ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 18 เม.ย. 60

[Teerapong]

ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ
18 เม.ย. 60
ตลาดเบบี้บูม! “2พันล้านคน” แนะเจาะตลาดแม่-เด็ก
กระทรวงพาณิชย์ เผยข้อมูลขององค์การสหประชาชาติพบว่า แม้ประชากรผู้สูงอายุมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้น แต่ยังน้อยกว่าประชากรวัยเด็ก(อายุระหว่าง 0-14 ปี) ที่มีจำนวนสูงถึงราว 1.92 พันล้านคน (ปี 2558) หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง1 ใน 4 ของประชากรโลก หรือมากกว่าผู้สูงอายุกว่า 2 เท่าตัว
คาดจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 1.98 พันล้านคนในปี 2563 และพุ่งแตะระดับ 2.01 พันล้านคนในปี 2568
------
“RS” ลุยธุรกิจความงาม เร่งปั้นรายได้เทียบทีวีดิจิทัล
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายธุรกิจความงามไลฟ์ สตาร์ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง เห็นได้จากยอดขายต่อเดือนที่ขยายตัวเกินกว่าที่คาดหมายไว้ ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวทำให้บริษัทมั่นใจว่าสิ้นปี 2560 นี้ ภาพรวมรายได้ของธุรกิจไลฟ์สตาร์จะต้องเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 440 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 100% เมื่อเทียบกับปี 2559 ได้อย่างแน่นอน
------
“ค้ำสินเชื่อเอสเอ็มอี1.5หมื่นล้าน”
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ลงนามกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (เอสเอ็มอี ทรานส์ฟอร์เมชั่น โลน) วงเงิน 15,000 ล้านบาท
โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและต้องการเสริมสภาพคล่อง กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ตอัพ) กลุ่มผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม กลุ่ม ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ หรือมีแนวโน้มการเติบโตสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 และเอสเอ็มอี 4.0 ในกลุ่มธุรกิจเอส-เคิร์ฟ และกลุ่มธุรกิจส่งออกหรือขยายธุรกิจในต่างประเทศ
------
ผุดหน่วยวิจัยยุทธศาสตร์ชาติ สภาพัฒน์ขอจนท.เพิ่ม200คน
นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.เตรียมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอเพิ่มอัตรากำลังคน 200 ตำแหน่ง
โดยส่วนหนึ่งสศช.จะจัดสรรกำลังคนที่ได้รับเพิ่มไปทำงานในภารกิจการปฏิรูปประเทศ การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งเพิ่มตำแหน่งในสำนักงานภาคของ สศช.ที่มีอยู่ 4 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศให้ความสำคัญกับการพัฒนาเชิงพื้นที่เพิ่มขึ้น
------
แห่ซื้อสกุลเงินเอเชียบาทแข็งสุด21เดือน
นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินเอเชีย นำโดยเงินเยน เหตุวิตกสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ ขณะเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดรอบ 5 เดือน สวนทางเงินบาทที่แข็งค่าสุดรอบ 21 เดือน นักวิเคราะห์ชี้ผลจากดอลลาร์อ่อน ทั้งยังมีเงินจาก "เอฟดีไอ" ไหลเข้า มองระยะสั้นจ่อหลุด 33 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนหุ้นเอเชียเริ่มรีบาวด์ช่วงท้ายตลาด
------
-WealthMeUp รายงาน-
ที่มา:โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, ไทยรัฐ, กรุงเทพธุรกิจ

[admin]

ขอบคุณมากครับท่านที