เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 09, 2017, 12:06:38 PM
อาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2560
นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า เขาและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พร้อมร่วมมือกันอย่างเต็มกำลังในการหามาตรการหยุดยั้งการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ในการสนทนาทางโทรศัพท์ซึ่งกินเวลาราว 45 นาทีนั้น นายอาเบะได้กล่าวกับนายทรัมป์ว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังจับตาดูท่าทีของจีนอย่างใกล้ชิดว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะตัดสินใจในประเด็นเกาหลีเหนืออย่างไร
นอกจากนี้ นายอาเบะยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า เขาและนายทรัมป์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่าง "ตรงไปตรงมา" ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือและซีเรีย หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายทรัมป์ได้สั่งยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์คจำนวนกว่า 50 ลูกเข้าใส่ซีเรีย เพื่อตอบโต้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในซีเรียกว่า 70 คนเสียชีวิต
สำหรับประเด็นการจัดการกับเกาหลีเหนือนั้น นายอาเบะและนายทรัมป์ต่างเห็นพ้องกันที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อผนึกกำลังกันแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการรับมือกับการกระทำอันยั่วยุของเกาหลีเหนือต่อไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 18, 2017, 08:10:37 AM
อเมริกาประกาศ "หมดเวลาอดทนกับเกาหลีเหนือ"แล้ว! | เดลินิวส์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 17เม.ย.ว่า นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางไปยังค่ายโบนิฟาสซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติ ( ยูเอ็นซี ) ใกล้กับเขตปลอดทหาร ( ดีเอ็มซี ) บริเวณหมู่บ้านปันมุนจอมในเขตแดนของเกาหลีใต้ เพื่อเยี่ยมเยียนทหารอเมริกันซึ่งประจำการอยู่ที่นั่น โดยรองผู้นำสหรัฐกล่าวว่าการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแม้ล้มเหลว แต่ตอกย้ำว่ารัฐบาลเปียงยางยังถือเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรง" เพนซ์ยังยืนยันว่าสหรัฐและพันธมิตรจะแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี แต่หากสถานการณ์ดำเนินมาจนถึงที่สุดแล้ว จะใช้มาตรการใดก็ตามที่จำเป็น" เพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคและปกป้องเกาหลีใต้ไว้ แต่รัฐบาลเปียงยางไม่ควรตีความท่าทีของสหรัฐ "ไปในทางอื่น"
นอกจากนี้ นายเพนซ์ยังประกาศกร้าวอีกว่า หมดยุคสมัยการใช้นโยบายแผนยุทธศาสตร์ความอดทนต่อเกาหลีเหนือแล้ว และสหรัฐจะยืนเคียงข้างเกาหลีใต้แบบ 100 % การเดินทางเยือนโสมขาวของเพนซ์เกิดขึ้นในช่วงที่บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยทรัมป์แสดงท่าทีแข็งกร้าวและส่งสัญญาณพร้อมใช้ "มาตรการขั้นเด็ดขาด" ต่อเกาหลีเหนือมาตลอด ท่ามกลางการคัดค้านอย่างหนักของจีน จนกระทั่งพล.ท.เฮอร์เบิร์ต แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว ออกมากล่าวว่าสหรัฐได้มุ่งเน้นการเพิ่มความร่วมมือกับรัฐบาลปักกิ่งในเรื่องเกาหลีเหนือให้มากขึ้น แต่การที่ทรัมป์สั่งการให้กองทัพโจมตีทางทหารต่อซีเรียเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าผู้นำสหรัฐสามารถ "ตัดสินใจท่ามกลางภาวะที่กดดันได้"
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 18, 2017, 08:26:18 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 18, 2017, 08:33:22 AM
ขู่เกาหลีเหนือ แต่ดูแล้วกลัวหลีเหนือก็ไม่กลัวสหรัฐเหมือนกัน พร้อมทำสงครามทุกรูปแบบกับสหรัฐ
.gif)
ไอ้ 2 คนมันก็กำลังทำให้โลกตกที่นั่งลำบาก เพราะแค่เพียง 2 คนนี่เอง.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 19, 2017, 07:19:07 AM
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ สั่งการกองเรือบรรทุกเครื่องบิน มุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลีเพิ่มอีก 2 กองเรือเมื่อวันอังคาร(18เม.ย.) ท่ามกลางความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ ระบุว่า กองเรือดังกล่าวจะเข้าไปเสริมกองเรือโจมตียูเอสเอส.คาร์ล วินสัน ที่เข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และกองเรือที่จะเข้าไปเสริมคือกองเรือบรรทุกเครืองบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน และยูเอสเอส นิมิตส์ มุ่งหน้าสู่ทะเลญี่ปุ่น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงแสนยานุภาพ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ
กองเรือยูเอสเอส.คาร์ล วินสัน ซึ่งประกอบด้วยตัวเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดยักษ์ และเรือพิฆาตอีกหลายลำ ถูกส่งเข้าประจำการในภูมิภาคเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางถึงคาบสมุทรเกาหลีประมาณวันที่ 25 เม.ย.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวย้ำว่า กำลังพิจารณาทุกทางเลือกในการตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดแต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า กำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทางทหารหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เวบไซท์หนังสือพิมพ์การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานอ้างแหล่งข่าวภายในกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่ระบุว่า กองทัพสหรัฐอาจเลือกใช้แนวทางยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอีกในอนาคต โดยนายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับทางเลือกดังกล่าวให้สภาคองเกสรับทราบ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจใช้มาตรการนี้
ทั้งนี้ หากกองทัพสหรัฐ ตัดสินใจเดินหน้าแผนดังกล่าว การส่งกองเรือยูเอสเอส.คาร์ล วินสัน เข้าไปใกล้เกาหลีเหนือก็ถือว่าเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
แหล่งข่าวรายนี้ ยังเผยกับสื่ออังกฤษด้วยว่า สหรัฐอาจเลือกใช้ปฏิบัติการสกัดกั้นขีปนาวุธโดยระบบต่อต้านขีปนาวุธเอจิส ซึ่งติดตั้งอยู่บนเรือพิฆาต และกองเรือบรรทุกเครื่องบินวินสัน ก็มีระบบต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าว
ขณะที่สื่อรัสเซีย รายงานว่า เกาหลีเหนือ มีกำหนดทดสอบขีปนาวุธอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กองเรือวินสัน เดินทางถึงทะเลญี่ปุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 19, 2017, 07:27:55 AM
ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิเคราะห์เอาไว้ว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง และ กรณีของอังกฤษ นั้นพาตัวเองออกจากสหภาพยุโรป บ่งบอกได้ว่าประชาชนนั้นกำลังเปลี่ยนแนวคิดของตนเองต่อระบบทุนนิยม และอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงบานปลายระดับโลกได้
โดยทางด้าน ศาสตราจารย์ ฮาโรลด์ เจมส์ ได้อ้างข้อมูลในอดีตว่าคล้ายกับ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสมัยก่อนการเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 โดยที่ทั้งสองครั้งนั้นทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับข้อมูลเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางทหาร และก็มีการแข่งขันกันทางด้านอาวุธ
นอกจากนั้นแล้วทางด้านศาสตรจารย์ ผู้นี้ยังได้ยกเอาสถานการณ์ การเมืองในปัจจุบันนี้ เทียบเคียงกับสถานการณ์เมืองก่อนการเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 ซึ่งเขาย้ำอีกว่า สถานการณ์ ปัจจุบันนี้ ใกล้เคียงกับการเกิดหายนะโลกอีกครั้ง ซึ่งนั่นมันอาจจะเกิดสงคราม ครั้งใหญ่ อีกครั้งนั่นเอง
ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ระอุหนักมากยิ่งขึ้น เมื่อนายคิม อิน รยอง อัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะตอบโต้ทุกรูปแบบของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นการตอบโต้ด้วยขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์ หากสหรัฐฯ เลือกที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับทางเกาหลีเหนือ และเกาหลีเหนือเองก็พร้อมจะตอบโต้ทุกรูปแบบอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศ
ก่อนหน้านี้ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดถึงเกาหลีเหนือว่าไม่ควรคิดลองดี กับสหรัฐฯ มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยซีเรียและอัฟกานิสถานอีก ด้านฮัน ซง รยอล รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเกาหลีเหนือ กล่าวว่าเกาหลีเหนือยังจะทำการทดสอบขีปนาวุธต่อไป โดยจะทำเป็นรายสัปดาห์ รายเดือนและรายปี ซึ่งเกาหลีเหนือเชื่อว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะช่วยปกป้องภัยคุกคามจากปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่ได้กระทำการที่ไม่เหมาะสมต่อเกาหลีเหนือ
.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 19, 2017, 09:44:19 AM
ประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันนี้ เพื่อให้หน่วยงานรัฐ 4 แห่งได้แก่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และกระทรวงการต่างประเทศบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากขึ้น เกี่ยวกับการอนุญาตให้แรงงานต่างชาติ เข้ามาทำงานในประเทศ รวมถึงปฏิรูปโครงการออกวีซ่าประเภทเอช-1บี หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า หลายบริษัทใช้วีซ่าประเภทดังกล่าว จ้างบริษัทเอาท์ซอร์สทำงานเทคโนโลยีสารสนเทศระดับล่าง ที่มีต้นทุนต่ำกว่าการจ้างแรงงานในประเทศ
การกระทำดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของโครงการ ที่ต้องการออกวีซ่าให้แรงงานทักษะสูงจากต่างชาติ เข้ามาประกอบวิชาชีพเฉพาะทาง อย่าง นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และโปรแกรมเมอร์
นอกจากนี้ คำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งนี้ ยังครอบคลุมการให้หน่วยงานทั้ง 4 แห่ง ปรับเปลี่ยนและหาวิธีกำจัดช่องโหว่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาลด้วย เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้สินค้าผลิตในประเทศ ตามแนวทางซื้อสินค้าและจ้างงานชาวอเมริกันของประธานาธิบดี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 19, 2017, 09:54:42 AM
ผมคงไม่ได้ไปแน่ ๆ .gif)
แต่ลึก ๆ ก็ยากไปตลาดหุ้นใหญ่ในสหรัฐสักครั้งในชีวิตเหมือนกัน จะได้ไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับฟ้าจะประทานให้หรือป่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ เมษายน 19, 2017, 03:13:07 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 21, 2017, 07:21:00 AM
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหา อิหร่าน ปลุกปั่นชาติตะวันออกกลางระแวงอเมริกาต่อเนื่อง
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน นายเร็กซ์ ทริลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่าน ทำการปลุกปั่นต่อเนื่อง มุ่งเป้าไปที่ความสั่นคลอนของตะวันออกกลางและการลอบทำร้ายของสหรัฐฯในภูมิภาคนี้
