• กิจกรรมทายผล
  • การแข่งขัน
  • ติดต่อสอบถาม
  • สนับสนุนเว็บบอร์ด


  • หน้าแรก
  • โบรคเกอร์
    • เปรียบเทียบบัญชีโบรคเกอร์
    • ตราวจสอบ Reabate Exness ประจำวัน
    • การแข่งขัน webTrader Contest
  • ปฏิทิน
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
  • blogger
 

  • Forex l หุ้น l การลงทุน l การซื้อขายออนไลน์ l ตลาดฟอร์เร็กซ์ »
  • FOREX NEWs / ปฏิทินเศรษฐกิจประจำวัน »
  • ข่าวเกียวกับ Forex (ผู้ดูแล: narjant) »
  • สถานการณ์ investing.com
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
  • พิมพ์
หน้า: [1]   ลงล่าง

ผู้เขียน หัวข้อ: สถานการณ์ investing.com  (อ่าน 1786 ครั้ง)

ออฟไลน์ narjant

  • Moderator
  • ปู่ของบอร์ด
  • *****
  • กระทู้: 7962
  • LIKE: 237
  • จินตนาการสำคัญกว่า ความรู้
    • ดูรายละเอียด
สถานการณ์ investing.com
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 08:33:20 AM »


   เวลา  09.20 น. 
บันทึกการเข้า
พอร์ต เขียว หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี

ออฟไลน์ pasit_ok

  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 468
  • LIKE: 10
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 09:01:26 AM »
 m:17 m:17
บันทึกการเข้า

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Gold Master
  • *****
  • กระทู้: 44186
  • LIKE: 482
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 09:07:11 AM »
ขอบคุณครับ 
บันทึกการเข้า
forex เป็นการลงทุนที่มีความเสียงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ออฟไลน์ narjant

  • Moderator
  • ปู่ของบอร์ด
  • *****
  • กระทู้: 7962
  • LIKE: 237
  • จินตนาการสำคัญกว่า ความรู้
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 10:01:01 AM »
บันทึกการเข้า
พอร์ต เขียว หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Gold Master
  • *****
  • กระทู้: 44186
  • LIKE: 482
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 10:02:05 AM »
ขอบคุณมากครับ 
บันทึกการเข้า
forex เป็นการลงทุนที่มีความเสียงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ออฟไลน์ narjant

  • Moderator
  • ปู่ของบอร์ด
  • *****
  • กระทู้: 7962
  • LIKE: 237
  • จินตนาการสำคัญกว่า ความรู้
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 10:30:26 AM »

คืนนี้ไหลไปที่ 34.71 BAHT/US ล่ะ แนวโน้มในระยะกลาง 2-3 เดือน น่าจะแตะแถวๆ 36BAHT/US แล้วพักตัวหายเหนื่อย จากนั้นก็คงจะ Start เครื่องใหม่ เพื่อวิ่งต่อยาวๆไป 42 BAHT/US

วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของค่าเงินบาท อ่อนค่าและแข็งค่า
1. วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของค่าเงินบาท อ่อนค่าและแข็งค่า

ค่าเงินอ่อนตัว
ข้อดี: ของนอกรับเข้ามาถูก คนไทยใช้จ่ายกันเยอะ น้ำมันถูก แต่คนส่งออกไม่ได้กำไร
ค่าเงินบาทอ่อนตัวเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกของไทย

ค่าเงินแข็งค่า
ของนำเข้าแพง น้ำมันแพง แต่เป็นช่วงโอกาสของผู้ส่งออกเพราะจะขายของต้นทุนถูก
การแข็งค่าของค่าเงินบาท หรือเงินบาทแข็งค่า หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนลดลง อาทิเช่น เดิมอยู่ที่ 40 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อมาลดลงเป็น 35 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ(การนำเข้าและการส่งออก) โดยจะมีผลทำให้การนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่การส่งออกลดลง เนื่องจากประเทศคู่ค้าหรือพ่อค้าชาวต่างชาติ จะมองเห็นว่าสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทยมีราคาแพง ในขณะที่ประเทศไทยหรือพ่อค้าชาวไทยจะมองว่าสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาถูกลง จึงสั่งสินค้าเข้ามามากขึ้น แต่การส่งสินค้าออกไปขายของไทยลดลง เพราะเมื่อนำเงินบาทไปแลกเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐฯจะใช้เงินบาทในจำนวนที่น้อยลง แต่ชาวต่างชาติจะมองว่าเงิน 1 ดอลล่าร์ ใช้แลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท หรือซื้อสินค้าได้น้อยลง ดังนั้น การที่เงินบาทแข็งค่าจะทำให้ธุรกิจการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบ ถ้าหากอัตราแลกเปลี่ยนยังคงลดลงเรื่อยๆ และเกิดเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุด กิจการใดที่ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ก็ต้องปิดตัวลงในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น การที่ส่งออกได้น้อย แต่นำเข้ามากขึ้น ทำให้ดุลการค้าขาดดุล และยิ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์ทางการเมืองไม่คงเช่นนี้ ทำให้เงินทุนไหลเข้าประเทศลดลง บัญชีทุนอาจขาดดุลได้ และก็อาจจะส่งผลให้ขาดดุลการชำระเงินได้

