC และ President Draghi Speaks ดังนั้น DXY น่าจะยังเจอสกัดดาวรุ่งอยู่
แต่จากกราฟ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นดาวยามเช้าหรือเปล่า ช่วยกันยืนยันโหน่ย
เช้านี้เตรียมลุ้น BoJ ถึงแม้ว่าโดยรวมจะถูกมองว่าไม่มีอะไร ช่วงต้นๆบ่ายก็เตรียมลุ้นกับแถลงการณ์ของลุงคุ น่าจะมีอะไรบ้าง หลังทางญี่ปุ่นชอบพลิ้วไปมา ให้ตลาดผันผวน
++++++++++++++++++++
บ่ายๆ ฝั่งอังกฤษมี MPC ออกมาให้ความเห็น และ ตามด้วนตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ มาดูว่า GBP จะอยู่หรือจะไป เพราะล่าสุด GBP ก็ดูดีขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้การเจรจา Brexit ก็ปรับตัวดีขึ้น ล่าสุดเช้านี้ทาง UK Daily Express รายงานข่าวว่า มีการเขี่ยลูกไปมาระหว่าง EU's chief Brexit negotiator Michel Barnier กับ ป้าเมย์ แต่โทนออกมาว่า เรื่องการเจราปัญหาชายแดน ไอริช น่าจะมีข้อยุติ ข่าวดีอีกแล้ว
มารอดูว่าชุดตัวเลขเศรษฐกิจกับ MPC จะช่วยดันให้ GBP ไปต่อหรือไม่
++++++++++++++++++++
ดึกๆ ก็มีลุงยาสีฟันมาแถลง ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ก็คาดเดาใว้ก่อนว่า ลุงแกจะมาลาก หรือ ตบ EUR หลังๆ ก็จับทางลุงแกไม่ค่อยถูก บางที่ลุงก็เชียร์ บางทีลุงก็ทุบ
+++++++++++++++++++
พรุ่งนี้เช้ามืด น้องกีวี่เเฟนคลับเตรียมลุ้นกับตัวเลข GDP น่าจะสวิงได้มันๆ
+++++++++++++++++++
น้องเเมวเหมียว เตรียมลุ้นกับราคาน้ำมันวันนี้ และ ยังอยูกับความอึมคลึมของการเจรจา NAFTA
--------------------------------
Crude Oil Price Update – Strengthens Over $69.33, Weakens Under $68.82
ราคาน้ำมันถ้าดูจากกราฟเหมือนจะเเถออกข้าง พอแตะระดับจิตวิทยา 70$ ก็ไม่ผ่าน ลงมาระดับต่ำกว่า 68$ ก็พร้อมดีด
เช้านี้ตัวเลขสต้อกน้ำมันออกมาบึ๊มส์ รอลุ้นคืนนี้อีกรอบ
--------------------------------
บาทแข็งอีกแระ น่าจะเป็นเซนทิเมนท์ที่ดีกับนักผจญดอยมั้ง
-------------------------------
Gold Prices Drop Amid Tariff Concerns, Dollar Holds Steady
ทองยังดูนิ่งๆ เช้านี้ไม่มีข่าว ไม่มีคอมเมนท์จากนักวิเคราะห์เลย รอลุ้น รูปทรงคลับคล้ายคลับคลา ดาวยามเช้าใน DXY
------------------------------
ตลาดผักช่วงนี้ผนตก พายุมังคุด ผักเขียวเชียว เบรกขึ้นมาแระ อย่าหลอกกันน้า
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 19, 2018, 01:40:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2018, 08:25:30 PM
ในวันนี้มีเหตุการณ์ที่สำคัญที่ทำให้สกุลเงินปอนด์มีการแข็งค่าขึ้นอย่างรุนแรงคือรัฐมนตรีของยูโรโซนได้มีการกล่าวในทิศทางที่ดีของการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษที่ดูเหมือนว่าจะมีการเจรจาแบบ Deal
.
จึงทำให้สกุลเงินปอนด์มีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องประกอบกับการประกาศดัชนียอดขายปลีกและดัชนียอดขายปลีกพื้นฐานออกมาในทิศทางที่ดีของอังกฤษจึงเป็นผลบวกให้กับสกุลเงินปอนด์อีกหนึ่งรอบ
.
ซึ่งในตอนนี้ คู่สกุลเงินปอนด์เทียบกับสกุลเงินดอลล่าร์มีการดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง ในช่วง 4 ชั่วโมงที่ผ่านมาสามารถดีดตัวขึ้นไปถึง 0.56% ซึ่งต้องรอดูว่าจะดีดตัวขึ้นได้อีกหรือไม่
.
โดยทุกคู่สกุลเงินที่คู่กับสกุลเงินปอนด์ก็มีการดีดตัวขึ้นเช่นกันในช่วงนี้
.
#จะเป็นอย่างไรต่อ
#จะหน้าสั่นอีกหรือไม่
#ใครติดได้ติดเหว เลี้ยวมาดูกันได้
#ช่วงนี้ Brexit กำลังมาแรง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 20, 2018, 08:46:26 PM
EU ด้วยเปิดถูกทางแล้ว ดันกลัว SLน้อยเพราะใส่ Lot .ใหญ่ โดน SL ก่อนขึ้นนั่งเสียดายใจจะขาด เสียดายมาก.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 20, 2018, 09:52:06 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กันยายน 21, 2018, 05:54:27 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 26, 2018, 12:30:14 PM
"กลุ่มโอเปกยังคงขูดรีดชาติต่างๆบนโลกนี้เหมือนเดิม ซึ่งผมไม่ชอบเลย และไม่ควรจะมีผู้ใดชอบด้วย" ปธน.ทรัมป์กล่าว
"เราได้ให้การคุ้มครองหลายประเทศในกลุ่มนี้ แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้น พวกเขาได้เอาเปรียบพวกเรา โดยทำให้ราคาน้ำมันแพง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย" เขากล่าว
คำกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้น หลังจากที่โอเปก และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย ได้จัดการประชุมที่แอลจีเรียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเห็นพ้องให้คงกำลังการผลิตที่ระดับปัจจุบัน แม้สหรัฐพยายามเรียกร้องให้โอเปกเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็ตาม
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวปกป้องนโยบายการค้าของสหรัฐ โดยกล่าวกับผู้นำทั่วโลกว่าสหรัฐจะดำเนินการบนผลประโยชน์ของประเทศ
"เราจะไม่ผ่อนปรนการเอาเปรียบเช่นนี้อีก เราจะไม่ให้แรงงานของเราตกเป็นเหยื่อ บริษัทของเราถูกโกง และความมั่งคั่งของเราถูกปล้น และถูกโยกย้ายไป" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ระบุถึงความสำเร็จของเขาบนเวทีโลก ซึ่งรวมถึงการร่วมมือกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน รวมทั้งการทำการเจรจาการค้าครั้งใหม่กับประเทศคู่ค้าเพื่อปรับปรุงข้อตกลงเดิมที่สหรัฐถูกเอารัดเอาเปรียบก่อนหน้านี้
Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.cnbc.com/2018/09/25/oil-prices-move-lower-as-trump-says-opec-is-ripping-off-the-world.html
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กันยายน 26, 2018, 02:44:03 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 27, 2018, 08:17:41 AM
Today
13.35 Bank of Japan Governor Kuroda Speaks
18.45 Bank of England (BoE) Monetary Policy Committee (MPC) Member Haldane Speaks
19.30 U.S. Core Durable Goods Orders & U.S. Gross Domestic Product (GDP)
20.30 European Central Bank President Draghi Speaks
21.00 Bank of England Governor Carney Speaks
U.S. Pending Home Sales
23.00 European Central Bank Praet Speaks
23.30 FOMC Member Kaplan Speaks
03.30 U.S. Fed Chair Powell Speaks
04.45 Bank of Canada Governor Poloz Speaks
ผ่านการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว สงบตามคาด ไม่เป็นไรคืนนี้ถึงคิวผู้ว่าแบงค์ชาติสปี๊กกิ้ง ลุ้นต่อแระกัน
Stocks - S&P Closes Lower as Bank Stocks Sink
ดาวเริ่มแดงไม่รู้ว่า ลากมาตรงนี้จะ TP ปิดไตรมาส 3 หรือเปล่า อ่านคร่าวๆ ก็ค่อนข้างผันผวนทีเดียว
ตลาดกลุ่มแบค์ตอบรับทีท่าของเฟดที่ไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย ก็มีเทขายกันออกมา ส่นตลาดพลังงานก็ช่วยหนุนเนื่องจากรายงาน the Energy Information Administration ตัวเลขสต็อกน้ำมันออกมาน้อยกว่าคาด
ตลาดโดยรวมๆก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงแม้ว่าจะเริ่มมีแรงเทคกำไรกันออกมาแต่ก็ยังอยู่ในวงจำกัด
----------------------------------------------
5 Takeaways From Wednesday’s FOMC
วันนี้เหล่าเจไดธนาคารกลางมีสปี๊กกิ้ง ไม่ว่า ECB BoE FoMC และ BoC อย่างน้อยก็ 4 พลังหลัก EUR GBP DXY และ CAD ตามลุ้นกันตามชอบนะก่ะ
DXY จริงๆน่าจะกระทิง แต่เป็นได้แค่ลูกวัว โดยหลักแล้ว
เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย
ประธานสาขาเฟดจำนวน 16 ท่าน มี 12 ท่านที่มองว่าเดือน ธันวาคม น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย (โดยที่เพิ่มมาอีก 8 เสียงจากคราวที่เเล้ว)
เฟดปรับ GDP 2018 โตเพิ่มขึ้น
ท่าทีของเฟดจากแถลงการณ์ของ อังเคิลดูผ่อนคลาย ไม่เหยี่ยว (น่าจะตรงกับที่มองไปก่อนหน้า)
ท่าทีของอังเคิล ดันบอกว่าถ้าดัชนีเงินเฟ้อเพิ่ม ก็ขึ้นดอกเบี้ย ถ้าดัชนีเงินเฟ้อชลอตัวก็มีแวว ลดดอกเบี้ยเช่นกัน (อ้าว อังเคิล ไหงกลับลำสะงั้น กลังลุงโด้ถล่มหรา)
แต่ในส่วนของเศรษฐกิจ อังเคิลบอกว่าโดยภาพรวมยังไปได้สวย แต่ถ้ามองเพียงมุมนี้ เฟดก็น่าจะต้องขึ้นดอกเบี้ยตามตาราง
โดยสรุปถึงแม้ว่า อังเคิลจะพูดดี มุมบวกเยอะ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะขึ้นดอกเบี้ย แต่ดันบอกว่า แล้วแต่ดัชนีเงินเฟ้อ สรุป อังเคิลสปิ๊กไม่ตรงกับนักผจญดอยหวัง DXY ก็เลยยังไม่แรง (โดยมุมมองของนักผจญดอย ท่าทีของเฟด ไม่ได้พิราบ แต่่ก็ไม่เหยี่ยวเหมือนครั้งก่อนๆ)
RBNZ น้องกีวี่ มีประชุมไปแล้วเมื่อเช้า ยังไม่ได้อ่านเลยว่าทาง RBNZ ว่ายังไงมั่ง
CAD น้องเเมวเหมียว ดดูเหมือนจะอ่อนค่าไปหลังจากที่มีแววว่าเรื่อง NAFTA เดือนนี้ไม่มีข้อสรุป อย่างไรก็ตามน่าจะต้องรอ เช้าพรุ่งนี้ทางลุงโพลอซ มีสปี๊กกิ้ง
EUR ตั้งลำมา 3-4 วันแล้วจะไปได้หรือยัง วันนี้ลุ้น ECB economic bulletin and Eurozone consumer confidence report คาดกันว่าน่าจะออกมาดี รวมถึงลุงยาสีฝันสปี๊กกิ้ง
GBP เห็นว่าทางนักวเคราะห์เองก็เเปลกใจกับสถานะ Short Position ของ GBP ที่เพิ่มมากเเบบรวดเร็ว
นักวิเคราะห์มองว่า ตอนนี้สถานะ Short น่าจะพร้อมแล้ว แต่ก็นะ ถ้ามีข่าวดี ใคร Short ก็ต้องรีบปิดเหมือนกัน
----------------------------------------------
Oil Rebounds After Rick Perry Rules Out Tapping Strategic Crude
วุ่นวายจริง เรื่องน้ำมัน พักไม่อ่านแระ งง อะไรก็ไม่รู้ ว่ากันไปตามกราฟ แระกัน
----------------------------------------------
บาทเมื่อคืนเห็นกราฟสวิงมันส์เลย
--------------------------------------------
Gold Down, $1,200 Perch Vulnerable After Fed Rate Hike
ก็ออกข้างมาตั้งนานแระ ขึ้นไปข้างบนก็ไม่มีแรง ทุบลงมาก็เหมือนของหมดมือ แต่ก็นะเห็นว่าเมื่อคืนมี Gold Option หมดอายุจำนวนมาก เเละมีปิดสถานะกันไป ทองเลยไม่ไปใหน
โดยภาพรวมในมุมนักผจญทอง ยังมองว่าเฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคม และ ปี 2019 เฟดก็ยังน่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอยู้ ดังนั้นทองน่าจะยังขึ้นได้ยาก
นอกนั้ก็ดูเหมือนว่า นักผจญดอยยังรอย่อยข่าวอะไรบางอย่างอยู่
---------------------------------------------
ตลาดผัก จะมองว่าดีก็ดีนะ ไม่ลง แต่เเท่งเทียนก็ดูเหมือนว่าจะรินขาย เลยแอบส่องผ่านเเว่นฟ้า ก็พบว่าทวยเทพไม่ปลื้ม แอบเทของทิ้งสะงั้น แล้วใครรับของหว่า
เกิดกลุ่มโดจิ ยอดเขา บวกกับทวยเทพรินของ มันยังไงๆ อยู่ จะมองยังไงดี เทของราคาไม่ลง พอของหมดมือก็รับกลับที่ราคาเเถวนี้ หรือ รินขายราคาดี เเล้วยืมพลังมาซ็อตทุบลงเก็บของถูก
จะเทค TP ไตรมาส 3 ใหม่น้า
เริ่ม งง ก่ะ หวังพึ่งสำนักอื่นไปก่อนนะก่ะ เค้า งง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 27, 2018, 09:29:54 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 27, 2018, 09:47:06 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 08, 2018, 08:33:33 AM
วันนี้สหรัฐเป็นวันหยุด แต่หยุดเฉพาะตลาด bond markets แต่ตลาดหลักทรัพย์เปิด
อาทิตย์นี้ สหรัฐเองมีลุ้นตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อ บวกกับประธานสาขสเฟดสปี๊กกิ้ง และ อีกแล้วครับ ฤดูประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ส่วนอังกฤษ ก็เตรียมลุ้นกับการประกาศตัวเลข GDP และการแถลงความคืบหน้า Brexit จาก EU จีนก็ลุ้นต่อเนื่องกับตัวเลขผลกระทบทางค้าว่า หลังจากที่สหรัฐ ท้าชน กระทบกับเศรษฐกิจหรือยัง จะต้องยอมสยลลุงโด้ เหมือน แคนาดา กับ เม็กซิโก้หรือเปล่า แน่นอนว่า น้องอู๊ด น้องกีวี่จะรับผลกระทบไปเต็มๆ ส่วนยุโรป หลักไม่มีอะไร เห็นว่ามีรายงายการประชุม ECB โดยหลักๆ อาทิตย์นี้ EUR น่าจะผันไปตามตัวเลขเงินเฟ้อ ของสหรัฐ ความคืบหน้า Brexit สะมากกว่ามั้ง
-------------------------
1. U.S. Inflation Data
เงียบยาวไปจนถึงวันพฤหัส ลุ้นกับตัวเลข The Commerce Department will publish September inflation figures โดยภาพรวมคาดกันว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น DXY น่าจะรีบาวด์ และ ทองน่าจะลง ฮา...