นายทริลเลอร์สัน กล่าวว่า อิหร่านไม่ได้ตรวจสอบความเป็นไปได้สำหรับการดำเนินตามครรลองเดียวกัน เหมือนกันกับเกาหลีเหนือ และดึงโลกไปในทิศทาเดียวกันด้วย ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ทบทวนการจัดการโครงการนิวส์เคลียร์ของเกาหลีไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯเองยอมรับว่าอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลง 2015 แล้วแต่ถึงกระนั้นอิหร่านก็ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นให้เป็นสาธารณะ และปฏิเสธข้อกล่าวหาจากตะวันตกหลายครั้ง ที่ระบุว่า อิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 22, 2017, 09:07:23 AM
ทรัมป์เทียบเชิญ นายกฯ เวียดนาม เยือนทำเนียบขาว หวังกล่อมเป็นด่านหน้าชน
จีน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งหนังสือเทียบเชิญนายกรัฐมนตรีของเวียดนามเยือนสหรัฐฯ โดยเอช อาร์ แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายเชิญจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้กับรองนายกรัฐมนตรีฝ่าม บิ่ง มีง ที่อยู่ระหว่างการเยือนกรุงวอชิงตัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก ยังได้กล่าวถึงความพร้อมที่จะเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกันผู้นำสหรัฐฯ ก็มีกำหนดที่จะเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ในเวียดนาม ในเดือนพฤศจิกายน นี้
.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ เมษายน 22, 2017, 09:50:58 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 08:04:08 AM
สหรัฐฯพร้อมจะ ถล่ม
กาหลีเหนือหากยังเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธ และ นิวเคลียร์
นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้กล่าวยกย่องความเกี่ยวพันของจีน ในความพยายามกดดันเกาหลีเหนือ ให้ยุติการทดสอบขีปนาวุธ และวิจารณ์ผู้นำเกาหลีเหนือโดยทางด้านนางนิกกี เฮลีย์ ให้สัมภาษณ์พิธีกรรายการ ทูเดย์ โชว์ ของเอ็นบีซี ว่า สหรัฐฯ จะไม่ลงมือทำอะไรก่อน ยกเว้นเสียว่าเกาหลีเหนือ นั้นจะเริ่มดำเนินการบางอย่าง เช่น โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ หรือใช้ขีปนาวุธแบบข้ามทวีป สหรัฐฯ จำเป็นที่จะต้องตอบโต้เช่นเดียวกัน ขณะที่พิธีกรได้สอบถามว่าจะทำอย่างไรหากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธหรืออุปกรณ์นิวเคลียร์อีก นางนิกกี เฮลีย์ ตอบว่า เมื่อนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อเป็นการตอบโต้
นอกจากการให้สัมภาษณ์กับรายการทูเดย์ โชว์ แล้ว นางนิกกี เฮลีย์ ยังได้ให้ข้อมูลกับรายการ ธิส มอร์นิ่ง ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ว่า สหรัฐฯ กำลังทำงานร่วมกับจีน ในการกดดันเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ และประเด็นอื่นๆ รวมถึง การควบคุมตัวชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ซึ่งเธอกล่าวว่าเป็นความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะใช้ต่อรองกับสหรัฐฯ
เกาหลีเหนือพยายามในการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนขีปนาวุธแบบข้ามทวีป ที่สามารถยิงโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ นอกจากนั้นแล้วเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้งในปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะปรับปรุงขีดความสามารถ ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้เล็กเพียงพอที่จะติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกลได้
ทางการเกาหลีใต้กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 หรือทดสอบยิงไอซีบีเอ็มครั้งแรก ในวันหรือก่อนหลังวันครบรอบปีที่ 85 การก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) ในวันที่ 25 เมษายนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 08:07:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 25, 2017, 08:59:08 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 09:07:55 AM
น้ำลายจะท่วมสหรัฐ กันเกาหลีเหนืออยู่แล้ว พ้นกันไป พ้นกันมา
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 12:38:53 PM
ด้านทูตสหรัฐประจำยูเอ็น ส่งสัญญาณมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะใช้กำลังทหารโจมตีเกาหลีเหนือ หากเปียงยางทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์อีก
นายทรัมป์ ระบุระหว่างให้การต้อนรับคณะทูตจากยูเอ็นเอสซี ที่ทำเนียบขาวว่า โครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง เป็นภัยคุกคามโลกอย่างแท้จริงเกาหลีเหนือคือปัญหาใหญ่ของโลก และท้ายที่สุด สหรัฐจำเป็นต้องแก้ปัญหา และยูเอ็นเอสซี ต้องพร้อมสำหรับกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม
ถ้อยแถลงของนายทรัมป์ลักษณะนี้ จะยิ่งโหมกระพือความตึงเครียดให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐ มีขึ้นในช่วงที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือ ซึ่งเดินหน้าโครงการขีปนาวุธ เตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และควบคุมตัวพลเรือนสหรัฐไว้อีก 1 คน นับเป็นรายที่ 3 ที่ถูกกักขังในประเทศนี้ด้านนางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นให้สัมภาษณ์รายการทูเดย์ โชว์ ของเอ็นบีซี ด้วยการกล่าววิจารณ์ผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิม จอง-อึน ว่าเป็นคนไม่มั่นคงและหวาดระแวง
พร้อมทั้งยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ทำอะไร จนกว่าเกาหลีเหนือจะมีเหตุผลให้สหรัฐทำบางอย่าง เช่น โจมตีฐานทัพสหรัฐ หรือใช้ขีปนาวุธแบบข้ามทวีป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์
นางฮลีย์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า สหรัฐกำลังทำงานร่วมกับจีน ในการกดดันเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ และประเด็นอื่นๆ รวมถึง การควบคุมตัวชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี
ที่ผ่านมา นายทรัมป์ พูดเป็นนัยว่าจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อเกาหลีเหนือ โดยปฏิเสธเจรจาแบบทวิภาคีกับเปียงยาง แต่ขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้จีนใช้อิทธิพลกดดันพันธมิตรแห่งนี้
.png)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 12:40:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 25, 2017, 02:22:39 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 25, 2017, 03:27:54 PM
สิ้นเรื่องสิ้นราว
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ เมษายน 25, 2017, 04:28:56 PM
คนทั่ว ๆ ไปคงจะทำ.....
1. ถอนเงินออกให้หมดแล้วเอาไปซื้อทองคำ เก็บไว้
2. บอกเมียน้อยว่าเราเลิกกานนะ ต่อไปคงไม่ได้เจอกานอีก
3. บอกเมียให้เก็บของที่จำเป็นต้องใช้ใส่กระเป๋าเตรียมไว้
4. ขายเงินสกุลดิจิตอลทั้งหมดที่มีออกไปให้หมด (เกิดสงครามเน็ตเน่าก็ไม่มีประโยชน์ หลังสงครามค่อยว่ากานใหม่)
5. เตรียมรถ เตรียมน้ำมัน อาหารการกินไว้ให้พร้อม (เผื่อจำเป็นต้องโยกย้าย)
6. ..................................
m:23
สำหรับผม ถ้าเกิดสงครามจริง ๆ
อยู่บ้าน เตรียมอาหารการกินให้พร้อม ทำภาระกิจสำหรับตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ รอคอยอย่างสงบ Cat1.gif
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 25, 2017, 04:36:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 26, 2017, 07:23:27 AM
สหรัฐฯเตรียมยิงขีปนาวุธข้ามทวีป จากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก เช้า 26 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น โลกประนาม สองมาตรฐานชัดเจน (รายละเอียด)
กองบัญชาการเพื่อการโจมตีทั่วโลกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ (USAF Global Strike Command) เปิดเผยว่าจะมีการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปไม่ติดหัวรบ จากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก เช้าวันที่ 26 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ความแม่นยำและความพร้อมของอาวุธ โดยข้อมูลของหน่วยงานอวกาศที่ 30 ของฐานทัพแวนเดนเบิร์ก ระบุว่าการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป "ไมนิวท์แมน3(Minuteman III)" จะมีขึ้นในเช้าวันที่ 26 เมษายน โดยกองบินทดสอบที่ 576
นาวาเอกคริส มอสส์ ผู้บัญชาการหน่วยงานอวกาศที่ 30 ของฐานทัพแวนเดนเบิร์ก ระบุว่าการยิงขีปนาวุธมีความจำเป็นเพื่อตรวจสอบกำลังรบนิวเคลียร์ของประเทศและสำแดงแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ของอเมริกา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐฯ มีขึ้นในขณะที่กองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังดำเนินการซ้อมรบทางทะเลร่วมกับกองทัพเรือจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ขณะที่ทางด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าการทดสอบขีปนาวุธ ICBM ของสหรัฐฯ ซึ่งทำมาแล้วอย่างน้อย 15 ครั้งตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2011
ขณะที่มูลนิธิสันติภาพนิวเคลียร์ ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงช่วงเวลาของการทดสอบ ขณะที่มีความตึงเครียดขั้นสูงระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ซึ่งมูลนิธิสันติภาพนิวเคลียร์ ยังแถลงชัดว่าสหรัฐฯกำลังดำเนินการด้วยสองมาตรฐาน พวกเขามองการทดสอบของตนเองว่ามีความชอบธรรมและมีประโยชน์ แต่พวกเขามองการทดสอบของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามและก่อความไร้เสถียรภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 26, 2017, 08:20:54 PM
ทรัมป์ล้มแผนสร้างกำแพงกั้นชายแดน
สำนักข่าวระบุว่า จำเป็นต้องหาเงินเพื่อใช้ในภารกิจดังกล่าว นอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่จำเป็นจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรสภายในวันที่ 28 เม.ย.นี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว่ำแผนที่จะสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนเม็กซิโก โดยระบุว่า จำเป็นต้องหาเงินเพื่อใช้ในภารกิจดังกล่าว นอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่จำเป็นจะต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรสภายในวันที่ 28 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตขู่ว่าจะคว่ำร่างงบประมาณหากมีการรวมงบประมาณสำหรับจัดสร้างกำแพงอยู่ด้วย และหากงบประมาณไม่ผ่านการพิจารณาของสภาในเวลาดังกล่าว จะทำให้รัฐบาลสหรัฐต้องตกอยู่ในสภาวะชัททาวน์อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐไม่มีงบประมาณมาใช้ในการดำเนินงาน
อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า เขายังคงสนับสนุนการจัดสร้างกำแพงและจะต้องสร้างกำแพงขึ้นให้ได้ โดยก่อนหน้านี้ นายทรัมป์เปิดเผยกับสื่อว่า เขาอาจจะหาเงินเพื่อการจัดสร้างกำแพงในช่วงปลายปีนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Alphabet ที่ เมษายน 26, 2017, 10:20:20 PM
ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 26 เมษายน 2560 20:03:45 น.