ส่วนกรณีของการอ่อนค่าของค่าเงินบาท หรือเงินบาทอ่อนค่า หมายถึงอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น เช่น เดิมอยู่ที่ 40 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 45 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลทำให้การนำเข้าลดลง แต่การส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากพ่อค้าชาวไทยจะมองว่าสินค้าจากต่างประเทศมีราคาสูง เพราะต้องใช้เงินบาทในปริมาณที่มากขึ้นในการแลกเปลี่ยนเป็น 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ จึงลดการนำเข้าสินค้าลง ส่วนประเทศคู่ค้าหรือพ่อค้าชาวต่างชาติจะมองว่า 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯสามารถใช้ซื้อสินค้าได้มากขึ้น หรือสินค้าไทยมีราคาถูกลง จึงสั่งซื้อสินค้าไทยมากขึ้น ประเทศไทยจึงส่งออกได้มากขึ้น เมื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น ในขณะที่การนำเข้าลดลงส่งผลให้ดุลการค้าของไทยเกินดุล และมีผลต่อดุลการชำระเงิน ทำให้ดุลการชำระเงินเกินดุลด้วย จะพบว่า เงินบาทแข็งค่าจะมีผลดีกับธุรกิจและอุตสาหกรรม ที่มีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ อาทิเช่น เครื่องจักร แต่จะก่อให้เกิดผลเสียกับธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการส่งออก ส่วนเงินบาทอ่อนค่า จะมีผลในทางตรงข้ามคือ มีผลดีกับธุรกิจที่มีการส่งออก แต่เกิดผลเสียกับธุรกิจที่นำเข้าวัตถุดิบ

ดังนั้น การที่เราจะดูว่าอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาทในระดับที่เหมาะสมกับประเทศไทย จะต้องดูว่าอุตสาหกรรมที่เป็นปัจจัยหลักในการส่งเสริมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น ต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมากน้อยเพียงใด หรือเน้นไปที่การส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ แต่โดยสถิติที่ผ่านมารายได้หลักจากต่างประเทศของไทยก็คือการส่งออก เป็นกิจกรรมหลักที่ช่วยผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นการที่เงินบาทแข็งค่าเป็นเวลานาน ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ แต่อุตสาหกรรมบางส่วนของประเทศก็ต้องอาศัยการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ดังนั้นหากเงินบาทอ่อนค่ามากเกินไปก็อาจจะส่งผลกระทบที่รุนแรงได้เช่นกัน เงินบาทแข็งค่าและเงินบาทอ่อนค่า ถ้าหากว่าเกิดขึ้นในระดับที่สูงเกินไป หรือเกิดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ก็ไม่ส่งผลดีกับประเทศไทยทั้งนั้น จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าในกรณีใดที่จะให้ผลดีกับประเทศไทย แต่รัฐบาลไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยควรที่จะรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่แข็งค่าหรืออ่อนค่าจนเกินไป นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย
ที่มา...www.google.com, http://archive.htg2.net

