ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 16-08-2017

[Teerapong]

ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 16-08-2017

รัฐคงแวต 7% สูญ 2 แสนล้านหนุนกำลังซื้อ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2560 ได้เห็นชอบคงอัตราการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ไว้ที่ 7% ต่อไปอีก 1 ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560-30 ก.ย. 2561
ทั้งนี้ ในการเสนอ ครม.ครั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่าการคงภาษีมูลค่าเพิ่มจะช่วยลดผลกระทบจากค่าครองชีพ รวมถึงช่วยกระตุ้นการบริโภคให้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจมีการลงทุนเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว แต่การคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 7% ไม่ปรับเป็น 10% ตามกฎหมายจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไป 232,600 ล้านบาท
 
กระเป๋าแฟบรถไฟ-เรือขึ้นราคา
รฟท.ปลื้มคนตอบรับรถไฟหรูล้นหลาม จ่อปรับค่าโดยสารรถไฟชั้น 1-2 ขึ้นอีก 15-20% หรือ 100-200 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.นี้ เหตุบริการเสริมเพียบ เชื่อรับได้เพราะคนโดยสารเป็นคนมีสตางค์
ขณะที่เรือด่วนเจ้าพระยา-คลองแสนแสบขึ้นราคาเที่ยวละ 1 บาท เรือข้ามฟากปรับขึ้น 0.50 สต. ด้านรถเมล์ยันยังไม่ขึ้นค่าโดยสาร แจงปรับชื่อสายรถเมล์ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อให้คนจำได้ง่ายขึ้น
 
ออฟฟิศครึ่งปีหลังคึก ชี้ทุนต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานรุกอาเซียนปลุกความต้องการใช้เพิ่ม
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ในครึ่งหลังปี 2560 ภาพรวมพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่ามีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการเศรษฐกิจเริ่มขยายตัว ตลาดสำนักงานมีการขยายตัวจากกลางเมืองไปชานเมืองมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มทุนต่างชาติหลายบริษัทมีการขยายการลงทุนมาในอาเซียนไม่ว่า จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เนื่องจากการมองเห็นศักยภาพที่ไทยเป็นฮับจึงเข้ามาเปิดออฟฟิศในไทยมากขึ้น
 
เล็งปฏิรูปแบงก์แข่งให้ท่าน้จนคนหนี้ท่วม
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยรวมถึงผู้มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ให้ตอบคำถามที่ ธปท.ต้องการสำรวจพฤติกรรมและวัฒนธรรมองค์กรของธนาคารพาณิชย์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
รวมทั้งไปสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์เพื่อประเมินถึงความรัดกุมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อว่า การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินไทยมีกระบวนการพิจารณาที่รอบคอบหรือไม่ดูข้อมูลข้อเท็จจริงก่อนปล่อยท่าน้ที่รอบด้านก่อนจะอนุมัติสินเชื่อหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปีนี้
และจะสรุปความเห็นมุมมองของผลสำรวจภาพรวมได้ในไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ปีหน้า จะนำผลสำรวจของสถาบันการเงินให้รับทราบและจะได้นำไปปรับปรุงการให้สินเชื่อ
 
“บิตคอยน์” พุ่งเป็นประวัติการณ์แตะ 4,483.55 ดอลลาร์
บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล มีมูลค่าพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาด
บิตคอยน์ทะยานขึ้นแตะ 4,483.55 ดอลลาร์ หรือเกือบ 150,000 บาทในช่วงเช้าวันนี้ โดยยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดรวม 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากบิตคอยน์เป็นหลักทรัพย์หนึ่งในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท บิตคอยน์ก็จะมีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับที่ 74 รองจาก Adobe และ Netflix ของดัชนี S&P 500
 
#WealthMeUp
ที่มา: ไทยรัฐ, โพสต์ทูเดย์, อินโฟเควส์