USD - Fed ปรับอัตราดอกเบี้ย Interest Rate Decision

[admin]

ขอบคุณครับท่านที 

[Fadhil2557]

ขอบคุณครับ

[admin]

ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าตามนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

              ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในระดับเดิม ที่ 0.75-1.00% หลังจากเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%   การคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ และตลาดคาดการณ์ไว้

              เฟด แถลงว่า แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายครัวเรือนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกระเตื้องขึ้นในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยจะมีการขยายตัวในระดับปานกลาง ตลาดแรงงานจะแข็งแกร่งขึ้น และเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ในระยะกลาง

              ในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 0.7% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งเฟดมองว่า การเติบโตที่ลดน้อยลงนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคาดการณ์ว่า การปรับนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับปานกลาง

[admin]

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 0.9% ปิดที่ระดับ 1,216.10 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ปรับตัวขึ้น 0.5% แตะที่ 99.592

          นอกจากนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 87.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจลดลง เนื่องจากทองคำไม่ให้ผลตอบแทนเหมือนดอกเบี้ย



 

[admin]

FOMC ส่งสัญญานขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด

           สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ขณะ

ที่นักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของเฟด ซึ่งออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะ

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

[admin]

เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

       คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

           รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

           อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดจะรอดูหลักฐานเพิ่มเติมอย่างรอบคอบระมัดระวัง ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

รายงานการประชุมในครั้งนี้ยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (เอ็มบีเอส) ในปีนี้

           สำหรับการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่ามมานั้น คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซี มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.75-1.00% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้

[narjant]

คุ้มค่า ที่ รอ ตีหนึ่ง ครับ แอด 

[Teerapong]

เฟดเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะเวลาอันใกล้เป็นสิ่งที่เหมาะสม

FOMC Minutes ของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2-3 พ.ค. ซึ่งคณะกรรมการ FOMC ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.75-1.00 รายละเอียดดังนี้

1. ภาพรวมเศรษฐกิจ
คณะกรรมการยังคงประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวแบบ “moderate pace” ท่ามกลางการปรับลดการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- ภาคการใช้จ่ายผู้บริโภค: คณะกรรมการคาดว่าภาคการใช้จ่ายผู้บริโภคมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในระยะต่อไป ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากภาคการจ้างงานที่ขยายตัวต่อเนื่อง, การปรับสูงขึ้นของรายได้และ household wealth, balance sheet ของภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่งขึ้น และดัชนีความมั่นใจผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ คณะกรรมการมองว่าภาคการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้นเกิดจาก “transitory factors” เช่น สภาพอากาศที่อุ่นกว่าปกติที่ส่งผลให้การใช้จ่ายในภาค energy services ลดลง และการปรับลดลงของยอดขายรถยนต์หลังจากที่ยอดขายได้ปรับเพิ่มขึ้นมากในไตรมาส 4 ปี 2559

- ภาคการลงทุน Residential investment: Several participants กล่าวถึงการฟื้นตัวของ Residential investment ในไตรมาส 1 สะท้อนจากตัวเลข Housing starts, Housing permits และ New home sales ที่ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Some participants รายงานว่า Residential construction ยังไม่สามารถขยายตัวมากเทียบเท่ากับ Housing demand ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนใน Housing supply และส่งผลกดดันต่อราคาบ้านอีกด้วย

- ภาคการลงทุน Business fixed investment: Business fixed investment ขยายตัวอย่าง “solid” ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา นำโดยการฟื้นตัวของภาคการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ Several participants ระบุถึงการปรับสูงขึ้นของยอดสั่งซื้อ Capital goods ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการขยายตัวของ Business equipment investment ในไตรมาสต่อๆ ไป และรายงานว่าหลายบริษัทในเขตของตนมีแผนปรับเพิ่ม Capital expenditures ในระยะต่อไป ขณะที่คณะกรรมการท่านหนึ่งรายงานว่า ความไม่แน่นอนในการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศและนโยบายด้าน regulations ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้บางบริษัทชะลอการตัดสินใจเรื่องการลงทุนอยู่

