สถานการณ์ investing.com

[narjant]

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 22.92 จุด หลังหุ้นเทคโนฯฟื้น ขณะตลาดจับตาประชุมเฟด
2019-06-18 06:46:59
อินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 62)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิลและเฟซบุ๊ก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,112.53 จุด เพิ่มขึ้น 22.92 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,845.02 จุด เพิ่มขึ้น 48.37 จุด หรือ +0.62% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,889.67 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด หรือ +0.09%
          หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.2% หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของท่านเกิล เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.6% และหุ้น Nvidia ดีดตัวขึ้น 0.3%
          ทั้งนี้ หุ้นเฟซบุ๊กได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ทางบริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊กเองในปีหน้า โดยวางแผนที่จะติดตั้งระบบชำระเงินดิจิทัลในหลายประเทศภายในไตรมาส 1/2563
          หุ้นแอร์เรย์ ไบโอฟาร์มา อิงค์ ทะยานขึ้นเกือบ 57% หลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของแอร์เรย์ ไบโอฟาร์มา มูลค่า 1.064 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นไฟเซอร์ปิดตลาดทรงตัว
          ส่วนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วลง นำโดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส (เอเอ็มดี) ร่วงลง 2.8% และหุ้นแลม รีเสิร์ช ดิ่งลง 1.4% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
          ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 2 จุด สู่ระดับ 64 ในเดือนมิ.ย. หลังจากแตะระดับ 66 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่เฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ทรุดตัวลง 26 จุด สู่ระดับ -8.6 จุดในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง จากระดับ 17.8 ในเดือนพ.ค.
          คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะจัดการประชุมในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
          อย่างไรก็ดี ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ซึ่งรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
          ทั้งนี้ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาส 97% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.
          นอกเหนือจากการประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2562, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.--จบ--

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[admin]

ขอบคุณครับผม