นอกนั้นพอมีขำๆกับ วันพุธ reports on producer prices วันศุกร์ a preliminary reading of the University of Michigan's consumer sentiment
-------------------------
2. Fed Speakers
หลักๆ ก็คงมีลุ้นกับ New York Federal Reserve President John Williams ที่จะสปี๊กกิ้ง เกี่ยวกับนโยบายของเฟด นอกจากนี้การปี๊กกิ้งของ Atlanta Fed boss Raphael Bostic, Chicago Fed President Charles Evans and Fed Governor Randal Quarles ก็น่าสนใจอยู่
รวมๆ นักผจญดอยคงดูทีท่าว่า เฟดมีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคมหรือไม่
-----------------------
3. U.S. Q3 Earnings Season Kicks Off
เริ่มแล้วสำหรับการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 (ตลาดผักก็น่าจะตามมาติดๆ) ก็น่าจะจำกันได้มั้งที่ผ่าน 2 ไตรมาส ช่วงบรรยากาศตลาดช่วงผลประกอบการเป็นเช่นไร ก็น่าจะคงตามนั้น ของสหรัฐเองก็น่าลุ้นหลังจากที่ ลุงโด้ลดภาษ๊ไปเเล้ว น่าจะเริ่มส่งผลแระ เราคงเริ่มห็นว่ามันได้ผลหรือไม่ในงวดนี้
----------------------
4. China Trade Figures
ลากยาวจนวันศุกร์กับตัวเลข September trade figures ก็เตรียมดูว่าการที่ลุงโด้ขึ้นภาษีไปตั้งหลายรอบ จีนเริ่มกระทบหรือยัง หรือยังชิวๆ คู่เงินที่จะปันผวนก็คงหนีไม่พ้น AUD กับ NZD
----------------------
5. UK GDP
วันพุธ ทาง The UK Office for National Statistics จะประกาศตัวเลข GDP คาดหันว่าน่าจะชลอตัวลงผลกระทบจาก Brexit (อ้าวอย่างงี๊ GBP ก็มีโอกาศ Pull Back อ๊ะดิ) ส่วนการประชุม Brexit จะมีในช่วง 17 - 18 ตุลาคม ซึ่งทาง EU ก็ออกมายาหอมช่วงวันหยุดเเล้วว่า มีความคืบหน้าเป็นอันมาก และ น่าจะ Deal กันได้ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งถ้ายังตกลงกันไม่ได้ ก็ไม่น่ากังวล ก็มีประชุมพิเศษ 17 - 18 พฤศจิกายน ก็น่าจะ Deal กันได้ พร้อมกันนี้ทาง EU ก็บอกว่า พร้อมๆกับ GDP ก็จะมีแถลงข่าวคืบหน้าที่ดี (อ้าวหยั่งงี๊ GBP ก็ไปต่อดิ) ส่วนป้าเมย์เองก็ไม่ได้ตอบรับ EU มากนัก เห็นว่ายังเดินหน้า No Deal Brexit อยู่
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 08, 2018, 09:20:18 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 08, 2018, 10:06:27 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 11, 2018, 06:28:29 AM
ณ เวลา 22.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,072.24 จุด ลดลง 358.33 จุด หรือ 1.36%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, อุตสาหกรรม และพลังงานดิ่งลงนำตลาด โดยหุ้นอินเทลร่วงลงมากกว่า 2% ขณะที่ไมโครซอฟท์ทรุดตัวลงมากกว่า 3%
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงทะยานขึ้นในวันนี้ หลังจากชะลอตัววานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐ (PPI) ที่พุ่งขึ้นในวันนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีทำสถิติแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีสูงสุดในรอบ 7 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีสูงสุดในรอบ 8 ปี
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการเปิดเผยอัตราการว่างงานในสหรัฐต่ำสุดในรอบ 49 ปี ขณะที่มีการขยายตัวของค่าจ้างแรงงาน ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อเดือนที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ ซึ่งหากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินท่าน้จำนองเพิ่มมากขึ้น และบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ พุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ย. เช่นเดียวกับในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.
การปรับตัวขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ แม้ว่าราคาอาหารปรับตัวลง
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.6% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.8%
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 0.2%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารจะเปิดเผยผลประกอบการในปลายสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนสหรัฐจะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 19% ในไตรมาส 3 หลังจากพุ่งขึ้น 25% ในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้
Source -อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
https://www.cnbc.com/2018/10/10/us-markets-bond-yields-and-data-in-focus.html
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 11, 2018, 07:52:51 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 11, 2018, 06:49:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 11, 2018, 06:56:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 13, 2018, 08:13:06 AM
ต้องตาลีตาลานลุกขึ้นมาสั่งขายทิ้งจ้าละหวั่นประเภท “โชคดีที่ตายก่อน” สถานการณ์ซ้ำรอยของดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ที่เคยเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลับมาใหม่ ปิดร่วง 831.83 จุด หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เร็วกว่าคาดในเดือนธันวาคม
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ พุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ถือว่าพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน
ทันทีที่มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ เมื่อเวลา 20.04 น. ตามเวลาไทยเมื่อคืนวานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของตลาด เพราะใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐฯดีดตัวสู่ระดับ 3.241% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.401%
ราคาพันธบัตรที่วิ่งสวนทาง ส่งผลให้เกิดแรงเทขาย เพราะเชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการช็อปปิ้งส่งท้ายปีเก่า เนื่องจากสินค้าที่เคยผลิตในจีน หรือมีชิ้นส่วนจากจีนจะต้องแพงขึ้นจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าในสงครามการค้าสหรัฐฯ จีน
เรื่องเช่นนี้ เคยมีการคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่ที่ผ่านมา มีมายาคติจากนักลงทุนบางส่วนมองข้ามปัจจัยนี้ จนกระทั่งตัวเลขทางการออกมาย้ำชัดล่าสุดว่า โอกาสของการขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อจะต้องเกิดเร็วขึ้น ก่อนที่จะควบคุมไม่ได้
ตอนนี้ยังมีข่าวร้ายรออยู่อีก เพราะนักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (CPI) เดือนกันยายนของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ว่าจะมากกว่าหรือเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPIจะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยหากดีดตัวขึ้นมากกว่าระดับ 0.2% ก็จะเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตอนนี้ หลายคนเริ่มมีมุมมองเชิงลบ และหวนย้อนไปอ่านหรือถกกันถึงคำพยากรณ์ของ JP Morgan เมื่อหลายเดือนก่อนที่ว่า มีโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ในอีก 2 ปีข้างหน้าจากการที่มีเหตุปัจจัยลบตามสูตร peak-to-trough performance ที่มีองค์ประกอบดังนี้
- ราคาหุ้นในสหรัฐฯ เฉลี่ยจะลดลง 20% จากระดับปัจจุบัน
- ยอดหนี้ภาคธุรกิจของบริษัทอเมริกันจะเพิ่มขึ้น ดันให้บอนด์ยีลด์ภาคธุรกิจพุ่งขึ้นอีกจากปัจจุบัน 1.15%
- ราคาพลังงานจะถล่มจากระดับปัจจุบัน 35% ในขณะที่ราคาแร่โลหะพื้นฐานจะร่วงลง 29%
- มูลค่าหนี้ของชาติในตลาดเกิดใหม่จะพุ่งขึ้น 2.79%
- ราคาหุ้นเฉลี่ยในตลาดเกิดใหม่จะถล่มทลายลงไปมากถึง 48% และค่าเงินสกุลท้องถิ่นตลาดเกิดใหม่ลดลง 14.4%
ข้อมูลที่กล่าวมา ทำให้หลายคนที่เคยบ่นว่าตกขบวนขาขึ้นอย่างน่าเขกกระโหลกตัวเอง ต้องปรับทัศนคติตนเองเสียใหม่
สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน นอกจากเป็นการล่มสลายของฉันทามติวอชิงตัน (Washington Concensus) ที่สหรัฐฯ ในสมัยจอร์จ บุช ผู้พ่อ กำหนดเอาไว้หลังยุติสงครามเย็น พร้อมกับเริ่มต้นระบบโลกใหม่ ที่อเมริกากลายเป็น “มหาอำนาจเดี่ยว” ไม่ได้มีเฉพาะจีนเองเท่านั้นที่จะต้องถูกตัดจากวงจร “ห่วงโซ่อุปทาน” ระดับโลก ที่มีการแบ่งงานกันทำแล้ว สหรัฐฯ เองก็มีส่วนทำลายตนเองจากการตัดห่วงโซ่อุปทานที่คุ้นเคยกันมายาวนาน
คำว่า Think Globally, Act Locally ที่เคยเป็นคำขวัญของบริษัทข้ามชาติในยามที่กระแสโลกาภิวัตน์ขึ้นสู่จุดสูงสุด มากลายเป็น Think Locally, Act Selfishly แล้วพยายามชูคำขวัญใหม่ที่เลอะเทอะ ย่อมเป็นวิสัยทัศน์ที่สั้นกว่าหางเต่า ที่ย้อนกลับมาเล่นงานตนเองผ่านดัชนีดาวโจนส์ และตลาดทุนอเมริกัน
เพียงเริ่มต้นของสงครามการค้า ความเสียหายจากอหังการแบบอเมริกันคาวบอยก็เป็นเช่นนี้ อนาคตจะเป็นเช่นไรคงพอคาดเดาได้บ้างราง ๆ
บางทีสิ่งที่ JP Morgan เคยพยากรณ์เอาไว้ อาจเกิดขึ้นเร็วหรือมากกว่าที่ว่าเอาไว้ ..........พูดเป็นเล่นไป
คอลัมน์ พลวัตปี2018
Source: ข่าวหุ้น
เพิ่มเติม
- Stocks Sink in Turbulent Trading, Treasuries Gain: Markets Wrap
คลิก
Cr. Bank of Thailand Scholarship Students
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 13, 2018, 09:45:45 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 13, 2018, 09:56:19 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 15, 2018, 01:35:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 15, 2018, 02:02:56 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 15, 2018, 05:26:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 15, 2018, 06:14:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 16, 2018, 08:54:54 AM
(+) SPDR บวก 4.12 ตัน เป็นจำนวนสุทธิที่ 748.76 ตัน
(+) ดัชนีดาวโจนส์ปิดต่ำลง0.35% ได้รับแรงกดดันจากหุ้นAppleที่ถูกปรับคาดการณ์กำไรลดลง
(+) เงินดอลอ่อนค่า หลังยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น จากความวุ่นวายในซาอุฯที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท้
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 16, 2018, 04:49:53 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 17, 2018, 05:00:17 PM
FORECAST October 16th 2018
GBP เฝ้าระวังข่าวการเจรจา Brexit, สกุลเงิน EUR จับตามองการปราศรัยของนายกรัฐมนตรีคอนเตแห่งอิตาลี !!!
Talking Point- GBP, Brexit, Euro, Conte, Italy, EU
>ทิศทางค่าเงินปอนด์จับตามองการบรรลุข้อตกลง Brexit ก่อนการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป
>ทิศทางสกุลเงินยูโรแบกรับความเสี่ยงจากกรณีความขัดแย้งระหว่าง Rome vs. Brussels โดยจะถูกปราศรัยโดยนายกรัฐมนตรีคอนเตแห่งอิตาลี
สรุป: มีการเฝ้าระวังสกุลเงิน GBP หากการบรรลุข้อตกลง Brexit ออกมาอย่างราบรื่นจะส่งผลให้เงิน GBPUSD แข็งค่าขึ้น รวมถึง หากการผลการปราศรัยของนายกรัฐมนตรีคอนเตแห่งอิตาลีออกมาเป็นที่น่าพอใจ มีแนวโน้มจะส่งผลให้สกุลเงิน EURUSD แข็งค่าขึ้นเช่นกัน
Credit: Bull Guru
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 17, 2018, 06:16:15 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 18, 2018, 11:50:12 AM
พอมเพโอ เดินทางถึงเมืองหลวงอังการา ของตุรกี เมื่อวันพุธ (17) หลังเสร็จสิ้นการหารือกับกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีฯ และมกุฎราชกุมารเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่กรุงริยาดในวันเดียวกัน
ภายหลังการหารือ พอมเพโอเผยว่า ได้ย้ำกับซาอุดีฯ ถึงความสำคัญในการสอบสวนคดีการหายตัวไปของคาช็อกกี คอลัมนิสต์ชาวซาอุดีฯ ซึ่งริยาดรับปากว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส รวมทั้งจะไม่ปกป้องคนผิด
อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะฟันธงว่า คาช็อกกียังมีชีวิตอยู่หรือไม่และใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ
จากนั้นเมื่อเขาเดินทางต่อมาถึงตุรกี พอมเพโอเข้าพบประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน ที่ยังคงสงวนท่าทีโดยกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการสอบสวนหาความจริง
Source: ผู้จัดการออนไลน์
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ ตุลาคม 18, 2018, 12:01:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 18, 2018, 08:33:36 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 19, 2018, 07:15:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 22, 2018, 10:35:08 AM
.
วานนี้ (20 ต.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากสนธิสัญญาอาวุธ นิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty: INF) ที่ทำร่วมกับรัสเซียเมื่อปี 1987 ว่าด้วยเรื่องการจำกัดการพัฒนาอาวุธเชิงยุทธศาสตร์
.
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากเข้าร่วมการชุมนุมหาเสียงในรัฐเนวาดา โดยกล่าวหาว่ารัสเซียละเมิดสนธิสัญญา 1987 โดยไม่ได้มีหลักฐานใดๆ
.
"ข้อตกลงนี้ถูกละเมิดมาหลายปีแล้ว" เขากล่าว "เราจำเป็นจะต้องพัฒนาอาวุธเหล่านั้น" ทรัมป์กล่าวเสริม
.
ทรัมป์กล่าวเช่นนี้หลังจาก จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์กำลังมุ่งหน้าเดินทางไปยังรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการรายงานว่าเขาคือคนที่จะไปบอกกับผู้นำรัสเซียเกี่ยวกับแผนที่สหรัฐฯ จะออกจากข้อตกลงดังกล่าว
.
สนธิสัญญา INF ลงนามโดยอดีตสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาว่าด้วยเรื่องห้ามพัฒนา การติดตั้ง และการทดสอบขีปนาวุธร่อนที่ยิงจากพื้นดิน ที่มีพิสัยระหว่าง 300 ไมล์ (483 กิโลเมตร) ถึง 3,400 ไมล์ (5472 กิโลเมตร)
.
โดยมอสโกและวอชิงตันได้กล่าวหากันและกันอยู่หลายครั้งว่าอีกฝ่ายละเมิดสนธิสัญญา
.
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียอ้างว่า สหรัฐฯ ยังคงทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธและผลิตขีปนาวุธ ซึ่งเป็นข้อห้ามที่ระบุไว้สนธิสัญญา INF
China Xinhua News
- + - + - + - + - + - + - +
เริ่มหัวข้อโดย: nubwo23 ที่ ตุลาคม 22, 2018, 04:13:30 PM
เที่ยวประเทศไหน (https://www.sakagami.biz/เที่ยวประเทศไหน/)
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 22, 2018, 11:10:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 23, 2018, 08:53:20 AM
ขอบคุณที่มาแชร์ให้กับทุกคนรับรู้ฉันชอบทุกๆเรื่องราวของคุณมันดีและยอดเยี่ยมมากๆเลย
คนไทยหรือเปล่าเนี้ยะ
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 23, 2018, 10:11:55 AM
AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 23, 2018, 10:42:56 AM
พึ่งมาใหม่ครับท่านที สงสัยจะเป็นแฟนคลับท่านทีดีครับตอนนี้ยังรับอยู่ แต่ใกล้จะเต็มแล้วนะ รีบๆหน่อย
AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif AT9.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 24, 2018, 12:48:04 PM
.
โดยเพจ "ถามอีกกับอิก เรื่องลงทุน"
.
=============
.
1.ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง 500 จุดก่อนที่จะดีดกลับในช่วงท้ายตลาด
.
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นร่วงทั้งโลกหลายตลาดร่วงหนักรวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐที่ถูกเทขายตั้งแต่เปิดตลาด (บางช่วงตลาดร่วงหนักกว่า 550 จุด ก่อนกลับมาปิดที่ ติดลบ 126 จุด)
.
"ผมคิดว่าตลาดหุ้นมีความกังวลว่า สภาคองเกรสจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และจะคว่ำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ" ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจสหรัฐ ให้ความเห็นว่า นักลงทุนกลัวว่าพรรคเดโมแครตจะกลับมาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือน พฤศจิกายนก็เลยเทขายออกมาก่อน
.
แต่เมื่อไปถามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะมองว่า นักลงทุนกังวลเรื่อง การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงความตึงเครียดของเศรษฐกิจโลก
.
ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์สื่อสหรัฐ ยังคงให้สัมภาษณ์กดดันธนาคารกลางสหรัฐ แม้ว่าเค้ายืนยันว่าจะไม่แทรกแซงการทำงาน (แต่ให้สัมภาษณ์สื่อแทบจะทุกสัปดาห์)
.
“ทุกๆครั้งที่รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ย” “ดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีความสุขเพลิดเพลินในการขึ้นดอกเบี้ย”
.
“สำหรับผมแล้วธนาคารกลางสหรัฐเป็นความเสี่ยงมากที่สุด เพราะขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป”
.
=============
.
2.Gucci บริษัทสินค้าหรูผลประกอบการโตหนักมาก แม้มีความกังวลกำลังซื้อของชาวจีน
.
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าหรูชื่อดัง ที่คนไทยคุ้นเคย Gucci มีรายได้เติบโตสูงขึ้น 35% แตะระดับ 2.4 พันล้านเหรียญหรือกว่า 7 หมื่นล้านบาท
.
เป็นตัวเลขที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยปัจจัยหลักมาจากยอดซื้อจากนักท่องเที่ยวชาวจีน
.
“ตัวเลขการเติบโตสูงกว่าที่เราคาดเล็กน้อย แต่มองว่าอัตราการเติบโตจะน้อยกว่า 40% ในปีนี้” ผู้บริหารของ Gucci บอกครับ
.
ระยะหลังยอดขายสินค้าหรูจะดีหรือไม่ดี แนะนำให้ดูกำลังซื้อของคนจีน และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
.
=============
.
3. ราคาน้ำมันร่วงหนักหลังจากที่ซาอุฯประกาศอาจจะผลิตน้ำมันเต็มศักยภาพ
.
ช่วงนี้ในประเทศซาอุฯ มีความตึงเครียดอย่างมากครับ ทั้งเรื่องน้ำมันและเรื่องคดีสังหารนักข่าว
.
"หากปริมาณผลิตน้ำมันชะลอลง ขณะที่สหรัฐใกล้คว่ำบาตรอิหร่าน เราก็จะดำเนินการผลิตน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการในตลาด" รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียให้ความเห็นครับ
.
โดยบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่ซาอุดีอาระเบียจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันอีก 1-2 ล้านบาร์เรล/วันในอนาคต มองว่าจะใช้เวลาเพียง 3 เดือนในการผลิตน้ำมันเต็มศักยภาพที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน
.
"บทบาทของผมในฐานะรัฐมนตรีน้ำมันมีหน้าที่ในการดำเนินนโยบายรัฐบาล ด้วยการสร้างเสถียรภาพต่อตลาดพลังงานทั่วโลก เพื่อให้เศรษฐกิจโลกพัฒนา"
.
เท่านั้นแหละครับ ทำให้ราคาน้ำมันร่วงลงมาบ้าง ในขณะที่ซาอุดิอาระเบีย ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้น้ำมันเป็นเครื่องมือทางการเมืองตอบโต้ชาติอื่นๆ หากถูกคว่ำบาตรกรณีการเสียชีวิตของ นักข่าวซาอุดีอาระเบีย
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ ตุลาคม 24, 2018, 02:32:21 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 24, 2018, 04:41:10 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 25, 2018, 10:11:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ตุลาคม 30, 2018, 09:12:16 AM
(+) SPDR ซื้อเพิ่ม 5.3 ตัน ถือครองสุทธิ 754.94 ตัน
(+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 245.39 จุด วิตกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน,หุ้นเทคโนฯดิ่งหนัก
(-) แมร์เคิลประกาศไม่ชิงตําแหน่งนายกฯสมัย 5 หลัง CDU มีผลเลือกตั้งน่าผิดหวัง
(-) ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลักขานรับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส
(-) สหรัฐเผยดัชนี PCE รายปี พุ่งแตะเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ 2% ติดต่อกันเดือนที7 5
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ตุลาคม 30, 2018, 10:11:53 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ ตุลาคม 30, 2018, 01:15:11 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ตุลาคม 30, 2018, 05:45:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 15, 2018, 09:53:29 PM
ในวันพฤหัสบดี รัฐมนตรี Brexit ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Theresa May และรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ทยอยลาออกไปทีละคน เนื่องจากไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับข้อตกลงออกจากสหภาพยุโรปที่นายกฯเมย์ร่างไว้
รัฐมนตรี Dominic Raab และ Esther McVey กล่าวว่าไม่สามารถเดินหน้าสนับสนุนข้อตกลงนี้ต่อไปได้
สถานการณ์ตลาดวันนี้
1. เงินปอนด์อังกฤษร่วงลงหลังจากที่ Dominic Raab รัฐมนตรี Brexit ของสหราชอาณาจักรลาออก เพิ่มความกดดันต่อนายกรัฐมนตรี Theresa May มากยิ่งขึ้น
2. การซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ ล่วงหน้า (U.S. stock futures) ชี้ให้เห็นถึงการเปิดตลาดในระดับที่สูงขึ้น เนื่องจากสัญญาณที่สหรัฐฯ และจีนจะมีความคืบหน้าในการขจัดข้อพิพาททางการค้าช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
3. บริษัท Walmart มีกำหนดที่จะรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สามก่อนที่ตลาดสหรัฐฯ จะเปิดทำการ
4. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเผยแพร่รายงานการค้าปลีกในเดือนตุลาคมในเวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
5. ในเวลา 23:00 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ จะเผยแพร่รายงานน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งเป็นข้อมูลของสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤศจิกายน 16, 2018, 07:47:36 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ พฤศจิกายน 16, 2018, 10:19:38 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 22, 2018, 05:36:21 PM
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์ต่อตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุลลดลง 0.22% เหลือ 96.502 จุด ณ เวลา 10:43 น. ตามเวลา ET (15:43 GMT)
วอลล์สตรีทฟื้นตัวขึ้นโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อน
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความคิดเห็นจากผู้จัดทำแผน Federal Reserve และข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างไม่คาดคิดซึ่งระบุว่าธนาคารกลางอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่นที่มีเสถียรภาพโดย USD / JPY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% เป็น 112.58 ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนนักลงทุนมักจะลงทุนในเงินเยนของญี่ปุ่นซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในช่วงที่มีการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ส่วนอื่น ๆ เงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากสหภาพยุโรปได้เปิดดำเนินการทางวินัยต่ออิตาลีหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธงบประมาณในปีพ. ศ. 2562 เงินยูโร / ดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.30% เป็น 1.1404
ปอนด์แข็งขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่กลุ่มรัฐสภาไม่ได้รับลายเซ็นที่ต้องการเพื่อท้าทายความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีเธเรสาเซย์ พฤษภาคมอยู่ในกรุงบรัสเซลส์เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจา Brexit กับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Jean-Claude Juncker GBP / USD เพิ่มขึ้น 0.01% เป็น 1.2789
ขณะที่ NZD / USD เพิ่มขึ้น 0.87% เป็น 0.6846 ในขณะที่ AUD / USD เพิ่มขึ้น 0.82% เป็น 0.7272
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤศจิกายน 22, 2018, 08:45:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤศจิกายน 26, 2018, 12:26:27 PM
วันนี้ฝรั่งเศสทั่วประเทศ มีมวลมหาประชาชนรวมตัวกันกว่า 23,000 คน โกรธแค้นและต้องการกดดันให้ประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศสลาออก สาเหตุหลักมาจากการที่พวกเขาคิดว่านโยบายในการบริหารในขณะนี้ ไม่ได้ทำเพื่อคนรากหญ้า และรัฐบาลที่เขาคาดหวังว่าจะดี กลายเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจที่แตะต้องไม่ได้ และไม่ทำอะไรเพื่อประชาชนยากจนอย่างแท้จริง
ถนนฌ็องเซลิเซ่อันแสนสวยงาม กลายสภาพเป็นสนามรบ เพราะเป็นจุดที่มีบ้านพักของมาครองรวมถึงรัฐสภา และอาคารรัฐบาลที่สำคัญของประเทศมากมายตั้งอยู่บนถนนเส้นนั้น ประชาชนใส่เสื้อกั๊กสีเหลือง เขียนคำตำหนิการกระทำของประธานาธิบดี และบุกไปเผารถและอาคารต่างๆ เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภาและจัดตั้งการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง สื่อทั่วโลกเชื่อว่า สาเหตุหลักของการประท้วงเกิดจากการที่น้ำมันราคาขึ้นต่อเนื่องเพราะนโยบาลลดโลกร้อน ส่วนทางประธานาธิบดีมาครงยืนยันว่าจะไม่ลาออกเพราะกลุ่มผู้ต่อต้านแน่นอน และกำลังหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ขณะนี้มีประชาชนกว่าครึ่งพันบาดเจ็บ ส่วนตำรวจก็ถูกผู้ประท้วงทำร้ายบาดเจ็บราวร้อยคน
ขอบคุณภาพจาก Mirror, The Sun และ Getty Images มา ณ ที่นี่
เริ่มหัวข้อโดย: GreenFx ที่ พฤศจิกายน 26, 2018, 02:09:58 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ ธันวาคม 13, 2018, 08:10:39 PM
.
บริษัทใหญ่อย่าง Tesla และ IJet จ่ายเงินให้นักแฮก $1,000 – $15,000 สำหรับค่าจ้างการค้นหาปัญหาในระบบ ความมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละประเด็น Mastercard จ่ายให้มากถึง $3,000
.
ในเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงสหรัฐฯให้รางวัลสำหรับการแฮกเพนตากอน มีสัญญากับบริษัทรับจ้างแฮก Bugcrowd และ HackerOne
.
Bugcrowd เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2012 ได้จัดทำแพลตฟอร์มสำหรับแฮกเกอร์เพื่อการไล่ล่าหาช่องโหว่โปรแกรมต่างๆของบริษัทที่ต้องการทดสอบ
.
การทำงานของแฮกเกอร์สายขาว จะทำเป็นสัญญากับบริษัทแต่ละแห่งอย่างชัดเจน จำนวนเงินที่ตกลงจ่ายระหว่างกันขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของปัญหา
.
Bugcrowd หนึ่งในบริษัทรับจ้างแฮกชื่อดังรายงานว่า เมื่อปีที่แล้วได้เงินค่าจ้างจากบริษัทเทคฮาร์ดแวร์แห่งหนึ่งสำหรับการค้นพบบั๊กตัวหนึ่ง $113,000
.
มีรายงานว่าธุรกิจรับจ้างแฮกมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 37% ในปี 2018
.
นักแฮกเกอร์สายขาวที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน ครึ่งหนึ่งเป็นการทำงานแบบเต็มเวลา แฮกเกอร์ระดับสูง 50 อันดับแรก มีรายได้เฉลี่ยปีละประมาณ $145,000 หรือ 4.8 ล้านบาท
.
94% ของนักแฮกที่ทำงานอยู่กับ Bugcrowd มีอายุระหว่าง 18-44 ปี มีบางคนที่ยังเรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย หนึ่งในสี่ของนักแฮกเกอร์ไม่ได้จบปริญญา
.
ในขณะที่งานจำนวนมากกำลังจะหายไป มันก็มีงานใหม่แปลกๆเกิดขึ้นมา!!!
.
https://www.cnbc.com/2018/12/12/freelance-hackers-get-paid-to-test-the-defenses-of-firms-like-tesla.html
.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ ธันวาคม 13, 2018, 08:54:49 PM
ไปเป็นแฮกเกอร์ดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ ธันวาคม 13, 2018, 09:09:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 03, 2019, 07:29:06 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 03, 2019, 08:22:00 AM
ลงหนักเลย
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ มกราคม 03, 2019, 07:44:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 03, 2019, 09:07:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 04, 2019, 06:44:52 PM
ในวันนี้มีการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริการวมทั้งการประกาศอัตราการว่างงานและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงทั้งเดือนต่อเดือนและปีต่อปี
ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานของประเทศแคนาดาและอัตราการว่างงานประจำเดือนธันวาคม
ตรงนั้นจะมีความผันผวนแน่นอนแต่ที่หนักไปกว่านั้นก็คือ
ในช่วงเวลา 22:15 น. ตามเวลาประเทศไทยประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันจะร่วมเข้าประชุมพบปะกับ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 04, 2019, 06:57:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 04, 2019, 07:50:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 04, 2019, 09:25:58 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 04, 2019, 09:28:47 PM
ระวังต้นไม่ล้มด้วยนะท่านที อย่ากลับบ้าน นอนโรงแรมเลยครับ
พายุเข้าใต้หนัก เห็นข่าวเมื่อคืน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 04, 2019, 09:31:01 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 04, 2019, 11:35:42 PM
โดนสับขาหลอก
BUY GU ตั้งเทียร์ลิ่งสต๊อป
วัดนอนฟาร์ม มันลงมากินเทียร์ลิ่ง
ตอนนี้มันกลับไปอีกแระ
m:10 m:10 m:10 m:10
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 05, 2019, 08:47:01 AM
แย่เลยท่านป๊อบ โพสครบหรือยังครับตรวจด้วยนะ จะได้เป็นทุนต่ออีก
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 05, 2019, 10:32:04 AM
ถ้าไม่ลงมากินเทียร์ลิ่ง ได้ 2 - 3 ดอลล่าแน่ๆ
ลงมาเกี่ยว ได้ 14 เซ็น
AT8.gif AT8.gif AT8.gif AT8.gif AT8.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 08, 2019, 06:47:55 PM
ฉันจะพาเธอลอยล่องไปในอวกาศที่มีแต่เธอมีแต่เธอแต่ไม่ต้องกลัว ฉันจะพาเธอลอยล่องไปในอันตราย จะมีแต่เธอมีแต่เธอแต่ไม่ต้องกลัว
เข้าซื้อที่ : 1282 หรือ 19470 บาท
ขายที่ : 1298 หรือ 19630 บาท
ราคาทองได้ย่อลงมาถึงแนวรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อและขายทำกำไรที่ 1298 และคอยจับตาดูการเจรจาทางการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจ สหรัฐฯและจีน ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ประเด็นในเรื่องของเศรษฐกิจโลกยังคงค่อยๆชลอตัวและคาดว่ายังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 08, 2019, 07:03:49 PM
วิเคราะห์ได้ใจริง ๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 08, 2019, 10:37:39 PM
คืนวันอังคารนี้เวลา21.00 ตามเวลาท้องถิ่นของภาคตะวันออกของสหรัฐ ทรัมป์จะแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับเรื่องชายแดนภาคใต้ ต้องจับตาดูว่าทรัมป์จะประกาศมาตรการภาวะฉุกเฉินเพื่อสร้างกำแพงเม็กซิโกหรือไม่ โดยจะเอางบของประทรวงกลาโหมมาใช้ และจะให้ทหารอเมริกันเป็นผู้สร้างกำแพงเพื่อแก้"วิกฤติมนุษยธรรมและความมั่นคง" เนื่องจากเดโมแครทไม่ยอมผ่านงบประมาณ$5,600ล้านให้ทรัมป์สร้าง โดยให้เหตุผลว่ามันแพงไป ไม่มีประโยชน์ และผิดหลักคุณธรรม
8/1/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 13, 2019, 01:46:32 PM
ก่อนหน้านี้ นางเมย์ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงดังกล่าว จากเดิมที่มีกำหนดลงมติเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากวิตกว่าจะไม่ได้รับการอนุมัติจากสภา
อย่างไรก็ดี การเลื่อนการลงมติเป็นวันที่ 15 ม.ค.ก็ไม่ได้ช่วยให้นางเมย์มีความหวังมากขึ้นในการผ่านร่างข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากมีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า รัฐสภาอังกฤษจะยังคงคว่ำร่างข้อตกลงฉบับนี้ โดยถึงแม้ร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ได้รับการยอมรับจากผู้นำ EU แต่ร่างข้อตกลงดังกล่าวก็ได้สร้างความคลางแคลงใจต่อสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ แม้แต่ในพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์เอง โดยมีประเด็นที่อ่อนไหวคือ การควบคุมชายแดนระหว่างสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งรวมตัวอยู่กับ EU ในขณะนี้ และไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และจะต้องแยกตัวออกจาก EU ตามอังกฤษ
ทั้งนี้ ร่างข้อตกลง Brexit ของนางเมย์จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาสามัญชนอย่างน้อย 320 เสียง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด 639 เสียง
นักวิเคราะห์จากสำนักข่าว BBC คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมาย Brexit จะถูกคว่ำในสภา โดยมีช่องว่างคะแนนทิ้งห่างมากถึง 228 เสียง ซึ่งนอกจากเสียงที่คัดค้านจะมาจากพรรคฝ่ายค้านแล้ว สมาชิกสภาจำนวนหนึ่งของพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์ก็เตรียมโหวตคว่ำร่างข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ในวันอังคารหน้า ก็จะถือเป็นจุดจบสำหรับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนางเมย์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังร่างข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านการอนุมัติในสภา คือ การลาออกจากตำแหน่งของนางเมย์, มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล, รัฐบาลประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่, มีการจัดการลงประชามติรอบ 2 เกี่ยวกับ Brexit รวมทั้งเกิดความปั่นป่วนทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการ Brexit ให้ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐสภาอังกฤษคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ในสัปดาห์หน้า แต่รัฐบาลของนางเมย์ยังคงมีโอกาสครั้งที่ 2 ในการเสนอแผน Brexit ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ภายในวันที่ 18 ม.ค. แต่ก็ยังไม่มีการรับประกันว่าแผนดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์
------------------------------------------------
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 14, 2019, 09:36:21 PM
แต่เนื่องจาก PM2.5 มีขนาดเล็กมากจึงสามารถทะลุทะลวงผ่านปอดเข้าสู่เส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งสมองและหัวใจ ทำให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคทางสมอง ฯลฯ
แม้กระทั่งทารกในครรภ์ที่แม่สัมผัสกับอนุภาค PM2.5 ก็จะทำให้เด็กเมื่อโตขึ้นมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ดังกล่าว และยังมีผลต่อระดับสติปัญญาของเด็กอีกตลอดชีวิต
PM2.5 ไม่สามารถป้องกันได้โดยการสวมหน้ากากอนามัยทั่วไป แต่ต้องใช้หน้ากากที่มีคุณสมบัติป้องกัน PM2.5 ได้เป็นพิเศษเท่านั้น
ที่มา https://twitter.com/unicef/status/1070272823762083840?s=21
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 14, 2019, 09:48:23 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 15, 2019, 05:40:11 PM
ดังกล่าวจะกดดันปอนด์และยูโรให้อ่อนค่า หนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าจนกดดันราคาทองคํา อย่างไรก็ดีความเสี่ยงดังกล่าวอาจหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ ทั้งนี้ต้องรอจับตาดูผลอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง ด้านสัญญาณทางเทคนิคตอนนี้ราคาทองยังคง Sideway ในกรอบเเคบรอเลือกทางอยู่โดยเราคาดว่าน่าจะขึ้นได้ในที่สุด
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 15, 2019, 06:17:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 15, 2019, 07:06:34 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 17, 2019, 07:01:43 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 17, 2019, 07:32:35 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ มกราคม 17, 2019, 08:41:33 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 17, 2019, 11:59:22 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 18, 2019, 10:42:09 AM
