5 ภารกิจกระตุ้นเงินเฟ้อของ ‘ไบเดน’ ทำตลาด Forex เริ่มแย่

[Wiki01]

　หลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46 ของ ‘โจ ไบเดน’ เพียง 46 วัน เขาได้ออกนโยบายต่าง ๆ มากมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น หลายนโยบายเริ่มแสดงผลให้เห็นแล้ว งานนี้ทำเอาตลาดปั่นป่วน เงินเฟ้อพรุ่งพรวดกันเลยล่ะ เวลาเท่านี้ไบเดนทำอะไรไปบ้างไปดูกัน

　    1. สั่งหยุดการผลิตน้ำมัน สิ่งนี้ทำให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นทันที และน้ำมันเป็นปัจจัยพื้นฐานของเงินเฟ้อ
　　 2. ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงในปัจจุบัน สู่ระดับ 15 ดอลลาร์ ลงทุนกับแรงงานคน เงินหมุนเวียนมากขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น
　　 3. เพิ่มเงินชดเชยให้ครัวเรือนรวม 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นครอบครัวละ 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือน จนกว่าการจ้างงานจะกลับคืนมา นอกเหนือจากเงินประกันการว่างงานในระบบประกันสังคม การคุ้มครองที่อยู่อาศัย และการช่วยเหลือทางด้านอาหารโภชนาการ
       4. ให้ธนาคารกลางอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง (QE) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภาคเอกชน นอกจากนั้นยังใช้เพื่อลดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ให้อยู่ในระดับต่ำลงมา
　    5. นโยบาย Made in America ผลิตในอเมริกา ใช้เงินจากผู้เสียภาษีเพื่อสร้างชาติอเมริกันอีกครั้ง ซื้อสินค้าอเมริกันและสนับสนุนงานอเมริกัน ฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ลงนามคำสั่งพิเศษ Buy American จะมีการพัฒนาเงื่อนไขในการจัดซื้อมากขึ้น เช่น ถ้าซื้อยานพาหนะมาใช้งานในภาครัฐ ต้องมีการแสดงรายละเอียดให้เห็นว่า ชิ้นส่วนประกอบยานยนต์นั้นเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกาอย่างน้อย 50% ให้มีการลงทุนกับภาคการผลิตในประเทศ

      สิ่งแรกที่ Biden มุ่งทำคือ Build Back Better Recovery Plan คือการลงทุนกับแรงงานอเมริกันมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวให้ดีขึ้น ต้องมีการจัดซื้อสินค้าอเมริกันมากขึ้น ภายใต้แผนนี้ สหรัฐฯ จะลงทุนนับแสนล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้ซื้อสินค้าอเมริกัน วัตถุดิบที่ผลิตจากอเมริกา สหรัฐฯ จะต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ต้องมีการจ้างงานนับล้านตำแหน่ง ใช้สินค้าจากอเมริกัน เทคโนโลยีอเมริกัน

　　แต่ก็ต้องยอมรับว่านโยบายต่าง ๆ นี้จะส่งผลไปถึงเรื่องเงินเฟ้อที่อาจกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะวงการ Forex

　　1. น้ำมันแพงขึ้น แน่นอนว่าส่งผลไปทั่วโลกอยู่แล้ว เราต้องยอมรับว่า น้ำมันดิบเป็นแหล่งพลังงานและเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญที่สุดในโลก มีความผันผวนมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ก็เป็นหนึ่งในการซื้อขายมากที่สุดเช่นกัน ในวงการ Forex เราเทรดน้ำมันจากการซื้อ-ขาย มูลค่าของน้ำมันในอนาคต หากราคาน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงผันผวนมาก มันก็ย่อมส่งผลไปถึงนักเทรดด้วย
      เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ราคาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และเชื้อเพลิงจะขึ้นตาม ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภค ลดลงเนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น หากสิ่งต่าง ๆ ทะยอย พุ่งขึ้นเช่นนี้ ในที่สุดเงินเฟ้อก็จะสูงขึ้น
　　2. เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ดอลลาร์เป็นศูนย์กลางการเงินทั่วโลก เมื่อเกิดปัญหาเงินเฟ้อก็ย่อมส่งผลไปทั่วโลก
　　กระทบต่อทุกสินทรัพย์ โดยเฉพาะราคาทองคำที่ขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อก็กระทบแน่นอน นักเทรดทองจึงได้รับผลกระทบไปด้วย
　　อีกการเทรด Forex ผ่านคู่เงินต่าง ๆ หากเงินดอลลาร์เฟ้อ มันจะมีผลต่อการเทรด Forex ในระยะยาวแน่นอน ดอลลาร์ถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักที่ใช้เทรด หากคู่เงินฝั่งที่เฟ้อจะมีมูลค่าต่ำลง อาจมีผลให้อีกข้างหนึ่งสูงขึ้น เป็น Trend ที่ค่อนข้างแรง และ Indicator จะคาดเดาไม่ค่อยได้

      แต่ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังสามารถทำกำไรจากคู่เงินที่มีเงินเฟ้อได้อย่างมีทิศทาง ในช่วงที่ขึ้นหรือลงนี้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเงิน USD เฟ้อหรือแข็งค่านั้น ก็จะมีผลต่อทุกคู่เงินที่มี USD อาทิ NZD/USD, USD/JPY, USD/GBP แต่ก็ต้องระวังให้ดีเพราะเงินเฟ้อนี้มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด เราไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดจะมาเมื่อไร ถ้าตามไม่ทันข่าว อาจจะไปถึงล้างพอร์ตได้

　　ด้วยเหตุนี้ นักลงทุน Forex จึงต้องติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทั้งหมด ‘ปฏิทินข่าว’ จะเป็นตัวช่วยให้คุณคาดการณ์สภาวะทางเศรษฐกิจได้ คุณสามารถดูปฏิทินข่าวทั่วโลกได้ผ่านแอปที่เชี่ยญชาญเรื่อง Forex อย่าง WikiFX นอกจากนั้น แอปของเรายังมีตารางเปรียบเทียบค่าสเปรดของโบรกเกอร์ Forex ที่คุณจะลงทุนด้วย ทั้งค่าสเปรดน้ำมัน ทองคำ และสกุลเงิน พร้อมทั้งฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณเทรด Forex ได้แบบสบายใจที่สุด อย่าพลาดเลยตอนนี้ โหลดฟรี! 


     อย่าตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์ Forex เถื่อน! เพราะโบรกเกอร์ Forex เถื่อนชอบโกงเงินนักลงทุน คุณต้องดาวน์โหลด WikiFX เพื่อตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ Forex ใดควรเทรดด้วย ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง ดาวน์โหลดฟรี!