ความเสี่ยงต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระยะสั้นเป็นไปในลักษณะ “roughly-balanced” เช่นเดียวกับการประเมินในการประชุมครั้งก่อนหน้า โดย Many participants มองว่าความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและตลาดเงินโลกนั้นปรับลดลง และมองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่เป็นปัจจัยเสี่ยงด้าน upside ต่อการประเมินภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ Several participants มองว่ายังคงมีความเสี่ยงด้าน downside สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป จากปัจจัยด้าน geopolitics, การเมืองในต่างประเทศ รวมถึงผลกระทบจากการ normalize นโยบายการเงินของธนาคารสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจและตลาดเงินในประเทศกลุ่ม Emerging markets อนึ่ง Minutes การประชุมครั้งนี้มิได้มีการกล่าวถึงความเสี่ยงด้าน downside ต่อภาคการจ้างงานและเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้าน immigration และการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรป

2. การจ้างงาน
ภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ปรับแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราการว่างงานที่ต่ำกว่าระดับ long-run normal rate และจำนวนการจ้างงานในภาค nonfarm ที่ขยายตัว 180,000 ตำแหน่งโดยเฉลี่ยต่อเดือนในไตรมาส 1 นอกจากนี้ Several participants ระบุถึงภาวะการปรับสูงขึ้นของค่าจ้างในอัตราเร่งตัวขึ้น, ภาวะขาดแคลนแรงงานในบางสายอาชีพ รวมถึงความจำเป็นของการฝึกทักษะแรงงานสำหรับ hard-to-fill jobs ขณะที่ Several other participants มองว่ายังมี slack ในภาคการจ้างงานอยู่ พร้อมทั้งให้ความเห็นว่า การปรับสูงขึ้นของ Labor force participation rate ท่ามกลางปัจจัยลบด้าน Demographics เป็นสัญญาณที่ดี

ในส่วนของแนวโน้มภาคการจ้างงานในระยะต่อไปนั้น คณะกรรมการโดยรวมยังคงคาดว่าหากเศรษฐกิจขยายตัวแบบ moderate ตามการคาดการณ์แล้ว อัตราการว่างงานจะคงอยู่ใต้ระดับ longer-run normal rate ขณะที่ A few participants เสริมถึงความเสี่ยงของการที่อัตราการว่างงานจะปรับลดลงแบบ substantially undershoot ระดับ longer-run (ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนหน้า)

3. อัตราเงินเฟ้อ
คณะกรรมการคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะปรับสู่ระดับเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ได้ใน medium-term หลังจากผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวเริ่มหมดไป รวมถึงภาคการจ้างงานและเศรษฐกิจในภาพรวมปรับแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ ราคาสินค้านำเข้าเริ่มมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นอีกด้วย โดยคณะกรรมการจะติดตามตัวเลขด้านอัตราเงินเฟ้อต่างๆ รวมถึง development ในตลาดเงินและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป

ทั้งนี้ Minutes ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความเห็นต่างของมุมมองของคณะกรรมการ FOMC ต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไป โดย A Couple participants แสดงความกังวลต่อความเสี่ยงด้าน upside หากอัตราการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ longer-run normal rate อย่างมาก ขณะที่ Several other participants ระบุถึงความเสี่ยงด้าน downside โดยกล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อที่ออกต่ำในช่วงระหว่างการประชุมเดือน มี.ค. และ พ.ค. รวมถึงระดับ Inflation breakevens และ Inflation expectation ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน

สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับลดลงต่ำกว่าร้อยละ 2 ในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการมองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัย “idiosyncratic factors” เช่น ค่าบริการด้านสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายที่ปรับลดลงอย่างมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น

4. การดำเนินนโยบายการเงิน

4.1 Interest Rate Tool
คณะกรรมการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.75-1.00 ด้วยมติเอกฉันท์ เนื่องจากมองว่า โดยภาพรวมทั้งในแง่เศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อถือว่าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากการประชุมครั้งก่อนหน้า

นอกจากนี้ คณะกรรมการต้องการรอพิจารณาหล

[admin]

ขอบคุณครับท่านที  มีบางคนรับทรัพย์กับข่าวเมื่อคืนด้วย 

[admin]

[narjant]

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน 2560 01:16:08 น.
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ หลังจากมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ เฟดยังคาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตร และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2664768

[admin]

ขอบคุณครับ