เข้าซื้อที่ : 1285-1287 หรือ 19350 บาท
ขายที่ : 1298 หรือ 19500 บาท
ความผันผวนทองคำยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นแนะนำให้นักลงทุนใช้ 2 กลยุทธ์ควบคู่กันไป คือ กลยุทธ์ในกรอบเพื่อสร้าง Cash flow เข้าซื้อที่ 1287 และทำกำไรระยะสั้นแค่ 3-5 เหรียญ และใช้กลยุทธนอกกรอบเพื่อทำกำไรก้อนใหญ่ ไม่แนะนำให้นักลงทุนเล่นฝั่งขายเปิด เนื่องจากปัจจัยภาคนอกยังคงหนุนราคาทองคำอยู่ ดั่งเช่น เศรษฐกิจโลกถดถอย สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และ Shutdown ของสหรัฐฯ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 18, 2019, 10:42:59 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ มกราคม 18, 2019, 01:00:45 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 18, 2019, 01:25:58 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 19, 2019, 10:15:47 PM
จีนซึ่งกำลังทำสงครามการค้ากับสหรัฐในขณะนี้ กำลังขยายการซื้อขายน้ำมันโดยใช้เงินหยวน หรือ "เปโตรหยวน" ขณะที่รัสเซียและอียูต่างกำลังหาทางลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สำหรับจ่ายซื้อน้ำมัน หรือ "เปโตรดอลลาร์" กระแสตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการพึ่งพาเงินดอลลาร์อย่างหนักนั้นกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ กับอิหร่าน ซึ่งรวมถึงการส่งออก น้ำมัน การซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าด้วยเงินหยวนที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรัฐบาลจีนเปิดตัวไปเมื่อเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว ทำให้บทบาทของเงินหยวนในตลาดน้ำมันดิบแข็งแกร่งขึ้น สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในตลาดเซี่ยงไฮ้ทะลุ 5 แสนฉบับต่อวันหลายครั้งในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา โดยแต่ละฉบับ มีการซื้อขายน้ำมันดิบ 1,000 บาร์เรล การทำธุรกรรมดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในช่วง 6 เดือนหลังสุด
ปริมาณการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าด้วยเงินหยวนที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ แซงหน้าปริมาณการซื้อขายในตลาดคู่แข่งที่นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปแล้ว และบางครั้งมีปริมาณการซื้อขายใกล้เคียงกับน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงน้ำมันดิบสากล
หลังจากมีการส่งมอบรอบแรกไปเมื่อเดือนก.ย. ปีก่อน การซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าด้วยเงินหยวนซึ่งมาจากบริษัทจีนเป็นหลัก ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ความต้องการน้ำมันที่สูงมากในจีน ส่งผลให้การซื้อขายน้ำมันด้วยเงินหยวนเติบโตอย่างรวดเร็ว จีนแซงหน้าสหรัฐเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี 2560 และเพิ่มการนำเข้าน้ำมันในอัตรา รายปี 8% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2561 การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นและการขยายกำลังการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นในจีน ทำให้กลุ่มคลังสมองในเครือ "ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล" หรือ "ซิโนเปค" คาดการณ์ว่า กำลังการกลั่น น้ำมันของจีนจะเพิ่มขึ้นอีก 8% ตลอดทั้งปีนี้
แม้ว่าเอเชียกลายเป็นศูนย์กลางของการซื้อขายน้ำมันดิบไปแล้ว แต่ดัชนีอ้างอิงสากลสำคัญอย่างเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ ซึ่งซื้อขายกันในตลาดลอนดอนของอังกฤษ ถูกใช้ในการกำหนดราคาน้ำมันดิบ มานานหลายปี นอกจากนั้น บรรดานักลงทุนยังมีแนวโน้มที่จะหันไปซื้อขายในตลาดสหรัฐและยุโรปเนื่องจากมีความโปร่งใสและสภาพคล่องมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ด้วยหวังที่จะเปลี่ยนโครงสร้างตลาดน้ำมันในปัจจุบันและดึงดูดเงินลงทุนจาก ต่างแดนเข้าประเทศจีนจึงเปิดประตู รับนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าในประเทศได้
การใช้เงินหยวนซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า อาจกลายเป็นเครื่องมือในการตอบโต้อิทธิพลของเงินดอลลาร์ในตลาดน้ำมัน ขณะเดียวกัน จีนกำลังขยายการซื้อขายด้วยเงินหยวนกับบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งขัดแย้งกับสหรัฐด้วย
เมื่อเดือนพ.ค. ปีก่อน รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่กับอิหร่าน พร้อมเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านให้เหลือ 0 แต่จีนก็มีแนวโน้ม ที่จะนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านต่อไป "ในฐานะผู้นำเข้าน้ำมันอิหร่านรายใหญ่ที่สุด จีนมีแนวโน้มที่จะยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านด้วยเงินหยวน และอาจช่วยป้องกันภาวะผันผวนของราคาในตลาดเซี่ยงไฮ้ได้" ทากายูกิ โนงามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเจแปน ออยล์ ก๊าซ แอนด์ เมทัล เนชันส์ คอร์ป กล่าว
นอกจากนั้น รัสเซียกำลังพยายามลดการพึ่งพาการซื้อขายน้ำมันด้วยเงินดอลลาร์ และยอมรับการชำระเงินด้วยหยวนสำหรับการส่งออกน้ำมันไปจีนเป็นบางส่วน สหรัฐได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อ "รอสเนฟท์" บริษัทน้ำมันของรัฐบาลรัสเซีย และบริษัทพลังงานรายอื่นๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้ประสบความยากลำบากในการทำธุรกรรมและจัดหาเงินทุนสกุลดอลลาร์
ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (อีเออียู) ซึ่งเป็นสหภาพเศรษฐกิจ ระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วย คาซัคสถานและอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียตรายอื่นๆ รัสเซียมีแผนที่จะก่อตั้งตลาดร่วม ด้านพลังงาน
"เราได้อนุมัติโครงการขนาดใหญ่ สำหรับการก่อตั้งตลาดร่วมด้านก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแล้ว" ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวในการประชุมสุดยอดของอีเออียูเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแผนของเขาที่จะใช้สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียในการซื้อขายพลังงานระหว่างประเทศสมาชิกอีเออียู
ด้านอียูก็ตระหนักถึงความเสี่ยง จากการพึ่งพาเงินดอลลาร์ในการซื้อขายน้ำมันมากเกินไปเช่นกัน เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู ประกาศเจตจำนงที่จะสร้างดัชนีอ้างอิงน้ำมันดิบโดยใช้สกุลเงินยูโร โดยระบุว่า จะรวบรวมความเห็นจากบรรดา ผู้เล่นในตลาดภายในช่วงกลางปีนี้ เพื่อศึกษาวิธีเพิ่มการใช้เงินยูโรในการซื้อขายน้ำมัน
Source: กรุงเทพธุรกิจ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 22, 2019, 04:53:23 PM
ขายที่ระยะสั้น : 1285 หรือ 19340 บาท
ขายทำกำไรระยะยาว : 1295 , 19440 บาท
ในระยะสั้นแนะนำให้เล่นในกรอบ เข้าซื้อ 1276 และขายทกำไรที่ 5-10 เหรียญ และนักลงทุนระยะยาว เข้าซื้อที่ 1276 และรอถือยาวไปขายที่ 1295 ฝั่งซื้อยังคงมีความเสี่ยงต่ำสามารถถือรอได้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 22, 2019, 05:13:23 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 22, 2019, 05:23:00 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 22, 2019, 06:56:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 25, 2019, 07:51:03 AM
นาย Kevin Hassett, the Chairman of the White House Council of Economic Advisers ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN โดยมองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประจำไตรมาสหนึ่ง มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำหรือเข้าใกล้ศูนย์ หาก government shutdown ยังคงดำเนินต่อไปจนครบหนึ่งไตรมาส โดยประมาณการผลกระทบต่อ output ที่ร้อยละ 0.13 ต่อสัปดาห์
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bloomberg คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสหนึ่ง ปรับลดลงร้อยละ 0.8 สู่ร้อยละ 1.5 ทั้งนี้ นาย Hassett คาดว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวอย่างก้าวกระโดดที่ร้อยละ 4–5 ในไตรมาสสอง เมื่อ government reopen
ขณะที่นาย Bernard Baumohl, Chief Global Economist at the Economic Outlook Group LLC ให้ความเห็นว่านาย Hassett มีมุมมองเชิงบวกเกินไป โดยคาดว่าหนี้สินจากการใช้บัตรเครดิตในไตรมาสแรก จะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายและการออมอย่างมีนัยสำคัญ อนึ่ง นาย Hassett ไม่คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2020
Source: BOTSS
- White House chief economist: We could see ‘zero’ growth in first quarter because of shutdown:
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 25, 2019, 08:02:33 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 25, 2019, 09:55:56 AM
สายบาย : รอแนวแรกที่ 1277-1275 เป้าหมายต่อไปที่ 1250-1249 sl1 1274 (รอเข้าช่วง 1270-1266
) sl2 1267
สายเซล เน้นระยะสั้น Sl 1290
ความเห็นในเชิงเทคนิค: RSI(ุ47.57 H4)แนวโน้มลง StocX มีสัญญาณ ทรงตัวไซต์เวย์ ระยะออมแสง
แนวรับและแนวต้าน:ระหว่างวัน
1290-1270
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 25, 2019, 11:21:26 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 25, 2019, 12:07:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 27, 2019, 01:37:33 PM
เอเอเฟพีรายงานเมื่อวานนี้(26 ม.ค)ว่า จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวผ่านแถลงการณ์ในวันเสาร์(26)ระบุว่า “เมื่อคืนนี้ผมได้ร้องขอและได้รับหนังสือลาออกจากตำแหน่งของ จอห์น แม็คคัลลัม (John McCallum)ในฐานะเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำจีน”
แต่ทว่าเอเอฟพีชี้ ทรูโดไม่ได้ให้เหตุผลในแถลงการณ์ถึงการสั่งปลดแม็คคอลลัม แต่เป็นคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งผู้ช่วยของแม็คคัลลัม จิม นิกเกิล (Jim Nickel ) จะเข้ารับตำแหน่งอุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตประจำจีนในระหว่างนี้
ทั้งนี้เอกอัครราชทูตแคนาดาที่เพิ่งถูกสั่งให้ลาออกได้ให้ความเห็นผ่านสื่อในไม่กี่วันมานี้เกี่ยวกับคดี "เม่ง หว่านโจว" ลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมจีน หัวเว่ย ที่ชี้ว่าจะเป็นการดีสำหรับแคนาดาหากว่า ทางสหรัฐฯสามารถยุติการขอตัวเม่งในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อส่งตัวเธอกลับไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ
แม็คคัลลัมได้กล่าวรายงานสรุปต่อสมาชิกรัฐสภาแคนาดาถึงชะตากรรมของพลเมืองแคนาดา 2 รายที่ยังคงถูกกักตัวอยู่ในจีน และพลเมืองรายที่ 3 อยู่ในสถานะขั้นรับโทษขั้นประหารชีวิตซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าทางปักกิ่งใช้เพื่อบีบบังคับแคนาดาในคดีบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย
และหลังจากนั้นแม็คคัลลัมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนในมาร์คัม( Markham) จังหวัดออนแทริโอ โดยชี้ว่า เขาเชื่อว่า คำขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสหรัฐฯมีช่องโหว่อย่างร้ายแรง
โดยได้ชี้ไปถึงการให้ความเห็นทางการเมืองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงความคาดหวังการส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนของคดีเม่ง ***และในความเป็นจริงที่ทางแคนาดาไม่ได้ร่วมลงนามในการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯที่ทางวอชิงตันต้องการตัวเธอ***
ซึ่งการให้ความเห็นของเขาถูกโจมตีทันทีจากการเมืองฝ่ายค้านแคนาดาและคนอื่นๆ ต่อการทำให้การเข้มงวดต่อการให้ความสำคัญในจุดยืนของรัฐบาลแคนาดาที่จะไม่เข้ายุ่งในกระบวนการทางยุติธรรมลดลง
และ 1 วันหลังจากนั้นแม็คคอลลัมออกแถลงยอมรับว่า ตัวเองได้กล่าวผิดพลาด และรู้สึกเสียใจต่อความเห็นของตัวเองซึ่งทำให้เกิดความสับสน
แต่ทว่าในวันศุกร์(25) ทูตแคนาดาออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อแคนาดา เดอะ แวนคูเวอร์ สตาร์ ( The Vancouver Star) โดยชี้ว่า จะเป็นเรื่องดีสำหรับแคนาดาหากสหรัฐฯจะยกเลิกการขอตัวเ ม่ง หว่านโจว กลับไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ
“จากความเห็นของทางแคนาดา หาก(สหรัฐฯ)ยุติการคำขอร้องส่งตัว จะถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับแคนาดา” แม็คคัลลัมกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ในระหว่างงานการกุศล
และเสริมต่อว่า “เราต้องทำให้แน่ใจว่าหากสหรัฐฯจะทำข้อตกลงเช่นนั้น มันต้องรวมไปถึงการปล่อยตัวของพลเมือง 2 คนของเรา และสหรัฐฯตระหนักเป็นอย่างมากในเรื่องนี้”
ในแถลงการของผู้นำแคนาดา เขาได้กล่าวสรรเสริญการทำงานตลอดเกือบ 20 ปีของแม็คคัลลัม โดยชี้ว่า เขานำมาซึ่ง “เกียรติยศ” ที่พร้อม “ความโดดเด่น”
เอเอฟพีรายงานว่า ในอดีตแม็คคัลลัมเคยดำรงตำแหน่งระดับรัฐมนตรีมาแล้ว รวมไปถึงอดีตรัฐมนตรีกลาโหมแคนาดา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงทหารผ่านศึก และรัฐมนตรีคนเข้าเมืองแคนาดา
Source: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/around/detail/9620000009186
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 27, 2019, 04:25:43 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 29, 2019, 09:21:27 AM
(+) ทรัมป คาดเกิดชัตดาวน์อีกครั้ง ขณะไม่เชื่อมั่นคองเกรสบรรลุข้อตกลงสร้างกําแพง
(+) สนง.งบประมาณคองเกรสชี้ชัตดาวน์สร้างความเสียหายทางศก.กว่า 1 หมื่นล้านดอลล์
(-) ดรากีชี้เศรษฐกิจยูโรโซนย่ำแย่มากกว่าคาด ขณะถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของศก.โลก
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 29, 2019, 09:37:15 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มกราคม 29, 2019, 01:03:41 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 29, 2019, 02:14:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มกราคม 30, 2019, 10:40:47 AM
ผล => รับร่าง 2 ฉบับและคว่ำร่าง 5 ฉบับ
ร่าง 2 ฉบับ ที่ได้รับเสียงสนับสนุนได้แก่
1.คัดค้านการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง
=> Hard brexit จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
2.เรียกร้องให้มีการเสนอทางเลือกต่อนโยบาย Backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการค้ำประกันว่าจะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป
=> อันนี้ พูดง่ายทำยาก
นางเมย์ก็จะนำเนื้อหาในร่างแก้ไขดังกล่าวมาปรับปรุงเป็นร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เพื่อนำไปเจรจาครั้งใหม่กับผู้นำ EU ภายในวันที่ 26 ก.พ.มิฉะนั้นรัฐสภาจะทำการลงมติว่าจะเรียกร้องให้ EU ชะลอกำหนดเวลาในการที่อังกฤษจะแยกตัวจาก EU จากกำหนดเดิมวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับภาวะการแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการบรรลุข้อตกลงในวันดังกล่าว
สรุป => คาดว่าน่าจะต้องเลื่อนวันแยกตัว
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มกราคม 30, 2019, 10:44:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มกราคม 30, 2019, 10:52:42 AM
เริ่มหัวข้อโดย: komkit ที่ มกราคม 30, 2019, 10:54:04 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2019, 08:44:03 AM
(-) SPDR ขาย 4.99 ตัน ถือครองสุทธิ 789.51
(+) ดาวโจนส์ลบ 103.81 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าคาด
(+/-) นักลงทุนจับตาจีน-สหรัฐ ตกลงเรื่องสงครามภาษี โดยมีเดดไลน์ภายในวันที่ 1 มี.ค.
(+) Fed ส่งสัญญาณยุติแผนลดขนาดงบดล (เลิกขึ้นดอกเบี้ย)
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2019, 09:58:22 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กุมภาพันธ์ 26, 2019, 08:45:43 AM
(-) SPDR ขาย 1.18 ตัน ถือครองสุทธิ 788.33 ตัน
(-) ดาวโจนส์บวก 60จุด หลังทรัมป์มีแนวโน้มยืดเดดไลน์การเจรจาการค้ากับจีนออกไป
(+/-) ทรัมป์บินไปเวียดนาม เพื่อพบกับคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในการตกลงยุติอาวุธนิวเคลียร์
(+) สต็อกสินค้าคงคลังของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. พุ่งสูงสุดในรอบ5ปี
(+/-) นายกอังกฤษยืนยัน ต้องการให้ Brexit เป็นไปตามกำหนดการ 29 มีนาคม
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 06, 2019, 08:47:18 AM
ตัวเลขการขยายตัวดังกล่าว สอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างร่วงลง 0.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
การร่วงลงของการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้ที่ดีดตัวขึ้น, วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่มีราคาแพง รวมทั้งการขาดแคลนที่ดิน และแรงงาน
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนธ.ค.
เมื่อพิจารณาทั้งปี 2561 การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554
การใช้จ่ายในโครงการก่อสร้างของภาคเอกชนลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. ขณะที่การใช้จ่ายในโครงการที่อยู่อาศัยดิ่งลง 1.4% หลังจากพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ย. ส่วนการใช้จ่ายในโครงการที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.