2. วิเคราะห์การเกิดปัญหาเงินเฟ้อและเงินฝืด ใครได้ประโยชน์ แบงค์ชาติและกระทรวงการคลังจะใช้นโยบายแก้ไขอย่างไร
เงินเฟ้อ หมายถึง สภาวะทางเศรษฐกิจที่ระดับราคาและบริการโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ หรือเป็นสภาวะที่ค่าของหน่วยเงินตราลดลงไปเรื่อย ๆ เป็นเหตุให้เงินจำนวนเดียวกันนี้ไม่สามารถจะซื้อสินค้าและบริการจำนวนเดียวกันได้เมื่อเวลาล่วงเลยไป กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ปริมาณเงินมากกว่าปริมาณสินค้า
เงินฝืด (เงินฟุบ เงินแฟบ) หมายถึง สภาวะที่ระดับสินค้าและบริการลดลงเรื่อย ๆ แม้สินค้าจะมีราคาถูก แต่ก็ขายไม่ออกเพราะประชาชนยากจนไม่มีเงินซื้อ เมื่อเกิดสภาวะนี้จะไม่มีใครอยากลงทุนลงทุนแล้วสินค้าที่ผลิตก็ขายไม่ออก กรรมกรจะว่างงานเป็นจำนวนมาก
เงินเฟ้อ เกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุ แต่ส่วนใหญ่ในทางวิชาการมักจะแบ่งสาเหตุการเกิดเงินเฟ้อได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ ได้แก่ Cost-push inflation และ Demand-pull inflation

1) เกิดจากต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงขึ้น หรือที่เรียกว่า Cost-push inflation ซึ่งต้นทุนที่ใช้ในการผลิตสินค้าอาจจะสูงขึ้นได้จากทั้งส่วนผสมหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ค่าจ้างแรงงาน รวมทั้งค่าขนส่งสินค้า มีราคาแพงขึ้น เช่น กรณีของราคาน้ำมันที่แพงขึ้นก็เป็นตัวอย่างได้ หรือการที่มีการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน หรือเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตเกษตรเสียหาย ราคาสินค้าเกษตรก็แพงขึ้น เป็นต้น หรือแม้แต่ในกรณีที่ค่าเงินบาทอ่อนลง จาก 35 บาท เป็น 40 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงว่าเราต้องใช้เงินบาทจำนวนที่มากขึ้นเพื่อไปซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิต) หรือแม้แต่การที่รัฐบาลเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เช่น การเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หรืออาจเกิดจากผู้ผลิตต้องการกำไรที่สูงขึ้นจึงขึ้นราคาสินค้า ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ก็จะมีส่วนทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นได้
ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรืออาจเกิดขึ้นพร้อมๆ กันก็ได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน และทำให้ราคาสินค้าและบริการหลายๆ ชนิดแพงขึ้นพร้อมๆ กัน ความรุนแรงของเงินเฟ้อก็จะมากขึ้นด้วย

(2) เกิดจากความต้องการสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า Demand-pull inflation ส่วนใหญ่ในช่วงที่ปกติ ผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่ก็ย่อมจะวางแผนการผลิตสินค้าโดยดูว่ามีคนต้องการซื้อสินค้าของเราเท่าไรในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้น ปริมาณสินค้าที่มีในตลาดก็น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับความต้องการซื้อสินค้า แต่หากความต้องการสินค้าและบริการสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่สินค้าและบริการที่เป็นที่ต้องการมีอยู่ในตลาดมีไม่พอ ก็ย่อมทำให้ราคาสินค้าและบริการแพงขึ้นได้ ซึ่งเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้น คนจะยิ่งรีบใช้เงินซื้อสินค้าและบริการมาตุนไว้ ก่อนที่ค่าเงินที่มีอยู่จะลดลง เพราะซื้อสินค้าได้น้อยลง ราคาสินค้าและบริการจะยิ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นไปกว่าเดิม เพราะคนจะยิ่งรีบใช้เงินที่มีอยู่

อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว หน่วยงานของทางการก็มักจะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง โดยทางการอาจจะเข้ามากำกับดูแลการปรับขึ้นราคาสินค้า ตัวอย่างเช่น การขอความร่วมมือให้ ขสมก. เลื่อนการขึ้นค่ารถเมล์ไปก่อน หรืออนุญาตให้ค่ารถเมล์ปรับขึ้นราคาได้บ้างนิดหน่อย เป็นต้น หรือในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจใช้นโยบายการเงินเพื่อดูแลปัญหาเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนน้อยที่สุด
เงินฝืด เป็นภาวะที่อุปทานมวลรวมของระบบเศรษฐกิจมีมากกว่าอุปสงค์มวลรวม เนื่องจากปริมาณเงินที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจมีไม่เพียงพอกับความต้องการถือเงินหรือความต้องการใช้เงินของประชาชน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุดังนี้
ธนาคารกลางพิมพ์ธนบัตรออกมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจน้อยไป ไม่เพียงพอกับความต้องการ