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในวันนี้ว่า มาตรการปรับลดภาษีที่จะมีการประกาศในวันนี้ จะเป็นการปรับลดภาษีและปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ นายมนูชินกล่าวว่า ธุรกิจรายย่อยจะได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 35%
นอกจากนี้ นายมนูชินกล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามปฏิรูปภาษีให้มีความเรียบง่ายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เขากล่าวว่า การปฏิรูปภาษีจะถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในอันดับสูงสุดของสภาคองเกรส และสมาชิกรัฐสภาทุกคนต่างก็ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว โดยรัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงพื้นฐานกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับเป้าหมายของการปฏิรูปภาษี
ขณะเดียวกัน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐสามารถขยายตัวสู่ระดับ 3% ต่อปี
ทั้งนี้ นายมนูชิน และนายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ จะจัดแถลงข่าวร่วมกันที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เวลา 13.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้ เวลา 00.30 น.ตามเวลาไทย เพื่อเปิดเผยถึงรายละเอียดของมาตรการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
"เราจะมีการประกาศข่าวใหญ่ในวันพุธเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษี ซึ่งกระบวนการนี้ได้ดำเนินมานานแล้ว แต่จะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันพุธ" ปธน.ทรัมป์กล่าวที่กระทรวงการคลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และเสนอให้มีการปรับลดภาษีกำไรที่บริษัทข้ามชาติส่งกลับสู่สหรัฐ ลงสู่ระดับ 10% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเสนอให้มีการเพิ่มวงเงินการหักลดหย่อนที่ผู้เสียภาษีสามารถระบุในแบบฟอร์มการชำระภาษี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 27, 2017, 07:12:20 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 27, 2017, 07:21:51 AM
กองทัพสหรัฐ ยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป เป็นระยะทางไกลกว่า 4,000 ไมล์ หรือประมาณ 6,500 กิโลเมตร ก่อนจะตกลงสู่ทางใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเจ้าหน้าที่ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นว่า การทดสอบครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือหรือไม่
แต่การยิงขีปนาวุธข้ามทวีปไม่ติดหัวรบครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในคาบสมุทรเกาหลี โดยขีปนาวุธข้ามทวีปมินิตแมน 3ถูกปล่อยออกจากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์กเมื่อเวลา 12.03 น.ของวันพุธ (26 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ฐานทัพแห่งนี้อยู่ห่างจากนครลอสแองเจลิส ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 208 กิโลเมตร
กองทัพอากาศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า การทดลองครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ความพร้อมและความแม่นยำของระบบอาวุธ
ทั้งนี้ ขีปนาวุธข้ามทวีปมินิทแมน3 ถูกนำเข้าประจำการต่อเนื่องมานานถึง 60 ปี รวมทั้งมีการผลิตรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งปรับปรุงระบบกำหนดเป้าหมายและเพิ่มความแม่นยำให้มากขึ้น ทุกวันนี้ระบบขีปนาวุธมินิทแมน ถือเป็นระบบขีปนาวุธชั้นสุดยอดของโลก มีศักยภาพเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านอาวุธของโลกยุคใหม่ได้ทุกชนิด
พ.อ.จอห์น มอสส์ ผู้บัญชาการสเปซวิง หน่วยที่ 30 เปิดเผยว่า การยิงมินิทแมน เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้รู้สถานะของสรรพาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ และเพื่อแสดงแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากขีปนาวุธข้ามทวีปมินิตแมน 3 แล้ว กองทัพสหรัฐยังมีฝูงบินเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล บี-2 และ บี-52 ที่มีศักยภาพหย่อนระเบิดนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับกองเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธ และฝูงบินของกองทัพอากาศที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีได้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 27, 2017, 07:25:37 AM
ทรัมป์
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐ
ภายใต้แผนดังกล่าว จะมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และปรับลดขั้นบันไดในการคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากปัจจุบัน 7 ขั้น เหลือเพียง 3 ขั้น โดยผู้มีรายได้ในขั้นสูงสุดจะเสียภาษีในอัตรา 35% ส่วนอีก 2 ขั้น เสียภาษีในอัตรา 25% และ 10% แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของวงเงินรายได้ของผู้เสียภาษีในแต่ละขั้นบันได
ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 21.03 จุดหรือ 0.1 % ปิดที่ 20,975.09 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ร่วงลง 1.16 จุดหรือ 0.05 % ปิดที่ 2,387.45 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 0.27 จุด ปิดที่ 6,025.23 จุด
หุ้นกลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เช่น เป๊ปซี่โค, ยูไนเต็ด เทคโนโลยี, พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และทวิตเตอร์ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
-------------------------------------------
นักวิเคราะห์กังขาแผนลดภาษี
ทรัมป์ไปไม่ถึงดวงดาว คาดถูกสภาคองเกรสคว่ำเพราะทำให้ประเทศขาดดุลมหาศาล
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 28, 2017, 05:20:07 PM
มีความเป็นไปได้ ที่เรื่องนี้จะจบลงด้วยการที่สหรัฐมีความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือขั้นรุนแรง แต่เราก็อยากใช้ช่องทางทางการทูตในการคลี่คลาย แม้ว่ามันจะยากมากก็ตามทรัมป์กล่าว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสจากคณะทำงานของทรัมป์ได้แจ้งสมาชิกสภาคองเกรสถึงรายละเอียดนโยบายที่รัฐบาลสหรัฐจะใช้ต่อสู้กับเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า สหรัฐจะใช้วิธีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเจรจาทางการทูต เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยอมยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ สหรัฐจะร่วมมือกับประชาคมโลกในการยกระดับการกดดันเกาหลีเหนือ เพื่อโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือยอมเปิดการเจรจาด้วยสันติวิธี
ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้แจ้งให้สหรัฐทราบเกี่ยวกับการที่จีนได้ส่งสารไปยังเกาหลีเหนือเพื่อเตือนว่า หากเกาหลีเหนือเดินหน้าทดลองนิวเคลียร์รอบใหม่ จีนก็จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพื่อเป็นการลงโทษ
นายทิลเลอร์สัน กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์ นิวส์ว่า
เราได้รับแจ้งจากฝ่ายจีนว่า ทางรัฐบาลจีนได้เตือนที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ หากพวกเขาทำการทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายทิลเลอร์สัน ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของจีนว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งไม่ได้เปิดเผยว่า จีนส่งสารเตือนเกาหลีเหนือไปเมื่อใด แต่หลายฝ่ายมองว่า คำเตือนของจีนนับเป็นการข่มขู่ที่รุนแรงที่สุดที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว
ด้านนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ได้กล่าวกับนักการทูตระดับสูงของรัสเซียในระหว่างการหารือนอกรอบในที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติ ว่า
ในเวลานี้ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีส่อเค้าที่จะทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น และอาจระเบิดได้ทุกเมื่อจนยากแก่การควบคุม
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 29, 2017, 08:29:32 AM
โดนัลด์ ทรัมป์เป็นได้หุ่นเชิด ของกลุ่มทุนที่ยึดครองอเมริกามายาวนาน 100 วันผ่านไป
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมายอมรับหลังทำงานครบ 100 วัน โดยทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าคิดก่อนหน้านี้ว่าหน้าที่ผู้นำประเทศจะง่ายกว่านี้ และได้บอกกับสื่อมวลชนว่ารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้มากกว่าปัจจุบันนี้
โดยทางด้านผู้นำสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่ารู้สึกชอบการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้มากกว่าการทำหน้าที่ประธานาธิบดี และการทำหน้าที่ผู้นำนั้นต้องทำอะไรมากกว่าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้และมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด และสิ่งที่น่าตกใจก็คือเรื่องความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันนี้ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางการอารักขาของหน่วยราชการลับ ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง จากที่เคยให้ใครเข้าพบก็ได้ ก็ไม่สามารถทำได้ จากที่เคยชอบการขับรถ ก็ไม่สามารถกระทำได้แบบเดิม
ยังไม่ถึงไหนเลย ทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มจะถอดใจเสียแล้ว กับภารกิจผู้นำสหรัฐฯ ที่ถูกชักใยอยู่ข้างหลังจากกลุ่มมหาอำนาจที่ใหญ่กว่า ดังนั้นไม่ง่ายแน่สำหรับการที่เขาจะทำอะไรตามใจในสิ่งที่คิด เพราะท้ายที่สุดก็จะเจอกับตอชิ้นใหญ่ ที่คอยขัดขวาง ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังจะกำหนดชะตาประเทศว่าต้องทำอย่างไรอีกด้วย การเป็นผู้นำแล้วไม่มีอิสระในการตัดสินใจ ท้ายที่สุดมันก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดเท่านั้นเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ เมษายน 29, 2017, 10:35:36 AM
เรื่องนี้จะเห็นว่าในทุกวงสังคมมนุษย์มีการพูดอย่างแล้วทำอีกอย่างมากมาย ยิ่งในระดับวงการใหญ่ๆ ที่มีผลกระทบ ต่อผู้คนมากยิ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนมากตามไปด้วย