เมื่อพิจารณาทั้งปี 2561 การใช้จ่ายในโครงการที่อยู่อาศัยของภาคเอกชนลดลง 0.2%
ส่วนการใช้จ่ายในโครงการภาคสาธารณะลดลง 0.6% ในเดือนธ.ค. แตะระดับต่ำสุดรอบ 8 เดือน หลังจากร่วงลง 1.0% ในเดือนพ.ย. ขณะที่การใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาลกลางดิ่งลง 2.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ส่วนการใช้จ่ายในโครงการของรัฐบาลในมลรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่นลดลง 0.5% หลังจากร่วงลง 1.1% ในเดือนพ.ย.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 06, 2019, 09:31:17 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มีนาคม 06, 2019, 12:32:17 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 11, 2019, 12:54:02 PM
ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2561 หรือราว 5 เดือนก่อน เครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้ของสายการบิน ไลออน แอร์ ของประเทศอินโดนีเซีย ตกหลังจากขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตาแค่ไม่กี่นาทีเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 189 คน เสียชีวิต
สิ่งที่เหมือนกันในโศกนาฏกรรมทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ก็คือ อุบัติเหตุเกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินขึ้นไม่กี่นาที และ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ที่ตกทั้ง 2 ลำล้วนเป็นเครื่องบินใหม่ โดย 737 ของไลออน แอร์ เพิ่งมีอายุการใช้งานเพียง 3 เดือน ส่วนของเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ขึ้นบินเที่ยวแรกในเดือนตุลาคม 2561
*โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ต่างจาก 737 รุ่นก่อนอย่างไร?
เครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 มีความยาว 39.52 เมตร กว้างจากปลายปีกถึงปลายปีกที่ 35.9 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 210 ที่นั่ง มีระยะการบินราว 6,570 กิโลเมตร ใช้เครื่องยนต์ LEAP-1B จากบริษัท ‘ซีเอฟเอ็ม อินเทอร์เนชันแนล’ ของสหรัฐฯ และเป็นเครื่องบินที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของโบอิ้ง โดยขายมากกว่า 4,500 เครื่องให้แก่ผู้ให้บริการการบินกว่าร้อยแห่งทั่วโลก นับตั้งแต่ปี 2559
นายแกร์รี โซจัตมัน นักวิเคราะห์การบินในกรุงจาการ์ตา บอกกับสำนักข่าว บีบีซี ว่า เครื่องยนต์ของ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ล้ำไปด้านหน้าเล็กน้อย และติดตั้งสูงใกล้กับปีกมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสมดุลของเครื่องบินรุ่นนี้
ด้านคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติ ของอินโดนีเซีย ระบุว่า เที่ยวบิน 610 ของสายการบินไลออน แอร์ เกิดปัญหาได้รับข้อมูลผิดพลาดจากหนึ่งในเซนเซอร์ ที่ออกแบบมาเพื่ออจ้งนักบินกรณีที่เครื่องมีโอกาสเกิดอาการ สตอล (stall) หรือภาวะร่วงหล่นจากการไม่มีแรงยก เพราะเปิดมุมปะทะของปีกสูงกว่าข้อจำกัด อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสืบสวนยังไม่สรุปว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้
เซนเซอร์ตัวนี้กับซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องทำงานต่างกับเครื่อง 737 รุ่นก่อน แต่ในกลับไม่มีการแจ้งเรื่องนี้ให้นักบินทราบ โดยไม่กี่วันหลังจากเครื่องบินไลออน แอร์ตก บริษัท โบอิ้ง ก็ออกประกาศแนะนำการปฏิบัติถึงสายการบินต่างๆ ทันที
*การบินสหรัฐฯ ออกคำเตือน
สำนักงานการบินพลเรือแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ก็ออกคำสั่งฉุกเฉินเรื่อง ความสมควรเดินอากาศ (AD) ถึงสายการบินในสหรัฐฯ เกี่ยวกับเซนเซอร์ตัวนี้ ซึ่งถูกเรียกว่า ‘Angle of Attack’ หรือเซนเซอร์ AOA โดยระบุว่า หากปัญหาที่เกิดขึ้นกับเซนเซอร์ตัวนี้ไม่ได้รับการแก้ไข มันก็อาจทำให้ลูกเรือควบคุมเครื่องบินได้อย่างยากลำบาก นำไปสู่สถานการณ์ที่หัวเครื่องบินทิ่มลง, สูญเสียระดับความสูงอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นไปได้ที่จะตกกระแทกกับพื้น
ขณะที่แหล่งข่าวบอกกับบีบีซี ว่า นักบินของสายการบิน เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ส ควรได้รับการอัพเดตเกี่ยวกับปัญหาของเซนเซอร์ตัวนี้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า เครื่องบินของพวกเขาประสบปัญหาเดียวกันกับไลออน แอร์ ก่อนที่เครื่องจะตกหรือไม่
*โบอิ้งตอบสนองว่าอย่างไร?
บริษัท โบอิ้ง ออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ว่า ทีมช่างเทคนิคของพวกเขาเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคตามคำขอ และตามคำสั่งของคณะกรรมความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติสรัฐฯ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความครัวและบุคคลอันเป็นที่รักของผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่บนเครื่อง และพร้อมจะสนับสนุนทีมของ เอธิโอเปีย แอร์ไลน์ ด้วย
Source: ไทยรัฐออนไลน์
- Boeing's top-selling plane is set for new scrutiny after second deadly crash in 5 months: https://www.cnbc.com/2019/03/10/boeing-737-max-ethiopian-airlines-crash-puts-boeing-back-in-spotlight.html
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มีนาคม 11, 2019, 05:55:13 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มีนาคม 25, 2019, 11:43:17 AM
ขายที่ : 1320 หรือ 19720 บาท
จากการเลือกตั้งทำให้ค่าเงินบาทมีการแข็งค่ามาบ้าง แต่ยังไม่ต้องกังวลเนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจยังคงไม่หนุนค่าเงินบาทให้แข็งค่าได้ และคาดว่าในเดือนหน้าจะมีการอ่อนค่าต่อ และราคาทองคำยังคงมีปัจจัยหนุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแนะนำให้นักลงทุนเล่นฝั่งซื้อเป็นหลัก และเข้าซื้อที่ 1310 และขายที่1320 ในระยะสั้นและระยะยาวที่ 1345
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มีนาคม 25, 2019, 12:42:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ มีนาคม 25, 2019, 09:26:16 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 15, 2019, 02:19:00 PM
นายโมเตกิ เคยกล่าวที่กรุงโตเกียวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การเจรจาครั้งนี้แม้ยากแต่ก็ว่ากันตรงๆ การเจรจารอบแรกในวันจันทร์ จะเป็นการตัดสินใจว่าจะหารือกันในเรื่องใดบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของสินค้า
“ผมจะเจรจาอย่างดีที่สุด ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติ” รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้คำมั่น
ปีที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกตนเองว่าเป็นมือทำดีล เล่นบทโหดกับคู่ค้าเก่าของสหรัฐ ด้วยการขู่และเก็บภาษีหวังเพิ่มการส่งออกของประเทศลดการขาดดุลที่สหรัฐประสบมาเนิ่นนาน
การเจรจาครั้งนี้ รัฐบาลโตเกียวต้องการเน้นเฉพาะเรื่องภาษี แต่เจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐกำหนดหัวข้อเจรจา 22 หัวข้อ รวมถึงอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นและเรื่องสกุลเงิน
เมื่อวันเสาร์ (13 เม.ย.) นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเผยว่า ข้อตกลงที่ได้จะต้องกำหนดไม่ให้ญี่ปุ่นอ่อนค่าเงินเยนเพื่อสร้างการได้เปรียบในการค้าระหว่างประเทศด้วย
ส่วนคู่หูตีกอล์ฟอย่างทรัมป์และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ หลังจากนี้ มีโอกาสเจรจาการค้ากันหลายครั้ง โดยนายอาเบะ มีกำหนดเยือนสหรัฐหลังจากนี้ และคาดว่านายทรัมป์จะมาเยือนญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ที่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติในวันที่ 1 พ.ค. แล้วผู้นำสหรัฐจะกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้งเพื่อประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ จี20 ที่นครโอซากา ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 16, 2019, 07:32:45 PM
ว่าด้วยฉากที่ตัวแทนทูตและองค์กรระหว่างประเทศจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป 11ประเทศ รุมล้อมให้กำลังใจ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา และ แม้ต่อมากระทรวงการต่างประเทศจะส่งสัญญาน "ไม่ถูกใจสิ่งนี้" เพราะเหมือนกับการแทรกแซงเรื่องภายในของไทย แต่เบื้องหลังที่ "ธนาธรโป๊ะแตก" ทำไม การเชิญพวกเขาเหล่านั้นจึงง่ายดาย และไม่คำนึงถึงกติกาสากล... นี่อาจจะเป็นคำตอบไขปมที่ยังเคลือบแคลงสงสัยกัน...
เพจ The MATTAD (เมตตาดี) ได้นำเสนอ บทความจากเว็บไซต์ journal-neo.org เขียนโดย Tony Cartalucci ในหัวข้อเรื่อง "West Finds New Anti-China Puppet in Wake of Thai Elections" : ตะวันตกพบหุ่น เชิดผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อจีนคนใหม่ ในการเลือกตั้งไทย (แปลโดย : NT นักแปลจิตอาสา)
เริ่มต้นถึง การแทรกแซงทางการเมืองของโลกตะวันตก ว่า เผชิญกับความพ่ายแพ้อีกครั้ง คราวนี้ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประเทศไทย ด้วยประชากรกว่า 70 ล้านคน และเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังก้าวสู่การเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคที่สำคัญในนโยบาย "One Belt, One Road" ของจีน ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตร ต้องการจะส่งฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อจีน ขึ้นสู่อำนาจในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับกองทัพ ได้คะแนนนิยมที่สูงกว่า ทำให้ฝ่ายปฏิปักษ์ที่มีสหรัฐฯ หนุนหลังพบกับความพ่ายแพ้ร้ายแรงในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ขึ้นสู่อำนาจเป็นครั้งแรกในปี 2544
1. ฝ่ายปฏิปักษ์ที่มีสหรัฐฯ หนุนมีผู้นำคือ อดีตนายกรัฐมนตรี"ทักษิณ ชินวัตร" มหาเศรษฐีผู้ลี้ภัยทางการเมือง เขาถูกโค่นล้มจากอำนาจในปี 2549 ภายหลังมีข้อครหาการคอร์รัปชัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการพยายามจะกุมอำนาจรัฐทั้งหมดไว้กับตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ... จากนั้นมาทักษิณ พยายามจะหวนคืนสู่อำนาจผ่านการใช้ตัวแทนหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีน้องสาวของตนเอง "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ผู้ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งปี 2554 ถึง 2557 และเฉกเช่นเดียวกับพี่ชาย ได้ถูกโค่นล้มจากอำนาจโดยการแทรกแทรงของศาล และกองทัพ
นอกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว "ทักษิณ ชินวัตร" ยังคุมกลุ่มผู้ชุมนุมบนท้องถนนที่นิยมความรุนแรงรู้จักกันในนาม"เสื้อแดง" ในขณะเดียวกัน ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าเอ็นจีโอ ที่ได้รับเงินทุนจากสหรัฐฯ เหล่า "นักเคลื่อนไหวนักศึกษา" และได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากสื่อตะวันตก... ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ทักษิณ ได้แบ่งกำลังทางการเมืองเป็นหลายพรรค เพื่อการกระจายความเสี่ยงในการถูกยุบพรรค เพื่อที่จะสามารถใช้พรรคเหล่านั้นเป็นตัวแทนอย่างผิดกฎหมายให้ตนต่อไป นอกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว ทักษิณ ยังได้ส่งพรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ และ... พรรคอนาคตใหม่
2. สหรัฐพบตัวแทน"คนใหม่"ใน"อนาคตใหม่" ...ในขณะที่เพื่อไทย และพรรคอื่นๆ ที่กล่าวมามีทักษิณเป็นผู้สั่งการอย่างเปิดเผย แต่พรรคอนาคตใหม่ได้พยายามที่จะปฏิเสธการเป็นพรรคนอมินี ... แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้น
พรรคอนาคตใหม่ ที่นำโดยมหาเศรษฐีนามว่า "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" นอกจากมีนโยบายที่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย ในการเอาทหารออกจากอำนาจ (ซึ่งจะเปิดทางให้ทักษิณคืนสู่อำนาจ) แต่หนำซ้ำ พรรคอนาคตใหม่ ได้ตั้งสำนักงานพรรคติดอยู่กับที่ทำการพรรคเพื่อไทย ในพรรคอนาคตใหม่เอง ก็ยังมีนักการเมืองฝ่ายทักษิณ และพรรคไทยรักษาชาติของทักษิณ ยังส่งเสริมให้คนเลือกอนาคตใหม่ หลังจากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบไปก่อนหน้าการเลือกตั้ง ... ตัวของธนาธรเองเป็นทายาทร่วมของทรัพย์ " ตระท่านลจึงรุ่งเรืองกิจ" ซึ่งได้มาจากบิดาผู้ล่วงลับ และตั้งแต่มารดาได้รับช่วงต่อ ตระท่านลจึงรุ่งเรืองกิจ ได้กลายเป็นพันธมิตรกับ ทักษิณ
การนำเสนอของสื่อที่ตระท่านลนี้ควบคุม ได้สนับสนุนตัวทักษิณเอง และวาระทางการเมืองของทักษิณ และยังรวมไปถึงการเอื้อกับผลประโยชน์ และวาระทางการเมืองของ"โลกตะวันตก" ซึ่งโลกตะวันตกเอง ก็ยังให้การสนับสนุนทักษิณ และจะได้รับผลประโยชน์ หากทักษิณกลับมามีอำนาจ ...ตัวธนาธรเอง ก่อนหน้าการเลือกตั้ง ได้ไปขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ด้วยการเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีของแคนาดา "จัสติน ทรูโด" และไปกล่าวสุนทรพจน์ในงานเช่น Concordia Summit ที่มีประธานเป็นผู้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และหนุนสงครามมาอย่างยาวนานอย่าง John Negroponte และ David Petraeus รวมถึงตัวแทนของเผด็จการที่ได้รับการยอมรับอย่าง "เจ้าชาย Abdulaziz bin Talal bin Abdulaziz Al Suad" แห่งซาอุดิอาระเบีย
3. ธนาธรเอ่ยครั้งแล้วครั้งเล่าถึงความตั้งใจที่จะยกเลิก "โครงการร่วมไทย-จีน" ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และตัดงบกลาโหม ซึ่งจะทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศ ทั้งสองสิ่งนี้ นอกจากธนาธรแล้ว ก็ยังมีสหรัฐฯ ที่หมายปองอยากให้ไทยทำ ... ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สื่อตะวันตกจะร่วมกันสนับสนุน "ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่" ในฐานะอีกทางเลือกหนึ่งจากทักษิณ โดยที่ความน่าเชื่อถือและความนิยมของทักษิณเอง ได้ลดลงแม้ว่าจะมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือจากทางตะวันตกอย่างกว้างขวาง
4. พรรคอนาคตใหม่ของธนาธรได้อันดับ 3 จากการเลือกตั้ง รองลงมาจากพรรคพลังประชารัฐ ที่เกี่ยวโยงกับกองทัพ และพรรคเพื่อไทย ของทักษิณ แต่กระนั้นแล้วก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจ ที่นักข่าวของตะวันตกกลับยกยอให้ความสำคัญเขากว่าสิ่งที่เขาเป็น ธนาธรได้พบกับปัญหาทางกฎหมายในช่วงเลือกตั้งโดยถูกตั้ง ข้อกล่าวหา 3 คดี หนึ่งในนั้นเป็น"คดีความมั่นคง" เมื่อไปพบตำรวจตามหมายเรียก มีตัวแทนทูตทั้งหมด 12 คน ติดตามการแจ้งข้อกล่าวหาด้วย และในนั้น มีตัวแทนทูตจากสหรัฐฯ อังกฤษ และ แคนาดา...
สื่อตะวันตกต่างพรรณนาถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เป็นการ "สนับสนุนจากต่างประเทศ" แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งฝ่าย"ประชาธิปไตย" แต่กระนั้นแล้ว แม้เพียงมองนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา อย่างคร่าวๆ แล้ว จะเห็นได้ว่า เป็นเพื่อประโยชน์ของตัวเองโดยที่ไม่ใช่เพื่อ "ประชาธิปไตย" การมีผลประโยชน์ร่วมกันจึงเป็นเหตผลที่ประเทศเหล่านี้ให้ความ"สนับสนุน" ...