การที่ประเทศมีฐานะดุลการค้า ดุลการชำระเงินขาดดุลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานทำให้ประเทศต้องสูญเสียเงินตราให้กับต่างประเทศ ส่งผลให้ปริมาณเงินที่หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจมีน้อยลง
รัฐบาลเก็บภาษีในอัตราสูง ทำให้ปริมาณเงินจำนวนหนึ่งถูกดูดออกจากระบบ (ปริมาณ เงินน้อยลง)

สถาบันการเงินชะลอการปล่อยสินเชื่อให้แก่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมีไม่เพียงพอกับความต้องการ
ธนาคารกลางดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด เช่น การที่ธนาคารกลางประกาศเพิ่มอัตราเงินสดสำรองที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องดำรงตามกฎหมาย หรือการประกาศใช้นโยบายควบคุมการปล่อยสินเชื่อ ฯลฯ ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจน้อยลง
รัฐบาลใช้นโยบายงบประมาณแบบเกินดุล กล่าวคือ รัฐบาลมีรายได้มากกว่ารายจ่ายทำให้มีปริมาณเงินจำนวนหนึ่งถูกดูดออกจากระบบเศรษฐกิจ (ปริมาณเงินลดลง)
ห้องสมุดวิทยพัฒน์ : ตำราออนไลน์: เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
www.price.moc.go.th , www.bot.or.th

-เงินเฟ้อส่งผลกระทบทำให้อำนาจซื้อลดลง เพราะค่าเงินแท้จริงลดลงทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นอาทิ เช่น สมมติว่าเราเคยซื้อพัดลมตัวละ 200 บาทในปีที่แล้ว หากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี ราคาของพัดลมตัวนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 210 บาทในปีนี้ ถ้าเงินเดือนเราเท่าเดิม นั่นหมายความว่าเรามีกำลังซื้อน้อยลงหรือจนลงนั่นเอง
- เงินเฟ้อทำให้มูลค่าที่แท้จริง (real value) ของทรัพย์สินที่เป็นตัวเงินลดลง ในขณะที่มูลค่าของทรัพย์สินที่ไม่เป็นตัวเงินอาจเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ผู้ที่มีทรัพย์สินเป็นเงินมีรายได้ที่แท้จริงลดลง ในขณะที่ผู้ที่มีทรัพย์สินที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ มีรายได้ที่แท้จริงมากขึ้น เงินเฟ้อจึงมีผลกระทบ อาทิ คนถือครองทรัพย์สินรวยกว่าคนถือเงินสด คนมีรายได้ประจำจนลงลูกหนี้ได้เปรียบกว่าเจ้าหนี้เพราะจำนวนเงินเท่าเดิมมีมูลค่าที่แท้จริงลดลง จึงทำให้เมื่อจ่ายหนี้คืนเจ้าหนี้ก็เสมือนจ่ายคืนในมูลค่าที่ลดลง
- ในส่วนของภาครัฐเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ จะทำให้รัฐเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีซื้อ ภาษีขาย เป็นต้น

รัฐบาลมักจะแก้ไขภาวะเงินเฟ้อโดยใช้นโยบายการเงินเพื่อลดปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เช่น ขายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อประชาชนนำเงินบางส่วนมาให้รัฐบาลยืม เพิ่มอัตราเงินสำรองตามกฎหมายของธนาคารพาณิชย์ ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินท่าน้และเงินฝากให้สูงขึ้นเพื่อคนออมทรัพย์มากขึ้น เป็นต้น หรืออาจใช้นโยบายการคลัง อาทิ การเก็บภาษีประชาชนเพิ่ม เป็นต้น หรืออาจใช้นโยบายอื่น ๆ เช่น ควบคุมราคาสินค้า ควบคุมต้นทุนการผลิต ควบคุมค่าจ้างแรงงานไม่ให้สูงขึ้น เป็นต้น
โดยสรุปคือ ภาวะเงินเฟ้อใช้เพื่อวัดค่าครองชีพของประชาชน ภาวะเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นต่อเมื่อราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปสูงขึ้นต่อเนื่อง หากสูงขึ้นแล้วปรับลดลง จะไม่นับว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อในระดับอ่อนๆ จะไม่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ แต่หากเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงๆ จะทำให้ค่าของเงินที่เรามีอยู่ด้อยค่าลงไป ทำให้ซื้อของได้น้อยลง ธุรกิจไม่สามารถผลิตหรือลงทุนได้เพราะมีความไม่แน่นอนเรื่องราคาอยู่สูง ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อระบบเศรษฐกิจในที่สุด
บันทึกการเข้า
พอร์ต เขียว หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Gold Master
  • *****
  • กระทู้: 44186
  • LIKE: 482
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 11:04:57 AM »
ปกติเวลาโอนเงินกลับ อัตราแลกเปลี่ยนสูง ๆ ก็ดีใจครับ