สหรัฐนี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่า พูดอย่างทำอย่าง ของจริง
ทรัมป์โฆษณาให้คนอเมริกันให้โหวตให้เขาเข้าไปทำงานในทำเนียบขาวโดยให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่
เขาจะทำโน่นทำนี่ โดยไม่ยุ่งกับชาวบ้านมากนักไม่ไปแทรกแซงใคร ยกเว้นจะฆ่าพวกไอซิส แล้วดุผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังทำงานครบ 100 วันครับว่า เขาทำไรเลวร้ายไปแค่ไหนบ้าง
1. เขาช่วยซาอุ ไปรบกับเยเมน โดยอ้างว่าต้องการทำลายพวกฮุติที่อิหร่านให้การสนับสนุน ทำให้ประเทศเยเมนตอนนี้กลายเป็นสมรภูมิ และเป็นรัฐล้มเหลว ที่ชาวโลกลืมไปแล้วด้วยว่าประเทศนี้อยู่ตรงไหนของโลก
2. ทรัมป์ยิงจรวดใส่ซีเรียย อ้างว่ารัฐบาลซีเรียสังหารประชาชนด้วยอาวุธเคมี จึงต้องตอบโต้ แถมใช้ระเบิดตัวแม่หนัก 11 ตันไปถล่มอัฟกัน เพื่อกลบเกลื่อนหลักฐานที่เคยส่งทหารไปรบในนั้นแล้วทำเลวร้ายไว้สารพัด
3. สั่งบุกเกาหลีเหนือ ยกกองเรือไปปิดน่านน้ำเกาหลีเพื่อจะจัดการกับคิม จอง อึน เอาระบบอาวุธทาสไปติดเพื่อข่มขู่เกาหลีเหนือและขู่จีนให้รีบจัดการเกาหลีเหนือให้ได้ แต่จีนบอกว่า งานนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระงับเหตุ ต้องวางอาวุธ ต้องถอยทัพกันทุกฝ่าย ไม่ใช่มาโยนมาภาระนี้ให้จีนแต่ผู้เดียว
4. ประพฤติตนเป็นโจร (โดยอ้างว่าเป็นตำรวจโลก) เรียกเก็บเงิน 1 พันล้านดอลล่าร์ ค่าติด รัฐบาลเกาหลีใต้ถามว่าถ้าจ่ายเงินแล้วอาวุธก็ควรเป็นของเกาหลีใต้ แต่ทรัมป์บอกว่านี่คือ ทรัพย์สินของสหรัฐ ต้องให้สหรัฐดูแล
5 การเพิ่มกองกำลังทหารเดินเท้าของสหรัฐเข้าไปในซีเรีย และอิรัก โดยอ้างว่าเพื่อทำสงครามกับไอซิส แต่ทว่าความจริงคือการสกัดอิทธิพลของรัสเซีย จีนและอิหร่านที่กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาคตะวันออกกลาง
นโยบาย American Great Again ของทรัมป์ กลายเป็นนโยบายนักเลงโตขาใหญ่ ที่ไม่ได้เน้นเจรจาการค้า การลงทุนเลย แต่เป็นการเอาอาวุธ เอาทหารไปข่มขู่ชาวบ้าน แล้วทำการตบทรัพย์หาประโยชน์จากการนั้นในประเทศที่ตัวเองควบคุมอยู่
แน่นอนว่า เรื่องนี้ จีน และรัสเซียไม่ได้ยอมให้สหรัฐทำอะไรตามอำเภอใจคอยออกกฎระเบียบโลก จัดระเบียบโลกให้เป็นไปตามที่สหรัฐต้องการ ตอนนี้จีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางการค้าสูงที่สุดในโลก ส่วนรัสเซียเองก็มีกำลังทหารที่เข้มแข็ง มีแสนยานุภาพทางอาวุธที่ต่อกรกับสหรัฐได้เช่นกัน แม้ว่าจะถูกสหรัฐฉายภาพให้รัสเซียเป็นผู้ร้ายมาตลอดก็ตาม
รัสเซียต้องการให้เงินรูเปิ้ลเป็นเงินสกุลหลักของเขตยูเรเซีย ส่วนจีนต้องการให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกในอนาคต การที่รัสเซียและจีนจะจับมือกันเพื่อทำการถล่มค่าเงินดอลล่าร์จึงเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้และกำลังเกิดขึ้นแล้ว
เมื่อสหรัฐที่เอาแต่พูดถึงกฎระเบียบ สันติภาพ สิทธิมนุษยชน แต่ก้ไม่เคยทำได้ในประเทศของตน และยังไปไล่ถล่มคนอื่น หรือ ไล่แทรกแซงประเทศต่างๆ ให้เกิดความวุ่นวาย แล้วก็ส่งกำลัง ส่งคนเข้าไปปราบเพื่อชิงทรัพยากรอยู่ดังนี้แล้ว หากสหรัฐยังคงบ้าคลั่งและหลงอำนาจในตนเอง อยู่เรื่อยไปแล้ว
สงครามอันไม่น่าพึงปรารถนาแก่ผู้ใดอาจจะอุบัติขึ้นได้ในไม่ช้า
สหรัฐเองจะเป็นผุ้รับผลกรรมที่ตนเองทำไว้ กลายเป็นสรภูมิรบที่น่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเกิดสงครามในโลกนี้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ เมษายน 29, 2017, 12:15:16 PM
ผลงานที่โดดเด่นคือละลาน ประเทศอื่น
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 07:57:42 AM
สหรัฐฯพลิกลิ้น ออกค่าติดตั้ง THAAD เอง ขณะที่
เกาหลีเหนือขู่ ใกล้ถึงเวลาส่งนิวเคลียร์ถล่มสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวว่าต้องการให้เกาหลีใต้รับผิดชอบค่าติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง หรือ THAAD ซึ่งความแปลกใจให้กับเกาหลีใต้อย่างยิ่ง ซึ่งการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งก็บอกว่าข้อตกลงเดิมนั้นสหรัฐฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด และได้เกิดคำถามตามมาว่าสหรัฐฯ ยังเป็นพันธมิตรที่เชื่อใจได้ของเกาหลีใต้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เอช.อาร์. แม็กมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โทรศัพท์มายืนยันกับทางด้าน คิม ควานจิน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของผู้นำเกาหลีใต้ว่า การเป็นพันธมิตรกับเกาหลีใต้เป็นเป้าหมายสำคัญสูงสุดในเอเชีย-แปซิฟิก และคำสัมภาษณ์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์หมายถึงว่าชาติพันธมิตรควรร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการปกป้องประเทศของตนเอง
ในขณะที่ ส่วนประกอบสำคัญของ ระบบต่อต้านขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง หรือ THAAD ถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่สถานที่ติดตั้งในเมืองซองจู ของเกาหลีใต้ และเกิดมีประชาชนไปร่วมตัวประท้วงในพื้นที่ติดตั้งขณะมีการขนย้ายจำนวนหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่จนมีผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหนึ่ง ในขณะที่กับเพื่อบ้านอย่างกับจีน ก็เกิดเสียงคัดค้านมาอย่างต่อเนื่องเพราะจีนเกรงว่าเรดาร์ของระบบนี้จะเจาะเข้าสู่แผ่นดินใหญ่และบ่อนทำลายความมั่นคงของจีน แม้ว่าสหรัฐฯ และ เกาหลีใต้จะยืนยันว่าติดตั้ง ระบบต่อต้านขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง หรือ THAAD เพื่อไว้ป้องกันภัยคุกคามจากจีนเท่านั้น
.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 11:40:38 AM
ทรัมป์เชิญพล.อ.ประยุทธ์เยือนสหรัฐ ระหว่างโทรศัพท์สายตรงหารือประเด็นเกาหลีเหนือ
ทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ต่อสายตรงถึงพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย โดยได้มีการพูดคุยเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเด็นเกาหลีเหนือ และยังได้เชิญชวนให้นายกฯไทยเดินทางเยือนสหรัฐด้วย
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐเล็งเห็นถึงความสำคัญของการได้รับความร่วมมือจากประเทศที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค เพื่อเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการทูตต่อเกาหลีเหนือ
วันเดียวกันนี้ นายทรัมป์ ยังสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ ในประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ และได้เชิญทั้งนายกรัฐมนตรีของไทยและสิงคโปร์ให้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขึ้นสู่อำนาจจากการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค.2557 มีความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นนักกับรัฐบาลวอชิงตันในสมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา
ก่อนหน้านี้ นายไรนซ์ พรีบัส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในเวลานี้ตอกย้ำว่า การประสานความร่วมมือกับพันธมิตรของรัฐบาลวอชิงตันในภูมิภาค เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อให้การดำเนินแนวทางปฏิบัติและนโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ที่ผ่านมา นายทรัมป์ ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ซึ่งเรียกร้องให้สหรัฐแสดงบทบาทต่อกรณีพิพาทกับเกาหลีเหนือด้วยความอดกลั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 11:52:43 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 11:55:09 AM
.gif)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 12:53:57 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 01, 2017, 03:08:36 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 07:22:50 AM
เกาหลีเหนือพร้อมส่งนิวเคลียร์ทันที รอแค่คำสั่ง
คิม จองอึนขณะที่ CIA สหรัฐฯ ประชุมลับแผนปฏิบัติการคาบสมุทรเกาหลี
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือแถลง ผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ว่าเกาหลีเหนือพร้อมที่จะโจมตีสหรัฐฯ ได้ทันทีด้วยนิวเคลียร์ในระดับสูงสุดในเวลาและสถานที่ใดก็ได้ ตามคำสั่งของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยกเว้นว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกนโยบายการเป็นศัตรู กับเกาหลีเหนือเท่านั้น
เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์มาแล้ว 5 ครั้ง และเชื่อกันว่าจะสามารถพัฒนาจนประกอบกับขีปนาวุธที่สามารถติดตั้งหัวรบและยิงไกลถึงสหรัฐฯ แม้ว่าการซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะประสบความล้มเหลวอีกครั้งก็ตาม นอกจากนั้นแล้วโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ยังกล่าวว่าเกาหลีเหนือจำเป็นต้องมีกองกำลังนิวเคลียร์ทรงอานุภาพ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นคงถูกสหรัฐฯ นั้นรุกรานเหมือนประเทศอื่น ๆ ที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเฟซ เดอะ เนชั่นของเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอส ระบุว่า ถ้าเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์อีก เขาคงไม่ชอบใจ และเมื่อถามว่า หมายความว่า อเมริกาจะใช้ปฏิบัติการทางทหารใช่หรือไม่ ผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่าไม่รู้หรอก ผมหมายความว่า เราจะได้เห็นกัน นอกจากนั้นแล้ว รีนซ์ พรีบัส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยต่อพิธีกรรายการดีสวีค ของสถานีโทรทัศน์เอบีซี ว่าสหรัฐฯ ต้องการความร่วมมือในบางระดับ กับประเทศหุ้นส่วนในพื้นที่จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อความมั่นใจว่าสหรัฐฯมีความพร้อมก่อนจะลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่าง โดยเจ้าหน้าทีรายนี้ ได้ให้ข้อมูลต่อว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือกับทางด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับกรณีของเกาหลีเหนือ และต้องการที่จะพูดคุยกับทางด้านผู้นำประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เพื่อขอให้ทุกประเทศสนับสนุนแผนการในการจัดการกับเกาหลีเหนือ พร้อมกับอวดอ้างว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับทางด้านนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนอีกด้วย