ผู้อ่านควรนึกถึงการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา ในการก่อสงครามที่มิชอบด้วยกฎหมายครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ ลิเบียในแอฟริกาเหนือ ซีเรียในตะวันออกกลาง ไปจนถึงอัฟกานิสถาน ในเอเชียกลาง รวมไปจนถึงการร่วมกันให้ความสนับสนุนเผด็จการอย่างแท้จริง เช่น ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ และ ยูเครนที่มีแนวคิดแบบ "นีโอนาซี"
ดังนั้นการสนับสนุนธนาธร จากโลกตะวันตกจึงไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกไปจากการแทรกแซงการเมืองของไทยโดยตรง โดยใช้ประชาธิปไตย เป็นกำบังแทนที่จะปกป้องมัน ... ไม่ว่าจะผ่านทางธนาธร หรือ ทักษิณ โลกตะวันตกต้องการจะทำให้ไทยอ่อนแอ และทำลายสถาบันที่เป็นอิสระของไทย เช่น ศาล กองทัพ และ พระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเป็นการปูทางนำไปสู่การ "เปิดเสรี" ทางการค้า โดยไร้การต้านทาน และ การเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศของไทย ให้หยุดความสัมพันธ์กับจีน จะทำให้ไทยกลายเป็น "กำแพงต้านจีน" โดยที่ไทยเสียผลประโยชน์
5. การเดิมพันที่สูญเสียของสหรัฐฯ ... ในยุคที่ทักษิณมีอำนาจสูงสุด ทักษิณมั่งคั่งเป็นอันดับ 4 ของไทย อำนาจทางการเมือง และทางการเงินของทักษิณ ต้องใช้การลงแรงอย่างสาหัสเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษในการโค่นล้ม จนเพียงพอ จนในการเลือกตั้งไม่นานมานี้เองที่พรรคเพื่อไทย ของทักษิณได้แพ้คะแนนนิยม ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงบัดนี้ ความมั่งคั่งของทักษิณได้ร่วงลงจากอันดับ 4 ไปที่อันดับ 19 ความน่าเชื่อถือและอิทธิพลของทักษิณ ก็ได้อ่อนลง รวมไปถึงตัวแทนของเขาด้วย "ธนาธร จึงต้องปฏิเสธความสัมพันธ์กับทักษิณ" แม้ว่าเขาเองก็เป็นตัวแทนของทักษิณ...
ธนาธร หรือ"ตัวแทนคนใหม่" ของโลกตะวันตก จึงเป็นแค่ตัวสำรองของทักษิณ แต่อย่างไรก็ตาม เขามาจากตระท่านลที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 28 ของไทย และประวัติด้านการเมือง และการเงินของธนาธร ก็ได้ด่างพร้อยไปด้วยเรื่องคอร์รัปชัน และเรื่องอื้อฉาวไปเสียแล้ว ... โลกตะวันตกในตอนนี้กำลังใช้ตัวแทนที่กำลังทรัพย์อ่อนแอกว่า และประวัติทางการเมืองที่เป็นมลทินกว่าอย่างหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับทักษิณ ในปี 2544 ในการต่อสู้กับสถาบันของไทย ซึ่งมีความพร้อมเพรียง และเตรียมพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของไทยมากกว่าเท่าที่เคยเป็นมา...
ความพยายามของสื่อตะวันตกที่จะ"ดลบันดาล" วิกฤติทางการเมืองของไทย ให้เข้าสู่รูปร่างที่จะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองนั้น ไม่เป็นผลสำหรับทักษิณครั้งมีอำนาจสูงสุด ไม่เป็นผลก่อนการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และจะไม่เป็นผลสำหรับตัวสำรองของทักษิณ ที่อ่อนแอกว่าหลังการเลือกตั้งอยู่หลายเท่า เมื่อเทียบกับทักษิณ ในปี 2544
6. ความพ่ายแพ้ของโลกตะวันตกในครั้งนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในลักษณะที่กว้างกว่ามากในความล้มเหลวของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่ความพยายามอย่างงุ่มง่าม ในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศเวเนซูเอลาไปจนถึงความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายในซีเรีย และสงครามในอัฟกานิสถานที่ค้างคาอยู่กว่าสองทศวรรษ ในส่วนของภูมิภาคนี้ ความล้มเหลวในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่สหรัฐฯ ถูกชิงความเป็นใหญ่โดยจีน และอำนาจอื่นในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้น
แนวความคิดที่ว่าคนอย่างเช่น ธนาธร และพรรคอย่างเช่นอนาคตใหม่ เป็นตัวแทนของ"ประชาธิปไตย" ในขณะที่วาระทางการเมืองถูกกำหนดโดยผู้ลี้ภัยในต่างประเทศอย่าง ทักษิณ และผู้สนับสนุนจากโลกตะวันตก และได้รับความคุ้มครองในประเทศไทย จากตัวแทนจากกงศุลตะวันตกในกรุงเทพ แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ขัดแย้งในตัวเอง และอย่างไรก็ไปไม่รอด ประชาธิปไตย มีนิยามคือ กระบวนการที่ตัดสินใจโดยคนในชาติเอง ไม่ใช่มีเพียงคนเดียวที่สามารถตัดสินชะตากรรมของชาติได้จากต่างประเทศ มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลา ที่ "วาทกรรมปากว่าตาขยิบ" ที่ถูกใช้ในการเผยแพร่แนวคิดที่ขัดแย้งนี้ จะต้องเผชิญกับความจริงของมัน...
คนที่วางเดิมพันไว้กับทักษิณ ตัวแทนอย่าง ธนาธร พรรคอนาคตใหม่ ของเขา หรือแม้แต่ความเป็นใหญ่ของสหรัฐฯ ในเอเชีย ต้องถามตนเองว่า จะเชื่อในสิ่งนี้อีกหรือไม่ ในปีหน้า หรือทศวรรษข้างหน้า ผู้คนจะรู้ซึ้งถึงวาระที่ไม่มีทางไปรอดนี้ หรือมันจะติดหล่มอยู่กับความล้มเหลว ที่ยิ่งทวีคูณ ...
ข้างฝ่ายกองเชียร์พ่อฟ้า เห็นว่ากระแสนี้จะแรง ถัดจากบทวิเคราะห์นี้แค่วันเดียว ก็ตู่เอาการเข้าพบของ คณะผู้แทนกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศจีน เข้าเยี่ยมหารือ ณ ที่ทำการของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อเช้า วันที่ 9 เม.ย เล่นใหญ่ใส่เต็มที่ ว่า... นี่ไง ไม่ใช่แต่ตะวันตก จีนก็มา ประโคมโอ่เต็มที่ อนาคตใหม่นั้น เนื้อหอม จริง ทั้งตะวันตก และจีนต่างรุมตอม ใครๆ ก็สนับสนุน...
ทว่า โอ่อยู่ไม่นาน "โป๊ะแตกอีกหน" ผล ปรากฏว่า พอสายๆ และตลอดทั้งวันนั้น คณะผู้แทนกระทรวงวิเทศสัมพันธ์แห่งคณะกรรมการกลาง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ก็เดินสายเข้าเยี่ยมหารือกับอีกหลายพรรค ทั้งพรรคพลังประขารัฐ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ไปหมด
...ดราม่าไม่ว่างเว้น ไม่เผื่อหน้าแหกเลยจริงๆ
#mgronline #ธนาธร #พ่อของฟ้า #อนาคตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 21, 2019, 07:57:21 PM
Cr:https://mgronline.com/around/detail/9620000038576
รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์ - เกิดเหตุระเบิดครั้งที่ 8 ของวัน ยอดดับรวมอยู่ที่ 160 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บมีไม่ต่ำกว่า 400 ราย ล่าสุดกระทรวงกลาโหมศรีลังกาทนไม่ไหว สั่งประกาศใช้เคอร์ฟิวส์เวลากลางคืน ในเวลานี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศความรับผิดชอบ ด้านผู้นำศรีลังกาแสดงความรู้สึกตกใจต่อเหตุร้าย ส่วนสถานทูตต่างชาติในศรีลังกาออกคำเตือนพลเมืองให้อยู่ในความระมัดระวัง
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(21 เม.ย)ว่า เกิดระเบิดครั้งที่ 8 ที่กรุงโคลัมโบ หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตรวมใน 7 ครั้งก่อนหน้าอยู่ที่ 160 ราย และบาดเจ็บอีกร่วมหลายร้อยคน โดยเอเอฟพีรายงานก่อนหน้าว่า เกิดระเบิดครั้งที่ 7 ของวันอาทิตย์(21) ที่โรงแรมทางใต้ของกรุงโคลัมโบย่านชานเมืองเดฮีวาลา( Dehiwala) โดยโฆษกตำรวจศรีลังกา รูวาน ท่านนาซาเซเกรา(Ruwan Gunasekera) กล่าวว่า การระเบิดรอบใหม่นี้มีผู้เสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 2 คน
หลังจากเกิดการโจมตีตลอดทั้งวันทำให้กระทรวงกลาโหมศรีลังกาออกคำสั่งให้บังคับใช้กฎหมายการสั่งห้ามออกนอกบ้านในช่วงเวลากลางคืน อ้างอิงจากเอเอฟพี
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลแห่งชาติโคลัมโบได้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีในช่วงแรกของวันอาทิตย์(21)ถึงการระเบิดเมื่อ 6 ครั้งก่อนหน้าว่า “ได้รับตัวผู้ป่วย 80 รายเข้ารับรักษาพยาบาล และจะยังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ”
ตำรวจศรีลังกาให้ความเห็นว่า ระเบิด 2 ครั้งแรกสุดเกิดขึ้นที่โบสถ์ทางตอนเหนือของกรุงโคลัมโบ และเมืองเนกัมโบ(Negombo) ชานเมืองกรุงโคลัมโบ โดยสื่อเดอะเนชันแนลได้เปิดเผยในรายละเอียดว่า ระเบิดเกิดขึ้นที่โบสถ์เซนต์ แอนโธนีย์(St Anthony's Church ) ในโคชชิกัด(Kochchikade) กรุงโคลัมโบ และอีกแห่งคือโบสถ์เซนต์ เซบาสเตียน (St Sebastian's Church )ที่ คาตูวาปิติยา(Katuwapitiya) ในคาตานา(Katana) แต่เอพีชี้ว่า มีโบสถ์ทั้งหมดรวม 3 แห่งตกเป็นเป้าโจมตี
เดอะเนชันแนลกล่าวว่า มีรายงานการระเบิดที่โรงแรมแชงกรี-ลา และโรงแรมคิงส์บิวรี(Kingsbury Hotel) กลางเมืองหลวง สอดคล้องการรายงานของตำรวจศรีลังกาที่ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า มีโรงแรมไม่ต่ำกว่า 3 แห่งในศรีลังกาเกิดระเบิดขึ้น รวมไปถึงโรงแรมซินนามอนด์ แกรนด์ (Cinnamon Grand Hotel)
เอพีชี้ว่า ภาพข่าวทางโทรทัศน์แสดงให้เห็นถึงสภาพความเสียหายที่เกิดบริเวณโรงแรมหรูทั้ง 3 แห่ง
โดยบริเวณชั้น 2 ของโรงแรมแชงกรี-ลาที่ถูกระเบิดมีสภาพที่เพดานและหน้าต่างได้รับความเสียหายอย่างหนัก สายห้อยระโยงระยางและโต๊ะล้มคว่ำกระจัดกระจายบนพื้นสีดำที่เต็มไปด้วยเขม่า ตำรวจพื้นที่ได้เข้าไปตรวจภายในโรงแรมที่มีร่างผู้เสียชีวิตถูกนำออกมาจากบริเวณส่วนภัตตาคาร ส่วนบริเวณด้านนอกรั้วกั้นรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่มีร่างผู้เสียชีวิต 3 รายถูกปกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว
โฆษกโรงพยาบาลแห่งชาติศรีลังกาให้สัมภาษณ์กับเอพีว่า ทางโรงพยาบาลรับร่างผู้เสียชีวิต 47 ราย ที่รวมไปถึงชาวต่างชาติ 9 คน และมีผู้เข้ารับรักษาอาการบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 200 คน
โดยภาพที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นถึงภายในโบสถ์เซนต์ แอนโธนีย์ ที่มีซากปรักหักพังของหลังคาถล่มลงมาบริเวณม้านั่งยาวด้านในขณะที่ผู้ที่เดินทางมาโบสถ์ต่างพากันประคองผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
เอเอฟพีรายงานถึงการระเบิด 6 ครั้งแรกในช่วงต้นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ ที่ 156 คน โดยชี้ว่ามีชาวต่างชาติรวม 35 คน ซึ่งมีชาวอมริกัน อังกฤษ และดัตช์รวมอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นทางรอยเตอร์ให้ข้อมูลที่ไม่ต่ำกว่า 400 รายโดยอ้างจากแหล่งข่าวตำรวจและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต รอยเตอร์รายงานว่าอยู่ที่ 138 ราย
ทั้งนี้เอเอฟพีรายงานก่อนหน้าว่า มีผู้บาดเจ็บจำนวนร่วม 300 คนโดยประมาณ โดยอ้างไปถึงการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบัตติคาโลอา( Batticaloa hospital)ว่า มีการรับตัวผู้ป่วยเพื่อเข้ารักษาไม่ต่ำกว่า 300 ราย
เอพีกล่าวว่า แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ศรีลังกาชี้ว่า ระเบิดเกิดขึ้น 6 ครั้งติดต่อกันที่โบสถ์ชาวคริสต์ 3 แห่งและโรงแรมระดับบนอีก 3 แห่ง ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นทั้งในส่วนแขกเข้าพักโรงแรมและผู้เข้าร่วมพิธีมิสซา
โดยทางเจ้าหน้าที่ศรีลังกาเชื่อว่า การโจมตีโบสถ์ 2 แห่งจากทั้งหมดเป็นฝีมือของมือระเบิดฆ่าตัวตาย RT สื่อรัสเซียรายงานว่า ดูเหมือนระเบิดที่โบสถ์คริสต์ 2 จุดจะเกิดขึ้นในเวลา 08.45 น. ตาม ซึ่งในเวลานี้ล่าสุด ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงตัวประกาศความรับผิดชอบ
เอเอฟพีรายงานว่า ในขณะที่ประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ สิริเสนา ออกมาแสดงความตกใจต่อเหตุการณ์โจมตีที่เกิดขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรามาสิงหะ ได้ประณามการกระทำขั้นร้ายแรงที่สุดผ่านทางทวิตเตอร์ว่าเป็นการกระทำของคนขี้ขลาด พร้อมกับขอให้ชาวศรีลังกาอยู่ในความสมานฉันท์ในช่วงวิกฤต พร้อมให้หลีกเลี่ยงข่าวโคมลอย ทางรัฐบาลโคลัมโบพร้อมที่จะใช้มาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านบรรดาสถานทูตต่างชาติที่ตั้งอยู่ในกรุงโคลัมโบได้ออกคำเตือนพลเมืองของตัวเองให้อยู่ในที่ปลอดภัยส่วนสายการบินศรีลังกาต่างออกมาเตือนให้ผู้โดยสารเดินทางมาถึงสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเวลาบินเนื่องมาจากการเพิ่มมาตรการทางความมั่นคงต่อเหตุร้าย
ทั้งนี้เอเอฟพีรายงานว่า จากเอกสารที่ได้เห็นพบว่า เมื่อ 10 วันก่อนหน้าทางผู้บัญชาการตำรวจศรีลังกาได้ออกคำเตือนทางด้านข่าวกรองต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า กลุ่ม NTJ (National Thowheeth Jama'ath)กำลังวางแผนเพื่อใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์สำคัญและสถานกงสุลอินเดียในกรุงโคลัมโบ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 22, 2019, 02:46:24 PM
มีเหตุขัดข้องนิดหน่อยพอดีโดเมน หมดอายุลืมต่อ .....เลยเข้ากันไม่ได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ เมษายน 22, 2019, 03:25:15 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 22, 2019, 05:24:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 02, 2019, 08:33:06 AM
ทรัมป์ชี้ว่าจีนกระตุ้นเศรษฐกิจของตนเองด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ "แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯของเรากลับขึ้นดอกเบี้ยอย่างไม่ลดละ ทั้งที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมาก"
เฟดยังไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ และในข้อเท็จจริงคือพวกเขาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะระงับความเคลื่อนไหวใดๆเพิ่มเติมระหว่างประเมินเศรษฐกิจสหรัฐฯ และได้รับคาดหมายว่าทางเฟดจะย้ำในจุดยืนเดิมในการตัดสินใจวันพุธ(1พ.ค.)