แต่หากโอนไปเข้าพอร์ดคิดหนักเลย

แพงมาก
บันทึกการเข้า
forex เป็นการลงทุนที่มีความเสียงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ออฟไลน์ narjant

  • Moderator
  • ปู่ของบอร์ด
  • *****
  • กระทู้: 7962
  • LIKE: 237
  • จินตนาการสำคัญกว่า ความรู้
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 11:06:07 AM »
นั่น สิครับ ทำ ยังไง ถึง จะ ถอน อย่าง เดียว ไม่ต้อง ฝาก ....   
บันทึกการเข้า
พอร์ต เขียว หมื่นปี หมื่น หมื่น ปี

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Gold Master
  • *****
  • กระทู้: 44186
  • LIKE: 482
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 11:07:39 AM »
บันทึกการเข้า
forex เป็นการลงทุนที่มีความเสียงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

ออฟไลน์ pasit_ok

  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 468
  • LIKE: 10
    • ดูรายละเอียด
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 11:08:31 AM »
ส่วน ผม มี แต่ ฝาก  ไม่เคย ถอน เลย  สะอาด ก่อน   m:4 m:4
บันทึกการเข้า

ออฟไลน์ pmnetonline

  • Copper
  • **
  • กระทู้: 571
  • LIKE: 14
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 12:55:09 PM »
ส่วนผม มีทั้งฝากและถอนครับ
ส่วนใหญ่จะฝากมากกว่าถอนอ่ะ ฝาก 100 ถอน 10  m:22
บันทึกการเข้า

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Gold Master
  • *****
  • กระทู้: 44186
  • LIKE: 482
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: สถานการณ์ investing.com
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2015, 01:46:29 PM »


ถูกใจผมมากเลย ฝาก 100 ถอน 10 

นั่งหัวเราะคนเดียวจนนำ้ตามไหล
บันทึกการเข้า
forex เป็นการลงทุนที่มีความเสียงสูงผู้ลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

  • พิมพ์
หน้า: [1]   ขึ้นบน
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
  • Forex l หุ้น l การลงทุน l การซื้อขายออนไลน์ l ตลาดฟอร์เร็กซ์ »
  • FOREX NEWs / ปฏิทินเศรษฐกิจประจำวัน »
  • ข่าวเกียวกับ Forex (ผู้ดูแล: narjant) »
  • สถานการณ์ investing.com
 

Risk Warning : ข้อมูลในเว็บไซค์นี้อาจถูกก๊อบปี้ข้อมูลบางส่วนจากสมาชิกบางท่าน แล้วนำไปดัดแปลงแก้ไขใหม่

คำเตือนการลงทุนมีความเสี่ยง : การซื้อขายในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (forex) หรือผลิตภัณฑ์ CFD โดยเฉพาะการเทรดที่ใช้ Leverage สูง มีความเสี่ยงสูงโปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ จึงอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคน มูลค่าการลงทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ และนักลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ๆ เป็นความรับผิดชอบของตัวนักลงทุนเอง สำหรับการขาดทุนหรือสูญเสียทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งเป็นผลเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมใด ๆ ก็ตาม ทั้งนี้ทางบอร์ดเป็นเพียงสื่อกลางในการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถรับผิดชอบต่อผล กำไร/ขาดทุน จากการเทรดของสมาชิกเว็บบอร์ดได้นักลงทุนควรศึกษาให้รอบด้านก่อน ก่อนตัดสินใจลงทุน

Powered by SMF 2.0 RC5 | SMF © 2006–2011, Simple Machines LLC | SMF Thailand