รีนซ์ พรีบัส ยังกล่าวย้ำในรายการว่าขณะนี้ไม่มีภัยคุกคามใดร้ายแรงกว่าเกาหลีเหนืออีกแล้ว แผนการสนทนาหารือกับผู้นำอาเซียน ไม่ว่าผู้นำของประเทศไทย หรือสิงคโปร์ เกิดจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ และอาวุธทำลายล้างสูงในเอเชีย และท้ายที่สุดภัยร้ายเหล่านั้นก็จะมาถึงสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นเดียวกันอึน” ขณะที่ CIA สหรัฐฯ ประชุมลับแผนปฏิบัติการคาบสมุทรเกาหลี
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 07:27:51 AM
ทรัมป์บอกเป็นเกียรติหากได้พบ
คิม จอง อึน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ระบุ รู้สึกเป็นเกียรติหากได้พบกับคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี พร้อมทั้งระบุว่า ไม่ตัดโอกาสที่จะได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนือคนนี้
ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐยืนยันว่าไม่ตัดโอกาสที่จะพบและหารือกับนายคิม จอง-อึน หากเงื่อนไขและสถานการณ์เหมาะสม และถือเป็นเกียรติด้วยที่ได้พบปะกัน
ถ้อยแถลงของนายทรัมป์ มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดจากการทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ในขณะที่สหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คาร์ล วินสัน เข้าไปในน่านน้ำแถบคาบสมุทรเกาหลี เพื่อร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้
รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ย้ำเตือนว่า พร้อมที่จะใช้แนวทางแก้ปัญหาเกาหลีเหนือในทุกรูปแบบ รวมทั้งการรับมือกับโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ แถลงว่า เกาหลีเหนือพร้อมตอบโต้ “ทุกทางเลือก” ของสหรัฐ และจะเดินหน้าส่งเสริมศักยภาพในการชิงโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ตราบใดที่สหรัฐยังไม่ล้มเลิกนโยบายเป็นปรปักษ์กับเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือจะดำเนินมาตรการส่งเสริมกองกำลังนิวเคลียร์ให้เต็มศักยภาพสูงสุดตามความต้องการของนายคิม จอง อึน พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะทดลองนิวเคลียร์ครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 6 และเป็นครั้งที่สหรัฐขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยกำลังทหารหากมีการทดสอบจริง
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 01:13:14 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 02, 2017, 03:26:07 PM
คนบ้าเจอคนเสียสติ 
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 04, 2017, 04:56:45 PM
แถลงการณ์ของนายโธมัสระบุว่า ขีปนาวุธ
มินิทแมน 3(Minuteman III) ถูกปล่อยออกจากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยมีวิถีไปไกลราว 6,700 กิโลเมตร และตกลงบริเวณใกล้เกาะแนวปะการังในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะมาร์แชล และเป็นสถานที่ทดสอบขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ของทหารสหรัฐ
ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐยืนยันว่าการดทสอบขีปนาวุธมินิทแมนในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์เดียว โดยครั้งก่อนหน้าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์กเช่นกัน
ทั้งนี้ ขีปนาวุธข้ามทวีปมินิทแมน3 ถูกนำเข้าประจำการต่อเนื่องมานานถึง 60 ปี รวมทั้งมีการผลิตรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งปรับปรุงระบบกำหนดเป้าหมายและเพิ่มความแม่นยำให้มากขึ้น ทุกวันนี้ระบบขีปนาวุธมินิทแมน ถือเป็นระบบขีปนาวุธชั้นสุดยอดของโลก มีศักยภาพเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านอาวุธของโลกยุคใหม่ได้ทุกชนิด
ปัจจุบันกองทัพสหรัฐมีขีปนาวุธมินิทแมนรุ่น 3 ไว้ในครอบครองประมาณ 450 ลูก มีระยะพิสัยทำการสูงสุด 8,000 กิโลเมตร สนนราคาลูกละ 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 245 ล้านบาท ) และผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง
(1).jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 04, 2017, 08:45:42 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 04, 2017, 08:53:02 PM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 05, 2017, 10:04:51 AM
วันนี้ (5 พ.ค.2560) นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยสมาชิกพรรครีพับลิกัน ร่วมกันฉลองชัยชนะ หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ลงมติ 217 ต่อ 213 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (โอบามาแคร์) และนำแผนหลักประกันสุขภาพของรีพับลิกันเข้ามาใช้แทน โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน พร้อมทั้งประกาศจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อแก้ไขกฎหมายนี้ต่อไป เพื่อประชาชนชาวอเมริกัน
ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต รวมถึงกลุ่มผู้คัดค้านที่รวมตัวประท้วงด้านหน้ารัฐสภาสหรัฐฯ ประณามมติในครั้งนี้ว่าเป็นทางเลือกที่ขี้ขลาดและกฎหมายใหม่จะไม่ครอบคลุมเงื่อนไขการคุ้มครองที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะส่งผลให้ชาวอเมริกันกว่า 24 ล้านคนต้องสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพไป
การประกาศใช้กฎหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (โอบามาแคร์) ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อปี 2553 ส่งผลให้ชาวอเมริกันประมาณ 20 ล้านคนมีสิทธิ์เข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมพ์ระบุระหว่างการหาเสียงว่าจะแก้ไขกฎหมายนี้เพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมประชาชนมากยิ่งขึ้นและลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าความพยายามของทรัมพ์ในการยกเลิกโอบามาแคร์จะยังคงต้องเผชิญกับแรงคัดค้านอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในเดือนหน้า เนื่องจากแม้ว่าฝ่ายรีพับลิกันจะเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแต่ก็มีจำนวนวุฒิสมาชิกมากกว่าเดโมแครตเพียง 2 เสียงเท่านั้น ขณะที่สมาชิกรีพับลิกันบ้างคนเองก็มีจุดยืนที่ต้องการจะร่างกฎหมายหลักประกันสุขภาพขึ้นใหม่แทนที่จะแก้ไขกฎหมายโอบามาแคร์ที่ใช้อยู่เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 05, 2017, 10:13:49 AM
ชนะสะที ทรัมป์อุปสรรคเยอะ ส่วนใหญ่จะตามเพราะปากตัวเอง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 11, 2017, 11:15:35 AM
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐ ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พร้อมและรอคอยที่จะร่วมมือกับประธานาธิบดีมุน แจอิน
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์และนายมุน มีความเห็นแตกต่างกันในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยนายทรัมป์ อยากใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและใช้กำลังทหารหากจำเป็น
ขณะที่นายมุน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเกาหลีใต้ ด้วยนโยบายปราบปรามการทุจริต และเขาประกาศว่า จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ด้วยการเจรจาและผลักดันให้ทั้งสองประเทศเปิดโครงการอุตสาหกรรมร่วมกันอีกครั้ง
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ความหวังของนายมุน ที่จะใช้วิธีเจรจาการทูตลดความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือคงทำได้ไม่ง่ายนัก ในขณะที่เปียงยาง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสร้างขีปนาวุธพิสัยไกลเพื่อส่งหัวรบนิวเคลียร์ไปโจมตีสหรัฐและสั่งกองทัพให้ซ้อมโจมตีกรุงโซลอยู่บ่อยครั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 07:57:51 AM
สหรัฐฯขายอาวุธ
ซาอุฯรับอีกกว่าแสนล้านดอลลาร์ เพื่อหาทุนพยุงประเทศให้อยู่รอด
สหรัฐฯ เตรียมขายอาวุธให้แก่ซาอุดีอาระเบีย รวมมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ มูลค่าอาวุธที่สหรัฐฯจะขายให้แก่รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ในช่วง 10 ปีข้างหน้าอาจสูงกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันตนเองของซาอุฯแต่ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ก็จะยังอุดหนุนพันธมิตรหลักอย่างอิสราเอลให้มีแสนยานุภาพทางทหารที่เหนือชั้นกว่าประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน
ซาอุดีอาระเบียจะเป็นจุดหมายปลายทางแรกในการไปเยือนต่างประเทศหนแรกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ หวังที่จะผลักดันข้อตกลงจำหน่ายอาวุธแก่ซาอุฯ ทั้งใหม่และเก่ารวมมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ก่อนที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกเดินทางไปเยือนซาอุฯ ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้
สหรัฐฯ เป็นผู้จัดส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ให้กับซาอุฯ รายใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ F-15 ระบบการควบคุมทางอากาศ และอื่น ๆ อีกมากมาย สร้างรายได้มหาศาลให้แก่สหรัฐฯ
ข้อตกลงขายอาวุธให้ซาอุฯ ล่าสุดนั้น จะประกอบไปด้วย อาวุธยุทโธปกรณ์และบริการซ่อมบำรุงจากอเมริกา, เรือรบ, ระบบป้องกันภัยทางอากาศ รวมถึงระบบที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางทะเล โดยการขายอาวุธล็อตใหญ่นี้ จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเพิ่มศักยภาพกองทัพซาอุฯ ให้สามารถรับมือภัยคุกคามในภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่อิสราเอลก็จะยังมีแสนยานุภาพที่เหนือชั้นกว่า
ถึงเวลานี้ สหรัฐฯ เดินหน้าขายอาวุธให้พันธมิตรตะวันออกกลาง เป็นว่าเล่น ไม่ใช่เพื่อรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างที่หลายคนคิด แต่เนื่องจากภาวะถังแตกของสหรัฐฯต่างหากจำเป็นต้องหางบประมาณก้อนใหญ่เข้ามาสนับสนุนการบริหารประเทศ เพราะไม่อย่างนั้นสหรัฐฯจะล้มราบเป็นหน้ากลอง อย่างแน่นอน
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 08:09:33 AM
โดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันว่า เขามีสิทธิ์เด็ดขาดในการตัดสินใจแบ่งปันข้อมูลกับรัสเซีย เพื่อให้การปราบปรามกลุ่มไอเอสมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังถูกวิจารณ์ว่า นำข้อมูลลับของชาติไปแบ่งปันกับรัสเซียโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯทวีตข้อความยืนยันว่า เขามีสิทธิเด็ดขาดในการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการก่อการร้ายและความปลอดภัยของสายการบินกับรัสเซีย เพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม และเขาก็ต้องการให้รัสเซียยกระดับปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอเอสหรือดาอิช
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าวเดอะ วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า นายทรัมป์ได้แบ่งปันข้อมูลลับสุดยอดเกี่ยวกับแผนการโจมตีของไอเอสด้วยการใช้ แล็ปท็อปบนเครื่องบิน ให้กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียระหว่างการพบกันที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการแบ่งปันข้อมูลนี้กับรัสเซียอาจทำให้แหล่งข่าวด้านความมั่นคงที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ในด้านการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสถูกเปิดเผย จึงถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยความลับของทรัมป์ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากประธานาธิบดีมีอำนาจในการพิจารณาถอดข้อมูลใดๆออกจากประเภทข้อมูลลับได้ แต่การกระทำดังกล่าวก็ทำให้พรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันอธิบายเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ได้ออกแถลงการณ์ในนามรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าทั้ง 2 รัฐบาลหารือกันเรื่องความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย แต่ไม่มีการพูดคุยเรื่องข้อมูลที่เป็นประเด็นอ่อนไหว เช่นเดียวกับพลโทเอช. อาร์. แม็คมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายทรัมป์ ที่แถลงข่าวว่าไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเรื่องปฏิบัติการทางทหารให้รัฐบาลรัสเซียทราบแต่อย่างใด
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 08:28:11 PM
ได้มีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนคนอเมริกัน โดยทางด้านพับลิค โพลิซี พูลลิง ซึ่งพบกว่าผู้ถูกสำรวจ 48% สนับสนุนให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ขณะที่ 41% คัดค้านการดำเนินการดังกล่าว
ในขณะที่ผู้ถูกสำรวจ 54% ไม่ชื่นชอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ 40% แสดงความชื่นชอบ นอกจากนั้นแล้วผู้ถูกสำรวจ 45% คิดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่จนครบวาระ 4 ปี ขณะที่ 43% คาดว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่ครบวาระ
ในช่วงที่ เดือนเมษายนที่ผ่านมาก็มีผลสำรวจทำนองนี้ออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่ง เป็นการสำรวจขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งครบ 100 ว้นแรก ปรากฏว่า มีคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดนับแต่มีการสำรวจกันมา ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่นั้นคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงแต่เมื่อรับหน้าที่แล้วไม่สามารถทำได้ตามที่ได้โอ้อวดเอาไว้ และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ความขัดแย้งที่ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆในพรรคการเมือง ทำให้พลังสนับสนุนที่เคยมีมาแต่เดิมนั้น ได้หายไปอย่างรวดเร็ว
เวลานี้เหมือนว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ยิ่งจะถูกโดดเดี่ยวจากบรรดาหน่วยงานต่าง ๆ ภายในประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะกับต่างประเทศเอง ก็ยิ่งดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิมในทุกภูมิภาคเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นคงต้องดูกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะอยู่ครบเทอม ได้หรือไม่
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 08:35:18 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 08:40:46 PM
มหาวิทยาลัยควินนิเพียค ในมลรัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการทำแบบสำรวจความคิดเห็นภายใต้ชื่อ "ควินนิเพียคโพล" จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นที่ชาวอเมริกันมีต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน โดยให้ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกคำ 1 คำที่คิดว่าเชื่อมโยงกับนายทรัมป์มากที่สุด
ปรากฏว่าคำยอดนิยมอันดับ 1 ได้แก่ "Idiot" หรือ "โง่" มีผู้เลือกตอบมากถึงร้อยละ 39 ต่อด้วย "Incompetent" หรือ "ไร้น้ำยา" ที่มีคนเลือกร้อยละ 31 และ "Liar" หรือ "จอมโกหก" ร้อยละ 30 แต่ก็มีคำดีๆเช่น "Leader" ที่มีคนเลือกร้อยละ 25 รวมถึง "Strong" ร้อยละ 21
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 08:15:34 AM
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพส ได้ตีพิมพ์ว่านายเควิน แม็คคาร์ธี ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวหานายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2559 ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ นั้นได้รับเงินจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน นอกจากนั้นแล้วยังมี พอล ไรอัน ส.ส.พรรครีพับลิกัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เตือนให้นายเควิน แม็คคาร์ธี หยุดพูด พร้อมกับขอให้ ส.ส.ของพรรคทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้น ให้เก็บคำพูดของเป็นความลับ
นายเควิน แม็คคาร์ธี ได้ออกมาตอบโต้หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพส ทางทวิสเตอร์ ว่า "นี่เป็นความพยายามบิดเบือนคำพูดขำขันแต่ไม่ขำของผม ด้านโฆษกประจำตัวของนายเควิน แม็คคาร์ธี กล่าวว่า บทสนทนาเมื่อ 1 ปีที่แล้วนายเควิน แม็คคาร์ธี พยายามพูดให้สนุกสนาน ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าผู้นำเสียงข้างมากจะกล่าวหาโดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกพรรคของเรารายอื่นๆ รับเงินจากชาวรัสเซีย ปัญหาก็คือ จะพูดให้มันขำ แต่บุคคลที่ 3 มักคิดว่าเป็นเรื่องจริง และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีนี้
แม้ว่านายเควิน แม็คคาร์ธี จะอ้างว่า เขาพูดเล่น แต่เรื่องนี้ คงไม่ขำสำหรับนายโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะขณะนี้ตัวเขากำลังถูกการเมืองฝ่ายตรงข้ามเล่นงานอย่างหนัก การทำงานในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ติดขัดไปทุกตารางนิ้ว ก่อนหน้านี้ถึงกับออกปากบ่นกันมาแล้วว่าไม่คิดว่ามันจะเหนื่อย จะหนักขนาดนี้ และความเป็นส่วนตัวก็หายไป แต่ถึงเวลานี้ โดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะเหนื่อยและหนักมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าเพราะขณะนี้อุปสรรคทุกด้านกำลังรุมเร้าจนทำให้เก้าอี้ผู้นำเริ่มสั่นคลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 08:09:21 AM
บัณฑิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐอินดีแอนาของสหรัฐจำนวนหนึ่ง พากัน “วอล์กเอาท์” หรือเดินออกจากพิธีในขณะที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายของรัฐบาล
สื่อสังคมออนไลน์แห่แชร์คลิปขณะบัณฑิตในชุดสำเร็จการศึกษาบางส่วนของมหาวิทยาลัยนอเตอร์เดมจากทั้งหมดราว 2,000 คนลุกขึ้นยืนและเดินออกจากสนามสาธุของมหาวิทยาลัยในขณะที่รองประธานาธิบดีเพนซ์เริ่มกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอาทิตย์ (21 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ
กลุ่มบัณฑิตที่จัดการประท้วงแถลงว่า การเข้าร่วมพิธีและรับปริญญาบัตรจากรองประธานาธิบดีเพนซ์เท่ากับเห็นชอบนโยบายและการกระทำที่ขัดแย้งโดยตรงกับคำสอนทางสังคมและค่านิยมของคริสตชนคาทอลิก อีกทั้งยังเป็นการมุ่งเล่นงานกลุ่มคนที่อ่อนแอในมหาวิทยาลัยด้วย กลุ่มจัดการประท้วงอ้างว่ามีบัณฑิตเดินออกจากพิธีมากกว่า 100 คน หลายคนติดเข็มขัดหรือผูกผ้าสีรุ้งที่เป็นตัวแทนของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มบัณฑิตที่ประท้วงกล่าวว่า ไม่พอใจรองประธานาธิบดีเพนซ์ที่เกิดในรัฐอินดีแอนา อีกทั้งเคยเป็นผู้ว่ารัฐนี้และเป็นส.ส.รัฐนี้มานานถึง 12 ปี และต้องการแสดงความไม่พอใจนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่คุกคามเสรีภาพพลเมือง รวมถึงการพยายามห้ามชาวมุสลิมจากบางประเทศเข้าสหรัฐ
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 08:40:38 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 09:04:04 AM
เอาคนบ้ามาทำงาน พอเห็นผลงานก็สมควรแล้ว ขัดตาทุกเรื่อง (http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)(http://www.webtraderth.com/webboard/Smileys/default/AT9.gif)ทรัมป์เขาไม่ได้ทำเพื่อประเทศ ทำเพือประโยชน์ของตัวเอง ร่วมมือกับลูกพี่ ปูติน m:9 m:9
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 09:06:14 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 10:02:07 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 07:38:33 PM
นายออยสไตน์ เบเรนท์เซน กรรมการผู้จัดการของบริษัทสตรอง ปิโตรเลียม กล่าวว่า แผนของปธน.ทรัมป์ได้สร้างความประหลาดใจ และจะกระทบต่อความพยายามลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกนายเบเรนท์เซนระบุว่า การขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่งในช่วงเวลา 10 ปี ดังกล่าว จะมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 95,000 บาร์เรล/วัน และจะส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะยาว
การระบายน้ำมัน SPR จะทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดเพิ่มขึ้น และส่งผลให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐเพิ่มสู่ระดับ 9.3 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย
นอกจากนี้ ข้อเสนอของปธน.ทรัมป์ยังมีขึ้น หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์เตือนว่าตลาดน้ำมันเผชิญความเสี่ยงน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า ถ้าหากโอเปกและรัสเซียกลับมาเพิ่มการผลิต และสหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil)
ทั้งนี้ ร่างแผนงบประมาณที่ทำเนียบขาวเปิดเผยได้ระบุว่า ปธน.ทรัมป์เสนอให้รัฐบาลสหรัฐทำการขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่ง เพื่อนำรายได้เข้าสู่งบประมาณของประเทศ
ทั้งนี้ แผนของปธน.ทรัมป์จะทำให้มีการขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่งในช่วงปี 2018-2027 เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนต.ค.2018
นอกจากนี้ แผนงบประมาณดังกล่าว ยังได้เสนอให้มีการขุดเจาะ และผลิตน้ำมันมากขึ้นในอลาสกา รัฐบาลจะยื่นงบประมาณดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาคองเกรสในวันนี้
SPR นับเป็นคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณน้ำมันอยู่ราว 688 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นเวลา 1 สัปดาห์
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 07:44:33 PM
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และบั่นทอนความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดปริมาณน้ำมันในตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 25, 2017, 10:15:55 AM
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน ว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเกิด ปัญหาครั้งใหญ่กับทางด้านเกาหลีเหนือ อันเนื่องมาจากการเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเอง โดยทางด้านสหรัฐฯกำลังพิจารณาที่จะจัดการกับปัญหาดังกล่าว แต่เขาต้องการแก้ไขด้วยวิถีทางการทูต
โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับผู้นำฟิลิปปินส์ ว่า สหรัฐฯมีสรรพาวุธมากมายที่คาบสมุทรเกาหลี โดยมีเรือดำน้ำ 2 ลำ ระดับดีที่สุดของโลก เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แต่จริงๆ แล้วไม่อยากใช้อาวุธเหล่านั้นเลย
รายงานนำมาจากใบสำเนาบันทึกเนื้อหาการสนทนาของรัฐบาลฟิลิปปินส์ และถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายใต้ตราประทับเอกสารลับ โดยกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์
สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอสคาร์ล วินสัน ไปยังน่านน้ำนอกคาบสมุทรเกาหลี เตรียมลงมือปฏิบัติการตามคำสั่ง ร่วมกับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ยูเอสเอส มิชิแกน ที่เข้าจอดเทียบท่าในเกาหลีใต้ เมื่อปลายเดือนเมษายน
_resize.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 26, 2017, 05:37:30 PM
"ประเด็นการค้าจะไม่เป็นวาระสำคัญ" ในการประชุมระดับรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ที่เมืองบารี ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี
เจ้าหน้าที่ยังกล่าวด้วยว่า คาดว่าจะมีการหารือในประเด็นการค้าที่การประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ปลายเดือนนี้ที่แคว้นซิซิลี
อย่างไรก็ดี คาดว่านายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ อาจมีการหารือประเด็นการค้าในระดับทวีภาคีกับรัฐมนตรีคลังรายอื่นๆในกลุ่ม G7
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเข้าร่วมการประชุมที่เมืองบารีในฐานะตัวแทนจากญี่ปุ่น
นอกเหนือจากประเด็นค่าเงินแล้ว ผู้นำทางการเงินกลุ่ม G7 ยังเตรียมหารือเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลก แนวทางในการต่อสู้กับความไม่เสมอภาค ยกระดับความร่วมมือในเรื่องสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ภาษีระหว่างประเทศ และความมั่นคงทางไซเบอร์
เริ่มหัวข้อโดย: Fadhil2557 ที่ พฤษภาคม 26, 2017, 06:16:49 PM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 26, 2017, 06:20:07 PM
.gif)
ขอบคุณครับท่านที 
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 02, 2017, 10:56:13 AM
อย่างไรก็ดี อดีตประธานาธิบดี Obama กล่าวคัดค้านการตัดสินใจของนาย Trump โดยชี้ว่า ข้อตกลง Paris Climate Agreement เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อภาคธุรกิจในอนาคต โดยเฉพาะในด้าน innovation และ scientific development เช่นเดียวกับบทวิเคราะห์ของสำนักพิมพ์ Bloomberg Businessweek ที่ระบุว่า การออกจากข้อตกลงดังกล่าวของสหรัฐฯ มีผลด้านลบอย่างมีนัยสำคัญ นำโดยการสูญเสียความเป็นผู้นำด้าน renewable energy ประกอบกับจะส่งผลลบต่อการจ้างงานและ potential output ในที่สุด
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ถือเป็นผู้ผลิต natural gas รายใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงเป็นผู้นำหลักในธุรกิจด้าน solar power innovation ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ลดบทบาทของตนในฐานะผู้นำด้าน Climate Reform ลงนั้น สำนักพิมพ์ Bloomberg Businessweek คาดว่า ประเทศจีนจะได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยปัจจุบัน ประเทศจีนมีการจ้างงานในภาคธุรกิจ solar power กว่า 2 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 1 ใน 3 ของการจ้างงานทั้งหมดในธุรกิจดังกล่าวทั่วโลก
นอกจากนี้ Output จากธุรกิจ solar power ยังปรับสูงขึ้นกว่าร้อยละ 80 ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้อีกด้วย ประกอบกับท่าทีของประธานาธิบดี Xi Jinping ที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการขยายตัวของเศรษฐกิจแบบยั่งยืน
การตัดสินใจของประธานาธิบดี Trump ยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย นำโดย CEO บริษัทรายใหญ่ อาทิ Microsoft Corp., Tesla Inc., General Motors Co และ Apple Inc. ที่ต่างเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Trump ตัดสินใจอยู่ในข้อตกลงดังกล่าวต่อไป นอกจากนี้ ยังยืนยันถึง commitment ในการดำเนินธุรกิจในลักษณะ environmental friendly โดยนาย Elon Musk กล่าวเสริมว่า มีแนวโน้มถอนตัวจากทีมงานด้านเศรษฐกิจของนาย Trump เพื่อคัดค้านการออกจากข้อตกลงดังกล่าว โดยระบุว่า “Leaving Paris is not good for America or the world”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Trump มีแผนการเจรจาข้อตกลงดังกล่าวใหม่ภายหลังการถอนตัวทันที อย่างไรก็ดี กระบวนการถอดถอนจากข้อตกลงมีแนวโน้มใช้เวลากว่า 3 ปีซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งใหม่ในปี 2020
Trump Cedes Climate Policy Leadership to Xi With Paris Accord Exit: https://www.bloomberg.com/…/trump-cedes-climate-policy-mant…
Source: BOTSS/Bloomberg
Trump Cedes Climate Policy Leadership to Xi With Paris Accord Exit
President Donald Trump’s decision to quit the Paris accord has just handed China’s President Xi Jinping a golden opportunity to…
BLOOMBERG.COM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 19, 2017, 09:24:40 AM
ขณะที่ทางด้านสำนักงานจริยธรรมรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา หรือโอจีอี ได้เผยแพร่เอกสาร รายได้และหนี้สิน ขนาดความยาว 98 หน้ากระดาษ ของทางด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ พบว่าผู้นำสหรัฐฯ นั้นได้มีหนี้สินกับทางด้าน ดอยชท์ แบงค์ ทรัสต์ คัมพานี บริษัทในเครือของธนาคารดอยชท์ แบงค์ เอจี แห่งเยอรมนี อย่างน้อย 130 ล้านดอลลาร์ และหนี้อย่างน้อย 110 ล้านดอลลาร์ ต่อ แลดเดอร์ แคปปิตอล บริษัทสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ นิวยอร์ก ลอสแอนเจลีส และโบคา ราตัน รัฐฟลอริดา
เอกสารดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้นั่งในตำแหน่งงานต่าง ๆ กว่า 565 บริษัท ก่อนที่จะรับหน้าที่ผู้นำสหรัฐฯ โดยบริษัทเกือบทั้งหมดอยู่ในสหรัฐฯ และบางส่วนอยู่ในสกอตแลนด์ ไอร์แลนด์ แคนาดา บราซิล เบอร์มิวดา และที่อื่น ๆ แต่เขาได้ลงจากตำแหน่งทั้งหมดก่อนวันที่ 19 มกราคม หรือ 1 วันก่อนที่เขาจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั่นเอง
.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 24, 2017, 08:33:57 AM
ระบบป้องกันขีปนาวุธรุ่นใหม่ของสหรัฐฯ คือเอสเอ็ม-3 รุ่นบล็อคไอไอเอ ยิงพลาดเป้าในการทดสอบครั้งที่ 2 ในบริเวณนอกชายฝั่งของเกาะคาวายอิ รัฐฮาวาย เมื่อเวลา 19.20 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ระบบต้านขีปนาวุธดังกล่าวสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างองค์การป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯกับกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น โดยเรือพิฆาตยูเอสเอส จอห์น พอล โจนส์ของกองทัพเรือสหรัฐฯยิงพลาด
ก่อนหน้านี้ ระบบต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯที่ติดตั้งบนเรือพิฆาตประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับระบบต้านขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นเดิมคือเอสเอ็ม-3 โดยเริ่มทำการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2549 โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือมุ่งจะใช้ป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลจากเกาหลีเหนือและภัยคุกคามด้านขีปนาวุธจากที่อื่นๆด้วย องค์การป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯ และสำนักจัดหาเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ของรัฐบาลญี่ปุ่นจะร่วมกันวิเคราะห์รายละเอียดผลทดสอบที่ล้มเหลว เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงต่อไป
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ มิถุนายน 24, 2017, 08:35:21 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ มิถุนายน 24, 2017, 08:42:36 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 05, 2017, 08:00:57 AM
ในช่วงเช้าของวันนี้ (4 กรกฎาคม 2560) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ทวีตข้อความเหน็บแนมเกาหลีเหนือ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธ
โดย ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า "เกาหลีเหนือก็แค่ยิงขีปนาวุธอีกลูกหนึ่งในวันนี้ ผู้นำประเทศนี้ไม่มีอะไรทำที่ดีไปกว่านี้แล้วหรือในชีวิต?