ธนาคารกลางแห่งนี้กระชับนโยบายการเงินมาแล้ว 9 ครั้งนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้่ยจากระดับศูนย์หลังวิกฤตการเงินโลก สู่ระดับปัจจุบัน 2.25% ถึง 2.5%
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ ทรัมป์ เพิกเฉยต่อธรรมเนียมปฏิบัติซึ่งออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นอิสระของเฟดจากอิทธิพลทางการเมือง พฤติกรรมที่อาจบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง แม้ว่าในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวคนอื่นๆได้แสดงความคิดเห็นที่ระมัดระวังมากกว่าก็ตาม
"ใช่ เรากำลังทำได้ดีที่ 3.2%(จีดีพีไตรมาสแรก) แต่กับอัตราเงินเฟ้อระดับต่ำอย่างน่าประหลาดใจ เราน่าจะทำสถิติครั้งสำคัญ และในขณะเดียวกันก็อาจทำให้หนี้สาธารณะของเราเริ่มดูน้อยลง!" ทรัมป์เขียนบนทวิตเตอร์
ทรัมป์และทีมงานเศรษฐกิจของเขาเคยให้สัญญาว่ามาตรการปรับลดภาษีและผ่อนปรนกฎระเบียบต่างๆจะช่วยเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจเติบโต 3% หรือถึงขั้น 4% แต่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าดูเหมือนมันจะไม่เป็นแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีนและชาติอื่นๆ ซึ่งกัดเซาะความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและการลงทุน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 02, 2019, 09:09:50 AM
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 02, 2019, 12:28:26 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 14, 2019, 09:18:30 AM
โดยเพจ "ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน"
1.เดือด! ทรัมป์ซัดกลับหลังจีนขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ มูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญ หุ้นร่วงเกือบ 7 ร้อยจุด
2.ดราม่า! ศึกชิง Family Mart ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ในจีน
3. UBER เข้าตลาดหุ้นเพียง 2 วันหุ้นดิ่งเกือบ 20%
เมื่อวานนี้ market cap ของตลาดหุ้นสหรัฐร่วงมากกว่า 6 แสนล้านเหรียญ
มากกว่าตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐ
และมากกว่า ตัวเลขที่ทรัมปขึ้นภาษีจีนเสียอีก
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 14, 2019, 09:37:57 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 14, 2019, 04:07:12 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 04:06:38 PM
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อห้ามบริษัทของสหรัฐจากการใช้เทคโนโลยีและบริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของบริษัทที่สหรัฐเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่พุ่งเป้าอย่างชัดเจนไปที่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ของจีน
คำสั่งของปธน.ทรัมป์ซึ่งมีขึ้นในวันพุธตามเวลาสหรัฐนั้น ไม่ได้ระบุถึงประเทศหรือบริษัทใดเป็นพิเศษ แต่สหรัฐได้เรียกร้องประเทศอื่นๆ ไม่ให้ใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยในเครือข่าย 5G เนื่องจากเชื่อว่า อาจเป็นการเปิดโอกาสให้จีนทำการจารกรรมข้อมูล
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 04:55:30 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 16, 2019, 06:32:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 20, 2019, 01:43:41 PM
วันที่ 20 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ท่านเกิล (Google) ได้ออกมาประกาศลงดาบ หัวเหว่ย (Huawei) บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดังสัญชาติจีน ด้วยการจำกัดการใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ทำให้ไม่สามารถอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่ได้ในอนาคต รวมทั้งระงับการเข้าถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ บน Google Play โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่ม Huawei ลงในรายชื่อบริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการค้ากับสหรัฐฯ นอกจากมีใบอนุญาตถูกต้อง ซึ่งท่านเกิลก็กล่าวว่า ทางบริษัทได้ทำตามคำสั่ง และกำลังทบทวนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เบน วูด นักวิเคราะห์การตลาดจาก CCS Insight ให้ความเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า การตัดสินใจของท่านเกิลในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดผู้บริโภคของ Huawei ซึ่งโดยปกติ สมาร์ทโฟนสัญชาติจีน ไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีนักในโลกตะวันตก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ซึ่งมีความกังวลถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือของหัวเหว่ยภายใต้ระบบ 5G ที่เชื่อกันว่า จีนใช้หัวเหว่ย เป็นเครื่องมือในการสอดส่องดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ แม้หัวเหว่ยจะออกมาปฏิเสธ พร้อมแสดงจุดยืนว่าเป็นบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน แต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุว่า ในอนาคต ถ้าหากท่านเกิลปล่อยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตัวใหม่ สมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของหัวเหว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติแอนดรอยด์ ก็จะไม่สามารถอัปเดตระบบความปลอดภัย และไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ ได้ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆ จะไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชันพื้นฐานของท่านเกิล อย่าง Youtube และ Google Maps แต่ผู้ใช้งานหัวเหว่ยในปัจจุบัน ยังคงสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการเดิมได้อยู่
แม้ว่าจะโดนตัดขาดครั้งใหญ่ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล แต่ เหริน เจิ้งเฟย ประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางหัวเหว่ยได้เตรียมพร้อมรับมือเอาไว้แล้ว และกำลังเดินหน้าพัฒนาในส่วนของตัวเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 20, 2019, 02:01:04 PM
เครดิต ลงทุนแมน
Google แบน Huawei แล้ว
และแล้ววันนี้ก็เกิดขึ้นจริง วันที่ Google ต้องทำตามคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ
โดยหนึ่งใน blacklist ของรัฐ ที่ห้ามบริษัทอเมริกันทำการค้าด้วย ก็คือบริษัท "Huawei"
Huawei โดน Google แบนในเรื่องอะไรบ้าง?
Huawei จะถูกระงับ update จาก Andriod แต่จะสามารถใช้ Android ได้ผ่านเวอร์ชันที่เปิดให้เป็นสาธารณะ หรือ open source เท่านั้น
และ Google จะไม่ให้ความช่วยทางด้านเทคนิค และ หยุดความร่วมมือกับ Huawei ในบริการต่างๆ
ที่สำคัญกว่าเรื่อง Android ก็คือ สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei จะไม่สามารถใช้แอปของ Google เช่น YouTube, Gmail, Google Maps ได้อีกต่อไป
โดยเรื่องราวนี้เกิดจาก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้เพิ่ม Huawei เข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ถูกแบนเพื่อป้องกันการขโมยเทคโนโลยี
แล้วเรื่องนี้จะกระทบกับใคร ใครได้ใครเสีย?
สำหรับผู้บริโภคในจีนก็อาจไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก
เพราะว่า ก่อนหน้านี้ จีนก็แบน Google มานานแล้ว
คนจีนไม่ได้ search Google แต่คนจีน search Baidu
คนจีนไม่ได้ดู YouTube แต่คนจีนดู Youku, iQiyi
จะมีก็แต่ Google Play ที่รายได้จะหายไป
แต่สำหรับผู้บริโภคนอกประเทศจีน และใช้เครื่อง Huawei จะได้รับผลกระทบ ทั้งยุโรป และ เอเชีย
เพราะผู้บริโภคเหล่านี้ยังใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google อย่างเหนียวแน่น
ไม่ว่าจะเป็น Google Search, YouTube, Gmail, Google Maps
หลายปีก่อน วันที่ Google โดนรัฐบาลจีนแบน Google ต้องจำใจออกนอกประเทศจีนอย่างไม่มีทางเลือก
มาวันนี้ ดูเหมือนเรื่องราวจะตรงกันข้าม
เพราะเครื่องสมาร์ตโฟนของจีนส่งออกขายไปทั่วโลก
ต่อไปนี้คนนอกประเทศจีน ก็น่าจะลังเลก่อนที่จะซื้อเครื่องของ Huawei ว่าจะใช้งานอะไรไม่ได้บ้าง
และเรื่องนี้น่าจะทำให้ยอดขายสมาร์ตโฟนของ Huawei ลดลงทั่วโลก
ก็ต้องยอมรับว่า
เมื่อเราเปิดสมาร์ตโฟนขึ้นมา
แอปต่างๆก็เป็นแอปของอเมริกันไปแล้วเกินครึ่ง
เรื่องนี้อาจทำให้ได้รู้ว่า
คุณค่าของสมาร์ตโฟน อาจไม่ได้อยู่แค่ตัวเครื่อง
แต่เป็นสิ่งที่ใช้งานได้อยู่ภายใน
ต่อให้เครื่องสามารถถ่ายรูปซูมได้ถึงรูขุมขน แต่ถ้ามันเอามาใช้แอปในชีวิตประจำวันเราไม่ได้
หลายคนก็คงไม่อยากซื้อมัน
การทะเลาะกันใครครั้งนี้ ก็ได้แต่มองว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร
จีน แบน Google Facebook มานาน
แต่จีนกลับขายสมาร์ตโฟนไปให้คนทั่วโลกใช้ Google Facebook
คราวนี้ถึงคราว สหรัฐโต้กลับได้อย่างรุนแรง
แต่ทั้ง 2 ประเทศนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกัน
มาถึงตอนนี้ ถ้าเราคิดว่าใช้ สมาร์ตโฟน Apple แล้วจะไม่ได้รับผลกระทบ
ก็ต้องตอบกลับไปว่า รอดูก่อน..
เพราะ iPhone ก็ผลิตที่จีน เหมือนกัน
╔═══════════╗
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ blockdit.com
╚═══════════╝
References
-https://www.bbc.com/news/business-48330310
-https://www.abc.net.au/…/google-suspends-some-busi…/11129042
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 20, 2019, 04:27:22 PM
เริ่มหัวข้อโดย: zamurai ที่ พฤษภาคม 20, 2019, 07:21:59 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 20, 2019, 07:36:16 PM
ขอบคุณครับ กลับมาเร็ว ๆ นะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 21, 2019, 08:21:09 AM
.
โดยเพจ "ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน"
.
============
.
1.จีนประกาศพร้อมตอบโต้ หลังสหรัฐขึ้นบัญชีดำ หัวเว่ย (华为)
.
2.ค่ายรถยนต์ชื่อดังสหรัฐลดพนักงานลง 7 พันตำแหน่ง
.
.
3.นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ฟันธงสหรัฐได้เปรียบจีนในสงครามการค้า
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 21, 2019, 08:36:07 AM
จากธุรกิจซื้อมาขายไป #Huawei ทำอย่างไรถึงกลายเป็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 2 ของโลก และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม 5G ที่กำลังเขย่าโลกจนรัฐบาลสหรัฐฯ จ้องตาเป็นมันสั่งการระงับความร่วมมือเป็นที่เรียบร้อย
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 21, 2019, 08:55:40 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 30, 2019, 09:52:20 AM
.
============
.
1.ตลาดหุ้นสหรัฐกังวลเรื่องเดิมอีกแล้ว หุ้นร่วง 2 ร้อยกว่าจุด
.
2.จีนเตือนสหรัฐอย่าประเมินจีนต่ำเกินไป
.
3.พ่ายศึกค้าปลีกอีกราย! แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Abercrombie-Fitch ประกาศปิดสาขาแบบรัวๆ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 30, 2019, 10:59:09 AM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2019, 12:25:59 PM
.
เวียดนามส่งออกไปยุโรป: 4.9 หมื่นล้านเหรียญ
ไทยส่งออก: 3 หมื่นล้านเหรียญ
.
สินค้าเวียดนามที่ตอนนี้เด่นกว่าไทยแล้ว (บางส่วนไทยย้ายโรงงานผลิตไปเวียดนาม) = เสื้อผ้า, เครื่องจักรกล, อุปกรณ์ไฟฟ้า
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 04, 2019, 12:46:51 PM
ไทยมัวแต่แย้งก้าวอี้ ทะเลาะกันยังไม่จบ โดนแซงไปเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2019, 01:17:32 PM
(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(19).gif)ไทยมัวแต่แย้งก้าวอี้ ทะเลาะกันยังไม่จบ โดนแซงไปเลย (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(19).gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(19).gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/m%20(24).gif)ยังตกลงกันไม่ได้ ปวดหัวกับนักการเมืองบ้านเรา
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 04, 2019, 01:17:58 PM
#อาเม้งแอดมิน
ศึกแบน Huawei ไม่ให้ใช้ Android นาทีนี้ หัวเว่ย ก็เปิดตัว ระบบ Hongmeng OS หลังจากที่ อุบไว้นาน หรือทรัมป์จะพาอเมริกาเข้ามุมอับ?
เมื่อ Trump สั่งให้ Google แบน Huawei ต่อไปจะใช้ Android ไม่ได้อีก
การแสดงจุดยืนอย่างนี้ ทำให้บริษัทผู้ผลิตมือถือทุกค่ายทั้งโลก เกิดความระแวงว่าสักวันหนึ่งมันอาจจะถึงคิวของเรา
แล้วทุกค่ายมือถือต่างอยากมี OS เป็นของตัวเอง หรือมิฉะนั้นทุกค่ายมือถือจับมือกันทิ้ง Google แล้วร่วมกันมี OS ใหม่ขึ้นมาให้เป็นมาตราฐานที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์... และนั่นมันทำให้ Google จะถึงคราวพังยับเยิน
ซึ่งการกระทำของท่านเกิ้ลเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ...ทั้งนี้เพราะท่านเกิ้ลเคยทำมือถือออกมาเหมือนกัน แต่ไม่เวิร์ค จึงต้องทำตัวเป็นตัวหมัดดูดเลือดจากมือถือทุกยี่ห้อในโลกต่อไป
เมื่อ Huawei ถูกระงับการใช้ Android อย่างนี้ แทนที่ Huawei จะยุบบริษัทอย่างที่บริษัท IT ชั้นนำของอเมริกาทั้ง5 (Apple, Amazon, Google, Microsoft, Facebook) หวังไว้ แต่กลับตาลปัตร (เตะอ้อยเข้าปากช้าง)
Huawei สู้ ประกาศใช้ระบบปฏิบัติการ(OS)ของตัวเอง ที่พัฒนามาเป็น10ปี โดยให้ชื่อว่าระบบปฏิบัติการ Hongmeng OS มาใช้แทน Android
การประกาศของ Huawei นั้น มันทำให้อเมริกาตื่นตระหนกอย่างหนัก ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า Huawei จะมีแผนซ้อนแผนรับมือกับแผนระงับการใช้ Android ได้ จึงระดมผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT และการตลาดทั้งหลายมาประชุมหารือกันถึงผลประโยชน์ที่จะกระทบต่ออเมริกาในกรณีนี้
แน่นอน!!! ระบบปฏิบัติการ Hongmeng ที่พัฒนามา 10 ปี ยอมจะเห็นข้อบกพร่องของแอนดรอยด์ทุกจุดและได้อุดช่องว่างทั้งหมด
ทำให้ค่ายมือถือจีนที่ครองอันดับ 4,5,6.....อย่าง Xiaomi, Oppo, Vivo, Honor, Meizu, Lenovo, Qiku 360, Smartisan, Motorola, ZTE Nubia, Oneplus จะตบเท้ากันมาขอใช้ปฏิบัติการ Hongmeng ทั้งหมด และค่ายมือถือเกาหลีไต้อย่าง Samsung ไต้หวัน อย่าง Aser, Asus ญี่ปุ่นอย่าง Sony คงไม่รีรอที่จะขอใช้ปฏิบัติการนี้ด้วย นั่นมันทำให้ Android ถูกลอยแพชัดๆ แทนที่จะเป็น Huawei
อเมริกาเห็นว่าการเดินหมากแบบนี้เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ จึงได้แก้เกมใหม่ด้วยการประกาศขยายเวลาให้ Huawei ใช้ Android ต่อไปอีก90วัน แต่นาย Ren Zheng Fei ซีอีโอของ Huawei ว่าการต่ออายุ 90 วันของสหรัฐฯ นั้นมีผลน้อยมากต่อ Huawei เพราะ Huawei ก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้มานานแล้ว นั่นคือได้สร้าง OS ของตัวเองขึ้นและอาจจะเตรียมใช้งานทั่วโลก? ( Soon) ถึงตอนนี้ มันคงสายไปสำหรับกลุ่ม IT อเมริกาที่จะเดินเกมใหม่ มีแต่รอชะตากรรมเท่านั้น
ส่วนการมีกระแสข่าวว่า ARM ได้มีการส่งจดหมายเวียนภายในให้ยุติการทำธุรกิจร่วมกับ Huawei ตามคำสั่งของอเมริกาแล้วโดยมีผลบังคับใช้ทันที ทำให้ Huawei ไม่สามารถพัฒนาชิปเซต Kirin และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับ ARM ต่อไปในอนาคตได้อีกนั้น ถ้า ARM ทำอย่างนั้นจริง มันก็ไม่มีผลอะไรต่อ Huawei เลย ตรงข้าม ARM เสียอีกที่จะล้มพับไปกับเขาอีกราย เพราะอะไร
เพราะหัวเว่ยซื้อสิทธิบัตรจาก ARM สิ่งที่ซื้อมาคือสถาปัตยกรรมการออกแบบ พูดง่ายๆคือโครงสร้างการออกแบบชุดคำสั่งในรูปแบบ RISC เพื่อนำไปผลิต CPU ของตัวเอง
เมื่อหัวเว่ยผลิต CPU โดยให้ชื่อว่า Kirin659 ได้ ถ้าหัวเว่ยต้องการพัฒนา CPU ตัวใหม่ก็ต้องซื้อสิทธิบัตร ARM อีก แล้วสร้าง CPU ตัวใหม่ชื่อว่า Kirin710
Kirin980 เป็นชิปเซ็ตที่ซื้อลิขสิทธิ์จาก ARM แล้ว และตอนนี้ ได้ครองอันดับ1ของโลกที่แรงที่สุดล้ำหน้า Snapdragon820 ของ Samsung ไปแล้ว
Kirin980 เร็วขึ้น 20% และกินไฟน้อยลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม และแน่นอนชนะ Snap dragon845 ในทุกด้าน
เพราะฉะนั้นถึงแม้ ARM จะแบน Hauwei ไม่ขายสิทธิบัตรใหม่ให้ ต่อให้ Huawei จะหยุดพัฒนาไป 2 ปี ค่ายมือถืออื่นๆก็ไล่ตามไม่ทัน...แต่จะถึง 2 ปีหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะค่ายมือถืออื่นๆจะเจ๊งเสียก่อน เหลือเพียง Huawei เจ้าเดียวในโลก
ไม้ตายอีกอย่างที่อเมริกากลัวนั่นก็คือเทคโนโลยี 5G ที่มีแต่มือถือ Huawei เท่านั้นที่กำความลับ ถ้ามือถืออื่นๆจะคิดค้น 5Gให้สำเร็จต้องใช้เวลาหลายปี ในระหว่างนี้เทคโนโลยี 5G ของจีนได้เข้าไปสัมปทานกับรัฐบาลทุกประเทศและราคาต่ำ ระบบ 4G จะล้าสมัยทั้งโลก นี่แหละที่ทำให้สหรัฐใช้ความพยามอย่างสุดความสามารถที่จะทำลาย Huawei เพราะมิฉะนั้นจีนขวางผลประโยชน์ของอเมริกาไปทั้งโลก และสิ่งที่ตามมาคือหายนะของเงินดอลลาร์
อำนาจทางทหารอย่างเดียวมันช่วยอะไรไม่ได้กับสงครามเศรษฐกิจที่ต้องอาศัยเทคโนยีของสินค้าเป็นตัววัดความเหนือชั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้อเมริกาก็คือลูกไก่ที่อยู่ในกำมือจีน
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครา” จากตำราพิชัยสงคราม ยังคงใช้ได้ดีจนถึงปัจจุบัน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 04, 2019, 04:26:14 PM
ขอบคุณครับท่านที
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 12, 2019, 09:45:56 AM
.
โดยเพจ "ถามอีก กับอิก เรื่องลงทุน"
.
============
.
1.อัตราเงินเฟ้อเวเนซุเอลาต่ำกว่า 1 ล้านเปอร์เซนต์ครั้งแรกในรอบ 1 ปี
.
http://2.Google เตรียมย้ายกำลังการผลิตออกจากจีนเพราะกลัวปัญหากำแพงภาษี
.
3.จับตา! ฮ่องกงลงมติร่างกฏหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 12, 2019, 12:42:50 PM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ มิถุนายน 12, 2019, 06:51:54 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 09:24:51 AM
Economic Calendar - Top 5 Things to Watch This Week
เข้านี้ก็เปิดโดดกันตามที่เมาส์ไป อาทิตย์นี้เปิดไตรมาสแบบเงียบๆ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจให้ลุ้น อ่อมี NFP ในวันศุกร์ อาทิตย์นี้เทรดกันแค่ 4 วัน วันพฤหัสตลาดหยุด
วันจันทร์ มีการประชุม OPEC วันอังคาร วันพุธมีตัวเลขน้ำมันออกมา เดี๋ยวก็ได้รู้กันว่า จะถูก หรือ แพง
เนื่องจากเทรดแค่ 4 วัน และ ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจให้ลุ้น ก็หวังว่าจะเล่นข่าวดีเรื่องสงครามการค้าไปจนจบอาทิตย์ แล้วค่อยเข้าโหมตลุ้นลดดอกเบี้ยกับการประชุม FOMC ในวันที่ 24 กรกฎาคม รวมถึงการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2
1. Trade talks
อย่างที่เกริ่นไป เราหวังว่าจะลาก จะกด กับเรื่องนี้ไปจนจบอาทิตย์ แล้วค่อยเปลี่ยนโหมต รายละเอียดเมาส์กันไปเยอะแล้ว จะตั้งข้อสังเกตุที่ว่า คราวนี้ทางสหรัฐไม่ได้ระบุระยะเวลาว่าเลื่อนการปรับขึ้นภาษีออกไปนานขนดใหน นั่นก็หมายถึงว่า วันดี คืนดี ลุงโด้อาจออกมาทวีสว่า จะขึ้นภาษีได้ทุกเมื่อ
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งลงดอย มันแค่เลื่อนออกไป ไม่ใช่การเจรจาบรรลุเเล้ว
----------------------------------------
2. U.S. economic data
มีลุ้นแค่วันศุกร์ ตัวเลข NFP เอาน่า อาทิตย์นี้ไม่มีอะไรให้ลุ้น หลังๆถึงแม้ว่า NFP จะไม่ค่อยแรง แต่ในช่วงไร้ปัจจัย น่าจะพอได้ นอกนั้นก็มีตัวเลขขำๆ เช่น the Institute for Supply Management on U.S. manufacturing and service sector activity และ Factory order รวมถึง Trade Balance ให้ลุ้นกัน
อย่างที่บอกว่า ยังมีเรื่องลุ้นลดดอกเบี้ย ก็มาดูว่าตัวเลขต่างจะทำให้เฟด เลื่อน หรือ ลด ดอกเบี้ย
---------------------------------------
3. Fed speakers
พอไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจให้ลุ้น เหล่าเจได ก็ดาหน้าออกมาเเถลง สร้างความผันผวน - เอ้ย สีสรรค์ ให้กับตลาด
วันจันทร์ Fed Vice Chair Richard Clarida ซึ่งเร็วนี้มีความเห็นว่าทางเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ย
วันอังคาร New York Fed President John Williams สปี๊กกิ้งที่ ซุริค Cleveland Fed President Loretta Mester คนนี้ไม่มีสิทธิ์โหวตก็ออกมาสปี๊กกิ้งเหมือกัน
ต้นอาทิตย์มีคนเขย่าเเระ
----------------------------------------
4. OPEC meeting
วันจันทร์ วันอังคารมีประชุมกันเรื่อง ว่าจะขยายเวลาการตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งหมดอายุไปเเล้วเมื่อวันอาทิตย์
ในวันเสาร์ มีรายงานข่าวว่า ขาใหญ่อย่าง Russian President Vladimir Putin that he and Saudi Arabia’s Prince Mohammed Bin Salman มีการเจรจานอกรอบเเล้วว่า จะตรึงการผลิตต่อไป เพื่อพยุงราคาน้ำมัน
--------------------------------------
5. U.K. PMIs
ตอนนี้กระเเสเงียบมาก เห็นว่าจะมีการเลือก นายก ระหว่าง ลุง บอริส กับ ลุง ฮันท์ ที่กำลังเเข่งกันอยู่ ในช่วง วันที่ 23 กรกฎาคมมั้ง ซึ่งทั้งคู่ ออกมาบอกว่าเตรียมตัว No Deal Brexit - มีโฮ เเระงานนี้ GBP
มีตัวเลขเศรษกิจ 2 ตัวให้ลุ้น Surveys of the U.K. manufacturing, services and construction sector คาดกันว่าน่าจะไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็หมายถึงว่า ตัวเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก และ เป็นไปได้ว่า ที่ลุ้นกันว่าทาง BoE อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ คงไม่ได้เห็น - ว้า ไม่มีประเด็นให้ GBP ลุ้นแข็งค่าเลยแฮะ
---------------------------------------
เอา มาลุ้น เปิดไตรมาส 3 กัน เทรด 4 วัน ขำๆไป ส่วนสถานการณ์ ก็ดูแบบ วันต่อวัน แล้วค่อยปรับกลยุทธ์เอา
https://m.investing.com/news/economy-news/economic-calendar--top-5-things-to-watch-this-week-1911522
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 10:31:16 AM
เริ่มหัวข้อโดย: POPEYE27 ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 03:33:19 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 09, 2019, 04:13:11 AM
ในอนาคตเสาสัญญาณไม่มีความหมายแล้วครับ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมาก ระดับ 5G 6G 7G หรือสูงกว่านั้น จะปกคลุมทุกตารางนิ้วบนโลกใบนี้ คุณจะอยู่กลางมหาสมุทรก็ค้าขายได้ หรืออยู่กลางป่าลึกที่สุดก็ยังค้าขายได้ เพราะตอนนี้กำลังจะมีดาวเทียมเพื่อส่งสัญญาณคลื่นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเกิดขึ้นถึง 3 บริษัท
บริษัทที่ 1 เป็นของนายเจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอะเมซอน ประกาศถึงโครงการไคเปอร์ (Project Kuiper) ซึ่งมีแผนที่จะนำดาวเทียม จำนวน 3,236 ดวงขึ้นสู่วงโคจร เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม โดยจะมีความเร็วสูงและถูกส่งไปทั่วโลก
บริษัทที่ 2 ของบริษัทวันเว็บ ซึ่งจะมีแผนจะส่งดาวเทียม 600 ดวง ภายในปี 2564
บริษัทที่ 3 บริษัทสเปซเอ็กซ์ ของนายอีลอน มัสก์ ที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้ส่งดาวเทียม 12,000 ดวง ขึ้นไปอยู่ในวงโคจรระดับสูงต่างๆ ในชื่อโครงข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียมสตาร์ลิงค์ (Starlink constellation)
ขอให้เตรียมตัวไว้ให้ดี พอดาวเทียมเกือบ 2 หมื่นดวง จาก 3 บริษัท ถูกกระจายไปในวงโคจรของโลก โลกจะเปลี่ยนไปกว่านี้มาก
สถานีโทรทัศน์ในปัจจุบัน รวมทั้งสื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในทุกวันนี้ แทบจะไม่มีความหมายครับ.
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 09, 2019, 08:41:55 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กรกฎาคม 13, 2019, 10:27:22 PM
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทวีตข้อความรัวๆ เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุคริปโตเคอร์เรนซี ไม่ใช่เงินตรา "สินทรัพย์คริปโตที่ไม่มีระเบียบควบคุม อาจเอื้อให้เกิดพฤติกรรมนอกกฎหมาย รวมถึงการค้ายาเสพติดและการทำผิดกฎหมายอื่นๆ ได้ ถ้าเฟซบุ๊คและบริษัททั้งหลายอยากเป็นธนาคารก็ต้องไปหาใบอนุญาตธนาคารมา และต้องปฏิบัติตามกฎหมายธนาคารทุกประการ"
ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ใช่คนเดียวที่วิจารณ์เผยการเปิดตัวลิบราของเฟซบุ๊ค ก่อนหน้านี้นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส และ นายมาร์ก คาร์นีย์ ประธานธนาคารกลางอังกฤษ รวมทั้งผู้นำและประธานธนาคารกลางประเทศต่างๆ ต่างวิจารณ์ลิบรากันมาแล้ว ทัศนะของนายทรัมป์สะท้อนถึงเสียงวิจารณ์ที่ตั้งคำถามว่า บิทคอยน์มีมูลค่าได้อย่างไร โดยย้ำที่ความผันผวนของราคา
"คริปโตเคอร์เรนซีไม่ใช่เงินตรา มูลค่าผันผวนมาก และล่องลอยอยู่ในอากาศ" ประธานาธิบดีสหรัฐย้ำ เมื่อพิจารณาข้อมูลจากเว็บไซต์คอยน์ เดสก์ พบว่า แค่รอบ 24 ชั่วโมงราคาบิทคอยน์ ต่อดอลลาร์ก็เคลื่อนไหวชวนให้กังวล หากคิดจะใช้บิทคอยน์เป็นเงินสกุลหลัก ของประเทศ เพราะแตะระดับสูงสุดที่ 12,033.74 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 11,142.79 ดอลลาร์
ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า "ดอลลาร์สหรัฐที่เชื่อถือและพึ่งพาได้ควรเป็นสกุลเงินจริงเพียงหนึ่งเดียวในสหรัฐ จนถึงขณะนี้สกุลเงินที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปก็คือเงินดอลลาร์สหรัฐ"
อย่างไรก็ตาม แม้ถูกนายทรัมป์วิจารณ์ราคาบิทคอยน์ก็ไม่ได้ผันผวนมากหลังการทวีตข้อความ ส่วนเฟซบุ๊คไม่ได้ให้ความเห็น ต่อทวิตเตอร์ของประธานาธิบดี
ส่วนที่ญี่ปุ่นรีมิกซ์พอยท์ บริษัทซื้อขาย คริปโตเคอร์เรนซีในกรุงโตเกียว เผยวานนี้ (12 ก.ค.) ว่าบริษัทลูก "บิทพอยท์เจแปน" ซึ่งซื้อขายเงินเสมือนหลายสกุลรวมทั้งบิทคอยน์ อีเทอเรียม และริพเพิลตรวจพบเมื่อคืนวัน พฤหัสบดี (11 ก.ค.) ว่าระบบโอนเงินเกิดความผิดพลาด จากนั้นสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุลสูญหายไปจากระบบ มูลค่าราว 32.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 3,500 ล้านเยน)
คริปโตเคอร์เรนซีที่หายไปอยู่ใน "กระเป๋าเงินร้อน" ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ส่วนเงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินเย็นที่ออฟไลน์ ไม่ได้รับผลกระทบ
รีมิกซ์พอยท์กล่าวด้วยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ความเสียหาย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม กล่าวเพียงว่าจะชดเชยให้กับลูกค้า โดยเงินที่หายไปราว 2,500 ล้านเยนเป็นเงินของลูกค้า ที่เหลือเป็นของบริษัท นี่ถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดกับการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีของญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2561 เว็บไซต์คอยน์เช็กเคยถูกเจาะเข้าระบบ สูญเงินไปราว 5,000 ล้าน ดอลลาร์ จนต้องสั่งระงับการฝากถอนเงินเสมือนทั้งหมด การแฮกข้อมูลครั้งนั้นกระตุ้นให้ทางการญี่ปุ่นตรวจสอบการซื้อขายคริปโต มากยิ่งขึ้น แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่ายังมีช่องโหว่อีกมาก
Source: กรุงเทพธุรกิจ
https://www.ft.com/content/57692326-a452-11e9-974c-ad1c6ab5efd1
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 14, 2019, 10:00:21 AM
ขอบคุณครับท่านท่
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ กรกฎาคม 14, 2019, 06:45:45 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ สิงหาคม 06, 2019, 08:23:30 AM
- สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนอีก 10% ($3 แสนล้าน)
- จีนโต้ด้วยการ 'กดหยวน' อ่อนค่าที่สุดรอบกว่า 10 ปี (นับแต่ 2008) ที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์ และเป็นการเข้ามาจัดการค่าเงินครั้งแรกรอบ 15 ปีของจีน
- จีนประกาศกร้าว 'ยกเลิก' นำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ 3 ส.ค.
- ผลคือหุ้นสหรัฐฯ ร่วงระนาวเฉลี่ย -3% และแตะระดับต่ำสุดในปี 2019
- 'ทองคำ' ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 6 ปี เช่นเดียวกับ เงินเยน และพันธบัตรรัฐบาล
รอติดตามวิเคราะห์แบบเต็มๆ ได้ที่ Wealth Me Up
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 06, 2019, 08:34:49 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ กันยายน 11, 2019, 05:54:42 PM
.
เกมพลิกอีกละครับ เมื่อกระทรวงการคลังของจีนประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ หลายรายการ แบบ surprise จากเดิมที่เคยเก็บภาษี 25%
.
==========
.
1.รายการที่ได้รับการยกเว้นมีอะไรบ้าง? เช่น ยา, น้ำมันหล่อลื่น, อาหารปลา, ยาฆ่าแมลง, สารเคมี โดยจะมีผล ตั้งแต่ 17 ก.ย. นี้ครับไปจนถึงวันที่ 16 กันยายนปีหน้าครับ
.
2.ข้อสังเกตคือ จีนยังไม่ได้ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง และหมู เหตุผลคือเป็นสินค้าที่สหรัฐส่งออกไปจีนเยอะมากๆ
.
เพราะฉะนั้นการที่จีนยังไม่ยกเว้นภาษีให้รอบนี้ ก็น่าจะเป็นการเก็บกระสุนเอาไว้ต่อรองกับสหรัฐในรอบต่อๆไป
.
ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Academy of social science ของจีนแนะนำให้ติดตามว่า จีนจะยกเลิกภาษีข้าวโพด หรือหมู เมื่อไหร่ “ถ้ายกเลิกเมื่อไหร่ แสดงว่าสงครามการค้าใกล้จะจบแล้ว”
.
3.“รัฐบาลจีนมีความตั้งใจที่อยากจะทำให้ความตึงเครียดทางการค้าลดลง” นี่คือคำชี้แจงสั้นๆจากจีนครับ
.
การยกเลิกภาษีรอบนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า จีนอยากจะโชว์ให้สหรัฐเห็นความจริงใจ ก่อนที่จะเข้าเจรจากันรอบที่ 13 ในช่วงต้นเดือน ตุลาคมนี้
.
4.นักวิชาการหลายคนมองตรงกันว่า นี่เป็นสัญญานที่ดี และคิดว่าในช่วงก่อนการประชุมรอบต่อไป สหรัฐและจีนน่าจะหาข้อตกลงร่วมกันได้บางอย่าง เช่น สหรัฐอาจจะยกเว้นภาษีนำเข้าจากจีนบ้างในบางรายการ
.
5.ทั้งนี้รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาว่าจะยกเว้นภาษีอะไรเพิ่มเติม เบื้องต้นมีจำนวนสินค้าสหรัฐที่อาจจะเข้าข่ายยกเว้นภาษีมากถึง 6 พันรายการ
.
==========
.
ข้อมูลข้างเคียง
.
ก่อนหน้านี้ตัวเลขการส่งออกของจีนลดลง 1% ในเดือน สค. แบบผิดคาด
.
โดยสินค้าที่ส่งออกจากจีนไปยัง สหรัฐลดลง 16% หลักๆก็เป็นผลจากสงครามการค้านั่นแหละครับ
.
“ตัวเลขการส่งออกที่อ่อนแอลง เป็นแรงกดดันอีกด้านที่ซ้ำเติมการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน” นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจีนถึงเพิ่งลดดอกเบี้ย และลดเงินสำรองที่ธนาคารต้องเก็บเอาไว้ (ตอนนี้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007)
.
ทั้งนี้เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้กับเศรษฐกิจจีนครับ
.
==============
.
ตอนนี้เรากำลังยกเลิกการส่งไลน์แอด และไปส่งผ่าน Telegram ถ้าไม่อยากพลาดข้อมูลและแนวคิดดีๆ แอดมาโลดเด้อ https://t.me/TAM_EIG
.
Download Telegram
.
สำหรับ Android: https://play.google.com/store/apps/details?id=org.telegram.messenger
.
สำหรับ IOS: https://apps.apple.com/us/app/telegram-messenger/id686449807
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กันยายน 12, 2019, 08:59:47 AM