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังทวีตข้อความด้วยว่า "ไม่น่าเชื่อว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้นานถึงเพียงนี้ และจีนควรต้องดำเนินการกับเกาหลีเหนืออย่างจริงจังและยุติการกระทำที่ไร้สาระเพื่อทุกฝ่าย" โดยการทวีตข้อความดังกล่าวถือเป็นการเรียกร้องให้จีนเข้ามามีบทบาทในการกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น
การแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปยังทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้ โดยคณะเสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้ (JCS) ระบุว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวถูกยิงออกไปยังฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร และลอยอยู่กลางอากาศประมาณ 40 นาที โดยขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นขีปนาวุธชนิดใด
ทางด้านรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธดังกล่าวอาจตกลงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายจากการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้
.jpg)
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ กรกฎาคม 10, 2017, 07:53:16 AM
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ สิงหาคม 10, 2017, 07:40:40 AM
เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบ และฝรั่งเศสมีความกังวลต่อสถานการณ์ในขณะนี้อย่างมาก
ฝรั่งเศสเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบ และลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือขู่โจมตีเกาะกวมของสหรัฐ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่โจมตีเกาหลีเหนือ หากยังคงทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ
โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่า
เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบ และฝรั่งเศสมีความกังวลต่อสถานการณ์ในขณะนี้อย่างมาก
ด้านปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ระบุว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และมีอำนาจมากกว่าในอดีต แต่ก็เตือนว่า มีโอกาสที่การใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3
ปัญหาโลกร้อนที่เราควรเป็นห่วงก็คือ ปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากอาวุธนิวเคลียร์ที่ตกอยู่ในมือของผู้นำที่เสียสติ และไม่มีความสามารถ” ข้อความในทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ ระบุและว่า“จงเตรียมพร้อม เพราะมีโอกาสที่ผู้นำที่น่ากลัวจะนำเราไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 โดยไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเตือนว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับไฟและความเดือดดาล จากสหรัฐอย่างแน่นอน หากยังคงดึงดันทำสิ่งที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากกว่านี้
ด้านเกาหลีเหนือขู่ที่จะชิงโจมตีสหรัฐ ด้วยการยิงขีปนาวุธสู่เกาะกวม ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากที่สหรัฐได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำจากฐานทัพดังกล่าวไปยังเกาหลีใต้ เพื่อร่วมซ้อมทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลงสู่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 09, 2018, 06:47:23 AM
ทองคำดีดกลับและซื้อขายที่ระดับ $ 1,315.00 เป็นเครื่องหมายออนซ์ troy ounce
ทองมีการซื้อขายที่ระดับประมาณ 1,316 เหรียญต่อออนซ์ออนซ์ขึ้น 0.16% ขณะที่ทรัมพ์ประกาศว่าเขาตัดสินใจที่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทรัมพ์กำลังขัดขวางการอนุมัติของสหราชอาณาจักรฝรั่งเศสเยอรมนีและสหภาพยุโรปที่สนับสนุนข้อตกลงในปัจจุบัน สิ่งนี้อาจทำให้สิ่งที่อยู่ในระดับภูมิศาสตร์การเมืองมีความซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
มองย้อนกลับไปในปี 2015 ข้อตกลงของอิหร่านได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านและในการแลกเปลี่ยนประเทศที่ผลิตน้ำมันจะ จำกัด โครงการนิวเคลียร์ของตนและอนุญาตให้มีการตรวจสอบสถานที่ปรมาณูของตน อย่างไรก็ตามทรัมพ์ไม่เคยชอบข้อตกลงดังกล่าวเนื่องจากจะช่วยให้อิหร่านสามารถเสริมสร้างยูเรเนียมหลังจากปี พ.ศ. 2568 ซึ่งจะเปิดประตูสู่การสร้างอาวุธนิวเคลียร์
เริ่มหัวข้อโดย: narjant ที่ พฤษภาคม 09, 2018, 06:53:50 AM
ด้วยความเสียใจและกังวลว่าเราผู้นำฝรั่งเศสเยอรมนีและสหราชอาณาจักรจะทราบถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมพ์ที่จะถอนสหรัฐอเมริกาออกจากแผนปฏิบัติการร่วมฉบับที่ครอบคลุมร่วมกัน
ร่วมกันเราเน้นความมุ่งมั่นต่อไปของเราต่อ JCPoA ข้อตกลงนี้มีความสำคัญต่อความปลอดภัยที่ใช้ร่วมกันของเรา เราจำได้ว่า JCPoA ได้รับการรับรองเป็นเอกฉันท์จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมติ 2231 ข้อมตินี้ยังคงเป็นกรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันสำหรับการแก้ปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามอย่างเต็มที่และปฏิบัติตามเจตนารมณ์ในความรับผิดชอบ
ตาม IAEA อิหร่านยังคงปฏิบัติตามข้อ จำกัด ที่กำหนดไว้โดย JCPoA ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ โลกเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นเรา E3 จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ JCPoA รัฐบาลของเรายังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาสัญญาฉบับนี้ไว้และจะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เหลือในข้อตกลงนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะยังคงเป็นเช่นนี้รวมถึงการสร้างความมั่นใจต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อเนื่องแก่ชาวอิหร่านที่เชื่อมโยงกับข้อตกลงนี้
เราขอเรียกร้องให้สหรัฐฯเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างของ JCPoA จะยังคงสภาพเดิมอยู่และเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ขัดขวางการดำเนินงานเต็มรูปแบบโดยฝ่ายอื่น ๆ ทั้งหมดในข้อตกลงนี้ หลังจากที่ได้มีส่วนร่วมกับฝ่ายบริหารของสหรัฐฯอย่างละเอียดถี่ถ้วนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเราเรียกร้องให้สหรัฐฯทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์จากการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์โดย JCPoA โดยการอนุญาตให้มีการบังคับใช้องค์ประกอบหลัก ๆ อย่างต่อเนื่อง
เราสนับสนุนให้อิหร่านแสดงความยับยั้งชั่งใจในการตอบสนองต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ อิหร่านต้องปฏิบัติตามพันธกรณีของตนภายใต้ข้อตกลงนี้อย่างเต็มที่และร่วมมือกับหน่วยงานของ IAEA อย่างเต็มที่และทันท่วงที IAEA จะต้องสามารถดำเนินการตรวจสอบและติดตามผลในระยะยาวได้ต่อไปโดยไม่มีข้อ จำกัด หรืออุปสรรค ในทางกลับกันอิหร่านควรได้รับการลงโทษคว่ำบาตรต่อไปในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อตกลง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านต้องมีความสงบและพลเรือนเสมอ ในขณะที่ JCPOA เป็นฐานเรายังยอมรับว่าประเด็นสำคัญ ๆ ที่น่าเป็นห่วงอื่น ๆ ต้องได้รับการแก้ไข กรอบระยะยาวสำหรับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหลังจากบทบัญญัติบางประการของ JCPOA หมดอายุหลังจากปีพ. ศ. 2568 จะต้องมีการระบุไว้ เนื่องจากความมุ่งมั่นของเราในการรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรและคู่ค้าของเราในภูมิภาคนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่เปลี่ยนแปลงเราต้องระบุด้วยความรู้สึกที่มีนัยสำคัญร่วมกันกังวลเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของอิหร่านและกิจกรรมในภูมิภาคที่ทำให้เกิดความวุ่นวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศซีเรียอิรักและเยเมน เราได้เริ่มอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่ายแล้วและ E3 มุ่งมั่นที่จะดำเนินการต่อกับคู่ค้าหลัก ๆ และรัฐที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคนี้
เราและรัฐมนตรีต่างประเทศของเราจะติดต่อทุกฝ่ายใน JCPoA เพื่อแสวงหาหนทางสู่อนาคต
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 09, 2018, 07:12:13 AM
เริ่มหัวข้อโดย: Teerapong ที่ พฤษภาคม 09, 2018, 08:32:11 AM
#GBS Research
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 09, 2018, 09:33:17 AM